Ep.497 - ผู้ปกปักษ์
1/5
Ep.497 - ผู้ปกปักษ์
[คัมภีร์สกิล : อัญเชิญราชาปีศาจ] คัมภีร์เลเวล 17 , สีม่วงคุณภาพต่ำ , ใช้ค่าพลังจิต 1,000 หน่วย , ระยะเวลาร่าย 60 วินาที , สุ่มอัญเชิญมอนสเตอร์ระดับราชันย์ปีศาจออกมาต่อสู้ , ระยะเวลาสูงสุดสี่ชั่วโมง
[ดวงตาอันน่าพรั่นพรึงของจอมเผด็จการ] ไอเท็มเฉพาะเลเวล 17 , สีม่วงคุณภาพต่ำ , ผู้ถือจะได้รับความสามารถแฝง ‘ตอบโต้พลังจิต’
[สันหลังแห่งความโกลาหล] วัตถุดิบพิเศษเลเวล 17 , สีม่วงคุณภาพกลาง , ได้รับโบนัสคุณสมบัติทุกอย่าง + 20
[หนวดของราชาปีศาจ] วัตถุดิบพิเศษเลเวล 17 สีม่วงคุณภาพกลาง , ทำดาเมจจากการโจมตีทางจิต 100 หน่วยต่อวินาทีกับเป้าหมายทั้งหมดที่อยู่ในรัศมี 50 เมตร
[หินสกิลผู้ใช้วิญญาณ : เนรเทศปฐมกาลแห่งความโกลาหล] สีม่วงคุณภาพสูง , ชิ้นส่วนมรดกของเซียนปฐมกาลเทเลพอร์ต ...
ฮังอวี่รู้สึกเสียดายเล็กน้อย ที่ไม่มีไอเท็มจำพวกอุปกรณ์ พิมพ์เขียว หรือหินสกิลที่เหมาะกับตัวเองเลย
ถึงอย่างนั้น วัตถุดิบสีม่วงสองชิ้น
ไอเท็มเฉพาะหนึ่งรายการ
คัมภีร์ม่วงหนึ่งม้วน
หินสกิลม่วงหนึ่งก้อน
ไอเท็มสีม่วง 5 ชิ้น!
ผลกอบโกยสูงเป็นประวัติการณ์!
คัมภีร์ม่วงหากนำมันไปใช้ในสนามรบ มีผลมากพอที่จะพลิกสงครามอย่างแน่นอน
ไอเท็มเฉพาะสีม่วง ‘ดวงตาอันน่าพรั่นพรึงของจอมเผด็จการ’ แม้ไม่มีโบนัสคุณสมบัติใดๆ แต่เจ้าสิ่งนี้มีประโยชน์มาก เรียกได้ว่าเป็นดาวข่มของเหล่าผู้ใช้วิญญาณ!
ไอเท็มนี้มาพร้อมกับ ‘ตอบโต้พลังจิต’ เมื่อตกอยู่ภายใต้พลังจิต หากค่าเจตจำนงของผู้ถือสูงกว่าพลังวิญญาณของผู้ร่าย ก็มีโอกาสสูงที่จะทำเอฟเฟกต์ตอบโต้
เอฟเฟกตอบโต้คืออะไร? มันคือการสะท้อนกลับนั่นเอง!
หากศัตรูใช้สกิลหลับ ก็จะหลับซะเอง ใช้พลังจิตโจมตี ก็สะท้อนกลับไปทำร้ายตัวเองเป็นต้น
อีกทั้งดวงตาอันน่าพรั่นพรึงของจอมเผด็จการคือไอเท็มสีม่วง
ตามทางทฤษฏีแล้ว มันสามารถสะท้อนสกิลทางจิตในขั้น1 - 4 ได้ ถ้าฮังอวี่เก็บมันไว้บนตัว เว้นแต่ยอดฝีมือผู้ใช้วิญญาณชั้นนำ มิฉะนั้นอย่าหวังทำร้ายเขา
เจ้าสิ่งนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์สำหรับการต่อสู้แบบทีม!
ในสนามรบ
หากฮังอวี่เป็นผู้นำ เมื่อเขาตกเป็นเป้าหมายเทคนิคควบคุม คาถาส่วนใหญ่ก็จะไร้ผล ศัตรูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าใช้คาถาควบคุมทางกายภาพอย่างเทคนิคผูกมัด เป็นต้น
แต่สกิลประเภทควบคุมทางกายภาพ ตราบใดที่ค่าคุณสมบัติพละกำลังของเป้าหมายมากพอ ก็สามารถสลัดหลุดได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนหินสกิลสีม่วง ‘เนรเทศปฐมกาลแห่งความโกลาหล’ นี่คือชิ้นส่วนมรดกของเซียนปฐมกาล เป็นมรดกขั้น 5
หินสกิลมรดกขั้น 5 !
มูลค่าของมันสูงมาก!
มีค่าไม่น้อยไปกว่าหินสกิลหลักในขั้น 4 !
แต่มันก็แน่อยู่แล้ว!
เพราะเจ้าสิ่งนี้ดรอปได้จากมอนสเตอร์ระดับราชันย์ชั้นบรอนซ์!
ถือเป็นโชคก้อนใหญ่
อย่างไรก็ตาม ที่น่าลำบากใจก็คือ หินสกิลนี้หาที่อยู่ยาก
เนื่องจากมูลค่าสูงและหายากเกินไป ในทางกลับกันไม่ง่ายที่จะหาผู้เหมาะสมที่จะเรียนรู้มัน
ส่วนที่เหลืออีกสองรายการเป็นวัสดุ
แม้เป็นวัสดุ แต่มูลค่าของมันไม่ด้อยไปกว่าอุปกรณ์สวมใส่สีฟ้าใสในเลเวลเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีไอเท็มสีฟ้าอีกนับสิบชิ้น และหินคริสตัลม่วงอีกกว่า 200 ก้อน
ผลตอบแทนอื้อซ่า
หนึ่งในนั้นคืออาวุธสองมือ [กระบี่อสูรโกลาหล] มันมีค่ามากสำหรับฮังอวี่
อาวุธสีฟ้าในเลเวล 17 นี้มีคุณสมบัติที่สูงมาก มันดีกว่านักฆ๋าขุมนรกที่เขาใช้อยู่ บอกได้ประโยคเดียวว่าสมกับเป็นของที่ดรอปจากระดับราชันย์
เสียเวลาและพลังงานไปมาก แต่ก็คุ้มค่า!
กระนั้น นี่ไม่ใช่เวลาตรวจสอบของทุกชิ้นที่ปล้นมา
ด้วยพลังรบในเลเวล 16 ของฮังอวี่ ต่อให้เขามีอุปกรณ์เลเวล 17 แต่ก็ยังไม่สามารถใช้งานมันได้
ตอนนี้มีภารกิจเร่งด่วนที่ต้องทำ นั่นคือไปพิสูจน์ว่าข้างในมีเมืองโบราณอยู่หรือไม่
ฮังอวี่ว่ายผ่านวังวนเขตแดนใต้ทะเล ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าน้ำรอบตัวหายไป เฉกเช่นเดียวกับเวลาเดินอยู่บนบก
เมื่อก้าวเข้าสู่ข้างในเขตแดน แรงดันน้ำรอบตัวหายไป เข้ามาอยู่ในเขตแดนทรงกลม เป็นมิติขนาดใหญ่รองรับอยู่ที่ก้นทะเล
เมืองมหัศจรรย์ลอยอยู่ข้างหน้า
พบแล้ว!
เมื่อมองแวบแรก เมืองนี้ดูเหมือนพีระมิดหลายขนาดเชื่อมเข้าด้วยกัน สีดำสนิททั้งเมือง แต่มีโครงสร้างแน่นหนา รูปทรงถ้าให้เรียกว่าเมืองคงไม่ถูกนัก มันเหมือนป้อมปราการไม่ก็ยานบินมากกว่า
ฮังอวี่รู้สึกโล่งใจที่ได้เห็นเมือง
สุดท้ายก็ยังอยู่!
แต่เมื่อเขากำลังจะเข้าสู่ประตูเมือง ทันใดนั้นเอง เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง อาวุธทั้งสองชิ้นในมือสะบัดออกพร้อมกัน เชือดเฉือนไปข้างหน้า
เคร้ง!
เสียงซิมโฟนีของโลหะปะทะกันดังขึ้น
ร่างโปร่งแสงกระเด็นอย่างแรง ปลิวไปไกลเป็นสิบเมตร ก่อนที่จะหายวับไปในอากาศ
ซึ่งนี่น่าจะเป็นสกิลล่องหน อีกฝ่ายใช้มันและลอบเข้ามาใกล้เขา
อย่างไรก็ตาม สกิลล่องหนของอีกฝ่ายยังไม่ดีพอ บวกกับค่าจิตรับรู้ในปัจจุบันของฮังอวี่ที่ไม่ต่ำตม
เมื่ออีกฝ่ายเข้ามาใกล้ เลยถูกตรวจเจอก่อนที่จะทันเริ่มลงมือ
“ใครกัน!?”
ฮังอวี่เริ่มตื่นตัว
เขาเรียกหวังเอ๋ออกอมา
หลังจากฮัสกี้ปรากฏตัว สุนัขสะบัดขน แล้วเอ่ยกับฮังอวี่ด้วยความประหลาดใจ “ฮ่ง เจ้านาย ที่นี่ที่ไหน? ทำไมถึงมีคนอยู่เยอะขนาดนี้!”
ค่าจิตรับรู้ของฮังอวี่ไม่ต่ำ แต่เขาไม่ใช่นักสอดแนม ที่สังเกตเห็นอีกฝ่ายเพราะเข้ามาใกล้ แต่หากอีกฝ่ายถอยออกไป ฮังอวี่ก็ไม่อาจรับรู้ถึงมันได้อีก
แต่สุนัขต่างกัน มันอยู่ในเลเวล 16 ระดับเจ้าถิ่นขั้นโกลด์แล้ว แม้ฝ่ายตรงข้ามจะใช้สกิลล่องหนขั้น 4 แต่สุนัขก็ยังจับกลิ่นอายได้อย่างง่ายดายในระยะ 100 เมตร
ผู้ซุ่มโจมตีเมื่อถูกเปิดโปง ก็ทยอยกันก้าวออกมา
เบื้องหน้าคือกลุ่มสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งงู คล้ายกับพวกเผ่าไซเรน
ฮังอวี่รู้จักสายพันธุ์นี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกนากา
ชาวนากาเป็นเผ่าไซเรนที่ค่อนข้างทรงพลัง ในแง่ของศักยภาพการเติบโตและคุณสมบัติที่มีมาแต่กำเนิด สูงกว่าพวกมนุษย์ปลาหนึ่งขั้น
ในขณะนี้มีหลายสิบตน แต่ละตนพลังรบไม่เลว พวกมันมองมาทางฮังอวี่ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
ถึงจุดนี้ เมื่อพวกมันตั้งท่าที่จะโจมตีอีกรอบ ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ขวางพวกเขาไว้
“หยุด! พวกเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”
ฮังอวี่เบนมองตามเสียง
เห็นแค่เพียงบนบันไดเทียมที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับทางเข้าเมืองลอยฟ้า ร่างสูงใหญ่ปรากฏตัว ลักษณะของเขาคล้ายกับมนุษย์มังกร แต่ผิวเรียบไร้เกล็ด คาดว่าน่าจะเป็นชาวมังกรน้ำ
ชาวมังกรน้ำเองก็เป็นหนึ่งในสาขาของเผ่ามังกรอันยิ่งใหญ่
แต่ชาวมังกรน้ำมักจะอาศัยอยู่ในมหาสมุทร ดังนั้นจึงมักถูกมองว่าเป็นเผ่าพันธุ์ทางทะเล ซึ่งแตกต่างจากเผ่ามังกรอื่นๆ
สถานที่เช่นนี้
การที่มีชาวมังกรปรากฏตัวขึ้น
นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี
อย่างไรก็ตาม
ฮังอวี่รู้สึกได้ถึงเสียงสะท้อนของจิตวิญญาณจากฝ่ายตรงข้าม นี่บ่งชี้ว่าอีกฝ่ายได้ลงนามในพันธสัญญาเดียวกันกับเขา
ดูเหมือนจะไม่ใช่ศัตรู
อีกฝ่ายคือสมาชิกของพันธมิตรหนามทมิฬ!
และเหตุผลที่อีกฝ่ายยังสามารถสงบเยือกเย็นได้จนถึงจุดนี้ คาดว่าเป็นเพราะสัมผัสได้ถึงเสียงในจิตวิญญาณของฮังอวี่เช่นกัน
ต่างฝ่ายต่างรู้ว่าคนเบื้องหน้าไม่ใช่ศัตรู
“เขาสามารถเอาชนะราชาปีศาจแห่งห้วงทะเลลึกและมาถึงที่นี่ได้ อาศัยเพียงพวกเจ้าไม่มีทางเอาชนะเขา” ชาวมังกรน้ำค่อยๆเดินลงมาและมองฮังอวี่ “สวัสดี ข้าชื่อคูเวตัน เป็นช่างหลอมอาวุธ และเป็นผู้ปกปักษ์เมืองหนามทมิฬ!”