ตอนที่แล้วตอนที่ 9-33 เหตุอัศจรรย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9-35 เป้าหมาย : แดนอนารยชน

ตอนที่ 9-34 ชื่อเสียงขจรไกล


แค่เพียงพลิกมือลินลี่ย์ดึงชุดยาวออกมาจากในแหวนมิติเก็บสมบัติ เขากลับคืนร่างเป็นมนุษย์จากนั้นสวมชุดยาวหัวเราะอย่างใจเย็นกล่าว  “บีบี, แฮรุ, กลับกันเถอะ”  ขณะเดียวกันลินลี่ย์มองดูเฮนด์เซน  เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนก็มองลินลี่ย์เช่นกัน

ทั้งเฮนด์เซนและลินลี่ย์มีสีหน้าค่อนข้างซีดด้วยกันทั้งคู่  หลังจากการประลองคราวนี้แล้วทั้งสองคนบาดเจ็บหนักทั้งภายนอกและภายใน

สุดยอดฝีมือทั้งสองคนพยักหน้าให้กันเล็กน้อยจากนั้นเฮนด์เซนไม่ให้ความสนใจใครอีกเหาะขึ้นอากาศและบินไปทางทิศตะวันออก  เขากลายเป็นจุดเงาเลือนรางหายลับฟ้าไปทางขอบฟ้าทิศตะวันออก

ลินลี่ย์เดินนำหน้า มีบีบีและแฮรุอสูรเวทระดับเซียนทั้งสองของเขาเดินตามหลัง

เมื่อเห็นบุรุษและอสูรเวททั้งสองของเขาแล้วจักรพรรดิโจฮันน์ เคนยอน แลงค์และคนอื่นรู้สึกถึงแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่ ลินลี่ย์และอสูรเวทระดับเซียนทั้งสองของเขาทั้งหมดมีพลังที่น่าทึ่ง

“อาจารย์ลินลี่ย์” จักรพรรดิโจฮันน์เป็นคนแรกที่เดินออกมาทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง

ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย  หน้าของเขาค่อนข้างซีด  “จักรพรรดิโจฮันน์  ข้าเพิ่งรู้แจ้งเนื่องมาจากผลของการประลอง  ข้าจำเป็นต้องกลับไปฝึกต่อ”

จักรพรรดิโจฮันน์ตกใจ  แต่จากนั้นเขารีบกล่าว  “ได้เลย ได้เลย การฝึกฝนของอาจารย์ลินลี่ย์เป็นสิ่งที่สำคัญ”

ลินลี่ย์ยิ้มอย่างสุภาพ  จากนั้นมุ่งหน้าไปทางคนของเขา  วอร์ตัน เดเลียและคนอื่นๆ เดินออกมาต้อนรับเขาทันที  และวอร์ตันเข้ามากอดลินลี่ย์ทันที

“พี่ใหญ่” วอร์ตันตาแดง  แต่ก็ยังหัวเราะออก

“ไปกันเถอะ, กลับบ้านกัน”  ลินลี่ย์พูดขณะมองเดเลีย  ขนตาที่งดงามของเดเลียยังชุ่มน้ำตา  เมื่อนางเห็นลินลี่ย์ตกอยู่ในอันตรายตอนนั้นเดเลียได้แต่ร้องด้วยความห่วงใย

ลินลี่ย์รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

“ทุกคน, กลับกันเถอะ”  ลินลี่ย์หัวเราะขณะมองเดเลีย  นางมองเขาและพยักหน้าเล็กน้อย

กลุ่มของลินลี่ย์จากไปทันทีผู้คนที่ยืนดูนับไม่ถ้วนทุกคนแยกย้ายทยอยกันกลับแทบจะทุกคนมองดูลินลี่ย์ด้วยสายตาที่เคารพเทิดทูน บุรุษหนุ่มอายุเพียงยี่สิบเจ็ดปีสามารถสู้กับเฮนด์เซนเซียนผู้ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในปฐพีได้ถึงระดับนั้น  และนอกจากนี้ เขายังมีอสูรเวทระดับเซียนถึงสองตัว ตัวหนึ่งทรงพลังถึงกับสามารถข่มเฮนด์เซนได้

