ตอนที่ 283 ความคาดหวังของปิง
กระแสไหลเวียนอากาศชั้นบางๆแต่มากมายรอบตัวถังเทียนยังไหลเวียนต่อเนื่องและส่งเสียงดัง ชี่ชี่ไม่หยุดนี่คือพลังที่กระจายออกของเขา เนื่องจากเขายังไม่สามารถควบคุมได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามปราณแท้ในร่างของเขาเพิ่มขึ้นในระดับสูงสุด พลังเกลียวเงินเปลี่ยนรูปร่างไปอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่งูสีเงินแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนหลายเท่าแต่ความยาวของมันยังมากกว่าเมื่อก่อนถึงสองเท่า
นั่นก็คือความเร็วของงูเงินยังเร็วขึ้นต่อเนื่อง
มันแทบจะเป็นไปตามความคิดของถังเทียน เหมือนกับธนูไฟดอกหนึ่งพุ่งไปตามเส้นชีพจรของเขาอย่างรวดเร็ว
ปราณแท้ระดับเจ็ดที่ควบแน่นจนเป็นสภาพของเหลวเป็นสิ่งที่ดูสมเหตุผลเนื่องจากปราณแท้ที่ถูกซึมซับเข้าไปในเส้นชีพจรมีความเข้มข้นน้อยกว่าแต่ก่อนมาก มิน่าเล่าระดับเจ็ดถึงได้พบอุปสรรค เนื่องจากประสิทธิภาพระดับหกกับระดับเจ็ดต่างกันเกือบสิบเท่า!
แอ่งตันเถียนระดับเจ็ดของถังเทียนเป็นเหมือนทะเลสาบน้อย พลังเกลียวเงินเป็นเหมือนงูน้ำขนาดใหญ่เคลื่อนตัวอยู่ในทะเลสาบพลังเกลียวเงินกินปราณแท้ที่อยู่ในสภาพของเหลวในเส้นชีพจรและตันเถียนอย่างรวดเร็ว ขนาดของมันยืดอย่างต่อเนื่อง แต่ความเร็วในการกลืนกินเห็นได้ชัดว่ายังไม่เร็วเท่าการเติมเสริมพลังปราณแท้ของตัวเขา ระดับสภาพปราณเหลวในตันเถียนกำลังเพิ่มต่อเนื่อง
ถังเทียนพบปัญหาที่จริงจังอย่างหนึ่งก็คือ เนื่องจากพลังเกลียวเงินขยายตัวต่อเนื่องตลอด มันจะไม่สามารถเข้าไปในเส้นชีพจรได้ง่ายอีกต่อไป
ในไม่ช้าถังเทียนก็มีความคิดดีๆ นั่นก็คือเปลี่ยนงูขนาดใหญ่ให้เป็นงูขนาดเล็กหลายตัว แต่เขาขยาดกับประสบการณ์อุดตันในครั้งก่อน ดังนั้นเขาตัดสินใจว่า ปริมาณงูขนาดเล็กต้องน้อยที่สุด สำหรับตอนนี้ต้องหกตัวก่อน
จิตวิญญาณยุทธของเขาตื่นเต้นและตกใจกับพลังเกลียวขนาดใหญ่และสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง เส้นสายปราณแท้ลื่นไถลหลบไป ขณะที่พวกมันหลบเลี่ยงอย่างต่อเนื่อง พลังเกลียวเงินขนาดมหึมาในตอนแรก เปลี่ยนเป็นงูพลังเกลียวเงินขนาดเล็กลงหกสาย
เหมือนกับงูมหึมาที่ตะกละตะกลามงูเล็กหกตัวก็ตะกละตะกลามเช่นกัน
สิ่งที่ทำให้ถังเทียนยินดีก็คือพลังเกลียวเงินทั้งหกเขาสามารถควบคุมได้เต็มที่ จิตวิญญาณยุทธเชื่อมโยงกับพวกมันได้โดยตรง เหมือนกับงูน้อยที่เชื่องหกตัว
