ตอนที่แล้วตอนที่ 10-7 เดลี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10-9 ซ้อมฝีมือ

ตอนที่ 10-8 พลังน่ากลัวของเซียนจอมเวท


“เหรอ?” หญิงงามทำท่าประหลาดใจ

ใบหน้าของเดลี่มีรอยยิ้ม เมื่อเขาเห็นบีบีบนไหล่ของลินลี่ย์ เขาตกใจเช่นกัน ทันทีที่เขาเห็นบีบี เดลี่ตัดสินใจ...เขาต้องสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลินลี่ย์ไม่ว่าต้องทุ่มเทยังไงก็ตาม

ในใจของเดลี่เขาพบว่ายากจะเชื่อว่าบีบีจะยอมรับมนุษย์เป็นเจ้านาย

แต่เดลี่เข้าใจว่าเนื่องจากลินลี่ย์เป็นเจ้านายของบีบี อย่างนั้นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลินลี่ย์เป็นเรื่องจำเป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ข้าอยากเห็นว่าเป็นอสูรเวทแบบไหนกัน”  เมื่อมองจากท่าทีลี้ลับรอบตัวเดลี่  นางหัวเราะเล็กน้อยจากนั้นเดินตามเขาออกไป  หลังจากเดินมาได้ไม่นานเดลี่และภรรยาก็มาถังที่ซึ่งฮาร์เวิร์ดลิฟวิงสโตนและลินลี่ย์กับคนอื่นสนทนากันอยู่

หญิงงามผู้นี้จ้องมองไหล่ของลินลี่ย์ทันที

แต่...ไม่มีอะไรบนไหล่ของลินลี่ย์

“บนโต๊ะ” เสียงของเดลี่ดังขึ้นในใจของหญิงงามถึงตอนนี้หญิงงามผู้นี้จึงสังเกตเห็นหนูเงาน้อยที่น่ารักบีบีกำลังถือแก้วเหล้าและดื่มด้วยอาการพอใจ “ขนสีดำ!”หญิงงามนั้นใจสั่นสะท้าน

หนูขนดำไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่แค่ว่าจะเป็นหนูเงาที่มีรูปแบบต่ำที่สุด

บางทีศาสนจักรเจิดจรัสและวิทยาลัยสงครามคงไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่บีบีเป็น  แต่ในแดนอนารยชนและตำหนักเจ้าแม่หิมะน้ำแข็งนั้นรู้แน่

“ท่านพ่อ, ท่านแม่”  โมนิกามีความสุขมาก  แต่เมื่อเห็นมารดานางโมนิกาเริ่มกังวลแทนเรย์โนลด์ นางรู้จักอารมณ์ของมารดานางเป็นอย่างดี

เดลี่และหญิงงามเดินมาที่โต๊ะด้วยกันและนั่งที่นั่งของเจ้าภาพ

“ภรรยาของเดลี่?” ลินลี่ย์มองดูหญิงงามด้วยความประหลาดใจ ไม่ว่าจะเป็นผมและในทุกด้าน โมนิกาและมารดาของนางดูเหมือนกัน  คนภายนอกอาจจะคิดว่าทั้งสองเป็นพี่น้องกัน  อย่างไรก็ตามราศีเย็นชารอบตัวสตรีงดงามผู้นี้ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ

“ใช่แล้ว ยอดฝีมืออีกคนหนึ่ง  ผู้ที่ฝีมือเป็นรองมิลเลอร์ไม่มาก”

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ลินลี่ย์รู้สึกว่าโลกของเทพสงครามจริงจัง  เทพสงครามเคยพูดไว้ว่า...พวกยอดฝีมือได้ฝึกฝนอย่างเงียบสันโดษมาเป็นเวลาพันปีในทวีปยูลาน  นอกจากระดับเทพแล้ว ชั้นสูงสุดก็มีสุดยอดเซียนห้าคนรวมทั้งเฟนและเดลี่  ชั้นสองรองลงมาก็เป็นระดับเดียวกับจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์  ขณะที่ชั้นสามก็เป็นระดับเฮนด์เซนซึ่งเป็นระดับธรรมดาในหมู่ยอดฝีมือเร้นกาย

