ตอนที่แล้วตอนที่ 10-11 คำสั่งมาถึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10-13 การกลับมาของลินลี่ย์

ตอนที่ 10-12 เหตุเปลี่ยนแปลงกะทันหัน


ราตรีมืดมิดเมฆครึ้มบดบังดวงจันทร์  และทั่วทั้งโลกตกอยู่ในเงามืดจากทางด้านทิศเหนือแนวแสงแพรวพราวสีขาวพุ่งผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วสูงมุ่งตรงไปที่แคว้นเชอรี่  ระหว่างครึ่งทางนั้นมีแสงสีขาวห้าสายต่างคนต่างบินไปที่เมืองบริวารห้าเมืองรอบๆแคว้นเชอรี่  ขณะที่แนวแสงอีกสี่สายบินตรงไปที่เมืองเอกแคว้นเชอรี่

ถ้ามีใครเข้ามาใกล้ เขาจะพบว่า..

แสงเหล่านี้ก็คือเทวทูตที่มีรัศมีศักดิ์สิทธิ์งดงาม  เทวทูตแต่ละตนมีสี่ปีก สำหรับพวกเขาทันทีที่อยู่ในร่างเทวทูตก็หมายความว่าร่างที่พวกเขาประทับก็สามารถรองรับพลังของพวกเขาได้

ตามลำดับของทูตสวรรค์นั้น..

เทวทูตสองปีคือเทวทูตที่มีระดับต่ำที่สุด  เทวทูตสี่ปีกคือระดับกลางขณะที่เทวทูตหกปีจะมีระดับสถานะสูงที่สุด สำหรับเทวทูตแปดปีก จะอยู่ในระดับเทพขั้นต้น  เทวทูตสิบสองปีกในตำนานจะมีพลังระดับเทพชั้นสูง

น่าเสียดายในทวีปยูลานเป็นไปไม่ได้ที่จะหาพบร่างประทับของเทวทูตสิบสองปีกได้

“น่าเสียดาย...” โอเซนโน บินตามหลังเทวทูตทั้งสี่นั้นเขารำพึงกับตนเองขณะจ้องมองเทวทูตเหล่านั้น “มหาเทพเจิดจรัสสร้างโครงร่างมนุษย์นี้ขึ้นมา  แต่ไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะก้าวหน้าได้เลย  ไม่ว่าพวกเขาจะมีชีวิตยาวนานเพียงไหน  แต่พลังของพวกเขาจะไม่มีเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย”

คนในระดับเดียวกับโอเซนโนรู้เรื่องเทวทูตมากมาย

เทวทูตความจริงไม่ใช่สิ่งมีชีวิต พวกเขาเป็นแค่โครงสร้างมนุษย์ที่มหาเทพเจิดจรัสสร้างขึ้นด้วยแสงจากแดนเทพ แน่นอนว่าโอเซนโนไม่รู้ว่าพวกเขาถูกสร้างได้อย่างไร แต่เขาเข้าใจว่าเทวทูตจะไม่มีทางก้าวหน้าได้เลย  อย่างไรก็ตาม ปีกทั้งหลายที่พวกเขาสร้างขึ้นมาไม่ว่าจะมีกี่ปีกก็ตาม พวกเขาก็จะมีปีกอยู่อย่างนั้นตลอดไป  ตัวอย่างเช่น ศาสนจักรเจิดจรัสมีเทวทูตซึ่งมีชีวิตอยู่มาหลายพันปีแล้ว  แต่พลังของพวกเขาก็ยังคงเป็นระดับเดิมแน่นอนแม้จะผ่านมาหลายพันปีแล้วก็ตาม