“พี่ใหญ่....” บลูเมอร์มองดูโอลิเวอร์พี่ชายของเขา

โอลิเวอร์ได้รับยกย่องจากสาธารณชนว่าเป็นอัจฉริยะ  แต่สามเดือนที่แล้ว  เขาพ่ายแพ้เซียนดาบจ้าวภูผา เฮนด์เซน  ไม่มีใครตำหนิเขาสำหรับความพ่ายแพ้  ที่สำคัญคู่ต่อสู้ของเขาคือเฮนด์เซน ทุกคนในทวีปยูลานยังคงรู้สึกว่าโอลิเวอร์เป็นอัจฉริยะแน่นอน

อย่างไรก็ตาม....

ลินลี่ย์อายุน้อยกว่าเขา  น้อยกว่ามาก!

แต่ผลการประลองของลินลี่ย์กับเฮนด์เซนแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าเฮนด์เซนเองก็ยังบอกเองว่าถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าปราณยุทธของลินลี่ย์ไม่เพียงพอ  เขาคงไม่สามารถเอาชนะลินลี่ย์ได้

ได้ชัยชนะมาก็เพราะปราณยุทธเหนือกว่าน่ะหรือ?

ในสายตาของยอดฝีมือหลายคนนั่นไม่อาจนับว่าเป็นชัยชนะได้ นี่เป็นเพราะความเข้าใจกฎแห่งธาตุยากยิ่งกว่าการฝึกฝนปราณยุทธ  ตราบใดที่นักสู้มีเวลาพอปราณยุทธของเขาก็สามารถเพิ่มขึ้นได้แน่นอน

“น้องรอง,ข้าตั้งใจจะไปฝึกฝีมือที่แดนน้ำแข็งขั้วโลก เจ้าดูแลตัวเองให้ดี”  โอลิเวอร์กล่าวกับน้องชายอย่างสงบ

“พี่ใหญ่!”  บลูเมอร์จ้องมองเขา นัยน์ตาเบิกกว้าง

เขาเคยได้ยินพี่ชายของเขาพูดถึงแดนน้ำแข็งขั้วโลกมาก่อนในอดีต  ผู้ตรวจสอบเซียนอยู่ที่นั่นและมีเซียนบางส่วนซ่อนตัวเองอยู่ที่นั่นเพื่อฝึกฝนอยู่ในดินแดนที่ป่าเถื่อนรกร้างและไร้ชีวิตชีวา

โอลิเวอร์หันหน้ามามองดูน้องชายของเขา  “น้องรอง, จำเอาไว้เจ้าคือน้องชายของโอลิเวอร์ อย่าทำให้ข้าผิดหวัง”

“ขอรับ” บลูเมอร์พยักหน้าจริงจัง

โอลิเวอร์ยิ้มจากนั้นเหาะขึ้นฟ้ามุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ  ชุดยาวของเขาโบกสะบัดในสายลมและมีกระบี่ยาวสองเล่มสะพายอยู่บนหลังของเขา โอลิเวอร์มุ่งหน้าสู่ดินแดนขั้วโลกหายลับขอบฟ้าไป

“เฮนด์เซน, ลินลี่ย์... เมื่อข้ากลับมา,  ข้าจะเอาชนะพวกเจ้าทั้งสองคนได้แน่นอน!”

โอลิเวอร์จ้องไปทางทิศเหนือ ตาของเขาเต็มไปด้วยการคลี่คลายปัญหาที่เขาเพิ่งพบใหม่

ภายใต้การควบคุมของกองทัพ ผู้ชมนับล้านแยกย้ายออกไปในทุกตำแหน่งอย่างรวดเร็ว  แม้แต่ขณะที่พวกเขาออกไป  พวกเขาทุกคนยังรู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก มีการจับกลุ่มเล็กๆขณะที่พวกเขาพูดคุยการต่อสู้ในวันนี้

ฝ่ายหนึ่งใช้ดาบเดียวผ่าภูเขา อีกฝ่ายหนึ่งใช้ดาบเดียวเจาะภูเขาเป็นอุโมงค์ใหญ่

ภูเขาสูงพันเมตรซึ่งมีพื้นที่หลายตารางไมล์ถล่มกลายเป็นซากหินกองมหึมา

และจากนั้นอสูรเวทสองตัวปรากฏตัวขึ้น

เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นจนมิอาจควบคุมตนเองได้ หลังจากการประลองคราวนี้ทุกคนเต็มไปด้วยความยำเกรงลินลี่ย์ อายุยี่สิบเจ็ดปีสามารถต่อสู้กับเฮนด์เซนได้ดีขนาดนั้น  และยังมีอสูรเวทคู่หูสองตัวที่เหลือเชื่อขนาดนั้น!และเท่าที่เห็นหนึ่งในอสูรเวทนั้นสามารถเล่นงานเฮนด์เซนได้

ถ้าเขาต่อสู้เคียงข้างกับอสูรเวททั้งสอง  ผู้ใดในทวีปยูลานยังจะกล้าต่อต้านเขา?

“นับว่าโชคดีที่ข้าเลือกวอร์ตัน  ต้องขอบคุณบรรพบุรุษของข้าเทพสงครามที่แนะนำข้า” จักรพรรดิโจฮันน์ถอนหายใจยาว “ข้าไม่รู้เลยว่าลินลี่ย์จะน่ากลัวขนาดนี้ โชคดีที่เขากลายเป็นญาติเกี่ยวดองกับราชวงศ์ของเรา”

หลังจากการต่อสู้ที่ภูเขาทุสคอนทางทิศตะวันตกของเมืองหลวงนี้ ผู้ชมเป็นล้านเริ่มกระจายข่าวออกไปอย่างรวดเร็วน่าประหลาดใจ ชื่อเสียงของลินลี่ย์ระบือไกลไปทั้งโลกกลายเป็นหนึ่งในคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในทวีปยูลาน!

เขาสามารถสู้กับเฮนด์เซนเซียนที่ทรงพลังที่สุดอยู่และยังยืนอยู่ได้!

อายุเพียงยี่สิบเจ็ดปี!

จอมเวทระดับเก้า!

ประติมากรชั้นปรมาจารย์!

และยิ่งกว่านั้นเขายังมีอสูรเวทระดับเซียนอยู่ในครอบครองถึงสองตัว  หนึ่งในนั้นสามารถเอาชนะเฮนด์เซนได้

นี่ดูคล้ายกับตำนานเรื่องเล่าขานไม่ว่าจะเป็นประติมากร, จอมเวท หรือนักรบ ลินลี่ย์เข้าถึงระดับตำนานได้แล้วเหมือนกับว่าเป็นตำนานหลายเรื่องรวมอยู่ในตัวคนเดียว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคืออัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้

นามของลินลี่ย์และชื่อเสียงในฐานะเซียนคนหนึ่งขจรขจายไปทั่วทวีปยูลานมากเหมือนกับที่เทพสงครามเคยทำมาในอดีตยาวนาน ด้วยการกระซิบบอกต่อเหตุการณ์ที่เป็นตำนานเหล่านี้ ผู้เยาว์นับไม่ถ้วนเริ่มยึดถือลินลี่ย์เป็นเป้าหมายตัวอย่างและพากันฝึกฝนอย่างหนัก!

ลินลี่ย์ได้รับการรับรองถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ทวีปยูลานแล้ว

นอกจากนี้....ความรุ่งเรืองของลินลี่ย์เพิ่งจะเริ่ม.. เขาอายุเพียงยี่สิบเจ็ดปี อนาคตของเขาไม่มีขีดจำกัด!

ข่าวการประลองของลินลี่ย์กับเฮนด์เซนแพร่กระจายไปถึงเครือข่ายข่าวกรองของศาสนจักรเจิดจรัสและมาถึงที่เกาะศักดิ์สิทธิ์ผ่านการส่งสารด้วยอสูรเวท

คลื่นซัดสาดใส่เกาะศักดิ์สิทธิ์  เกาะที่อยู่ในกลางทะเลมีความสงบมากและภายในนั้นมีอำนาจที่ทรงพลังของศาสนจักรเจิดจรัส

ในชั้นเก้าของมหาวิหารเจิดจรัส

จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์กำลังพลิกดูคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงคุณค่าของศาสนจักรเจิดจรัส  ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตูสองครั้งได้ยินชัด

“เข้ามา” เสียงของไฮเดนส์ยังคงมั่นคงหนักแน่นเสมอ

กิลเยอโมสวมชุดยาวสีแดงรีบเร่งเดินเข้ามา เขาจ้องมองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง  “องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์, มีข่าวมาว่าลินลี่ย์ประลองฝีมือกับเฮนด์เซน”

ไฮเดนส์เงยหน้ามองดูกิลเยอโม

สีหน้าของกิลเยอโมสร้างความสงสัยให้กับไฮเดนส์  เขารับชิ้นกระดาษจากกิลเยอโมและพลิกเปิดดู  ท่าทางที่สงบแต่เดิมของเขาพลันชะงัก

“ฝ่าบาท?” กิลเยอโมพูดเบาๆ

ไฮเดนส์ถอนหายใจเบาๆ  จากนั้นโยนแผ่นหนังลงบนโต๊ะทำงานของเขา  เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปใกล้หน้าต่าง  จ้องมองทะเลเวิ้งว้างในที่ไกล แล้วกล่าว  “ลินลี่ย์... ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะ,แต่คาดไม่ถึงเลยว่าในเวลาสั้นๆ เพียงสิบปี เจ้าสามารถเติบใหญ่ได้มากมายนัก”

นานมาแล้วไฮเดนส์ทำนายว่าลินลี่ย์จะประสบความสำเร็จมากมาย มิฉะนั้นเขาคงไม่ส่งหกเทวทูตไปฆ่าลินลี่ย์แน่

แต่ใครจะคาดกันว่าไม่นานหลังจากนั้นหกเทวทูตจะล้มเหลว ลินลี่ย์จะสร้างความปั่นป่วนได้มากมายขนาดนั้น ตอนแรกเขาสู้กับโอลิเวอร์ได้อย่างทัดเทียมซึ่งก็ทำให้ศาสนจักรเจิดจรัสตกตะลึง  แต่ครั้งนี้....

“ฝ่าบาท, เราควรจะทำอย่างไรดี?”  กิลเยอโมพูดเสียงเบา  “ตอนนี้ ลินลี่ย์มีฝีมือเทียบเท่าเฮนด์เซนแล้ว”

“เฮนด์เซน...”

ไฮเดนส์ยังคงจ้องมองไปนอกหน้าต่าง  และหันหลังให้กิลเยอโม  “เฮนด์เซนแข็งแกร่งมากจริงๆ  ถ้าข้าต้องการจะเอาชนะเขา ข้าก็ต้องทุ่มความพยายามมากสักหน่อย”

แม้ว่าเฮนด์เซนจะขึ้นชื่อว่าเป็นเซียนที่แข็งแกร่งที่สุด  แต่ยังมีอีกหลายคนที่ไม่เคยสู้กับเขา นอกจากยอดฝีมือเหล่านั้นผู้ที่เอาแต่ฝึกฝนอยู่เงียบๆ มาหลายปี  อย่างเช่นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์,ประมุขลัทธิมืดและยอดฝีมืออื่นอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่สนใจชื่อเสียง

เวทพยากรณ์ศักดิ์สิทธิ์คือหนึ่งในสามเวทชั้นสูง

เซียนระดับสูงที่ฝึกฝนเวทพยากรณ์ศักดิ์สิทธิ์จะทรงพลังมากเหนือกว่าเซียนจอมเวทชั้นสูงธรรมดา ไฮเดนส์มั่นใจว่าถ้าเขาทุ่มเต็มที่ เขาสามารถเอาชนะเฮนด์เซนได้

นั่นเป็นกรณีที่เขาทุ่มสุดตัว  นอกจากนี้เครือข่ายข่าวกรองยังรายงานอีกว่าลินลี่ย์มีอสูรเวทคู่หูที่น่ากลัวอยู่สองตัว หนึ่งในนั้นแม้แต่เฮนด์เซนก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้

“ลินลี่ย์มีอสูรเวทระดับเซียนอยู่สองตัว  ถ้าข้ากับโอเซนโนร่วมกันโจมตี มีแนวโน้มว่าเราก็แค่ทำได้เพียงบีบให้ลินลี่ย์หนี  จะฆ่าลินลี่ย์...เราจะต้องใช้ยอดฝีมือของศาสนจักรทั้งหมด”  ไฮเดนส์พูดเสียงเบา

เอาชนะและฆ่าด้วยเป็นสองขั้นตอนที่แตกต่างกัน

การร่วมมือกันของลินลี่ย์และอสูรเวททั้งสองเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก แม้ว่าศาสนจักรเจิดจรัสจะต้องระดมยอดฝีมือที่ทรงพลังทั้งหมดมาร่วมมือกันเพื่อฆ่าเขาให้ได้

“แต่แม้ว่าเราจะทำสำเร็จ  ศาสนจักรเจิดจรัสก็ยังต้องสูญเสียหนัก และเมืองหลวงคือดินแดนของเทพสงคราม...”  ดวงตาของไฮเดนส์เป็นประกายสีทอง

หัวใจของไฮเดนส์เต็มไปด้วยความโกรธ!

“ปัง!”กระจกหน้าต่างข้างหน้าเขากลายเป็นเศษแก้ว

“ก่อนนั้นเราสามารถฆ่าลินลี่ย์ได้แต่เราไม่ได้ทุ่มกำลังจัดการกับเขา แต่ตอนนี้ เราไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้ว” ไฮเดนส์มองดูกิลเยอโม จากนั้นประกาศอย่างจนใจ  “รางวัลสำหรับฆ่าลินลี่ย์ก็สูงเกินไป  เราไม่สามารถจ้างไหว  และนอกจากนี้ เราไม่จำเป็นต้องทำให้สำเร็จก็ได้  ตั้งแต่วันนี้ไป ไม่ว่าลินลี่ย์จะทำอะไร  ถ้าเราไม่ไปวุ่นวายกับเขา.. ข้าปฏิเสธจะเชื่อว่าเขาจะกล้ามาโจมตีเกาะศักดิ์สิทธิ์”

ในจุดนี้นี่เป็นเพียงเงื่อนไขเดียวที่เหลือสำหรับศาสนจักรเจิดจรัส

“พะย่ะค่ะ องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์”  กิลเยอโมฝืนหัวเราะในใจ

กิลเยอโมอดนึกย้อนไปถึงครั้งแรกที่เขาพบกับลินลี่ย์  เมื่อเขาอยู่ในโรงแรมภายในสถาบันเอินส์  ในเวลานั้นลินลี่ย์เป็นเพียงความหวังในอนาคต

ผ่านไปเพียงสิบปี!

