ตอนที่ 284 จุดจบคานท์
“เสี่ยวอู่, ทำไมเจ้าถึงตามข้ามาอีก?” คานท์นั่งอยู่บนยอดเนินทราย อากาศแห้งลามเลียใบหน้าเขา สีหน้าของเขาเขียวคล้ำพระจันทร์เต็มดวงห้อยเป็นหลังฉากอยู่ด้านหลังเขาเงียบๆ รอยเส้นแดงฉาบอยู่บนผิวจันทร์เต็มดวงดูบรรยากาศมีความรุนแรงเป็นพิเศษแฝงคาวเลือด
บุรุษคนผู้ยืนตรงอยู่ต่อหน้าเขาดูซื่อสัตย์ธรรมดา
คานท์ประสบความพ่ายแพ้และได้รับบาดเจ็บสาหัส กลุ่มจันทร์เงินที่เคยรุ่งเรืองล่มสลายที่อยู่ข้างตัวคานท์ก็มีเพียงเสี่ยวอู่ เสี่ยวอู่อยู่กับเขามานานแล้ว แต่เขาไม่เคยได้รับการโปรดปรานจากคานท์ เพราะเขามีพรสวรรค์ระดับธรรมดา และเขาอดทนเงียบบรรดายอดฝีมือหลายคนที่คานท์มี ตัวเขาไม่โดดเด่นอะไรเลย
คานท์ไม่มีความประทับใจเสี่ยวอู่มากนัก ยกเว้นว่าเขามีความภักดีและนิสัยติดดินแม้ว่าความสามารถของเขาจะธรรมดา แต่เขากล้าหาญและที่น่ายกย่องที่สุดก็คือเมื่อได้รับคำสั่งแล้วเขาจะทำทุกอย่างจนจบ
เสี่ยวอู่ส่ายหน้า “นายท่านจะเป็นวิญญาณเดียวดายในงานศพท่าน”
คานท์แค่นเสียง“ชีวิตนี้ข้าอยู่มาพอแล้ว หลังจากตายใครจะสนใจกันเล่าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น?สามารถตายได้หลังจากต่อสู้อย่างสมใจแล้ว ข้าไม่มีอะไรต้องเสียใจ!”
เสี่ยวอู่ส่ายหน้ารัว“มีอีแร้งมากมายอยู่ในทะเลทราย”
สายตาคานท์ฉายแววอบอุ่นวูบหนึ่งมือของเขามีถือตู้อควาเรียสเงินใบหนึ่งและโยนให้เสี่ยวอู่ “เนื่องจากของทั้งหมดนี้จะตกเป็นของคนอื่นหลังจากข้าตาย เจ้าจงเก็บสิ่งนี้ไว้”
เสี่ยวอู่ติดอ่าง “ข้าไม่ได้รั้งอยู่เพราะของสิ่งนี้”
“ข้ารู้” คานท์จ้องมองพระจันทร์เต็มดวงที่ปลายฟ้า“ข้าแค่ไม่ต้องการให้มรดกจันทร์เงินจบลงไปพร้อมกับข้า”
ใกล้ค่ำแล้วและดวงจันทร์สามารถแลเห็นได้ในท้องฟ้า
“การสืบทอดของกลุ่มใหญ่ทั้งสามของกลุ่มดาวหมาป่าตะขอฟ้า, จันทร์เงิน, ศักดินาชาวยุทธ ความจริงจะสืบทอดจากตระกูลเดียวน่าประหลาดใจจริง กลุ่มดาวหมาป่าตกทอดวิชาผนึกหมาป่าฟ้า มันแตกออกเป็นสามเมื่อราวๆพันปีที่แล้ว สามตระกูลต่อสู้กันมาเป็นพันปีผ่านความล้มเหลวและรุ่งเรืองแต่การต่อสู้ไม่เคยจบสิ้น จันทร์เงินที่ตกทอดมาถึงรุ่นข้าอย่าได้จบลงในเงื้อมมือข้าเลยเจ้าจงอุตสาหะฝึกฝนให้ดี แต่ถ้าเจ้าไม่แตกฉานเชี่ยวชาญก็ไม่เป็นไร ของอย่างนี้เป็นเรื่องของวาสนา”
คานท์ทอดสายตามองดูพระจันทร์เต็มดวงที่อยู่ปลายขอบฟ้า และดูเหมือนจะสูญเสียความคิดไป ไม่รู้ว่าพระจันทร์วันเพ็ญเมื่อพันปีที่แล้วจะคล้ายกับวันนี้หรือไม่
เสี่ยวอู่ตาแดงก้มลงเก็บตู้อควาเรียสเงินในทรายและกำไว้แน่นโดยไม่พูดอะไร
“ถ้าอูเถี่ยหวี่แพ้ถังเทียนและกลุ่มของเขา เจ้าต้องไปจากกลุ่มดาวหมาป่าพร้อมกับพวกเขา”
คานท์ขอร้อง ถ้าคนอื่นรู้ว่าจันทร์เงินอยู่ในมือของเสี่ยวอู่ คนพวกนั้นจะใช้วิธีการไร้ยางอายชิงของในมือเขาและเสี่ยวอู่อาจต้องเสียชีวิต
“ต่อให้ถังเทียนและพวกพ้องแพ้ก็เหมือนกัน เจ้ายังคงต้องไปจากกลุ่มดาวหมาป่าทันที”
ทันใดนั้นสีหน้าคานท์เปลี่ยน พร้อมกับการโบกมือ พลังไร้สภาพผลักเสี่ยวอู่จนกระเด็นไปไกล
“จงดูแลจันทร์เงินให้ดี”
คานท์สั่งโดยไม่หันหน้ามามอง แต่หัวเราะเบาๆ ทันที ความจริงเขามอบจันทร์เงินให้กับมือเสี่ยวอู่รับสืบทอดนี่หมายความว่าเป็นการสั่งเสียก่อนตาย?
ไกลออกไปมีร่างหนึ่งปรากฏอยู่บนเนินทราย
เป็นอูเถี่ยหวี่!
อูเถี่ยหวี่สังเกตได้ทันทีว่าเป็นคานท์ตาของเขาหรี่ลง
สุ่ยเฉิงมองตามสายตาของอูเถี่ยหวี่และเห็นเช่นกันสีหน้าเขาเปลี่ยนและอุทาน “คานท์”
สีหน้าของอูเถี่ยหวี่กลับคืนสภาพปกติ และพูดอย่างวางท่า“ดูเหมือนเฒ่าคานท์ยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้, ฮึ่ม, ข้าเอาชนะเขามาได้แล้วดังนั้นก็ย่อมเอาชนะเขาได้อีกครั้ง ครั้งนี้ข้าจะทำให้เขามั่นใจยิ่งขึ้น”
หลังจากตกใจตอนแรก ตอนนี้เขายินดีในใจลึกๆ
การสู้ครั้งล่าสุดกับคานท์ไม่มีใครรู้ วันนี้เขามีนักสู้จำนวนมากอยู่เบื้องหลังเขา ชัยชนะภายใต้การตรวจสอบของทุกคนจะทำให้ข่าวแพร่กระจายไปทั่วทุกมุมกลุ่มดาวหมาป่า จากนั้นทุกคนจะระย่นย่อและเขาสามารถสร้างกลุ่มศักดินาชาวยุทธให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
อาการบาดเจ็บของคานท์ถ้ายังไม่ถึงปี เขาไม่สามารถฟื้นฟูได้เต็มที่ดังเดิมแน่
การต่อสู้ครั้งนี้ชัยชนะตกเป็นของเขา
มีร่างที่พุ่งตามเขามา ในไม่ช้าหลายร่างก็รายล้อมเนินทราย
ในขณะลอยตัวกลางอากาศอูเถี่ยหวี่ถอนหายใจเบาๆ ไม่มีแม้แต่เสียงตะโกน แต่ก็สามารถได้ยินเสียงชัดเจนได้จากที่ไกล
“พี่คานท์, ทำไมท่านถึงตามราวีข้าอีกเล่า? ท่านกำลังทำให้ข้าลำบากใจจนต้องตัดสินกับท่าน”
พี่คานท์?
กลุ่มคนงงงันกับการที่อูเถี่ยหวี่ทักทายว่าพี่คานท์ นั่นคือคานท์แห่งกลุ่มจันทร์เงิน
คานท์มาแล้ว
นักสู้ทุกคนมีท่าทางตื่นเต้นทันที
บุรุษหนุ่มชุดเขียวมองดูคานท์อยู่แต่ไกลและรู้สึกมึนงง “สมองคานท์เป็นอะไรไปแล้ว? เขามาหาที่ตายหรือเปล่า?”
นักสู้วัยกลางคนที่สวมหมวกใหญ่ถอนหายใจด้วยความรู้สึกนับถือระคนเศร้าใจ “คานท์ไม่คิดจะมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว เขาแค่มาหาที่ตาย”
“มาหาที่ตายของตัวเอง?” บุรุษหนุ่มตะลึง
“ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของกลุ่มดาวหมาป่าจะมีความภูมิใจของยอดฝีมืออันดับหนึ่งของกลุ่มดาวหมาป่าตลอดไป”นักสู้วัยกลางคนพูดเบาๆ
“แต่...ทำไมไม่ฝืนทนอาย และยังกลับมาทำไม?” บุรุษชุดเขียวลังเลชั่วขณะก่อนถาม
นักสู้วัยกลางคนดูเหมือนจะหดหู่ใจและเศร้าใจ“เป็นเพราะคานท์รู้ว่าเขาจะไม่มีโอกาสชนะ จะทนอับอายก็ต่อเมื่อมีความหวัง พวกเราชาวหมาป่าอยู่ไปก็รังแต่ขายขี้หน้า”
บุรุษหนุ่มชุดเขียวโพล่งออกมา“อูเถี่ยหวี่แข็งแกร่งมากจนแม้แต่คานท์ก็ยังไม่มีความหวังหรือ?”
นักสู้วัยกลางคนเงียบ
เมื่อเห็นหน้าที่เศร้าสร้อยของบุรุษหนุ่มชุดเขียว นักสู้วัยกลางคนกล่าว“จับตาดูการต่อสู้ครั้งนี้ให้ดี”
ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองเงาร่างดำบนเนินทราย คานท์ค่อยลอยตัวขึ้นพระจันทร์เงินเต็มดวงที่ด้านหลังเขาลอยขึ้นสูงอย่างเงียบงัน
ตอนนี้ท้องฟ้ามืดพร้อมกับพระจันทร์เงินเต็มดวงด้านหลังเขา ทำให้ตัวเขาเด่นชัดกว่าเดิม
เขามองดูร่างที่คล่องแคล่วว่องไวของอูเถี่ยหวี่ข้างล่างและแสยะยิ้มมุมปาก เขาไม่ตั้งใจจะอ้าปากไม่ตั้งใจจะให้พลังงานรั่วไหลสักหยด
จันทร์เงินเต็มดวงลอยอยู่เหนือหัวเขาหยดเลือดบนดวงจันทร์มองดูน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึง
ร่างของคานท์ต้านแรงโน้มถ่วงลอยขึ้นจากพื้นช้าๆ พระจันทร์เต็มดวงเหนือศีรษะเขาเปล่งแสงเจิดจ้าแม้แต่พระจันทร์เต็มดวงที่ปลายขอบฟ้าก็พลอยหมองไปด้วย
คานท์ชูแขนทั้งสองขึ้นสูงเหนือหัวและใบหน้าของเขาดูเหมือนคนบ้าคลั่ง
ฟู่....
ร่างของเขากระจายหมอกเลือดออกมา หมอกเลือดดูเหมือนจะถูกดูดเข้าไปละลายในดวงจันทร์ พระจันทร์เงินค่อยๆ มีชั้นสีแดงเคลือบทันที
ควั่บ ควั่บ ควั่บ!
หมอกเลือดถูกปล่อยออกไปทีละชั้นๆและละลายเข้าไปในพระจันทร์ สีเงินบริสุทธิ์ในตอนนี้กลายเป็นสีแดงเหมือนเลือด
ใบหน้าของคานท์ไม่มีวี่แววเจ็บปวดแต่เขากลับยิ้มแทน
ทุกคนตกใจกับภาพที่เห็น
สีหน้าของอูเถี่ยหวี่เปลี่ยน เขานึกภาพไม่ออกเลยว่าคานท์จะทำให้ชีวิตเขาตกอยู่ในอันตราย ทันใดนั้นฝ่ามือของเขาปล่อยคลื่นรังสีเงินและปราณที่รุนแรงทันที
นัยน์ตาของเขากลายเป็นสีเลือด และรัศมีรอบๆ ตัวก็เป็นเหมือนกัน
ในสายตาของนักสู้ที่รุมชมดู จู่ๆ อูเถี่ยหวี่ปลดปล่อยความรู้สึกที่น่ากลัว แม้มองจากด้านหลังเขาก็เหมือนกับจ้าวป่าผู้ยิ่งใหญ่มีพลังที่ไม่อาจหยั่งถึง
นักสู้วัยกลางคนที่สวมหมวกใบใหญ่อุทาน “สมบัติชั้นเงินของกลุ่มดาวหมีเล็กเป็นอย่างนี้นี่เอง”
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าอูเถี่ยหวี่เอาชนะคานท์ได้อย่างไร เป็นเพราะสมบัติชั้นเงินของกลุ่มดาวหมีเล็ก พลังศักดินายุทธของอูเถี่ยหวี่เป็นพลังที่โดดเด่นดุร้ายในตอนแรก อากาศรอบตัวของหมีจะพอดีเป็นที่สุด แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเป็นสมบัติดาวหมีเล็กแบบใดก็ตามแต่สมบัตินี้เมื่อใช้คู่กับพลังของอูเถี่ยหวี่ย่อมน่ากลัวแน่นอน
ภายใต้สถานการณ์ปกติอูเถี่ยหวี่จะคว้าชัยชนะแน่นอน
อย่างไรก็ตาม...ต้องไม่ประมาทพลังของนักสู้ที่ทุ่มชีวิตเข้าต่อสู้
คานท์เสียเลือดไปมากเงยศีรษะขึ้น ความบ้าคลั่งที่เผาผลาญอยู่เหมือนกับมนุษย์หมาป่าที่กำลังหอนใส่ดวงจันทร์
“ก่อตัวจากเลือด บูชายัญมนุษย์หมาป่า ไร้ลมหายใจเผาผลาญกายา”
บทเพลงพึมพำที่ไม่ชัดเจนดูเหมือนดังขึ้นมาจากเบื้องล่าง
ควั่บ!
พระจันทร์ที่ลอยต่ำลงในท้องฟ้าเปล่งแสงเจิดจ้าทันที แสงจันทร์บริสุทธิ์หลั่งไหลเข้าไปในพระจันทร์เลือดที่อยู่เหนือหัวเขาทันที
พระจันทร์สีเลือดเรืองแสงมากขึ้น
เวลานั้นความน่ากลัวกระจายไปทั่วพื้นที่ นักสู้ทุกคนถึงกับเข่าอ่อนร่างที่ลอยอยู่ในอากาศเหนือยอดเนินแทบจะเป็นพระเจ้าในสายตาเขา
อูเถี่ยหวี่คำรามอย่างดุร้ายเสียงดังปานฟ้าผ่า
สีหน้าเขาโหดเหี้ยม และร่างของเขาอัดแน่นไปด้วยปราณแท้
นัยน์ตาคานท์เป็นประกายเขาคำรามตรงๆ
“สังหาร!”
พระจันทร์สีเลือดสะเทือนเล็กน้อยและเสียงดังขึ้นจากขอบข้างทั้งหมดครอบคลุมพระจันทร์จนเลือนราง และแสงยิงตรงเข้าหาอูเถี่ยหวี่
อูเถี่ยหวี่รู้ว่านี่เป็นเรื่องความเป็นความตายเขาตวาดลั่น “ฆ่า!”
ฝ่ามือข้างหนึ่งดันออก
บึ้ม!
