ตอนที่ 9-36 วิกฤติของเรย์โนลด์
บาร์เกอร์และน้องๆของเขาในเวลานี้ บาร์เกอร์ อังเก้ บูนและเกทส์ทุกคนถึงระดับเก้ากันแล้ว หลังจากแปลงร่างพวกเขาจะมีพลังระดับเซียน สำหรับน้องคนที่สามเฮเซอร์ขาดอีกก้าวเล็กๆในการบรรลุระดับเก้า คือสามารถจะเข้าถึงได้ทุกเมื่อ บรรดาห้าพี่น้องนี้ บาร์เกอร์เกทส์และเฮเซอร์เชี่ยวชาญถึงเคล็ด ‘กวัดแกว่งอาวุธหนักเสมือนของเบาได้’
“หลังจากน้องของข้าแต่งงานแล้ว เราจะมุ่งหน้าสู่แดนอนารยชน ด้วยความช่วยเหลือของบาร์เกอร์และน้องๆหลายสิ่งหลายอย่างจะง่ายมากขึ้น” ตาของลินลี่ย์ฉายประกายโดยไม่ต้องพูด
ลินลี่ย์ตื่นเต้นดีใจแทบไม่อาจรอเริ่มอนาคตของเขาในแดนอนารยชนที่ซึ่งเขาจะสู้รบกับศาสนจักรเจิดจรัส
นอกจากเรื่องทึ่งน่ายินดีที่บูนเป็นนักรบระดับเก้าแล้ว ทุกคนยังคาดหวังงานแต่งงานที่จะมาถึงอย่างกระตือรือร้น วอร์ตันยิ้มได้ทั้งวันทุกวันเช่นกัน
ครั้งนี้วอร์ตันและนีน่าจะร่วมกันฉลองงานแต่งงานในวังหลวง ความตื่นเต้นความแออัดจะมากยิ่งกว่าการฉลองงานหมั้น
ภายในลานบ้านที่เงียบสงบ
หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกฝน ลินลี่ย์นั่งอยู่ข้างโต๊ะหิน แค่เพียงพลิกมือเขาหยิบไวน์ผลไม้ออกมา ขณะที่ดื่ม เขาจ้องมองไปข้างหน้าและไตร่ตรองจากลักษณะของเขา เขากำลังคิดบางอย่าง
บีบีแอบมองลินลี่ย์
“ควั่บ” บีบีมาปรากฏตัวบนโต๊ะของลินลี่ย์ทันที
ลินลี่ย์สะดุ้งเพราะบีบี “บีบี,เจ้าทำอะไร?”
บีบียืนตัวตรงพับเก็บกรงเล็บจ้องมองลินลี่ย์ด้วยสายตาประเมิน “เท่าที่ข้าบีบีประเมินดู ข้าพบว่า พี่ใหญ่... กำลังคิดถึง...คิดเรื่องเกี่ยวกับความรัก
บีบีพูดด้วยลักษณะเชื่อมั่นอย่างแท้จริง
ลินลี่ย์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ข้ากำลังคิดถึงพี่น้องสหายของข้า ในอีกไม่กี่วันนี้จะเป็นวันแต่งงานของวอร์ตัน แต่พี่ใหญ่เยล, พี่รอง, น้องสี่... ไม่มีใครมาได้เลย”
ลินลี่ย์ถอนหายใจยาว
“ข้าสงสัยว่าตอนนี้ทั้งสามคนกำลังทำอะไร” เยล เรย์โนลด์และจอร์จสหายรักทั้งสามของลินลี่ย์มีสถานะมั่นคงอยู่ในใจของลินลี่ย์ ความรักที่พวกเขามีต่อกันลึกซึ้งประดุจเป็นพี่น้องกันจริงๆ
เรย์โนลด์ไปได้ไม่ค่อยสวย หลังจากพักในช่วงเวลาสั้น เขากลับไปยังกองทัพ แม้หลังจากได้ทราบข่าวการประลองของลินลี่ย์กับเฮนด์เซน เขาก็ไม่มีโอกาสมาชมดู
ทั้งนี้เป็นเพราะ ในฐานะทหารคนหนึ่ง เขาต้องทำตามคำสั่งและขั้นตอน
แม้ว่าเรย์โนลด์ค่อนข้างเหลวไหลและเกียจคร้านอยู่บ้าง แต่เมื่อเขาอยู่ในกองทัพ เขาจะเป็นลูกผู้ชายที่ทำตามคำสั่งและเชื่อฟังคำสั่งโดยไม่มีข้อสงสัย
ที่ชายแดนมณฑลอาคเนย์แห่งจักรวรรดิโอเบรียนในพื้นที่ด้านใต้ของเมืองนีลเป็นพื้นที่ซึ่งจักรวรรดิโอเบรียนให้ความสนใจระวังจักรวรรดิโรฮอลท์ ที่นี่คือพื้นที่ซึ่งวุ่นวายหนัก
จักรวรรดิโรฮอลท์ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของดินแดนอนารยชนและทางทิศตะวันตกของทุ่งราบใหญ่ตะวันออกไกล
เนื่องจากมีสงครามประจำกับนักรบบนหลังม้าแห่งทุ่งราบใหญ่ จักรวรรดิโรฮอลท์มีความดุร้ายมาก มีจิตวิญญาณนักสู้และกองทหารของพวกเขาที่เป็นอัศวินบนหลังม้า มีความห้าวหาญเป็นตำนาน จักรวรรดิโรฮอลท์และจักรวรรดิโอเบรียนทำสงครามกันตลอดในพื้นที่ใกล้กับเมืองนีลเลือดจากการรบพุ่งนับไม่ถ้วนย้อมพื้นที่กันดารนอกเมืองจนเป็นสีแดงเข้ม
“วิ้ววว!” “วิ้วววว!” ลมพัดแรงหวีดหวิวผ่านทุ่งหญ้าซึ่งสูงชั่วครึ่งบุรุษ หญ้าไหวเอนตามลม เมื่อมองผ่านไปจะมองเห็นว่ามีลำธารเล็กสายหนึ่งอยู่ใกล้ๆ ม้าหลายสิบตัวกำลังก้มกินน้ำ
อัศวินหลายคนนั่งพักอยู่บนพื้น ขณะที่อีกหลายคนยังคงจับตาเฝ้าดู
ตอนนี้ เรย์โนลด์กำลังนั่งอยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่ง ตาเหมือนเหยี่ยวของเขามองกวาดไปรอบๆ เมื่อเขาอยู่ในกองทัพ เรย์โนลด์จะทำตัวแตกต่างจากไปจากวิธีที่เขาทำเป็นปกติส่วนตัว ตอนนี้เขาสวมเกราะสีน้ำเงินซึ่งมีตราเครื่องหมายเป็นเพลิงสีทองที่หน้าอกของเขา เครื่องหมายนี้บ่งบอกว่าเขาเป็นสมาชิกของกองพลเพลิงทองหนึ่งในกองพลระดับสูงของจักรวรรดิโอเบรียน
และแบบของเกราะเขาเป็นการบ่งบอกยศของเขา นายกองอาวุโส
เรย์โนลด์ดึงนาฬิกาออกมาจากกระเป๋าเสื้อและตรวจดูเวลา “บ่ายสามถึงห้าโมง อีกฝ่ายน่าจะมาถึงแล้ว”
“ใต้เท้า” อัศวินผมน้ำเงินเดินเข้ามาหาพร้อมกับหัวเราะ “จักรวรรดิโรฮอลท์ปัจจุบันนี้ไม่อยู่ในสภาพทำสงครามกับจักรวรรดิโอเบรียน ท่านไม่รู้สึกว่าเราสิ้นเปลืองพลังงานไปกับการจับตาดูเป็นเวลานานหรือ”
“ไทเกอร์, ไม่ต้องพูดเลย” เรย์โนลด์ขมวดคิ้ว
“ขอรับ” อัศวินผมน้ำเงินไม่กล้าหัวเราะต่อไป
ผู้บัญชาการหน่วยอัศวินนี้เป็นตำแหน่งขั้นต่ำสำหรับยศนายกองอาวุโสโดยรวมแล้วมีกองกำลังขนาดกลางสามกอง มีจำนวนคนรวมเก้าร้อยคน ตอนนี้พวกเขาแยกกันเป็นหน่วยเล็ก 18คนและใช้เส้นทางแยกกัน หน่วยที่เรย์โนลด์นำความจริงเป็นกองกำลังส่วนตัวของเขาและเป็นหน่วยที่แข็งแกร่งมาก
เขาอยู่ในกองทัพมาได้ 2-3 ปีแล้ว และเรย์โนลด์ค่อยๆได้รับการเลื่อนยศจากทหารทั่วไปจนอยู่ในตำแหน่งปัจจุบัน
“แม้ว่าจักรวรรดิโรฮอลท์จะไม่เปิดศึกกับจักรวรรดิโอเบรียนเรามาเกินกว่าสิบปีแล้วแต่ก็ยังมีการปะทะกันเล็กๆ น้อยๆ ตามแนวชายแดนไม่ใช่หรือ” เรย์โนลด์พูดจริงจัง “และตามการคำนวณของข้าเป็นเวลานานมากแล้วหลังจากทำสงครามครั้งใหญ่ ข้าคาดว่าประชากรของจักรวรรดิโรฮอลท์น่าจะถึงขีดจำกัดของพวกเขาแล้ว และแน่นอนว่าพวกเขาจะต้องเกณฑ์คนเข้าทำสงคราม ดังนั้นเราต้องระมัดระวังเอาไว้”
หมายความว่าการสู้รบจะมีขึ้นง่ายมาก
เมื่อประชากรเพิ่มพูนขึ้นมากและมีพื้นที่หรืออาหารสนับสนุนคนไม่พอ จักรวรรดิจะเริ่มทำสงครามกับประเทศอื่นๆเป็นธรรมดา ถ้าไม่อย่างนั้นจักรวรรดิจะเกิดความวุ่นวายภายใน หลังจากจักรวรรดิทั้งสองมีคนได้รับบาดเจ็บมากมายและจำนวนประชากรลดลงก็หมายความว่าจำนวนที่ดินมีพอเหมาะแก่ประชาชน พวกเขาจึงยุติการสู้รบเป็นธรรมดา
ความจริงนี่เป็นหนึ่งในหลักการพื้นฐานที่สุด
ที่สำคัญ ประชาชนส่วนใหญ่ พื้นฐานที่สำคัญที่สุดก็คือการมีอาหารอย่างเพียงพอและสถานที่ดำรงชีวิต
“ขอรับ, ใต้เท้า เราจะระมัดระวัง” อัศวินผมน้ำเงินหัวเราะ
“จริงสิ ใต้เท้า ก่อนนั้นท่านเคยอยู่ในสถาบันเอินส์กับอาจารย์ลินลี่ย์ ข้าได้ยินมาว่าเขาสู้กับท่านเฮนด์เซนและยังยืนหยัดอยู่ได้?” อัศวินผมน้ำเงินพูดเบาๆ
เมื่อได้ยินบริวารของเขาถามเขาเรื่องลินลี่ย์ เรย์โนลด์อดยิ้มไม่ได้
“เพียงเหตุผลที่เขาตกเป็นรองบ้างก็เพราะเขามีปราณยุทธไม่พอ” เรย์โนลด์พูดอย่างใจเย็น ในใจของเขาเรย์โนลด์รู้สึกว่าเขาค่อนข้างเสียดายที่เขาไม่สามารถไปดูการประลองเสี่ยงชีวิตของพี่ร่วมสาบานที่เขารัก
เขาหันหน้าจ้องมองไปทางตะวันตก เรย์โนลด์หยีตาเนื่องจากแสงอาทิตย์สาดส่อง พี่ร่วมสาบานที่รักของเขาอยู่ในเมืองหลวงทางตะวันตก
“อีกปีกว่า จะครบสิบปีแห่งความมุ่งมั่นของข้า และข้าจะออกจากกองทัพได้” เรย์โนลด์ลอบถอนหายใจกับตนเอง
แปดปีกว่าในการใช้ชีวิตกับกองทัพทำให้เรย์โนลด์มีความสนุกและเพลิดเพลินอย่างแท้จริง แต่เรย์โนลด์รู้ว่าตามกฎของตระกูลของเขา ถ้าลูกหลานของตระกูลสามารถไปถึงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพันหรือรองผู้บัญชาการกองพันได้ พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้อยู่ในกองทัพได้ ถ้าทำไม่ได้อย่างนั้นพวกเขาจะต้องกลับมายังตระกูล
ตอนนี้ เรย์โนลด์เป็นเพียงนายกองอาวุโส เขายังต้องไปอีกก้าวหนึ่ง
แต่แม้ว่าเรย์โนลด์จะค่อนข้างสนุกกับชีวิตทหาร แต่เขาไม่ต้องการใช้ชีวิตทั้งหมดอยู่ในกองทัพ เขายังคงต้องการหาที่เงียบสงบสำหรับฝึกเวทเขาเป็นจอมเวทระดับเจ็ดแล้ว ถ้าใช้เวลาฝึกฝนอย่างพากเพียรอีกร้อยปี เขาจะเป็นจอมเวทระดับเก้าได้
ขณะที่รออยู่เงียบๆ หน่วยอื่นๆก็มาถึง เวลาราว 16.50 น. กองกำลัง 400 คนก็มารวมกันที่นี่ กับอีก 500 คนที่มาถึง
“หืม?” เรย์โนลด์ขมวดคิ้วทันที
ทันใดนั้นเขามีความรู้สึกถึงว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้น เหมือนกับว่ามีพลังสังหารที่มองไม่เห็นกำลังคืบคลานมาทางพวกเขา ในฐานะจอมเวทคนหนึ่ง เรย์โนลด์มีพลังจิตที่ทรงพลังและลางสังหรณ์ของเขากล้าแข็งมากกว่าคนทั้งหมด
“ทุกคน, ระวังตัว!” เรย์โนลด์ตะโกนอย่างเย็นชาทันที
“ขอรับ,ใต้เท้า!” อัศวินรอบๆ ทั้งหมดสงสัย แต่ตอนนี้เองเสียงกีบเท้าของสัตว์ก็ดังขึ้นจนได้ยิน มันเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูง
“ศัตรูซุ่มจู่โจม! ศัตรูซุ่มจู่โจม!” เสียงตะโกนเร่งเร้าดังก้องท้องฟ้า
อัศวินแทบทุกคนมีปฏิกิริยารวดเร็ว คว้าหอกและยกโล่ของพวกเขา ขณะที่ทุกคนพุ่งเข้าหาม้าด้วยความเร็วสูง แต่ขณะนี้เองก็เริ่มมีห่าธนูระดมยิงมาจากระยะไกล
“ควั่บ!” “ควั่บ!”
ธนูถูกระดมยิงมาเป็นสายราวกับตั๊กแตนลง อัศวินทุกคนคุกเข่าตั้งโล่ป้องกันตนเองขณะที่ต่างฝ่ายต่างก็เคลื่อนไหวมาใกล้กัน
โล่ของจักรวรรดิมีคุณภาพสูง ในการสู้รบเป็นเรื่องยากที่ธนูธรรมดาจะสามารถทะลุผ่านไปได้ และแน่นอน ธนูหลายลูกกระทบเข้ากับโล่ แต่โล่เพียงสั่นสะเทือนเล็กน้อยและลูกธนูร่วงลงพื้นแต่ธนูราวๆ สิบดอกทะลุผ่านโล่ป้องกัน ราวกับว่าโล่เหล่านั้นทำจากกระดาษ...
“ฉึก!”
ธนูที่เคลื่อนอย่างรวดเร็วทะลุโล่จากนั้นปักเข้าที่ศีรษะอัศวินคนหนึ่งสมองระเบิดออก
เรย์โนลด์เมื่อเห็นเช่นนี้ รู้สึกไม่สบายใจ อัศวินเหล่านี้คือทีมที่เขาสร้างขึ้นมาและติดตามเขามานานถึงหกปี หกปีที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันย่อมมีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง แต่เรย์โนลด์สามารถบอกได้ทันทีว่า “สามารถยิงทะลุโล่ได้จากระยะไกลหลายร้อยเมตรได้ก็หมายความว่าพวกเขามียอดฝีมือระดับเจ็ดหรือแปดแน่นอน และมีถึงสองสามคน”
“ครืนนน” ขณะที่ระยะห่างกระชั้นเข้ามา เสียงฝีเท้าม้าควบดังชัดขึ้น คนกลุ่มนี้สวมเกราะสีเทาและกีบเท้าม้าของพวกเขาหุ้มผ้าเอาไว้
ต่อหน้าคนเหล่านี้ อัศวินที่ร่างเปื้อนเลือดเกินกว่าสิบกำลังหนี
รอสซี่, เรย์โนลด์สีหน้าเปลี่ยน อัศวินทั้งสิบเป็นคนในหน่วยของเขา
“ใต้เท้า, หนีเร็ว! นี่เป็นทหารแห่งจักรวรรดิโรฮอลท์ และจำนวนของพวกเขามาเป็นพัน! เร็วเข้า อ๊า..!!” อัศวินร่างเปื้อนเลือดวิ่งผ่านไปด้วยความเร็วสูง แต่ในพริบตาธนูก็ทะลุคอหอยของเขา
“ฆ่าพวกมันให้หมด! อย่าปล่อยให้ใครรอด!” เสียงเย็นชาดังขึ้นแต่ไกล
“หนี!”
เรย์โนลด์ตะโกนลั่น สู้กับศัตรูจำนวนเป็นพัน ขณะที่เขามีคนเพียงไม่กี่ร้อยน่ะหรือ? และยิ่งกว่านั้น พวกมันซุ่มโจมตีและศัตรูมีนักรบฝีมือดีระดับเจ็ดและระดับแปดหลายคน
นอกจากนี้ภารกิจของพวกเขาคือลาดตระเวน พวกเขาต้องรีบกลับไปแจ้งข่าว
ผู้โชคดีรอดชีวิตกระโดดขึ้นม้าศึกของพวกเขาทันที บางทีเพราะศัตรูของพวกเขาต้องการจะได้ม้าหลายร้อยตัวธนูที่ระดมยิงลงมาจึงถูกแต่พวกอัศวินเท่านั้นไม่มีสักดอกที่ใช้สังหารม้า
หนี!
หนี!
มีเพียงสิ่งเดียวที่อยู่ในใจของเรย์โนลด์ก็คือหนีให้เร็วที่สุด ตั้งแต่แรกคนสี่ร้อยคนพยายามหนี แต่ตอนนี้เหลือเพียงร้อยคน ร้อยคนหนีไปได้เพราะเรย์โนลด์ใช้เวทคุกคามศัตรู ขณะที่หนีไปเรย์โนลด์ยังคงร่ายคาถาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่เรย์โนลด์เป็นศูนย์กลางเปลวเพลิงแปดสายรูปร่างเหมือนดาบยักษ์ระเบิดพลังออกมาทันทีแตกกระจายออกไปทุกทิศตำแหน่งและพุ่งโจมตีกองทัพที่กำลังไล่ตามมา
เวทธาตุเพลิง – ดาบเพลิงนรกพิฆาต!
“ฉัวะ ฉัวะ”เปลวเพลิงฟันใส่ร่างอัศวินเหล่านั้น พวกเขาส่งเสียงร้องโหยหวน เกราะเหล็กของพวกเขาหลอมละลายอย่างรวดเร็วและในพริบตาพวกเขาก็เหลือแต่เถ้าถ่าน ทุ่งหญ้าโดยรอบเริ่มติดไฟเช่นกัน และไล่ลามไปตามกองกำลังที่ไล่ตาม ทำให้พวกเขาช้าลง
“ไล่ตาม ไล่ตามไป!” ผู้นำผมทองจ้องมองเรย์โนลด์แต่ไกล