นี่คือเหตุผลที่โอลิเวอร์ต้องทนกล้ำกลืนพ่ายแพ้อยู่ในแดนขั้วโลก  ที่สำคัญเขาไม่สามารถเอาชนะเฮนด์เซนได้  แล้วเขาจะสามารถเอาชนะใครได้

เดลีพูดอย่างเป็นกันเอง “ลินลี่ย์, ข้าขอแนะนำ นี่ภรรยาข้า เพนน์สลีน

“คารวะ ท่านหญิง” ลินลี่ย์พูดอย่างนอบน้อม

รอยยิ้มที่เป็นมิตรปรากฏบนใบหน้าของเพนน์สลีน  “ข้าขอโทษจริงๆ  ข้าฝึกฝนมาตลอดและเพิ่งจะออกมาในตอนนี้หวังว่าเจ้าจะไม่ถือสานะ” ทันทีที่นางพูดคำเหล่านี้ โมนิกาที่อยู่ใกล้ๆ ตกใจ นิสัยของมารดานางนอกจากบิดาของโมนิกาแล้วมารดานางไม่ให้ความสนใจคนอื่น

แต่...มารดานางกล่าวขออภัยจริงๆ?  สุภาพไหม?

นี่คือมารดาผู้เย็นชาของนางหรือ?

นี่เป็นครั้งแรกที่ลินลี่ย์ได้พบกับเพนน์สลีน  จึงเป็นธรรมดาที่เขาไม่รู้อารมณ์ปกติของนาง  เขาคิดว่าเพนน์สลีนมีนิสัยที่เป็นมิตรมากและเขาหัวเราะทันที “ท่านหญิง, ท่านมากมารยาทเกินไปแล้ว”

“โมนิกา,นี่คือเรย์โนลด์ที่ลูกพูดถึงใช่ไหม?” เพนน์สลีนหัวเราะเบาๆ ขณะที่นางมองดูธิดานางและจากนั้นสายตานางจับจ้องอยู่ที่เรย์โนลด์ เรย์โนล์ได้รับการเตือนจากโมนิกาก่อนแล้ว ดังนั้นเขารู้สึกกลัวต่อว่าที่แม่ยายของเขาผู้นี้

โมนิการีบกล่าว “ค่ะ ท่านแม่”

“คารวะ ท่านหญิง!”  เรย์โนลด์รู้สึกกระวนกระวาย

ท่าทางพอใจปรากฏอยู่ในสายตาเพนน์สลีน  “อืม.. ไม่เลวเลย, โมนิกา..สายตาเจ้าดีนี่,ทำไมเจ้าไม่พาเรย์โนลด์มาแนะนำให้เร็วกว่านี้?” คำพูดเหล่านี้จากเพนน์สลีนทำให้เรย์โนลด์ดีใจ  ดูเหมือนว่าแม่ยายในอนาคตของเขาจะพอใจเขาแล้ว

แต่โมนิการู้สึกอึดอัดอีกครั้ง

นี่มารดาของนางหรือนี่?

ลินลี่ย์มีความประทับใจต่อเพนน์สลีนมากขึ้น  ขณะนั้นเองมีเสียงดังขึ้นมา  “พี่ใหญ่ ข้าได้ยินว่าเรามีอาคันตุกะหรือ?” บุรุษวัยกลางคนมีผมสีทองยาวเดินเข้ามาหา ทันใดนั้นสายตาของเขาเห็นลินลี่ย แต่ขณะเดียวกันเมื่อเขาสังเกตเห็นบีบีที่อยู่ใกล้ๆเขาเลิกคิ้วทันที

“ฮิกกินสัน, รีบมาเร็ว เจ้าเป็นคนสุดท้ายแล้ว” เดลี่หัวเราะ

ทันทีนั้นเดลี่หันไปมองลินลี่ย์  “ลินลี่ย์!ฮิกกินสันก็เหมือนกับฮาร์เวิร์ด มายังที่นี้พร้อมกับข้า เขาฝึกกฎธรรมชาติธาตุแสง”