แม้ว่าเทวทูตจะทรงพลังมากก็ตาม  พวกเขาก็ไม่สามารถก้าวหน้าได้

เรื่องนี้เป็นเหตุให้โอเซนโนดูถูกพวกเทวทูต เขาเพียงแต่ปฏิบัติกับเทวทูตเหมือนกับเป็นเครื่องมือ  ในวันนี้กองกำลังของเขาประกอบด้วยเทวทูตอย่างเดียว นอกจากตัวเขาเองแล้ว ไม่มีเซียนมนุษย์สักคนที่มาด้วย  เท่าที่โอเซนโนกังวลก็คือเซียนมนุษย์ที่มีชีวิตซึ่งสามารถก้าวหน้าได้ยังมีคุณค่ามากกว่าเทวทูตเหล่านี้

ภายในเมืองบริวารเมืองหนึ่งในแคว้นเชอรี่  เทวทูตสี่ปีกบินลงมาที่ใจกลางเมือง รัศมีที่ศักดิ์สิทธิ์อ่อนโยนฉายออกจากตัวส่องไปทั่วบริเวณเปลี่ยนจากกลางคืนเป็นเวลากลางวัน

เมื่อเห็นแสงนี้พลเมืองในหมู่บ้านนี้ต่างวิ่งออกมาจากหมู่บ้านกันหมด

“อา!  ทูตสวรรค์!”

“อา.. ทูตสวรรค์!”

ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนแต่ทึ่งอัศจรรย์ใจ  เนื่องจากศาสนจักรเจิดจรัสมาที่นี่นานแล้ว และคนพวกนี้หลายคนก็เชื่อนับถือในมหาเทพเจิดจรัส  ตอนนี้พวกเขาทุกคนมีความรู้สึกว่าองค์เทพจะมาช่วยเหลือพวกเขาแล้ว

ประชาชนนับไม่ถ้วนทิ้งตัวคุกเข่า

“ผู้ที่มีศรัทธาในองค์มหาเทพจะได้รับการคุ้มครองจากองค์เทพ ผู้ที่ทรยศหักหลังองค์เทพจะต้องถูกทำลายในที่สุด”  เสียงของเทวทูตสี่ปีกดังก้องไปทั้งเมืองน้อย  และทหารในเมืองสี่พันคนมีอยู่เกินครึ่งที่คุกเข่าลงเช่นกัน  สำหรับพวกที่มาจากเมืองแบล็คเดิร์ทยังคงยืนอยู่กับที่รู้สึกประหลาดใจ

เทวทูต?

เทวทูตในตำนาน?

“ฆ่าพวกนอกศาสนาเหล่านั้นซะ!”  ใครบางคนชักดาบและแทงนายทหารที่อยู่ใกล้ๆ จนตายนายทหารหลายคนที่นี่มาจากเมืองโมแอ็ต พวกเขาไม่เชื่อในมหาเทพเจิดจรัสและยังได้ทำลายโบสถ์ไปหลายแห่งเมื่อไม่นานนี้

แต่วันนี้...

ทหารที่อยู่ใกล้ๆ จำนวนมากมายพอๆ กับพลเรือนเริ่มบุกเข้ามาฆ่าคนนอกทุกคน

โดยไม่ต้องทำอะไรสักอย่างเทวทูตสี่ปีกจึงยึดเมืองนี้คืนมาได้

“เหล่าสาวกของมหาเทพ องค์มหาเทพจะคุ้มครองป้องกันภัยให้พวกเจ้า”  เสียงของเทวทูตสี่ปีกดังก้อง

คนทั้งเมืองล้วนคุกเข่าเต็มไปด้วยความจริงใจและศรัทธา  รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของเทวทูตสี่ปีก  เขาค้นพบได้ง่ายๆ ว่ามีคนราวๆสิบคนที่ฝึกเวทธาตุแสง เทวทูตสี่ปีกลงมาอยู่ที่พื้นและเดินมาหายอดฝีมือคนหนึ่ง  “เจ้าชื่ออะไร?”

