ตอนที่ 282 เดิมพัน
พวกนักสู้พบเห็นได้ทุกแห่งในท้องที่ทะเลทรายว่างเปล่า
นักสู้วัยกลางคนสวมหมวกปีกใบใหญ่มีผู้คุ้มกันสองสามนายอยู่ข้างตัวคอยสอดส่องสภาพแวดล้อมรอบๆอย่างตื่นตัว
“วางใจเถอะน่า”นักสู้วัยกลางคนหัวเราะเบาๆ “ที่นี่ไม่มีใครจำเราได้”
“อาจารย์,ท่านคิดว่าอูเถี่ยหวี่เอาชนะคานท์ด้วยความสามารถของเขาเองหรือเปล่า? บุรุษหนุ่มชุดเขียวถามอย่างไม่ค่อยเชื่อ บุรุษหนุ่มมีริมฝีปากแดงและฟันขาวเขาดูเหมือนคนขี้เล่นอารมณ์ดี และมักโบกพัดจีบในมือ
“เรื่องว่าอะไรคือความสามารถเขา? ก็จะอะไรเล่า ถ้าไม่ใช่ความสามารถเขา?” บุรุษวัยกลางคนพูดถ่อมตัว “ชนะก็คือชนะ แพ้ก็คือแพ้ ผู้ชนะก็ได้ปกครองโลกนี้ ใครจะสนใจกันเล่าว่าเขาจะชนะอย่างไร?”
“แล้วจิ้งจอกเฒ่าอย่างคานท์จะพ่ายแพ้ได้ง่ายๆอย่างไร! บุรุษหนุ่มชุดเขียวกัดฟัน
“แพ้ก็คือแพ้ อย่าเป็นผู้แพ้ที่เจ็บปวด” นักสู้วัยกลางคนหัวเราะเบาๆ “ก็แค่ว่าเป็นนี่เป็นการเสียโอกาสที่ดี ถ้าไม่ใช่เพราะความพ่ายแพ้ของหวีซุ่นและคณะและศักดินาชาวยุทธฉวยโอกาสโจมตี กลุ่มศักดินาชาวยุทธก็จะกลายเป็นกลุ่มอันดับหนึ่ง”
บุรุษหนุ่มโพล่งออกมา“โชคดีที่หวีซุ่นและพวกพ้องไม่ได้ทำอย่างที่คาดไว้ได้ กลายเป็นพ่ายแพ้ถอยร่นกลับมา”
“เจ้ายังคงใช้ไม่ได้” บุรุษวัยกลางคนตำหนิเบาๆ “หลังจากสู้มาหลายศึกแล้ว พวกหวีซุ่นทั้งสามเป็นอย่างไรเจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ? ทั้งสามคนพายอดฝีมือกลุ่มศักดินาชาวยุทธไปอีกร้อยคนด้วยมาตรฐานอย่างนั้นเจ้ายังมีโอกาสต่อต้านอีกหรือ?”
บุรุษหนุ่มเสื้อเขียวละอายเล็กน้อยและส่ายศีรษะ “ไม่ , ข้าจะหนีไปให้ไกลเท่าที่ทำได้ ข้าคาดว่าแม้จะวิ่งหนีไป ก็ยังเป็นปัญหา”
“ดีใจที่เจ้ารู้เรื่องนั้น” นักสู้วัยกลางคนหัวเราะเล็กน้อยและเปลี่ยนสำเนียงเสียงเป็นเคร่งเครียด “ทั้งสามคนรวมทั้งขุนพลวิญญาณทำให้ หวีซุ่นแขนขาด,สุ่ยเฉิงบาดเจ็บหนัก หย่งชิวถูกจับ ยอดฝีมือของกลุ่มศักดินาชาวยุทธถูกกวาดล้าง สถิติอย่างนั้นมีใครทำได้บ้างในช่วงหลายปีมานี้?”
“ไม่!” หน้าของบุรุษหนุ่มชุดเขียวแดงด้วยความละอาย
“แน่นอนว่าไม่” นักสู้วัยกลางคนถอนหายใจเล็กน้อย “หลายวันมานี้ แม้แต่ข้าก็ยังสงสัยเป็นบางครั้ง ถ้าเป็นข้า ข้าจะทำแบบนั้นได้สำเร็จไหม? หลังจากคิดอยู่นาน ข้าก็ยังไม่มีความมั่นใจ หวีซุ่น,สุ่ยเฉิง, หย่งชิว ถ้าแค่สองคนอาจจะยุ่งยาก แม้ต่อให้เป็นทั้งสามคน ข้าก็ยังชนะ แต่อาจต้องจ่ายคุณค่าหนักอยู่บ้าง ถ้ามีนักสู้ระดับสูงของกลุ่มศักดินาชาวยุทธอีกร้อย ข้าคงจะเลือกจากไปดีกว่า”
“แต่จากระดับ,พวกถังเทียนทั้งสาม ดูเหมือนไม่ได้แข็งแกร่งทรงพลังมากมายนัก”บุรุษหนุ่มชุดเขียวสับสน
“อันดับไม่ได้หมายถึงทุกสิ่ง” นักสู้วัยกลางคนส่ายหน้า “ถ้าเราตัดสินเรื่องอันดับคานท์กับเราเคยอยู่ในระดับพอกัน แต่ในสถานการณ์สู้จริง คานท์เอาชนะเราได้เป็นส่วนใหญ่”
บุรุษหนุ่มชุดเขียวดูเหมือนจะคิดลึก และพูดเสียงเบา “ข้าตรวจเหตุผลเบื้องหลังพวกเขามาแล้ว สามคนนี้จู่ๆก็ปรารกฏตัวออกมาและเข้ามาอยู่ทำเนียบสวรรค์วิถีได้ ดังนั้นจึงได้รับความสนใจมานานแล้ว บรรดาทั้งสามคนนี้ อาเฮ่อคือคนจากกลุ่มดาวกระเรียนฟ้าในบรรดาศิษย์สำนักกระเรียน เขาคือศิษย์รุ่นเยาว์ที่โดดเด่นที่สุด ประวัติของหลิงซิ่วไม่ทราบชัดไม่มีใครรู้ว่าเขามาจากไหน วิชาหอกของเขาโดดเด่น อสูรจักรกลของเขาคือนกฟลามิงโกซึ่งตลอดทั้งร่างเปล่งเปลวไฟออกมาและว่องไว และถังเทียนยิ่งน่าสนใจกว่า เขามาจากดาวสุดขอบแดนที่ชื่อว่าดาวอู่อัน”
“ดาวสุดขอบแดน?”นักสู้วัยกลางคนตะลึง ดาวสุดขอบแดนคือดาวที่ได้รับการยอมรับน้อยเป็นส่วนใหญ่ ความเข้มข้นของพลังมีอยู่ในระดับต่ำกว่าดาวอื่นทั้งหมด นั่นคือดาวที่รกร้างห่างไกลจากสวรรค์วิถี
“ใช่แล้ว,ประวัติของเขาง่ายและร่องรอยก็ง่าย” บุรุษชุดเขียวพูดต่อ “เขาได้รับการเลี้ยงดูจากมารดา แต่เมื่อไม่กี่ปีก่อนนั้น มารดาของเขาเสียชีวิต เขาเรียนอยู่ในโรงเรียนชื่อแอนดรูว์และบังเอิญว่าซ่างกวนเชียนฮุ่ยแห่งกลุ่มดาวเพอซูสก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขาและเป็นคนรักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วย”
“ซ่างกวนเชียนฮุ่ยแห่งกลุ่มดาวเพอร์ซูส?” นักสู้วัยกลางคนตกใจเล็กน้อย
กลุ่มดาวเพอร์ซูสตกต่ำมาเป็นเวลานานและเกือบถูกขับออกจากดินแดนสิบเก้ากลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ หลายปีมานี้ชื่อเสียงของกลุ่มดาวเพอร์ซูสดังขึ้นมาได้ก็เพราะซ่างกวนเชียนฮุ่ยล้วนๆ มีข่าวลือว่าซ่างกวนเชียนฮุ่ยมีมงกุฏแห่งกลุ่มดาวเพอร์ซูสอยู่ในมือ ความตกต่ำของกลุ่มดาวเพอร์ซูสทั้งหมดมาจากการที่จู่ๆมงกุฎของกลุ่มดาวมีระดับลดลง การลดระดับของสมบัติระดับเซียนเป็นเหตุให้สมบัติแห่งกลุ่มดาวเพอซูสระดับตกลงหมดอย่างมากมาย
นอกจากนี้ซ่างกวนเชียนฮุ่ยดูเหมือนจะค้นหาวิธีฟื้นฟูพลังของมงกุฎแห่งกลุ่มดาวเพอร์ซูส พลังของสมบัติของกลุ่มดาวเพอร์ซูสได้ฟื้นคืนสภาพอย่างรวดเร็ว พลังของกลุ่มดาวเพอร์ซูสก็เพิ่มระดับอย่างรวดเร็วเช่นกัน บางคนที่มีปัญญาไวก็สังเกตกันได้แล้วว่าพลังงานกลุ่มดาวเพอร์ซูสได้ฟื้นฟูอย่างเงียบๆแล้ว
ระดับการฟื้นฟูของกลุ่มดาวเพอร์ซูสไม่อาจหยั่งคำนวณได้
ใหญ่เกินกว่าจะล้มเหลวไม่ว่ากลุ่มดาวเพอร์ซูสจะอ่อนแอและไร้พลังขนาดไหนก็ตามแต่ก็ยังอยู่ในกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ ตอนนี้มีการฟื้นฟูอย่างเห็นได้ชัด มันจึงไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องเล็กเลยส่วนกลุ่มดาวระดับต่ำอย่างกลุ่มดาวหมาป่าแห่งกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้ ก็อาจจะพอเทียบได้
นั่นคือเหตุผลที่เมื่อนักสู้วัยกลางคนตกใจเมื่อเขาได้ยินเรื่องราวของซ่างกวนเชียนฮุ่ย
“ใช่แล้ว! ถังเทียนและซ่างกวนเชียนฮุ่ยมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา ตระกูลซ่างกวนถือว่าถังเทียนเป็นเหมือนเขยของตระกูลไปแล้ว ย้อนเวลากลับไปถังเทียนมาถึงกลุ่มดาวเพอร์ซูสเพื่อตามหาซ่างกวนเชียนฮุ่ย แต่นางไม่อยู่ แต่ถังเทียนก็ยังได้ช่วยตระกูลซ่างกวนและช่วยให้ตระกูลหลีกเลี่ยงวิกฤติไปได้ ตอนนี้ตระกูลซ่างกวนได้รับการยอมรับนับถือที่สุดในกลุ่มดาวเพอร์ซูส ข่าวลือว่าวิกฤติครั้งนั้นเกิดขึ้นจากสมาคมรวมตระกูลโดยตรง เรื่องนี้ทำให้ถังเทียนโกรธมาก และก่อนที่เขาจะออกมาเขาได้ขอร้องสหายที่ดีของเขาดาบพิรุณสวรรค์อู่กวงใช้เวลาสามเดือนตามกำจัดสมาคมรวมตระกูลในกลุ่มดาวเพอร์ซูสทั้งหมด กองกำลังสมาคมรวมตระกูลถูกกำจัดทั้งหมดและถังเทียนกลายเป็นคนที่มีอิทธิพลและชื่อเสียงมากที่สุดในกลุ่มดาวเพอร์ซูส ถังเทียนยังมีเบื้องหลังอยู่ในสมาพันธ์เกียรติยศชาวยุทธอีกด้วย”
ถังเทียนคือหัวหน้ากลุ่มคนทั้งสาม ดังนั้นบุรุษหนุ่มชุดเขียวจึงให้ความสนใจในการตรวจสอบรายละเอียดของถังเทียน
“ช่างเป็นบุคลิกที่ทรงอำนาจจริงๆแม้ว่าเขาจะมีประวัติต่ำต้อย แต่เขาสามารถสร้างความสำเร็จได้อย่างน่าอัศจรรย์” นักสู้วัยกลางคนเต็มไปด้วยอารมณ์ตื้นตัน
“ใช่ทรงอำนาจมาก” บุรุษหนุ่มชุดเขียวยิ่งมีน้ำเสียงที่ชื่นชมมาก “คนผู้นี้มีระดับสติปัญญาต่ำและพรสวรรค์น้อยแต่มีความดื้อรั้นมาก เขาฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานถึงห้าปีเต็มขึ้นชื่อในเรื่องเรียนซ้ำชั้นในโรงเรียนท้องถิ่นนั้น ต้องถูกเยาะเย้ยแม้แต่สถาบันแอนดรูว์ก็ยังไล่เขาออก คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะถูกค้นพบโดยสถาบันคาราเมล และเหมือนจะเกิดความรู้แจ้งกะทันหันความสามารถของเขารุดหน้าแบบก้าวกระโดดทันที เขาเติบโตก้าวหน้ากลายเป็นยอดฝีมือในท้องถิ่นอย่างรวดเร็ว
“ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย”นักสู้วัยกลางคนแค่นเสียง “บริวารของข้า ใครมีความอดทนใช้เวลาห้าปีฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานได้ข้าถึงจะยอมรับพวกเจ้าเป็นศิษย์และให้คำแนะนำพวกเจ้าด้วยตัวเอง พวกเจ้าไม่ต้องพูดถึงห้าปีหรอกมีใครทนได้ถึงปีบ้างเล่า? พวกเจ้าทุกคนมีตางอกเงยอยู่บนหัวกันทั้งนั้น(หมายถึงหยิ่ง) และคิดกันว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะตอนนี้พวกเจ้าคงรู้แล้วว่าอัจฉริยะที่แท้จริงเป็นเช่นไร”
บริวารที่ล้อมรอบทุกคนแสดงท่าทีอึดอัดและละอาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุรุษชุดเขียวที่ดูละอายมากที่สุด ความจริงเมื่อบริวารใต้บังคับบัญชาเขาให้ข้อมูลกับเขาเขาเองยังไม่ค่อยเชื่อตาตัวเอง ยอมฝึกวิทยายุทธพื้นฐานห้าปีมันตลกขนาดนั้นเชียวหรือ? ห้าปีที่มีค่า เสียเวลาไปกับวิทยายุทธพื้นฐานช่างเสียเวลานัก
แต่ความสามารถของถังเทียนในตอนนี้เล่า ทำให้เขาตกตะลึง
บุรุษชุดเขียวเปลี่ยนหัวข้อ “ปัญหาตอนนี้ก็คือ ทำไมอูเถี่ยหวี่ถึงต้องการจัดการกับกลุ่มของถังเทียน? ถังเทียนไปเหยียบเท้าพวกเขาหรือ?”
“อูเถี่ยหวี่มีคนที่หนุนหลังเขา”นักสู้วัยกลางคนมั่นใจ “ข้าอยู่ในเส้นทางนี้ร่วมกับเขามานาน ข้ารู้จักเขาดี คนผู้นี้อาจดูเหมือนไม่มีสมอง แต่เขาฉลาดมากและไม่ใช่คนประมาทแน่นอน”
“คนที่อยู่เบื้องหลังอูเถี่ยหวี่ทำไมพวกเขาถึงพุ่งเป้าไปที่ถังเทียนเล่า? เป้าหมายของเขาคืออะไร?” บุรุษชุดเขียวงุนงง
“นั่นไม่ใช่เรื่องของเรา” นักสู้วัยกลางคนยืนกราน “ไม่ว่าเป้าหมายของเขาจะเป็นยังไงก็ตาม ก็ไม่มีทางที่จะมีผู้นำสองคน!อูเถี่ยหวี่สำเร็จโทษคานท์ไปแล้ว ความทะเยอทะยานจะครอบครองกลุ่มดาวหมาป่าของเขาเปิดเผยออกมาแล้ว และเขาจะปล่อยข้าหรือ?”
“อย่างนั้นเราควรทำเช่นไรดี?” บุรุษหนุ่มชุดเขียวรีบถาม
“เรา?เราเดิมพันข้างถังเทียน!” ภายใต้ชุดคลุมใหญ่ คลื่นความเย็นกระจายออกมาจากนักสู้วัยกลางคน เขาเยาะเย้ย “อย่าตื่นตกใจไป คิดดูสิคนที่อยู่เบื้องหลังอูเถี่ยหวี่ ทำไมพวกเขาไม่ลงมือด้วยตนเอง แต่ให้อูเถี่ยหวี่ลงมือแทน เห็นได้ชัด นี่หมายความว่าถังเทียนและพวกพ้องไม่ใช่จะจัดการได้ง่าย ดังนั้นจอมบงการเบื้องหลังจึงได้มีความคิดเช่นนี้ เมื่อเป็นเช่นนั้นเราจะปล่อยให้พวกเขาได้ลุยกัน”
“สุดท้ายพวกเขาจะสู้กันแน่หรือ?” บุรุษหนุ่มชุดเขียวรู้สึกตื่นเต้นมาก ผู้คุ้มกันอื่นๆ ก็พลอยตื่นเต้นเช่นกัน เมื่อได้ยินเรื่องของอูเถี่ยหวี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงไม่กี่วันมานี้ เหมือนกับว่าทั่วทั้งกลุ่มดาวหมาป่าจะตกอยู่ในเงื้อมมืออูเถี่ยหวี่ในอีกไม่กี่วันและทุกคนไม่มั่นใจ
“หึหึ” นักสู้วัยกลางคนหัวเราะเบาๆ อยู่ภายใต้หมวกปีกใบใหญ่ “แรงฮึดครั้งสุดท้ายของอูเถี่ยหวี่ ถ้าเขาชนะศึกนี้อย่างนั้นทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี ถ้าเขาแพ้ อย่างนั้นเขาจะไม่เหลืออะไรเลย อย่าได้ถูกพฤติกรรมผ่อนคลายของเขาหลอก เขาต้องมีอะไรบางอย่างอยู่เบื้องหลังเรา”
ตาของบุรุษหนุ่มชุดเขียวเป็นประกาย “ท่านหมายถึงผู้บงการหลังฉากเขาหรือ?”
นักสู้วัยกลางคนเพียงแต่ยิ้มโดยไม่ตอบ
เพราะอูเถี่ยหวี่สาบานว่าจะฆ่าชนเผ่าทะเลทรายที่มารวมตัวในเผ่าหมาป่าเพลิงในเมืองทุกคน แต่ตอนนี้ สถานที่นี้ถูกเรียกว่าเผ่าหมาป่ามีกิจการสร้างบ้านเรือนกันอย่างต่อเนื่อง
44 เผ่า เผ่าเล็กที่สุดมีคนเกินกว่า 40 คนขณะที่เผ่าใหญ่มีคนราวๆ 6000 คน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ราว 6-7 ร้อยคน ด้วยการรวมตัวครั้งนี้ทำให้เผ่าหมาป่ามีประชากรเกือบห้าหมื่น
สำหรับกลุ่มดาวหมาป่าแล้ว นี่ก็แค่พลังที่ไม่มีอะไรสำคัญ แต่นี่คือพลังของทั่วท้องทะเลทรายแล้ว
ปิงยังคงต้องวุ่นและจับตาดูแลต่อไป เผ่าหมาป่าแย่ยิ่งกว่าโจร อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับปัญหาทางทหาร ปัญหาเกี่ยวกับอาชีพของเขาทำให้เขาต้องเข้มงวดกับคนที่ไม่เชื่อฟัง
การปรับปรุงเผ่าหมาป่า จะทำให้อย่างน้อยก็พอเป็นผู้ช่วยได้
เมื่อเทียบกับผู้ช่วยของกองทัพในยุคสมัยเขาแล้ว เผ่าหมาป่ายังห่างไกลจนอยากร้องไห้จริงๆ แม้ว่าเขารู้ว่าการทำเช่นนี้เปล่าประโยชน์ แต่เพราะอาชีพทางทหารของเขาทำให้ปิงอดแนะนำพวกเขาไม่ได้
เทียบกับความวิตกกังวลด้านอื่นๆ ปิงรู้สึกสบายใจมากกว่า
ในสายตาเขา ถังเทียนเป็นคนบ้าต่อสู้ตั้งแต่เกิด
ตราบใดที่มาตรฐานความแตกต่างไม่มากจนเกินไป ก็คงไม่ง่ายที่ใครจะเอาชนะถังเทียนได้ ข้อเสียใจประการเดียวของปิงก็คือ ถังเทียนไม่ได้เกิดมาทำสงคราม สงครามขนาดใหญ่ก็คือการรบในสมรภูมิที่ปิงรักชอบ
ตอนนี้การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือ ในสายตาของเขาไม่มีอะไรที่ต่างไปจากการต่อสู้ของอันธพาลตามท้องถนนเลย
อย่างไรก็ตาม...
เมื่อเห็นพวกที่ไร้อารยธรรมที่อยู่ต่อหน้าเขา หัวของเขากระปรี้กระเปร่าทันทีปิงคัดนักสู้ระดับสวรรค์วิถีในเผ่าหมาป่าเพื่อก่อตั้งกองทัพหมาป่า เขาไม่คาดหวังว่าเจ้าพวกนี้จะมีประโยชน์มากนัก แต่อย่างน้อยก็ค่อยดูเหมือนกองทัพบ้าง
พวกมีพรสวรรค์ที่เขาเลือกไว้ หัวหม่าเอ้อได้พาไปเมืองสามวิญญาณเงียบๆแล้ว
หลังจากฝึกซ้อมกันมาสามวันเจ้าพวกนี้ก็ยังมีสีหน้ามึนงง เต็มไปด้วยช่องว่างจนปิงแทบทนดูไม่ได้ กลุ่มทหารที่ผสมปนเปกันนี้ คำอธิบายดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ต่อคนพวกนี้เลย
มีความผิดพลาดหลายครั้งอย่างน่าขัน จนทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เขาไม่เคยนำทหารผู้โง่เขลา คุณภาพต่ำเลย ไม่เคยสักครั้ง บางครั้งเขาสงสัยตัวเองว่าคงตัดสินใจผิด
หายใจลึกๆ หายใจลึกๆ ..... เย็นไว้ ......... เย็นไว้
ทันใดนั้น ร่างของเขาชะงักค้าง ใบหน้าไพ่ของเขามีประกายประหลาดใจและดีใจข่าวที่น่าตกใจมาจากค่ายทหารใหม่
ถังเทียนบรรลุพลังนักสู้ระดับเจ็ดแล้ว!