ตอนที่ 270 กระพรวนลมเขาแกะ
ปราณยะเยือกของนกยูงแผ่ออกมาจากทั้งร่างของเขา หัวใจของถังเทียนเป็นเหมือนน้ำแข็งและหิมะ
อากาศโดยรอบถูกกักไว้เกือบทั้งหมดคลื่นปราณแท้ลูกแล้วลูกเล่าระเบิดใส่ในขอบเขต 3 เมตร ระลอกพลังโปร่งใสทะลักออกเป็นชั้นๆ เสียงต่ำของสายฟ้าก้องผ่านระลอกปราณ
ปราณแท้ที่แข็งแกร่งจริงๆ
แต่หน้าของถังเทียนไม่มีวี่แววกลัวสักนิด
มือขวาที่แนบอยู่ข้างตัวเขาจู่ๆมีประกายไฟแปลบปลาบอยู่รอบๆปลายนิ้วของเขา เขาเหยียดข้อศอกออกทันทีกรงเล็บทั้งห้าที่งอเป็นตะขอยื่นออกมา
ปราณแท้ที่แหลมคมและเย็นยะเยือกยิงออกมาจากปลายนิ้วของเขาปะทะใส่ฝ่ามือสายฟ้ากำศรวลของหวีซุ่น
ซี่.....
พลังของกรงเล็บเพลิงภูตพรายเป็นเหมือนทวนแหลมคมห้าเล่มทะลวงใส่ฝ่ามือของคู่ต่อสู้
แต่ฝ่ามือของหวีซุ่นครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ แม้ว่าจะถูกทะลวงเข้ามาได้ แต่ยังเหลือพลังพุ่งเข้าหาถังเทียนในช่วงเวลานั้นประทับฝ่ามือพุ่งมาถึงตัวเขา ตาของถังเทียนสว่างเป็นประกายน้ำเงินทันทีเตรียมใช้โล่ตะลุยเลือดมาขวางไว้ที่หน้าอกเขาทันที
ปัง!
ร่างของถังเทียนจมไปในทรายเล็กน้อยทรายใต้เท้าเขาระเบิดกระจายฟุ้งไปทุกที่
ถังเทียนจมลึกลงไปครึ่งเมตรเส้นผ่าศูนย์กลางสองเมตร
หวีซุ่นเข้ามาใกล้เพราะแรงเหวี่ยงพลิกตัวในกลางอากาศทันทีเหมือนกับถูกงูกัดเขาถอยหลังไปสองสามก้าวก่อนจะหยุดได้ หน้าของหวีซุ่นเขียวคล้ำ พลังฝ่ามือของเขาถูกถังเทียนทำลายสิ้นเชิงและพลังแปลกประหลาดจากนิ้วยังชอนไชเข้าไปในเส้นชีพจรของเขาทำให้เขาต้องใช้พลังปราณขับพลังนั้นออกจากตัว
มีพลังกรงเล็บอย่างนั้นที่สามารถทะลวงผ่านฝ่ามือสายฟ้ากำศรวลได้หรือนี่?
ใจของเขาหนาวเหน็บ วิทยายุทธของเขาเป็นวิชาระดับเจ็ดและเป็นวิชาระดับสูงแน่นอน เขาฝึกวิชาฝ่ามือที่ทรงพลังนี้จนถึงระดับสมบูรณ์แบบ นักสู้ระดับสวรรค์วิถีที่เผชิญกับฝ่ามือนี้จะถูกสังหารด้วยฝ่ามือเดียว
นักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี!
หวีซุ่นหรี่ตาปราณแท้ของเขาแผ่ออกเป็นระลอกมีรังสีเหมือนไฟฟ้าปรากฏอยู่บนมือของเขาทันที
นึกไม่ถึงว่าคู่ต่อสู้ของเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที
หัวใจของหวีซุ่นแทบกระดอน เขาเร่งเร้าพลังป้องกันสูงสุดเตรียมพร้อมรับการโจมตีของคู่ต่อสู้ ห้าหกวินาทีต่อมาไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่อย่างเดียว แย่แล้ว หลงกลแล้ว
หวีซุ่นบังเอิญเห็นร่างหนึ่งปรากฏอยู่ข้างกลุ่มพวกเขาเอาชีวิตคนของเขาอย่างเยือกเย็น
โธ่เว้ย!
