Ep.501 - ราชามังกรคลั่งปรากฏตัว
5/5
Ep.501 - ราชามังกรคลั่งปรากฏตัว
สปิตซ์ บารุตรู้สึกแย่เล็กน้อย
การระเบิดพลังของเผ่ามนุษย์เหนือความคาดหมายมาก
โพชั่นมนตรา คัมภีร์สกิล และหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราจำนวนมากถูกนำมาใช้ในการต่อสู้
และพลังรบจากเผ่ามนุษย์นับพันที่ระเบิดออกมา มันเหนือยิ่งกว่ากองทัพสันเขามังกรซะอีก
เป็นการโจมตีระลอกเดียวที่สามารถสั่นคลอนเมืองทั้งเมืองได้ กดดันแนวหน้ากองทัพมังกรกลับไป
กองทัพสันเขามังกรเดิมไม่ได้เปรียบเรื่องจำนวนอยู่แล้ว พวกมันจึงตัดสินใจอาศัยกลยุทธ์รุกทีเดียวเข้ายึดเมืองพายุระห่ำ
ตอนนี้เมื่อถูกบังคับให้ถอยกลับ ก็กลายเป็นกลับเข้าสู่ระยะอันตราย
ซึ่งหมายความว่าอยู่ในระยะปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตราของกองทัพพายุระห่ำอีกครั้ง
ปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตรานับร้อยกระบอก ยังคงยิ่งต่อเนื่อง
จนในที่สุดหุ่นเชิดเหนี่ยวนำมนตราก็ไม่อาจรับดาเมจได้ไหวอีกต่อไป ระเบิดเป็นชิ้นๆ
กองทัพสันเขามังกรจำนวนมากสูญเสียบาเรียป้องกัน โดนกระสุนปืนใหญ่ระดมยิ่งอย่างดุเดือด
กระสุนอันทรงพลังทุกชนิดกระทบพื้นและเกิดการระเบิด คาถาและฝนลูกศรของแคว้นเดียวดายโปรยปรายดั่งน้ำหลาก
บรึ้ม บรึ้ม บรึ้ม!
ภูมิประเทศสนามรบได้รับผลกระทบจากการทำลายล้างอีกครั้ง
พลรบมังกรตนแล้วตนเล่าถูกระเบิดหายไป
กองทัพสันเขามังกรเริ่มประสบความสูญเสีย และเป็นความสูญเสียที่รุนแรงมาก
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ สปิตซ์ก็อดกังวลไม่ได้ เดิมมันคิดหยั่งเชิงและทดสอบกลอุบายของศัตรู แต่ตอนนี้หมดความอดทนแล้ว ตัดสินใจสู้เต็มกำลัง หมายโค่นนาเซอร์ให้เร็วที่สุด
เพื่อกอบกู้สถานการณ์ในสนามรบให้ดีขึ้น
หอกที่พัวพันด้วยสายฟ้าพิฆาตแทงออกอย่างรวดเร็ว
สายฟ้านับพันไหลมารวมกันที่ปลายหอก พร้อมสำแดงพลังทำลายล้าง!
เมื่อนาเซอร์เห็นแบบนี้เขารีบเปลี่ยนอุปกรณ์ในมือทันที หันมาใส่โล่มือเดียว ยกมันขึ้นตั้งป้องกัน
โล่นี้มีทรงกลมและขนาดเล็ก ทั้งยังดูโบราณมาก แต่เมื่อสังเกตดีๆ จะพบว่าชั้นผิวของโล่ แท้จริงแล้วทอรัศมีพลังงานวิญญาณสีม่วง
เป็นอุปกรณ์สีม่วงอีกชิ้น!
มันไม่ใช่เรื่องแปลกหากผู้ครองแคว้นจะมีอุปกรณ์สีม่วงสักชิ้นหนึ่ง ทว่าหากมีสองชิ้นในครอบครอง ถือเป็นเรื่องหายาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออุปกรณ์ชิ้นนั้น เป็นอุปกรณ์สวมใส่ในจุดสำคัญอย่างมือ
ตามปกติแล้วราชามังกรคลั่งจะไม่อนุญาตให้ผู้แข็งแกร่งในอาณาจักรมังกรโลกาครอบครองอุปกรณ์สีม่วงที่ทรงพลังจนเกินไป เพราะหากแข็งแกร่งเท่าไหร่ ก็ยิ่งควบคุมได้ยากเท่านั้น
ปกตินาเซอร์มักใช้ขวานรบเป็นประจำ
ทำให้น้อยคนนักที่จะรู้ ว่านอกจากขวานสลายอากาศแล้ว เขายังมีโล่สวรรค์ประทานพรในครอบครองอีกด้วย
สปิตซ์ไม่ทันตั้งตัว และสายเกินกว่าที่จะถอนกระบวนท่า
แทงเข้าใส่โล่เต็มๆ
ช่วงเวลาที่พลังงานอันรุนแรงถูกปลดปล่อยออกมา ทุกสิ่งอย่างพลันสะท้อนกลับมายังร่างของสปิตซ์
เห็นได้ชัดว่านี่คือเอฟเฟกต์พิเศษจากโล่สีม่วง
“บัดซบ!”
สปิตซ์ด่าทอด้วยความโกรธ
สร้อยข้อมือของมันเรืองแสง
นี่คือสร้อยข้อมือคุณภาพสีม่วงเช่นเดียวกัน มันปลดปล่อยพลังงานออกมา ถ่ายโอนดาเมจที่สะท้อนเข้าสู่ร่างกายส่วนหนึ่งออกไป
-892!
หนึ่งกระบวนท่าใช้ออก
และผลของมันตัดสินผู้ชนะชัดเจน
สปิตซ์สูญเสียพลังชีวิตส่วนใหญ่ไปในคราเดียว จำต้องล่าถอยอย่างระส่ำระส่าย แยกตัวออกมาไม่ให้นาเซอร์โจมตีอีกครั้ง
ดาเมจจากผู้ครองแคว้นเดียวดายน่าสะพรึงเกินไป!
หากถูกโจมตีเต็มๆ ขอเพียงอีกสองสามขวานก็สามารถสังหารมันได้
ในเวลาเดียวกัน
ฝ่ายบารุตก็กำลังพบเจอปัญหายุ่งยาก
ที่กำลังกดดันมันขณะนี้คือกลุ่มยอดฝีมือของมังกรฟ้า
จ้าวหมิงใช้เทคนิคควบคุมเพื่อตรึงบารุต ล่อให้มันโจมตีมาแค่ทางเขาเท่านั้น
ขณะที่ฉูเทียนหัว เพลิงสีชาดพยายามโจมตีอย่างเมามัน
เจียงหนานและฉินมู่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
แม้การโจมตีของบารุตจะเฉียบคมมาก แต่ก็ยังไม่อาจทำลายแนวป้องกันอันแก่กล้าของจ้าวหมิงได้
แม่ทัพมังกรทั้งสองถูกปราบปราม เหล่ายอดฝีมือตนอื่นๆในกองทัพมังกรไม่อาจพลิกสถานการณ์ได้ชั่วคราว
เมื่อกองทัพแคว้นเดียวดายเริ่มเห็นกระแสกลับตาลปัตร ขวัญกำลังใจของทุกคนก็เพิ่มสูงขึ้น
“ฆ่า!”
“ให้พวกมังกรเห็นว่าพลังของมนุษย์กล้าแกร่งแค่ไหน!”
การโต้กลับของแคว้นเดียวดายเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ผู้ชมที่เฝ้าดูการต่อสู้ในโลกจริงตกตะลึงอ้าปากค้าง ไม่มีใครคาดคิดว่ากองทัพเมืองแคว้นเดียวดายจะแข็งแกร่งขนาดนี้!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์คนอื่นๆในแคว้นอื่นในอาณาจักรมังกรโลกา พวกเขาถูกกดขี่มาเป็นเวลานาน มีหลายคนไม่กล้าล็อคอินกลับมา
แต่ขณะนี้ เมื่อเห็นชาวแคว้นเดียวดายกำลังรุกคืบกองทัพสันเขามังกร ทั้งหมดต่างเฝ้าดูด้วยความตื่นเต้น เลือดลมเดือดพล่านอยากจะเข้าร่วมการต่อสู้กับเขาด้วย
เจ๋งโคตร!
มันต้องอย่างงี้สิ!
ตาต่อตาฟันต่อฟัน!
เลือดล้างด้วยเลือด!
ฆ่าไอ้พวกเวรชาวมังกรให้หมด!
การต่อสู้ดำเนินไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง กองทัพสันเขามังกรหายไปกว่าครึ่ง
กองทัพแคว้นเดียวดายก็ได้รับบาดเจ็บหนักเช่นกัน เอาจริงๆตายเยอะพอๆกับกองทัพสันเขามังกร
อย่างไรก็ตาม พลังรบของกองทัพแคว้นเดียวดายนั้นเทียบกับกองทัพสันเขามังกรไม่ได้
การที่สามารถทำสถิติแบบ 1 ต่อ 1 ได้ นับเป็นผลงานที่น่ายินดียิ่งแล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ
ด้วยทหารที่เหลืออยู่ของกองทัพสันเขามังกร พวกมันไม่มากพอที่จะใช้โจมตีเมืองอีกต่อไป
กระทั่งสปิตซ์ยังต้องถอนสกิลสถานะคลุ้มคลั่งออก
เพราะแม้สถานะคลุ้มคลั่งจะเพิ่มพลังรบในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ระหว่างอยู่ในสถานะนี้ พลังชีวิตจะค่อยๆลดลง
หากทั้งสองทัพประชิดกันมันก็แล้วไป เพราะสถานะคลุ้มคลั่งช่วยในการต่อสู้ได้ดี
แต่ในตอนนี้ พวกมันอยู่ห่างเมือง
หากยังฝืนคงสถานะคลุ้มคลั่ง รังแต่จะเป็นการลดทอนพลังชีวิตทหาร
สปิตซ์ตะโกนอย่างเด็ดขาด “ถอย!”
สิ้นเสียง
มันไม่พัวพันกับนาเซอร์อีกต่อไป หันหลังกลับและพยายามหนี
บารุตไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แต่มันไม่มีทางเลือกอื่น เพราะยังไงก็ดีกว่าสูญเสียทหารทั้งหมดที่นี่
การล่าถอยตอนนี้ยังพอรักษาทหารไว้ได้ครึ่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อบารุตเปิดใช้งานสกิลเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงเพื่อออกจากสนามรบ
ฉินมู่ปามนตร์วาจาต้องห้ามใส่มัน
สีหน้าของบารุตแปรเปลี่ยนไป
“ปราณสงครามผูกมัด!” จ้าวหมิงก้าวเข้ามาทันที มือขวาถือโล่ยักษ์ มือซ้ายสะบัดโซ่ ห่อหุ้มร่างบารุตไว้ แล้วลากตัวมันกลับมา
บารุตถูกล่าด้วยสกิลโซ่ตรวนขั้น 4 มันไม่อาจสลัดหลุดได้พักหนึ่ง
“ปราณสงครามพุ่งจู่โจม!”
“เพลิงหายนะนิจนิรันดร์!”
ฉูเทียนหัวพุ่งไปข้างหน้าพร้อมอาวุธสีฟ้าใสเลเวล 15 กระบี่ปีศาจแผดเผานิจนิรันดร์ของเขา
ระเบิดดาเมจรุนแรงสองครั้งติด
อีกด้านหนึ่งเพลิงสีชาดฉวยโอกาสนี้สร้างกระบี่เพลิงขึ้นมา สับเข้าแสกหน้าบารุตได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที
ถึงจุดนี้ รองเท้าบารุตปล่อยพลังงานบางอย่างออกมา เห็นได้ชัดว่ามันคืออุปกรณ์สีม่วง ช่วยให้เดินเหินในอากาศได้
สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการและวงล้อมได้สำเร็จ
แทบจะในทันทีหลังจากนั้น มันเปิดใช้งานสกิลเพื่อหลบหนี
ด้วยความเร็วของมัน หากหลุดไปได้ ก็ยากที่จะตามจับ
เพียงแต่ในขณะนั้นเอง
ขวานเล็กเหวี่ยงออก อากาศเบื้องหน้าบารุตคล้ายแยกจากกัน พริบตานั้นขวานบินออกมาจากข้างใน ปักเข้ากลางอกบารุตอย่างแรง
ทำดาเมจมหาศาลกว่า 800 หน่วยในทันที
ขวานสลายอากาศมาพร้อมสกิล : ‘ขวานบินป่นมิติ’
อย่างที่เคยบอกไปสกิลมิตินั้นยากจะหลบเลี่ยง
หลังจากขว้างขวานแล้ว มันจะหายไปทันที ข้ามผ่านอุปสรรคทั้งหมด และปะทะตัวเป้าหมาย ทำดาเมจจำนวนมากโดยไม่สนพลังป้องกัน
เกราะบนตัวบารุตไร้ประโยชน์และความเร็วของมันก็ไร้ประโยชน์เช่นกัน
“ไม่!!!”
บารุตคำรามลั่น ร่างของมันถูกฉีกจากกันเป็นชิ้นๆ บอลแสงหลายลูกและปราณวิญญาณมหาศาลทะลักออกมา ไหลเข้าสู่ร่างคนรอบๆ
แม้แต่คนดูในโลกจริงก็ยังสังเกตเห็นได้
สีหน้าของแทบทุกคนแสดงความปิติยินดี
คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าแคว้นเดียวดายไม่เพียงขับไล่กองทัพสันเขามังกรเท่านั้น แต่ยังใช้ประโยชน์จากตอนที่แม่ทัพมังกรพายุเผลอ สังหารมันลง!
นี่นับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ไม่รอให้ทุกคนได้ชื่นชมยินดี
บางสิ่งบางอย่างที่คาดไม่ถึงได้เกิดขึ้น
มิติเบื้องหน้านาเซอร์เกิดรอยแยก จากนั้นเปิดออก กลายเป็นประตูแสง
ร่างกำยำและสูงเป็นพิเศษ ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีทอง สวมชุดเกราะสีทองขุ่น เปี่ยมไปด้วยบารมีมังกรอันน่าเกรงขาม ก้าวออกมาจากข้างใน
สกิลมิติขั้นสาม ‘ประตูมิติ?’
นาเซอร์รู้สึกใจไม่ดี
แม้ระยะเทเลพอร์ตของประตูมิติจะไกลสกิลเคลื่อนมิติในขั้น 2 แต่การที่สามารถเปิดประตูมิติได้ โดยการข้ามเส้นทางในระยะไกลมากๆ มายังแนวหน้า
ผู้ที่มีพลังเช่นนี้ ในอาณาจักรมังกรโลกามีเพียงหนึ่งไม่มีสอง
ราชามังกรคลั่งเฮสการ์!