ตอนที่ 10-7 เดลี่
ชาวบ้านแท้ๆ ทุกคนในหมู่บ้านลับในดินแดนอนารยชนตอนใต้นี้อยู่รวมกันที่นี่กำลังจ้องมองมิลเลอร์, ลิฟวิงสโตนและลินลี่ย์ขณะที่พวกเขากำลังบินลงมา คนนับพันเหล่านั้นตื่นเต้นทันทีและเริ่มเรียกขานชื่อของเซียนทั้งสอง
“มิลเลอร์!” “มิลเลอร์!” “มิลเลอร์!” “มิลเลอร์!”
“ลิฟวิงสโตน!” “ลิฟวิงสโตน!” “ลิฟวิงสโตน!” “ลิฟวิงสโตน!”
คลื่นเสียงโห่ร้องดังกึกก้องไปทั้งหุบเขา บรรยากาศที่นี่มีชีวิตชีวาและสนุกสนานมาก มิลเลอร์, ลิฟวิงสโตนและลินลี่ย์บินเข้ามาอยู่ตรงกลาง มิลเลอร์เหยียดมือและบอกให้ทุกคนเงียบเสียง
ทุกคนจ้องมองคนทั้งสามที่อยู่ตรงกลางและหลายคนสังเกตเห็นหนูเงาน้อยที่อยู่บนไหล่ลินลี่ย์
รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของมิลเลอร์ “ปีนี้จะเป็นเหมือนเช่นเคย เราจะเริ่มการแข่งขันประจำปีของเรา อย่างไรก็ตามปีนี้มีอยู่อย่างหนึ่งที่แตกต่าง ประการแรก มีผู้เข้าแข่งขันในการแข่งขันประจำปีนี้ถึง1022 คนซึ่งมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา และประการที่สอง...ปีนี้อาจารย์ลินลี่ย์ผู้มีชื่อเสียงทั่วทั้งทวีปยูลานก็มาร่วมด้วย!”
อาจารย์ลินลี่ย์?
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ชาวบ้านนับพันคนตกอยู่ในความเงียบและหันไปมองลินลี่ย์..จากนั้นทั่วทั้งหมู่บ้านระเบิดเสียงโห่ร้องต้อนรับ ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นว่าเซียนอัจฉริยะในตำนานผู้นั้นก็มาร่วมด้วย
“ขอโทษ,ขอทางหน่อย” เรย์โนลด์เบียดตัวเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
แต่มีคนมากมายเกินไป เรย์โนลด์มักจะทำตัวไม่โดดเด่นแต่แรกในกลุ่มชาวบ้าน แต่ตอนนี้ เขากำลังเบียดไปข้างหน้า
“ทำไมเจ้าถึงเบียดขึ้นหน้าเล่า?” เสียงตะโกนไม่พอใจดังขึ้น
เรย์โนลด์หันหน้าไปดูและเห็นเป็นไวเดล ชายหนุ่มที่มีความแค้นกับเขา ตอนนี้พื้นที่เต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องดังกึกก้อง แต่ไวเดลจ้องหน้าเรย์โนลด์อย่างเย็นชาและกระซิบ “อะไร,เจ้าต้องการดูหน้าอาจารย์ลินลี่ย์หรือ? ฮะฮะ.... ตลกว่ะ!”
แต่เรย์โนลด์ผ่านไวเดลไปโดยไม่สนใจ และเบียดตัวขึ้นหน้าต่อไป
“ทุกคน!เงียบ” มิลเลอร์เหยียดแขนและโบกมือ และชาวบ้านทุกคนเริ่มตกอยู่ในควมเงียบ แต่ขณะที่มิลเลอร์เตรียมจะพูด มีเสียงหนึ่งดังมาจากกลุ่มผู้คน “พี่สาม!”
ลินลี่ย์ที่พูดคุยหัวเราะกับลิฟวิงสโตนอยู่ก็พลอยเงียบไปด้วย แต่ทันใดนั้น หน้าของเขากระด้างทันที เมื่อเห็นสีหน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไปลิฟวิงสโตนอดตกใจไม่ได้ เขากระซิบ “ลินลี่ย์?” แต่ดูเหมือนว่าลินลี่ย์จะไม่ได้ยินเขาเนื่องจากเขาหันหน้าไปทางตำแหน่งเสียงนั้น
ร่างที่คุ้นเคยนั้นรวมอยู่กับกลุ่มชาวบ้าน...
“พี่สาม...” เรย์โนลด์ตื่นเต้นมากจนสั่นไปทั้งตัว
“น้องสี่!” ลินลี่ย์ทั้งดีใจและตื่นเต้นจนลืมไปว่ามิลเลอร์และลิฟวิงสโตนพูดว่าอะไร ร่างของเขาเลือนรางและวิ่งไปหาเรย์โนลด์ที่เบียดผู้คนเข้ามา สองพี่น้องกอดกันทันที
พวกเขากอดกันแน่นมาก!
หลังจากรู้ความจริงว่าเบื้องหลังนั้นเรย์โนลด์‘ตาย’ ยังไง ลินลี่ย์เต็มไปด้วยความโกรธแค้น และสังหารเจ้าชายจูเลียน เมื่อลินลี่ย์ได้รู้ว่าฮิวจ์เป็นคนฆ่าเรย์โนลด์ ลินลี่ย์ตั้งใจจะฆ่าฮิวจ์ที่ค่ายทหารเพื่อแก้แค้นให้น้องของเขา
แต่หลังจากนั้นเขาจึงได้ทราบว่าเรย์โนลด์ยังไม่ตาย จากนั้นลินลี่ย์ยับยั้งใจไม่ฆ่าเขา
ลินลี่ย์ไม่ใช่ทหาร ในใจของเขาเขาไม่สนใจระดับของตระกูลหรือยศทหาร ตามศักดิ์ศรีของขุนนาง หากจะกล่าวว่า ถ้ากษัตริย์สั่งให้ตายอย่างเป็นทางการ ข้าราชสำนักคงไม่มีทางเลือกนอกจากตาย แต่เจ้าชายจูเลียนนี้กลัวตายปล่อยให้เรย์โนลด์ตายอย่างไร้ประโยชน์ เขาทำเช่นนี้เพราะตามศักดิ์ของขุนนางอำนาจของเจ้าเมืองยิ่งใหญ่มากกว่าเรื่องอื่นมากนัก
แต่สำหรับลินลี่ย์?
เหลวไหล!
ต่อให้เป็นจักรพรรดิก็ไม่สำคัญเท่ากับพี่น้องของเขา จัดการกับจักรพรรดิจะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร? เขาเกิดมาในราชตระกูลและได้รับมอบราชสมบัติ แล้วไง? นั่นหมายความว่าเขาต้องมีเกียรติมากกว่าพี่น้องของลินลี่ย์อย่างนั้นหรือ? นั่นไม่มีอะไรมากไปกว่าคนทั่วๆไปที่ไม่รู้จักคิด ลินลี่ย์ไม่สนใจคนพวกนั้นแม้แต่น้อย
“เรย์โนลด์และอาจารย์ลินลี่ย์...แต่...” ทุกคนตะลึง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวเดล ไอ้หนุ่มรูปงามเรย์โนลด์กอดกับลินลี่ย์เสียแน่นเชียว? พวกเขามีความสัมพันธ์ใดกันแน่
ลินลี่ย์และเรย์โนลด์ค่อยคลายอ้อมแขนกัน
เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นลินลี่ย์มีสีหน้าดีใจ เมื่อหันไปมองมิลเลอร์และลิฟวิงสโตน เขาบอก “ท่านมิลเลอร์ ข้าขออภัยจริงๆที่ขัดจังหวะการแข่งขันอย่างเป็นทางการ
“ไม่เป็นไร” มิลเลอร์รีบกล่าว แต่จากนั้นเขามองลินลี่ย์ด้วยความสับสน “น้องลินลี่ย์ เจ้ากับเรย์โนลด์..?”
ลินลี่ย์วางมือบนไหล่ของเรย์โนลด์ตามปกติ “เรย์โนลด์คือสหายของข้า หนึ่งในพี่น้องของข้าที่สนิทที่สุดรักที่สุดเหมือนเป็นพี่น้องแท้ๆ” เรย์โนลด์หัวเราะขณะที่ตบไหล่ลินลี่ย์ “พี่สาม, ท่านไม่ต้องเยินยอขนาดนั้นก็ได้”
“ฮ่าฮ่า..” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างมีความสุขมาก
การแข่งขันประจำหมู่บ้านจัดขึ้นโดยใช้กฎเกณฑ์ปกติ แต่กลุ่มคนรุ่นเยาว์หลายคนเมื่อเห็นลินลี่ย์กับเรย์โนลด์อยู่ด้วยกันก็รู้สึกตกตะลึง พวกเขาเคยรังแกเรย์โนลด์ในอดีต ทั้งเตะทั้งต่อย ถ้าเรย์โนลด์บอกลินลี่ย์ และลินลี่ย์บอกมิลเลอร์...
เนื่องจากการลงทัณฑ์ในอดีตของมิลเลอร์ยังคงเป็นตำนาน พวกเขาคงต้องหดหู่เป็นแน่
“เจ้าเรย์โนลด์นี่...เรย์โนลด์นี่เข้ามาเกี่ยวข้องกับอาจารย์ลินลี่ย์ได้ยังไง?” ไวเดลและเด็กหนุ่มอื่นรู้สึกเสียใจ
หลังจากที่เปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางเสร็จแล้วมิลเลอร์ ลิฟวิงสโตน ลินลี่ย์และเรย์โนลด์ก็แยกออกมาพร้อมกันมุ่งหน้าไปยังพื้นที่หวงห้าม บ้านของโมนิกา
“ลุงมิลเลอร์,ข้าไม่ควรไปด้วย” เรย์โนลด์เห็นดงไม้ไกลๆ และกล่าวทันที
นี่เป็นพื้นที่หวงห้าม
มิลเลอร์หัวเราะ “ไม่จำเป็น เนื่องจากเจ้าเป็นน้องของลินลี่ย์ มากับเราได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่นักหรอก” มิลเลอร์ขมวดคิ้วและหัวเราะ “เรย์โนลด์เจ้าเรียกข้าว่าลุงมิลเลอร์.. ข้ากลับนับลินลี่ย์เป็นน้องนี่.. นี่มันช่างน่าประหลาดเสียจริง ฮ่าฮ่าฮ่า”
ลินลี่ย์และเรย์โนลด์ตกใจทั้งคู่ ตอนนี้พวกเขาถึงได้รู้ตัวเช่นกัน
ลิฟวิงสโตนหัวเราะเช่นกัน “มิลเลอร์พูดเล่นกันพอแล้ว พวกเจ้าแต่ละคนก็ควรมีสถานะของแต่ละคน เจ้าและข้าทั้งสองคนอายุเกินพันปีแล้ว เรายังรู้จักเซียนที่อายุเกินสี่หรือห้าพันปีด้วย เราทั้งหมดก็ยังอยู่ร่วมกันได้เลยไม่ใช่หรือ?”
“ข้าก็แค่พูดหยอกล้อ” มิลเลอร์เม้มริมฝีปากอย่างไม่พอใจ
เรย์โนลด์ก็เริ่มหัวเราะเช่นกัน แม้ว่าโดยปกติมิลเลอร์จะมีสีหน้าเย็นชาแต่เขาก็มีด้านอารมณ์ขันอยู่เหมือนกัน และมีทางเป็นไปได้ว่ามีเพียงไม่กี่คนในหมู่บ้านที่เคยเห็นมิลเลอร์หัวเราะ เรย์โนลด์เข้าใจ.. มีเพียงอยู่ต่อหน้ายอดฝีมือระดับเดียวกับพวกเขา พวกเขาจึงจะแสดงอารมณ์สนุกสนานได้ตามปกติ
“ท่านมิลเลอร์รีบๆ เถอะ ข้าอยากรู้จักยอดฝีมือที่ท่านได้พูดถึง” ลินลี่ย์กระตุ้น
ลินลี่ย์มักจะรู้สึกคาดหวังว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาคิดถึงเรื่องยอดฝีมือในหมู่บ้านลึกลับ เขารู้ว่า..ยอดฝีมือเหล่านี้บางทีอาจมีคนที่เทพสงครามได้พูดถึงไว้ ยอดฝีมือเหล่านั้นฝึกฝนอย่างเงียบๆ สันโดษ ยอดฝีมือเหล่านี้ไม่ค่อยรู้จักกันมากนักในทวีปในช่วงเวลานี้ บางทีก็นานมาแล้ว พวกเขามีชื่อเสียงมาก ยอดฝีมือเหล่านี้ว่าในเรื่องพลังยังแข็งแกร่งมากกว่ายอดฝีมือในยุคปัจจุบัน
เมื่อผ่านดงไม้หนาแน่นไป พวกเขาก็มาถึงพื้นที่สนามหญ้ากว้างใหญ่เต็มไปด้วยดอกไม้และม้านั่งหินโต๊ะหินตั้งไว้ในบริเวณใกล้ๆ อีกด้วย
ตรงกลางพื้นสนามหญ้ามีทะเลสาบกลม
ผ่านพื้นที่สนามหญ้าพวกเขามาถึงสนามฝึกฝนเชิงเขา ใกล้ๆ เชิงเขาจะมีบ้านศิลาหลายหลัง ที่เชิงเขาเองก็ขุดอุโมงค์เอาไว้หลายที่
พี่เรย์โนลด์!” เสียงตื่นเต้นและมีความสุขดังขึ้นและจากอุโมงค์ที่อยู่ใกล้ มีร่างหนึ่งสวมชุดขาววิ่งออกมา เมื่อเห็นเด็กสาวผมสีหยกแล้ว ลินลี่ย์หันไปดูสีหน้าของเรย์โนลด์
ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ “น้องสี่,มิน่าเล่าเจ้าถึงไม่ยินดีกลับบ้าน”
เรย์โนลด์ได้แต่หัวเราะอย่างเก้อเขิน
ท่าทางที่ลินลี่ย์มองหน้าเรย์โนลด์ทำให้ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนว่าเขาเคยเห็นภาพที่คุ้นเคย เรย์โนลด์จอมกะล่อนสามารถเขินอายได้จริงๆ หรือ? หรือว่าในครั้งนี้ เรย์โนลด์จะตกหลุมรักเข้าแล้วจริงๆ?
“พี่เรย์โนลด์,ท่านมาทำอะไรที่นี่?” โมนิกาจับมือเรย์โนลด์ นางตื่นเต้นมาก เรย์โนลด์เดินมาใกล้โมนิกาทันที จากนั้นกระซิบและอธิบายให้โมนิกาที่หันไปมองดูลินลี่ย์อย่างประหลาดใจ “เขาคือลินลี่ย์หรือ?”
“ฮ่าฮ่า,ข้าได้ยินว่าลินลี่ย์มาหรือนี่?” เสียงหัวเราะดังขึ้นจนได้ยิน
มีเงาร่างสามคนโผล่ออกมาจากด้านข้างหนึ่งของสนามหญ้า คนที่พูดเป็นชายชราผมหงอกแต่ผิวของเขาเหมือนเด็ก อีกสองคน? คนหนึ่งเป็นบุรุษวัยกลางคนค่อนข้างท้วมมีท่าทีเป็นมิตร ขณะที่บุรุษอีกคนหนึ่งที่เดินคั่นระหว่างพวกเขาเป็นบุรุษวัยกลางคนที่สง่างามไว้ผมยาวสีดำสวมชุดยาวสีขาวนวลเหมือนดวงจันทร์
เห็นได้ชัดว่าบุรุษวัยกลางคนที่สง่างามนี้คือผู้นำของคนทั้งสาม
“ท่านพ่อ” โมนิกาวิ่งเข้าไปหาบุรุษที่สง่างามทันทีฉุดแขนของเขาขณะที่ชี้มาที่เรย์โนลด์และแนะนำเขาทันที “ท่านพ่อคนนี้คือเรย์โนลด์ที่ข้าพูดให้ท่านพ่อฟังไงเล่า”
โมนิกาแนะนำเรย์โนลด์ทันทีทำให้เขากระวนกระวาย
