ตอนที่ 9-33 เหตุอัศจรรย์
ผู้ชมเป็นล้านตะลึง เฮนด์เซนกระอักโลหิต ขณะที่ลินลี่ย์เกล็ดแตกและเต็มไปด้วยรอยเลือด เห็นได้ชัดว่าการสู้รบรุนแรงสุดขีดเพียงไหน
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง... อาจารย์ลินลี่ย์และท่านเฮนด์เซน...”
ผู้ชมนับไม่ถ้วนพากันตะลึง สุดยอดฝีมือทั้งสองเหล่านี้สู้กันจนถึงขั้นนั้นสิ่งที่น่าตกใจจริงๆ ก็คือ เฮนด์เซนเซียนที่มีชื่อเสียงและทรงพลังมากที่สุดกระอักโลหิตออกมาคำใหญ่ เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บหนักมาก
จากที่พวกเขาเห็น ลินลี่ย์อายุเพียงยี่สิบเจ็ดปี แม้จะเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง
แต่ลินลี่ย์เพิ่งจะเสมอกับโอลิเวอร์มาไม่ใช่หรือ? โอลิเวอร์กลับพ่ายแพ้เฮนด์เซนและลินลี่ย์ก็ควรตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน แต่เห็นได้ชัดว่า ผลที่ออกมาแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
“ลินลี่ย์. เขา...” หน้าผากของโอลิเวอร์ขมวด เขาตกอยู่ในความเงียบ
ความจริง ถ้าลินลี่ย์ไม่ได้รู้แจ้งพลังชีพจรคุ้มกันมาแล้วมีแนวโน้มว่าแค่วิชาเขย่าภูผาของเฮนด์เซนก็อาจทำร้ายเขาบาดเจ็บหนักได้แล้ว และพลังทลายภูผาก็น่าจะฆ่าเขาได้โดยตรง แต่ตอนนี้ที่ลินลี่ย์มีพลังชีพจรคุ้มกัน ความสามารถในการป้องกันของเขาสูงล้ำมาก เมื่อเฮนด์เซนใช้วิชาโจมตีสูงสุดของเขา จึงทำให้ลินลี่ย์บาดเจ็บหนักมาก
“ลินลี่ย์!” เดเลียถึงกับหลั่งน้ำตา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางเห็นร่างของลินลี่ย์เต็มไปด้วยรอยเลือด ใจนางถึงกับสั่นสะท้าน
“พี่ใหญ่” “ใต้เท้า!” วอร์ตัน, พี่น้องบาร์เกอร์, พ่อบ้านแอชลี่ย์,ฮิลแมน, เจนน์และสาวๆ ในกลุ่มทุกคนกังวลห่วงใยลินลี่ย์
การต่อสู้มาถึงจุดวิกฤติจริงๆ
“พลังโจมตีที่แปลกประหลาด ไม่มีทางป้องกันได้เลยแม้แต่น้อย” เฮนด์เซนจ้องมองลินลี่ย์ที่ดูเหมือนปีศาจอยู่ห่างๆและคิดอย่างรวดเร็ว
สัจจธรรมแห่งธาตุดิน – พลังคลื่น 132 ชั้น!
แม้ว่าเฮนด์เซนจะมีอวัยวะภายในได้รับการปกป้องเป็นพิเศษแต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บหนัก เฮนด์เซนรู้ดีว่าเขาอาจทนรับการโจมตีเต็มที่ของคู่ต่อสู้ได้ครั้งเดียวเท่านั้น แต่ถ้าเขาถูกฟาดใส่ครั้งที่สาม เขาอาจจบสิ้นแน่นอน
“พลังป้องกันของลินลี่ย์ทรงพลังมากขนาดนั้นได้ยังไง? พลังโจมตีทลายภูผาของข้าไม่สามารถจะฆ่าเขาได้” เฮนด์เซนไม่อาจเชื่อได้
เขาไม่เคยพบคู่ต่อสู้คนใดที่กล้ารับพลังโจมตีของเขาโดยตรง พลังทลายภูผาเป็นพลังโจมตีสุดยอดของเขา ถ้าเขาไม่สามารถฆ่าศัตรูได้ด้วยพลังนี้ และเขาจะเอาชนะได้ยังไง?
“ข้าไม่สามารถรับการโจมตีได้โดยตรงอีก ข้าจะต้องอาศัยความเร็วของข้าเพื่อหลบเลี่ยงพลังโจมตี ขณะที่ข้าค่อยโจมตีเขาให้ได้” เฮนด์เซนตัดสินใจ เขาเชื่อว่าลินลี่ย์ไม่ได้ดีกว่าเขาเท่าใดนัก เป็นเรื่องเหลือเชื่อแล้วที่ลินลี่ย์ยังคงเหลือปราณยุทธพอหลังจากรับพลังโจมตีทลายภูผาไป เขาเชื่อว่าตราบใดที่เขาสามารถใช้พลังทลายภูผาได้อีกครั้ง ลินลี่ย์จะไม่สามารถรับได้แน่นอน
ความคิดของเฮนด์เซนความจริงก็สะท้อนตัวลินลี่ย์เอง
เพราะเงื่อนไขปัจจุบันนี้ของเขา เขาไม่สามารถรับการโจมตีโดยตรงได้แน่นอน
“ครืดดดด..” กระแสพลังงานธาตุดินรอบตัวเฮนด์เซนเริ่มก่อตัวเป็นชั้นบางๆแทบจะเป็นชั้นเกราะรอบตัวเขา
ลินลี่ย์รั้งพลังชีพจรคุ้มกันตัวกลับมาอีกครั้ง
ถ้าพลังป้องกันขยายออกไปเร็ว การบินด้วยความเร็วสูงของพวกเขาจะได้รับผลกระทบ ไม่ต้องสงสัยเพราะยอดฝีมือทั้งสองทำเช่นนี้ก็หมายความว่าพวกเขาจะสู้กันด้วยความเร็วคล่องแคล่ว
ผู้ชมนับไม่ถ้วนจากข้างล่างจ้องมองดูบนฟ้า หายใจอย่างยากลำบาก
คนเหล่านั้นที่เชื่ออย่างแน่วแน่ว่าเซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนจะชนะ ไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป
“ควั่บ!” “ควั่บ!” พายุหมุนคล้ายเฮอริเคนทำให้ท้องฟ้าแยกออก และร่างของลินลี่ย์เริ่มเคลื่อนไหวอย่างประหลาดแต่เต็มไปด้วยความสง่างามอีกครั้ง ความเร็วของเขาถึงขีดจำกัดอย่างแน่นอน การพึ่งพาอาศัยพลังของสายลม ความเคลื่อนไหวของลินลี่ย์แปลกประหลาดและคาดไม่ถึง
เฮนด์เซนควงดาบหนักธาตุดินเคลื่อนไหวเช่นกัน ในแต่ละก้าวเหมือนกับเป็นการเทเลพอร์ตไปได้ก้าวละสิบเมตร ความเคลื่อนไหวของเขาแปลกประหลาดน่าทึ่ง
“ควั่บ”
ดาบหนักธาตุดินของเฮนด์เซนปรากฏหน้าลินลี่ย์ทันทีและฟันใส่เขา แต่กลับผ่านร่างลินลี่ย์ไปเนื่องจากไม่มีอะไรเป็นแต่อากาศ ลินลี่ย์กลายเป็นร่างเลือนรางและหายไป นั่นเป็นภาพเงาลวงตา
“ควั่บ!” ดาบหนักอดาแมนเทียมฟันใส่เช่นกัน
แต่ขณะที่ดาบเข้าใกล้ร่างลินลี่ย์ เฮนด์เซนไปปรากฏตัวห่างออกไปเป็นสิบเมตร
สองสุดยอดฝีมือรู้ถึงความน่ากลัวของพลังโจมตีของคู่ต่อสู้ดี พวกเขาไม่กล้าปะทะกันโดยตรงและพวกเขาต้องการใช้ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหวเพื่อหาโอกาสทำร้ายฝ่ายตรงข้ามพวกเขา
“พวกเขาอยู่ตรงไหน?”