ถ้าไม่ใช่เพราะจอมเวทที่อยู่ห่างออกไปนั้น เขาคงกวาดล้างนักรบกลุ่มนี้ได้ไปนานแล้ว แต่เพราะจอมเวทนั่นทำให้ต้นไม้และหญ้าแห้งของฤดูใบไม้ร่วงเริ่มติดไฟได้ง่ายและลุกไหม้เป็นไฟลามทุ่งขัดขวางการไล่ตามของพวกเขา
พลังเวทไร้ที่สิ้นสุดจริงๆ
เรย์โนลด์ไม่กล้าใช้เวทระดับเจ็ด เวททั้งหมดที่ใช้ออกไปนั้นเขาใช้แค่เวทระดับหก แต่ถึงอย่างนั้นก็แทบจะทำให้พลังเวทในตัวเรย์โนลด์หมดเกลี้ยง
มีเพียงหน่วยทหารจากจักรวรรดิโรฮอลท์หน่วยเดียวที่มีคนอยู่สามร้อยนายที่ไล่ตาม แต่หน่วยนี้มียอดฝีมือระดับเจ็ดเกินกว่าสิบคน เห็นได้ชัดว่านี่คือหน่วยฝีมือดี และในหน่วยของเรย์โนลด์มีนักรบระดับเจ็ดอยู่เพียงคนเดียวและแน่นอนนั่นก็คือเขาเองซึ่งเป็นจอมเวทระดับเจ็ด
“เมืองนีล! ข้าเห็นเมืองนีลแล้ว!” หนึ่งในอัศวินตะโกนเสียงดัง
“เมืองนีล!” เรย์โนลด์เห็นแต่ไกลโครงร่างสลัวของเมืองมองเห็นได้แต่ไกล ตาของเขาเต็มไปด้วยความหวังและเขากระตุ้นม้าให้วิ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง
“ควั่บ!” ธนูอีกลูกหนึ่งยิงไล่หลังพวกเขาและเรย์โนลด์ที่อ่อนแรงหลบหลีกอย่างบ้าคลั่งขณะที่ใช้โล่บังได้อีกครั้ง ‘ฉัวะ’ เสียงธนูเจาะโล่และปักเข้าที่ไหล่ของเรย์โนลด์ พลังที่รุนแรงของธนูทำให้ร่างของเรย์โนลด์โอนเอน จนเขาเกือบตกม้า
หลังจากวิ่งมาตลอดสองชั่วโมง ก็เกือบเป็นเวลาค่ำ
กำแพงเมืองนีลตั้งอยู่บนที่ราบสูง มีนักรบเดินไปมาไม่กี่คนขณะที่ขุนนางระดับสูงเดินเล่นไปมาอย่างไร้จุดหมาย
“เปิดประตูเมืองเร็วเข้า!” มีทหารของจักรวรรดิโรฮอลท์ไล่ตามเรามา ฆ่าพวกมันให้หมด!!” เรย์โนลด์คำรามอย่างโกรธเกรี้ยว
ในพริบตา เรย์โนลด์และทหารที่ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคนก็มาถึงชานเมืองนีล แต่ประตูเมืองไม่ยอมเปิด
“ควั่บ!” ธนูดอกหนึ่งยิงมาจากขุนนางบนกำแพงเมือง
“อย่าเปิด! อย่าเปิดประตูเมือง!” เสียงแหลมดังมาจากด้านบ้าน “ยิงธนูของเจ้า!ยิงศัตรูให้ตาย!”
หน่วยไล่ล่าของจักรวรรดิโรฮอลท์หยุดในช่วงห่างระยะธนูยิง มีสิบคนลงจากหลังม้า จากนั้นบุกตรงไปที่กำแพงเมือง พวกเขาหลบลูกธนูที่ยิงมาจากด้านบนอย่างง่ายดายและทั้งหมดใช้ปราณยุทธคุ้มกัน
คนพวกนี้เป็นนักรบที่แข็งแกร่งแน่นอน
“ฆ่าจอมเวทซะ” ผู้นำของคนทั้งสิบจ้องมองเรย์โนลด์เขม็ง พวกเขาไล่ตามมาตลอดทางเพื่อฆ่าเรย์โนลด์ จอมเวทที่ไม่เหลือพลังเวทก็เป็นคนที่อ่อนแอมาก
ตอนนี้เรย์โนลด์ไม่สามารถตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย
“เปิดประตู!” ตอนนี้อัศวินของเรย์โนลด์รู้สึกสิ้นหวัง แม้ว่าพวกเขาจะมีสิบกว่าคนและศัตรูจะมีสิบคนแต่จากที่เห็นปราณยุทธของฝ่ายตรงข้าม พวกเขาสามารถบอกได้ว่าผู้นำของศัตรูสามารถฆ่าพวกเขาได้ทั้งหมด