เขาบินออกไปโดยไม่ลังเลใจ
คู่ต่อสู้ของหย่งชิวคือถังอี้ ขุนพลวิญญาณของเขาเป็นนักดาบระดับแปดเรียกว่าฟงโฉ่ว ฟงโฉ่วหน้าตาน่าเกลียดมากแต่เป็นนักดาบจากเมื่อหกสิบปีที่แล้ว ฟงโฉ่วเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดของหย่งชิวด้วยพลังระดับแปดยังคงเป็นขีดจำกัดของหย่งชิวด้วย วิชาดาบของฟงโฉ่วมีความสำเร็จอยู่ในระดับสูงบรรดาคนระดับเดียวกัน มีไม่กี่คนที่สู้กับเขาได้
แต่เมื่อเผชิญกับขุนพลวิญญาณผู้ใช้ดาบ ฟงโฉวถูกข่มอย่างแท้จริง
นี่เป็นครั้งแรกที่หย่งชิวเห็นฟงโฉ่วถูกข่ม ช่างเป็นขุนพลวิญญาณที่แข็งแกร่งยิ่งนัก ประกายแสงวาบผ่านดวงตาเขา ถ้าแค่ได้ขุนพลวิญญาณนั้นที่แข็งแกร่งมาใช้งานเพื่อตัวเขาเอง...
เขาไม่พูดอะไรเขาบังคับมีดบินห้าเล่มรอบมือของเขาให้บินออกไป เกิดเสียงหึ่งๆและมีรัศมีโค้งขณะที่มีดพุ่งเข้าหาถังอี้
ถังอี้ไม่ได้มองดูแค่เหวี่ยงดาบฟันขาม้าตามปกติเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีดบินทั้งห้าเล่มเหมือนกับปะทะกำแพงไร้สภาพเผียะ เผียะ เผียะ มีดบินเหล่านั้นแฉลบออกไปทั้งหมด
ความสนใจของหย่งชิวกลายเป็นคร่ำเคร่งมากขึ้นนิ้วทั้งสิบของเขาปล่อยอาวุธลับที่แฝงด้วยปราณธาตุไม้ออกไปนับไม่ถ้วน ทั้งหมดนั้นมองดูเหมือนพิรุณสีเขียวปกคลุมเต็มท้องฟ้าขณะร่วงลงใส่ถังอี้
ถังอี้ไม่สนใจกับการโจมตีที่มาถึง พลังดาบของเขากวาดออกรังสีดาบเป็นเหมือนแผงใหญ่เกินกว่าจะครอบงำได้อาวุธลับกระแทกเข้ากับแผงดาบเหมือนฝนตกลงใส่ร่ม
อาวุธลับของหย่งชิวดูเหมือนจะมีได้ไม่สิ้นสุด เนื่องจากยิงออกมาจากนิ้วของเขา
แม้ด้วยการร่วมมือกันระหว่างหย่งชิวและฟงโฉ่ว พวกเขาก็ยังมีปัญหากับการขัดขวางถังอี้
แต่นักสู้คนอื่นไม่สามารถช่วยได้ ด้วยจำนวนอาวุธลับมากมายที่กระทบดาบที่เกิดปราณปั่นป่วนไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้
การต่อสู้กับอาเฮ่อและสุ่ยเฉิงเป็นภาพแตกต่างกันสิ้นเชิง
ทั้งสองคนเป็นมือกระบี่ ใช้ความเร็วสู้ความเร็ว ทั้งสองสัมผัสแล้วก็แยกออกจากกันไวเหมือนสายฟ้า
สุ่ยเฉิงใช้กระบี่ยาวได้ดีร่างของเขาเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว วิชากระบี่ของเขาแปรเปลี่ยนยากทำนายได้ ขณะที่อาเฮ่อก็รวดเร็วพอกัน แต่เหมือนกับกระเรียนดำร่ายรำในท้องฟ้า เขาสู้ด้วยความรู้สึกที่ปลอดโปร่ง วิชากระบี่ของเขาไม่มีลักษณะเจ้าเล่ห์แม้แต่น้อย เขาแสดงถึงพลังที่แข็งแกร่งเป็นแบบแผน
ถังเทียนเป็นเหมือนปลา เดี๋ยวปรากฏตรงนี้บ้างตรงโน้นบ้างในท่ามกลางหมู่ผู้คนที่ยุ่งเหยิง
แต่คนเหล่านี้ทุกคนเทียบกับบริวารของซินลี่แล้วจัดการได้ยากกว่ามาก หลังจากตื่นเต้นในตอนแรก หลายคนสงบจิตใจได้ นักสู้ระดับสวรรค์วิถีไม่มีทีท่าคุกคามถังเทียน แต่ถ้าเขาไม่สามารถฆ่าพวกเขาด้วยไม้ตายอย่างหรือสองอย่าง นักสู้คนอื่นจะเข้ามาสนับสนุน
ถังเทียนฆ่าไปหกคนติดต่อกันจากนั้นถูกนักสู้สามคนตรึงไว้ มีเสียงตะโกนจากด้านหลังเขา หวีซุ่นกำลังเข้ามา
ฝ่ามือของเขาแผ่พลังออกและระเบิดจากด้านหลังของเขา
ทันใดนั้นถังเทียนปล่อยเสียงหวีดหวิวบ้าง ฝ่ามือขวาของเขาใช้กรงเล็บเพลิงภูตพรายมือซ้ายกวัดแกว่งโล่ตะลุยเลือด รังสีโล่ในอากาศระเบิดพลังโจมตีนั่นพลังโล่อากาศโจมตี
เมื่อได้ยินเสียงหวีดหวิวของถังเทียนหลิงซิ่วผู้ซุ่มซ่อนอยู่รอลอบโจมตี เลือดใจร้อนของเขาพุ่งขึ้นหน้าทัน
นั่นคือแผนส่งสัญญาณลับ
วิชาตัวเบาของหลิงซิ่วธรรมดา ขณะที่คู่ต่อสู้เป็นยอดฝีมือ ถ้าเขาเข้าไปใกล้ เขาจะเปิดเผยตัวตนแน่นอนเขามักรอโอกาสลอบจู่โจมจากการต่อสู้ รอให้ส่งสัญญาณโจมตี
ตอนนี้แหละ!
ฟลามิงโกร้องและวิ่งออกไปทันที
ลมแรงด้านหน้าของเขาและความสับสนในสายตาของเขาทำให้พลังต่อสู้ในตัวหลิงซิ่วระเบิดออกมา อุณหภูมิในเลือดของเขาร้อนขึ้น
ฟลามิงโกได้รับการปรับปรุงโดยเซรีนและแข็งแกร่งขึ้นมากในทุกด้าน สิ่งที่ทำให้เซรีนประหลาดใจก็คือความจริงฟลามิงโกมีจิตวิญญาณพลังยุทธ แม้ว่าจะอ่อนแอมาก แต่นั่นหมายความว่าฟลามิงโกนี้ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว ฟลามิงโกจึงกลายเป็นอาวุธจักรกลวิญญาณอีกชนิดหนึ่ง
ความเร็วของฟลามิงโกเพิ่มกว่าเดิมถึงสามเท่า
ด้วยความเร็วเป็นพายุของมัน แม้แต่หลิงซิ่วผู้คลั่งไคล้ก็ยังต้องใช้เวลาปรับตัวกับมัน
แต่เมื่อเขาคุ้นเคยกับมันแล้ว หลิงซิ่วก็หลงรักความรู้สึกที่ไวเหมือนสายฟ้านี้
เร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้น
ฟลามิงโกยังคงรู้สึกถึงเจตนาต่อสู้ของหลิงซิ่วและมันเร่งความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วของมันทะลุขีดจำกัดปกติของมัน ปังปรากฏบอลเพลิงแดงที่เท้าของมันขณะที่มันกำลังควบเร่งความเร็ว
มีทั้งเปลวเพลิงและสายลมในพริบตาไฟก็ครอบคลุมเต็มไปทั้งตัวฟลามิงโก
หลิงซิ่วประหลาดใจแต่ก็ตระหนักได้ทันทีว่าไฟไม่ได้ทำร้ายเขาแต่อย่างใด แต่ทำให้ปราณแท้ในร่างของเขามีชีวิตชีวามากขึ้น นอกจากนี้ไฟยังครอบคลุมตัวหลิงซิ่ว
ทันใดนั้นหลิงซิ่วรู้สึกว่าเขาและฟลามิงโกกลายเป็นหนึ่งเดียวกันมีความเชื่อมโยงที่ไม่อาจอธิบายได้
เสียงวิ่งของฟลามิงโกดังลั่นมันใช้พลังงานทั้งหมดในการวิ่ง สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนในสนามต่อสู้
แต่...มันไวมาก
ทุกคนเพียงแต่เห็นร่างที่อยู่ในไฟเหมือนธนูพุ่งออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ในพริบตาไฟก็ปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขา
อะไรนั่น?
ทันใดนั้นใบหน้ระห่ำหน้าหนึ่งปรากฏอยู่ภายในเปลวเพลิงสร้างความประหลาดใจให้นักสู้ทุกคน ทุกคนชักอาวุธป้องกันข้างหน้าตนเอง ขณะที่ประกายแสงเย็นนับไม่ถ้วนระเบิดออกมาจากเพลิงครอบคลุมพวกเขาในพริบตา พวกเขาไม่ทันได้ตั้งตัวได้แต่ป้องกันท่วงท่าที่รุนแรงและสง่างามเท่านั้น
รังสีแสงเยือกเย็นโจมตีอาวุธของพวกเขาในขณะเดียวกัน
พลังมหาศาลราวกับว่าสามารถถล่มภูเขาทลายทะเลปะทะใส่พวกเขาปัง ปัง ปัง นักสู้สามคนกระเด็นไปสองสามร้อยเมตรเหมือนกับกระสอบทราย เลือดไหลออกจากทวารในร่างกายพวกเขาและพวกเขาไม่หายใจแล้ว
หลิงซิ่วฆ่าเหมือนเป็นปกติ ฟลามิงโกไม่สูญเสียความเร็ววิ่งอย่างฮึกเหิมนและทะยานขึ้นไปในอากาศ
ผมเงินของหลิงซิ่วก็มีเพลิงหุ้มไว้ชั้นหนึ่งเช่นกัน ผมสีเงินพัดพลิ้วอยู่ในท้องฟ้ามองดูเหมือนม่านไฟริกรี้อยู่ในสายลม
ฟลามิงโกกระโจนได้ไกลถึงห้าเมตรอย่างคาดไม่ถึงทำให้นักสู้ทุกคนที่มองอยู่กลัวและแตกตื่น หน้าของหลิงซิ่วก็แปลกใจมากเช่นกันมันดูไม่เหมือนกับเขาตามปกติ เหมือนกับว่าเขาจะกลายเป็นทหารม้าเพลิงโบราณ รังสีฆ่าฟันหลั่งไหลไปทุกที่
หอกเงินของเขาส่งเสียงร้องออกมาอย่างร่าเริง เหมือนกับว่าครั้งหนึ่งเหมือนได้ลิ้มรสชาติบางอย่างที่มันไม่ได้ชิมมานานแล้ว
ในท่ามกลางสถานการณ์ทั้งหมดนี้ หลิงซิ่วตระหนักได้ทันทีหอกทะเลจุดเป็นวิชาหอกโบราณพื้นฐานเท่านั้น
เขาสะดุ้งเหมือนกับถูกฟ้าผ่า ท่วงท่าหอกทะเลจุดทั้งหมดเคล็ดการปลดปล่อยพลังเฉพาะที่พิเศษเริ่มผุดขึ้นมาในใจของเขาชั่วแว่บเดียวเขาก็เข้าใจได้ทันที
จากครั้งล่าสุดเขามักรู้สึกว่าหอกทะเลจุดเป็นวิชาที่มีประโยชน์ในสนามรบ แต่เขาคิดว่าวิชาหอกโบราณก็มีลักณณะนี้ แต่ตอนนี้เขาพยายามรบในขณะขับขี่ฟลามิงโก แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหอกทะเลจุดโดยพื้นฐานเป็นวิชาหอกในสนามรบที่ใช้ในสนามรบโบราณ!
อาจารย์ไม่เคยบอกเขาว่าหอกทะเลจุดต้องใช้พาหนะ!
ใช่แล้ว หอกทะเลจุดต้องใช้พาหนะตราบใดที่ผู้ใช้หอกขับขี่พาหนะ เขาจะสามารถใช้หอกทะเลจุดที่แท้จริงได้
ความรู้แจ้งฉายผ่านสมองของเขาเมื่อเขาคืนความรู้สึกกลับมา เขาก็วิ่งเข้าหาแถวศัตรูแล้ว โดยไม่คิดอะไร หอกเงินในมือของเขาเริ่มแทงไปข้างหน้า
การแทงครั้งนี้ใช้สัมผัสที่เบามาก นิ้วของเขาใช้สัมผัสหมุนหอกที่เบามาก
แต่หอกเงินกลับเชื่องเชื่อมากเหมือนกับว่ามันเล็ดรอดอยู่ตามนิ้วของเขาและพุ่งออกไปและเกิดการหมุนวนเล็กน้อย
กระพรวนลมเขาแกะที่ผูกไว้ที่หอกสะบัดทันที หลังจากได้รับกระพรวนนี่มาจากเซียนกระบี่ลับมาแล้วเมื่อหลิงซิ่วผูกเข้ากับหอก มันไม่เคยดังเลย
ติง!
เสียงกระพรวนที่ดังสบายๆออกมาจากชั้นและซอกหลืบประวัติศาสตร์ผ่านมาจนถึงปัจจุบันสะท้านหัวใจผู้คน
ร่างของหลิงซิ่วสะท้าน เขาลืมตากว้างด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
ปุ
นักสู้ที่อยู่ต่อหน้าของเขารู้สึกเหมือนสูญเสียวิญญาณไม่ขยับเลยสักนิ้วพริบตาเดียวปลายหอกก็ทะลวงอกเขา ปัง นักสู้ผู้นั้นล้มลง แต่ใบหน้าเขาไม่มีวี่แววเจ็บปวด
เมื่อสีหน้าของนักสู้ขณะที่ล้มลง หลิงซิ่วสั่นสะท้านอีกครั้ง
ฟลามิงโกไม่หยุด เหมือนกับระบำเพลิงมันวิ่งขวางเข้าหานักสู้อีกสองสามคน
หลิงซิ่วปล่อยพลังหอกต่อเนื่อง ปุ ปุ ปุหอกเขาไวเหมือนแสงที่ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าเห็นได้หอกกระพริบประกายคราใดก็มีคนล้มลงตา ทุกคนที่ล้มลงไม่มีสีหน้าว่าเจ็บปวด
เมื่อหลิงซิ่วเรียกความรู้สึกกลับมาได้ เขาก็วิ่งผ่านไปทั่วทั้งค่ายนักสู้แล้ว เขาวิ่งเป็นเส้นตรงและตามแนวเส้นตรงมีศพนับไม่ถ้วน เขารู้สึกว่าปราณแท้ในร่างเขายังไม่หมดเลยแม้แต่น้อยและรู้สึกเหมือนกับว่าเดินเล่นมาไม่กี่เมตร
หลิงซิ่วจ้องกระพรวนที่ผูกไว้กับหอกเขาอย่างเหลือเชื่อ
ตัวหอกสั่นอย่างต่อเนื่อง เสียงกระพรวนดังออกมาอีกครั้งเป็นเสียงมีทำนองไพเราะชัดเจนเข้าไปในใจสอดคล้องเข้ากับปราณแท้ในร่างเขา
ทันใดนั้นเมื่อได้ยินสียงหวีดหวิวของถังเทียนเขากลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เขาไม่ลังเลใจกระตุ้นฟลามิงโกปล่อยสนามรบไว้