“เรามองไม่เห็นพวกเขาเลย!”
ผู้ชมนับไม่ถ้วนเหล่านั้นจ้องมองท้องฟ้าอย่างระมัดระวัง แต่ลินลี่ย์กับเฮนด์เซนเคลื่อนไหวกันไวมาก มีแต่เสียงหวีดหวิวของสายลมรุนแรง พวกเขาสามารถเห็นได้แต่เพียงภาพเงาเป็นครั้งคราวเท่านั้น
หน้าผากของเดเลียมีเหงื่อเกาะพราวไปหมด แต่นางยังจ้องท้องฟ้าตาไม่กระพริบ
บรรยากาศตึงเครียดเหลือทน!
ด้วยแต่ละย่างก้าว เฮนด์เซนปรากฏตัวบนยอดเขาทุสคอน เฮนด์เซนตัดสินใจใช้ก้อนหินและต้นไม้เพื่อขัดขวางและจำกัดความเร็วของลินลี่ย์
“ควั่บ!”
ลินลี่ย์พุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง ตรงดิ่งใส่เฮนด์เซน
เพียงก้าวเดียวเฮนด์เซนก็เคลื่อนออกไปอยู่ห่างๆ และเพียงก้าวที่สอง เขาก็ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังหินยักษ์ ลินลี่ย์ในตอนนี้อยู่ตรงกันข้ามอีกฝั่งของก้อนหิน
“ทลายภูผา!”
ดาบหนักธาตุดินฟันลงพร้อมกับที่หนักหน่วง ก้อนหินเท่าตัวคนถูกผ่าออกอย่างง่ายดายเหมือนกับเต้าหู้ แตกกระจายกลายเป็นก้อนกรวดทันทีที่พลังงานรอบๆดาบหนักสัมผัสกับมัน อย่างไรก็ตามลินลี่ย์ถอยไปด้วยความเร็วสูง และรู้สึกได้ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนเป็นอันตราย
“ปัง!”
ภูเขาทุสคอนทั้งหมดเกิดรอยแตกแยกใหญ่ที่น่ากลัวยาวหลายร้อยเมตรบนภูเขา รอยแยกนี้กว้างถึงสามหรือสี่เมตร หินนับไม่ถ้วนร่วงกราวไปทุกทิศ
“พระเจ้า!” ผู้ชมนับล้านตะลึง
พวกเขามองเห็นอยู่ต่อหน้าต่อตาว่ารอยแยกปรากฏขึ้นในภูเขาเอง ภูเขาสูงเป็นพันเมตรถูกผ่าครึ่ง
“บึ้ม!” ลินลี่ย์ฟันด้วยเคล็ดสัจจธรรมดแห่งธาตุดิน พลังคลื่น 132 ชั้นใส่เฮนด์เซนอีกครั้ง
เฮนด์เซนหลบอีกครั้บ
ดาบหนักของลินลี่ย์ฟันใส่ต้นไม้ใกล้ๆ “ครืนนน” มีเสียงประหลาดและต้นไม้กลายเป็นผุยผง ขณะเดียวกันแรงสั่นสะเทือนจากการฟันดาบหนักอดาแมนเทียนพุ่งเป็นเส้นตรงจากยอดเขาไปใจกลางภูเขาจากนั้นขยายลามออกไป
“ครืนนนน”
ในท่ามกลางภูเขา อุโมงค์ขนาดเท่าตัวคนปรากฏขึ้น และหินถล่มนับไม่ถ้วนเริ่มถล่มทลายมาจากในนั้น เห็นเหล่านั้นแตกสลายเป็นฝุ่นถึงขนาดลอยฟุ้งอยู่ในสายลมทุกที่ ฝุ่นปกคลุมไปทั้งภูเขา
ในพริบตา....
อุโมงค์สายหนึ่งผ่านตรงไปยังยอดเขาจนถึงจุดศูนย์กลางของภูเขา ผู้ชมนับไม่ถ้วนมองเห็นได้ชัด
ผู้ชมนับไม่ถ้วนเงียบไร้สรรพเสียง
คอของจักรพรรดิโจฮันน์กระตุกสองครั้ง
เทพบนสวรรค์! พลังอะไรกันถึงได้น่ากลัวแบบนี้? ใครจะทนรับโจมตีจากทั้งสองคนนี้ได้? ดาบเดียวก็ผ่าภูเขาได้ครึ่งหนึ่ง ขณะที่อีกฝ่ายสร้างอุโมงค์ได้ เปลี่ยนศิลาให้กลายเป็นฝุ่นธุลี นี่เป็นเรื่องที่นึกไม่ถึง
“นั่นคือสัจจธรรมแห่งธาตุดิน!” บาร์เกอร์และคนอื่นๆ ตื่นเต้นแต่ขณะเดียวกันพวกเขาก็ตื่นตัวกับพลังประหลาดของเซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซน
โอลิเวอร์มองดูทุกอย่างเงียบๆ
ลมพัดรุนแรง ลินลี่ย์ซ่อนตัวอยู่ในสายลมปรากฏตัวต่อเนื่องอยู่ในหลายที่ ขณะที่เฮนด์เซนยังคงหลบไปมาไม่หยุดในท่าทางวิธีการอื่น ผู้ชมข้างล่างได้ยินแต่เสียงระเบิดดังต่อเนื่องไม่หยุด ตามมาด้วยเสียงของก้อนศิลาแตกกระเด็นและต้นไม้ระเบิดเป็นผุยผง
“บึ้ม!” ส่วนตรงยอดภูเขาขาดกระเด็นร่วงลงมาข้างล่าง ภูเขาข้างล่างสั่นสะเทือนต้นไม้นับไม่ถ้วนฉีกขาดเป็นทาง และผู้ชมด้านล่างเริ่มร้องแตกตื่นตกใจ
เคนยอนแห่งวิทยาลัยสงคราม หนึ่งในเซียนที่มาชมดูก้าวออกมาข้างหน้า ด้วยการกวาดไม้เท้าในมือของเขาเขายืมพลังของหินก้อนมหึมาและเหวี่ยงมันปลิวไปพื้นที่ว่างที่เชิงเขาจากนั้นหินขนาดเกือบร้อยเมตรกลิ้งไปทางอื่น
“ถอยไป! ถอยไป!”
ทหารของกองทัพออกคำสั่งโดยตรงกับผู้ชมให้เริ่มถอยทันที ราชตระกูลและขุนนางเริ่มถอยไปเช่นกัน โอวพระเจ้า,การสู้รบครั้งนี้ไปเกินกว่าที่พวกเขาคิดไว้ ที่ระยะใกล้ขนาดนั้น จะเกิดอันตรายได้ง่าย
ทุกคนเริ่มถอย
การสู้รบของลินลี่ย์และเฮนด์เซนเริ่มรุนแรงและบ้าคลั่งมากขึ้นแค่เพียงปะทะดาบกันเต็มที่สามหรือสี่ครั้งเฮนด์เซนก็ผ่าภูเขาทุสคอนเป็นหลายเสี่ยงเสียแล้ว ขณะที่ลินลี่ย์ก็โจมตีจนทำให้ภูเขาทุสคอนแตกพัง ในไม่ช้า....
“ครืนนนน”
ภูเขาทุสคอนก็ไม่สามารถทนรับความเสียหายได้อีกต่อไป ภูเขาทุสคอนที่ได้รับความเสียหายเต็มที่พังทลายลงส่งผลให้ฝุ่นปริมาณมหาศาลฟุ้งกระจายไปทุกที่ ผู้ชมเริ่มถอยกันทันทีด้วยความตกใจกลัว โชคดีที่พวกเขาถอยไปอยู่ก่อนบ้างแล้วและพวกเขามีเซียนคอยปกป้องอยู่หลายชั้น
หลังจากฝุ่นสลายตัวพื้นที่กองหินที่พังทลายที่มีความสูงสองถึงสามร้อยเมตรปรากฏอยู่ข้างหน้าพวกเขา
ภูเขาทุสคอนหายไปแล้ว!
