ตอนที่ 10-9 ซ้อมฝีมือ
เดลี่ฮิกกินสัน มิลเลอร์และคนอื่นๆ มองดูการซ้อมฝีมือในที่ไกลอยู่เงียบๆ
“ตอนนี้มาทำเป็นว่าความเร็วของข้าน้อยกว่าเจ้า” ฮาร์เวิร์ดยิ้มให้ลินลี่ย์ “เข้ามาโจมตีข้า ดูวิธีที่ข้ารับมือเจ้า”
ลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงการคาดหวัง
ถ้าความเร็วของเขาด้อย เซียนจอมเวทจะรับมือได้อย่างไร
ลินลี่ย์เคลื่อนไหวทันทีเปลี่ยนสภาพเป็นร่างเลือนราง ขณะที่ลินลี่ย์เคลื่อนไหว ฮาร์เวิร์ดยังคงเปลี่ยนเป็นร่างเพลิงเลือนรางถอยหลังด้วยความเร็วสูง แต่เห็นได้ชัดว่าความเร็วของเขาน้อยกว่าลินลี่ย์มาก
“ข้าอยากจะดูว่าท่านจะป้องกันข้ายังไง” ลินลี่ย์จ้องมองฮาร์เฮิร์ด
“บึ้ม!” “บึ้ม!” “บึ้ม!” “บึ้ม!” ทันใดนั้นอากาศเต็มไปด้วยก้อนอุกกาบาตเพลิงขนาดเท่าบ้าน อุกกาบาทเพลิงจำนวนมากแฝงด้วยพลังมหาศาลพุ่งเข้ากระแทกใส่ลินลี่ย์ และพริบตาอุกกาบาตทั้งหมดก็ปิดพื้นที่ด้านหน้าของลินลี่ย์ เกิดเป็นม่านพลังต่อหน้าเขา
ลินลี่ย์สีหน้าเปลี่ยน
เวทธาตุไฟระดับเก้า– ฝนอุกกาบาตแผดเผา วิชานี้แม้ว่ายังอ่อนกว่าเวทระดับต้องห้ามอย่างดาวตกทลายฟ้าในแง่ของทั้งสองเวทและการทำลายเป้าหมายเดี่ยว แต่ก็ยังเป็นการบังคับลินลี่ย์ให้ต้องทลายผ่านอุกกาบาตนับไม่ถ้วนเหล่านี้ด้วยถ้าเขายังคงโจมตีฮาเวิร์ดต่อไป
อุกกาบาตเป็นกลุ่มหนาแน่นมากจนไม่มีพื้นที่ให้หลบแม้แต่น้อย
“ปัง!” ลินลี่ย์พุ่งเข้าใส่โดยตรงกระแทกกับอุกกาบาตเพลิงอย่างรุนแรง
อุกกาบาตเพลิงขนาดใหญ่ถูกลินลี่ย์กระแทกแตกกระจาย อุกกาบาตลูกแล้วลูกเล่าขณะที่บางส่วนถูกกระแทกระเบิดกระจาย แต่แม้ว่าร่างของลินลี่ย์จะสามารถอดทนได้อย่างเพียงพอไม่ต้องกลัวพลังโจมตีเหล่านี้ แต่ผลกระทบที่แฝงอยู่ในอุกกาบาตเหล่านี้ก็ทำให้ความเร็วของเขาลดลงเล็กน้อย
“ปัง!”เขาใช้หมัดกระแทกอุกกาบาตเพลิงสุดท้ายที่อยู่ต่อหน้าเขา ในที่สุดลินลี่ย์ก็เห็นหน้าฮาร์เวิร์ดในระยะห่าง
ฮาร์เวิร์ดยืนอยู่ในอากาศ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ลินลี่ย์, เจ้าแพ้อีกแล้ว”
ลินลี่ย์พยักหน้า
“เวทระดับเก้าของท่านไม่สามารถทำร้ายข้าได้ แต่ก็สามารถลดความเร็วของข้าได้อย่างมากมาย เมื่อเวลาข้าบุกโจมตีต่อบางทีท่านอาจจะร่ายเวทต้องห้ามไปแล้ว” ลินลี่ย์เข้าใจเรื่องนี้ดี แต่เขาไม่มีทางเลือก อุกกาบาตเหล่านั้นไม่ใช่หินธรรมดาและลินลี่ย์ก็ต้องใช้พลังที่มากกว่าธรรมดาทำลายหินแต่ละก้อน
