ตอนที่ 29 จอมบงการแม็กนัส (อ่านฟรี)
แม็กนัสรู้สึกสับสน และจู่ๆ คนจำนวนมากก็เริ่มซุบซิบกันเสียงดังเซ็งแซ่ห้องโถงใหญ่อย่างกับตลาดสดที่มีผู้คนพลุกพล่าน แย่จริงๆ
เขาเดินไปที่เก้าอี้แล้วนั่งลง หมวกวางอยู่บนหัวของเขา แต่หมวกก็กระตุกขึ้นทันทีราวกับมันตื่นจากการหลับใหล
"อื้ม ยากจังแฮะ อืม ฉันจำเด็กคนนั้นได้... เมอร์ลิน ฉันส่งเขาไปที่สลิธีริน หนึ่งในตัวเลือกที่ฉันภูมิใจที่สุด ไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอผู้สืบทอดของเขา" หมวกพูดเสียงดัง สิ่งนี้ค่อนข้างจะบอกทุกคนที่นั่นว่าสิ่งที่พวกเขาคิดนั้นเป็นความจริง
หมวกพูดก็ส่งเสียงต่ำ “อืม เธอมีความกล้าหาญ ฉันแน่ใจว่ามันมาจากผู้ชายอีกคน เห็นแล้วมีพรสวรรค์และความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เหมือนที่เมอร์ลินมี ซื่อสัตย์ต่อเพื่อนและครอบครัวแต่แฝงความเจ้าเล่ห์ พ่อหนุ่ม หายากนักที่คนอย่างเธอจะได้เกิดมา เธอเหมาะกับบ้านทั้งสี่หลัง”
"ทีนี้อะไรอีก?" แม็กนัสถาม มักกอนนากัลที่ได้ยินทุกอย่างก็ผงกศีรษะด้วยต้องการทราบคำตอบ
"คัดไปไว้ไหนดี อืม... ฉันรู้แล้วว่าจะคัดเธอไปไว้ที่ไหนดี
สถานที่ที่จะเธอส่องประกายอย่างที่สุด สถานที่ที่ต้องการคนที่สามารถทำความสะอาดได้ คนที่จะนำมันไปสู่ความยิ่งใหญ่
เช่นเดียวกับที่เขาทำ สลิธีริน...” หมวกตะโกน
ทันใดนั้น เสียงเชียร์ที่ดังที่สุดก็ดังมาจากโต๊ะสลิธีริน พวกเขาเพิ่งได้ทายาทของพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เมอร์ลิน มาอยู่ในบ้านของพวกเขา แม้แต่ลูเซียส มัลฟอยที่มีการกระทบกระทั่งกับแม็กนัสบนรถไฟก็ยังแอบส่งเสียงเชียร์อย่างเงียบๆ
ในทางกลับกัน ซิเรียสกับเจมส์ก็กำลังอึ้งตะลึงงันอยู่ที่โต๊ะกริฟฟินดอร์
“เขาเกี่ยวข้องกับเมอร์ลินหรอ? ทำไมเขาไม่บอกฉันก่อนหน้านี้ล่ะ?” ซิเรียสสงสัย
“ฉันพนันได้เลยว่าเขาก็ไม่รู้ ดูหน้าหมอนั่นสิ เขาดูตกใจพอๆ กับคนอื่นๆ ในนี้เลย” เจมส์ชี้ให้เห็น
ซิเรียสสังเกตเห็นว่า "พวก ฉันหวังว่างูพวกนั้นจะไม่ทำให้เขาแย่ลง"
“เขาไม่ทำงั้นหรอก หลังจากเขาพูดบนรถไฟ ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำเรื่องเลวร้ายอะไร” ลิลลี่กล่าวเสริม แม้ว่าเธอจะมีความรู้ไม่มากนัก แต่เธอก็อ่านประวัติของฮอกวอตส์และรู้ว่าเมอร์ลินมีภาพลักษณ์ใหญ่โตเพียงใด
"ฉันหวังว่าเธอจะพูดถูก" ซิเรียสถอนหายใจ
...
“แน่ใจนะ? หรือเพราะเลือดในกายที่ฉันเพิ่งรู้?” แม็กนัสถามด้วยเสียงกระซิบ
“แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเลือด ฉันเห็นความสามารถของเธอแล้ว พูดตามตรง ฉันคิดว่าสลิธีรินต้องการคนอย่างเธอ ภาพลักษณ์ของพวกเขาเหมือนหินที่จมน้ำแล้ว” หมวกพูดแสดงความเป็นห่วงยิ่งกว่าอาจารย์ใหญ่เสียอีก
"นั่นไม่ใช่ความผิดของคุณทั้งหมดเหรอ ทำไมคุณถึงคัดเด็กที่มาจากครอบครัวเหยียดคนมาไว้ในบ้านหลังเดียวกันหมด? มันสร้างกองขยะกองโต" แม็กนัสเถียง
“พวกเขาคงจะเผาฉันถ้าฉันพยายามยุ่งกับเรื่องนั้น พวกเขามันบ้า” หมวกป้องกันตัวเอง
“ก็ได้ คุณควรอาบน้ำบ้างนะ ตัวเหม็น” แม็กนัสลุกขึ้นหลังจากพูดแบบนั้น
เขามองไปที่โต๊ะที่มีเสียงดังที่สุดแล้วเดินไปทางนั้น แต่แล้วสายตาของเขาก็สบเข้ากับเด็กชายผมบลอนด์คนเดียวกับที่เขาจามใส่ อาการคิ้วขมวดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
เขาเดินไปข้างหน้าและนั่งลงข้างเซเวอรัส ปีนี้มีนักเรียนใหม่ประมาณ 150 คน และจากจำนวนนี้ มีเพียง 27 คนเท่านั้นที่จัดเข้าสลิธีริน
“คุณเพนดราก้อน หัวหน้าบ้านอยากให้คุณนั่งกับเขา เขาอยากคุยกับคุณ” นักเรียนปี 2 เดินมาบอกแม็กนัส
*เฮ้อ*
~ฉันกับปากพล่อยๆ ของฉัน~ เขาสบถกับตัวเองพลางไปหาหัวหน้าบ้าน เขานั่งข้างหญิงสาวผมบลอนด์ จากความสนิทสนมที่เธอแสดงต่อเด็กหนุ่มผมบลอนด์ พวกเขาควรเป็นมากกว่าเพื่อนอย่างแน่นอน
แต่ที่ทำให้แม็กนัสประหลาดใจก็คือ เด็กชายผมบลอนด์ยืนขึ้นทักทายเขาพร้อมกับโค้งคำนับอย่างสุภาพบุรุษ “ยินดีต้อนรับสู่ฮอกวอตส์ โดยเฉพาะบ้านสลิธีริน ฉันลูเซียส มัลฟอยแห่งตระกูลมัลฟอยอันสูงส่งและเก่าแก่ที่สุด และเป็นหัวหน้าบ้านแห่งสลิธีริน นี่คือนาร์ซิสซา แบล็กแห่งตระกูลแบล็กผู้สูงศักดิ์และเก่าแก่ที่สุด นั่งกับเราสิ”
แม็กนัสตกลงเพราะถ้าปฏิเสทก็คงหยาบคายไปหน่อย แม้ว่าเขาจะไม่ชอบการให้ความสำคัญกับ 'บ้านขุนนางและโบราณที่สุด' มากก็เหอะ เพราะเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้สนับสนุนทฤษฎีความบริสุทธิ์ของเลือด
เขานั่งลงระหว่างลูเซียสกับนาร์ซิสซาตรงกลางที่เว้นไว้ให้เขานั่ง
ถึงตอนนี้ แม็กนัสก็ตระหนักว่าเขาต้องระวังตัวในสถานการณ์นี้ เขายังใหม่กับสถานที่อีกอย่างเขาจะไม่ทำสัญญาใดๆ กับใครหรือเข้าร่วมกับใครก่อนที่จะเข้าใจระบบนิเวศทั้งหมด
“คุณเพนดราก้อน คุณชอบที่นี่หรือไม่” ลูเซียสถาม พยายามพูดคุยเล็กน้อย
"ที่นี่เป็นโรงเรียนที่สวยงามมาก ดีกว่าที่ฉันคิดไว้มาก ฉันเคยไปที่พระราชวังบัคกิงแฮมมาก่อน แต่ก็ไม่เข้าใจว่าฮอกวอตส์คืออะไร พวกมักเกิ้ลจะเห็นเป็นแบบไหนหากพวกเขาเข้ามาใกล้โดยไม่ได้ตั้งใจ" เขาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นอย่างแท้จริง
“พวกเขาเห็นปราสาทที่พังทลาย ไม่โอ่อ่าเท่านี้ และสัญญาณที่ร้ายแรงมากบอกให้พวกเขาหลีกเลี่ยงรวมทั้งเตือนถึงอันตรายต่อชีวิต” ลูเซียสอธิบาย
“หืม แล้วถ้ายังมีคนเดินหน้าต่อล่ะ?” แม็กนัสถามต่อ
"งั้นฉันแน่ใจว่ามีใครบางคนจากคณาจารย์ฮอกวอตส์จัดการกับพวกเขา โดยการลบล้างความทรงจำของพวกเขาและพาพวกเขาออกไปจากที่นี่" เขาพูดตอบ
“อืม ก็สมเหตุสมผล คุณมัลฟอย คุณช่วยเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาจารย์ให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม เวลาว่างฉันเรียนภาคทฤษฎีจนจบปีที่ 4 แล้ว แต่ฉันยังไม่มีประสบการณ์ภาคปฏิบัติเลย” เขาถามเหมือนเด็กขี้สงสัยทั่วไป แต่เขาซ่อนความจริงที่ว่าเขาสามารถใช้คาถาง่ายที่ใช้ได้จริง แต่ไม่มีความคิดทำลายล้าง สิ่งเดียวที่สามารถจู่โจมคนอื่นๆ ได้ก็คือไฟของเขา ซึ่งตอนนี้เป็นความลับ มีเพียงซิเรียสเท่านั้นที่รู้ แต่แม็กนัสบอกเขาว่าห้ามบอกใคร
ลูเซียสชอบที่แม็กนัสคุยกับเขาและไม่ได้สงวนท่าที เขารู้สึกว่าแม็กนัสนั้นอ่อนแอจัดการได้ง่าย ดังนั้นเขาจึงใช้น้ำเสียงที่เป็นมิตรและเป็นทางการน้อยลง “ก็มีศาสตราจารย์มักกอนนากัล เธอสอนเรื่องการแปลงร่าง เธอเป็นแม่มดที่มีความสามารถแต่บางครั้งก็น่ารำคาญมาก จากนั้นก็มีศาสตราจารย์ซลักฮอร์นนั่งอยู่ทางด้านซ้ายของอาจารย์ใหญ่ เขาสอนวิชาปรุงยา และเขาเป็นหนึ่งในอาจารย์ที่มีความสามารถมากที่สุดที่นี่ เขาบริหารชมรมที่ประกอบด้วยนักเรียนที่ฮอกวอตส์เป็นที่ชื่นชมและบางครั้งก็มีชื่อเสียง มันถูกเรียกว่าสโมสรสลักซ์ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น
“คนตัวสั้นๆ คนนั้นคือศาสตราจารย์ฟลิตวิค เขาสอนวิชาคาถาและเป็นพ่อมดมีเชื้อสายก็อบลิน เป็นอาจารย์ธรรมดาไม่เข้าข้างใครนอกจากศิษย์ที่ดี จากนั้นมีศาสตราจารย์สเปราต์ซึ่งสอนวิชาสมุนไพรศาสตร์ และศาสตราจารย์บินน์ซึ่งสอนประวัติศาสตร์เวทมนตร์ เขาเป็นผี แล้วก็มี คิทเทนเบิร์กเขาสอนวิชาการดูแลสัตว์วิเศษ แต่คุณจะไม่ได้เรียนวิชานี้ในปีแรก
“มีศาสตราจารย์ด้านดาราศาสตร์ ศาสตราจารย์ซิลเวอร์ และศาสตราจารย์ทรินิตี้ ผู้สอนวิชาพยากรณ์ศาสตร์ แฮกริดที่คุณอาจรู้จักแล้ว สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ศาสตราจารย์วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด ศาสตราจารย์วิชานี้เปลี่ยนทุกปีเพราะคำสาปของตำแหน่งนั้น ปีนี้เป็นบุคคลากรบางคนจากสหรัฐอเมริกา ศาสตราจารย์แฮร์ริสัน” เขาสรุปคำอธิบายของเขา
แม็กนัสพยักหน้าเข้าใจแล้ว ในขณะที่นาร์ซิสซาก็คุยกับเขาด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าที่ดูไม่มีพิษมีภัยบนใบหน้าสวยของเธอ แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่อย่างนั้น
“คุณเพนดรากอน คุณสามารถมาปรึกษาฉันได้เสมอไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ฉันเป็นพรีเฟ็คและเป็นนักเรียนชั้นปีที่ 6 มาได้ตลอดเลยนะ” เธอเสนอ
แม็กนัสพยักหน้า "โอเค ฉันเป็นเพื่อนที่ดีของซิเรียสและรู้จักเรกูลัสด้วย"
นาร์ซิสซาตกใจ “โอ้ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“ฉันเจอเขาเมื่อ 2 ปีก่อน เขาช่วยฉันเรื่องหนังสือ” แม็กนัสเปิดเผย เขากำลังใช้ความจริงที่ว่าเขาถูกมองว่าเป็นสินค้ายอดนิยมในขณะนี้ เพื่อเพิ่มความสำคัญของซิเรียสในครอบครัวของเขาเนื่องจากหมอนั่นเป็นเพื่อนของเขา สิ่งนี้จะทำให้นาร์ซิสซาสบายใจขึ้นเมื่ออยู่กับเขา เพราะเธอคิดว่าเธอสามารถคุยกับเขาได้อย่างอิสระ
~ อืม ฉันกลายเป็นจอมบงการแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ฉันเดาว่าหมวกพูดได้ถูกต้องจริงๆ~ เขาพึมพำกับตัวเอง
นาร์ซิสซารู้สึกยินดีที่ได้ยินเช่นนี้ เธอถึงกับชำเลืองมองไปยังลูกพี่ลูกน้องของเธอที่ตัวสั่นเล็กน้อยพลางสบถแม็กนัส เดาว่าแม็กนัสคงพูดอะไรเกี่ยวกับเขาและเธอ
เธอยิ้มอย่างอบอุ่น "เยี่ยมมาก เธอน่าจะมาที่บ้านของเราได้ ฉันแน่ใจว่าลุงกับป้าจะต้องต้อนรับเธอแน่นอน"
"ฉันไปที่นั่นมาแล้ว เจอคุณนายแบล็กด้วย แต่เธอเรียกฉันว่าโสโครกและตบซีเรียส ฉันเลยกลับบ้าน" แม็กนัสเปิดเผย ทำให้ลูเซียสสำลักอาหารที่เขากินอย่างเอร็ดอร่อย และทำให้รอยยิ้มจากใบหน้าของนาร์ซิสซาหายไป
ตอนนี้มันค่อนข้างอึดอัด โชคดีที่ได้เวลาไปที่ห้องนั่งเล่นรวมแล้ว เขาลุกขึ้นพร้อมกับนักเรียนคนอื่นๆ
“แม็กนัสนะ-... ฉันหมายถึงคุณเพนดรากอน ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์เชิญเธอไปคุยกับเขาในห้องทำงานน่ะ” แฮกริดมาหาเขา
ลูเซียสขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาหมอบลงเล็กน้อยและกระซิบบางอย่าง “ระวังดัมเบิลดอร์ด้วย เขามีนิสัยชอบสอดส่องจิตใจผู้อื่น”
ลูเซียสแค่พยายามที่เอาใจเขา แม็กนัสชื่นชมคำเตือนนี้จริงๆ เขาแค่พยักหน้าและเดินตามแฮกริดไป ซึ่งดูเหมือนจะเป็นพวกที่มาของคำว่ายักษ์ผู้อ่อนโยน
“เรียกผมว่าแม็กนัสก็ได้ฮะ แฮกริด” แม็กนัสพูด
แฮกริดหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าฮ่า ฉันรู้ว่าเธอไม่เหมือนเด็กหยิ่งผยองพวกนั้น ยินดีที่ได้รู้จักนะแม็กนัส เป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ เธอคือผู้สืบเชื้อสายมาจากเมอร์ลินผู้ยิ่งใหญ่ อ่า... ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เราต้องห้ามใช้คำหยาบที่เกี่ยวข้องกับเขา”
แม็กนัสสนใจ “มีคำอะไรบ้างฮะ? ผมสัญญาว่าจะไม่โกรธ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร เขามีชีวิตอยู่เมื่อพันปีก่อน”
"มีเคราเมอร์ลิน กางเกงเมอร์ลิน... อืมมม... ด้านซ้ายของเมอร์ลินหย่อนยาน ตูดของเมอร์ลิน หัวนมของเมอร์ลิน แล้วก็อะไรอีก... อา ฉันไม่น่าพูดแบบนั้นเลย" แฮกริดพูดอย่างงุ่มง่าม
แม็กนัสหัวเราะอย่างเต็มที่เมื่อได้ยินเช่นนั้น "ฮ่าฮ่าฮ่า... โอ้ ผมรู้ว่ามีใครสักคนที่อยากได้ยินเรื่องนี้"
[A/N จากผู้เขียน : โปรดจำไว้ว่า โวลเดอมอร์เพิ่งเริ่มผงาดขึ้นมา ณ จุดนี้ ดังนั้น ดัมเบิลดอร์กับคนอื่นๆ อีกหลายคนจึงยังไม่ถือโทษโกรธสลิธีรินมากนัก แม้ว่าผมคิดว่าดัมเบิลดอร์ดูเหมือนจะมีอคติกับมันอยู่นิดหน่อย]
_____________________________
นาร์ซิสซา