Ep.499 - สงครามเมืองพายุระห่ำ
3/5
Ep.499 - สงครามเมืองพายุระห่ำ
เมืองพายุระห่ำคือเมืองที่สำคัญที่สุดของแคว้นเดียวดาย
หากกองทัพสันเขามังกรคิดยึคแคว้นเดียวดายในเวลาที่สั้นที่สุด พวกมันต้องตีเมืองพายุระห่ำให้แตกก่อน จากนั้นจึงสามารถกัดเซาะ กระจายไปทั่วทั้งแคว้น
เช่นเดียวกัน
หากแคว้นเดียวดายต้องการป้องกันภัยคุกคามจากภายนอก มีเพียงทางเลือกเดียวนั่นคือปกป้องเมืองนี้จนตัวตาย ไม่อาจให้เมืองถูกยึด
เมืองพายุระห่ำได้ระดมพลมากกว่า 80,000 - 90,000 นาย ส่วนใหญ่เป็นทหารเลเวล 15 เป็นทหารชั้นยอดของแคว้น
แน่นอน
ทหารชั้นยอดของแคว้นเดียวดาย สำหรับสันเขามังกรแล้ว พวกเขาไม่ต่างจากขยะทั่วๆไป
แนวหน้าของสันเขามังกรที่มาถึงเป็นกองทัพแรก อย่างน้อยเลเวลต่ำสุดอยู่ที่ 16 ในบรรดาพวกมัน มีกระทั่งทหารชั้นสูงในเลเวล 17 18 จำนวนมาก พลังรบทัดเทียมกับขุนนางเล็ก
ดังนั้นอย่าเห็นว่ากองทัพสันเขามังกรมีจำนวนไม่มาก ในแง่คุณภาพ สุมนทหารของพวกมัน 1 นาย สู้ได้เท่ากับสมุนทหารของแคว้นเดียวดายถึง 4 นาย!
เป็นเรื่องยากมากที่เมืองพายุระห่ำจะหยุดการโจมตีรอบนี้
“เตรียมพร้อมรบ!”
ฉูเทียนหัวสั่งเสียงดัง ทหารจากทั่วแคว้นเดียวดายอยู่เต็มเมืองพายุระห่ำ มีหลากหลายสายพันธุ์ มีทั้งประเภทสู้ระยะประชิด ระยะไกล สายรักษา สนับสนุน นักเวทย์ ป้องกัน มีหมด
และตำแหน่งขบวนทัพ ถูกจัดวางอย่างพิถีพิถัน เพื่อดึงศักยภาพของกองทัพให้ออกมาได้ถึงขีดสุด
นอกเหนือจากสมุนทหารแล้ว ในกองทัพนี้ยังมีพลรบที่เป็นสายพันธุ์มีสติปัญญามากกว่า 5,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นเผ่ามนุษย์
อาศัยแค่จำนวนสายพันธุ์ที่มีสติปัญญานี้ มันเกือบจะเทียบเท่าสายพันธุ์ที่มีสติปัญญาทั้งหมดในทุกภูมิภาครวมกัน!
แม้พลังรบของเผ่ามนุษย์ส่วนใหญ่จะไม่แข็งแกร่งนัก เกือบทั้งหมดมีพลังรบทัดเทียมแค่กับทหารธรรมดา แต่เพื่อสู้ในศึกนี้ บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ต่างกรีดเลือดเฉือนเนื้อ ทุ่มเงินมหาศาล ซื้อโพชั่นฟื้นฟู คัมภีร์สกิล โพชั่นมนตรา อาวุธเหนี่ยวนำมนตรา ฯลฯ มาเป็นจำนวนมาก
ทั้งหมดคืออาวุธลับที่เตรียมมาเพื่อสงครามครั้งนี้!
“ศัตรูใกล้เข้ามาแล้ว!”
"ทีมปืนใหญ่หน่วยหนึ่งและสองเตรียมพร้อม!"
ทีมมนุษย์เล็งปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตราเลเวล 15 จำนวนกว่า 400 - 500 กระบอกไปทางศัตรู รอข้าศึกเข้าแนวยิง
และเมื่อฉูเทียนหัวประกาศคำสั่งอีกครั้ง ปืนใหญ่ทั้งหมดจุดชนวนพร้อมกันในคราเดียว
ในชั่วพริบตา เกิดเสียงดังสนั่นอึกทึก
ลูกกระสุนปืนใหญ่นับร้อยนัด ยิงใส่กองทหารข้าศึกที่อยู่ห่างไปไกลกว่าพันเมตร
แม่ทัพมังกรสปิตซ์ แม่ทัพมังกรบารุตเห็นภาพนี้ แต่ก็ไม่ตื่นตระหนกใดๆ พวกมันทราบข้อมูลนี้มาก่อนแล้วจากแหล่งข่าวกรอง
มนุษย์ในแคว้นเดียวดายมีอาวุธเหนี่ยวนำมนตราที่ทรงพลัง และยิ่งปล่อยไว้นานวัน จำนวนอาวุธเหนี่ยวนำมนตราก็ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น เป็นภัยคุกคามที่ไม่ควรประมาท
เมื่อได้เห็นกับตา ข้อมูลดังกล่าวถูกต้องจริงๆ ปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตราเลเวล 15 คุณภาพสีเขียวกว่า 400 500 กระบอก มากเกินพอแล้วที่จะเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อสมุนทหารทั่วๆไป
หากตกอยู่ภายใต้การล้างบางจากปืนใหญ่หลายระลอก แน่นอนว่าต้องเกิดการบาดเจ็บล้มตายอย่างหนัก และเกิดความโกลาหลในกองทัพ และถ้าเป็นแบบนี้คงไม่มีโอกาสได้เข้าประชิด
ตกเป็นเป้านิ่งเพียงฝ่ายเดียว
กระนั้น ช่างน่าเสียดาย
สิ่งที่กองทัพแคว้นเดียวดายกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ไม่ใช่กองทัพขุนนางใหญ่ทั่วๆไป แต่เป็นกองทัพสันเขามังกรอันยิ่งใหญ่! อีกทั้งยังมีถึงสองแม่ทัพเข้าร่วมสงคราม
อาศัยเพียงทีมปืนใหญ่อย่างเดียว มันยังไม่พอ!
“เปิดเขตแดน!”
สปิตซ์ออกคำสั่ง
ณ ใจกลางขบวนทัพสันเขามังกรแต่ละกองสว่างไสวไปด้วยแสงจ้า
หากสังเกตดีๆจะพบว่า แสงสว่างจ้าเหล่านี้คือหุ่นเชิดเหนี่ยวนำมนตราที่กำลังเคลื่อนไหว
หุ่นเชิดเหนี่ยวนำมนตรานี้มีลักษณะเหมือนมนุษย์ แต่พวกมันสูง 5 - 6 เมตร ตัวสีดำสนิท และปกคลุมไปด้วยค่ายกลหนาแน่น
พวกมันปล่อยบาเรียโปร่งใสสีฟ้าออกจากร่างกาย ห่อหุ้มขบวนทัพเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และบาเรียก็เคลื่อนตามไปด้วย จึงกลายเป็นช่วยกำบังให้แก่กองทัพสันเขามังกร
นี่คือหุ่นเชิดเหนี่ยวนำมนตราเขตแดนสงครามชนิดหนึ่ง
มันเกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุและเหนี่ยวนำมนตรา จึงสามารถคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง เต็มเปี่ยมไปด้วยแหล่งพลังงานอันทรงพลัง สามารถปลดปล่อยเขตแดนได้ในช่วงเวลาสำคัญ ใช้ได้ในทั้งเชิงรุกและเชิงรับในสงคราม
ขณะเดียวกัน กองพลแม่ทัพที่อยู่แถวหน้า ตนแล้วตนเล่ายกคัมภีร์สกิลออกมา และทุกคัมภีร์คือสกิลคุณภาพสีฟ้า ทั้งหมดถูกปลดปล่อย และพบว่าล้วนแต่เป็นสกิลป้องกัน
สร้างชั้นป้องกันอันทรงพลัง ปิดกั้นกระสุนปืนใหญ่ทั้งหมดที่เข้าปะทะ
กระสุนปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตราลูกแล้วลูกเล่าเกิดการระเบิด ท้องฟ้าและผืนดินสั่นไหว อาทิตย์และจันทราถูกช่วงชิงแสงสว่างไป
กองทัพสันเขามังกรเสมือนดั่งหินท่ามกลางเกลียวคลื่น ยืนหยัดไม่หวั่นหวั่นและไร้ซึ่งอันตรายใดๆ
เดินทัพอย่างมั่นคงและรวดเร็วเข้าหาเมืองพายุระห่ำ
ภาพนี้ทำให้คนที่รับชมต่างสะเทือนใจ
นักข่าวสงครามหลายคนกำลังถ่ายทอดสด
ฉากนี้ถูกส่งไปยังโลกมนุษย์
ผู้คนทั่วโลกตกตะลึงกับพลังรบของกองทัพนี้!
ปืนใหญ่เหนี่ยวนำมนตราของแคว้นเดียวดาย ไม่อาจทำร้ายกองทัพศัตรูได้เลย!
การป้องกันของพวกมันแก่กล้าเกินไป!
บารุตลอยขึ้นไปในอากาศ พลังงานสายลมอันไร้ที่สิ้นสุดถูกรวบรวมจากทั้งแปดทิศรอบตัว สุดท้ายก่อตัวเป็นพายุลูกใหญ่
จ้าวหมิงเห็นภาพนี้ เขาร้องตกใจ “นั่นมันสกิลอะไร? ทำไมพลังของมันดูรุนแรงกว่าสกิลที่เกิดจากมรดกขั้น 4 ซะอีก!”
นาเซอร์กล่าว “นั่นคือหนึ่งในมรดกขั้นสี่ของบารุต ‘ผู้บัญชาการเฮอริเคน’ และเป็นสาเหตุที่ทำไมมันถึงถูกเรียกว่าแม่ทัพมังกรพายุ”
“มรดกผู้บัญชาการเฮอริเคนคือมรดกประเภทสงคราม มันสามารถรวบรวมพลังจากทั้งกองทัพและเสริมอำนาจให้แก่สกิลได้!”
เหตุผลที่แม่ทัพมังกรทั้งสามของราชามังกรบ้าคลั่งมีชื่อเสียงมาก
ไม่ใช่เพราะพลังรบของพวกมันแก่กล้าขนาดนั้น เอาจริงๆพลังรบของพวกมันทัดเทียมกับระดับผู้ครองแคว้น
อันที่จริงยอดฝีมือระดับนี้ในสันเขามังกรยังมีอีกมาก ทว่าที่พวกมันถูกจัดอันดับอยู่ในแถวหน้า เพราะทั้งสามนำทัพได้เก่งกาจที่สุดในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชามากมายของเฮสการ์
มรดกผู้บัญชาการเฮอริเคนคล้ายกับจ้าวสงคราม
มรดกประเภทนี้ไม่สามารถสำแดงพลังของมันออกมาได้ยามสู้เพียงลำพัง
ทว่าหากอยู่ท่ามกลางสนามรบขนาดใหญ่ พลังทำลายล้างที่สามารถสำแดง จะมากเหมือนมีบารุตเพิ่มเป็นสิบตน!
นี่แหละคือความสามารถของผู้ที่ถูกเรียกว่าแม่ทัพมังกร!
ลม ฝน และควันไฟในสนามรบถูกปัดเป่าออกไปอย่างรวดเร็ว
ใบมีดสายลมนับพัน ราวห่าฝนกระหน่ำซัด กวาดเข้าหาเขตแดนของเมืองพายุระห่ำ ทุกการโจมตีให้เสียงซิมโฟนีของเหล็กปะทะกัน ทำลายการป้องกันทั้งหมดที่ตั้งไว้ฝั่งข้างนอก
ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนเลย!
เพียงกระบวนท่าเดียว สามารถสำแดงพลังน่าสะพรึงถึงขั้นเกือบเปลี่ยนภูมิประเทศ!
และทุกคนในเมืองพายุระห่ำต่างสามารถสัมผัสได้ ว่าเขตแดนกำลังอ่อนกำลังลงด้วยอัตราเร็วที่น่าตกใจ
ขณะที่พายุยังคงกระหน่ำซัด โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้งเลย!
สปิตซ์ก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน มันปลดปล่อยสกิลรัศมีกว้าง ห่อหุ้มแนวหน้ากองทัพสันเขามังกรเอาไว้
พริบตานั้นสมุนทหารทั้งหมดเข้าสู่สถานะคลุ้มคลั่งทันที
ภายใต้สถานะนี้ พวกมันจะไม่รู้จักความเหนื่อยล้า ไม่รู้จักความกลัว มีพลังโจมตีและความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ได้รับสกิลดูดเลือด พลังรบโดยรวมเพิ่มขึ้นถึง 40 - 50 เปอร์เซ็นต์!
ท่ามกลางพายุ พวกมันรุกคืบไปยังเมืองพายุระห่ำ
หากเซนอสอยู่ด้วย ภายใต้สถานการณ์นี้ มันจะใช้คำสาปเข้าสนับสนุน สร้างกองทัพผีดิบ ปลุกศพทหารที่ตายในสนามรบขึ้นสู้อีกแรง
นั่นหมายความว่าสมุนทหารทุกตนต้องฆ่าซ้ำสอง จึงจะกำจัดพวกมันลงได้ และสงครามจะยุ่งยากยิ่งขึ้น!
“พวกเราต้องกำจัดสองแม่ทัพมังกรให้เร็วที่สุด!” นาเซอร์กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “สปิตซ์ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง เรื่องบารุตขอฝากพวกเจ้า!”
ฉูเทียนหัว จ้าวหมิงตอบอย่างไม่ลังเล “เชื่อมือได้เลย!”
จ้าวหมิงมองไปทางชายคนหนึ่งในเวลานี้ “เพลิงสีชาด ลงมือได้!”
เพลิงสีชาดมีอาชีพนักรบ และครอบครองมรดกจ้าวสงครามเช่นเดียวกับคาลิมัว!
“พลังแห่งสามทัพ!”
เพลิงสีชาดปลดปล่อยสกิล เอฟเฟกต์ของมันจะทำให้คุณสมบัติของสมุนแนวหลังที่ยังไม่สู้ลดลง และถ่ายโอนพวกมันทั้งหมดมายังเป้าหมายที่กำหนด
นาเซอร์ เพลิงสีชาด ฉูเทียนหัว จ้าวหมิง และพลรบแนวหน้าคนอื่นๆ ต่างได้รับพรจากพลังแห่งสามทัพ พวกเขาสัมผัสได้ว่าค่าคุณสมบัติทั้งหมดเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 100 หน่วย!
บวกกับบัฟจากเหล่านักบวช ส่งผลให้พลังรบแก่กล้ากว่าปกติถึงสองเท่า!
“ไปกันเถอะ!”
มีช่องโหว่มากมายปรากฏขึ้นในเขตแดนเมืองพายุระห่ำ
กองทัพทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันอย่างเป็นทางการ
การต่อสู้อันดุเดือดได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!