นี่เป็นการได้พบว่าที่พ่อตาของเขาเป็นครั้งแรก ที่สำคัญคือ... ว่าที่พ่อตาของเขาดูเหมือนจะเป็นคนน่าทึ่งมาก
“ไม่เลว” บุรุษวัยกลางคนผู้งามสง่าชมเรย์โนลด์และยิ้มอย่างเป็นมิตร มิลเลอร์รีบแนะนำทันที “ใต้เท้าเรย์โนลด์ผู้นี้เดิมทีเป็นนักเรียนอยู่สถาบันเดียวกับลินลี่ย์ พวกเขาเป็นสหายสนิทกัน สำหรับพวกเขาสามารถพบกับเราได้ที่นี่ก็หมายความว่ามีโซ่วาสนาผูกพันกับเราเข้าด้วยกัน”
ขณะที่มิลเลอร์พูด เขาเดินเข้าหาบุรุษวัยกลางคนผู้งามสง่า ขณะเดียวกัน เขากระซิบบางอย่าง
หน้าของบุรุษวัยกลางคนผู้สง่างามชะงักค้างอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็กลับคืนเป็นปกติ อย่างไรก็ตามเมื่อไม่มีใครให้ความสนใจ เขาลอบมองหนูเงาน้อย ‘บีบี’ บนไหล่ของลินลี่ย์ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขามีแววเป็นมิตรเพิ่มอีก 30%
“ลินลี่ย์,สวัสดี ยินดีมากจริงๆ ที่ได้พบกับเจ้า.. ฮ่าฮ่า.. ข้าขอแนะนำเจ้าก่อน” บุรุษวัยกลางคนพูดด้วยกิริยาที่เป็นมิตร เขาชี้มาที่บุรุษที่ใบหน้าอวบอูมกล่าว “นี่คือสหายสนิทที่มาที่นี่พร้อมกับข้า ฮาร์เวิร์ด เขาเป็นจอมเวทเช่นกันแต่เป็นจอมเวทสายธาตุไฟ”
ฮาร์เวิร์ดที่มีใบหน้าแดงหัวเราะให้ลินลี่ย์ “เป็นจอมเวทระดับเก้าตอนอายุยี่สิบเจ็ดปีน่าชื่นชมจริงๆ”
“สุภาพบุรุษท่านนี้ชื่อโฟร์แมน เขาเป็นนักรบระดับเซียนและก็เหมือนกับเจ้า เขาฝึกกฎธรรมชาติธาตุดิน” บุรุษวัยกลางคนสง่างามหัวเราะ “ข้ายังมีสหายอีกคนหนึ่งที่ยังอยู่ในระหว่างฝึกฝน อีกสักครู่เขาน่าจะมาถึง โอวจริงสิ ข้ายังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย”
บุรุษวัยกลางคนผู้งามสง่ายิ้มขณะมองดูลินลี่ย์ “ข้าชื่อเดลี่ ข้าฝึกตามกฎธรรมชาติธาตุแสง”
หัวใจของลินลี่ย์สั่นสะท้านเล็กน้อย
เป็นเขาจริงๆ ด้วย
ตามที่เทพสงครามบอกไว้ทั่วทวีปยูลานมีสุดยอดเซียนอยู่ห้าคนเป็นผู้ที่ขาดอีกก้าวเดียวจะเข้าสู่ระดับเทพ เฟนแห่งวิทยาลัยเทพสงครามก็เป็นหนึ่งในนั้น ขณะที่อีกคนหนึ่งก็คือยอดฝีมือนามว่าเดลี่ในแดนอนารยชน
ลินลี่ย์เข้าใจว่าคนเหล่านี้สามารถเอาชนะเขาได้ภายในกระบวนท่าเดียวเช่นเดียวกับเฟนที่ทำให้เขาร่วงได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว
ทั้งเฟนและเดลี่ถึงปากประตูระดับเทพแล้วเพียงก้าวเดียวก็จะผ่านประตูนั้นไป เข้าถึงอีกระดับหนึ่ง แต่ก้าวนั้นช่างยากเย็นยิ่งนัก ซีซาร์ที่ก่อนหน้านี้ก็ฝีมือพอๆกับเฟนต้องใช้เวลาหลายพันปีเช่นกัน แต่เมื่อผ่านก้าวสุดท้ายไปแล้ว เขาก็กลายเป็นเทพชั้นต้น
“ข้าขอคารวะท่านเดลี่” ลินลี่ย์พูดอย่างนอบน้อม
เดลี่หัวเราะอย่างใจเย็น “มาเถอะ, ไปนั่งคุยกันข้างใน ภรรยาข้าน่าจะมาถึงในไม่ช้านี้”
ทุกคนมุ่งหน้าไปยังอุโมงค์ใกล้ๆ
“โอว”ลินลี่ย์จ้องมองสถาปัตยกรรมในภูเขาด้วยความประหลาดใจ ภายในถูกขุดออกสร้างเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ห้องและลานถูกสร้างอยู่ภายใน ที่สำคัญที่สุดเพดานประดับไปด้วยอัญมณีหลากหลายทำให้พื้นที่เต็มไปด้วยแสงหลากหลายแพรวพราวเหมือนกับภาพฝัน
ภายในภูเขาเสียงน้ำไหลรินจากน้ำผุดได้ยินอย่างต่อเนื่อง ฟังดูเงียบสงบ
อุณหภูมิวันนี้ค่อนข้างต่ำ แต่ภายในภูเขาจะอบอุ่นและสบายมาก ในพื้นที่ว่างมีโต๊ะสี่เหลี่ยมหลายตัวเต็มไปด้วยผลไม้หลากหลาย
“ลินลี่ย์,นั่งลงก่อน ข้าจะไปเรียกภรรยาของข้า ฮาร์เวิร์ด เจ้าและคนอื่นคุยกับลินลี่ย์ไปก่อน” เดลี่ยิ้ม จากนั้นเดินลึกเข้าไปในข้างใน หลังจากเดินลดเลี้ยวไปมา เดลี่ก็มาถึงห้องศิลาที่ปิดผนึก
เสียงหินสะเทือนสามารถได้ยินและประตูหินเปิดออก สตรีงดงามผมสีหยกอยู่ในชุดขาวสง่าเดินชดช้อยออกมา นางมองดูคล้ายโมนิกาเพียงแต่เมื่อเพ่งมองให้ดีจะสังเกตได้ว่านางเป็นผู้ใหญ่กว่าโมนิกา
“ที่รัก” เดลีหัวเราะขณะที่เขามองดูสตรีนี้ “มาเถอะวันนี้ไม่เพียงแต่ลินลี่ย์เท่านั้นที่มา แต่เรย์โนลด์ก็มาด้วยเช่นกัน”
สตรีงามนั้นขมวดคิ้ว “ทำไมเรย์โนลด์ผู้นั้นถึงมาด้วย?” นางไม่ชอบเด็กหนุ่มรูปงามที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าและต้องการตามติดพันธิดาของนาง
“เรย์โนลด์และลินลี่ย์เป็นสหายสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน” เดลี่อธิบาย
“งั้นพวกเขาจะเป็นยังไง? ลินลี่ย์ไม่มีอะไรนอกจากอัจฉริยะคนหนึ่ง” หญิงงามไม่ได้สนใจลินลี่ย์เป็นพิเศษแต่อย่างใด “ถ้าไม่ใช่เพราะระดับความเร็วในการฝึกฝนของเขาเร็วมากและถ้าเราเพียงแต่มองระดับพลังของเขาในปัจจุบัน เขายังคู่ควรให้ข้าต้องออกจากห้องฝึกไปต้อนรับเขาหรือ?”
เดลี่หัวเราะขณะที่เขาส่ายศีรษะ “ที่รัก,ข้าคิดว่าเจ้าไม่ควรกีดกันเรย์โนลด์และลูกสาวของเราไม่ให้อยู่ด้วยกันเป็นดีที่สุดเจ้าควรจะเปลี่ยนทัศนคติของเจ้าที่มีต่อลินลี่ย์”
“ทำไม?” หญิงงามขมวดคิ้ว
เดลี่พูดอย่างมั่นใจ “ต้องไปดูอสูรเวทระดับเซียนที่อยู่บนไหล่ของลินลี่ย์นั้น และเจ้าจะรู้เหตุผล ข้าคิดว่า.. เมื่อเจ้าเห็นมัน เจ้าจะต้องเปลี่ยนความคิด”