ชายชราผมหงอกตื่นเต้นมาก เขาพูดด้วยความเคารพ  “โอว,ท่านเทวทูตผู้ยิ่งใหญ่ ข้าชื่อเฟลตัน ในอดีตข้าเป็นนักบวชในศาสนจักรเจิดจรัสของเมืองนี้ข้าโชคดีพอที่รอดชีวิตได้”

เทวทูตสี่ปีกพยักหน้า “จากวันนี้เป็นต้นไป เฟลตันจะเป็นเจ้าเมืองของที่นี่” เสียงของเทวทูตสี่ปีกสั่นสะเทือนท้องฟ้าและกึกก้องไปทั้งเมือง

“เฟลตัน!”  “เฟลตัน!”  “เฟลตัน!”

พลเมืองของเมืองน้อยนี้เริ่มตะโกนด้วยความยินดี  ขณะที่พวกเขาสวดภาวนา  เทวทูตสี่ปีกก็บินขึ้นไปในอากาศและแผ่ฉายแสงศักดิ์สิทธิ์ เทวทูตสี่ปีกออกไปจากเมืองน้อยและบินสู่เมืองเอกปกครอง

ส่วนเมืองน้อยอีกสี่เมืองก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกัน การปรากฏตัวของเทวทูตทำให้ผู้ศรัทธาในศาสนจักรเจิดจรัสคลั่งไคล้  และพวกเขาฆ่าคนนอกศาสนาอย่างไม่เกรงกลัว ขณะที่คนที่ฝึกเวทธาตุแสงหรือมีปราณยุทธธาตุแสงจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองคนใหม่

สำหรับเมืองเอกของแคว้นเชอรี่...

เมื่อเทวทูตสี่ปีกอีกห้าตนมาถึง  เปลวไฟสามารถมองเห็นได้จากทุกแห่ง เพราะมีทหารมากมายที่มาจากเมืองเอกโมแอ็ตหรือจากเมืองแบล็คเดิร์ทจึงทำให้การสู้รบที่นี่รุนแรงมาก

“ใต้เท้าตุลาการ” เทวทูตทั้งห้าบินมาอยู่ข้างตัวโอเซนโน

โอเซนโนยืนอยู่ในกลางอากาศ มองดูการสู้รบใหญ่ข้างล่าง  มีเทพสี่ปีกเข้าร่วมสู้รบกับนักรบอมตะสามคน

“นักรบอมตะ?” หนึ่งในเทวทูตพูดออกมาอย่างประหลาดใจ โอเซนโนพยักหน้าอย่างใจเย็น เมื่อโอเซนโนนำสี่เทวทูตมาที่เมืองเอกปกครอง  เนื่องจากการปรากฏตัวที่สง่างามของเทวทูตพลเมืองนับไม่ถ้วนเริ่มโจมตีกองกำลังของลินลี่ย์

แม้แต่ทหารบางส่วนก็เปลี่ยนมาทรยศ

การสู้รบครั้งนี้ไม่เอื้ออำนวยต่อฝ่ายของลินลี่ย์

“บัดซบเอ๊ย”ร่างที่สูงสามเมตรดูน่ากลัวคล้ายกับเครื่องจักสงครามแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามมีขนาดเท่าเอวมนุษย์ มนุษย์ที่มีชั้นเกราะเหมือนกับหินอ่อนปกคลุมตัวเหลือให้เห็นแต่หน้าของเขามีแสงรัศมีสีเขียว

นักรบอมตะระดับเซียน!

เทวทูตสี่ปีกสามตนสู้กับนักรบอมตะระดับเซียนสามคน

“พี่รอง, เจ้าพวกนี้ว่องไวเกินไป”  เกทส์ตะโกนอย่างหัวเสีย  ทั้งสามคนนี้ก็คือ เกทส์ เฮเซอร์และอังเก้   ทั้งสามคนเป็นเพียงนักรบระดับเก้า  แม้ว่าหลังจากแปลงร่างเป็นนักรบอมตะแล้ว..พวกเขาเป็นเพียงเซียนระดับต้นบางทีความได้เปรียบที่พวกเขามีอยู่ก็คือพลังป้องกันที่น่ากลัวและความแข็งแรงตามธรรมชาติสำหรับนักรบอมตะ พวกเขาสามารถสู้กับเทวทูตสี่ปีกระดับกลางได้ตรงๆเพียงแต่พวกเทวทูตคล่องแคล่วว่องไวเกินไป

