ตอนที่ 9-44 จับไปเป็นทาส
“น้องสี่ยังไม่ตาย?” ลินลี่ย์ตะลึงโพล่งคำพูดเหล่านี้ออกมา แต่จากนั้นเขารู้สึกตัวทันที “เจ้าเพิ่งบอกว่าเรย์โนลด์ยังไม่ตายหรือ?”
ตอนนี้หัวใจของลินลี่ย์เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง ตกใจ ยินดี กังวล เหลือเชื่อ ตื่นเต้นกลัวอารมณ์ทั้งหมดผสมปนเปกันอยู่ในอกของลินลี่ย์ ตอนนี้สิ่งเดียวที่ลินลี่ย์ทำได้ก็คือจ้องเขม็งนายทหารของจักรวรรดิโรฮอลท์ที่อยู่ต่อหน้าเขา
ฮิวจ์จับคอและพูดด้วยความกลัว “เป็นเรื่องจริง เขาไม่ตาย เขาไม่ตายจริงๆ”
“ฮิวจ์ ตอนเจ้ารายงานความสำเร็จทางทหารเจ้าบอกว่านายกองที่เจ้าเอามาด้วยตายแล้วไม่ใช่หรือ?” แม่ทัพชาร์เตอร์ที่อยู่ใกล้ๆ ขมวดคิ้ว
การหลอกเซียนเป็นเรื่องที่โง่มาก ชาร์เตอร์คิดว่าฮิวจ์อาจจะกุเรื่องโกหกด้วยความกลัว
ลินลี่ย์จ้องมองฮิวจ์เช่นกัน ความจริงก็หวังว่าฮิวจ์จะไม่โกหก
“พูดออกมาเดี๋ยวนี้” ลินลี่ย์จ้องมองฮิวจ์ ทุกคนที่อยู่ในค่ายทหารปั่นป่วนตอนนี้กำลังจ้องมองฮิวจ์ ฮิวจ์ยืดตัวจากนั้นรีบอธิบาย “อาจารย์ลินลี่ย์, ข้าไม่ได้โกหกจริงๆ ตอนนั้นเมื่อข้าพบว่าศพของนายกอง, ศพของเรย์โนลด์ ข้านำร่างของเขามาเอง แต่หลังจากนั้นข้าพบว่าศพนี้เคลื่อนไหวทันที เพียงเท่านี้ข้าก็รู้ได้ว่าเขายังไม่ตาย!”
ใจของลินลี่ย์เริ่มรัดกุม
ท่าทางขลาดกลัวปรากฏอยู่ในใบหน้าของฮิวจ์ “อาจารย์ลินลี่ย์ เรย์โนลด์ผู้นี้หล่อมากและดูเป็นผู้ดี เป็นจอมเวทที่มีค่า เกี่ยวกับเวทที่เขาใช้เมื่อตอนสหายข้าและข้าไล่ล่าเขามีทางเป็นไปได้ว่าเขาเป็นจอมเวทระดับเจ็ด จอมเวทระดับเจ็ดหนุ่มรูปงามมีราคาสูงมากในตลาดค้าทาส
เมื่อได้ยินเช่นนี้ลินลี่ย์เข้าใจทันที
นายทหารที่ล้อมรอบอยู่ทุกคนก็เข้าใจเช่นกัน ในช่วงเวลาสงครามจะมีอยู่บ่อยครั้งที่ทาสจำนวนมากส่งไปขายที่องค์การค้าทาส กองทัพมักจะมีข้อตกลงที่ดีกับองค์การเหล่านี้และจอมเวทหนุ่มรูปงามระดับเจ็ดจะเป็นสินค้าที่มีค่าอย่างแน่นอน
จอมเวทระดับเจ็ดถือว่าเป็นคนระดับสูงและทรงพลัง
เพราะจอมเวทอย่างนี้จะต้องเป็นทาสจะเป็นผู้ที่สตรีชั้นสูงบางคนชอบอย่างแท้จริง พวกนางยินดีใช้เงินก้อนโตจ่ายเพื่อซื้อทาสชนิดนี้ ราคาจากการขายจอมเวทระดับเจ็ดเช่นนั้นอาจจะสูงมากกว่าเงินรางวัลที่ฮิวจ์ได้รับจากกองทัพ