และสิ่งที่เหลืออยู่ก็มีแต่เพียงกองหินถล่มกองมหึมาอยู่ข้างหน้า
“โอวสวรรค์!” ผู้ชมนับไม่ถ้วนจ้องมองคนทั้งสองที่ยืนอยู่เหนือกองซากหักพัง ลินลี่ย์และเฮนด์เซนมีร่างเปรอะไปด้วยเลือดทั้งคู่ และหน้าของพวกเขาซีด แต่รัศมีของพวกเขายังคงรุนแรงเหลือเชื่อ
จะไม่มีผู้ชมคนใดสามารถลืมการสู้รบครั้งนี้ได้ ไม่ว่าใครจะชนะหรือว่าใครตายพวกเขาจะไม่คิดทันทีว่าผู้แพ้เป็นผู้อ่อนแอหรือมีฝีมือต่ำต้อย
“ลินลี่ย์, เจ้าแพ้แล้ว!” เฮนด์เซนจ้องลินลี่ย์อย่างเย็นชา
ตาสีทองเข้มของลินลี่ย์จ้องมองเฮนด์เซนอย่างเงียบงัน
“แม้ว่าหลังจากเจ้าแปลงร่างเป็นมังกร แต่ปราณยุทธของเจ้ายังอ่อนกว่าของข้า หลังจากผ่านไปนานความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ ความเร็วของเจ้าจะเริ่มช้าลง” เฮนด์เซนพูดด้วยความมั่นใจ
เป็นเช่นนั้นจริง
ในร่างมนุษย์ ลินลี่ย์เป็นเพียงระดับเก้า และหลังจากแปลงร่างมังกรปราณยุทธของเขาเทียบเท่านักสู้ชั้นเซียนระดับกลาง แต่เฮนด์เซนเป็นคนที่ฝึกมาเป็นร้อยๆ ปีแล้ว เขามีแอ่งตันเถียนจุปราณยุทธที่ลึกกว่าลินลี่ย์มาก หลังจากสู้รบรุนแรง ปราณยุทธของลินลี่ย์ก็แทบจะว่างเปล่า หากไม่มีปราณยุทธที่เหมาะสมคอยสนับสนุนเขา ความเร็วของเขาจะตกลงอย่างแน่นอน
เฮนด์เซนยิ้มมุมปาก
“บึ้ม!” เฮนด์เซนเคลื่อนไหวทันที คลื่นระเบิดกำแพงเสียงสามารถได้ยินได้ขณะที่เฮนด์เซนพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูง ขณะที่ลินลี่ย์หลบด้วยความเร็วสูง อาศัยร่างมังกรที่แข็งแกร่งของเขาและเวทเงาลมช่วยสนับสนุนเขา
แต่ครั้งนี้เขาใช้ปราณยุทธจนหมดเกลี้ยง ความเร็วของลินลี่ย์คราวนี้ช้าลงกว่าของเฮนด์เซน
“ทลายภูผา!” เฮนด์เซนรู้สึกได้ถึงโอกาสจึงใช้พลังฟันครั้งสุดท้ายกับลินลี่ย์
“ชรีคคคค!” เสียงกรีดร้องแสบแก้วหูสะท้านหัวใจสั่นสะเทือนดังถึงชั้นฟ้า ขณะที่ร่างเงาดำปรากฏโผล่ออกมาจากซากหินพังทลายและพุ่งจู่โจมด้วยความเร็วสูงและขวางกั้นระหว่างลินลี่ย์กับเฮนด์เซน
ขณะเดียวกันมันขยายขนาดใหญ่ขึ้น
“บีบี” ลินลี่ย์ตกใจ
บีบีเปลี่ยนร่างเป็นขนาดสองเมตร และตัวยาวสี่เมตร ขณะเดียวกันมันตวัดกรงเล็บใส่ดาบหนักธาตุดินอย่างดุร้าย
“บัดซบ!” บีบีส่งเสียงด้วยความโกรธ
“บึ้ม!”
ดาบหนักธาตุดินและกรงเล็บที่แหลมคมของบีบีปะทะกัน
เฮนด์เซนถูกกระแทกกระเด็นและกระอักโลหิตออกมาเต็มปาก ขณะที่บีบีก็กระเด็นถอยหลังจากพลังโจมตีที่น่ากลัวนั้นด้วยเช่นกัน
“เจ็บนะเว้ย!” บีบีส่งเสียงด้วยความโกรธ
บีบีรวดเร็วราวกับสายฟ้า มาปรากฏตัวหน้าเฮนด์เซนอีกครั้ง แม้จะรับพลังทลายภูผาโดยตรงแต่ร่างบีบีเพียงแต่มีรอยเลือดบนตัวเท่านั้น เขาไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก
เฮนด์เซนร่วงลงไปที่พื้น เมื่อเห็นการบุกโจมตีเขาอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่มีความคิดว่ามันมาจากไหน รู้แต่เพียงว่า... ถ้าเขาไม่ป้องกันไว้ เขาจะต้องตาย
เฮนด์เซนลุกขึ้นยืนทันที
เจ้าสัตว์ประหลาดนี่มาจากไหน? มันรับพลังทลายภูผาของเขาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ!
“ทลายภูผา!” เฮนด์เซนทุ่มความพยายามเต็มที่และรักษาชีวิตไว้
“ปัง!”
บีบีกระแทกกรงเล็บทั้งสองเข้าใส่ดาบหนักธาตุดินโดยตรงส่งผลให้ดาบหลุดจากมือเฮนด์เซนปลิวออกไป เฮนด์เซนกระเด็นถอยออกไปเช่นกัน เลือดไหลออกจากปากของเขาอีกครั้ง ขณะที่เขาล้มกับพื้นอย่างรุนแรง
ผู้ชมทั้งหมดตะลึง และอ้าปากค้าง
“เจ้าต้องการฆ่าพี่ใหญ่ข้าหรือ? อยากตายใช่ไหม?” บีบีคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว ขณะที่เขาบุกโจมตีอีกครั้ง
“บีบี, หยุดนะ” ลินลี่ย์ตะโกนทันที
“พี่ใหญ่ ท่านจะทำอะไร?” บีบีหันมามองลินลี่ย์ ลินลี่ย์มองดูเฮนด์เซน หลังจากการประลองคราวนี้ ลินลี่ย์รู้ว่าเฮนด์เซนจะไม่ใช่ภัยคุกคามใหญ่ของเขาในอนาคต
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ จากนั้นพูดทางใจ “บีบี, ช่างเถอะ”
บีบีไม่พอใจอย่างมาก เขากระโดดไปที่ดาบหนักธาตุดินชูขึ้น จากนั้นโยนใส่ปาก “กร้วม” “กร้วม” เพียงเสียงดังแค่สองกร้วมก็กลืนดาบหนักธาตุดินไปทั้งเล่ม
“ข้า, บีบี, จะไว้ชีวิตเจ้า ข้าจะกินของเล่นน้อยของเจ้าแทน ถือว่านี่เป็นการลงโทษ” บีบีร่างยักษ์พูดขณะจ้องลงมาที่เฮนด์เซนจากกลางอากาศด้วยดวงตาที่เย็นชา
“เป็น..เป็นไปได้ยังไง?” เฮนด์เซนฝืนลุกขึ้นยืน จ้องมองอย่างเหลือเชื่อ ดาบของเขาที่สร้างขึ้นจากโลหะผสมและวัสดุที่มีค่านับไม่ถ้วน มันไม่น่าจะอ่อนแอกว่าดาบหนักอดาแมนเทียมของลินลี่ย์มากนัก แต่กลับถูกอสูรเวทนี้กินลงไปได้”
“อาจารย์ลินลี่ย์, นี่...อสูรเวทตนนี้?” จักรพรรดิโจฮันน์ถามแต่ไกล
บีบีหันไปจ้องดูจักรพรรดิโจฮันน์อย่างไม่พอใจ “แล้วไง? พี่ใหญ่ข้าเป็นจอมเวท เมื่อจอมเวทประลอง ก็เป็นเรื่องธรรมดามากที่จะนำอสูรเวทคู่หูไปด้วย แล้วทำไมข้าจะช่วยไม่ได้? ข้า, บีบีเป็นจอมเผด็จการอยู่แล้วตั้งแต่แฮรุยังไม่เข้ามาร่วมงานด้วยซ้ำ ถ้าไม่อย่างนั้น พี่ใหญ่ข้า, ตัวข้าและแฮรุคงร่วมกำลังกันฆ่าเฮนด์เซนยังง่ายกว่ากินดาบเมื่อครู่นี้อีก แฮรุ,ออกมา!”
“โฮกกกกกก” เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวดังขณะที่อสูรเวทอีกตนหนึ่งพุ่งออกมาจากซากหินหักพัง มันเริ่มขยายขนาดขึ้น ที่แท้ก็เป็นเสือดำเมฆาแฮรุ แฮรุบินตรงไปอยู่ข้างๆ บีบี แล้วยืนอยู่ในกลางอากาศข้างบีบีขณะที่มองดูเฮนด์เซน
ตอนนี้ ทั้งลินลี่ย์และเฮนด์เซนบาดเจ็บหนัก
แต่ในระยะไกลออกไป ผู้ชมนับไม่ถ้วนไม่ได้ให้ความสนใจพวกเขาอีกต่อไป ความสนใจของพวกเขาอยู่ที่อสูรเวทระดับเซียนทั้งสองที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวแรก อสูรเวทตัวแรกน่ากลัวจริงๆ
เขารับพลังโจมตีทลายภูผาได้โดยไม่มีปัญหา
เพียงเคี้ยวไม่กี่ที เขาก็กินอาวุธคู่มือของเฮนด์เซนหมด
“เฮนด์เซน เจ้ามีปัญหาอะไรไหม?” บีบีก้มมองดูทำหน้าบึ้งใส่เฮนด์เซน
เมื่อเห็นประกายแสงเยือกเย็นในสายตาของบีบี เฮนด์เซนรู้ว่าถ้าเขาประท้วงต่อต้าน บีบีจะอาจตะปบเขาจนตายได้ ต่อให้แข็งแรงเต็มที่ สำหรับเขาก็ยังยากที่จะเอาชนะอสูรเวทอย่างบีบี ด้วยพลังป้องกันที่น่าทึ่งพลังโจมตีและความเร็วนั้น
เฮนด์เซนหันศีรษะไปเงียบๆ
“เฮนด์เซน, ข้าขอยอมรับว่าข้าพ่ายแพ้การประลองครั้งนี้” ลินลี่ย์กล่าว
เฮนด์เซนมองดูลินลี่ย์ ในใจของเขาเขาเริ่มนับถือชื่นชมลินลี่ย์ “ลินลี่ย์,ความจริงวันนี้ เราทั้งสองสู้เสมอกัน ข้าเพียงแต่อาศัยฐานเก็บปราณที่ลึกมากกว่าจึงได้เปรียบบ้างสำหรับอสูรเวทของเจ้า...”
เฮนด์เซนมองไปทางแฮรุ จากนั้นมองดูบีบี
บีบีจ้องมองเขาทันที เฮนด์เซนฝืนหัวเราะ “อสูรเวทของเจ้าเป็นอสูรระดับเซียนที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเห็นมา” เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ บีบีเชิดหัวด้วยความภูมิใจ