เทวทูตสี่ปีกตนหนึ่งบินโฉบลงอย่างคล่องแคล่งมาจากด้านข้างและเตะใส่เกทส์  พลังเตะนั้นสามารถทำลายก้อนหินใหญ่ได้แต่เมื่อสัมผัสกับเกทส์ กลับทำให้เขาสั่นเพียงเล็กน้อย

ทันใดนั้นเกทส์จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเห็นว่ายังมีเทวทูตมาเพิ่มอีก เขาตะโกนทันที “พี่รอง พี่สาม ไปกันเดี๋ยวนี้! พวกเทวทูตมาเพิ่มอีกแล้ว!”

พวกเขาไม่สามารถรับมือเทวทูตสามตนได้  แต่เทวทูตมากกว่าหกตนในตอนนี้อยู่ด้านบนเหนือพวกเขาทั้งยังมีเซียนมนุษย์อีกคนหนึ่ง พวกเขาจะชนะศึกครั้งนี้ได้ยังไง?

“ไปกันเถอะ ศาสนจักรเจิดจรัสทุ่มสุดตัวในครั้งนี้แล้ว”  อังเก้ยิ่งโมโหเช่นกัน

ด้วยการกระโจนสุดกำลังทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนและแตกร้าว ทั้งสามคนบินไปทางทิศเหนืออย่างเร่งรีบเหมือนกับมนุษย์ดาวตก  อย่างไรก็ตาม สำหรับสี่สุดยอดนักรบนักรบอมตะมีความเร็วในการบินช้าที่สุด

ขณะที่พวกเทวทูตเชี่ยวชาญในเรื่องความเร็วอยู่แล้ว

แค่เพียงสะบัดปีกครั้งเดียวเทวทูตสี่ปีกสี่ตนก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าเกทส์และพวกอีกสองคน  ขณะที่ห้าเทวทูตที่เหลือมาปรากฏอยู่ด้านหลังพวกเขา

“น้องห้า เราจะทำยังไงดี” เฮเซอร์มองดูเกทส์

ในบรรดาห้าพี่น้องปกติเกทส์จะเป็นคนเจ้าความคิดมากที่สุด แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าพวกเขาถูกเทวทูตเก้าตนล้อมไว้  เขามีแต่อยากจะร้องไห้  สวรรค์!  พลังช่างแตกต่างมากมายมหาศาล

ตัวต่อตัว พวกเขาก็แค่สู้ยันเอาไว้ได้เท่านั้น

เก้าต่อสาม? พวกเขาจะต่อสู้ได้ยังไง?

“จะเอายังไงน่ะหรือ?” ประกายบ้าคลั่งปรากฏอยู่ในดวงตาของเกทส์ “แม่มันเอ๊ย  ทุ่มสุดกำลัง  ถ้าเราล้มคนหนึ่งไปกับเราได้  ก็ถือว่าเป็นการค้ายุติธรรม  ถ้าเราโค่นได้สอง ก็ถือว่ามีกำไรแล้ว”  เกทส์คำรามลั่น จากนั้นพุ่งเข้าหาพวกเทวทูต  แม้ว่าเทวทูตสี่ปีกจะมีพลังป้องกันที่ดี แต่พวกเขาไม่กล้าปะทะกับสัตว์ประหลาดในร่างมนุษย์เหล่านี้ตรงๆ เป็นแน่

โอเซนโนที่ยืนอยู่ห่างไกลพูดอย่างใจเย็น  “พยุหะเทวทูตศึก”

ทันใดนั้นเอง...

เทวทูตสี่ปีกสามตนบินห่างออกไปด้วยความเร็วสูง ขณะที่เทวทูตสี่ปีกอีกหกตนก่อตั้งพยุหะเทวทูตสงครามทันทีรายล้อมเกทส์และพี่ๆ ของเขาไว้ คนหนึ่งอยู่เหนือพวกเขา คนหนึ่งอยู่ล่าง ขณะที่อีกสี่คนรายล้อมสี่ทิศ  วงล้อมที่ก่อตั้งฉับพลันนี้ทำให้เกทส์เฮเซอร์และอังเก้ตะลึงกันหมด

“บุกทะลวง!”  เกทส์พุ่งเข้าหาหนึ่งในผนังแสง

“ปัง!”

พลังงานระเบิดที่น่ากลัวทะลวงใส่เกราะขาวของเกทส์กระแทกเขากระเด็นกลับไป

“น้องห้า, เป็นอะไรหรือเปล่า?”  อังเก้ประคองเขาทันที

“ข้าไม่เป็นไร” รอยเลือดปรากฏที่มุมและริมฝีปากของเกทส์ “พลังมากมายมหาศาลเหลือเกิน เหมือนกับเซียนระดับสูง  โชคดีที่เกราะนักรบอมตะยังแข็งแกร่งมาก  มิฉะนั้นข้าคงตายไปแล้ว”

โอเซนโนบินเข้ามาหา มองเฮเซอร์ อังเก้และเกทส์อย่างใจเย็น “นักรบอมตะระดับเซียน ตระกูลอามันด์หรือ?”

เกสท์และคนอื่นๆ ไม่สนใจโอเซนโนแต่อย่างใด

“ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าทั้งสาม  ตราบใดที่พวกเจ้ายอมจำนวนต่อศาสนจักรเรา  อย่างนั้นข้าก็จะไม่ฆ่าเจ้า”  โอเซนโนพูดอย่างใจเย็น

เกสท์ อังเก้และเฮเซอร์ชำเลืองมองกัน

“แม่มันเอ๊ย!ถ้าเจ้ามีความสามารถฆ่าเรา อย่างนั้นก็เข้ามาฆ่าเราได้เลย” เกทส์จ้องมองโอเซนโนอย่างโกรธเกรี้ยว “พ่อไม่กลัวเจ้าเว้ย!”

หน้าของโอเซนโนเย็นชาทันที

“เจ้าจะทำตัวเป็นผู้อาวุโสโง่ๆ อย่างนั้นหรือ?”  เกทส์พูดพลางถลึงตามอง  “หยุดพูดไร้สาระเลย  หรือว่าศาสนจักรเจิดจรัสของพวกเจ้าลืมคำเตือนของท่านซีซาร์ไปแล้ว?”  ในอดีตราชันย์มือสังหารซีซาร์ได้ประกาศไว้นานแล้ว ถ้าศาสนจักรเจิดจรัสกล้าลงมือกับห้าพี่น้อง อย่างนั้นซีซาร์จะสังหารไปจนถึงเกาะศักดิ์สิทธิ์

โอเซนโนแค่นเสียงเย็นชา

ความจริงเขาแค่พยายามหลอกเกทส์  เขาไม่กล้าฆ่าเกทส์และพี่ๆ ของเขาจริงๆ  ที่สำคัญ... เขาไม่กล้าขัดคำสั่งของซีซาร์  ราชันย์มือสังหารผู้เป็นเซียนมาห้าพันปีแล้วเพิ่งจะเข้าถึงระดับพลังที่น่ากลัวเมื่อไม่นานมานี้

และเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เขาเพิ่งเข้าถึงระดับเทพ

เขากลายเป็นระดับเทพ!

แม้ว่าโอเซนโนจะมีความกล้ามากกว่านี้สิบเท่า  เขาคงไม่กล้าล่วงเกินเขา ล่วงเกินเขา..อาจหมายถึงทำให้ศาสนจักรเจิดจรัสถูกทำลาย

“สลายพยุหะเทวทูตศึก” โอเซนโนพูดอย่างใจเย็น

“หือ?” เกทส์และพวกอีกสองคนมองหน้ากัน หรือว่าโอเซนโนจะใจอ่อนยอมปล่อยพวกเขา? แต่ทันทีที่หกเทวทูตสลายพยุหะเทวทูตศึก ร่างของโอเซนโนก็เปลี่ยนสภาพเป็นเงาเลือนราง เกทส์และพี่ของเขาไม่มีโอกาสได้หลบหนีแม้แต่น้อย

“ปัง!  ปัง!  ปัง!”

เสียงเตะรุนแรงใส่สามพี่น้องดังขึ้นทำให้ร่างแปลงของสามพี่น้องกลายเป็นดาวตกกระแทกใส่พื้นด้วยความเร็วสูง

“บึ้ม!”  พื้นแตกแยกกระจายจากแรงปะทะ  และพื้นดินสั่นสะเทือนรุนแรง บนพื้นปรากฏเป็นหลุมรูปมนุษย์ขนาดใหญ่โดยมีเกทส์และพี่ๆอยู่ในใจกลางของแต่ละหลุม เกราะขาวของพวกเขาแตกเหมือนกับกระดองเต่า และพวกเขากระอักโลหิตจากปาก

พวกเขาไม่อาจขยับตัวได้อีกต่อไป  โอเซนโนควบคุมพลังได้อย่างสมบูรณ์แบบ  แม้ว่าจะทำร้ายสามพี่น้องจนบาดเจ็บสาหัส  แต่ไม่ถึงกับเป็นอันตรายต่อชีวิต

แค่เพียงพลิกมือ โอเซนโนก็ดึงกุญแจมืออดาแมนเทียมผสมออกมาสามชุดและโยนไปให้เทวทูตที่อยู่ใกล้ๆ  “ช่วยข้าล่ามพวกมันเอาไว้  เจ้าทั้งสองรับหน้าที่ดูแลพวกเขา  พวกเจ้าที่เหลือจงมากับข้า ไปที่เมืองเอกโมแอ็ต”  หลังจากพูดจบ โอเซนโนบินไปทางเหนือต่อไม่เหลือบมาเกทส์และพวก โดยมีเทวทูตสี่ปีกเจ็ดตนติดตามเขา

ระหว่างเมืองเอกเชอรี่และเมืองเอกโมแอ็ตห่างกันราวสองสามร้อยกิโลเมตร

เกทส์และพี่ชายเขาถูกซุ่มโจมตีฉับพลัน และพวกเขาไม่มีโอกาสจะเตือนพี่น้องของเขา  โดยไม่ทันตั้งตัว เมืองเอกโมแอ็ตถูกโอเซนโนและเจ็ดเทวทูตลอบโจมตีเช่นกัน  ครั้งนี้โอเซนโนลงมืออย่างรวดเร็ว!

ในไม่ช้าบาร์เกอร์และบูนก็แปลงร่างเป็นนักรบอมตะเข้าต่อสู้  โอเซนโนใช้พลังเตะพิชิตพวกเขา

“ปัง!  ปัง!”

นักรบอมตะสองคนถูกเตะกระแทกพื้น บังเกิดเป็นหลุมอุกกาบาตรูปมนุษย์สองหลุม

“และนั่นก็มีอสูรเวทระดับเซียนเช่นกัน” พลังจิตของโอเซนโนตรวจพบเสือดำเมฆาแฮรุได้อย่างรวดเร็ว  ตอนนี้แฮรุรีบถอยหนีด้วยความเร็วสูง ทันทีที่แฮรุเห็นบาร์เกอร์และบูนพ่ายแพ้ในพริบตา  เขารู้ว่าสถานการณ์เป็นเช่นไร  ถ้าเขาเอาชนะบาร์เกอร์และบูนได้รวดเดียว  เขาจะใช้เวลาเพียงเล็กน้อย

เซียนมนุษย์ผู้ลึกลับนี้แข็งแกร่งเกินไป

โดยไม่ทันได้ต่อสู้ แฮรุหันหลังเผ่นหนีทันที

“นายท่าน  นายท่านรีบกลับมาเร็วๆ!” แฮรุร้องเรียกในใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด