ตอนที่แล้วตอนที่ 270 กระพรวนลมเขาแกะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 272 ตาแดงตาฟ้า

ตอนที่ 271 การเปลี่ยนแปลง


ถังเทียนล่าถอย ทำให้หวีซุ่นและบริวารของเขาโกรธ แต่พวกเขาไม่ได้ไล่ตาม

หัวหม่าเอ้อเพียงแต่รู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้เหลือเชื่อเกินไปถ้านางไม่ได้เห็นเองกับตา  นางไม่มีทางเชื่อแน่นอน ถังเทียนและพวกพ้องสามารถฆ่ามือดีในกองกำลังศักดินาชาวยุทธได้และกดดันจนพวกเขาอยู่ในสถานการณ์อันตรายเช่นนั้นได้

ถังเทียนไม่ได้โกหก เขาคือนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีจริงๆ แต่ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้นสหายอีกสองคนและขุนพลวิญญาณก็แข็งแกร่งระดับนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีทุกคน

เพราะนางจำหวีซุ่น, สุ่ยเฉิงและหย่งชิวได้ ทั้งสามคนนี้เป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งและมีฝีมือสูงส่งเกินนางอาจเอื้อม  แต่พวกเขากลับทำอะไรถังเทียนและพวกพ้องไม่ได้

“ทำไมพวกเขาไม่ไล่ตาม?” หัวหม่าเอ้ออดถามไม่ได้

อาเฮ่อวิ่งไปอธิบายไปพร้อมกัน “แม้ว่าพวกเขาจะมีกันหลายคน แต่พวกเขาไม่ได้มีกองทัพที่แข็งแกร่งระดับสูง  สามต่อสี่ เรามีมากกว่าคนหนึ่งถ้าพวกเขากล้าตามมา เราสามารถตรึงพวกเขาสามคนได้และคนสุดท้ายของพวกเราจะฆ่าพวกเขาได้อย่างสบาย”

ทันใดนั้นหัวหม่าเอ้อเห็นแสงรำไร และใจนางรู้สึกนับถือ  คนพวกนี้กล้าหาญบ้าระห่ำเมื่อต่อสู้พวกเขาไม่มียั้งมือ ความแข็งแกร่งของพวกเขายากจะมีใครเปรียบติดเบื้องหลังของพวกเขาไม่อาจคาดคำนวณได้ พวกเขามีศักยภาพแน่แท้

พวกเขาคือขาไก่ทองคำอ้วนพี

ร่างของหลิงซิ่วที่ขี่ฟลามิงโกปรากฏต่อสายตาทุกคนคน  พวกเขาทุกคนมาที่จุดนัดพบ

ถังเทียนสังเกตสีหน้าหลิงซิ่วและประหลาดใจ “เฮ้, ซิ่วซิ่วน้อยเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? วันนี้เจ้าแข็งแกร่งทรงพลังมาก เจ้าสู้ได้ดีจริงๆ”

หลิงซิ่วยังคงกอดหอกเงินขี่ฟลามิงโกเงียบๆ เขานั่งอยู่ตรงมุมเหม่อมองไปไกล

ถังเทียนกับอาเฮ่อมองหน้ากันเอง แม้แต่คนที่มีความรู้สึกช้าที่สุดก็ยังบอกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหลิงซิ่ว

ถังเทียนเดินเข้าไปหา เขายื่นหน้าใหญ่เข้ามาข้างหน้าจนแทบชนหน้าหลิงซิ่ว “เฮ้,เจ้าบาดเจ็บหรือเปล่า ทั้งตัวเจ้าก็ยังดูดีนี่....”

หลิงซิ่วผลักหน้าถังเทียนหลบไปด้านข้างอย่างเหลืออด “อย่ากวนใจข้า!”

ถังเทียนเป็นเหมือนตุ๊กตาล้มลุก หน้าของเขาที่ถูกผลัก เด้งกลับมาทันที “หรือว่าเจ้างี่เง่าจากการฝึกฝน? หรือว่าเสียสติไปแล้ว?  เสี่ยวเฮ่อ มาดูซิ”

“หุบปากโว้ย!” หลิงซิ่วระเบิดอารมณ์โมโหทันที

ถังเทียนหัวเราะ เขาไม่สนใจอารมณ์โมโหของหลิงซิ่ว  “ถ้าเจ้าไม่สบายใจ  อย่างนั้นก็ระบายมันออกมา มาเลย มาเลยข้าจะสู้กับเจ้าก็ได้  ซิ่วซิ่วน้อย ถือว่าข้าเป็นคนที่เจ้าเกลียดที่สุดก็แล้วกัน  มาเลยเรามาประลองกัน  ลูกผู้ชายตัวจริงต้องคุยกันด้วยหมัด”

คนที่ข้าเกลียดที่สุด....

