ตอนที่ 9-45 โหดอำมหิต
ย้อนกลับไปวันที่21 กันยายน ปียูลานที่ 10009 หลังจากวันที่วอร์ตันและนีน่าแต่งงานกันได้ไม่นาน เวลานี้ลินลี่ย์เชื่อว่าเรย์โนลด์ตายแล้ว
อย่างไรก็ตาม....
“นี่คือวันที่สามที่อยู่บนเรือ เจ้าบัดซบนั่นเพิ่งทรมานทาสอื่นจนตาย จากนั้นโยนเขาลงแม่น้ำ” เมื่อมองผ่านหน้าต่างกรงเหล็กออกไปเรย์โนลด์สามารถเห็นโลกภายนอกได้ เขาดูเหมือนจะแข็งแรงดีแล้ว แต่รอยเลือดจากร่างของมนุษย์ที่ถูกโยนลงแม่น้ำยังปรากฏ มนุษย์ผู้นั้นจมลงในแม่น้ำดังผลุบ
ในกองทัพเรย์โนลด์ได้เห็นแล้วว่าชีวิตมนุษย์ไร้ค่าเพียงไหน
อย่างไรก็ตามในการขนส่งทาสนี้เรย์โนลด์ตกใจอย่างแท้จริงกับความน่ากลัวของคนค้าทาสเหล่านี้ โชคดีที่เขา เรย์โนลด์เป็นสินค้าที่มีค่ามากและคนค้าทาสพวกนั้นไม่กล้าฆ่าเขา
“ควั่บ!” แส้หวดใส่ร่างของเรย์โนลด์อย่างหนักและจากนั้นก็เป็นหน้าของเรย์โนลด์ รอยริ้วเลือดเกิดขึ้นที่ใบหน้าของเขาและเสื้อผ้าที่รุ่งริ่งของเขาเต็มไปด้วยรอยขาดวิ่นเช่นกัน
“แม่ง..เอ๊ย.. เจ้ามองอะไร?”ผู้คุมตัวใหญ่กวัดแกว่งแส้ตะคอกใส่เรย์โนลด์ด้วยความโกรธ
เรย์โนลด์ทำได้แต่เพียงอยู่ที่มุมของเรือไม่กล้าส่งเสียงอะไร เขาเรียนรู้ที่จะเชื่อฟัง ถ้าเขาต้องการพยายามทำตัวเป็นผู้กล้าจ้องมองกลับ...บางทีเขาอาจโดนทรมานทั้งคืน
เรือบรรทุกทาสนี้มีขนาดใหญ่มากดาดฟ้าด้านล่างสุดบรรทุกทาสราคาถูกที่สุด พวกคนค้าทาสเหล่านั้นบางครั้งจะลงไปที่ห้องนั้นและถ้าพวกเขาเห็นบางคนที่พวกเขาไม่ชอบ พวกเขาจะเล่นงานพวกทาสที่ไม่ชอบอย่างหนัก
เรย์โนลด์ในฐานทาสที่มีค่ามากถูกจองจำไว้ในห้องพิเศษชั้นสอง หน้าต่างสำหรับห้องนี้ทำด้วยเหล็กกล้าและมีนักเลงสองคนคอยดูตลอดเวลา
พวกผู้คุมน้อยคนนักจะประจำอยู่ในห้องอื่นบนชั้นที่สอง
ชั้นที่สามและเป็นชั้นบนสุดจะใช้เป็นที่พักของผู้นำการขนส่งเรือทาสหนึ่งในนั้นเป็นยอดฝีมือระดับแปด ขณะที่อีกสองคนเป็นยอดฝีมือระดับเจ็ด ถ้าไม่ใช่เพราะเรย์โนลด์ เรือขนส่งทาสลำนี้คงจะไม่มียอดฝีมือระดับแปดร่วมทางมาด้วย
บนดาดฟ้าของเรือลำนี้บุรุษร่างสูงศีรษะโล้นเดินลงมาจากชั้นที่สาม
“ใต้เท้าพีล” คนคุมที่รายล้อมพูดด้วยความเคารพ
เมื่อเห็นรอยเลือดบนดาดฟ้าของเรือบุรุษศีรษะโล้นขมวดคิ้ว “ล้างคราบเลือดนั้นออกไป อีกอย่างพวกทาสมีราคาเป็นเงินเป็นทอง พวกเจ้าทุกคนต้องระมัดระวังเวลาตีพวกมันด้วยอย่าฆ่าพวกมัน ถ้าพวกเจ้าฆ่าทาสคนหนึ่งก็หมายความว่าองค์การจะต้องสูญเสียเงินไปบางส่วน”
ผู้คุมเหล่านั้นไม่กล้าส่งเสียง
บุรุษศีรษะโล้นแค่นเสียงจากนั้นเดินเลาะไปตามขอบรั้วเรือ ลมยามราตรีพัดเย็นทำให้เขารู้สึกสดชื่นและชมภาพงดงามยามราตรีของแม่น้ำโบนี่
“จริงสิ, จอมเวทผู้นั้นเป็นยังไงบ้าง?” บุรุษศีรษะโล้นแค่นเสียง
คนคุมทาสที่อยู่ใกล้ๆกล่าวอย่างประจบ “ท่านพีลจอมเวทเด็กหนุ่มรูปงามนั้นมีพื้นฐานมาจากระดับสูงและทรงพลัง แต่หลังจากเด็กๆ ของเราใช้เวลาฝึกฝนเขาสักนิดช่วงเวลาสองสามวันมานี้ เขาได้เรียนรู้บทเรียนไปบ้างแล้ว”
“เยี่ยมมาก” บุรุษศีรษะโล้นพูดอย่างใจเย็น “พวกเจ้าทุกคนต้องระวังและจับตาดูจอมเวทนั้นอย่างใกล้ชิด สินค้าที่มีค่าเพียงอย่างเดียวที่เราขนส่งครั้งนี้ก็คือจอมเวทระดับเจ็ด และจากที่เห็น จอมเวทนี้คือคนชั้นสูงเมื่อเราขายเขา ราคาย่อมสูงกว่าธรรมดา”
พวกคนคุมทาสพยักหน้ากันทุกคน
จอมเวทหนุ่มระดับเจ็ดเป็นหนึ่งในสินค้าประมูลที่ดีที่สุดซึ่งจะปรากฏอยู่ในตลาดค้าทาสแน่นอน คนจะต้องคลั่งไคล้เขายิ่งกว่าสาวบริสุทธิ์ที่งดงามเสียอีก
“นั่นเสียงอะไร?” บุรุษหัวโล้นขมวดคิ้วทันทีจากนั้นหันหน้าไปมองดูห้องเรือ “เจ้าคนป่วยนั่นยังไออยู่เลย ลากมันออกมา โธ่เว้ย..เขาทำให้ข้าหงุดหงิดเสียจริง’ แววกระหายเลือดแฝงอยู่ในดวงตาของคนศีรษะโล้น
ในไม่ช้าชายหนุ่มร่างผอมถูกลากออกมา เท่าที่เห็นเขามีอายุราวสิบแปดหรือสิบเก้าปี ร่างของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นและคราบเลือดสายตาของเด็กหนุ่มนี้ค่อนข้างว่างเปล่า การถูกคุมขังเป็นเวลานานทำให้เขาบ้า เขาไม่มีอะไรมากไปกว่าชายหนุ่มที่ออกจากบ้านเกิดเพื่อค้นหาความฝันแต่ใครจะคิดกันเล่าว่าเขาถูกจับและถูกขายให้องค์การค้าทาส? เพียงแค่นั้นเขาก็เข้าสู่ฝันร้าย
“หืม?” บุรุษหัวโล้นยื่นมือออกและคนคุมทาสที่อยู่ใกล้เอาแส้ให้เขา
บุรุษหัวโล้นถือแส้หวดแหวกอากาศเสียงดังทันใดนั้นความกลัวปรากฏอยู่ในดวงตาที่ว่างเปล่าของเด็กหนุ่ม
“ถ้าเจ้าไม่ตาย ทำไมเจ้ายังไออยู่อีก? เจ้าทำลายอารมณ์สุนทรีย์ของข้า ”บุรุษหัวโล้นหวดแส้ใส่เด็กหนุ่มร่างผอมอย่างรุนแรงทันที
แส้นี้รุนแรงมากกว่าที่พวกคนคุมทาสใช้หวดมากมายนัก
ร่างผอมของเด็กหนุ่มสะท้านขึ้นอย่างรุนแรงและมีรอยแส้บาดลึกน่ากลัวตั้งแต่หน้าจนถึงเอวของเด็กหนุ่ม เลือดเริ่มไหลออกมาทันที ขณะที่เสื้อผ้าของเขาถูกทำลายมานานแล้ว
“ควั่บ!” “ควั่บ!” “ควั่บ!” “ควั่บ!”....
บุรุษโล้นหวดแส้ใส่เขาอย่างโหดเหี้ยมวิปริต เขาระบายอารมณ์ใส่ร่างของเด็กหนุ่มผู้น่าสงสาร เด็กหนุ่มร่างผอมมีประสบการณ์ค่อนข้างมากแล้วในตอนนี้เขาพยายามปกป้องศีรษะของเขาและขดตัวกลมทันที สิ่งที่เขาคิดก็คือตราบใดที่เขาสามารถทนได้ เขาอาจจะรักษาชีวิตไว้ได้
น่าเศร้าแม้ว่าบุรุษหัวโล้นจะไม่กล้าฆ่าเรย์โนลด์ แต่คนหัวโล้นกล้าฆ่าเด็กคนนี้
“ท่านพีลขอรับ, มันตายแล้ว” คนคุมทาสที่อยู่ใกล้ๆกระซิบ
บุรุษหัวโล้นโยนแส้เปื้อนเลือดให้คนคุมทาสที่อยู่ใกล้ๆจากนั้นหันไปจ้องมองสายน้ำเชี่ยว และบิดขี้เกียจ “เฮ่ย... ค่อยรู้สึกดีขึ้น พวกเจ้าโยนเจ้าเศษสวะนี่ออกไปนอกเรือซะ แล้วก็...ทำความสะอาดดาดฟ้าเรือด้วย”
“ขอรับ, ท่านพีล” พวกคนคุมทาสที่อยู่ใกล้ๆ รีบรับคำอย่างแข็งขัน
“ตูม!” เสียงน้ำแตกกระจายดังขึ้น มีอีกศพหนึ่งถูกโยนลงแม่น้ำ
เรือขนทาสแต่ละลำจะบรรทุกทาสไว้ในเรือหลายร้อยคน และในแต่ละครั้งที่เดินทางมีทาสเกินกว่าสิบคนที่ถูกทรมานจนตาย พวกที่ถูกคนคุมทาสทุบตีจนตายจะเป็นพวกที่มีร่างกายอ่อนแอ คนที่มีร่างกายแข็งแรงจะสามารถอดทนได้นาน ดังนั้นองค์การค้าทาสจึงไม่สูญเสียมากนัก
“อีกศพหนึ่ง” เรย์โนลด์ถอนหายใจในใจ เขาไม่คาดเลยว่าหลังจากรอดชีวิตจากเมืองนีลเขาจะตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น
เรย์โนลด์ไม่รู้ว่าอนาคตของเขาจะกลายเป็นเช่นไร
“เป็นทาส?” เมื่อคิดถึงชีวิตที่มืดมนของทาส เรย์โนลด์ไม่สบายใจ
“ไอ้รูปหล่อ, บ่นอะไรของเจ้า? หรือว่าอยากจะร่ายเวท?” เสียงคำรามด้วยความโกรธและเสียงหวดแส้ดังขึ้นคราวหนึ่ง แส้นั้นหวดตรงใส่หน้าของเขา
เจ็บและอาย!
คนคุมทาสเหล่านี้รู้ว่าเรย์โนลด์เป็นจอมเวทระดับเจ็ด พวกคนคุมทาสที่น่ารังเกียจเหล่านี้ต้องการหวดแส้ใส่เรย์โนลด์ เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาสามารถทำได้พวกเขาจะพอใจและภูมิใจมาก
“แม่มันเถอะ!” ตอนนี้เรย์โนลด์โกรธจริงๆ
ยิ่งทนมากก็ยิ่งมีแต่จะทำให้พวกนี้ย่ามใจมากขึ้น
“โอวไม่!” คนคุมทาสเงื้อแส้และยักคิ้วเขาแสยะยิ้มเยาะเย้ยขณะมองดูเรย์โนลด์ “เจ้ายังจะกล้าทำหยิ่งยโสอีกหรือ?” ขณะที่พูดเขาหวดใส่อีกหนึ่งแส้
แววดุร้ายปรากฏขึ้นในดวงตาของเรย์โนลด์และปากของเขาพึมพำร่ายเวท
“บึ้ม!” บอลเพลิงเป็นชุดขนาดเท่าศีรษะคนยิ่งออกมาจากร่างเรย์โนลด์ใส่คนคุมทาสสองคนอย่างรุนแรง ในพริบตาพวกเขาโดนล้อมรอบไปด้วยบอลเพลิงมากกว่าสิบลูก
“อ๊า!!!” คนคุมทาสทั้งสองร้องโหยหวนอย่างทรมานตลอดทั้งร่างพวกเขามีไฟลุกท่วมนอกจากนี้พลังเพลิงยังมีความร้อนมากกว่าเพลิงปกติ คนคุมทาสทั้งสองคนผิวหนังไหม้ดำอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าก็ขาดใจตาย
ทันใดนั้นหลังจากร่ายเวทเรย์โนลด์ก็บุกออกไปข้างนอก
แต่เพียงแค่นั้น...
“ปัง!” เพดานห้องขังพังถล่มเป็นรูและบุรุษตาเดียวสวมชุดยาวสีแดงลงมายืนในกลางห้อง เพียงพริบตาเขาเข้ามาใกล้ตัวเรย์โนลด์แล้วเตะใส่เรย์โนลด์
“ปัง” เรย์โนลด์ถูกกระแทกไปติดที่มุมห้องอย่างแรง เขาถ่มเลือดออกมาจากปาก
บุรุษตาเดียวชุดแดงหันกลับไปมองศพที่ดำเป็นตอตะโกทั้งสอง จากนั้นจ้องมองเรย์โนลด์อย่างเย็นชา “เจ้ากำลังหาที่ตาย!” เรย์โนลด์จ้องกลับบุรุษตาเดียวชุดแดง
“มิน่าเล่าองค์การถึงต้องมีการฝึกฝนพิเศษสามเดือน เพราะพวกเจ้าทุกคนมันร้ายกาจนี่เอง” บุรุษตาเดียวสบถ การจับยอดฝีมือที่เป็นจอมเวทระดับเจ็ดมาได้ง่ายๆนั้นยังไม่เพียงพอต้องทำให้พวกเขาจำฝังลึกในใจที่สุดว่าไม่อาจต่อต้านคำสั่งได้ มิฉะนั้นจะมีเรื่องที่ยุ่งยากลำบากมาก ถ้าพวกเขาโกรธขึ้นมาพวกเขาอาจจะทุ่มเทพลังต่อต้านได้
ครู่ต่อมา...
พวกคนคุมทาสยึดจับเรย์โนลด์ที่แขนและขาเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่สามารถขยับได้ บุรุษผมแดงตาเดียวและคนศีรษะโล้นทั้งสองคนจ้องมองดูเรย์โนลด์
“เจ้ารูปหล่อ! ข้าเตือนเจ้าไปแล้วว่าเจ้าต้องทำตัวดีๆบนเรือของข้า แต่เจ้าเจ้าทำให้ข้าโกรธมาก” บุรุษผมแดงตาเดียวพูดเสียงเย็นชา “พีล, ช่วยข้าเตือนความทรงจำเขาหน่อย”
เรย์โนลด์หน้าซีดทันที
เขาจำได้ถึงการคุกคามที่บุรุษตาเดียวได้ทำกับเขามาก่อนเรย์โนลด์ผู้มีความรู้สึกหวาดหวั่นจ้องมองจนตาแทบถลน แต่บุรุษหัวโล้นนามว่าพีลเพียงแต่หัวเราะขณะเดินเข้ามา “จับมือข้างหนึ่งไว้ให้ข้า” พวกคนคุมทาสจับมือของเรย์โนลด์ทันทีและกดลงกับดาดฟ้า
จากดาดฟ้าพีลดึงคีมเหล็กออกมาและใช้ตัดโซ่เหล็ก เขากดคีมเหล็กกับนิ้วทั้งสองของเรย์โนลด์ความรู้สึกเย็นยะเยือกแผ่ออกมาจากนิ้วของเรย์โนลด์ หัวใจเรย์โนลด์สะท้าน
“ฮึ่ม...” บุรุษตาเดียวแค่นเสียงเย็นชา
คีมเหล็กถูกกดลงและตัดนิ้วทั้งสองของเรย์โนลด์ง่ายดายราวกับตัดผ้า โลหิตฉีดพุ่งออกมาขณะที่ความเจ็บแล่นไปทั้งตัวเรย์โนลด์
ความเจ็บปวดจากการถูกตัดนิ้วแย่ยิ่งกว่ากว่าถูกดาบฟันร่างของเขาเสียอีก
เมื่อได้ยินเสียงครวญครางคนคุมทาสที่อยู่ใกล้ๆ เริ่มตื่นเต้น บุรุษตาเดียวแค่เสียงเย็นชา “เจ้ารูปหล่อ, จำเอาไว้ให้ดี วันนี้ ข้าแค่สั่งสอนเจ้าเพียงเล็กน้อย ถ้าเจ้าไม่ยังไม่เข็ดหลาบอีก.. ข้ารับรองได้..เจ้าจะไม่ลืมบทเรียนครั้งต่อไปแน่” หลังจากพูดแล้ว บุรุษตาเดียวหมุนตัวเดินจากไป
ราตรีมืดมิด
เรย์โนลด์ขดตัวหนาวเหน็บอยู่ที่มุมห้อง ร่างของเขาสั่นสะท้านเล็กน้อย นิ้วของเขาถูกตัดจนถึงโคนนิ้ว คนคุมทาสที่อยู่ใกล้ๆสองคนคอยจับตาเขาอย่างต่อเนื่อง แววตาของเขาพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
เรย์โนลด์ฆ่าสหายของเขาไปสองคน จึงเป็นธรรมดาที่คนคุมทาสเหล่านี้เต็มไปด้วยความเกลียดเขา
“ไอ้รูปหล่อระยำ”
ทันใดนั้นเงาแส้หวดใส่บาดแผลที่มือของเรย์โนลด์เรย์โนลด์พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อบังซ่อนอาการบาดเจ็บไว้ด้านหลังของเขาแต่แส้บางส่วนก็ยังกระทบที่บาดแผลที่มือของเขา คลื่นความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานที่รุนแรงแผ่ออกมาจากแผล...บาดแผลเปิดออกอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเจ็บปวดที่แส้หวดใส่กระดูกนิ้วช่างเจ็บปวดแสนสาหัส เหมือนกับว่านิ้วของเขาเพิ่งถูกตัดอีกครั้ง
“พอได้แล้ว เลิกตีเขาได้แล้ว” คนคุมทาสอีกคนกล่าว
ความจริงคนคุมทาสทั้งสองคนยังกลัวว่าเรย์โนลด์จะโกรธจนร่ายเวททำร้ายพวกเขาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามคนคุมทาสที่เพิ่งหวดใส่เรย์โนลด์มีความรู้สึกที่ดีต่อคนคุมทาสสองคนที่ถูกฆ่าตายเขาจึงต้องการแก้แค้นเป็นธรรมดา
“ข้าไม่อาจปล่อยไว้แบบนี้ได้ ข้าต้องหลบหนี” เรย์โนลด์ขดตัวกลมอยู่ที่มุมห้องรำพึงกับตัวเอง “ถ้าขืนปล่อยให้ชีวิตเป็นแบบนี้ต่อไป ข้าคงจะกลายเป็นบ้าจริงๆ”
เรย์โนลด์รู้ว่าต่อให้เขาอดทนได้และไม่เสียสติไปเสียก่อนสิ่งเดียวที่รอเขาอยู่ก็คือชีวิตของความเป็นทาส
“พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ เมื่อเรือเทียบท่า ข้าจะเคลื่อนไหวเอง” เรย์โนลด์ไม่มีเวลาจะสงสัย ความจริงทุกวันที่เรือลำนี้หยุดเทียบท่า เหตุผลเดียวก็คือเติมเสบียงอาหาร อีกอย่างหนึ่งเป็นเพราะบุรุษตาเดียวไม่ชอบกินอาหารแห้ง เขาชอบอาหารสดอร่อย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเทียบท่าเพื่อทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามบุรุษตาเดียวมีความระมัดระวังมาก เมื่อใดก็ตามที่เขาขึ้นฝั่งไปกินอาหาร เขาจะสั่งยอดฝีมือระดับเจ็ดสองคนให้คอยจับตาดูเรย์โนลด์
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าเรย์โนลด์นอนอยู่บนพื้นในเวลาดึกและเขารู้สึกหนาวขึ้น นอกจากนี้ความเจ็บปวดจากนิ้วที่ได้รับบาดเจ็บ เขาจึงได้แต่กัดฟันทน
ท้องฟ้าเริ่มสว่างช้าๆ
คนคุมทาสหวดแส้ใส่เรย์โนลด์สองสามครั้ง แต่เรย์โนลด์เพียงแต่ขดตัวอยู่ที่มุมห้องยอมรับการทำร้ายอย่างเงียบงัน เขารู้ว่าเขาไม่สามารถต่อต้านได้ ครั้งแรกที่เขาต่อต้านเขาเสียนิ้วไปสองนิ้ว ถ้าต่อต้านครั้งต่อไป บางที..อย่างที่บุรุษตาเดียวคุกคาม บทเรียนครั้งต่อไปเขาจะต้องไม่มีวันลืม!
เรย์โนลด์รอให้เรือเข้าใกล้ท่าอย่างเงียบงัน
หลังจากนั้นเป็นเวลานาน...
“เราเทียบท่าแล้ว” เสียงดังปลุกขึ้นสามารถได้ยินจากดาดฟ้าบนจากนั้นไม่นาน เสียงฝีเท้าที่สามารถได้ยินได้ดังชัดเจน ยอดฝีมือสองคนเดินลงมา
“พีล, พวกเจ้ายืนเฝ้าด้วย ข้าจะไปพักสักเดี๋ยวและจากนั้นข้าจะมาเปลี่ยนกับพวกเจ้าทั้งสองคน” เสียงของบุรุษตาเดียวดังได้ยินชัด
“ใต้เท้าไม่ต้องห่วง” เสียงของพีลดังรับคำเช่นกัน
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินห่างออกไปจากเรือ เรย์โนลด์ถอนหายใจเบาๆและจากนั้นเขาหลับตาคิดถึงแผนการหลบหนีในใจอีกครั้ง
แผนที่อันตรายมาก แต่เขาก็ต้องลอง
เมื่อชำเลืองมองดูคนคุมทาสสองคนที่อยู่ใกล้ๆ เรย์โนลด์ขดตัวที่มุมห้องก้มหน้าและปากของเขาเริ่มพึมพำ