ตอนที่ 281 – ตอนที่ 262 ความรู้สึกของมือที่ต้องการรู้สึกตลอดไป
“เนื่องจากมีโอกาสที่พวกท่านจะเป็นมิตรในอนาคตของพวกเราสูง ข้าจะไม่ปิดบังเรื่องนี้กับท่าน พวกเราชาวเผ่าปีศาจบูรพามีความแข็งแกร่งทรงพลัง แต่สมาชิกของเรามีน้อยเกินไป สำหรับเรื่องสติปัญญาทั้งอสูรทั้งปีศาจสามารถแปลงเป็นมนุษย์ได้เหมือนอย่างพวกเรา เทียบกับพวกเจ้าที่เป็นมนุษย์ พวกเรายังด้อยกว่าบ้าง นักรบเผ่าพันธุ์ปีศาจที่สามารถแปลงเป็นมนุษย์ได้และใกล้จะเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดอย่างพี่น้องหมีดำและพี่น้องเหมยฮัว, เรามีเพียงพันตนเท่านั้น พวกที่อยู่ระดับปราณก่อเนิดหรือสูงกว่า เรามีเพียงร้อยนาย ดูเหมือนว่าเรามีมากกว่าพวกมนุษย์ท่านเล็กน้อย เรา เผ่าปีศาจบูรพามีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่า แต่ปัญญาของพวกเราไม่ได้สูงกว่าพวกเจ้าเลย พวกมนุษย์อย่างเจ้ามีปัญญาสูง เพียงแต่ไม่มีร่างกายที่แข็งแรงเหมือนอย่างพวกเรา.. ทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าปีศาจบูรพาทั้งสองมีจุดอ่อนและจุดแข็งของตนเอง ถ้าเผ่าพันธุ์เราทั้งสองสามารถร่วมมือเป็นพันธมิตรกันและช่วยเหลือกันและกัน ข้าเชื่อว่าเราจะสามารถแสดงความแข็งแกร่งที่สุดของเราได้!” คำพูดของอสูรคะนองตาทองทำให้เย่ว์หยางคิดหนัก
เผ่าปีศาจบูรพาแข็งแกร่งมากจริงๆ พวกเขามีคนพันคนที่เกือบอยู่ในระดับปราณก่อกำเนิด และมีนักสู้ปราณก่อกำเนิดอีกร้อยคน
สมาชิกขนาดนี้น่าประทับใจมาก
แต่ละอาณาจักรในทวีปมังกรทะยานจะมีนักสู้ปราณก่อกำเนิด 2-3 คนเป็นอย่างมาก มีนักสู้ปราณก่อกำเนิดไม่กี่สิบคนในกลุ่มพันธมิตรนักสู้ปราณก่อกำเนิด แต่ท่านเหล่านั้นสูงอายุแล้วไม่สนใจเรื่องการบ้านการเมืองอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น นักสู้ปราณก่อกำเนิดในเผ่าพันธุ์มนุษย์ยังแบ่งแยกไปอีกรวมถึงพวก วังมาร, นิกายพันปีศาจ, นิกายบรรพตขจีและสี่นิกายใหญ่ ถ้าพวกเขานับรวมแบบนั้น ก็ยังนับมีเหลือไม่เท่าไรจริงๆ
เฉพาะในต้าเซี่ย ไม่รวมตัวเขา มีนักสู้ปราณก่อกำเนิด 6 คน
มีองครักษ์พิทักษ์ฟ้า 2 คน และมหาอำมาตย์อีก 1 คน นักสู้ปราณก่อกำเนิดจากตระกูลเฟิงและตระกูลเสวี่ยอย่างละหนึ่งคน และสุดท้ายเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้หักหลังต้าเซี่ยร่วมกับวังมาร.. สำหรับคนที่ใกล้จะได้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด ก็ยังมีไม่มาก ตัวอย่างเช่น อาจารย์จิ้งจอกเฒ่า, และแม่เฒ่อู่เถิง พวกท่านจวนเจียนจะได้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดอยู่แล้ว บางทีในบางแง่มุม พวกท่านอาจแข็งแกร่งกว่านักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับที่ 1 ไปแล้วก็ได้ แต่พวกท่านยังไม่บรรลุเขตแดนปราณก่อกำเนิดเท่านั้น นอกจากอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าแล้ว แม่เฒ่าอู่เถิงก็เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดมาก่อนหน้านั้น แต่นางถูกศัตรูทำร้ายและบาดเจ็บเกือบตายจนทำให้สูญเสียสถานะนักสู้ปราณก่อกำเนิด นางยังไม่สามารถกลับไปอยู่ในสถานะนักสู้ปราณก่อกำเนิดเหมือนก่อนได้ ถ้านางรักษาตัวจนหาย ต้าเซี่ยจะมีนักสู้ปราณก่อกำเนิดเพิ่มอีก