“คารวะท่านฮิกกินสัน”ลินลี่ย์พูดทันที

ฮิกกินสันนั่งลงในที่นั่งว่าง จากนั้นหัวเราะ  “ลินลี่ย์ ไม่ต้องมากมารยาทก็ได้  นึกเสียว่าอยู่ที่บ้านเจ้าก็แล้วกัน”  เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้  ลินลี่ย์รู้สึกอบอุ่นใจ  เดลี่และกลุ่มของเขาให้ความเป็นกันเองอย่างเหลือเชื่อ

ภายในที่พักภูเขานี้ มีหญิงรับใช้อยู่จำนวนหนึ่งเหมือนกัน

หญิงรับใช้ลำเลียงอาหารเลิศรสเข้ามาและในกลุ่มก็เริ่มสนทนากัน  เรย์โนลด์และโมนิกานั่งอยู่ที่นั่นด้วยแต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก โดยหลักจะเป็นเดลี่กับคนอื่นสนทนากับลินลี่ย์  ขณะที่มีการกล่าวขวัญถึงบีบีเป็นครั้งคราว

แต่วันนี้ บีบีไม่พูดอะไรมาก  เนื่องจากลินลี่ย์จะอธิบายว่าบีบีกำลังทำตัวตามสบาย

ช่วงในระหว่างการสนทนานี้เอง ลินลี่ย์พบว่าเดลี่เป็นหัวหน้าของคนกลุ่มนี้แน่นอน รองลงมาก็เป็นฮาร์เวิร์ดและฮิกกินสันซึ่งมาที่นี่พร้อมกับเดลี่  ถัดมาก็เป็นมิลเลอร์  ลิฟวิงสโตนและโฟร์แมน  ทั้งนี้เพราะเห็นได้ชัดว่า...มิลเลอร์ลิฟวิงสโตนและโฟร์แมนทุกคนเรียกเดลี่ว่า ‘ใต้เท้า’ ขณะที่ฮาร์เวิร์ดและฮิกกินสันเรียกเขาว่า ‘พี่ใหญ่’

หลังจากรับประทานอาหาร

ตามมาด้วยเครื่องดื่มจนอิ่มหนำสำราญแล้ว  คนกลุ่มนี้จะต้องทำเรื่องบางอย่างเป็นปกติ

ลินลี่ย์และคนอื่นต้องการเข้าร่วมในการซ้อมฝีมือ

“ลินลี่ย์,โฟร์แมนก็เป็นผู้ฝึกกฎธรรมชาติธาตุดินเหมือนกับเจ้า  พวกเจ้าทั้งสองคนลองซ้อมมือกันหน่อยเป็นไรไหม?” มิลเลอร์หัวเราะเบาๆ  ขณะที่ใบหน้าของโฟร์แมนมีรอยยิ้มเช่นกันมองเห็นลักยิ้มขาดใหญ่  “มิลเลอร์,ไม่จำเป็นต้องให้ข้าซ้อมกับลินลี่ย์ก็ได้ วิธีฝึกฝนกฎธรรมชาติธาตุดินของข้าเป็นไปในทางเดียวกับเฮนด์เซน  เนื่องจากเขาได้ซ้อมสู้ประลองฝีมือกับเฮนด์เซนมาแล้วไม่จำเป็นต้องซ้อมมือกับข้าก็ได้”

ลิฟวิงสโตนชำเลืองมองเขา “โฟร์แมน,  เจ้ากลัวสินะ?”

เดลี่หัวเราะ “โฟร์แมนพูดความจริง พลังของเขาแทบจะเหมือนของเฮนด์เซน ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะซ้อมมือกับลินลี่ย์ เอาอย่างนี้เป็นไง.... ฮาร์เวิร์ด ทำไมเจ้าไม่ซ้อมมือกับลินลี่ย์แทนเล่า?”  เดลี่ชำเลืองมองทางลินลี่ย์  “ลินลี่ย์!  เจ้าต้องระวังให้ดี  พลังของฮาร์เวิร์ดแข็งแกร่งมาก”

“แต่เขาเป็นเซียนจอมเวท”  ลินลี่ย์ยังคงทบทวนข้อเสนอของเดลี่

“แล้วยังไง ถ้าข้าเป็นจอมเวท?” ฮาร์เวิร์ดหัวเราะ

ลินลี่ย์หัวเราะอย่างอึดอัดใจ  ในมุมมองของเขา เซียนจอมเวทพอไม่มีการปกป้องจากอสูรเวทที่มีส่วนร่วมในการเปิดการสู้รบกับนักรบระดับเซียนจะเสียเปรียบอย่างมาก  ลินลี่ย์ถาม “ท่านฮาร์เวิร์ด เป็นไปได้หรือที่ท่านไม่มีอสูรเวทคู่หู?”

“ข้าเคยมี และเขาเป็นระดับเซียน  แต่น่าเสียดาย เขาตายไปแล้ว”  ฮาร์เวิร์ดถอนหายใจ

เดลี่พยักหน้า “เมื่อสองพันปีที่แล้ว อสูรเวทนั้นยอมตายเพื่อปกป้องฮาร์เวิร์ดตอนนั้นอสูรเวทอีกตัวหนึ่งซึ่งเป็นสหายสนิทของข้าก็ตายเช่นกัน  ข้าต้องการจะช่วยเขา  แต่ข้าช่วยไม่ทันเวลา อนิจจา”  เดลี่ ฮาร์เวิร์ดและฮิกกินสันดูเหมือนจะระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีต

ลินลี่ย์ลอบตกใจ

แม้ว่าเดลี่จะอยู่ที่นั่นด้วย แต่อสูรเวทระดับเซียนก็ยังตายเพื่อปกป้องฮาร์เวิร์ดนั่นเป็นการสู้รบที่ดุเดือดเพียงไหน?

“ทำไมเจ้าเอ่ยถึงอสูรเวทด้วยเล่า? เป็นไปได้ว่าเจ้าเชื่อว่าเซียนจอมเวทที่ไม่มีอสูรเวทฝีมือจะไม่พอหรือ?”  ฮาร์เวิร์ดมองลินลี่ย์พลางหัวเราะ

ลินลี่ย์ได้แต่หัวเราะแก้เก้อ

ตามที่ลินลี่ย์เคยเห็น ในการซ้อมมือกับเซียนจอมเวทจะคงจะอาศัยความเร็วของเขาบุกจู่โจมเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้ามก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามของเขาจะทันได้ร่ายเวทใดๆนั่นช่วยให้ชนะได้ง่ายไม่ใช่หรือ?  ถ้าเขายอมให้ฝ่ายตรงข้ามใช้เวทของเขาในทางตรงกันข้าม บางทีเขาอาจไม่มีโอกาสหนี

เรื่องสำคัญหลักก็คือความเร็ว  แข่งขันไปจะมีประโยชน์อะไร?

“ลินลี่ย์ หลังจากถึงระดับเซียนแล้ว เจ้าใช้ชีวิตอยู่ในจักรวรรดิโอเบรียนใช่ไหม?”  เดลี่พูดทันที

ลินลี่ย์พยักหน้า “ถูกแล้ว, มีอะไรหรือ?” ลินลี่ย์สับสนว่าทำไมเดลี่จึงพูดเรื่องนี้กับเขากระทันหัน

เดลี่หัวเราะ “นั่นค่อยสมเหตุผล จักรวรรดิโอเบรียนมีชื่อเสียงได้เพราะนักรบ  ขณะที่จักรวรรดิยูลานมีชื่อเพราะนักเวท  มีแนวโน้มว่าเหล่าเซียนทั้งหมดที่เจ้าได้เผชิญมาในจักรวรรดิโอเบรียนจะเป็นเซียนนักรบ  และเจ้าเองก็ไม่เคยซ้อมมือมากับเซียนจอมเวทด้วย”

ลินลี่ย์ตกใจ

นี่เป็นเรื่องจริง คนทั้งหมดที่เขาเคยสู้ด้วยเป็นนักรบทั้งนั้น  ไม่มีจอมเวทแม้แต่คนเดียว

ลองฮอสเป็นเซียนจอมเวทคนหนึ่ง  แต่พวกเขาไม่เคยประลองกัน

“เซียนจอมเวทมีจำนวนน้อยกว่าเซียนนักรบ อย่างไรก็ตามในอัตราส่วนดังกล่าวในจักรวรรดิโอเบรียนไม่สมดุล”  เดลี่ถอนหายใจ กล่าวโดยทั่วไปจากเซียนนักสู้สี่คนจะมีเซียนเซียนจอมเวทสักคน ขณะที่อีกสามคนจะเป็นเซียนนักรบ แต่ในจักรวรรดิโอเบรียนบางทีอาจจะมีสัดส่วน 1 ต่อ 10 ก็เป็นได้  สัดส่วนขนาดนี้นับว่าน้อยยิ่งนัก”

“จักรวรรดิยูลานต่างกันออกไป  อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปในเซียนทุกๆสองคนจะมีเซียนจอมเวทอยู่คนหนึ่ง” คำพูดเหล่านี้จากเดลี่ทำให้ลินลี่ย์ใจสั่นสะท้าน

อัตราหนึ่งต่อหนึ่งเชียวหรือ?

จักรวรรดิยูลานคือแหล่งแห่งนักเวทอย่างแท้จริง  เดลี่ยังคงพูดต่อไป “สหภาพศักดิ์สิทธิ์ก็ยังมีชื่อเสียงในการสร้างนักเวทของอาณาจักร  อย่างไรก็ตามสหภาพศักดิ์สิทธิ์มีชื่อเสียงมากในการให้การฝึกสอนขั้นพื้นฐาน  ขณะที่จักรวรรดิยูลานมีมหานักพรตซึ่งเป็นเหตุผลให้มีเซียนจอมเวทอยู่มากมาย กล่าวโดยทั่วไปศิษย์ทุกคนของมหานักพรตมีศักยภาพกลายเป็นเซียนจอมเวท”

ลินลี่ย์จิตใจตึงเครียด

คนประหลาดที่น่ากลัวสองคน

คนหนึ่งคือเทพสงคราม อีกคนหนึ่งก็คือมหานักพรต

คนหนึ่งฝึกฝนนักรบระดับเซียน  ขณะที่อีกคนหนึ่งสอนจอมเวทระดับเซียน

“จอมเวทระดับเซียนไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเจ้าคิด  ข้าขอบอกพวกเจ้าทุกคน  ในการประลองกันตัวต่อตัวระหว่างเซียนจอมเวทและเซียนนักรบ  เซียนจอมเวทจะมีโอกาสชนะได้มากกว่า”  เดลี่หัวเราะ “เซียนจอมเวทพบว่ายากจะหานักรบฝึกให้ก้าวหน้า แม้แต่ในที่อย่างจักรวรรดิยูลานซึ่งให้คุณค่ากับนักเวทก็มีอัตราส่วนนักรบและนักเวทหนึ่งต่อหนึ่ง

ลินลี่ย์พยักหน้า

เป็นเรื่องจริงที่นักเวทฝึกฝนกันได้ยากกว่านักรบ  ลินลี่ย์มักคิดว่าเป็นเรื่องแปลก.... เนื่องจากการฝึกเป็นนักเวทเป็นเรื่องยากมาก  ถ้าพวกเขาด้อยกว่านักรบระดับเซียนก็จะไม่เป็นการยุติธรรมนัก?  แต่ในจักรวรรดิโอเบรียน ลินลี่ย์เห็นแล้วเซียนนักรบมีพลังแข็งแกร่งขนาดไหน

สำหรับเซียนจอมเวท? เขายังไม่เห็น

“มาเถอะ ลินลี่ย์ มาเถอะ.. ให้ฮาร์เวิร์ดแสดงให้เจ้าเห็นว่าเซียนจอมเวททรงพลังเพียงไหน ด้วยวิธีนั้นเมื่อเจ้าพบกับเซียนจอมเวทในอนาคต  เจ้าอาจจะป้องกันตัวไม่ได้”  เดลี่ยืนขึ้น

ลินลี่ย์ลุกขึ้นยืนทันที

ขอเพียงหลังจากฝึกซ้อมจริงแล้วทำช่วยให้เขาได้รู้ว่าเซียนจอมเวทนั้นทรงพลังขนาดไหน

ขณะนั้นเอง บีบีกระโดดขึ้นมาเกาะบนไหล่ลินลี่ย์เช่นกัน  และทั้งกลุ่มก็ออกมาจากถ้ำที่พัก  เรย์โนลด์กับโมนิกาเหาะไม่ได้  ดังนั้นทั้งสองคนจึงต้องรั้งอยู่  ทุกคนออกไปและเหาะไปที่หุบเขา

ลินลี่ย์และคนอื่นเหาะไปตามส่วนต่างๆ ของภูเขา

“นี่คือสถานที่ซึ่งเราใช้ฝึกซ้อมฝีมือกัน  พวกเจ้าซ้อมมือกันตรงนี้แหละ”  เดลี่กล่าว

เดลี่, ฮาร์เวิร์ด, ฮิกกินสัน, มิลเลอร์ ลิฟวิงสโตน,โฟร์แมน, เพนน์สลีน, ลินลี่ย์ ทั้งแปดคนยืนอยู่กลางอากาศ  ลินลี่ย์กับฮาร์เวิร์ดเคลื่อนไปยืนตำแหน่งตรงข้ามกันห่างกันร้อยเมตร

“เข้ามาเลย” ฮาร์เวิร์ดหัวเราะ ลินลี่ย์ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ถอดชุดนอกและแปลงร่างมังกรทันที หนามแหลมที่ดูน่ากลัวงอกออกมาจากหน้าผากของเขา  และหางมังกรสีดำสะบัดอยู่ด้านหลัง...และตาของเขากลายเป็นสีทองเข้ม

ร่างของลินลี่ย์กระพริบวาบทันที  “บึ้ม!”  เขาพุ่งเข้าหาฮาร์เวิร์ดด้วยความเร็วสูง

“ลินลี่ย์ไวกว่าครั้งก่อนเล็กน้อย” มิลเลอร์สังเกตเห็นความก้าวหน้าของลินลี่ย์  “แต่เขายังเอาชนะฮาร์เวิร์ดไม่ได้”

ฮาร์เวิร์ดยิ้มไม่ขยับแม้แต่น้อย  เขายืนรอการมาถึงของลินลี่ย์เงียบๆ  เมื่อลินลี่ย์มาถึงระยะสิบเมตรห่างจากเขา  ในที่สุดฮาร์เวิร์ดก็เคลื่อนไหว  เขาเปลี่ยนสภาพเป็นเปลวเพลิงในพริบตา  ทันใดนั้นเขาดึงตัวห่างจากลินลี่ย์ทันที ระยะห่างระหว่างสองคนเพิ่มขึ้น

ในแง่ความเร็วในการบิน ลินลี่ย์ยังด้อยกว่าฮาร์เวิร์ด

“แต่...” หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยน ถ้าความเร็วในการบินของเขาด้อยกว่า นั่นก็หมายความว่าคู่ต่อสู้จะสามารถร่ายเวทและทำลายเขาได้ไม่ใช่หรือ?  ในช่วงเวลาต่อมาความร้อนที่น่ากลัวระเบิดออกมาจากร่างของฮาร์เวิร์ดลำแสงนับไม่ถ้วนเริ่มม้วนตัวอยู่บนอากาศเหนือศีรษะฮาร์เวิร์ด

เสียงนกร้องชัดเจนสดใจดังออกมาจากอากาศ

คู่ปีกสีทอง หงอนมงกุฎบนศีรษะ ดวงตาที่หยิ่งทระนง  สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวมีขนาดใหญ่กว่ามังกรยักษ์เสียอีก  อยู่ต่อหน้านกฟีนิกซ์เพลิงยักษ์ตัวนี้  ลินลี่ย์และคนอื่นเป็นเหมือนมด

“แครก” อากาศเริ่มแตกจากพลังความร้อนที่น่ากลัวซึ่งบังคับให้ลินลี่ย์ต้องเพิ่มพลังป้องกัน

“ระดับเวทต้องห้าม  ‘ร่างแปลงฟีนิกซ์’?” ลินลี่ย์รู้สึกตื่นเต้น

เวทเพลิงขึ้นชื่อในเรื่องพลังรุกโจมตี  และพลังโจมตีเป้าหมายเดียว  อย่างเวทร่างแปลงฟีนิกซ์เพียงอ่อนแอกว่าเวทคมมีดผ่ามิติเท่านั้น ลินลี่ย์ยังไม่มีปัญญาทำอะไรกับมัน

ฟีนิกซ์เพลิงหดขนาดลงทันที แต่มันปรากฏเป็นรูปร่างชัดขึ้น เมื่อมันหดขนาดลงเหลือสิบเมตร ในทุกแง่มุมไม่ว่าจะมองในด้านไหนจะเหมือนกับอสูรเวทจริง   ตลอดทั้งร่างของฟีนิกซ์เพลิงกลายเป็นสีทอง

แต่แม้ว่ามันจะหดขนาดลง แต่ปริมาณแรงกดดันที่เกิดขึ้นกับลินลี่ย์มีเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่น่ากลัว

“วูบบ!”  ฟีนิกซ์เพลิงเข้าโจมตีลินลี่ย์ตรงๆ  ร่างกายของลินลี่ย์ตอนนี้คลุมได้หมอกปราณสีฟ้าดำ  นี่คือชีพจรคุ้มกันซึ่งลินลี่ย์ภูมิใจมาก

“ครืนนน”ปราณยุทธสีฟ้า-ดำของลินลี่ย์กำลังถูกเผาในสภาพที่มองเห็นได้  “ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป  ข้าคงทนได้อีกสองสามวินาทีเท่านั้น”  ลินลี่ย์บินถอยหลังทันที และฟีนิกซ์เพลิงบินกลับไปอยู่ข้างตัวฮาร์เวิร์ดเช่นกัน  จากนั้นลินลี่ย์ค่อยระบายลมหายใจ

ฟีนิกซ์ทองตัวนี้น่ากลัวมากจริงๆ

ฮาร์เวิร์ดหัวเราะขณะมองลินลี่ย์  “ทั้งเซียนนักรบและเซียนจอมเวทสามารถบินได้ทันทีที่พวกเขาถึงระดับเซียน  ตราบเท่าที่ยังบินได้เร็ว  นักรบไม่จำเป็นต้องเร็วกว่า  ตัวอย่างเช่นจอมเวทธาตุลมและจอมเวทธาตุแสง..ย่อมเร็วมากโดยปกติ แม้แต่ข้าที่เป็นจอมเวทธาตุไฟ ก็มีความเร็วมากเนื่องมาจากระดับฝึกฝนในปัจจุบันของข้า ว่ากันเฉพาะเรื่องความเร็ว ข้ามั่นใจว่าเจ้าไล่ข้าไม่ทัน ในขณะที่ข้าไล่เตะก้นเจ้าได้

“แต่แน่นอนว่า เซียนจอมเวทธาตุไฟหรือธาตุน้ำระดับเบื้องต้นจะด้อยมากกว่าเจ้าในแง่ของความเร็ว เซียนจอมเวทยังคงอ่อนแอกว่าเซียนนักรบเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเซียนจอมเวทที่ไวกว่าเซียนนักรบอยู่ดี”

ลินลี่ย์เข้าใจ

ในแง่ความเร็ว เซียนนักรบอาจจะได้เปรียบ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเซียนจอมเวททุกคนจะช้า  บางคนก็บินได้เร็วอย่างน่าประหลาดใจ  ถ้าต้องเผชิญกับเซียนจอมเวทที่ไวมาก  อย่างนั้นจะอันตราย..เมื่อพบคนเช่นนั้นทางเลือกประการเดียวก็คือหนี

“แต่แน่นอนว่าวิชาอย่างนี้เพียงเหมาะกับจอมเวทส่วนน้อยเท่านั้น”  ฮาร์เวิร์ดพูดต่อไป  “ตอนนี้ บุกเข้ามาโจมตีข้าอีกครั้ง ข้าจะแสดงวิชาที่เซียนจอมเวทมักจะใช้สู้กับเซียนนักรบให้เจ้าดู”

ลินลี่ย์มีความรู้สึกได้ทันที..

บางที เซียนจอมเวทนั่นอาจจะน่ากลัวมากกว่าเซียนนักรบ

“เจ้าพร้อมหรือยัง?” รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของฮาร์เวิร์ด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด