ตอนที่ 276 ฟงโฉ่ว – พลังเผาผลาญ
(ขอแก้คำว่าวิชาโดดเด่นไม่ซ้ำใครเป็นสุดยอดวิชาโดดเด่นนะครับ)
สุดยอดวิชาโดดเด่นมีแต่สุดยอดวิชาโดดเด่นจึงจะทำเรื่องเช่นนี้ได้
แต่...
คำเหล่านี้ทำให้หย่งชิวเหมือนตกอยู่ในสภาพฝันร้าย ตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว ฉากภาพข้างหน้าเขายิ่งยืนยันสิ่งที่เขากลัว
เขาจ้องประกายไฟที่แตกระเบิดเหมือนดอกไม้ไฟอย่างว่างเปล่า และรังสีดาบของฟงโฉ่วที่ไม่สามารถขยับได้ จากนั้นพลังบ้าดีเดือดกระจายไปทุกที่พัดพาจนผงทรายฟุ้งขึ้น
ร่างที่อยู่ในแสงค่อนข้างชัดหิ่งห้อยที่กระพริบล้อมรอบหรือประกายดวงดาวที่ลอยลงมาอย่างนุ่มนวลเหมือนกับว่าไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกัน
นี่คือวิทยายุทธโดดเด่นไม่ซ้ำใคร....
หย่งชิวลืมเรื่องการต่อสู้ ความกลัวในดวงตาของเขาหายไปโดยไม่รู้ตัวขณะที่เขามองดูภาพสวยงามด้านหน้าเขา
ช่างสวยงามจริงๆ....
ทันใดนั้นเขาถูกเสียงของฟงโฉ่วรบกวน และมีความรู้สึกที่แตกต่างไป เขามองดูร่างของฟงโฉ่ว ถึงกับผงะ
ร่างของฟงโฉ่วปลดปล่อยพลังเพลิงสีเทาอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ... การเผาผลาญจิตวิญญาณพลังยุทธ
ฟงโฉ่ว....
หย่งชิวตะลึง
เขาไม่คุ้นเคยกับฟงโฉ่วเนื่องจากเป็นนักสู้เชิงอาวุธลับ ขุนพลวิญญาณเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดของเขา เนื่องจากขุนพลวิญญาณมีข้อจำกัดเรื่องเวลา พวกเขาจึงถูกมองว่าเป็นเครื่องมือใช้สอย และตัวเขาเองก็ใช้ขุนพลวิญญาณมาก่อนมากมาย ฟงโฉ่วเป็นหนึ่งในขุนพลวิญญาณที่พิเศษมาก ด้วยพลังระดับแปดและวิชาดาบที่โดดเด่น จึงสามารถช่วยเหลือหย่งชิวได้ดีมาก
หย่งชิวแทบไม่รู้จักฟงโฉ่วดีนัก เพียงแต่เขาได้ยินว่ามันคือนักดาบที่มีชื่อเสียงในช่วงที่มีชีวิต
ฟงโฉ่วตัดสินใจเผาผลาญจิตวิญญาณพลังยุทธของตนเองสร้างความประหลาดใจให้หย่งชิว เขาเคยเรียกใช้ขุนพลวิญญาณมาใช้ก่อนหน้านี้หลายตนแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดยินยอมเผาผลาญจิตวิญญาณพลังยุทธตน ขุนพลวิญญาณมีสติปัญญา พวกเขารู้ว่าหลังจากเผาผลาญจิตวิญญาณพลังยุทธของตนเอง แม้จะได้รับพลังในเวลาสั้นๆแต่ชีวิตพวกเขาจะจบลง
ฟงโฉ่วเต็มใจเลือกเผาผลาญจิตวิญญาณพลังยุทธของตน
ร่างกายทั้งหมดของฟงโฉ่วปลดปล่อยเพลิงสีเทาภายในรังสีดาบที่เพิ่มขึ้น ม่านตาที่ดูไร้ชีวิตของมันพลันดูเหมือนมีประกายชีวิต เมื่อขุนพลวิญญาณเผาผลาญจิตวิญญาณพลังยุทธของมัน ความเชื่อมโยงระหว่างขุนพลวิญญาณกับเจ้านายจะถูกตัดขาด
การเผาผลาญจิตวิญญาณพลังยุทธปราณเที่ยงแท้ในร่างจะเดือด ฟงโฉ่วมองดูถังเทียนที่อยู่ต่อหน้าเขา ความทรงจำนับไม่ถ้วนเมื่อครั้งยังมีชีวิตหลั่งไหลเข้ามาในใจเขา
สุดยอดวิชาโดดเด่น!
เป้าหมายยาวนานในชีวิตของเขา
ทันใดนั้นเขาก้มหน้ามองดาบในมือเขาบางอย่างที่คุ้นเคยกับเขามาก รู้สึกประหลาดมากในความทรงจำที่ห่างไกลซึ่งเลือนรางมากแล้ว ในดินแดนที่เต็มไปด้วยหิมะร่างของบุรุษหนุ่มคนหนึ่งคร่ำเคร่งฝึกฝนวิชาดาบอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ชัดเจนมากจริงๆ
การได้รำลึกถึงเป้าหมายและความทะเยอทะยานในเยาว์วัยของเขาทำให้ใจเขาพองโตและยิ้มออกมา
ช่างเป็นเวลาที่สวยงามจริงๆ...
แม้ว่าความปรารถนาของเขาจะไม่เกิดขึ้น แต่เขาไม่รู้สึกผิดหวังกับช่วงเวลาที่งดงามนั้น
สามสิบปีของการเป็นนักดาบที่มีชื่อเสียง เขาไม่เคยเลี้ยงฉลองไม่เคยแสวงหาความสุข ดาบในมือเป็นสหายหนึ่งเดียวของเขาเขาใช้ชีวิตตัวคนเดียวจนกระทั่งตาย เมื่อคิดถึงตอนที่นอนตายบนเตียง สหายที่ดีของเขางงและตกใจกับการตัดสินใจของเขา สหายรักของเขาไม่เข้าใจถึงความภูมิใจของเขาที่ยอมกลายเป็นขุนพลวิญญาณต้องกลายเป็นผู้รับคำสั่ง เหมือนคนโง่ในชีวิตหลังความตาย
ทันใดนั้นฟงโฉ่วเงยหน้าขึ้นและมองประกายเหมือนดอกไม้ไฟของถังเทียนที่แพรวพราว
เพราะ..ข้าตั้งใจจะได้เห็นสุดยอดวิชาโดดเด่นของแท้ด้วยตาตนเอง
เพราะ...นั่นคือความฝันที่ข้าไม่เคยทำได้สำเร็จในชีวิตข้าเลย
ต่อให้ข้าตายอย่างไม่สงบ ต่อให้ข้าต้องลดตัวลงรับใช้คนอื่นต่อให้ความหวังทั้งมวลของข้าสูญสลาย.. แต่ความฝันเยาว์วัยของข้าจะไม่มีทางจางหายไป
ในที่สุดข้าก็ได้เห็น..... ช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ
ไม่มีอะไรต้องเสียใจอีกต่อไปแล้ว
ฟงโฉ่วจ้องมองดอกไม้ไฟที่เป็นประกาย นัยน์ตาของเขาเปี่ยมแววพึงพอใจ ทันใดนั้นเพลิงสีเทาในร่างเขาลุกโชนชัดเจน ขาของเขาหายไปอย่างรวดเร็วเหมือนเปลวเทียนสุดท้ายก่อนมอดแสง
ตาของฟงโฉ่วมีแววกระตือรือร้น
อย่างนั้นให้ข้าได้แสดงวิชาดาบของข้าให้เจ้าดูบ้าง
พอเขาควงดาบในมือช้าๆ ก็มีดาบอื่นตามมาอีกเป็นชุด!
รังสีดาบเหมือนกับหิมะเป็นชั้นซ้อนๆกันในระหว่างชั้นจะมีสีครามคั่นไว้ ปรากฏเป็นความเยือกเย็นและเดียวดาย
ชั้นรังสีดาบหนาขาวเหมือนหิมะราวกับทาสีไว้
นี่คือวิชาดาบพันภูผาหิมะสนธยา
ใบหน้าที่น่าเกลียดของฟงโฉ่วเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
ในทะเลทรายแห้งเริ่มมีหิมะโปรยปรายจริงๆ
หย่งชิวเหม่อมองร่างที่เผาผลาญพลังตนเองอยู่ท่ามกลางหิมะ มองดูรังสีดาบที่ถูกร่ายรำเหมือนภาพจิตรกรรมเหมือนกับว่าเขาไม่อาจเชื่อสายตาตนเอง ทันใดนั้นเขาถึงได้ตระหนักทันที เขาอาจกำลังสูญเสียสิ่งที่สำคัญไป
ตาข้างซ้ายสีฟ้าเยือกเย็นของถังเทียนปลดปล่อยระลอกพลังครั้งแรก
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจไม่ใช่วิชาดาบที่น่าตื่นตะลึงของฟงโฉ่ว แต่เป็นร่างที่กำลังเผาผลาญเร่งเร้าพลังเหมือนกับว่าส่วนที่อ่อนโยนในหัวใจเขาสัมผัสความอ่อนโยนนี้ได้ ความรู้สึกนี้เหมือนกับระลอกคลื่นในทะเลสาบที่เกิดในใจของถังเทียนและสภาพใจของเขาสงบทันที
เพียงเท่านั้นใจของเขายังรู้สึกถึงความเคารพให้เกียรติ
รังสีดาบงดงามทำให้ถังเทียนรู้สึกถึงอันตรายที่ไม่เหมือนครั้งก่อน ปราณแท้ของฟงโฉ่วเหนือกว่าถังเทียนแน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะสุดยอดวิชาโดดเด่นของถังเทียนเขาคงไม่สามารถต้านฟงโฉ่วได้ต่อให้มีวิชาลมพรางและโล่อากาศโจมตีก็ไร้ผลจะต่อต้าน
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับฟงโฉ่วผู้ยอมทิ้งทุกอย่างและเผาผลาญตนเองถังเทียนจึงถูกบีบบังคับให้เข้าตาจน
ถังเทียนสงบมากผิดธรรมดาเขาใช้ลูกปัดกระเรียนฟ้าอย่างไม่ลังเลใจเสียงกระเรียนร้องขึ้นในร่างของเขาปราณแท้จากลูกปัดกระเรียนฟ้าไหลบ่าเข้าไปในทุกส่วนร่างกายเขาทันที
กระแสปราณแท้เข้าไปในร่างเขาทำให้ตาซ้ายของถังเทียนกลายเป็นสีฟ้าหมดจด
ปราณแท้ที่เพิ่มขึ้นทำให้พลังของกรงเล็บเพลิงภูตพรายเพิ่มขึ้นด้วย
ปราณแท้ระดับหกของถังเทียนเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน กรงเล็บเพลิงภูตพรายเดิมทีเป็นวิทยายุทธระดับเจ็ด ทำให้เขาใช้ออกด้วยความยากลำบากและโดยการผสานกับปราณแท้ของเขา ทำให้แปลงกรงเล็บเพลิงภูตพรายไปเป็นสุดยอดวิชาโดดเด่น แต่ในขณะเดียวกันความต้องการปราณแท้ก็มีระดับสูงขึ้นไปด้วย
หลังจากวิวัฒนาการของเกราะนกยูง ปราณแท้ของนกยูงที่ไม่สิ้นสุดทำให้พลังของถังเทียนเพิ่มขึ้นมากมาย
แต่ตอนนี้เกราะนกยูงถูกทำลายไปแล้วและไม่มีปราณแท้นกยูงแล้ว ปราณแท้ของถังเทียนมีไม่พอและเมื่อเขาเผยจุดอ่อนตรงนี้ เขาไม่มีทางเลือกได้แต่ใช้ลูกปัดกระเรียนฟ้า
คลื่นปราณแท้ทำให้ทัศนะวิสัยสีฟ้าชัดเจนยิ่งขึ้น
รังสีดาบที่งดงามเมื่อมองเห็นด้วยตาน้ำแข็งฟ้าความเร็วของมันก็ถูกวิเคราะห์ ตาน้ำแข็งฟ้าแสดงแววชื่นชม
วิชาดาบสร้างขึ้นจากหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ผ่านการฝึกฝนขัดเกลานับพันครั้ง!
ชั้นรังสีดาบซ้อนกันในระดับที่น่าตกใจสัมผัสระหว่างชั้นรังสีดาบเพียงนิดจะเกิดปฏิกิริยากักตรึง ที่น่าทึ่งที่สุดก็คือรังสีดาบทั้งหมดที่ดูเหมือนมีจุดอ่อนและช่องว่างมากมายแท้จริงคือกับดัก
ถ้าคู่ต่อสู้โจมตีที่กับดักเหล่านี้ ชั้นรังสีดาบจะพังทลายและเกิดเสียงระเบิดดัง
แต่...นั่นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีช่องโหว่!
แต่นัยน์ตาซ้ายของถังเทียนสามารถชะลอความเร็วของรังสีดาบและในภาพที่เขามองเห็น รังสีดาบจะกลายเป็นภาพโปร่งแสงมีแต่ลายเส้นขอบกับจุดศูนย์กลางแนวเส้นทั้งหมดเหมือนกับมีเสาเล็กๆ คอยรักษาสมดุลระหว่างชั้นอย่างสมบูรณ์แบบ
สายตาถังเทียนมองเห็นศูนย์กลางระหว่างรังสีดาบ
เนตรราชันย์มยุรา!
ทันใดนั้นถังเทียนมีความรู้แจ้งขึ้นว่าเนตรราชันย์มยุรานี้สามารถสอดส่องวิธีทำลายวิทยายุทธระดับโดดเด่นเฉพาะที่อยู่ในระดับต่ำได้
ภายใต้ความสงบเยือกเย็น ถังเทียนสามารถตัดสินได้ถูกต้อง วิชาดาบของฟงโฉ่วแทบใกล้เคียงกับสุดยอดวิชาโดดเด่นแล้ว มาตรฐานใกล้เคียงกับลมพรางและวิชาโล่อากาศโจมตี
ขั้วชั้นรังสีดาบที่สมดุลนี้ต้องใช้หยาดเหงื่อและน้ำตาของฟงโฉ่วไปนับไม่ถ้วน
จุดศูนย์ถ่วงเป็นเป้าหมายที่สมบูรณ์แบบ แต่ฟงโฉ่วใช้เวลาไปมากกับวิชาพันบรรพตหิมะสนธยา เขาจะไม่รู้ความสำคัญของจุดศูนย์ถ่วงได้อย่างไร? ดังนั้นเขารู้ว่าเขาต้องปกป้องตรงนั้น
ถ้าปราณแท้ถังเทียนอยู่ในระดับเดียวกับฟงโฉ่ว อย่างนั้นการใช้กรงเล็บเพลิงภูตพรายเขาจะใช้พลังโจมตีที่จุดศูนย์ถ่วงเหล่านั้นโดยตรง
การใช้พลังทะลวงผ่านเป็นวิธีที่ดีที่สุด
แต่น่าเศร้าปราณแท้ของเขาห่างไกลกับฟงโฉ่วและโดยการโจมตีจุดศูนย์ถ่วงหลายจุด เขาจะถูกตอบโต้ด้วยปราณดาบแน่นหนาที่ระเบิดใส่เขา
ดังนั้นเป้าหมายของเขาก็คือจุดศูนย์ถ่วงใต้ชายโครงซ้ายของของฟงโฉ่วซึ่งมีพื้นที่ประมาณครึ่งนิ้ว
เขาหมุนตัวและมาปรากฏที่ด้านขวาเหมือนปีศาจ ประกายของกรงเล็บเพลิงภูตพรายทะลวงเข้ามาในพริบตา
ฟงโฉ่วผงะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมถังเทียนถึงโจมตีตรงนั้น เขาไม่เชื่อว่าถังเทียนเทียนจะมองทะลุพันบรรพตหิมะสนธยาได้ ทำไมถังเทียนถึงได้ทำแบบนี้?
แม้ว่าเขาจะสงสัย แต่ดาบในมือของเขากลับมีอาการสนองตอบ
ประกายรังสีดาบระเบิดออก รังสีดาบขาวเป็นเหมือนฉลามร้ายกระหายเลือดโจมตีเกรี้ยวกราดทันที เหมือนกับว่าดาบหิมะงดงามกลับกลายมีชีวิตและบินได้อย่างรวดเร็ว
ประกายกรงเล็บเพลิงภูตพรายปะทะรังสีดาบสีขาว
ถึงช่วงเวลานี้ นิ้วจากมืออีกข้างของถังเทียนพลันเปล่งรัศมี
หิ่งห้อยเพลิงจ้าวปีศาจ
หิ่งห้อยเพลิงห้าตัวบินเข้าหาจุดศูนย์ถ่วงด้านล่างชายโครงซ้ายของฟงโฉ่วอย่างราบรื่น รังสีดาบรอบๆบริเวณนั้นอ่อนลงเพราะการโจมตีครั้งแรกไปแล้วหิ่งห้อยทั้งห้าโจมตีถูกเป้าหมายและระเบิดออก
จากนั้นฟงโฉ่วจึงได้เข้าใจสิ่งที่ถังเทียนพยายามทำ
หิ่งห้อยเพลิงจ้าวปีศาจระเบิดเป็นเหตุให้จุดศูนย์ถ่วงพังทลายและรังสีดาบทั้งหมดสูญเสียการควบคุม
รังสีดาบขาวกระจายไปตามสายลม
เปลวเพลิงเทาบนตัวฟงโฉ่วไหม้ลามมาถึงอกแล้วเขาไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย แต่กลับหัวเราะแทน
“ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว! ในที่สุดข้าก็เข้าใจเดี๋ยวนี้เอง! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
รังสีดาบที่เต็มในท้องฟ้าสลายหายไป และฟงโฉ่วเผาไหม้จนเหลือแต่เพียงศีรษะลอยอยู่ในอากาศ เขาเริ่มเผาคอลงไป
“ขอบคุณ!” ฟงโฉ่วยิ้มให้ถังเทียนทันที
ใบหน้าที่มีรูปลักษณ์น่าเกลียดนั้นดูสงบและพอใจ
ความฝันของข้าบรรลุผลสำเร็จแล้วก่อนที่จิตวิญญาณพลังยุทธจะเผาผลาญจนหมดสิ้น ข้ามีความสุขจริงๆ....
ทันใดนั้นที่มุมตาของเขา มีร่างหนึ่งปรากฏวาบขึ้น
ถังเทียนปรากฏตัวอยู่หน้าเขาทันทีและยื่นมือคว้าหน้าผากเขาไว้
ฟงโฉ่วประหลาดใจ เขาพยายามจะทำอะไร? เขาไม่ได้แสดงท่าทีคุกคามอะไรต่อไปแล้ว....
ทันใดนั้นคลื่นพลังประหลาดครอบคลุมตัวเขาและทำให้ความรู้สึกของเขาวูบไปทันที และเขาพบว่าเขาอยู่ในที่ประหลาดแห่งหนึ่ง
ในห้องโถงกว้างขุนพลวิญญาณใบหน้าเหมือนตัวละครในไพ่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ
ขุนพลวิญญาณ?
ทันใดนั้นฟงโฉ่วมีความรู้สึกแปลกออกไป สีหน้าของเขากลับกลายเป็นตกตะลึง เพลิงสีเทาที่เผาผลาญศีรษะของเขาค่อยๆมอดลงหายไป
การเผาผลาญจิตวิญญาณพลังยุทธถูกตัดออกไปได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้เลย
เมื่อเริ่มกระบวนการเผาผลาญ เว้นแต่จบกระบวนการจิตวิญญาณพลังยุทธจะไม่หยุดเผาผลาญ
แต่เพลิงสีเทาดับมอดไปแล้ว..
นี่คือที่ใดกัน?
ขุนพลวิญญาณหน้าไพ่ยิ้มกว้าง
“ยินดีต้อนรับสู่ค่ายทหารใหม่กองทัพดาวกางเขนใต้!”