ร่างเลือนรางเหมือนภูเขาปรากฏที่ด้านหลังอูเถี่ยหวี่ มันคือหมี มีขนาดใหญ่ ตาแดงเข้มพลังของเจ้าป่าปรากฏทันที
ร่างของหมีเปล่งรังสีอำมหิตรุนแรงทำให้นักสู้บางส่วนที่เข่าอ่อนอยู่แล้วล้มพับกับพื้นทันที
พระจันทร์สีเลือดถูกอุ้งเท้าหมีป้องกันไว้ได้ แต่เพราะจันทร์สีเลือดเหมือนกงจักรที่หมุนปั่นด้วยความเร็วสูงและจมเข้าไปในอุ้งเท้าหมีอย่างรวดเร็ว ในพริบตาก็จมเข้าไปเกือบครึ่ง
ร่างหมีได้รับบาดเจ็บและคำรามไม่หยุด ขณะที่อุ้งเท้าอีกข้างหนึ่งตะปบใส่พระจันทร์สีเลือด
พึ่บ!
พระจันทร์สีเลือดตัดอุ้งเท้าของหมี แต่ก็ถูกอุ้งเท้าอีกข้างหนึ่งป้องกันไว้ พระจันทร์สีเลือดจมเข้าในอุ้งเท้าหมีอีกครั้ง แต่คราวนี้สีเลือดของพระจันทร์จางลงไปมาก
น่าเสียดาย....เขายังคงได้รับบาดเจ็บหนักเกินไป....
คานท์รู้สึกเสียใจแว่บหนึ่งขณะที่ร่างของเขาสลายเป็นเถ้าถ่านในอากาศเหมือนกับธุลีและหายไปอย่างสิ้นเชิง
พระจันทร์สีเลือดส่งเสียงร้องและระเบิดหายไปโดยไม่มีร่องรอย บ่อเลือดสีแดงของพระจันทร์สีเลือดก็หายไปพร้อมกับอุ้งเท้าหมี
ร่างของหมีค่อยๆจางหายไป อูเถี่ยหวี่ไม่สนใจอาการบาดเจ็บในฝ่ามือของเขาและได้ระเบิดเสียงหัวเราะ
“คานท์, เจ้าทุ่มชีวิตเข้าต่อสู้แต่มันก็แค่นั้น! มันก็แค่นั้น!”
ทุกคนได้รับรู้ประจักษ์แม้แต่นักสู้วัยกลางคนที่สวมหมวกใหญ่ก็ตกใจเกินกว่าจะพูดได้
เสี่ยวอู่จ้องเขม็งมองคานท์ร่างสลายหายไปในท้องฟ้า ใบหน้าที่อดทนของเขาหลั่งน้ำตาออกมาสองสาย เขาคุกเข่าลงในทันใดและโขกคำนับตรงจุดที่คานท์เคยยืนอยู่สามครั้ง
ในท่ามกลางผู้คนนั้น นักสู้สองสามคนมองหน้ากันเองและยิ้มให้กัน
“อูเถี่ยหวี่ผู้นี้แข็งแกร่งทรงพลังแน่นอน เขาอาจไม่จำเป็นต้องให้เราช่วยในครั้งนี้” นักสู้คนหนึ่งกล่าวลอยๆ
“คลื่นหมีปฐพี! ถ้าเรามีของแบบนี้บ้างเราก็สามารถกำจัดถังเทียนและพวกได้เช่นกัน!” นักสู้อีกคนหนึ่งอิจฉา
อูเถี่ยหวี่ในตอนนี้กำลังนั่งฟื้นฟูพลัง ร่างหมีที่อำมหิตยังคงอยู่ข้างๆ เขาแม้ว่ามันจะพิการ แต่ว่ากลิ่นอายที่ดุร้ายน่ากลัว ก็ทำให้ทุกคนนิ่งเฉย
สายตาของนักสู้ที่เพิ่งพูดเป็นประกาย “นั่นคือบริวารของคานท์? บางทีเราอาจได้อะไรจากเขาก็ได้ คานท์เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งมานาน เขาต้องมีบางอย่างสะสมไว้แน่”
“พวกเจ้าสองคนไปก่อน ข้าจะตรวจดูตรงนี้” คนที่เป็นหัวหน้ากล่าว หลังจากเห็นความสามารถของอูเถี่ยหวี่กับตาเขายังรู้สึกว่าภารกิจครั้งนี้ง่ายมาก สามารถเอาชนะอูเถี่ยหวี่ยอดฝีมือขนาดนั้นไม่มีทางปรากฏในกลุ่มดาวหมาป่าแน่ทั้งสองคนดีใจและรีบไล่ตามไป