พลังเกลียวเงินหกสายเริ่มกินปราณแท้อย่างสุดกำลัง
ขนาดของพวกมันโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ในพริบตาระดับน้ำของตันเถียนปราณแท้ระดับเจ็ดลดลงอย่างเห็นได้ชัด และแห้งอย่างรวดเร็ว
พลังเกลียวเงินทั้งหกสายเหมือนกับแสงสีเงินหกสายหมุนเวียนโคจรในร่างของถังเทียนด้วยความเร็วน่าประหลาดใจ
ถ้ามีใครสามารถมองเห็นร่างของเขาก็จะสังเกตได้ว่าแสงทั้งหกสายกำลังวิ่งไปรอบๆร่างถังเทียนเป็นภาพไม่สามารถอธิบายได้ เพลิงจิตวิญญาณยุทธเงินของถังเทียน เป็นเหมือนศูนย์กลางในการควบคุมทุกอย่าง
ถังเทียนยืนขึ้น
“ยินดีด้วย!” ฟงโฉ่วทำท่าแปลกปนประหลาดใจ “นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะสามารถบรรลุพลังระดับเจ็ดได้เร็วมาก และปราณแท้ของเจ้าดูเหมือนจะแตกต่างจากเมื่อก่อนนี้ด้วย
“ใช่แล้ว แตกต่างอย่างมาก ข้าเรียกมันว่าพลังงานเกลียวเงิน!” หน้าของถังเทียนฉาบไปด้วยความยินดีเช่นกัน
“ลองดูซิ!” ฟงโฉ่วแสดงความสนใจ
ถังเทียนเงียบครู่หนึ่งและปล่อยหมัดทันที
สีหน้าฟงโฉ่วชะงักค้างวูบบ หัวที่ลอยอยู่ในกลางอากาศหายวับทันที
ควั่บ!
เสียงระเบิดดังชัดอากาศหน้าหมัดของถังเทียน ระเบิดทันที กระแสอากาศในค่ายทหารใหม่ปั่นป่วนรุนแรง
ฟงโฉ่วตะลึง โชคดีที่เขาหลบได้ทันเวลา มิฉะนั้นเขาคงถูกพลังหมัดเล่นงานใส่แน่นอน พลังช่างแข็งแกร่งรุนแรงเหลือเกิน! ฟงโฉ่วลอบตกใจ เขาเพิ่งเห็นรังสีเงินบางมากมายมันส่องประกายอยู่ใต้ศอกถังเทียนและวิ่งเข้าไปในหมัดของเขา
หมัดของถังเทียนแค่แฝงพลังปราณแท้เข้าไปเท่านั้น แค่หมัดธรรมดา ก็มีพลังน่ากลัวมากแล้ว
ปิงกลับเข้ามาค่ายทหารใหม่ทันเวลากระแสอากาศรุนแรงทำให้เขาแทบยืนไม่อยู่
“อะไรกันนี่?”
ปิงเสียงสั่นทำให้ถังเทียนยินดีมาก เขาหัวเราะลั่น“เป็นไงบ้าง น่ากลัวใช่หรือเปล่านี่คือพลังงานเกลียวเงินที่ข้าสร้างขึ้นมา”
แม้ว่าปิงจะตกใจอย่างหนัก แต่เขาก็ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ “ไม่คิดว่าเป็นเพราะเจ้าโชคดีหลังจากหลอกตัวเองว่าสร้างวิทยายุทธเหรอ เจ้ายังจำเป็นต้องให้มืออาชีพประเมินก่อน”
เรื่องเสื้อฝึกพลังก่อนหน้านี้ ทำให้เขาโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนต้องไปถามเซรีนลงท้ายเซรีนปิดปากเขา นางโยนชุดให้สองชุดแล้วบอกให้เขาไปหาคนอื่นมาทดลอง
หลังจากโมโหหัวเสีย ปิงหาตัวอาเฮ่อและหลิงซิ่วมาทดลอง แต่ก็ต้องประหลาดใจเพราะชุดของเซรีนไม่มีอะไรผิดปกติเลยแม้แต่น้อย
เขาโดนถังเทียนต้ม!
เขาเข้าไปหาถังเทียนเพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้ทำชุ่ย แต่ถังเทียนเริ่มถอยแล้ว ดังนั้นเขาจึงเอาความโกรธอัดแน่นไประบายกับเผ่าหมาป่าและด้วยการรวบรวมกองทัพ แต่เห็นได้ชัดว่าเขาหากลุ่มเป้าหมายผิด ไม่เพียงแต่ไม่สามารถระบายความโกรธได้เท่านั้นแต่เขาแทบคลั่งใจตายเพราะพวกโง่ๆไร้ประโยชน์ในเผ่าหมาป่านั่นเอง
นี่เขายังจะโง่ได้มากกว่านี้อีกไหม?
แต่ความสนใจของเขาในตอนนี้ถูกดึงดูดโดยพลังเกลียวเงินที่เพิ่งกำเนิดใหม่ของถังเทียน เขามีสายตาสำหรับสิ่งมีค่าดังกล่าวมันเป็นแค่การปล่อยหมัดธรรมดา แต่พลังของพลังงานเกลียวเงินทำให้เขาประหลาดใจ
“อะไรนะ เจ้าบอกว่าพลังเหล่านี้มาจากเส้นด้ายปราณแท้หรือ?”
หลังจากได้ยินรายละเอียดคำอธิบายของถังเทียน ปิงแทบจะคิดว่าเขาฟังผิด แต่หลังจากคิดมากขึ้นเขายังคงไม่ตระหนักว่าพลังเกลียวเงินของถังเทียนรุนแรงขนาดไหนแต่กลับคิดไปว่าเป็นผลมาจากหัวข้อการฝึกฝนของค่ายทหารใหม่
ในมือของเขามีทหารใหม่และเก่าหลายคนที่ผ่านการฝึกฝนด้วยเส้นด้ายปราณแท้ แต่ไม่มีใครสามารถสร้างวิทยายุทธใหม่ออกมาจากการฝึกนี้ได้
เจ้าเด็กนี่......แกล้งโง่มาตลอดเวลาหรือนี่?
ปิงจับตามองถังเทียนอย่างสงสัย แต่ไม่ช้าเขาก็ส่ายหน้าอย่างเงียบงัน ถ้าเจ้าเด็กนี่ร้ายลึกแล้วเมื่อตอนพบกับเขาการฝึกเข้มงวด เขาจะเหนื่อยหอบเป็นสุนัขหอบแดดได้ยังไง?
ปิงเปลี่ยนความคิดและสีหน้าของเขาตาของเขามีท่าทางเยาะเย้ยโดยมิได้ตั้งใจ
“เฮ้, ทำสีหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง?” ถังเทียนหรี่ตาและจ้องมองปิงอย่างไม่เป็นมิตรเหมือนกับว่าเขาพร้อมปล่อยหมัดทันทีที่เขาพูดผิด
“อะแฮ่ม!” ปิงฟื้นคืนความรู้สึกและกลบเกลื่อนสีหน้าและเสพูด “ถ้าเป็นเช่นนั้น เจ้าก็มั่นใจในความสามารถพอ พลังงานเกลียวเงินของเจ้าเกือบเป็นวิชาทางจิตแล้ว แน่นอนว่ายังคงขาดไปนิด แต่โชคของเจ้าดีจริงๆ”
“หมายความว่าไงโชคดี, นี่คือความสามารถแท้จริง,เข้าใจหรือเปล่า? ลุง!” ถังเทียนค่อนข้างไม่พอใจ
“ฮ่าฮ่า” ปิงหัวเราะ “ให้ข้าบอกก่อน สาเหตุที่ข้าบอกว่าเป็นโชคในขอบเขตพลังยุทธระดับหก คนทั่วไปจะยังไม่มีจิตวิญญาณยุทธเงิน”
“จิตวิญญาณยุทธเงิน! เจ้ามีจิตวิญญาณยุทธเงินแล้วหรือ?”ฟงโฉ่วที่ลอยอยู่ในอากาศข้างๆ มีสีหน้าเหลือเชื่อ
ถังเทียนที่อยู่ต่อหน้าเขาดูเหมือนตัวประหลาดผู้อยู่ที่นี่ทำให้เขารู้สึกขัดกับสามัญสำนึก ไม่ว่าที่ไหนหรือเมื่อไหร่เขาจะมีแรงกระตุ้นที่ระห่ำอยู่เสมอ
“ถูกแล้ว” หน้าไพ่ของปิงยิ้มแย้ม “ปกติพวกที่มีจิตวิญญาณพลังยุทธเงินในระดับปราณแท้ของพวกเขา พวกเขาก็สามารถฝึกพลังจิตวิญญาณได้โดยตรงเลยและพวกเขาไม่มีทางใช้วิชาที่สำเร็จครึ่งๆ กลางๆ อย่างเจ้าทำไมข้าถึงต้องบอกว่ามันเป็นวิชาครึ่งๆ กลาง ก็คือแม้ว่าจิตวิญญาณยุทธของเจ้าจะได้รวมปราณแท้ไว้ด้วย แต่ตัวจิตวิญญาณยุทธโดยตัวมันเองไม่มีพลังโจมตี เมื่อเจ้าพบวิชาพลังจิตวิญญาณในอนาคต เจ้าจะรู้ ในวิชาจิตวิญญาณพลังยุทธ อุปัทวเหตุของจิตวิญญาณพลังยุทธจะแข็งแกร่งกว่าปราณแท้มาก ปราณแท้ก็เหมือนภาชนะจิตวิญญาณพลังยุทธ ขณะที่เจ้าในตอนนี้ เป็นเพียงสิ่งตรงข้ามแน่นอน จิตวิญญาณพลังยุทธมีการเชื่อมโยงใช้งานอุบัติการณ์ของมันขึ้นอยู่ปราณแท้ของเจ้า แต่ความเชื่อของเจ้าถูกต้องแล้ว เจ้ามีจิตวิญญาณยุทธเงิน ถ้าเจ้าไม่ใช้ให้ดี อย่างนั้นเจ้าก็เป็นเพียงคนงี่เง่าคนหนึ่ง”
ถังเทียนดูเหมือนจะสูญเสียความคิด
“ความจริงมีหลายคนที่ใช้พลังเกลียว” ปิงพูดต่อ “แต่ชนิดปราณแท้ที่ถูกทอขึ้นมาแบบเจ้า ความจริงมันแข็งแกร่ง เข้มข้นทรงพลังชั่วคราว แต่นั่นก็ยังไม่พ้นคำพูดที่ว่าถ้าไม่ใช่เพราะจิตวิญญาณยุทธเงิน เจ้าจะสามารถทอขึ้นได้หรือ”
“สิ่งที่เจ้าควรทำต่อไปก็คือเพิ่มคุณภาพปราณแท้แบบของเจ้าและไม่ใช่ไปบีบกดดันขนาดปราณแท้ของตัว ดังนั้นเจ้าเลือกวิธีได้ถูกต้องทีเดียว” ปิงท่าทางขรึม “ครั้งสุดท้ายมียอดฝีมือคนหนึ่ง เขาฝึกวิชาสุดยอดทางจิตที่โดดเด่นเป็นวิทยายุทธของกลุ่มดาวหมีใหญ่ เรียกว่า ร่มดาวหมีใหญ่นี่เป็นวิชาที่ซับซ้อนมากเกี่ยวกับพลังสามสิบหกสายไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ทันทีที่เขาโจมตีพลังทั้งสามสิบหกสายจะเป็นพลังน่ากลัวต่อเนื่องไม่มีช่องว่าง พลังทั้งสามสิบหกสายจะปะทุขึ้นมาพร้อมกันร้ายกาจรุนแรงมาก แต่วิชานี่ฝึกได้ยากมาก มีไม่กี่คนที่ทำได้สำเร็จ แม้แต่รุ่นที่ยังบกพร่องก็คือรุ่นที่เรียกในชื่อที่คุ้นเคยว่ากระบวยใหญ่”
“กระบวยใหญ่” ฟงโฉ่วอุทานอีกครา “นั่นคือความลับที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จากกลุ่มดาวหมีใหญ่!แล้วจะเป็นรุ่นที่บกพร่องได้อย่างไร?”
ปิงยิ้ม “กลุ่มดาวหมีใหญ่เคยมีพลังเข้มแข็งมาก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ต่อไปอีกแล้ว สัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของกลุ่มดาวหมีใหญ่อาจจะเป็นกระบวยใหญ่ซึ่งเป็นกลุ่มดาวที่แข็งแกร่งที่สุดเจ็ดดวง กองทัพดาวกระบวยใหญ่เคยได้ชื่อว่าเป็นกองที่แข็งแกร่งเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะอ่อนด้อยกว่าเราก็ตาม พวกกลุ่มดาวกระบวยใหญ่มักต้องการแยกออกมาจากกลุ่มดาวหมีใหญ่และตั้งตัวเป็นกลุ่มดาวอิสระ ข้าไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้สถานการณ์เป็นเช่นไร ตอนนี้ที่เจ้ามีพลังหกสายในร่างแล้ว แต่ร่มแห่งดาวหมีใหญ่นี้ มิใช่รูปแบบไม่ดีที่เจ้าจะใช้ฝึก แน่นอนว่าข้าไม่มีวิชานี้ ข้าเพียงแต่ให้ความคิดเห็นกับเจ้า”
ถังเทียนรู้สึกว่าปิงพูดถูก ถ้าเขาสามารถฝึกพลังเกลียวเงินได้ถึงสามสิบหกสาย อย่างนั้นก็จะน่ากลัวแน่
แต่วิชานี้ต้องค่อยๆขัดเกลา ไม่อาจจะรีบร้อนได้
“ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง?” ถังเทียนถามทันที
“สถานการณ์ดูไม่ค่อยดี” หน้าของปิงน่ากลัวอีกครั้ง “อูเถี่ยหวี่เข้าสู่พื้นที่ทะเลทรายแล้ว ตอนนี้ทุกคนกังวลใจมาก เจ้าไปปลอบพวกเขาให้สงบดีกว่า”
“ข้าไม่รู้วิธีปลอบพวกเขา ท่านไปเถอะ ข้ารู้แต่วิธีต่อสู้” ถังเทียนส่ายศีรษะ “ทุกอย่างจะสงบถ้าข้าเอาชนะอูเถี่ยหวี่ได้ เมื่อเขากำลังมาถึง อย่าลืมเรียกข้า เอ่อ..ติงตังอยู่ในเมืองสามวิญญาณหรือยัง?”
ปิงไม่สามารถทำอะไรกับทัศนคติดูแลคนได้แย่มากของถังเทียน แต่เมื่อเขาได้ยินถังเทียนถามเรื่องติงตัง เขาเข้าใจ
“เจ้าต้องการถามนางเรื่องพลังสายเลือดหรือ? นางออกไปได้หลายวัน และคงกลับมาแล้ว นางออกไปหาข้อมูล เป็นไปไม่ได้ที่นางจะอยู่เมืองสามวิญญาณตลอดเวลา”
“ฮืม..ไม่ต้องรีบก็ได้” ถังเทียนพยักหน้า และถูหมัดของเขา “อย่างนั้นข้าจะไปฝึกหัวข้อวิชาอื่นของค่ายทหารใหม่ในสองสามวันนี้”
“หัวข้อวิชาอื่น?” ปิงสับสน “วิชาเหล่านี้ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อเจ้าแล้ว”
หลังจากพูดเช่นนี้เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เกี่ยวกับมาตรฐานเก่า ขอเพียงบรรลุระดับแปดก็คือว่าผู้นั้นจบการฝึกฝนในค่ายทหารใหม่แล้ว แต่ถังเทียนเพิ่งจะเข้าสู่ระดับที่เจ็ด ในสายตาปิงถือว่าอยู่ในเกณฑ์จบการอบรมค่ายทหารใหม่แล้ว แม้ว่ามาตรฐานของการใช้อาวุธจักรกลของเจ้าผู้นี้ยังอยู่ในระดับธรรมดา แต่มาตรฐานวิทยายุทธเดิมของเขาค่อนข้างสูงแล้ว
กรงเล็บเพลิงภูตพราย,พลังงานเกลียวเงิน ที่มีลมพรางสนับสนุนและวิชาโล่อากาศโจมตี เจ้าเด็กนี่เป็นโรคจิตหรือเปล่า
อย่างไรก็ตามหลังจากจบศึกนี้ คงได้เวลาที่เขาต้องจากค่ายทหารใหม่และเดินทางเข้าไปในที่ส่วนลึก
นัยน์ตาของปิงเป็นประกายคาดหวัง