ตอนที่ 279 ความกังวลของเจ้านาย
ถังเทียนตัดสินใจไม่ใช้รังสีดาบ เพราะเขายังไม่คุ้นเคย
หลังจากถามแล้วฟงโฉ่วยืนยันข้อสันนิษฐาน ฟงโฉ่วพยายามใช้วิทยายุทธอย่างอื่นและผลก็คือไม่สามารถประยุกต์ใช้กับรังสีดาบได้ นี่หมายความว่าถังเทียนเห็นพ้องด้วย ถ้าวิทยายุทธใช้รูปแบบวิธีควบแน่นพลังจริงๆคุณภาพของพลังจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับความเข้าใจวิทยายุทธของนักสู้ด้วย
เราแข็งแกร่งด้านไหนที่สุด?
วิชาหมัด? วิชาฝ่ามือ? วิชาเท้า? วิชาข้อต่อ?
ไม่เลย!
ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาก็คือสัญชาตญาณ สัญชาตญาณคือจุดแข็งของเขาเสมอมา และสัญชาตญาณของเขาแต่เดิมก็มาจากจิตวิญญาณพลังยุทธของเขา จิตวิญญาณพลังยุทธเงินของเขาคือทรัพยากรที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาทำให้เขาเป็นนักสู้ที่เด่นล้ำเกินนักสู้อื่นในระดับเดียวกัน
ดังนั้นจิตวิญญาณพลังยุทธจะสามารถกดดันปราณแท้ของเขาได้หรือไม่?
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว ก็มีความคิดมากมายตามมา แต่จากมุมมองของเขาเพื่อให้ปราณแท้เพิ่ม นอกจากทำให้มีพลังเข้มข้นขึ้นแล้ว ยังต้องมีความบริสุทธิ์และนั่นหมายความว่ามีสิ่งปนเปื้อนน้อยลง จากจุดนี้เอง จิตวิญญาณยุทธของเขาถือเป็นความได้เปรียบใหญ่ เขามักใช้จิตวิญญาณพลังยุทธเพื่อสมบัติของเขา ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับมันมาก
ว่าแต่เขาจะใช้จิตวิญญาณพลังยุทธควบแน่นปราณแท้ของเขาได้อย่างไร?
เขาลองใช้จิตวิญญาณพลังยุทธกับปราณแท้ของเขา และเป็นไปตามคาดสิ่งปนเปื้อนในปราณแท้ของเขาถูกกลั่นชำระทั้งหมด หลังจากชำระปราณแท้แล้ว พลังปราณแท้ของเขาบริสุทธิ์มากขึ้น แต่เขายังไม่อาจหาวิธีควบแน่นพลังปราณแท้
วิทยายุทธ....จิตวิญญาณพลังยุทธ...
เขาอยู่ค่ายฝึกทหารใหม่ตามลำพังนั่งเอามือเท้าคางเค้นสมองคิด
หลังจากพบกับหัวหน้าเผ่า ปิงรีบเร่งกลับเมืองสามวิญญาณไปพบกับเซรีน”
เซรีนอยู่ในระหว่างคุยปรึกษากับผี่ผาตอนนั้นปิงพรวดพราดเข้ามาทั้งที่อยู่ในชุดพยัคฆ์ฟ้า “เซรีน! เซรีน!”
ทั้งสองคนเงยหน้ามองกันเองแววตามีความประหลาดใจ หาได้ยากที่จะเห็นปิงเร่งรีบและตื่นเต้น
“เฮ้, เสี่ยวปิงปิง, เกิดอะไรขึ้น?” เซรีนจัดทรงผมและชม้ายยิ้มโปรยเสน่ห์
ปิงคุ้นเคยกับท่าทีของเซรีนแล้ว ถ้าใครเผลอลุ่มหลงเสน่ห์เซรีนนับเป็นความซวยของชีวิต “เจ้าสร้างสิ่งนี้ได้ไหม?”
พยัคฆ์ยื่นชิ้นภาพวาดให้
เซรีนรับมาดูและมีท่าทางประหลาดใจ “ห้องพลังงานโบราณ!”
“เจ้าเปลี่ยนแปลงมันบางส่วนได้ไหม?” ปิงถามอย่างกังวล
เซรีนเหลือกตา “ท่านนึกว่าข้าเป็นพระเจ้าหรือ! จู่ๆก็โยนห้องพลังงานมาให้ข้าทำและจากนั้นก็ถามว่าข้าเปลี่ยนมันได้ไหม? แค่นี้เจ๊ผู้นี้ก็งานล้นมือจนตาเป็นหมีแพนด้าไปแล้วโอว..สงสารผู้หญิงตาดำๆ หน่อยเถอะ, พวกท่านเป็นเจ้านายใจดำกันทั้งนั้น....”
เมื่อได้ยินเซรีนเริ่มบ่นน่ารำคาญปิงตัดบททันที “หยุด! นี่มีผลกระทบต่อรายจ่ายในวันคืนอื่นๆของเราด้วย”
“รายจ่าย!” เซรีนยืนขึ้นและเอามือเท้าสะเอวทันทีใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “บอกข้ามาให้ชัดเจนดีกว่า ที่ต้องทำนี่เกี่ยวข้องกับรายจ่ายของเรายังไง?”
ปิงกระแอม “เจ้านายคิดว่า นอกจากผลาญเงินแล้วเราไม่สามารถช่วยให้เขาได้ฝึกฝนเลย นั่นเป็นสัญญาณอันตราย แม้ว่าอาวุธจักรกลจะทรงพลัง แต่เจ้านายของเราไม่ใช่นักสู้สายจักรกล และเขาสนใจเรื่องเพิ่มพลังตนเองมากกว่า ถ้าเราไม่ช่วยเขาในเรื่องนี้ เจ้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกองทุนค่าใช้จ่ายในอนาคต?”
ปิงดึงเซรีนเข้าร่วมชะตากรรมเดียวกับเขาอย่างหน้าตาเฉย
เซรีนคิดอยู่ชั่วขณะ และรู้สึกว่าเขากล่าวมีเหตุผล นางเข้าใจชัดว่าถังเทียนเป็นคนเช่นไร ไม่ว่าอาวุธจักรกลจะดีขนาดไหนก็ตาม สำหรับถังเทียนแล้วก็แค่เครื่องประดับ สิ่งที่ถังเทียนสนใจมากที่สุดไม่ใช่เรื่องการหาเงิน แต่เป็นการฝึก ถ้าพวกเขาไม่ช่วยสนับสนุนปัญหาที่เจ้านายกังวลใจที่สุด อย่างนั้นพวกเขาก็ทำดีไปโดยเปล่าประโยชน์เช่นกัน
แม้ว่าถังเทียนสาบานรับรองว่าจะหากองทุนก้อนโตให้ แต่เซรีนรู้ว่าการกอดต้นขาเจ้านายไว้ให้แน่นสำคัญมากแค่ไหน
ทำให้เจ้านายรู้สึกถึงคุณค่าของท่านนั่นคืองานสำคัญที่สุดของผู้ใต้บังคับบัญชา
กังวลแทนเจ้านาย ดูแลความต้องการที่จำเป็นของเจ้านายกองทุนท่านก็จะมีเพียงพอตลอดไป
เซรีนไม่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาสำคัญอย่างนี้จึงรู้สึกเสียใจลึกๆ
“ท่านต้องการใช้ห้องพลังงานช่วยเสี่ยวถังถังฝึกฝนใช่ไหม?” เซรีนถาม
“ถูกแล้ว” ปิงโน้มน้าวเซรีนได้แล้ว แต่เขาหนักใจขึ้นมาทันที “แต่เจ้านายรู้สึกว่าแพงเกินไป ถ้าเรารวมมูลค่าหินดวงดาวระดับเจ็ดเพื่อบรรลุพลังนักสู้ระดังเจ็ด เราก็ต้องใช้หินดวงดาวสองร้อยก้อนนั่นจะเป็นราคาร้อยล้านเหรียญดาว”
“ร้อยล้านเหรียญดาว!”เซรีนสะดุ้งตกใจ “มิน่าเล่า,เจ้านายถึงได้โวยวาย เป็นข้าก็คงโวยวายแทบตาย! ท่านรู้ไหมเงินร้อยล้านเหรียญดาวจะทำให้ข้าค้นคว้าวิจัยอาวุธจักรกลได้มากมายเพียงไหน?”
ปิงโบกมือทันที “ดังนั้นข้าถึงได้มาหาเจ้าไงเล่าและจะดูว่าเจ้ามีความคิดดีๆ อะไรบ้าง”
“ขอดูซิ” เซรีนหยิบแพลนห้องพลังงานมาศึกษาดูอย่างไม่กังวลใจและหมกมุ่นอยู่งานในเวลารวดเร็ว
ปิงวูบมาอยู่ที่ด้านข้าง “เซรีน,นี่คือเวลาที่เราต้องแสดงคุณค่าของตัวเอง! ด้วยเครื่องมือฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธครั้งก่อนทำให้เจ้านายได้รับจิตวิญญาณยุทธเงิน นั่นคือเหตุผลที่เขาร่วมลงทุนกับตัวเจ้า แต่เมื่อเราสามารถสร้างห้องพลังงานซึ่งช่วยเหลือในการฝึกของเจ้านายได้ข้าเองก็มีแผนการเกี่ยวกับห้องพลังงานเช่นกัน ตราบใดที่เราคลี่คลายปัญหาการฝึกฝนของเจ้านายได้ หลังจากนั้นไม่ว่าเป็นกองทุนอะไรที่เราต้องการ เจ้านายก็คงไม่ตระหนี่ถี่เหนียวจนเกินไป”
“คนในยุคท่านคิดอะไรกันนี่? พวกเขาสิ้นเปลืองพลังงานอย่างนี้ได้ไง?” เซรีนไม่เข้าใจเขา
ปิงตอบอย่างจนใจ “ในอดีต,กองทัพดาวกางเขนใต้มีความเข้มข้นของพลังสูง และพลังงานนั่นสำหรับเราถือเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนกับอากาศ ใครจะคิดหาวิธีอนุรักษ์อากาศ?”
“ก็ได้, อย่าเพิ่งกวนใจข้าอีกสามวันค่อยมารับ พวกเจ้าทุกคนออกไปได้” เซรีนเข้าสู่อารมณ์คนบ้างานต่อ
ผี่ผาชินเสียแล้วนางรีบออกมาจากห้องทำงานของเซรีน
“นี่, ผี่ผา” ปิงเรียกชื่อนาง และทำท่าทางแปลก“ตอนนี้ ข้ามีงานสำคัญจะมอบหมายให้เจ้า”
เขาบอกผลการต่อสู้ของถังเทียนและปัญหาของตัวเขาเอง ปิงผู้น่าสงสารที่เคยเป็นครูฝึก เรื่องยุทธวิธีมิอาจสร้างปัญหาให้เขา แต่แผนต่อสู้ก็ต้องยกให้ครูฝึกนี้
ถังเทียนโยนปัญหาให้เขา ทำให้เขากดดันหนัก แต่เนื่องจากเขาถูกขอให้ทำอย่างจริงจัง เขาจึงปฏิเสธไม่ได้เป็นธรรมดา
ผี่ผาเอียงคอถาม“ท่านลุง, ท่านต้องการทำอะไร?”
“นั่นคือข้าต้องการเลือกบุรุษหนุ่มที่มีพรสวรรค์และโดดเด่นเพื่อเข้ารับการฝึกฝนในค่ายของข้า”ปิงรู้สึกอาย เพราะค่ายฝึกไม่สามารถหาทหารใหม่ได้ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่าภูมิใจ
“เจ้านายต้องการใช่ไหม?” ผี่ผาเลียนแบบพวกเขาและเรียกถังเทียนเป็นเจ้านาย
“เขาไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้” ปิงโบกมือ “เขาเพียงแต่ต้องการจะไปให้ถึงกลุ่มดาวกางเขนใต้เร็วๆ”
“ข้าเข้าใจ” ผี่ผาพยักหน้านาง “จำนวนผู้สมัครจากเผ่าต่างๆ เพียงพอหรือไม่?”
“ไม่พอ” ปิงส่ายหน้า “ข้าเลือกมาได้ยี่สิบคนจากเผ่าหมาป่าเพลิงและเผ่าอื่นๆ รวมกันทั้งหมดก็ได้เพียงยี่สิบหรือสามสิบคนสามารถได้สักสามร้อยหรือสี่ร้อยคนก็นับว่าไม่เลวแล้ว”
“คนทั้งหมดที่ลุงต้องการนี้ต้องการใช้พวกเขาเป็นหน่วยกล้าตายระยะยาวหรือ?” ผี่ผาถามต่อ
ปิงตอบทันที “แน่นอนว่าต้องใช้ในระยะยาว ปกติราคาที่ต้องดูแลนักสู้สายจักรกลก็สูงและแพงเอาการอยู่แล้ว”
ผี่ผาผงกศีรษะ “เนื่องจากลุงต้องการจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขา อย่างนั้นลุงจำเป็นต้องรวมอยู่ในกลุ่มพวกเขาด้วยเช่นกัน,เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้รักษากำลังใจตนเองไว้ได้ ทำไมลุงถึงไม่ไปถามพวกเขาว่าแต่ละเผ่าต้องการอะไร นอกจากนี้นอกจากนี้ชนเผ่าพวกนี้ยังกระจัดกระจายกันอยู่มาก จะดีที่สุดถ้าลุงรวมพวกเขาในกลุ่มดาวหมาป่าได้เป็นกลุ่มเผ่าดาวหมาป่าเดียวกัน และตั้งผู้นำที่มีอำนาจให้พวกเขาความเชื่อมโยงของลุงและชนเผ่าเหล่านั้น ความจริงก็เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวชนชั้นสูงกับชนชั้นผู้ปกครอง ในตระกูลเก่าแก่เหล่านั้น ก็มักมีคนสองสามตระกูลอยู่ในคณะปกครองอยู่บ้าง ตระกูลครอบครัวเหล่านี้ก็สายเลือดเดียวกันเหมือนกับครอบครัวชนชั้นสูง และครอบครัวพวกนั้นจะปกป้องผลประโยชน์และครอบครัวของพวกเขา วิธีนี้ทุกคนจะอยู่ร่วมกันได้ ดีกว่าครอบครัวอื่น”
“ทำให้พวกเขาอยู่และทำงานร่วมกันดีกว่าครอบครัวอื่น...” ปิงคิดทบทวน
“ถูกแล้ว,ถ้าพวกเขาไม่สามารถอยู่และทำงานได้ดีกว่าครอบครัวอื่น อย่างนั้นพวกเขาจะดิ้นรนเสาะหาไปทำไม?” ผี่ผาอธิบาย
“ข้าเข้าใจแล้ว” ปิงพูดอย่างได้คิด
เขาไม่ใช่คนโง่ เพียงแต่เรื่องเหล่านี้เขายากจะสัมผัสได้ในชีวิตประจำวันของเขา เมื่อผี่ผาเตือนให้เขานึกได้ เขานึกย้อนในยุคที่เขาอยู่ในกองทัพ มีครอบครัวที่หลากหลายแตกต่างหรือพวกที่อยู่นอกขอบเขตอำนาจ และเขารู้ว่านางหมายถึงอะไร
“ขอบคุณมาก ผี่ผา!” ปิงขอบคุณผี่ผาอย่างจริงใจ เขาตระหนักว่าเขายังประเมินผี่ผาต่ำไป เด็กสาวอมโรคนี้ เขามักจะคิดว่าเขาดีกว่านางอยู่เสมอ
ผี่ผายิ้มอ่อนหวาน “ไม่เป็นไรค่ะลุง, ข้าขอไปอ่านหนังสือก่อนนะ”
เมื่อกลับไปที่เผ่าหมาป่าเพลิงปิงอาศัยชัยชนะของถังเทียนและขอฉันทานุมัติทุกเผ่าจัดตั้งเผ่าพันธุ์หมาป่าและแต่งตั้งหัวหม่าเอ้อเป็นผู้นำ ไม่มีการคัดค้านใดๆเนื่องจากผู้นำทุกคนเตรียมตัวไว้แล้ว การที่เผ่าแข็งแกร่งขึ้น ยิ่งใหญ่ขึ้นทำให้ทุกคนอยู่อย่างมีความสุขมากขึ้น
ทะเลทรายเป็นที่ซึ่งผู้แข็งแกร่งปกครองผู้อ่อนแอและนั่นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ หัวหม่าเอ้อหนึ่งในนักสู้ทะเลทรายที่แข็งแกร่งที่สุดดังนั้นจึงไม่มีใครรู้สึกแปลกเกี่ยวกับตัวเลือกนี้
เป็นครั้งแรกที่เผ่าทะเลทรายตระหนักถึงความสามัคคีที่แท้จริง
กำลังใจของทุกคนสูงส่งมากขึ้นและชนเผ่าทั้งหมดจากทั่วสารทิศของทะเลทรายก็เดินทางไปมาหาสู่ได้ทั้งวันทั้งคืน
ทะเลทรายอึกทึกตื่นเต้น แต่สำหรับกลุ่มดาวหมาป่าทะเลทรายเป็นแค่แผ่นดินแห้งแล้งกันดาร ไม่มีใครให้ความสนใจมากนัก
แต่ตอนนี้มีข่าวน่าตกใจสะท้านไปทั่วกลุ่มดาวหมาป่า
ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของกลุ่มดาวหมาป่าคานท์แพ้อูเถี่ยหวี่!
ทั่วทั้งกลุ่มดาวกลับกลายเป็นเกลียดชังทันทีบรรดาสามกลุ่มพลังใหญ่ คานท์เป็นกลุ่มนำและเป็นเช่นนั้นมาเกินกว่าสิบปี เพราะการที่จู่ๆ อูเถี่ยหวี่เอาชนะคานท์ได้ทุกคนรู้ว่ากลุ่มดาวหมาป่ากำลังจะเปลี่ยนแปลง
ขณะที่กลุ่มศักดินาชาวยุทธกำลังเผชิญกับกระแสข่าวนี้กลับมีข่าวที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าแพร่กระจายไปทั่วทั้งกลุ่มดาวในคืนเดียว
สามขุนพลใหญ่ของกลุ่มศักดินาชาวยุทธที่ออกไปต่อสู้ในทะเลทรายคนหนึ่งตายและสองคนบาดเจ็บ นักสู้ฝีมือดีของกลุ่มศักดินาชาวยุทธตายเรียบ!
ในพริบตากระแสข่าวดีของกลุ่มศักดินาชาวยุทธกลับกลายเป็นร้ายและทุกอย่างตกอยู่ในความยุ่งเหยิงทำให้ทุกคนตื่นกลัว
อูเถี่ยหวี่ที่เพิ่งจะประสบความสำเร็จมองเห็นหวี่ซุ่นที่เหลือเพียงแขนเดียวนอนหมดสติคู่กับสุ่ยเฉิงที่บาดเจ็บหนักรู้สึกโกรธแค้นยิ่งนัก
เขาสาบานต่อหน้าทุกคนทันทีว่าจะกวาดล้างชนเผ่าทะเลทรายไม่ให้เหลือแม้แต่ไก่และสุนัขก็ตาม
ทุกคนในกลุ่มดาวหมาป่าต่างจับตาดูที่ทะเลทราย