เงาร่างดำปรากฏอยู่ในสายตาของหลิงซิ่วมันปรากฏอยู่ในความฝันของเขาหลายครั้งเก็บกดอยู่ในใจเขามาหลายปีจนเขาแทบหายใจไม่ออก...

ความเกลียดฝังลึก ทำให้เลือดเขาสูบฉีดแรง ดวงตาแดงเพลิงเป็นประกายแดงก่ำเหมือนกับมีเปลวเพลิง  มือเขากระชับหอกเงินแน่นลมหายใจของเขาเร่งร้อนทันที สรรพสำเนียงรอบตัวหายไป เขาได้ยินแต่เสียงหัวใจเต้นเท่านั้น

“มาเลย! หลิงซิ่ว! หัวใจของเจ้าเต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดไม่ใช่หรือ?  ตอนนี้เจ้ากล้าสู้หรือเปล่า?”

คำพูดของถังเทียนทำให้หลิงซิ่วสูญเสียการควบคุมตัวเอง  หลิงซิ่วคำรามและแทงหอกใส่ถังเทียน

เสียงกระพรวนดังขึ้นอีกครั้ง

แสงสีเงินกระพริบแปลบปลาบ

ขนทุกเส้นบนตัวถังเทียนลุกชัน เมื่อเขากำลังสู้กับหวีซุ่น ความสนใจของเขาเพ่งอยู่ที่หวีซุ่น  แม้ว่าหลิงซิ่วจะแสดงความห้าวหาญออกมาแต่ถังเทียนไม่ทันได้สังเกต

หอกของหลิงซิ่วให้ความรู้สึกที่อันตรายมากต่อเขา

อาเฮ่อที่อยู่ด้านข้างถึงกับตะลึง

“นกยูง!”

ปราณแท้นกยูงเย็นยะเยือกเข้าไปในร่างของเขาทำให้สายตาของถังเทียนเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกดุจน้ำแข็งทันทีกรงเล็บทั้งห้าของเขาปะทะเข้ากับปลายหอกก่อให้เกิดประกายไฟกระจายทั่ว

เสียงแว่วของกระพรวนทำให้จิตวิญญาณพลังยุทธเงินของถังเทียนสั่นไหวและแทบจะทำให้ความเชื่อมโยงระหว่างนกยูงกับเขาเกือบถูกตัดขาด

ติง!

กรงเล็บเพลิงภูตพรายกับปลายหอกปะทะกัน

ถังเทียนถอยไปสองสามก้าวจึงตั้งหลักได้

หลิงซิ่วที่กลายเป็นเหมือนสัตว์ที่ดุร้ายฉวยโอกาสจากแรงเหวี่ยงหอกเงินในมือเขาระเบิดรังสีเยือกเย็นออกมา

ตาของอาเฮ่อเป็นประกายแวววาว เขายืดตัวแล้วเอนไปข้างหน้า

“อย่ามาขวาง”

เสียงเยือกเย็นของถังเทียนดังขึ้นทันที กรงเล็บแมวโลหิตของสกัดหอกเงินได้ทัน

อาเฮ่อปรับท่าทีของเขา หน้าของเขาเคร่งเครียด หัวหม่าเอ้อมองดูทั้งสองคนอย่างว่างเปล่า หน้าของนางซีดขาว นางไม่เข้าใจเหตุผลที่ทั้งสองคนที่เมื่อครู่ยังสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันกลับมาสู้กันเอง

ถังเทียนและหลิงซิ่วรวดเร็วมาก ทั้งสองกลายเป็นร่างเงาสองร่าง อาเฮ่อมีแววประหลาดใจบนใบหน้า วิชาหอกทะเลจุดของหลิงซิ่วกลายเป็นแปลกประหลาดและยากหยั่งถึง แม้ว่าหอกทะเลจุดในอดีตของเขาจะปลดปล่อยออกมาได้อย่างไม่มีสิ้นสุด  แต่พลังกลับไม่เท่ากัน หอกทะเลจุดในปัจจุบันของเขาดูเหมือนไม่ต่างจากอดีต   แต่ความจริงคาดคำนวณได้ยากมาก  พลังที่ปล่อยออกมาเบาแต่แข็งแกร่ง

ถังเทียนเสียเปรียบแต่แรกเริ่ม และยังคงถูกหลิงซิ่วต้อนตามลำดับ

หอกทะเลจุดไร้ที่สิ้นสุดมีการเปลี่ยนแปลง พลังของมันเพิ่มขึ้น และเสียงกระพรวนเหล่านั้น

ตาของอาเฮ่อจ้องมองดูกระพรวนลมเขาแกะบนหอกเงิน  หัวใจเขาสั่นไหว  นั่นเป็นของที่น่ากังวลและมีประวัติศาสตร์บางอย่างแน่นอนมันเป็นของที่สร้างความสับสนได้ แต่ไม่มีร่องรอยของปราณชั่วร้าย สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือเสียงของกระพรวนลมเขาแกะเข้ากันได้กับวิชาหอกทะเลจุดของหลิงซิ่วได้เป็นอย่างดี

หอกทะเลจุดที่อยู่ต่อหน้าเขา ถังเทียนได้แต่ถอยทันที

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกคนอื่นข่มได้เป็นเวลานาน

พลังของถังเทียนเพิ่มขึ้นอย่างน่าตระหนกเมื่อเร็วๆ นี้  การได้รับพลังของนกยูง วิวัฒนาการของนกยูงการได้ฝึกฝนวิชาระดับม่วงทอง โล่อากาศโจมตีและลมพรางวิธีการโจมตีของเขามีความสมบูรณ์มากขึ้น และยังเพิ่มความสงบแน่นอนของปราณแท้นกยูงทำให้เขาสามารถตัดสินใจได้สมบูรณ์แบบในแทบทุกสถานการณ์  การต่อสู้เมื่อเร็วๆ นี้ทำให้ฝีมือของเขาแทบไร้ผู้เปรียบติด

แต่วันนี้ เขาถูกหลิงซิ่วต้อน

ปราณแท้ของนกยูงที่เขาทดลองและทดสอบมามากมายหลายครั้ง ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้  ทุกครั้งที่กระพรวนประหลาดดังการเชื่อมโยงระหว่างเขากับนกยูงก็ถูกรบกวน ทำให้ปราณแท้ไม่เสถียรสภาวะเยือกเย็นของถังเทียนพังทลายทันที

การถูกต้อนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตาของถังเทียนเริ่มแดง  เขาคือคนที่ไม่ชอบความพ่ายแพ้  แม้ว่าพลังของนกยูงจะทำให้หัวเขาเย็นเหมือนถูกหิมะโปะแต่นิสัยไม่ยอมแม้และนิสัยต่อต้านมันฝังอยู่ในกระดูกเขาแล้วมันจะกระสับกระส่ายโดยอัตโนมัติ

โธ่เว้ย!

ข้ากำลังโดนต้อนจริงๆ!

ปราณแท้ของนกยูงที่แข็งยะเยือกทำให้สภาพใจของถังเทียนเยือกเย็นมาก และความรับรู้รอบตัวเขาชัดเจนมาก การโจมตีของหลิงซิ่วเต็มไปด้วยจุดอ่อนในสายตาเขาแต่หลิงซิ่วเพิกเฉยจุดอ่อนของเขาโดยสิ้นเชิงและปล่อยพลังหอกของเขาอย่างบ้าคลั่ง

หลิงซิ่วเป็นเหมือนสัตว์ป่า หอกของเขาเหมือนกับทะเลดวงดาว และกระพรวนก็เหมือนกับสายลม

ถอย, ถอยอีก, ถอย, ถอยอีก!

เส้นเลือดในดวงตาถังเทียนเข้มข้นมากขึ้นและเพราะใจของเขาอยู่ในสภาพเยือกเย็นมาก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในร่างของเขาจึงเป็นความเข้าใจภายในและเขารู้สึกถึงความต้องการต่อสู้ที่ลึกอยู่ในใจของเขามากขึ้นๆ ทุกขณะ

เป็นความรู้สึกที่ขัดแย้งกันอย่างแปลกประหลาด

ราวกับใต้ประกายและชั้นน้ำแข็งที่บริสุทธิ์ มีลาวาร้อนแดงไหลอยู่เงียบๆ

น้ำแข็งและไฟ ความเย็นและความร้อนโถมอยู่ภายใน

นกยูงสามารถรับรู้ได้ถึงความต้องการต่อสู้ในร่างของถังเทียนและพลังปราณแท้ของนกยูงเริ่มกล้าแข็งทันทีกระแสความเย็นเสียดกระดูกกระจายไปทั่วร่างถังเทียน  สิ่งที่ประหลาดก็คือไม่ว่าความเย็นจะกล้าแข็งรุนแรงมากแค่ไหน อารมณ์เดือดที่ต้องการต่อสู้ในส่วนลึกของร่างกายเขาก็ไม่อาจข่มไว้ได้เลย  มันยิ่งเดือดขึ้นเผาไหม้ขึ้นเหมือนหินหลอมเหลวที่ไหลอย่างรวดเร็ว

ความขัดแย้งที่ตัดกันรุนแรงนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น

ปัง!

ร่างของถังเทียนสั่น บางอย่างที่อยู่ลึกในร่างเขา ดูเหมือนมีข้อจำกัดบางอย่างที่ถูกยกเลิก

ปิงที่ยังอยู่ในเมืองสามวิญญาณรู้สึกถึงได้ทันทีและสีหน้าของเขาเปลี่ยนไป พยัคฆ์ฟ้าเปลี่ยนสภาพเป็นรังสีแสง เพียงวับเดียวเขาใช้ความเร็วสูงสุดบินไปที่ห้องจิตวิญญาณพลังยุทธทันที

เกิดอะไรขึ้น?

….

สถาบันยุทธอมตะ

ณ หอสะท้อนพลังยุทธ ในขณะมีวิวัฒนาการครั้งใหญ่ ศิษย์สถาบันวิทยายุทธอมตะจะมารุมล้อมกันและเดินไปมารอบๆ กระจก เพียงแต่ตอนนี้กระจกทองแดงสะท้อนยุทธเปล่งแสงสว่างเจิดจ้ายิงตรงไปยังกลุ่มกระจกที่ตั้งไว้

แสงเจิดจ้าแพรวพราวทำให้ศิษย์ทุกคนตาพร่าไปชั่วขณะทั่วทั้งโถงหอตกอยู่ในความวุ่นวาย

“เกิดอะไรขึ้น?”

“มีอะไรผิดปกติ?”

ผู้อาวุโสพุ่งเข้ามาจุดที่เกิดเหตุ แต่ยังเกิดอาการตาพร่าไปเป็นชั่วเวลาสั้นๆแต่ทันใดนั้นหูของเขาได้ยินเสียงบางอย่างทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยน  เขาตะโกนขึ้น “ทุกคน เงียบ!”

เสียงของผู้อาวุโสที่คุ้นเคย ทำให้ให้ทุกคนเงียบทันที

หึ่งงงงงง!

เป็นเหมือนเสียงผึ้งกระพือปีก

เป็นเสียงที่ต่ำและกล้าแข็ง เหมือนกับกระแสน้ำ

ทันใดนั้นทุกคนเพิ่งรู้ตัว พวกเขาเพิ่งฟื้นการมองเห็น แต่เมื่อเห็นภาพที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาอย่างชัดเจน พวกเขาพากันตกตะลึงกันหมด

กระจกหมื่นบานกำลังส่งเสียงร้องพร้อมกัน!

เสียงหวี่ต่ำความจริงเป็นการสั่นสะเทือนของกระจกทองแดงทั้งหมื่นบานทำให้เกิดเสียง!

