ตอนที่ 9-46 คำสั่ง
บุรุษตาเดียวผมแดงพาพวกนักเลงคุมทาสออกจากเรือบรรทุกทาส ขณะที่พีลและคนหัวโล้นอีกคนยืนเฝ้าดาดฟ้าสนทนากันตามปกติขณะชำเลืองมองเรย์โนลด์เป็นครั้งคราว
“พีล, พรุ่งนี้เราจะไปถึงเมืองหลวงกันแล้วถึงตอนนั้นเราจะส่งพวกทาสออกไปและคงมีเวลาว่างทำอะไรดีๆ กัน ใช้เวลาทุกวันบนเรือนี่ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก” บุรุษหัวโล้นบ่นด่าเบาๆ
พีลก็เริ่มหัวเราะเช่นกัน
แต่ขณะนั้นพีลได้ยินเสียงคำรามที่น่ากลัวจากอสูรเวทตนหนึ่ง...
“โฮววว!” ทันใดนั้นงูเพลิงขนาดมหึมาน่ากลัวตัวหนาเท่าถังน้ำระเบิดออกมาจากในห้องเรือ แรงระเบิดทำให้เกิดรูข้างเรือ
อสรพิษเพลิงตัวมหึมาขนาดเท่าถังบรรจุน้ำยาวเกินกว่าร้อยเมตรส่งเสียงคำรามม้วนตัวรอบลำเรือทาสไว้ ส่งผลให้เกิดเพลิงลุกไหม้ทันที ขณะเดียวกันอสรพิษเพลิงยังโจมตีใส่ภายในเรือและระเบิดทะลวงทะลุเรือทั้งลำ นอกจากทาสราวๆ สิบคนที่อยู่ท้องเรือถูกเผาจนตายแล้วทาสเป็นร้อยคนแตกตื่นหนีออกมาทางช่องที่อสรพิษเพลิงสร้างไว้
“ปัดโธ่เว้ย, ไอ้รูปหล่อนั่น!” พีลพูดพลางสีหน้าเปลี่ยน
“เร็วเข้า! จับเขาให้ได้!”
บุรุษหัวโล้นทั้งสองคนวิ่งเข้าไปในห้องของเรย์โนลด์ทันที ขณะนั้นพวกเขาไม่สนใจทาสธรรมดาแม้แต่น้อย แต่อสรพิษเพลิงขนาดมหึมาพุ่งเขาโจมตีทั้งสองคนทันที
“แม่มันเอ๊ย. อสรพิษเพลิง ระวังให้ดี!” พีลและสหายอีกคนต่างกังวลทั้งคู่
เวทธาตุไฟระดับเจ็ด– อสรพิษเพลิง!
นี่คือเวทที่ทรงพลังที่สุดที่เรย์โนลด์ร่าย อสรพิษเพลิง ถ้าเวทนี้ก้าวหน้าไปอีกระดับ มันจะกลายเป็นเวทระบำอสรพิษเพลิง เวทระดับแปด ระบำอสรพิษเพลิงจะสร้างอสรพิษเพลิงสำหรับโจมตีได้ถึงเจ็ดตัวและอุณหภูมิของอสรพิษเพลิงจะร้อนแรงมากกว่า สำหรับอสรพิษเพลิงนั้นก็ยังมีพลังมากมายอยู่ดี
นักรบระดับเจ็ดเกือบทั้งหมดไม่กล้าสู้กับมันโดยตรง
เจ้าโล้นพีลหลบหลีกพลังโจมตีของอสรพิษเพลิงอย่างคล่องแคล่วเหมือนกับปลา ขณะเดียวกันก็เคลื่อนขึ้นหน้าไปยังที่ซึ่งเรย์โนลด์อยู่แต่เดิม ในห้องนั้นพีลไม่เห็นอะไรอื่นนอกจากเถ้าถ่าน คนคุมทาสสองคนดำไหม้เป็นตอตะโกและมีช่องโหว่ใหญ่สองช่องที่ผนัง
เห็นได้ชัดว่าเรย์โนลด์หนีไปทางช่องทั้งสองนี้
“อ๊า อ๊า!!” เสียงร้องโหยหวนใกล้ๆสามารถได้ยินชัด บุรุษโล้นอีกคนไม่สามารถหลบอสรพิษเพลิงได้พ้น ทันทีที่มันเฉียดผ่านมนุษย์อสรพิษเพลิงจะม้วนตัวรัดเขาทันที ปราณคุ้มครองตัวของบุรุษโล้นหมดไปอย่างรวดเร็วและกลิ่นของเนื้อไหม้เริ่มโชยออกมา
เมื่อเห็นแบบนี้สีหน้าของพีลถึงกับเปลี่ยน
“เดล!!!”พีลแทบเป็นบ้า “เจ้าบัดซบเอ๊ย”
ตอนนี้ทาสหลายคนที่หลบหนีออกมาจากท้องเรือเริ่มแตกหนีไปในทิศต่างๆอย่างบ้าคลั่ง หลังจากถูกจับมาเป็นทาสพวกเขารู้สึกสิ้นหวังอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้พวกเขาทุกคนมีความหวังอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาหนีไปอย่างบ้าคลั่ง
พีลพุ่งออกมาจากช่องโหว่ทั้งสองนั้นและใช้พลังกระโดดสุดกำลังขึ้นฝั่งอีกด้านหนึ่ง
“ไอ้รูปหล่อบัดซบ”พีลจ้องดูเรือทาสในแม่น้ำโบนี่ ที่มอดไหม้และจมลงอย่างช้าๆและยังมีเพลิงลุกไหม้ต่อไป น้ำเต็มไปด้วยควันไฟ เรือนี้จบสิ้นแล้ว
“พีล, เดล!” เสียงคำรามดังลั่นมาแต่ไกล
บุรุษผมแดงตาเดียววิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ตาเดียวของเขาเต็มไปด้วยความโกรธจนพูดไม่ออก เขาถลึงตามองพีลคำรามลั่นด้วยความโกรธ “พีล, มันอยู่ไหน? ไอ้จอมเวทนั่นมันอยู่ไหน?”
“ใต้เท้า! จอมเวทนั่นร่ายเวทอสรพิษเพลิง ไม่รู้ว่าเขาหนีไปที่ใด เดลตายแล้ว” พีลก็โกรธเหมือนกัน
บุรุษตาเดียวหอบด้วยความโกรธ
อสรพิษเพลิงสามารถจัดการกับนักสู้ระดับเจ็ดได้ แต่ถ้ามันอยู่ต่อหน้าบุรุษตาเดียว เนื่องจากเขามีพลังนักรบระดับแปดเขาสามารถทำลายอสรพิษเพลิงและจับเรย์โนลด์ได้ทันที
นี่คือเหตุผลที่องค์การค้าทาสของเขาส่งเขามา นักรบระดับแปดคนเดียวที่รับภารกิจนี้
แต่บุรุษตาเดียวคาดไม่ถึงเลยว่าหลังจากเขาสั่งสอนให้บทเรียนจอมเวทไปแล้ว เขายังจะกล้าทำแบบนี้กับเขา
“เร็วเข้า ไปจับมันเอาตัวจอมเวทนั้นกลับมา” บุรุษตาเดียวตะโกนใส่คนคุมทาสรอบๆ ทันที “พวกเจ้าทั้งสิบคนแยกย้ายกันค้นหาทั้งในที่ทวนแม่น้ำ และตามน้ำ พวกเจ้าอีกสิบสองคนอยู่ที่นี่ค้นหาบริเวณใกล้เคียง พวกเจ้าต้องเอาตัวจอมเวทกลับมาให้ข้า เร็วๆ เข้า!”
“ขอรับ, ใต้เท้า!”
นักเลงคุมทาสพากันโกรธและแยกย้ายกันไปทุกทางกำลังส่วนใหญ่ของพวกเขาจะเน้นค้นหาพื้นที่รอบๆ ขณะที่มีเพียงนักเลงคุมทาสห้าคนค้นหาทั้งทวนแม่น้ำและตามแม่น้ำ
เรย์โนลด์แต่งตัวเหมือนกับทาสคนอื่น อยู่ในชุดเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งและร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล เพราะทาสอื่นๆ ก็หนีไปด้วยเช่นกัน หลายครั้งที่นักเลงคุมทาสเห็นทาสคนอื่นๆและคิดว่าพวกเขาเป็นเรย์โนลด์ และวิ่งไปจับเขาทันที โชคไม่ดีพวกเขาเสียเวลาเปล่า
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
บุรุษตาเดียวยืนอยู่ที่ท่าเรือ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธขณะที่เขาเดินงุ่นง่านวนเวียนไปมา
“ใต้เท้าเราพบพวกทาสตามลำน้ำได้เกินกว่าสิบ แต่ยังไม่พบจอมเวทเลย” นักเลงคุมทาสคนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงาน ความเร็วที่พวกเขาเดินทางไปตามแผ่นดินยังเร็วมากกว่าความเร็วของกระแสน้ำแน่นอน
“ใต้เท้า, เราไม่พบจอมเวททางด้านเหนือลำน้ำเลย”
“ใต้เท้า เราไม่พบจอมเวทนั้นในบริเวณแถวนี้ พวกเราพบแต่พวกทาสธรรมดา”
เมื่อได้ยินรายงานจากบริวารคนแล้วคนเล่า บุรุษตาเดียวจ้องมองไปทั่วบริเวณ เขาโกรธแทบตาย ท่าเรือนี้คือท่าในเมืองเล็ก องค์การของพวกเขาไม่มีกองกำลังประจำอยู่ที่นี่
นี่คือสาเหตุให้บุรุษตาเดียวไม่มีทางเลือกได้แต่ส่งนักเลงคุมทาสหลายสิบคนออกไปค้นหาเรย์โนลด์
คนทั้งหลายสิบคนใช้เวลาชั่วโมงหนึ่งค้นหาโดยรอบไม่พบเรย์โนลด์อย่างนั้น...ไม่มีทางที่เขาจะถูกพบแล้ว เพราะชั่วโมงหนึ่งก็เพียงพอให้คนผู้หนึ่งหนีไปได้ไกล และคนหลายสิบคนจะไปค้นหาพื้นที่หลายสิบตารางกิโลเมตรได้ยังไง?
“บัดซบเอ๊ย!” บุรุษตาเดียวสบถ “ไปกันเถอะ เราต้องรายงานเรื่องนี้ให้องค์การทราบทันที ไอ้หนุ่มรูปหล่อนั่น อย่าให้ข้าจับได้ก็แล้วกัน..มิฉะนั้น..ข้าจะต้องทำให้มันแย่ยิ่งกว่าตายแน่นอน”
ตอนนี้ท้องฟ้ามืดค่ำแล้ว บุรุษตาเดียวและคนอื่นๆ จากไปอย่างจนใจ ห่างออกไปหลายพันเมตรอีกฝั่งแม่น้ำด้านหนึ่ง มีร่างมนุษย์โผล่ออกมาจากน้ำ
“เฮ้ออออ” เรย์โนลด์ระบายลมหายใจยาวจากปาก
เมื่อชำเลืองมองดูโดยรอบเรย์โนลด์ถอนหายใจ เรย์โนลด์ไม่กล้าผ่อนคลายความระวังแม้แต่น้อยในระหว่างพยายามหลบหนี หลังจากร่ายเวทแล้ว เขาก็พุ่งลงน้ำทันทีจากนั้นใช้หลอดต้นกกช่วยหายใจแต่ละครั้งที่ดำน้ำลงไปเขาจะไปได้ไกลมากว่าพันเมตรก่อนจะกล้าโผล่ศีรษะขึ้นมา
“ตอนนี้เราออกมาไกลมากแล้ว คนพวกนั้นคงหาเราไม่พบแล้วในเวลานี้” เรย์โนลด์ขึ้นฝั่ง
ร่างของเรย์โนลด์เริ่มปล่อยไอสีขาวชั่วเวลาต่อมา เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งของเรย์โนลด์ก็แห้งอีกครั้งเรย์โนลด์กวาดตามองพื้นที่รอบๆ ตัวที่เขาใช้ล่องแม่น้ำลงมา
“องค์การค้าทาสนั่นต้องมีคนอยู่ในเมืองใหญ่ทุกเมืองแน่ คงจะดีกว่าถ้าเราเลือกเมืองเล็กๆ เราไม่สามารถกลับไปยังชายแดนระหว่างสองจักรวรรดิได้ องค์การค้าทาสจะต้องมีคนอยู่บ้างที่เมืองชายแดน” แม้ว่าเรย์โนลด์จะเชื่อว่าพวกเขาคงไม่ทุ่มเทกำลังคนมาค้นหาเขา แต่เขาระมัดระวังไว้ก่อนจะดีกว่า เรย์โนลด์ตัดสินใจเข้าดินแดนอนารยชนก่อนโดยผ่านไปทางจักรวรรดิโรฮอลท์ และจากนั้นค่อยผ่านดินแดนอนารยชนเข้าจักรวรรดิโอเบรียน
…..
ตอนนี้โลกมืดมากแล้ว แสงเพียงอย่างเดียวที่สามารถมองเห็นได้ก็คือกองไฟที่กระจัดกระจายเงาร่างดำสายหนึ่งบินผ่านท้องฟ้าแหวกอากาศไปด้วยความเร็วสูง
“วิ้วววว” การบินด้วยความเร็วสูงของพวกเขาทำให้ผู้เฒ่าไวท์ต้องหยีตาลงโดยไม่ได้ตั้งใจ จากท้องฟ้า เขาสามารถเห็นถนนได้ชัดเจนดังนั้นจึงทำให้เขาหาสถานที่ต่างๆ ได้ง่าย
“อาจารย์ลินลี่ย์ มันอยู่ข้างล่างเราแล้ว” ผู้เฒ่าไวท์ชี้ไปที่เมืองชนบทไกลๆ
“โอว?เมืองน้อยนั่นคือสำนักงานใหญ่องค์การท่านหรือ?” ลินลี่ย์ชำเลืองมองผู้เฒ่าไวท์ เมืองดูเหมือนจะแตกต่างจากเมืองน้อยตามปกติ ในท่ามกลางความมืด สามารถเห็นโคมสองสามดวงได้
ผู้เฒ่าไวท์พยักหน้าทันที “นี่เป็นแค่ความสามารถในการอำพรางขององค์การของเรา”
“ควั่บ!”
ลินลี่ย์บินลงไปทันทีทิ้งเงาลวงตาตามหลังไว้ด้านหลังของเขา เขาลงมายืนอยู่ตรงกลางสำนักงานใหญ่องค์การค้าทาส ซึ่งก็คือเมืองน้อยนี้
ลินลี่ย์อยู่ในชุดสีน้ำเงินโฉบลงจากอากาศ เขาคลายมือปล่อยตัวผู้เฒ่าไวท์ลงกับพื้น “เรียกหัวหน้าองค์การของท่านออกมา”
ผู้เฒ่าไวท์ไม่กล้าขัดขืน
ขณะนี้เองคนจำนวนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงรายล้อมพวกเขาไว้ แต่เมื่อพวกเขาเห็นลินลี่ย์ยืนอยู่ในกลางอากาศพวกเขาตะลึงกันทุกคน กล่าวโดยทั่วไปมีแต่เซียนเท่านั้นที่สามารถบินได้ปกติจอมเวทสายลมก็สามารถบินได้เช่นกัน ความจริงในตอนนี้ลินลี่ย์สามารถบินได้โดยไม่ต้องแปลงกายเพราะเขาร่ายเวทเงาลมไว้แล้ว
“ผู้เฒ่าไวท์, ทำไมท่านถึงมานี่เล่า?” สตรีวัยกลางคนชำเลืองมองลินลี่ย์จากนั้นกระซิบกับผู้เฒ่าไวท์
ผู้เฒ่าไวท์ตะโกนเสียงดัง“เร็วๆ เข้า เรียกท่านประธานออกมา! ท่านผู้นี้คืออาจารย์ลินลี่ย์ นักรบเลือดมังกรผู้ทรงพลัง, อาจารย์ลินลี่ย์!”
อาจารย์ลินลี่ย์?
คำพูดนี้มีผลมาก องค์การค้าทาสถ้าว่ากันในเรื่องพลังก็ยังนับว่าด้อยกว่าสามหอการค้าใหญ่ หรือสี่สมาคมนักฆ่า โดยปกติจะไม่กล้าล่วงเกินยอดฝีมือระดับเซียน หลายๆ คนวิ่งไปตามหัวหน้าของพวกเขา พวกคนระดับสูงเริ่มมาชุมนุมกันอย่างรวดเร็ว
ลินลี่ย์ยืนอยู่ในกลางอากาศที่เดิมรอคอยอย่างสงบ บีบีเกาะอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์
“พี่ใหญ่,เมืองน้อยแห่งนี้ดูเหมือนจะธรรมดามาก แต่ภายในอาคารเหล่านี้มีแบบเฉพาะตน! หลายๆ อาคารมีห้องใต้ดินด้วย” บีบพูดกับลินลี่ย์ทางใจ
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ในช่วงเวลาสั้นๆคนกลุ่มใหญ่ตรงมาในทางนี้แต่ไกล หัวหน้ากลุ่มพวกเขาเป็นบุรุษผอมสูงสวมชุดยาวสีฉูดฉาด คนผู้นี้กึ่งเดินกึ่งวิ่งหน้าผากของเขามีเหงื่อเกาะพราว
“อาจารย์ลินลี่ย์ ข้าชื่อเดนนิส และข้าเป็นประธานขององค์การนี้มีอะไรที่ข้าพอจะช่วยได้บ้างไหม? ถ้ามีโปรดแจ้งเราได้เลย, ท่านอาจารย์” คนร่างสูงพูดอย่างนอบน้อมและเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
แม้ว่าเขาไม่เคยพบกับลินลี่ย์มาก่อน แต่นักสู้ชั้นเซียนที่ลอยตัวอยู่ในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็เป็นคนที่เขาไม่กล้าล่วงเกิน
ลินลี่ย์ชำเลืองมองเขาจากนั้นกล่าว “ท่านเดนนิส! เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมาท่านซื้อจอมเวทคนหนึ่งจากผู้เฒ่าไวท์ที่เมืองชายแดน ตอนนี้เขาน่าจะมาถึงที่นี่แล้ว”
เดนนิสสะดุ้ง
บุรุษที่สูงอายุกว่าอ้วนกว่าข้างตัวเดนนิสรีบกล่าว “อาจารย์ลินลี่ย์,ข้าเป็นคนที่รับผิดชอบงานนี้ ช่วงกลางทางระหว่างมาที่นี่ที่แม่น้ำโบนี่จอมเวทผู้นั้นเผาเรือขนทาสแล้วหนีไป”
“หนีไป?” ลินลี่ย์ประหลาดใจแต่ก็โล่งใจ
น้องสี่ช่างน่าประทับใจสามารถหนีไปจากองค์การค้าทาสได้
เพียงแต่ตอนนี้เดนนิสเรียกความรู้สึกได้และเขาพยักหน้า “ข้ารู้เหตุการณ์นี้ดีเช่นกัน หลังจากจอมเวทนั้นหนีไปแล้ว เราส่งกองกำลังไปตามเมืองต่างๆพยายามจะจับเขากลับมา แต่เราก็ยังหาเขาไม่พบ นี่ก็เกินสิบวันไปแล้ว”
“ท่านประธานจอมเวทนั้นคือสหายรักของอาจารย์ลินลี่ย์” ผู้เฒ่าไวท์รีบกล่าว
หน้าของเดนนิสยิ่งบิดเบี้ยวขณะเดียวกันเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกกลัว
ลินลีย์มองดูพวกเขา “จากวันนี้เป็นต้นไปห้ามพวกเจ้าจับสหายของข้าอีก” เดนนิสรีบรับคำ “แน่นอนถ้าเราพบเขาเราจะปฏิบัติต่อเขาเหมือนกับอาคันตุกะผู้มีเกียรติ”
ลินลี่ย์พยักหน้าอย่างใจเย็น ลินลี่ย์ไม่เสียเวลาพูดอีกต่อไปเขาพาบีบีเหาะจากไป
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน องค์การค้าทาสไม่ได้มีเรื่องอะไรมากในตอนนี้ น้องสี่หลบหนีไปได้นานเกินสิบวันแล้ว ตอนนี้เขาน่าจะหนีไปได้ไกลแล้ว
ในกลางอากาศ
“บีบีเจ้ากลับไปก่อน ไปพาซาสเลอร์และคนอื่นๆมุ่งหน้าสู่แดนอนารยชนข้าตั้งใจจะใช้เวลาสักเล็กน้อยค้นหาบริเวณแถวแม่น้ำโบนี่และระหว่างชายแดนจักรวรรดิโรฮอลท์และจักรวรรดิโอเบรียน ข้าต้องการดูว่าจะหาน้องสี่พบไหม หลังจากเสร็จแล้วข้าจะไปสมทบกับพวกเจ้า” ลินลี่ย์สรุปการตัดสินใจไว้เช่นนี้
การค้นหาโดยใช้พลังจิตเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดมากสำหรับนักรบระดับเซียน
นักรบระดับเซียนส่วนใหญ่สามารถค้นหาโดยใช้พลังจิตวิญญาณของพวกเขาได้เป็นครั้งคราว เพราะในความเป็นจริงพลังจิตของพวกเขาไม่แข็งแกร่งเท่าใดนัก เป็นจอมเวทผู้มีพลังจิตแข็งแกร่ง ในเรื่องของพลังจิต แม้แต่เฮนด์เซนผู้ฝึกมาเป็นเวลาหลายร้อยปีก็แทบจะทัดเทียมกับลินลี่ย์
จะต้องใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงจึงจะครอบคลุมระยะทางขนาดนั้น แต่ถ้าค้นหาอย่างระมัดระวัง เขาจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายวัน
“เข้าใจแล้ว” บีบีผงกหัวอย่างว่าง่าย จากนั้นบินสู่จักรวรรดิโอเบรียนด้วยความเร็วสูง