896 - การปะทะกันของสองผู้ยิ่งใหญ่
896 - การปะทะกันของสองผู้ยิ่งใหญ่
รถศึกโบราณสีทองส่งเสียงกระหึ่มวิ่งผ่านไป แม้จะอยู่บนฟ้าแต่ลอยล้อรถก็ยังปรากฏบนพื้นดินอย่างชัดเจนแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของรถศึกคันนี้
เจียงฮ่วยเหรินโกรธมากที่รถศึกโบราณสีทองวิ่งเฉียดศีรษะของเขาจนทำให้เส้นผมยุ่งเหยิงไปหมด
“ข้าจะรอเจ้าข้างใน!”
นี่คือคำกล่าวสุดท้ายของหวังซ่ง รถศึกโบราณสีทองเคลื่อนตัวเร็วเกินไปและหายไปในพริบตา
ในระยะไกล บนถนนสายอื่น ดวงตาของเย่ฟ่านกำลังหดตัว เขากล่าวกับตัวเองว่า “ดวงตาสวรรค์!”
หวังเถิงได้ฝึกฝนดวงตาสวรรค์ซึ่งน่ากลัวกว่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ของเขา ทักษะนี้สามารถมองทะลุผ่านความเท็จทั้งหลายได้ ..
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือในระหว่างการต่อสู้กับดวงตาสวรรค์คือมันสามารถตรวจจับข้อบกพร่องทั้งหมดได้ และหลังจากฝึกฝนดวงตาสวรรค์แล้ว การเคลื่อนไหวของคนอื่นในสายตาของพวกเขาจะช้าราวกับหอยทาก
“คนนั้นทรงพลังมากแต่พี่ชายของข้าบอกว่าเขาไม่ใช่ที่หนึ่งของโลก” จี้จื่อเยว่ติดตามเย่ฟ่านไปพร้อมกับผมสีดำที่โบกสะบัดด้วยความตื่นเต้น
ด้านนอกมีความโกลาหลและหลายคนเริ่มกล่าวคุยกัน ชายผมกระเซิงเดินเข้าสู่ภูเขาด้วยท่าทางไร้ชีวิตชีวา
เมื่อเก้าพันปีที่แล้วเขาคือว่าที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่และตอนนี้แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแล้วแต่เขาก็ยังทำให้ผู้คนมากมายเกิดความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
“นี่คนแซ่เย่ เราเข้าไปข้างในหรือเปล่า หวังเถิงจะรบกวนเจ้าหรือไม่?” จี้จื่อเยว่กระซิบ
“ไม่เป็นไร พี่น้องคู่นี้ไม่สามารถสร้างความรำคาญให้กับเราได้” เย่ฟ่านไม่สนใจ
“บุตรศักดิ์สิทธิ์เหยากวงก็อยู่ที่นี่ด้วย” จี้จื่อเยว่ชี้ไปอีกด้านหนึ่งแล้วกระซิบ “พี่ชายของข้าบอกว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เหยากวงมีพลังมากกว่าที่แสดงออกมาภายนอก”
ชายคนหนึ่งเดินตามหลังพวกเขามา ทั้งร่างของเขาอาบไปด้วยรัศมีสีทองเหมือนบุตรแห่งสุริยเทพ
นอกจากนี้สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาซีก็ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด กระโปรงยาวของนางลากพื้น งดงามบริสุทธิ์ ราวกับเทพธิดาในตำหนักแสงจันทร์
เย่ฟ่านกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เหยากวงผู้นี้จะเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในบรรดาคนรุ่นเดียวกันในยุคนี้ ไม่เช่นนั้นผู้อาวุโสของพวกเขาคงไม่คุ้มครองมาที่นี่ด้วยตัวเอง”
พร้อมกันนั้นปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ของสี่ราชวงศ์อมตะที่ยิ่งใหญ่ก็เข้ามาด้วย
นักบวชชราจากทะเลทรายตะวันตกและยอดฝีมือจากหนานหลิงก็มาถึงเช่นกัน
“ช่างเป็นการรวมตัวของพยัคฆ์มังกรอย่างแท้จริง”
ผู้คนเกือบทั้งหมดจากห้าอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มาและรวมตัวที่บ้านเกิดของจักรพรรดิชิง
ในเวลานี้พวกเขาเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ใหม่พื้นที่โล่งระหว่างบ่อน้ำฮั่วเซียนและถ้ำโบราณ ซึ่งขณะนี้มีผู้คนมากมายกำลังเดินทางเข้ามา
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม เพราะสถานที่นี้อาจยิ่งอันตรายมากขึ้นเมื่ออยู่ใกล้ และพวกเขาทั้งหมดกำลังรอบทสรุปของปรมาจารย์ซุนหลงและโอหยางเย่จากตงหวง
เมื่อมาที่นี่เย่ฟ่านรู้สึกผ่อนคลายมาก เขาอยู่ที่นี่มานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว และเขาเข้าใจทุกอย่างดีกว่าปรมาจารย์ซุนหลงและคนอื่นๆ
“เจ้ากล้าเข้ามาจริงๆ สินะถ้าเจ้าตกลงไปในถ้ำมังกรและตายโดยไม่คาดคิด จำไว้ว่าเจ้าจะโทษคนอื่นไม่ได้” หวังซ่งเย้ยหยันหลังจากเห็นเจียงฮ่วยเหริน อู๋จงเทียน และผังป๋อ
พวกเขาไม่ได้ยืนอยู่ด้วยกันและตั้งใจจะแยกกันไปคนละทางตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้พวกเขาหยุดเพื่อประเมินสถานการณ์และไม่รีบเร่งไปที่ทางเข้าถ้ำมังกรหรือบ่อน้ำฮั่วเซียน เพราะเย่ฟ่านเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติและบอกพวกเขาว่าอย่าเพิ่งผลีผลาม
“เด็กสารเลวคนนี้โอหังเกินไปแล้ว ข้าอยากจะตบเขาสักทีจริงๆ” หลี่เหอซุยสาปแช่ง
“เหตุผลหลักคือพี่ชายของเขาแข็งแกร่งเกินไป ผู้อาวุโสเหล่านั้นไม่กล้ายั่วยุเขาง่ายๆ และความสำเร็จในอนาคตของเขาก็ไร้ขีดจำกัด” จักรพรรดิดำถอนหายใจ
“ให้ตายเถอะ ข้าจะรอให้เย่ฟ่านสร้างร่างศักดิ์สิทธิ์ให้เสร็จ แล้วสังหารพวกเขาให้ตายในอนาคต เด็กชายอายุสิบเอ็ดปีคนนี้ควรจะถูกบีบคอให้ตายจริงๆ” เจียงฮ่วยเหรินทำผมกระเซิง
ในเวลานี้หวังเถิง เหล่าผู้นำและคนอื่นๆ กำลังมารวมตัวกันและพูดคุยเกี่ยวกับบางสิ่ง หวังเถิงมีคุณสมบัติที่จะพูดคุยอย่างเท่าเทียมกับคนเหล่านั้นอย่างแท้จริง
“ทำไมเจ้าถึงโอหังนัก ถ้าพี่ชายของเจ้าไม่อยู่ที่นี่ข้าจะสังหารเจ้าด้วยนิ้วเพียงข้างเดียว” ใครบางคนคำรามด้วยความโกรธ
ผังป๋อรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ มีกำลังพยายามยั่วยุให้เกิดการวิวาทที่นี่ และต้องการให้พวกเขาเริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือด
“มันเป็นใคร” หวังซ่งโกรธมาก เขาตรวจสอบจากทุกทิศทางและในที่สุดก็จับจ้องไปที่เจียงฮ่วยเหรินและคนอื่นๆ
“ตูม!”
ทันใดนั้น มีสีเสีงดังจาการปะทะกันของวัตถุ แผ่นดินแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนที่ร่างของใครบางคนจะปลิวกระเด็นตกลงไปในบ่อน้ำ
จักรพรรดิน้อยแดนเหนือหวังเถิงและจักรพรรดิภาคกลางเซียงอี้เฟยต่อสู้กัน ไม่มีใครคิดว่าคนสองคนนี้จะขัดแย้งกันในสถานที่นี้
“ทั้งสองคนต่อสู้กันได้อย่างไร?”
ทุกคนประหลาดใจโดยเฉพาะผู้ที่รู้เกี่ยวกับสำนักฉีซื่อยิ่งตกใจมากกว่า เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่เซียงอี้เฟยตื่นขึ้นมาและไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกเลย
“เมื่อครู่นี้ จักรพรรดิแดนเหนือก้าวไปข้างหน้าและดูเหมือนจะกล่าวอะไรบางอย่าง เซียงอี้เฟยปฏิเสธ และทำให้พวกเขาปะทะกันในทันที
“การเคลื่อนไหวของจักรพรรดิสวรรค์ การเคลื่อนไหวของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!”
ผู้คนประหลาดใจ คนสองคนนี้มีพลังมากเกินไป เป็นผู้ที่หาได้ยากแม้กระทั่งในสมัยโบราณ พวกเขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยจนสามารถเอาชนะผู้อาวุโสได้
ทุกครั้งที่หวังเถิงเคลื่อนไหว จะมีมังกร เฟิ่งหวงศักดิ์สิทธิ์ และ พยัคฆ์ขาวรวมถึงเสวียนอู่(เต่าดำ) ปรากฏตัวขึ้นและทำให้เกิดแสงสีทองสว่างไสวปกคลุมท้องฟ้า
มังกรแท้จริงเก้าตัว เฟิ่งหวงศักดิ์สิทธิ์เก้าตัว พยัคฆ์ขาวเก้าตัว เต่าดำเก้าตัวคอยปกป้องทั้งสี่ทิศ ก่จากนั้นภาพธรรมของจักรพรรดิสวรรค์ก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ
เซียงอี้เฟยก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่ตั้งแต่ในอดีตเช่นกัน เขามีความสง่างามและภาพธรรมด้านหลังของเขาเป็นรูปของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
“พี่ชายของข้าจะต้องชนะอย่างแน่นอน ในบรรดารุ่นเยาว์เขาเป็นอันดับหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง!” หวังซ่งกำหมัดแน่น
ในความเป็นจริงผู้นำของทุกฝ่ายต่างก็ปวดหัวใครจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาสามารถเอาชนะหวังเถิงได้ ตั้งแต่สมัยโบราณมีคนกี่คนในกลุ่มอายุนี้ที่ประสบความสำเร็จเช่นเขา?
เจียงฮ่วยเหรินเสียใจมาก หัวของเขาเกือบถูกรถศึกโบราณชน ในขณะนั้นเขาจึงแค่นเสียงเย็นชา “ข้าหวังว่าเซียงอี้เฟยจะฆ่าเขาได้”
แม้ว่าเขาจะลดระดับเสียงลง แต่เสียงของเขาก็ไปปถึงหูของหวังซ่งอยู่ดี ในขณะนั้นเด็กน้อยผู้หยิ่งผยองได้หันหน้ามาทางนี้พร้อมกับตะโกนด้วยความโกรธ “รนหาที่ตาย”
“เจ้าเด็กขนดก เจ้าต่างหากที่ต้องตาย”
อู๋จงเทียนและคนอื่นๆ ในที่สุดก็ระเบิดความโกรธออกมา พวกเขาล้วนเป็นลูกหลานของโจรผู้ยิ่งใหญ่ และพวกเขามักจะทำทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ พวกเขาจะยอมให้ผู้อื่นดูหมิ่นแบบนี้ได้อย่างไร
หวังซ่งกระโดดลงจากรถศึกสีทอง ข้างหลังเขามีสิ่งมีชีวิตโบราณสองตัว ตัวหนึ่งปกคลุมด้วยเกล็ดสีทอง และอีกตัวเป็นสีเงิน
แม้ว่าเจียงฮั่วยเหริน อู๋จงเทียน และหลี่เหอซุยจะโกรธ แต่พวกเขาก็ต้องยอมรับว่า หวังซ่งมีผู้ยิ่งใหญ่คุ้มครองแบบนี้พวกเขาก็ไม่มีหวังที่จะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามจริงๆ
“ข้าได้ยินมาว่าเย่ฟ่านเป็นเพื่อนเก่าของพวกเจ้า ข้าอยากจัดการกับพวกเจ้ามานานแล้ว!” หวังซ่งเย้ยหยัน เพราะมีสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองตามมาด้วย เขาจึงไม่กลัวที่จะเสียหน้าเลย
ผังป๋อเดินออกไปข้างหน้าและกล่าวว่า “เจ้าเด็กสารเลว เจ้าคิดว่าพวกข้าเป็นน้องชายของเจ้าหรือ เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะกล่าวเช่นนี้”
“ข้าไม่มีคุณสมบัติ? ข้าจะกระทืบพวกเจ้าทุกคนแล้วโยนเจ้าเข้าไปในถ้ำมังกรเพื่อป้อนสัตว์ประหลาดที่มีผมสีแดงรูปร่างคล้ายมนุษย์!”
หวังซ่งไม่ใช่ผู้ใหญ่แต่คำกล่าวของเขาโอ่อ่ามาก เขายืนอยู่บนหินสีน้ำเงินและมองลงไปที่ผู้คนที่อยู่ข้างหน้าอย่างเย้ยหยัน
“คนที่ข้าพบในตอนนั้นคือเย่เจ๋อเทียน เขาอยู่ที่นี่ด้วยหรือไม่ รีบบอกเขาออกมารับความตาย”
สิ้นเสียงเขาเก็ส่งสัญญาณไปยังสิ่งมีชีวิตโบราณทั้งสองให้เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ตลอดเวลา
ในระยะไกล การต่อสู้ระหว่างหวังเถิงและเซียงอี้เฟยกำลังดึงดูดความสนใจของคนส่วนใหญ่ แต่หลายคนก็สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของที่นี่เช่นกัน
“ตัวไม่ใหญ่ แต่น้ำเสียงยิ่งใหญ่เทียมฟ้าจริงๆ” เสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้นความว่างเปล่าก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พร้อมกันนั้นเท้าที่มีขนาดใหญ่โตกว่าร้อยวาก็ตกลงมาจากท้องฟ้า
ควันและฝุ่นลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า แผ่นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หวังซ่งตะโกนแต่ไม่สามารถหลบหลีกได้
บูม!
ทุกคนตกตะลึง แม้แต่หวังเถิงที่อยู่ไกลออกไปก็ยังหันมามองด้วยความตกใจอย่างยิ่ง มีใครบางคนกล้าลงมือต่อน้องชายของเขาจริงๆ
“เย่ฟ่าน”
หวังซ่งตะโกน เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะพบเจอกับปีศาจคล้ายตัวนี้อีกครั้ง
“นี่คือเย่ฟาน ทรราชแห่งตงหวงที่หายสาบสูญไปสองปี!” หลายคนประหลาดใจ
บุตรศักดิ์สิทธิ์เหยากวง เหยาซี องค์ชายเซี่ย สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก องค์หญิงเยว่หลิง และคนหนุ่มสาวอีกหลายคนก็มาที่นี่เช่นกัน