เด็กหนุ่มผู้นั้นกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงพลังที่สุดในทวีปยูลาน และศาสนจักรเจิดจรัสไม่สามารถทำอะไรเขาได้อีกต่อไป

ไฮเดนส์หงุดหงิด

หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเกลียด

ศาสนจักรขาดแคลนพลังจะจัดการกับลินลี่ย์หรือ?  ไม่! ยังมีพลังอำนาจอยู่!  นอกจากนี้ยอดฝีมือระดับสูงอย่างเช่นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ตุลาการศาสนจักร ศาสนจักรมีคนที่มีฝีมือน่ากลัวระดับเดียวกับเขาอยู่อีกจำนวนหนึ่ง

คนเหล่านี้ฝึกฝนมาเป็นเวลาพันๆปีแล้ว บางคนก็นานกว่า

อย่างไรก็ตาม...

คนเหล่านี้ไม่ยินยอมรับใช้ศาสนจักรเจิดจรัสอีกต่อไป

“คนทรยศเหล่านี้ละทิ้งเทพเจ้าและสนใจแต่เพียงตนเองเท่านั้น!”  หัวใจไฮเดนส์เต็มไปด้วยความโกรธ  คนพวกนั้นล้วนแต่ทรงพลังมากทั้งนั้น  แต่ไม่มีใครสนใจ มหาเทพเจิดจรัสอีกต่อไป พวกเขาไม่สนใจเรื่องศาสนาและการเคารพบูชา

คนกลุ่มนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นความภูมิใจของศาสนจักรเจิดจรัส

พวกเขารวมทั้งจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ในอดีตด้วย  แต่บัดนี้พวกเขาเกือบทั้งหมดไม่สนใจว่าศาสนจักรเจิดจรัสจะถูกล้มล้างหรือไม่  เป้าหมายของคนพวกนี้ก็คือกลายเป็นระดับเทพ!

เข้าสู่ขอบเขตระดับเทพ!

“ฝ่าบาท?” กิลเยอโมเห็นว่าไฮเดนส์กำลังใจลอยจึงร้องเรียกเบาๆ

ไฮเดนส์ระบายลมหายใจยาวจากนั้นมองดูกิลเยอโม  เขาสั่ง “จริงสิ กิลเยอโม,ไดลินแห่งเทือกเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์บีบบังคับเราพ่ายแพ้  สาวกของเรามากมายเสียชีวิต... เราต้องเร่งสร้างตัวในดินแดนอนารยชน เราต้องสร้างสิริแห่งเทพเจ้าให้สว่างไสวในดินแดนแห่งนั้น

กิลเยอโมพยักหน้าทันที

ยิ่งมีสาวกของเทพเจ้ามากขึ้นเท่าใดของขวัญก็มากขึ้นเท่านั้น  48แคว้นอิสระเป็นเหมือนชิ้นเนื้อที่ศาสนจักรเจิดจรัสจ้องตาเป็นมันมานานแล้ว  พวกเขาเกิดความวุ่นวายและสู้รบมานานปีแล้ว ศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาทั้งสองต้องการพิชิตพื้นที่นั้นแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จในการพยายามทำเช่นนั้น

ดินแดนอนารยชนมีเขตแดนติดกับจักรวรรดิโอเบรียนและจักรวรรดิโรฮอลท์เนื่องจากพื้นที่กว้างใหญ่ไกลออกไปทางตะวันออกซึ่งถูกปกครองโดยกองกำลังทหารม้าที่โหดเหี้ยม...

การควบคุมดินแดนอนารยชนเป็นเรื่องที่ยากมาก

“เจ้าไปได้แล้ว”  ไฮเดนส์พูดอย่างใจเย็น

เมื่อกิลเยอโมออกไปไฮเดนส์รู้สึกหงุดหงิดขุ่นเคืองในใจ  “ลัทธิเงาแดนอนารยชน และลินลี่ย์ ใครจะเป็นอันตรายยิ่งใหญ่ในอนาคต

เขารู้ว่าลินลี่ย์จะต้องเป็นภัยคุกคาม  แต่เขาจะทำอะไรได้?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด