ตอนที่ 9-38 ความจริง?
จักรพรรดิโจฮันน์อดหงุดหงิดกับทัศนคติของลินลี่ย์ไม่ได้ ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาก็ยังเป็นจักรพรรดิของจักรวรรดิโอเบรียน
“จักรพรรดิโจฮันน์!” เสียงของลินลี่ย์ทุ้มเข้มขึ้น และตาของเขาจ้องจักรพรรดิโจฮันน์เขม็ง
จักรพรรดิโจฮันน์มีความรู้สึกเหมือนว่าเขาตกลงไปในเหวมืดมิดเย็นยะเยือก สายตาที่จับจ้องของลินลี่ย์ทำให้เขายากจะหายใจได้ จักรพรรดิโจฮันน์รู้สึกอึดอัดที่คอและเขาพยายามพูด “อาจารย์ลินลี่ย์ นี่หมายความว่ายังไง? ท่านไม่ไว้วางใจเราหรือ?”
เดเลียที่อยู่ด้านข้างยังคงสงบ
ลินลี่ย์จ้องมองจักรพรรดิโจฮันน์ เขาพูดเสียงทุ้มต่ำ “จักรพรรดิโจฮันน์ ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อใจท่าน เพียงแต่เรย์โนลด์เป็นสหายสนิทของข้า จู่ๆ ท่านก็บอกข้าว่าเขาตายในการสู้รบใช่ไหม? บอกข้าที... จะไม่ให้ข้าพยายามค้นหาความจริงของเรื่องนี้ได้ยังไง?”
“ความจริงของเรื่องราว?”
จักรพรรดิโจฮันน์ยืดตัวและพูดอย่างไม่พอใจ “อาจารย์ลินลี่ย์ หรือว่าที่เราบอกไปไม่ใช่เรื่องจริง? เราจะบอกอีกครั้งก็ได้ เรย์โนลด์ถูกไล่ล่าติดตามและถูกฆ่าโดยกองกำลังของจักรวรรดิโรฮอลท์ที่กำแพงเมืองนีลเขาตายในการสู้รบที่นั่น ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้!”
“เมืองนีล?” ลินลี่ย์อดหรี่ตาไม่ได้ “จักรพรรดิโจฮันน์ ถ้าเรย์โนลด์หนีไปถึงกำแพงเมืองนีลแล้วเป็นไปได้ยังไงที่ทหารหลายคนของเมืองนีลไม่สามารถช่วยเรย์โนลด์ได้?”จักรพรรดิโยฮันน์ลังเล แต่แล้วพูดอย่างหนักแน่น"ในตอนนั้นเราไม่ได้อยู่ที่นั่น อย่างไรก็ตาม ตามสิ่งที่เราได้รับทราบ ขณะที่เรย์โนลด์มาถึงกำแพงเมืองนีล เขาถูกฆ่าตายก่อนที่ทหารของเมืองจะมีโอกาสช่วยเหลือเขา"
น้องสี่ของเขาตายแล้ว!
ลินลี่ย์ไม่ต้องการเชื่อ เมื่อเขาสอบถามจักรพรรดิโจฮันน์ ภาพและความทรงจำเมื่อครั้งที่เขาใช้ชีวิตร่วมกับน้องสี่ผุดขึ้นมาในใจอย่างควบคุมไม่ได้ ทำให้ลินลี่ย์มีความรู้สึกที่ก้าวร้าวในใจมากขึ้น
จักรพรรดิโจฮันน์รู้สึกได้ว่าอารมณ์ของลินลี่ย์กำลังเปลี่ยน ราศีที่แผ่ออกมาเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวหยาดเหงื่อเม็ดโตปรากฏที่หน้าผากของจักรพรรดิโจฮันน์ เขาได้แต่จ้องมองลินลี่ย์
ไม่ว่ายังไง เขาไม่อาจเอ่ยปากพูดความจริง เขาต้องยืนยันว่าเรย์โนลด์เสียชีวิตในการสู้รบ และทหารของเมืองนีลไม่มีโอกาสช่วยเขา
ลินลี่ย์หลับตา บังคับให้ความรู้สึกในแง่ร้ายในใจสงบลง เขาระบายลมหายใจ
เมื่อเขาลืมตา ดวงตามีประกายดุจสายฟ้า ภายใต้การจ้องมองของลินลี่ย์ จักรพรรดิโจฮันน์รู้สึกถึงแรงกดดันทางจิตอย่างหนักหน่วง ในฐานะนักรบธรรมดาพลังจิตของเขาจะเทียบได้กับจอมเวทระดับเก้าอย่างลินลี่ย์ได้ยังไง?
“จักรพรรดิโจฮันน์ พระองค์ต้องเข้าใจบางทีสิ่งที่พระองค์บอกข้าเป็นเรื่องจริง แต่พระองค์สามารถรับประกันได้หรือว่าคนที่นำข้อมูลข่าวสารมาให้พระองค์ยังคงบอกความจริง?” เสียงของลินลี่ย์เบามาก
จักรพรรดิโจฮันน์พยักหน้าโดยไม่ลังเล และพูดยืนยัน “ลินลี่ย์,เจ้าต้องเชื่อเรา”
ลินลี่ย์จ้องมองจักรพรรดิโจฮันน์ จากนั้นพูดอย่างใจเย็น “จักรพรรดิโจฮันน์ วันนี้ข้าอารมณ์ไม่ดีเลย ข้าจะขอกลับก่อนช่วยบอกน้องชายข้าและนีน่าให้ทราบด้วย”
แม้ว่าหน้าผากของเขาจะมีเหงื่อเกาะพราวแต่จักรพรรดิโจฮันน์ก็ยังรีดยิ้มออกมาได้ “อาจารย์ลินลี่ย์ เราเข้าใจว่าท่านรู้สึกยังไง อาจารย์ลินลี่ย์ท่านกลับบ้านไปพักสักหน่อย เราจะแจ้งวอร์ตันกับนีน่าแน่นอน”
ลินลี่ย์พยักหน้า จากนั้นออกไปจากวังหลวงพร้อมกับเดเลีย
เมื่อเห็นว่าลินลี่ย์จากไป ในที่สุดจักรพรรดิโจฮันน์ก็ถอนหายใจยาว เขาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากและพูดกับตัวเอง “โอวสวรรค์, โกหกต่อหน้าลินลี่ย์ช่างน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน ถ้าลินลี่ย์โกรธขึ้นมา ที่นี่ไม่มีใครหยุดเขาได้”
หลังจากสงบจิตใจได้แล้ว จักรพรรดิโจฮันน์เรียกความสงบกลับมาได้อีกครั้ง เขายิ้มอย่างสง่างามและกลับเข้าไปในงาน
ลินลี่ย์กับเดเลียเดินเคียงคู่กันไปตามถนนโบลเดอร์ ระหว่างเส้นทางกลับจากวังหลวง ลินลี่ย์เงียบอยู่ตลอดเวลา เดเลียที่อยู่ข้างเขารู้สึกได้ว่าลินลี่ย์อยู่ในความเจ็บปวดเพียงไหน
หลังจากผ่านไปนานเดเลียเอ่ยพูดเบาๆ “ลินลี่ย์”
ลินลี่ย์สะดุ้งตื่นจากภวังค์เพราะเสียงเรียกนี้ เขาออกจากความทรงจำของเขาชั่วคราวและมองดูเดเลีย “มีอะไรหรือ?” เดเลียพูดปลอบใจอย่างอ่อนโยน “เจ้ากำลังคิดถึงเรื่องเรย์โนลด์?”
ลินลี่ย์พยักหน้าช้าๆ “เดเลีย,ในใจข้า พี่ใหญ่เยล, พี่รองและน้องสี่เป็นเหมือนพี่น้องแท้ๆ ของข้า ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเป็นไปได้ยังไงที่น้องสี่จะตายในการสู้รบ”แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่สงบเมื่อพูดคำนี้ แต่เดเลียสังเกตว่าลินลี่ย์เริ่มตาแดง
แม้ว่าจะเป็นคนที่มีความยืดหยุ่น แต่ดวงตาของลินลี่ย์เริ่มมีน้ำตาคลอ ใครๆก็รู้ได้ว่าเขาอยู่ในช่วงเจ็บปวดมากเพียงไหน
ถึงเขาจะไม่ค่อยคิดถึงเรื่องราวเหตุการณ์ในอดีต แต่ความทรงจำในสมัยเยาว์วัยผุดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เขายังจำได้เมื่อทั้งสี่คนกินดื่มด้วยกันเที่ยวเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน เขายังจำได้ถึงตอนที่อยู่ในหอพักสถาบัน พวกเขาคุยกันถึงสาวๆ ในสถาบันเวลานั้นทั้งเรย์โนลด์และเยลมีชีวิตชีวามาก เมื่อนึกย้อนถึงความเกียจคร้านเหลวไหลของเรย์โนลด์ ลินลี่ย์อดรู้สึกทุกข์ใจไม่ได้
พวกเขามาถึงคฤหาสน์ของวอร์ตัน
“ใต้เท้า” ยามเฝ้าประตูพูดด้วยความเคารพ
หลังจากมองเข้าไปในบ้านแล้ว เขาหันมาทางเดเลีย “เดเลีย, ตอนนี้เจ้ากลับก่อนได้ไหม?”
“เจ้าจะไปไหนหรือ?” เดเลียถามด้วยความสงสัย นางรีบกล่าว “ลินลี่ย์, โปรดอย่าใจร้อนทำอะไรลงไปเลย” เดเลียรู้ว่า เพราะสภาพอารมณ์ปัจจุบันของลินลี่ย์ เป็นไปได้ว่าเขาอาจก่อเรื่องร้ายแรงขึ้นได้
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “ไม่, ข้าแค่จะไปบ้านของเรย์โนลด์...ตระกูลดันสตัน!”
ตระกูลดันสตันยังคงเป็นหนึ่งในตระกูลที่เก่าแก่ที่สุดของจักรวรรดิโอเบรียน ตระกูลดันสตันมีอิทธิพลในกองทัพอยู่มากมาย
ตระกูลดันสตัสตั้งอยู่ไม่ไกลมากจากวังหลวง
ลินลี่ย์ใช้เวทเงาลมก็พุ่งทะยานไปอย่างสง่างามคล้ายกับสายลมพัดผ่านถนนของเมือง ก่อนที่คนส่วนใหญ่จะทันสังเกตลินลี่ย์เขาก็เคลื่อนผ่านพวกเขาไปไกลหลายร้อยเมตรแล้ว
“โธ่เว้ย, ข้าบอกเจ้าแล้วให้ระวังอย่ายั่วโมโหนายผู้หญิง โธ่...” ยามสองคนของตระกูลดันสตันคุยกันเอง หนึ่งในนั้นหัวเราะกันเอง
ยามอีกคนลูบคลำหน้าซึ่งมีสีแดงเป็นรอยมือ
“ข้าไม่ได้ทำอะไรให้นางหงุดหงิด! ก็แค่ เมื่อคุณนายมาถึง,ข้าไม่ได้ถอยไปไกลพอ ดังนั้นคุณนายจึงตวาดใส่ข้าและตบข้าหนึ่งที โธ่... ไม่ยุติธรรมเลย”
“อย่าบ่นเรื่องยุติธรรมหรือไม่ยุติธรรมเลยคุณชายเรย์โนลด์เพิ่งตายในการสู้รบ ใครก็ตามที่โกรธนายหญิงตอนนี้ก็เท่ากับหาเรื่องตาย”
ยามทั้งสองคนคุยกันตามปกติ แต่ทันใดนั้นมีสายลมกระโชกผ่านวูบหนึ่งปรากฏร่างมนุษย์คนหนึ่งที่หน้าประตูทางเข้าคฤหาสน์ตระกูลดันสตัน
ยามทั้งสองคนสะดุ้งตกใจ
“ข้าขอถาม ใต้เท้าเป็นใคร?” หนึ่งในยามเอ่ยขึ้น
“ช่วยไปรายงานและบอกว่าลินลี่ย์ขอเข้าพบประมุขตระกูลดันสตัน เสียงของลินลี่ย์สงบ แต่มีพลังทะลุทะลวงสั่นสะท้านวิญญาณ
“อาจารย์ลินลี่ย์?” ยามทั้งสองคนต่างมองหน้ากัน มีแววทึ่งปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา
ลินลี่ย์เป็นบุคคลระดับไหน? เขาเป็นยอดฝีมือที่แทบจะทรงพลังที่สุดในทวีปยูลานและอยู่ในระดับเดียวกับจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์หรือเฮนด์เซน
ยามทั้งสองคนคำนับทันที
“อาจารย์ลินลี่ย์โปรดรอสักเดี๋ยว ข้าจะรีบเข้าไปรายงานทันที” หนึ่งในเจ้าหน้าที่เฝ้าประตูรีบวิ่งเข้าไปในคฤหาสน์อย่างเร่งรีบทันที ลินลี่ย์ยืนรอเงียบๆ อยู่ด้านนอกประตูตัวของเขายืดตรงเหมือนคันทวน
หลังจากนั้นไม่นานบุรุษวัยกลางคน 3 คนก็วิ่งมาถึงโดยเร็วหัวหน้ากลุ่มของคนทั้งสามนี้คือประมุขตระกูลดันสตันและเป็นบิดาของเรย์โนลด์นามนีออน ดันสตัน
นีออน ดันสตันเมื่อทราบว่าลินลี่ย์มาเยือน ก็รีบเข้ามาต้อนรับเขาทันที
พวกเขาทราบว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของวอร์ตันกับนีน่า แต่เพราะเรย์โนลด์ตายตระกูลดันสตันจึงอยู่ในสภาพเศร้าเสียใจเป็นเหตุให้ตระกูลดันสตันไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงแต่งงานของนีน่า
“ท่านนี้คือ อาจารย์ลินลี่ย์ใช่ไหม?”
นีออน ดันสตันสังเกตลินลี่ย์จากระยะไกล ลินลี่ย์เป็นคนสำคัญของโลก นีออนสามารถสัมผัสได้จากการชำเลืองมองการปรากฏตัวที่น่าทึ่งของลินลี่ย์
นี่คือแรงกดดันพลังจิตรูปแบบหนึ่ง
เมื่อยอดฝีมือฝึกจนถึงระดับหนึ่ง จิตและวิญญาณของเขาจะเปลี่ยนสภาพไปทั้งสองอย่าง ยอดฝีมือระดับเซียนต่อให้เสื้อผ้าของพวกเขาขาดรุ่งริ่งก็ยังดูสูงศักดิ์กว่าผู้สูงศักดิ์ทั้งมวล
ลินลี่ย์หันหน้ามองดูนีออนและอีกสองคนที่มาถึง
เมื่อสายตาของเขามองดูคนทั้งสามตรงๆ พวกเขาทุกคนสูดหายใจลึกก่อนจะพูดทักทายอย่างเป็นกันเอง นีออนประมุขตระกูลเอ่ยพูดคนแรก “อาจารย์ลินลี่ย์ ถ้ามีอะไรที่ท่านต้องการแค่ส่งคนมาหาเราก็ได้ ข้ายินดีไปคุยกับท่าน ไม่จำเป็นต้องลำบากมาเป็นการส่วนตัวเลยอาจารย์ลินลี่ย์”
ลินลี่ย์ไม่เสียเวลาอ้อมค้อม เดินตรงเข้าบ้านตระกูลดันสตัน เขาผ่านคนทั้งสามเข้าไปข้างใน
นีออน ดันสตันและคนอื่นงง แต่พวกเขาก็ตามเข้าไปทันที
เพราะลินลี่ย์มีความรู้เข้าใจในพลังธาตุลม เขาแค่นึกก็กระตุ้นการทำงานของเวทลมตรวจสอบ ทำให้เขา ‘เห็น’ ทุกอย่างในระยะหลายกิโลเมตร ขณะที่ลินลี่ย์เดินเข้าหอโถงใหญ่ของตระกูลดันสตัน เขาเห็นคนหลายคนรวมตัวกันอยู่ที่นั่น ทั้งหมดเป็นบุรุษ
“คารวะอาจารย์ลินลี่ย์” บุรุษทุกคนคำนับเขาด้วยความเคารพ
ลินลี่ย์ฝืนยิ้ม จากนั้นกล่าว “ทุกท่านไม่ต้องมากมารยาท ข้าคิดว่าทุกคนคงทราบแล้วถึงเหตุผลที่ข้ามาในวันนี้”
นีออนดันสตันและคนอื่นๆ ต่างมองดูกัน ทุกคนตะลึงไปชั่วขณะ
“เรย์โนลด์ตายแล้ว” สายตาลินลี่ย์กวาดผ่านคนที่ล้อมรอบเขา เสียงของเขาทุ้มลึกขึ้น “เรย์โนลด์เป็นสหายที่ดีที่สุดคนหนึ่งของข้า เราสนิทเหมือนกับเป็นพี่น้องแท้ๆ!”
เสียงของลินลี่ย์ดังไปทั้งห้องโถงมีกลิ่นอายคลุมเครือ
“ตอนนี้, สิ่งที่ข้าอยากรู้ก็คือ น้องสี่ตายยังไงกันแน่? เป็นความจริงไหมที่เหตุผลของทหารเมืองนีลอ้างว่าไม่สามารถช่วยเขาได้ทันเวลา จึงเป็นเป็นเหตุให้เขาตายในการสู้รบ!” สายตาของลินลี่ย์จ้องนีออน ดันสตันเขม็ง
นีออน ดันสตันถอนหายใจลึก “ลินลี่ย์! เรย์โนลด์คือลูกชายของข้า ข้าเจ็บปวดเหลือเกินที่เขาตาย แต่ไม่มีอะไรสำหรับเรื่องนั้น ในสงคราม คนเราอาจตายได้ ตระกูลดันสตันไม่สามารถเอะอะโวยวายใหญ่โตเพียงเพราะการตายของลูกชายข้า ตระกูลดันสตันเป็นตระกูลทหาร เหตุผลดั้งเดิมที่เราตัดสินใจมานานแล้วให้บุตรแต่ละคนเป็นทหารรับใช้ประเทศสิบปีก็ต้องทำใจแล้วว่าพวกเขาอาจต้องเตรียมตัวตายเพื่อประเทศ ถ้าพวกเขาไม่อาจฝึกฝนขัดเกลาให้เหมือนเหล็กกล้า พวกเขาจะมีประโยชน์ได้ยังไง?”
“ข้าเข้าใจเรื่องนี้”
ลินลี่ย์มองดูนีออน ดันสตันอย่างสงบ “เสียสละชีวิตเพื่อแผ่นดินเกิดไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย อย่างไรก็ตาม... เพราะเหตุผลบางประการ ข้ารู้สึกว่าเรย์โนลด์ตายที่หน้ากำแพงเมืองนีลเป็นเรื่องที่ยากจะทำให้ข้าเชื่อได้ เป็นไปได้ไหมว่าเมืองนีลไม่มียอดฝีมือปรากฏตัว? เป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขาถ้าจะโดดลงจากกำแพงเมืองลงมาช่วยเหลือพวกเขาไม่ใช่หรือ?”
“ลุงนีออน!” ลินลี่ย์จ้องมองนีออนดันสตันเขม็ง “ท่านต้องเข้าใจน้องสี่ข้าตาย ถ้าเขาตายอย่างมีเกียรติในการสู้รบ ข้าคงจะรู้สึกภูมิใจในตัวเขา! แต่ถ้าเขาตายอย่างไร้ความหมาย หรือตายเพราะเหตุผลอย่างอื่น อย่างนั้นข้าจะต้องค้นหาทุกอย่างที่นั้นเพื่อรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นน้องสี่ของข้า!”
“ถ้าความตายของเขาเกี่ยวพันกับบางคนจนเป็นเหตุให้เขาตายล่ะ? ข้าจะทำให้พวกมันตายด้วยเช่นกัน!!!” ตาของลินลี่ย์เป็นประกายคมกริบดุจมีด
นีออนและคนอื่นๆ ทุกคนรู้สึกสะท้านใจ
“ลุงนีออน!” ท่าทางที่ลินลี่ย์นับถือเขาทำให้หัวใจของนีออนสั่นสะท้านเช่นกัน
“บอกข้าเถอะ บุตรของท่าน น้องสี่ของข้า เขาตายอย่างไม่เป็นธรรม ไร้ความหมายหรือไม่?” ลินลี่ย์จ้องมองนีออน ดันสตันรอให้เขาตอบ
สีหน้าของนีออน ดันสตันดูมีอารมณ์ซับซ้อน แต่เขามองลินลี่ย์ตรงๆ และตอบอย่างหนักแน่น “อาจารย์ลินลี่ย์ ขอบคุณมาก อย่างไรก็ตาม ลูกชายข้าตายอย่างสมเกียรติในการสู้รบ เขาไม่ได้ตายอย่างอยุติธรรม!!!”
ลินลี่ย์กวาดสายตามองดูทุกคน
“ถ้าอย่างนั้นข้าขออำลา” ลินลี่ย์หมุนตัวเดินจากมาจากตระกูลดันสตันทันที
เมื่อเห็นลินลี่ย์จากไป นีออนดันสตันและคนอื่นลอบถอนหายใจ นีออนดันสตันสั่งทุกคนเสียงดังทันที “ทุกคนกลับไปทำหน้าที่ตามปกติของพวกเจ้า”
หลังจากสั่งแล้ว นีออน ดันสตันออกจากห้องโถงและกลับไปห้องหนังสือของเขาทันที
“เรย์โนลด์...ยกโทษให้พ่อด้วย!” ขณะที่เขาเดิน ตาของเขาเป็นสีแดง
เนื่องจากอิทธิพลและอำนาจของตระกูลดันสตันยังมีอยู่ในกองทัพพวกเขาย่อมรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นธรรมดา ลูกชายของนีออนต่อสู้กับศัตรูอยู่ที่ฐานกำแพงเมืองนีลอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะถูกฆ่า แต่เจ้าชายจูเลียนออกคำสั่งด้วยตนเองไม่มีใครเปิดประตูและช่วยเหลือพวกเขา
เขาตายอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม!
ใจของนีออนแทบจะขาด “อาจารย์ลินลี่ย์อาจฆ่าเจ้าชายจูเลียนเพื่อล้างแค้นให้เจ้า แต่ฝ่าบาทลำเอียงไปทางเจ้าชายจูเลียนมาก แม้ว่าเขาจะไม่กล้าแก้แค้นกับอาจารย์ลินลี่ย์ แต่เขาจะต้องทำเช่นนั้นกับตระกูลดันสตันเช่นกัน”
ไม่มีอะไรที่จะทำได้!
ถ้าลูกผู้ชายคนหนึ่งตายไป ไหนๆเขาก็ตายแล้ว พวกเขาก็ต้องทำเพื่อประโยชน์ของคนมีชีวิตอยู่!