“เจ้ากำลังบอกว่า....เจ้าขายเรย์โนลด์ให้กับองค์การค้าทาสใช่ไหม?” ลินลี่ย์ถาม
“ถูกแล้ว” ฮิวจ์พูดด้วยความกลัว ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเรย์โนลด์เป็นสหายรักของอาจารย์ลินลี่ย์
“เรย์โนลด์บาดเจ็บหนักแค่ไหน?” ลินลี่ย์พูดด้วยความกังวล จากรายงานที่เขาได้ยินเรย์โนลด์บาดเจ็บจนคุกคามชีวิตได้ ลินลี่ย์ห่วงใยเขา
ฮิวจ์พูดยืนยัน “อาจารย์ลินลี่ย์ ไม่ต้องห่วง เมื่อข้าพาเรย์โนลด์กลับมา ข้าได้เชิญหมอมารักษาเขา และจากนั้นเขาจึงถูกขายไปให้องค์การค้าทาส ผู้ค้าทาสเหล่านั้นจะไม่ยอมปล่อยให้สินค้ามีค่าต้องตายไป
สินค้ามีค่า?
ในใจของเขาลินลี่ย์กังวลห่วงใยถึงสหายของเขา เรย์โนลด์ตกต่ำถึงกับต้องเป็นทาสแล้วหรือ?
“งั้นไปกันเจ้าจะต้องมากับข้า พาข้าไปที่องค์การค้าทาสเจ้าน่าจะรู้ว่าอยู่ที่ไหนใช่ไหม?” ลินลี่ย์จับฮิวจ์ที่เสื้อผ้าเขา ฮิวจ์รีบกล่าว “ได้เลย ข้าน้อยจำได้ชัดเจน”
ชาร์เตอร์ที่อยู่ใกล้ๆ ตะคอก “ฮิวจ์, ตั้งแต่วันนี้ไปเจ้าต้องร่วมทางกับอาจารย์ลินลี่ย์ไม่ว่าอาจารย์ลินลี่ย์ต้องการให้เจ้าทำอะไร เจ้าต้องเชื่อฟัง” ชาร์เตอร์มองดูลินลี่ย์และพูดขอโทษ “อาจารย์ลินลี่ย์ ข้าต้องขอโทษอย่างสุดซึ้ง ข้าหวังว่าท่านคงจะไม่มีโทสะกับเรามากเกินไป”
ชาร์เตอร์ไม่มีเงื่อนไขอะไรอื่น
กล่าวโดยทั่วไปก็คือในช่วงเวลาสงครามทั้งสองฝ่ายไม่กล้าเอาครอบครัวและสหายของเซียนนักสู้เข้ามาพัวพันด้วย ที่สำคัญ ถ้าเซียนเกิดบ้าคลั่งขึ้นมา นั่นจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก
ในพงศาวดารประวัติศาสตร์เคยมีกรณีเซียนนักสู้เกิดบ้าคลั่งและสังหารทหารนับหมื่นมาสองสามครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตามกล่าวโดยทั่วไปก็คือเซียนคือคนระดับสูงและมีพลังซึ่งอยู่เหนือการสู้รบ ตราบใดที่ท่านไม่ล่วงละเมิดพวกเขา พวกเขาจะไม่สร้างความลำบากใจให้กับคนธรรมดา
ลินลี่ย์มองชาร์เตอร์ จากนั้นคว้าตัวฮิวจ์ไว้ “ไปกันเถอะ” ทันใดนั้นเขาเหาะขึ้นไปในอากาศ และบินไปสมทบกับบีบีทางทิศใต้...
เมื่อเห็นลินลี่ย์บินจากไป ทั่วทั้งค่ายทหารระบายลมหายใจอย่างโล่งอก เผชิญหน้ากับเซียนผู้ทรงพลังขนาดนั้นนักรบทุกคนที่ปรากฏอยู่ในที่นั้นไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“เหล่าแม่ทัพนายกอง!จงไปควบคุมผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเจ้าเดี๋ยวนี้ ข้าเกรงว่ากองพลเพลิงทองจะฉวยโอกาสซุ่มโจมตีเรา” เมื่อเห็นว่าค่ายทหารไร้ระเบียบแตกกระจายอย่างน่ารังเกียจ ชาร์เตอร์อดรู้สึกกังวลไม่ได้ ที่สำคัญกองทัพของพวกเขาอยู่ในสภาพไร้ระเบียบ จิตวิญญาณของกองทัพถูกลินลี่ย์ข่มไปแล้ว
ชาร์เตอร์คาดการณ์ได้ถูก ไม่นานหลังจากนั้นกองพลเพลิงทองก็เริ่มโจมตีอย่างรุนแรงอีกครั้ง
ในเมืองชายแดนในจักรวรรดิโรฮอลท์ฮิวจ์ในเงื้อมมือของลินลี่ย์ที่ลงมาในพื้นที่ธรรมดาซึ่งมีทหารแต่งเครื่องแบบอย่างดีอยู่ภายในเมือง
“ควั่บ” สายลมกระโชกผ่านมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ตอนนี้ลินลี่ย์อยู่ในร่างของมนุษย์ลินลี่ย์ไม่ได้เศร้าเสียใจและโกรธเหมือนอย่างตอนแรกซึ่งเขาตั้งใจจะแก้แค้นให้กับน้องร่วมสาบานของเขาอีกต่อไป ตอนนี้เขาสงบขึ้นมากแล้ว
ไม่ว่ายังไง อย่างน้อยน้องสี่ของเขาก็ยังมีชีวิต
“ผู้เฒ่าไวท์! ผู้เฒ่าไวท์!”ฮิวจ์เริ่มตะโกนลั่นทันทีที่เขามาถึง
“พวกเจ้าเป็นใคร?” ผู้เฒ่าไวท์ยังไม่ออกมา แต่กลุ่มคนอารักขาเขาเกินกว่าสิบคนปรากฏออกมาล้อมพวกเขาไว้ทุกคนถืออาวุธเตรียมพร้อมจะโจมตีได้ทุกเมื่อ จากนั้นชายชราผมหงอกในชุดสูทสุภาพบุรุษปรากฏตัวออกมาจากประตูด้านข้าง เมื่อเห็นฮิวจ์ บุรุษชราผมหงอกหัวเราะลั่น “โอว, ฮิวจ์สหายรักนั่นเองทำไมเจ้าถึงได้รีบร้อนถึงกับบุกเข้ามาเล่า?”
“หือ, ท่านผู้นี้เป็นใคร?” สุภาพบุรุษสูงอายุชื่อ ‘ไวท์’ นัยน์ตาคมมาก เขาสามารถบอกได้ทันทีว่าบุรุษผู้แต่งชุดยาวสีดำนี้ไม่ธรรมดาอย่างมาก หลังจากเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ ลินลี่ย์ไม่ได้เปลี่ยนชุดกางเกงของเขายังมีรอยริ้วฉีกขาด
ลินลี่ย์ขมวดคิ้วจ้องมองผู้เฒ่าไวท์อย่างเยือกเย็น
“ผู้เฒ่าไวท์ ท่านนี้คืออาจารย์ลินลี่ย์!” ฮิวจ์รีบบอก
“อาจารย์ลินลี่ย์?” ผู้เฒ่าไวท์สะดุ้งจากนั้นสีหน้าตกใจปรากกฎอยู่ที่ใบหน้าของเขา “หรือว่านี่คือนักรบเลือดมังกรแห่งจักรวรรดิโอเบรียน, อาจารย์ลินลี่ย์?”
ฮิวจ์รีบพยักหน้า “ข้ารีบร้อนมาที่นี่ก็เนื่องมาจากอาจารย์ลินลี่ย์”
ผู้เฒ่าไวท์ไม่กล้าทำใจเชื่อ เขาไม่มีอะไรมากไปกว่าผู้บริหารท้องถิ่นสำหรับองค์การค้าทาสของเขา เขาจะคู่ควรอะไรให้อาจารย์ลินลี่ย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งทวีปยูลานมาเยี่ยมเยือนเขา?
“ผู้เฒ่าไวท์...” ลินลี่ย์มองดูผู้เฒ่าไวท์
“อาจารย์ลินลี่ย์” ผู้เฒ่าไวท์นอบน้อมถ่อมตัวทันที
ลินลี่ย์พูดเข้าเรื่องทันที “ผู้เฒ่าไวท์ เมื่อเดือนก่อนฮิวจ์พาจอมเวทหนุ่มระดับเจ็ดคนหนึ่งมาขายให้กับท่าน ข้าเชื่อเช่นนั้น”
ผู้เฒ่าไวท์มองดูฮิวจ์ จากนั้นพยักหน้าให้ลินลี่ย์ “นั่นเป็นความจริง”
“จอมเวทระดับเจ็ดผู้นั้นชื่อว่าเรย์โนลด์! เขาเป็นสหายรักของข้า ลินลี่ย์!”
ตาของผู้เฒ่าไวท์แทบถลนเหมือนกับตาวัว “สะ..สะ..สหายรัก.. ของอาจารย์...ลินลี่ย์?”
แม้ว่าองค์การค้าทาสเหล่านี้จะมีอำนาจมากและมีเครือข่ายกับก๊วนนักฆ่าใหญ่ๆแต่ไม่ว่าพวกเขาจะทรงอำนาจเพียงไหน พวกเขาไม่กล้าล่วงเกินนักสู้ระดับเซียน ยิ่งเป็นเซียนระดับสูงอย่างลินลี่ย์ก็แทบหาได้น้อยมาก!
“ฮิวจ์,เจ้า...” ผู้เฒ่าไวท์ถลึงตาใส่ฮิวจ์อย่างมีโทสะ
เป็นฮิวจ์นี่เองที่ขายเรย์โนลด์ให้กับองค์การค้าทาสของพวกเขา องค์การของพวกเขากล้าขายคนเกือบทั้งหมดต่อให้เป็นศิษย์ของสำนักใหญ่ก็ตาม แต่ทำไมฮิวจ์ถึงได้ขายสหายสนิทของเซียนให้กับพวกเขาด้วย?
ฮิวจ์ฝืนยิ้ม
เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าเขารู้ เขาจะกล้าล่วงเกินเรย์โนลด์หรือ? ตอนนี้ชีวิตของฮิวจ์อยู่ในเงื้อมมือของลินลี่ย์
“ผู้เฒ่าไวท์” ลินลี่ย์กล่าว
ปฏิกิริยาสนองตอบของผู้เฒ่าไวท์รวดเร็วมาก เขารีบพูดกับลินลี่ย์ “อาจารย์ลินลี่ย์ไม่ต้องกังวล เนื่องจากท่านเรย์โนลด์นี้เป็นสหายของท่านอาจารย์ลินลี่ย์ องค์การของเราจะไม่กล้าทำอะไรท่านเรย์โนลด์แน่นอน ข้าจะส่งคนไปแจ้งที่สำนักงานใหญ่ของเรา...”
“มีเรื่องอะไรหรือ? เรย์โนลด์อยู่ที่ไหน?” ลินลี่ย์ถาม
“เรื่องนี้..เรื่องนี้..” มีแววหวาดกลัวอยู่ในใบหน้าของผู้เฒ่าไวท์ ที่สำคัญคือเรย์โนลด์ถูกขายออกไปเป็นทาสเกือบเดือนแล้ว
ลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ เขาตะคอกทันที “พูดไป!”
ผู้เฒ่าไวท์รู้สึกหวาดกลัวในใจ ถ้าเซียนอย่างลินลี่ย์โกรธเขาขึ้นมา เป็นไปได้ว่าทั้งองค์การของพวกเขาอาจถูกลบล้างออกไปจากแผนที่ เขารีบกล่าว “อาจารย์ลินลี่ย์ เมื่อท่านเรย์โนลด์ถูกส่งมาที่นี่ตอนแรกเราจัดการรักษาบาดแผลของเขาก่อน และจากนั้นสิบวันต่อมา เราส่งเขาออกไปพร้อมกับการจัดส่งทาสกลุ่มใหญ่ จากที่ข้าเข้าใจ ท่านเรย์โนลด์ควรจะไปถึงสำนักงานใหญ่ของเราแล้ว”
“สำนักงานใหญ่?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
ฮิวจ์ก็งงเช่นกัน “ผู้เฒ่าไวท์! เรื่องนี้เป็นยังไงกัน? องค์การปกติจะขายทาสในตลาดค้าทาสโดยตรงไม่ใช่หรือ? ทำไมท่านถึงส่งท่านเรย์โนลด์ไปสำนักงานใหญ่เล่า?”
ผู้เฒ่าไวท์รีบกล่าว “เราขายทาสธรรมดาที่ตลาดค้าทาส ถูกแล้ว แต่ท่านเรย์โนลด์นั้นแตกต่างออกไป เขาเป็นจอมเวทระดับเจ็ด! เขามีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก ถ้าเราขายท่านเรย์โนลด์ไปให้ลูกค้าสักคนแล้วจากนั้นท่านเรย์โนลด์ใช้เวทสังหารลูกค้าอย่างนั้นองค์การของเราก็ต้องชดใช้กันอย่างมากมาย”
ลินลี่ย์จ้องมองผู้เฒ่าไวท์
“ดังนั้นเพราะคนแข็งแกร่งทรงพลังอย่างท่านเรย์โนลด์ก็คือทาสที่มีคุณภาพสุดยอดและอันตรายทาสอย่างนี้จะถูกส่งไปที่สำนักงานใหญ่ ที่ซึ่งพวกเขาจะได้รับการฝึกฝนสามเดือน พวกเขาจะฝึกให้อดทนไม่กล้าขัดคำสั่งหรือดื้อดึงกับเจ้านายของพวกเขา จากนั้นเราจึงจะส่งเขาให้ลูกค้า” ผู้เฒ่าไวท์อธิบาย
ลินลี่ย์สีหน้าเปลี่ยน
ฝึกพวกเขาไม่ให้ขัดขืนคำสั่ง? ให้ทำตามคำสั่งเจ้านายอย่างเชื่อฟัง? คนที่จะถูกฝึกคือยอดฝีมืออย่างเรย์โนลด์...ลินลี่ย์สามารถคาดคิดได้เลยว่าการฝึกจะน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงเพียงไหน
“สำนักงานใหญ่ของท่านอยู่ที่ใด? พาข้าไปที่นั่น” หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยน และเขาตะโกนทันที
ผู้เฒ่าไวท์ลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อสายตาที่น่ากลัวของลินลี่ย์ เขาพยักหน้าทันที “ได้ขอรับ,อาจารย์ลินลี่ย์ ข้าจะนำทางท่านไปยังสำนักงานใหญ่ของเราเดี๋ยวนี้”
“สำนักงานใหญ่ของเราอยู่ลึกลงไปภายในจักรวรรดิโรฮอลท์และไกลจากชายแดน เนื่องจากเส้นทางคดเคี้ยวการเดินทางไปที่นั่นกินระยะทางสามพันกิโลเมตรจากที่นี่” ผู้เฒ่าไวท์กล่าว
“เจ้านายข้าสามารถบินไปที่นั่นได้” บีบีที่อยู่ใกล้ๆ พูดขึ้นอย่างไม่สบายใจ บีบีกังวลห่วงใยเรย์โนลด์เช่นกัน ที่สำคัญ เมื่อพวกเขาอยู่ที่สถาบันเอินส์ บีบีมักจะเล่นสนุกหยอกล้อกับเรย์โนลด์บ่อยๆ
ผู้เฒ่าไวท์รีบพยักหน้า เขาไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
“อาจารย์ลินลี่ย์ไม่มีความจำเป็นต้องให้ข้าไปกับท่านแล้วใช่ไหม?” ฮิวจ์ที่อยู่ใกล้ๆ เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ลินลี่ย์หันไปจ้องฮิวจ์ ตอนนี้เรย์โนลด์อาจถูกทรมานโดยพวกคนในสำนักงานใหญ่องค์การค้าทาส เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาอดโมโหไม่ได้
“ฉัวะ” เงากรงเล็บเลือนรางตวัดออก ฮิวจ์กุมคอตนเองด้วยความหวาดหวั่น แต่เลือดยังคงทะลักออกจากคอของเขา ครู่ต่อมาฮิวจ์ทรุดตัวลงกับพื้น
บีบีที่ลอยตัวอยู่ในกลางอากาศจ้องมองฮิวจ์อย่างไม่พอใจ “เจ้าบัดซบ,เจ้าคิดว่าเจ้าจะปกป้องผิวหนังที่ไร้ค่าของเจ้าได้หรือ? เจ้ามันโง่ หรือเป็นตัวอะไร? เมื่อเจ้ากำลังฆ่าทหารของเรย์โนลด์ เจ้าคิดว่าเป็นเรื่องน่าสนุกใช่ไหม? ดี, วันนี้เมื่อข้า บีบีฆ่าเจ้าข้าก็รู้สึกสนุกเช่นกัน”
เมื่อเห็นภาพนี้ต่อหน้า ร่างของผู้เฒ่าไวท์สั่นเล็กน้อย
“สหายเฒ่าไม่ต้องกลัว ตราบใดที่ท่านเชื่อฟังคำพูดของพี่ใหญ่ข้า ข้า บีบีจะไม่ทำร้ายเจ้า” บีบียิ้มกว้างมองเห็นเขี้ยวแหลมคม
ผู้เฒ่าไวท์ได้ยินมาว่าลินลี่ย์ประลองฝีมือมากับเฮนด์เซนยังไง อสูรเวทระดับเซียนสองตัวของลินลี่ย์ปรากฏออกมายังไง หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะเป็นอสูรเวทประเภทหนูและสามารถไล่ต้อนเฮนด์เซนได้อย่างง่ายดาย เมื่อจ้องมองดูบีบีที่โฉบไปมา ผู้เฒ่าไวท์ตอนแรกยังสงสัยว่าบีบีนี้มีแนวโน้มว่าจะเป็นอสูรเวทที่น่ากลัวมาก
ผู้เฒ่าไวท์ที่มีสีหน้าหวาดหวั่นฝืนยิ้มให้บีบี
ลินลี่ย์คว้าตัวผู้เฒ่าไวท์เหาะขึ้นไปในอากาศมุ่งหน้าสู่ทิศใต้ “ผู้เฒ่าไวท์, นำทางให้ข้าด้วย” ผู้เฒ่าไวท์หวาดหวั่นพยายามกระแอมให้โล่งคอสองสามครั้ง จ้องมองพื้นข้างล่างจากนั้นเริ่มนำทางตรงให้ลินลี่ย์