สำหรับนักสู้ที่ต่ำกว่าระดับ 8 (จักรพรรดิ) และระดับ 7 (เหนือมนุษย์) ก็มีอยู่ไม่กี่คน ตระกูลใหญ่แต่ละตระกูลก็มีคนหนึ่งเป็นอย่างน้อย
ตัวอย่างเช่น ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่, เฟิงเสี่ยวหวิน, เสวี่ยเวิ่นเต้า, เหยียนเชียนจ้ง, เฟิงขวง, ราชันย์ฟ้าบูรพา, ราชันย์ฟ้าปัจจิมและแม้แต่จุนอู๋โหย่ว ชาวทวีปมังกรทะยานฝีมือสูงทั้งหมดยังติดค้างอยู่ที่ระดับ 8 และต่ำกว่า ยังไม่อาจหวังจะบรรลุขอบเขตปราณก่อกำเนิดได้
เผ่าปีศาจบูรพามีความสามารถผ่านมิติและลักพาตัวจุนอู๋โหย่วฮ่องเต้และคนที่เหลือโดยส่งคนมาไม่กี่คนอย่างเช่นอสูรคะนองตาทอง นักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้เป็นผู้นำของกลุ่มที่ประกอบด้วยพี่น้องหมีดำและพี่น้องเหมยฮัวซึ่งเป็นนักรบที่ใกล้จะบรรลุขอบเขตปราณก่อกำเนิดเต็มที ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามนุษย์ในทวีปมังกรทะยานอ่อนแอมากจริงๆ เมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์อื่นที่เป็นดินแดนนอกทงเทียนและพวกจากแดนอเวจี
“ถ้าเราสามารถชักชวนจื่อจุนได้ จากนั้นเราจะแนะนำให้นางทำงานร่วมกับพวกท่าน เผ่าปีศาจบูรพา” เย่ว์หยางตัดสินใจ
คงเป็นเรื่องยากมากที่จะทำได้ ถ้าใครบางคนต้องการมีพลังเพิ่มขึ้นโดยไม่มีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง
อย่างน้อย เขาไม่ควรมีศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างเผ่าปีศาจบูรพา ในเมื่อเขาเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
อสูรคะนองตาทองถึงกับดีใจ
ถ้าเย่ว์หยางเป็นเพียงเด็กมนุษย์ธรรมดา เขาคงไม่สนใจท่าทีของเย่ว์หยาง แต่เย่ว์หยางเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด และยิ่งกว่านั้น เขามีความสามารถพอเอาชนะบริวารของราชันย์ปีศาจแดนใต้ นี่คือเด็กหนุ่มผู้ไล่ทุบตีแม่ทัพปีศาจเก้าหัวจนสะบักสะบอม คำพูดของเขาที่ฟังผ่านหูของอสูรคะนองตาทองสำคัญกว่าคำพูดของกษัตริย์เสียอีก
เขาประสานมือคารวะเย่ว์หยาง “จากนี้ เมื่อข้ากลับไปวังหลวง ข้าจะรายงานให้ฝ่าบาทได้ทราบทุกเรื่องโดยเฉพาะ สำหรับคนของท่านที่เหลือ ข้าเชื่อว่าพวกเขาจะได้กลับในอีกไม่ช้า”
หนึ่งในการแลกเปลี่ยน อสูรคะนองตาทองได้พูดความลับของเผ่าปีศาจบูรพาไว้มากทีเดียว เขายังพูดถึงข้อมูลมากมายในหอทงเทียน
ในที่สุด เย่ว์หยางและสี่สาวก็ปรึกษากันเงียบๆ ชั่วครูก่อนที่จะตัดสินใจจากไป
อสูรคะนองตาทองไม่รีบร้อนจากไป เขาห่วงว่าเย่ว์หยางจะไม่สามารถออกไปจากทางผ่านโบราณได้ เขานำเย่ว์หยางและสี่สาวตรงไปที่ประตูเทเลพอร์ตลับเข้าทวีปมังกรทะยาน พอเห็นว่าเย่ว์หยางและสี่สาวเทเลพอร์ตจากไปโดยปลอดภัยแล้ว ในที่สุดเขามองหาประตูเทเลพอร์ตเข้าพื้นที่เผ่าปีศาจบูรพาเพื่อกลับไปรายงานกษัตริย์ของเขา
เมื่อเย่ว์หยางและสี่สาวเทเลพอร์ตกลับออกมา พวกเขาไม่ได้กลับไปที่เกาะก้วนจวิน แต่กลับไปปรากฏอยู่กลางทะเลทรายแทน
โชคดีที่เย่ว์หยางเตรียมม้วนเทเลพอร์ตไปเกาะก้วนจวินอยู่ก่อนแล้ว หลังจากแสงสีขาวจางลง เย่ว์หยางและสี่สาวก็กลับมาเกาะก้วนจวินที่พวกเขาจากไปยังไม่ถึงวัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาเห็นแต่ความยุ่งเหยิงนองเลือดไปทั่ว มีซากศพปีศาจ เศษอวัยวะจากศพปีศาจกระจายอยู่ทั่วทุกที่ ตรงกลางมีศพมนุษย์อยู่ไม่กี่ศพ เกือบทั้งหมดมีอวัยวะร่างกายถูกปีศาจกัดกิน มองดูน่าสยดสยอง หญิงงามลึกลับอู๋เสียและหญิงงามอมโรคอู๋เหินรวมทีมและแยกกันไปทางทิศตะวันออกค้นหาอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าที่นำนักเรียนสถานบันฉางชุนเฉิงออกไป องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวไปตรวจทางด้านทิศตะวันตกด้วยกัน ส่วนเย่ว์หยางกลับไปที่สนามแข่งขัน เพราะเขาจำได้ว่าพวกเขาทิ้งเหมยฮัวคนพี่ที่ยังมีชีวิตไว้ที่นั่น มีแต่เพียงพี่สาวขี้เมาและแพนด้าน้อยหนิวหนิวเท่านั้น เขาเกรงว่าพวกนางจะตกอยู่ในอันตราย
เย่ว์หยางรีบไปในสนามแข่งขัน แล้วเขาก็ตระหนักว่าสนามแข่งขันพังทลายลงทั้งหมด
เหมยฮัวคนพี่นอนตายอยู่กลางกองหิน
สาวขี้เมากำลังนอนอยู่บนหินที่พลังทลายกองมหึมาและดื่มเหล้าในมือนาง มีรอยขีดข่วนมากมายนับไม่ถ้วนบนตัวนาง ตรงหน้าอกนางได้รับบาดเจ็บ หน้าอกนางถูกบดกระแทกจนเห็นรอยจ้ำเลือด
แพนด้าน้อยหนิวหนิวพิงหลังของพี่สาวขี้เมา ส่งเสียงกรนขณะหลับ ดูเหมือนเธอเหนื่อยมาก
สีหน้าเธอดูเจ็บปวดเหมือนกับว่ากำลังฝันร้าย ทั้งตัวของเธอมีแต่รอยเปื้อนเลือด มากจนเธอแทบจะกลายเป็นแพนด้าสีแดง
เย่ว์หยางรู้สึกเจ็บปวดใจ เธอถูกทุบตีหนักขนาดนี้ได้อย่างไรกัน? ทำไมพี่สาวขี้เมาไม่ดูแลลูกสาวของนางให้ดี? หนิวหนิวยังเด็กมาก ใช้ให้เธอสู้กับนักรบเผ่าปีศาจบูรพาผู้มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงนักสู้ปราณก่อกำเนิดได้อย่างไร เย่ว์หยางถลันเข้าไปพยุงหนิวหนิวน้อยไว้ในอ้อมแขนแล้วถ่ายปราณก่อกำเนิดให้เธอ จากนั้นเขาเรียกเสี่ยวเหวินหลีออกมาปล่อยให้เธอใช้บอลแสงบำบัดสีขาวรักษาแพนด้าน้อยหนิวหนิว แม้ว่าแสงสีขาวของเสี่ยวเหวินหลีมีไว้เพื่อชำระร่างให้บริสุทธิ์ขึ้น แต่ก็ยังใช้ได้ผลดีกับการรักษาอาการบาดเจ็บไม่หนัก
“อาการบาดเจ็บท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” หลังจากช่วยสาวน้อยแล้ว เขาจึงรีบมาช่วยสาวใหญ่ พี่สาวขี้เมาต่อ
“เจ้ามีเหล้าอีกไหม?” พี่สาวขี้เมาเขย่าขวดเหล้าเปล่าๆ และโยนทิ้งไป จากนั้นเอื้อมมือที่เปื้อนเลือดออกมาและขอเหล้า
“ปัดโธ่! เจ้าไม่รู้หรือว่า เมื่อบาดเจ็บไม่ควรดื่มเหล้า? ท่านพยายามหาเรื่องตายหรือ?” เย่ว์หยางพยายามตรวจชีพจรนาง และพบว่าพี่สาวขี้เมาบาดเจ็บหนักและกำลังจะตาย ซี่โครงนางหักหลายซี่ และอวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บทั้งหมด นางใช้ร่างกายเกินขีดจำกัด ถ้าเขากลับมาไม่ทันเวลา ชีวิตน้อยๆ ของนางคงจะจบสิ้น เย่ว์หยางเข้าใจว่านางกลายเป็นแบบนี้เพราะนางสู้กับเหมยฮัวคนพี่ตามลำพัง
มีแต่สวรรค์ที่รู้ว่านางฆ่าเหมยฮัวคนพี่ผู้มีพลังและความแข็งแกร่งกว่านางได้อย่างไร? อย่างไรก็ตาม นางก็ฆ่าเขาจนได้ นางยังอดทนจนกระทั่งเย่ว์หยางกลับมา
เย่ว์หยางเขย่าตัวนางเบาๆ “ทำไมถึงมีแค่พวกท่านสองคน? คนที่เหลือเป็นอย่างไรบ้าง? เสวี่ยทันหลางเล่า? อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าล่ะ?
“ข้า…ไม่รู้ ทุกคนเริ่มต่อสู้ ข้าเหลือตัวคนเดียว… ข้าเหนื่อยแล้ว ปล่อยให้ข้าหลับสักงีบเถอะ” พี่สาวขี้เมาทรุดตัวลงกับพื้น ก่อนหน้านี้ นางแข็งใจอดทนรอให้เย่ว์หยางกลับมา ทันทีที่นางรู้สึกโล่งใจ ความเหนื่อยล้าก็ทับโถมลงที่ตัวนาง
“อย่าเพิ่งหลับ, ถ้าท่านหลับตอนนี้ ท่านจะตาย” เย่ว์หยางตกใจ
เขาไม่ใส่ใจอะไรอีกต่อไป เขาเอาคนโทที่เขาได้มาจากวิหารสิบสองนักษัตรออกมา จากนั้นหยดน้ำทิพย์ใส่ในปากของพี่สาวขี้เมาสองหยด
ใครจะสนกันเล่าว่าน้ำทิพย์นี้มีค่าเทียมสวรรค์? เขาไม่ยอมให้พี่สาวคนนี้ตายเด็ดขาด
เมื่อน้ำทิพย์เข้าสู่ร่างกายนาง แสงรัศมีสว่างก็ฉายออกมาจากร่างของพี่สาวขี้เมาและรักษาอาการบาดเจ็บของนางอย่างรวดเร็ว
เย่ว์หยางพยายามช่วยรักษานางด้วยปราณก่อกำเนิดของเขา เขาฉีกเสื้อผ้าที่รุ่งริ่งของนางออกและรักษาซี่โครงที่หักของนาง จากนั้นเขาเตรียมผ้าซับน้ำเช็ดเลือดออกจากร่างนาง เมื่อเขาพบว่าอกนางขาวสีครีม เขารีบเอาชุดของตัวเองคลุมร่างนางไว้ แม้ว่าจะไม่ใช่ขนาดเดียวกัน แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไร เมื่อเย่ว์หยางเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาง ขณะที่เขารู้ว่าพี่สาวขี้เมาหมดสติไปแล้ว เขาไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่สัมผัสยอดภูเขาเหล่านั้นอยู่ชั่วขณะ ความรู้สึกที่มือของเขานั้นไม่สามารถอธิบายได้ ดีมากจนรู้สึกเหมือนบินขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้า ปทุมถันของพี่สาวขี้เมาได้สัดส่วนและตึงตัว ทรวดทรงงดงามจนไม่มีอะไรเปรียบ ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเขากลัวว่าอู๋เสีย, อู๋เหิน, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวจะมาถึงและเห็นท่าทางที่ลามกของเขา เขาไม่ต้องการจะหยุดจับอกนางเลย
เอาอย่างนั้นก็ได้, ลาก่อน อกสาว ข้าจะหวงแหนความทรงจำนี้ตลอดไป
พี่สาวผู้นี้จะเป็นของเขาในไม่ช้าหรือในคราวต่อไป ตอนนี้ขอจองนางไว้ก่อน แล้วค่อยคิดหาทางจีบนางต่อไปในอนาคต เขาจะค่อยๆ สอนนางต่อไปในอนาคต
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีข้อได้เปรียบสำหรับการได้นาง เขาจะได้แพนด้าน้อยมาด้วยถ้าเขาทำได้สำเร็จ พี่สาวขี้เมาผู้เป็นแม่และหนูน้อยหนิวหนิวของนาง คู่แม่ลูกที่ร้ายกาจที่สุดในโลกก็อยู่ในความควบคุมของเขาจนได้
เย่ว์หยางเริ่มน้ำลายหกขณะที่จิตใจเขาเริ่มฟุ้งซ่าน เสี่ยวเหวินหลีสับสนเล็กน้อยกับท่าทีของเขา เธอเอียงศีรษะมองดู เมื่อเย่ว์หยางเห็นว่าเขากำลังสอนเรื่องไม่ดีให้กับลูกสาวของเขา เขารีบลูบศีรษะเธอเบาๆ แล้วจูบหน้าผากเธอ ทำตัวเป็นพ่อที่ดี เสี่ยวเหวินหลีดูแลได้ง่ายอยู่แล้ว เธอหลับตาขณะที่คลี่ยิ้มกว้าง
จู่ๆ หญิงงามลึกลับก็เทเลพอร์ตไปที่นั่นด้วยทักษะเทเลพอร์ตของนาง
นางพยักหน้าให้เย่ว์หยาง “ข้าพบปิงเอ๋อและอี้หนานแล้ว พวกนางปลอดภัย แต่พวกนางถูกซุ่มโจมตีและสู้ศึกครั้งใหญ่หลังจากนั้น พวกเขาบาดเจ็บกันมาก พี่น้องสามคนของเจ้าไม่มีความสามารถขนาดนั้น พวกเขาแทบไม่จะไม่มีสติหลังจากถูกศัตรูไล่ทุบตี แต่หมาตัวใหญ่ของเจ้า ฮุยไท่หลางมีพลังแข็งแกร่งจริงๆ มันกัดขุนพลปีศาจได้สามนาย และแม่ทัพปีศาจอีกหนึ่ง มันถล่มกองทัพปีศาจด้วยตัวมันเอง มันเป็นหมาชั้นดีจริงๆ ความสามารถของมันก็ไม่เลว ข้าคิดว่าถ้าเจ้าให้เม็ดพลังของหัวเหว่ยกับมัน มันอาจวิวัฒนาการไปเป็นสัตว์อสูรปราณก่อกำเนิดก็ได้นะ..”
“อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าอยู่ที่ไหน?” เย่ว์หยางไม่ได้ยินชื่ออาจารย์จิ้งจอกเฒ่าจากนาง เขารู้ว่าจิ้งจอกเฒ่าไม่มีทางหนีเอาตัวรอดคนเดียว เป็นไปได้หรือที่เขาจะถูกปีศาจฆ่า?
“เราหาเขาไม่พบ ดูเหมือนว่าเขากำลังสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง” เมื่ออู๋เสียสังเกตว่าพี่สาวขี้เมาสวมชุดของเย่ว์หยางอยู่ ทันใดนั้นนางจับมือเย่ว์หยางและดมทันที
“ข้าไม่ได้แตะต้องโดยตรงนะ..” เย่ว์หยางพูดด้วยความรู้สึกผิด
“จริงเร้อ..?” อู๋เสียจ้องเย่ว์หยางด้วยสายตาที่อาจฆ่าคนได้ สายตาที่น่ากลัวกว่าแสงอุษาของเจ้าเมืองโล่วฮัว
“ก็ได้, ข้ายอมรับ ข้าแตะต้องอยู่ไม่กี่ครั้ง ไม่มีทางอื่นนี่ ข้าไม่อาจควบคุมมือตัวเองได้” เย่ว์หยางรู้ว่าแสดงความซื่อสัตย์ตอนนี้เป็นดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขาเกือบไม่สามารถปกปิดความลับได้ หลักการชีวิตของเขาก็คือ โกหกเมื่อท่านยังทำได้ และจงซื่อสัตย์ถ้าหากท่านไม่มีปัญญาโกหก
“ไม่เป็นไร แตะต้องไม่กี่ครั้ง ข้าไม่ตำหนิเจ้า” อู๋เสียหัวเราะเล็กน้อย พอฟังคำพูดนาง เย่ว์หยางงง เป็นไปได้หรือนี่ ที่นางมีจิตใจกว้างอย่างนั้นเสมอ?
“ข้าฟังผิดไปหรือเปล่า?” เย่ว์หยางไม่อยากจะเชื่อหูเขาเลยจริงๆ
“ตอนนี้ มือของเจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง?” อู๋เสียถามเขากลับอย่างเย็นชา
***********