เดลี่ที่ยืนดูอยู่ใกล้ๆพูดขึ้น “ลินลี่ย์, วิธีการพื้นฐานที่สุดที่เซียนจอมเวทใช้กับเซียนนักรบก็คือใช้เวทป้องกันพวกเขาไว้ขณะที่ถอยออกไปด้วยความเร็วสูง จากนั้นจึงค่อยใช้เวทต้องห้ามโจมตีพวกเขา”
ลินลี่ย์พยักหน้า
“อย่างไรก็ตาม ท่านฮาร์เวิร์ดท่านสามารถร่ายเวทระดับเก้าในพริบตาได้ นี่มัน..”ลินลี่ย์รู้ว่าบุรุษผู้นี้ทรงพลังน่ากลัวเพียงไหน แม้ว่าลินลี่ย์จะได้ความช่วยเหลือจากแหวนมังกรขนดแต่ลินลี่ย์ก็สามารถร่ายเวทฉับพลันได้เฉพาะเวทระดับเจ็ดเท่านั้น
ฮาร์เวิร์ดหัวเราะ “แต่แน่นอนเซียนจอมเวททั้งหมดมีพลังจิตมากมายแน่ แต่สามารถร่ายเวทได้ในพริบตาได้แค่เวทระดับแปด เหตุผลที่ข้าร่ายเวทระดับเก้าได้ในพริบตาได้เป็นเพราะข้าฝึกมานานหลายปีก็เลยมีพลังจิตที่แก่กล้า”
ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ “ฟีนิกซ์แปลงของเขาสามารถสร้างเป็นฟีนิกซ์เพลิงซึ่งสูงหลายร้อยเมตรและควบแน่นกลายเป็นนกฟีนิกซ์ตัวหนึ่งซึ่งมีขนาดเพียงสิบเมตร ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย”
กล่าวโดยทั่วไปคือเวทร่างแปลงนกฟีนิกซ์สามารถสร้างฟีนิกซ์เพลิงที่สูงร้อยเมตร และนั่นก็นับว่ามีพลังน่ากลัวแล้ว แต่ฮาร์เวิร์ดผู้นี้เห็นได้ชัดว่า..เป็นหนึ่งในเซียนจอมเวทผู้ทรงพลังที่สุด
“แต่ในสถานการณ์ที่อันตราย ถ้าเซียนจอมเวทร่ายเวทระดับแปดด่วนอย่างเมามันและซ้ำๆใส่เจ้า พวกเขาก็ยังสามารถทำให้เจ้าช้าลงได้” ฮาร์เวิร์ดพูดอย่างจริงจัง
ลินลี่ย์พยักหน้าและหัวเราะเบาๆ “อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่มีผลเท่ากับท่านนะท่านฮาร์เวิร์ดสามารถร่ายเวทระดับเก้าฉับพลันได้ ทำให้ข้าต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าจะผ่านฝนอุกกาบาตแผดเผาของท่านได้ ถ้าเป็นเวทระดับแปดที่เคยใช้ป้องกันข้าความเร็วของข้าอาจจะเร็วได้มากกว่านี้”
“ลินลี่ย์, เจ้าอาจนับได้ว่าเป็นเซียนนักสู้ระดับสูง เซียนนักรบระดับทั่วไปไม่สามารถทำลายเวทระดับแปดได้ไวเท่าเจ้าเป็นแน่” ฮาร์เวิร์ดกล่าว
ลินลี่ย์พยักหน้า
ลินลีย์เข้าใจดีแล้วในตอนนี้..ก็เหมือนกับคนธรรมดาที่วิ่งร้อยเมตรได้ในสิบวินาที แต่ถ้าเขาวิ่งอยู่บนพื้นโคลน เขาอาจจะทำเวลาได้สิบห้าวินาทีหรือนานกว่า พื้นโคลนสำหรับคนธรรมดาไม่ถือว่าคุกคามอะไรมากนัก
แต่แน่นอนว่ามันช่วยชะลอความเร็วของพวกเขาให้ตกลง
“ลินลี่ย์! เจ้าต้องเข้าใจนะว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเซียนจอมเวทที่ต้องทำเมื่อตอนต่อสู้กับเซียนนักรบก็คือลดทอนความเร็วของคู่ต่อสู้! เวทที่ร่ายได้ฉับพลันคือหนึ่งในวิธีนั้น ตัวอย่างเช่นเวทธาตุมืดก็มีเวทชะลอความเร็ว ตราบใดที่เซียนจอมเวทป้องกันไม่ให้เจ้าพัวพันเขาได้สักพักหนึ่งแล้ว จากนั้นเซียนจอมเวทก็จะใช้โอกาสนี้ร่ายเวทต้องห้ามต่อเจ้า”
เดลี่และคนอื่นก็บินมาสมทบด้วยเช่นกัน
“ตอนที่เจ้าเผชิญหน้ากับเวทต้องห้ามจากเซียนจอมเวทแล้ว เจ้าควรจะรู้ว่าพวกเขาทรงพลังขนาดไหน?” เดลีหัวเราะให้ลินลี่ย์
ลินลี่ย์พยักหน้า
เวทต้องห้ามที่แท้จริงนับว่าน่ากลัวมาก ตัวอย่างเช่น ร่างแปลงฟีนิกซ์นั้น ต่อให้ลินลี่ย์สามารถแทงกะโหลกของฟีนิกซ์เพลิงได้ก็ตามแต่มันก็ยังโจมตีเขาได้ต่อเนื่องเพราะสัตว์ประหลาดตัวนี้สร้างขึ้นมาจากแก่นธาตุล้วน ไม่ใช่สิ่งที่มีชีวิต เวทต้องห้ามอย่างนี้แข็งแกร่งน่ากลัวมากกว่าอสูรเวทระดับเซียน
อย่างน้อยอสูรเวทระดับเซียนก็กลัวบาดเจ็บ
ในการรับมือกับเวทต้องห้ามมีเพียงทางเลือกเดียวก็คือทำลายโดยการโจมตีซ้ำๆ และทำให้พลังงานของมันกระจายออกไป
“ลินลี่ย์” หญิงงามนามว่าเพนน์สลีนยิ้มให้ขณะที่นางกล่าว “การร่ายเวทฉับพลันและการชะลอความเร็วของคู่ต่อสู้ค่อนข้างเป็นวิธีแฝงสำหรับเซียนจอมเวทเอาไว้ใช้รับมือคู่ต่อสู้ ความจริงเซียนจอมเวทยังมีวิธีการที่ทรงพลังอย่างอื่นอีก”
“โอว?”
ลินลี่ย์จ้องมองฮาร์เวิร์ดอย่างประหลาดใจ “ท่านฮาร์เวิร์ดท่านยังมีเครื่องมืออย่างอื่นที่ช่วยให้ท่านมีพลังกำจัดอีกหรือ?”
เซียนจอมเวทน่ากลัวเกินไปแล้ว
ฮาร์เวิร์ดพยักหน้า “แน่นอน วิธีนี้เป็นวิธีเผื่อเลือกซึ่งเซียนจอมเวทต้องใช้พึ่งพาอาศัย มาลองโจมตีข้าอีกครั้ง ถ้าเจ้าต้องการมีประสบการณ์เจ้าต้องลองด้วยตัวเอง เจ้าจะเข้าใจได้ชัด” ขณะที่เขาพูด ฮาร์เวิร์ดบินถอยหลังทอดระยะห่างจากลินลี่ย์ร้อยเมตร
“วิธีการเผื่อเลือกที่เขาพึ่งพาหรือ?” ลินลี่ย์สงสัย
“บึ้ม!” ลินลี่ย์พุ่งเข้าหาฮาร์เวิร์ดอีกครั้ง แต่ฮาร์เวิร์ดไม่ขยับแม้แต่น้อย มีแต่จ้องมองลินลี่ย์อย่างมั่นใจ
เมื่อลินลี่ย์เข้ามาใกล้เขา หน้าของลินลี่ย์ก็เปลี่ยนทันที เขารู้สึกถึงพายุพลังจิตที่กร้าวแกร่งล้อมรอบเขาและโจมตีจิตวิญญาณเขาทันที ในพริบตา ลินลี่ย์ก็รู้สึกมึนงงทันทีและร่างโอนเอน หลังจากผ่านไปหลายวินาทีเขาจึงเริ่มรู้สึกตัว
หลายวินาทีซึ่งเซียนมีส่วนร่วมต่อสู้ก็มากพอจะตัดสินผลได้
ลินลี่ย์จ้องมองฮาร์เวิร์ดอย่างประหลาดใจ “โจมตีทางจิต?”
“ฮ่าฮ่า...” มิลเลอร์บินมาสมทบ พลางหัวเราะ “ลินลี่ย์ นั่นไม่ใช่โจมตีทางจิต ถ้าเป็นโจมตีทางจิต ศีรษะของเจ้าคงแตกไปแล้ว และเจ้าคงจะล้มลงไปแล้ว”
เดลี่และคนอื่นบินเข้ามาสมทบด้วยเช่นกัน
เดลี่อธิบายให้เขาฟังเอง“ลินลี่ย์! อะไรคือความได้เปรียบที่นักเวทมีเหนือนักรบ?”
“จิตและพลังจิต”ลินลี่ย์ตอบอย่างไม่ลังเลใจแม้แต่น้อย
เดลี่พยักหน้า “ถูกแล้ว นักเวทส่วนใหญ่จะมีพลังจิตที่ทรงพลัง พลังจิตของเซียนจอมเวทก็ทรงพลังกว้างขวางราวกับทะเล พวกเขาทรงพลังมากกว่าเซียนนักรบ นอกจากเซียนจอมเวทไม่กี่คนที่เพิ่งเข้าถึงระดับเซียน เซียนจอมเวทส่วนใหญ่จะสามารถใช้การโจมตีทางพลังจิตพื้นฐานนี้ได้”
“การโจมตีด้วยพลังจิตนี้ไม่จำเป็นต้องเข้าใจกฎธรรมชาติใดๆทั้งสิ้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าเป็นการใช้พลังจิตโจมตีวิญญาณของคู่ต่อสู้ ผลของกลยุทธเช่นนี้ง่ายดายมาก เมื่อเข้าถึงระดับเซียน เซียนจอมเวทก็จะเข้าใจได้เร็วมาก” ฮาร์เวิร์ดพูดด้วยความมั่นใจ
ลินลี่ย์ก็เข้าใจเรื่องนี้ดีเช่นกัน
ที่ชื่อว่าพลังจิตโจมตีนั้นแค่รู้สึกเหมือนว่ามีพลังจิตที่รุนแรงเข้ามาปะทะวิญญาณของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าความจริงจะไม่ได้สร้างความเสียหายให้วิญญาณมากก็ตาม
“ฮาร์เวิร์ดโดยปกติจะชอบพัฒนาพลังจิตโจมตีของตนเองมานานแล้ว ถ้าเขาใช้พลังจิตกับเจ้าจริงๆ เจ้าคงตกอยู่ในความยุ่งยากแน่” เดลี่หัวเราะ
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจพื้นฐานของการโจมตีทางจิตเหล่านี้แล้ว มันคือการสร้างพลังจิตที่นุ่มนวลและอ่อนตามปกติให้แหลมคมเหมือนมีดและแทงเข้าไปในวิญญาณคู่ต่อสู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า การโจมตีแบบนี้นับว่าน่ากลัวอย่างแท้จริง ถ้าวิญญาณของนักสู้แข็งแกร่งไม่พอก็อาจแตกทำลายได้โดยตรง
“โจมตีทางจิต! ฮ่าฮ่า” ฮาร์เวิร์ดส่ายหัวและหัวเราะ “ชื่อแบบนี้เซียนจอมเวทได้บัญญัติมาเมื่อนานแล้ว แต่ในความเป็นจริง ไม่มีอะไรมากไปกว่าพลังจิตโจมตีขั้นพื้นฐาน ใช้ประโยชน์ได้เฉพาะกับเซียนนักรบที่มีพลังจิตห่างไกลกัน”
ลินลี่ย์รู้สึกกลัว
เซียนจอมเวทมีพลังแข็งแกร่งอย่างแท้จริง
ไม่ว่าจะเป็นการร่ายเวทได้เร็วฉับพลันการชะลอความเร็ว และการใช้พลังจิตโจมตีจิตวิญญาณ พวกเขาล้วนมีวิธีที่ใช้ได้ผลมากมาย
“เซียนจอมเวทมีจำนวนน้อยกว่านักรบมาก กล่าวโดยทั่วไป เซียนจอมเวทจะมีความได้เปรียบอยู่อย่างหนึ่ง” ฮิกกินสันหัวเราะลั่น “ลินลี่ย์,เซียนนักรบก็มียอดฝีมือของพวกเขา แต่เซียนจอมเวทก็มียอดฝีมือของพวกเขาเช่นกัน ส่วนว่าใครจะแข็งแกร่งกว่า? นั่นขึ้นอยู่กับตัวบุคคล”
ลินลี่ย์พยักหน้า
ถ้าเขาจะต้องสู้สุดกำลังกับฮาร์เวิร์ดจริงๆ เมื่อเผชิญหน้ากับอุกกาบาตป้องกัน เขายังจะใช้สัจจธรรมแห่งธาตุดิน-พลังคลื่นร้อยชั้นโจมตีเปิดช่องก้อนหินที่ขวางทั้งหมด
ในอดีตแรงฟันของดาบของลินลี่ย์สามารถสร้างอุโมงค์ทะลุภูเขาได้
จากนั้นลินลี่ย์ก็เล่นบทยอดฝีมือธรรมดาคนหนึ่ง แต่ถ้านี่คือการสู้รบเสี่ยงชีวิตกันจริงๆมีความเป็นไปได้ว่าบีบีจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมเช่นกัน ถ้าบีบีและลินลี่ย์บุกพร้อมกัน..เนื่องจากความเร็วของบีบี เซียนจอมเวทจะไวกว่าบีบีได้ยังไง?
ต่อให้พวกเขาใช้พลังจิตโจมตี พวกเขาจะสามารถจู่โจมลินลี่ย์กับบีบีในเวลาเดียวกันหรือ?
“เซียนจอมเวทแข็งแกร่งมากกว่าเซียนนักรบก็ถือว่าเป็นมาตรฐานทั่วไป ยังไม่ถือว่าคุกคามได้เด็ดขาดสิ้นเชิง” ลินลี่ย์เข้าใจ
แต่แน่นอนว่าถ้าฮาร์เวิร์ดผู้นี้ต้องการฆ่าเขา ก็อาจจะทำได้ง่ายมากเขาจะต้องใช้การโจมตีทางจิตทั้งหมด เนื่องจากความสามารถของฮาร์เวิร์ด เขาสามารถทำให้ศีรษะของลินลี่ย์บาดเจ็บหนักจนโค่นล้มเขาได้ และจากนั้นฮาร์เวิร์ดก็สามารถใช้ร่างแปลงฟีนิกซ์โจมตี เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะหนี
เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคนอยู่เสมอ
ฮาร์เวิร์ดแข็งแกร่งทรงพลัง แต่ถ้าเขาต้องเผชิญหน้ากับเฟน บางทีเขาอาจไม่สามารถทำอะไรได้ ที่สำคัญ ลินลี่ย์เองเห็นประจักษ์มากับตาว่าการโจมตีทางจิตของเฟนนั้นทรงพลังขนาดไหน
ระหว่างบินกลับพร้อมกับกลุ่มของเดลี่ บีบีคุยทางจิตกับลินลี่ย์ขณะเกาะอยู่ที่ไหล่ของเขา “พี่ใหญ่,ในอนาคตเมื่อท่านบรรลุเป็นเซียนจอมเวท ท่านจะเป็นทั้งนักรบเลือดมังกรและเซียนจอมเวทไปพร้อมกัน ฮึ่ม.. ถึงตอนนั้นการเอาชนะพวกเขาย่อมเป็นเรื่องง่าย”
ลินลี่ย์หัวเราะ
ถ้าเขาถึงระดับเซียนในร่างมนุษย์ในฐานะนักรบและในฐานะจอมเวท พลังโดยรวมอาจจะเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าหรือไม่อย่างนั้นเป็นไปได้ว่าลินลี่ย์จะมีความมั่นใจในความสามารถว่าจะรับมือนักสู้อย่างเฟนและเดลี่ได้
………
ในเมืองหลวงจักรวรรดิยูลาน ที่อยู่ของอาจารย์ลองฮอส
เดเลียนั่งอยู่ในลานที่พักตามลำพัง ขณะดื่มชาก็พลิกดูคัมภีร์เวทของลองฮอส เหยี่ยวพายุสายฟ้าพาร์รี่ย์และฮัตตันแยกอยู่กันอีกด้านหนึ่งและสนทนากันด้วยภาษาอสูรเวท
“หืม?” เดเลียเห็นบางอย่างที่น่าสนใจในคัมภีร์เวท ตาของนางเป็นประกายและนางยิ้ม
เซียนจอมเวทมีความเข้าใจเวทได้อย่างลึกซึ้ง เดเลียรู้สึกว่านางได้รับประโยชน์ใหญ่เมื่ออยู่ที่นี่จริงๆ
“มีคนกำลังมา” ฮัตตันหมีปฐพีพูดทันที เดเลียมองฮัตตันด้วยความสงสัย “มีคนกำลังมาหรือ? ทำไมทหารไม่แจ้งเรา? พี่เหลือง ท่านจะทำอะไรอีก?” เดเลียหัวเราะขณะที่นางมองดูหมีปฐพีฮัตตัน
หมีปฐพีทำตาโตมองดูเดเลีย “เดเลีย, เจ้าไม่เชื่อข้าเหรอ? เห็นข้าเป็นหมีแบบนั้นหรือไง?”
“มีคนกำลังมาจริงๆ” ตอนนี้เดเลียรู้สึกได้เช่นกัน ในเรื่องการตระหนักถึงสภาพแวดล้อม นางยังด้อยกว่าเซียนอสูรเวทอยู่มาก
หลังจากนั้นไม่นานเสียงฝีเท้าก็ดังได้ยินมาจากด้านนอก
“ขอถามหน่อย ท่านอาจารย์ลองฮอสอยู่ที่นี่ไหม?” เสียงสงบ มั่นใจดังขึ้น
“เชิญเข้ามา” เดเลียพูดตามปกติ สำหรับคนผู้นี้สามารถเข้ามาได้โดยไม่ต้องประกาศตัวก็หมายความว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน ประตูถูกผลักเปิดออก และบุรุษหนุ่มรูปงามสองคนเดินเข้ามาพร้อมกัน เดเลียลุกขึ้นยืนทันที “ถวายบังคมฝ่าบาท”
บุรุษหนุ่มทั้งสองคนนี้คนหนึ่งคือจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิยูลาน จักรพรรดิแรนด์
ตาของจักรพรรดิแรนด์เป็นประกายเมื่อเขาเห็นเดเลีย เขาหัวเราะขณะกล่าว “เดเลีย เจ้ายิ่งโตก็ยิ่งงดงามนะ จริงสิ อาจารย์ของเจ้าอยู่ที่ไหน?”
“ทูลฝ่าบาท, โปรดรอกับจอร์จสักครู่นะเพคะ” เดเลียทูล จากนั้นนางหันไปบอกหมีปฐพี “พี่เหลือง, ช่วยถามทีว่าอาจารย์ตอนนี้อยู่ที่ใด ฝ่าบาทต้องการพบกับเขา” บุรุษหนุ่มที่มาพร้อมกับจักรพรรดิแรนด์ย่อมเป็นมุขมนตรีหนุ่มแห่งจักรวรรดิยูลานและเป็นที่โปรดปรานอย่างมาก เขาคือจอร์จ