ศิษย์ทุกคนจ้องมองปากอ้าตาค้างมองดูเหตุการณ์ พวกเขาไม่เคยเห็นกลุ่มกระจกทำสิ่งนี้มาก่อน  สีหน้าของผู้อาวุโสซีดขาวเหมือนกับกระดาษ  ราวกับว่าเขามองเห็นผี

ทันใดนั้นร่างสองร่างเดินเข้ามาในหอโถง

เป็นหนึ่งบุรุษ หนึ่งสตรี บุรุษนั้นงามสง่าส่วนสตรีงดงามเหมือนกับเทพธิดา

เมื่อเหล่าศิษย์มองเห็นทั้งสองคน พวกเขายืนตรงมองอย่างว่างเปล่าทันทีราวกับถูกฟ้าผ่า

ราชาซิฟิอัส!  ราชินีแคสซิโอเปีย!

ทั้งสองคนคือผู้ทรงอำนาจของสถาบันยุทธอมตะและทันทีที่พวกเขามองเห็นกลุ่มกระจกก็ถึงกับตกตะลึง

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เสียงของราชินีแคสซิโอเปียมีแววตื่นตระหนก

“ข้าไม่รู้” เสียงของราชาซิฟิอัสแฝงความกังวล “บางทีอาจมีสมบัติเซียนในตำนานถือกำเนิดหรืออาจเป็นหนึ่งในหมู่ดาวเส้นแนวสุริยะคลาสถูกแผดเผาอย่างหนักหรืออาจเป็นพลังสายเลือดที่ทรงพลังถูกปลุกให้ตื่น หรือมีบางคนกลายเป็นเซียน! แต่ต้องเป็นคนที่ทรงพลังแน่นอน

ราชินีแคสซิโอเปียส่ายศีรษะ “กลายเป็นเซียนไม่ก่อให้เกิดโกลาหลใหญ่ขนาดนั้น  เซียนกระบี่ที่มีพลังเพิ่มขึ้นในสองสามปีมานี้ยังไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยากับกระจก”

กระจกทองแดงสะท้อนยุทธสามารถสะท้อนบ่งบอกลางเกี่ยวข้องกับสวรรค์วิถี

“อย่าลืมว่าเซียนกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดสองสามคนก็ทำให้กระจกร้องได้”  ราชาซิฟิอัสเตือน

“อย่างนั้นเราจะทำยังไง?”  ราชินีแคสซิโอเปียมองและถามเขา

“จับตาดูความเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ” เขาตอบ  “ไม่ว่ายังไงก็ตามเรื่องนี้จะปล่อยให้รั่วไหลออกไปไม่ได้!ส่งศิษย์เหล่านี้ทุกคนกลับไปที่ภูเขา ปิดประตูและฝึกฝนอย่างหนัก  เราจะจับตาดูอย่างระมัดระวังเราจะพบเงื่อนงำบางอย่างได้แน่นอน”

“ก็ได้”  หน้าของราชินีแคสซิโอเปียเคร่งเครียด  และนางพยักหน้า

…..

อาเฮ่อกำลังดูอย่างตั้งใจและสังเกตได้อย่างรวดเร็วว่าถังเทียนแตกต่างไปจากเดิม  หน้าของเขาเคร่งเครียดทันที

แม้ว่าถังเทียนกำลังถอย แต่ความรู้สึกที่อาเฮ่อได้รับกลับแตกต่าง  ก่อนนั้นถังเทียนถูกหลิงซิ่วใช้หอกทะเลจุดต้อนกดดันบังคับให้เขาถอยไปทีละก้าวๆแต่ตอนนี้ถังเทียนถอยอยู่ก็จริง แต่เขายิ่งใจเย็นมากขึ้นทุกที  การกระทำของถังเทียนเริ่มกระชับขึ้นกรงเล็บเพลิงภูตพรายในมือขวาของเขาแทบไม่ได้ใช้ออกขณะที่โล่ตะลุยเลือดในมือซ้ายคอยปะทะปัดป่ายหอกทะเลจุดของหลิงซิ่ว

ยิ่งถังเทียนเงียบมากขึ้น อาเฮ่อยิ่งรู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติ เพราะปราณอันตรายรอบๆ ตัวถังเทียนหนักหน่วงขึ้นทุกขณะ

เมื่ออาเฮ่อมองดูม่านตาของถังเทียนโดยบังเอิญ ร่างของเขาสะท้านขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

ตาของถังเทียนข้างหนึ่งเป็นสีฟ้า อีกข้างแดงก่ำ

ข้างหนึ่งสีเหมือนน้ำทะเล  ข้างหนึ่งแดงเหมือนเปลวเพลิง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด