ตอนที่แล้วตอนที่ 274 น้ำแข็งเงินกับขนนกดำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 276 ฟงโฉ่ว – พลังเผาผลาญ

ตอนที่ 275 พายุข้างหน้า


การเป็นหนึ่งในสามกลุ่มอิทธิพลของกลุ่มดาวหมาป่ากลุ่มศักดินาชาวยุทธย่อมมีความริเริ่มเป็นแบบแผนเป็นธรรมดา

เหลือคนอยู่แปดสิบคนรวมกันอยู่ตรงกลางและทุกคนนั่งขัดสมาธิเดินพลังปราณ  หลังจากพบกับการต่อสู้ก่อนหน้านั้นพวกเขากลัวกันแล้ว  ใครจะข่มตาหลับได้ลง?

พวกนักสู้สามารถไปต่อได้โดยไม่ต้องหลับเป็นเวลาสี่ถึงห้าวันได้ขอเพียงได้นั่งสมาธิเดินพลังฟื้นฟูลมปราณ

ทุกคนมีอาวุธอยู่ในมือและไม่ยอมถอดเกราะออก ขณะที่บรรยากาศตึงเครียดหนัก

นักสู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้รับการรักษาและพันแผลอย่างเรียบง่ายและอยู่อย่างสงบ พวกเขาก็รู้เช่นกัน ไม่ทำเสียงดังเกินไปเนื่องจากจะส่งผลต่อขวัญกำลังใจของกองกำลัง ในกลุ่มดาวหมาป่า เมื่อท่านกลายเป็นภาระของคนอื่น ท่านอาจเป็นคนแรกที่ถูกกำจัดออกไป ในทะเลทรายกว้างใหญ่ ถ้าพวกเขาถูกทอดทิ้ง พวกเขาไม่มีโอกาสรอดแน่นอน

หวีซุ่น,สุ่ยเฉิงและหย่งชิวนั่งเป็นตำแหน่งสามเหลี่ยมรอบค่ายโดยกองกำลังอยู่ตรงกลางคอยเฝ้าคุ้มครองทั้งค่าย

หูของสุ่ยเฉิงมีรังสีฟ้าสลัวๆดูคล้ายกับใบตองสีฟ้า วิชาสายธาตุน้ำพลังสดับฝน

ทันใดนั้นสุ่ยเฉิงกระดิกหูเบาๆ  สีหน้าเปลี่ยนและตะโกน  “พวกมันกำลังมา!”

ทุกคนลืมตา  ในกลุ่มปั่นป่วนแต่สงบอย่างรวดเร็ว สีหน้าทุกคนดูกังวล ทุกคนนึกถึงอาวุธลับไม่ว่าพวกเขาจะใช้เป็นหรือไม่ พวกเขาถืออาวุธลับในมือมองดูรอบๆอย่างกังวลภายใต้จันทร์ฉายงดงาม

ภายใต้แสงจันทร์สีเงินภาพเนินทรายรอบๆ  สว่างโพลนราวหิมะ

ร่างสี่ร่างปรากฏอยู่บนยอดเนินทรายเงาดำใหญ่สี่ทอดยาวลงบนผืนทราย รังสีฆ่าฟันมากมายแทรกซึมอยู่ภายใต้แสงจันทร์

คนทั้งสี่ยืนอยู่บนยอดเนินทรายอย่างสง่างามไม่มีความคิดจะซ่อนตัวไม่มีแผนการอื่นใดกำลังมองมาที่พวกเขา

หวีซุ่นและพวกอีกสองคนมีสีหน้าโกรธเกรี้ยวอย่างมิอาจอธิบายได้

เห็นได้ชัดว่าศัตรูตั้งใจมาโจมตีแน่นอน

ก่อนหน้านี้พวกเขาเดี๋ยวโผล่เดี๋ยวหายคอยลอบโจมตีเล่นงานจนหวีซุ่นกับพวกย่ำแย่ ทั้งกลัวและประหลาดใจ  แต่พอพวกเขาปรากฏออกมาโดยเปิดเผยในตอนนี้กลับทำให้พวกเขารู้สึกโกรธมาก

พวกเขาไม่เห็นหวีซุ่นและพวกที่เหลืออยู่ในสายตา!

ช่างกล้านัก, ดูถูกกันชัดๆ,โอหังเกินไป

กลุ่มศักดินาชาวยุทธยืนหยัดอยู่ในจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารในกลุ่มดาวหมาป่า  พวกเขาจะทนโดนดูถูกได้อย่างไร?

มีคนเพียงสี่คนพวกเขายังกล้าทำเช่นนั้นหรือ?

หวีซุ่นสูดลมหายใจลึกข่มความโกรธในใจ ชูมือขวาแล้วตะโกน“ศักดินาชาวยุทธ!”

ท่าทีไม่จริงจังของหย่งชิวหายไป  หน้าของสุ่ยเฉิงเปลี่ยนเป็นเอาจริง  นักสู้ฝีมือดีผู้มีสีหน้าหวาดกลัวหายไปและทุกคนมีท่าทีสำรวม

พวกเขาทุกคนใช้ชีวิตอยู่กลุ่มศักดินาชาวยุทธมานานเกินกว่าห้าปีและมีความรู้สึกต่อกลุ่มศักดินาชาวยุทธอย่างลึกซึ้ง

คำพูดนี้หลอมรวมอยู่ในสายเลือดของเขาเป็นเวลานาน

เผียะ

ทุกคนใช้อาวุธที่พวกเขาเลือกตบใส่หน้าอกตนเอง  นักสู้ทั้งแปดสิบคนตะโกนพร้อมกัน“ศักดินาชาวยุทธ!”

เป็นแค่เพียงเสียงกระหึ่มของคนแปดสิบคน  แต่ให้ความรู้สึกเหมือนพยัคฆ์คำราม

นักสู้ทุกคนแม้แต่นักสู้ฝีมือดีที่ได้รับบาดเจ็บ ทุกคนมีสีหน้ากระตือรือร้นลมหายใจพวกเขาถี่เร็ว ดูท่าทางดุร้าย

ที่บนเนินทรายอาเฮ่อมีสายตาที่รู้สึกประหลาดใจและพูดอย่างเฉยเมย “พวกเขามีกำลังใจดี”

ถังอี้ยังถือดาบฟันขาม้าก็ยังเฉยเมยอยู่เขาแค่กล่าว  “ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง”

หลิงซิ่วใจร้อน พรึ่บ!เปลวเพลิงแดงลุกโพลงจากฟลามิงโกครอบคลุมร่างของเขา  ขณะที่เขาเริ่มหงุดหงิด

ถังเทียนไม่สบายใจ  “เฮ้, ซิ่วซิ่วน้อย เจ้าอย่าทำตาแบบนั้นได้ไหม”

ถังเทียนตอนนี้ค่อนข้างหยาบกร้าน  นกยูงเข้าไปอยู่ในตาของเขาแล้ว  เกราะหายไปแล้ว  ตาขวาของเขาใช้ที่ปิดตาสีดำปิดเอาไว้   ใครเห็นเขาตอนนี้อาจนึกว่าเขาคือโจรสลัด

เขาตัดสินใจอวดศักดานุภาพของเขาและโบกมือตะโกนลั่น “หนุ่มชาวฟ้า..ไร้เทียมทาน!”

หลิงซิ่วพึมพำ “งี่เง่า!”

อาเฮ่อ “โปรดอย่าทำแบบนั้น  เจ้าจะทำให้เราถูกหัวเราะเยาะได้”

ถังอี้ “......”

ถังเทียนกลั้นหัวเราะไม่ไหวเขาพูดพลางหัวเราะพลาง “ไปก็ไป!”

ความพร้อมเพรียงของทุกคนทำให้พวกเขาผ่อนคลาย...

พอพูดจบแค่นั้นถังเทียนวิ่งแน่บออกไปก่อน

หลิงซิ่วตะลึง จากนั้นโมโหฉุนเฉียว“เจ้าหน้าด้าน.. ขี้โกงนี่หว่า!”

เขาวิ่งออกไปทันที

ร่างทั้งสี่เหมือนกับพุ่งตรงเข้าไปในค่ายของหวีซุ่นเหมือนลูกศรกราดเกรี้ยว

“ฆ่า!”

หวีซุ่นมีสีหน้าเย็นชาตะโกนสั่งการลั่นและระดมซัดอาวุธลับในมือดุจห่าฝน  อาวุธลับทุกชนิดถูกระดมใช้ออกมา  ธนูและรังสีแสงยิงใส่ถังเทียนและพวก

ตาซ้ายสีฟ้าของถังเทียนเป็นประกายทำให้สีหน้าเขากลับกลายเย็นชา

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยอาวุธลับกลับกลายเป็นเห็นกระจ่างสำหรับเขา

ในมุมมองของคนอื่น ร่างของถังเทียนกลายเป็นภาพเลือนรางเหมือนกลุ่มหมอก อาวุธลับที่ซัดออกมาพุ่งผ่านเขาไปโดยไม่มีผลอะไร  มีบางครั้งที่เกิดประกายทำให้ผู้คนรู้ว่านั่นไม่ใช่กลุ่มหมอก

ร่างของถังเทียนโยกไปมาอย่างรวดเร็วในพื้นที่กว้างเล็กน้อย  โดยใช้ช่องว่างน้อยนิดระหว่างอาวุธลับจนทำให้เกิดภาพเช่นนั้น

ตรงส่วนใดที่เขาไม่สามารถหลบได้เขาจะใช้โล่ตะลุยเลือดป้องกันไว้ได้อย่างสบาย

วิ่งออกมาได้มากกว่าสิบเมตร ธนูห้าดอกยิงออกมาจากเงาที่ซ่อนตัวเหมือนงูรอโอกาสลอบโจมตีและปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาอย่างเงียบๆ  ในช่วงท้ายนี้เองปราณที่แฝงอยู่ในธนูก็ระเบิดออกและธนูที่ดูเหมือนอ่อนก็มีรังสีออกมา

เนื่องจากการปรากฏของลูกธนูอย่างฉับพลัน ปราณที่รุนแรงและแหลมคมทั้งห้าได้จับเป้าเส้นทางหลบที่เป็นไปได้ของถังเทียน

ตาของหย่งชิวเป็นประกาย แม้ว่าลูกธนูจะไม่มีแรงสั่นสะเทือนที่ประหลาดอะไร แต่พลังและแรงของมันก็ยังรุนแรงกว่าเมื่อเทียบกับอาวุธลับ  ธนูห้าดอกสามารถยิงทะลุแผ่นเหล็กหนาห้านิ้วได้

ในมือของเขายังมีมีดบินเงิน  สายตาของเขามองถังเทียนอย่างตั้งใจรอให้เขาก่อความผิดพลาด เขาเพ่งมองหาจุดโจมตีที่รุนแรง

ถังเทียนมองดูเหมือนไม่มีทางหลบและยืนตรงอยู่กับที่  แขนของเขาถือโล่ เขางอร่างขาขวาก้าวขึ้นมาข้างหน้าอยู่ในท่าม้าและเชิดหน้าขึ้น

ดวงตาซ้ายสีฟ้าเพิ่มความคมกล้าทันที ความเย็นเสียดกระดูกหนาวลึกจับใจทวีความรุนแรงขึ้น  หน้าที่ดูไม่ธรรมดามีลักษณะเฉยชาและไร้อารมณ์  แต่ด้วยเหตุผลบางประการเมื่อเห็นเช่นนั้นหย่งชิวหัวใจสั่นสะท้าน

เจ้าผู้นี้...ก่อนนั้นยังซ่อนพลังไว้หรือนี่?

ครั้งสุดท้ายเขายังไม่มีดวงตาสีฟ้า....

ความคิดแว่บผ่านหัวใจหย่งชิว

โล่ตะลุยเลือดในมือถังเทียนถูกชูขึ้น  โล่เรืองแสงสีแดงทึมต้านรับธนูทั้งห้าดอก  เขายกข้อศอกเสมอไหล่ และดันไปข้างหน้า

ปัง!

แสงสีแดงบนโล่ตะลุยเลือดเหมือนกับดอกไม้ที่บานออกพร้อมกับเสียงดัง

แสงรังสีโล่สีแดงขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ต่อหน้าถังเทียน

โล่ปราณควบแน่นของวิชาโล่อากาศโจมตี!

พลังธนูโจมตีปะทะเข้ากับรังสีโล่

ติง!

เหมือนกับแก้วแตกแสงโล่สั่นสะเทือนในพริบตา

หย่งชิวมีสีหน้าดีใจแต่ในทันใดนั้นสีหน้าเขาแข็งค้าง

แสงโล่ถูกบีบอัดด้วยอากาศที่ควบแน่น  หลังจากอากาศแตกทำลาย อากาศที่ถูกบีบอัดเป็นร้อยเท่าก็แตกสูญเสียพลังยึดเหนี่ยวไว้ด้วยกันและระเบิดออกมา

ปัง!

อาวุธลับและธนูหน้าถังเทียนทั้งหมดถูกลากและระเบิดออกไปเช่นกัน

ดวงตาหย่งชิวเบิกโพลง  ไม่ดีแน่

เศษชิ้นส่วนที่ถูกระเบิดออกมาพร้อมกับระลอกระเบิดกระจายออกไป ทันใดนั้นการมองเห็นของเขามืดลงมีร่างหนึ่งยืนขวางไว้หน้าเขา ฟงโฉ่ว!ดาบของฟงโฉ่วตวัดขวางป้องกันเศษอากาศที่แตกกระจายออกมา

แต่คนรอบๆ ล้วนได้รับผลกระทบกันหมด

ปุ ปุ ปุ!

รอยเลือดสองสามสายพุ่งออกมา  เศษวัตถุที่เหมือนอาวุธลับแทงร่างนักสู้

ถังเทียนฉวยโอกาสวิ่งตรงเข้าหาฟงโฉ่ว กรงเล็บแมวโลหิตในมือของเขาปล่อยพลังที่มีประกาย โจมตีใส่ฟงโฉ่ว  ประกายกรงเล็บแมวโลหิตเปลี่ยนสีฟ้าเป็นสีเงิน

ปราณแท้นกยูงในตัวถังเทียนไม่สูญเสียไปเลยสักหยด

การสูญเสียพลังปราณแท้นกยูงที่แน่นหนาไม่รู้จักหมดก่อนนี้ทำให้เขาอ่อนแอมากกว่าแต่ก่อน ปราณแท้ของเขากลับมาอยู่ในระดับหกอีกครั้ง

หย่งชิวสังเกตเห็นจุดอ่อนถังเทียนได้ในเวลารวดเร็วและความเชื่อมั่นในตอนเองของเขาเพิ่มมากขึ้น เขาแค่นเสียงเยาะเย้ย ปราณแท้ระดับหก ยังกล้ามาเล่นถึงนี่เชียวหรือ?

เขาเป็นนักสู้ระดับเจ็ด  ฟงโฉ่วระดับแปดถ้าทั้งสองร่วมพลังกันยังไม่สามารถเอาชนะนักสู้ระดับหกได้เขาสมควรไปฆ่าตัวตายได้แล้ว

กลยุทธต่อสู้ของฟงโฉ่วเปลี่ยนไปทันที  รังสีดาบของเขาเผยให้เห็นชัดเจนและกล้าแข็งมาก

หย่งชิวตะโกน  “ปล่อยเจ้านี่ให้ข้าเอง!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นนักสู้คนอื่นมีกำลังใจเพิ่มขึ้น หัวหน้าของเขาต้องพบจุดอ่อนของศัตรูแล้วและเตรียมพิชิตชัย  พวกเขาหันไปช่วยคนอื่นทันที

นอกจากดาบเงินแล้ว ยังมีลูกขวานเหล็กปรากฏอยู่ในมือของหย่งชิว  นี่เป็นอาวุธลับที่เขาไม่ค่อยได้ใช้  แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่รู้วิธีใช้มัน  ปราณแท้ของเขาอ่อนที่สุดในบรรดาสามคนและเขาไม่คาดเลยว่าจะพบกับคนที่มีพลังปราณแท้ต่ำกว่าเขา  ถ้าเขาไม่ย่ำยีศัตรูผู้นี้ ก็เท่ากับปล่อยโอกาสทองให้หลุดมือไป

หน้าของหย่งชิวแสดงอาการเยาะเย้ย เขาเร่งเร้าปราณแท้ในร่างเขาและซัดลูกขวานในมือออกไป

ความเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วมากในเสี้ยววินาทีเขาซัดลูกขวานออกไปหกลูก

รังสีลูกขวานสีดำสนิทมีเสียงแหวกอากาศไล่ตาม

ฟงโฉ่วร่วมประสานกับเขาเช่นกันรังสีดาบในมือของเขาเปลี่ยนเป็นยืดหยุ่น และรังสีดาบซ้อนเป็นชั้นเกลียว  ปราณแท้ของมันแข็งแกร่งกว่าถังเทียนมากมาย  ชั้นของรังสีดาบเหมือนกับชั้นรังสีโล่ที่หุ้มรอบถังเทียนแน่นหนา

ถังเทียนไม่มีอิสระที่จะหลบได้!

ตาย!

หย่งชิวคำรามในใจ!

เขาถ่ายเทพลังมากมายไว้ในลูกขวานบินทั้งหก  และถังเทียนไม่มีพื้นที่ให้หลบ  นอกจากมีพลังพิเศษมาช่วยเขา  เขาไม่มีทางอื่น  ขณะที่วิชาสังหารที่แท้จริงก็คือฟงโฉ่ว

ชั้นของรังสีดาบพร้อมกับรังสีฆ่าฟันเพิ่มพูนขึ้น  ตราบใดที่ถังเทียนเผยจุดอ่อนฟงโฉ่วจะเอาชีวิตเขาได้

ก็แค่นักสู้ระดับหก....

หย่งชิวไม่เข้าใจเลย สวะอย่างนี้กล้าหาญขนาดนั้นได้อย่างไร

ทันใดนั้น หนังตาเขากระตุกทันที

ประกายแพรวพราวปรากฏขึ้นในสายตาเขา

นั่นคือ...

ม่านตาหย่งชิวหดลีบเหลือเท่าเข็มทันที

คมของกรงเล็บที่เรืองแสงสีแดงและเสียงหวีดร้องแหวกอากาศทำเส้นผมตั้งชันได้ แต่ตอนนี้ ภาพที่หย่งชิวเห็นก็คือแสงสว่างแพรวพราวเจิดจ้าเหมือนกับดอกไม้ไฟ

ดวงดาวในท้องฟ้าเหมือนกับการแสดงโคมไฟและดอกไม้ไฟบดบังร่างถังเทียนอย่างสิ้นเชิง

ปัง ปัง ปัง!

เสียงบีบอัดและทึบดังสะท้อนออกมา

ประกายเหมือนกับหิ่งห้อยบินขึ้นบินลงแต่หลงจากนั้นประกายนั้นก็มารวมกันอีกครั้ง ขณะที่ถังเทียนผู้อยู่ในท่ามกลางประกายยืนอยู่ที่เดิมสีหน้าเฉื่อยชาเหมือนกับว่าเขาไม่ได้รับผลอะไรรังสีดาบที่ร้ายกาจของฟงโฉ่วไม่สามารถขยับขึ้นหน้าได้สักนิ้ว

เป็นไปไม่ได้....

หย่งชิวไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง ภาพที่เกิดอยู่ข้างหน้าเขาอยู่เหนือสามัญสำนึกของเขา

นี่มันเรื่องตลกร้ายชัดๆ! นักสู้ระดับเจ็ดและขุนพลวิญญาณระดับแปดร่วมมือกันแต่พ่ายเด็กนักสู้ระดับหก  นี่มันตลกร้ายอะไรกันแน่?

เป็นไปไม่ได้, มันเป็นไปไม่ได้!

ทันใดนั้นหย่งชิวตะงันอยู่กับที่ ในสมองของเขามีแต่คำว่าเป็นไปไม่ได้ผุดขึ้นมาเต็มหัว

ม่านตาของเขาหดลีบจนเหลือเท่าเข็ม  กลายเป็นทะเลแห่งความกลัวทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด