ตอนที่ 268 เป็นฟืนเป็นไฟ
เซรีนหัวใจเต้นรัว เห็นได้ชัดเจนว่าเขาไม่ได้มาที่นี่อย่างมีเจตนาดีแน่นอน
ถึงตอนนี้มีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ไง, ทุกคน มีเรื่องอะไรกัน?”
อาวุธจักรกลสีฟ้างดงามปรากฏเงียบๆด้านหลังของทุกคน เสียงอู้อี้ของเขาดังออกมาจากภายใน
การมาถึงของพยัคฆ์ฟ้าดึงดูดสายตาของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เฒ่าหลี่จับตาดูอยู่ข้างๆตัวคุณชายเกอเงียบๆ ตาของเขาเป็นประกายขณะที่ตั้งใจมองพยัคฆ์ฟ้า
โครงสร้างของพยัคฆ์ฟ้าไม่เหมือนอาวุธจักรกลธรรมดาที่ดูแข็งทื่อและช้า พยัคฆ์ฟ้ามีรูปร่างที่บางและสัดส่วนกระชับพอดีด้วยโลหะสีฟ้าและปีกที่อยู่ด้านหลังของมัน เห็นได้ชัดว่าพยัคฆ์ฟ้าเต็มไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัย
มันเงียบสงบเหมือนยืนอยู่ในท้องฟ้าและร่างของมันโน้มมาข้างหน้าสายตาเหมือนนักล่า รังสีฆ่าฟันครอบคลุมพื้นที่ทันที
คนกลุ่มนั้นกระสับกระส่ายทันที นักสู้ที่ล้อมรอบคุณชายเกอสีหน้าเปลี่ยนไปทุกคน ยอดฝีมือสองสามคนที่โดดเด่นเดินออกมาจากกลุ่มคนโดยมิอาจอดกลั้นได้
เสียงเครื่องสายที่โหยหวนเศร้าสร้อยดังออกมาจากที่ไกล
เสียงเครื่องสายนั้นมีผลต่อหัวใจผู้คนทำให้สีหน้าของคุณชายเกอแสดงอาการงุนงง เขามีพลังที่ธรรมดามากจะต่อต้านบทเพลงนี้ได้อย่างไร ใจของเขาถูกดูดซึมซับเข้าไปในเพลงสิ้นเชิง
นักสู้ที่อยู่ข้างคุณชายเกอทุกคนหน้าไร้สีกันหมด
ผู้เฒ่าหลี่ขมวดคิ้ว เขาเดินมาที่คุณชายเกอและวางมือบนไหล่ของเขา คลื่นพลังปราณแท้ถ่ายเข้าไปในร่างของเขาทำให้เขารู้สึกตัว หน้าของเขาแสดงความประหลาดใจทันที
สายตาผู้เฒ่าหลี่มองไปที่ระเบียงอาบแดด ชายชราตาบอดผู้หนึ่งนั่งอยู่บนรถเข็นกำลังขึงซอเอ้อหูของเขา ด้านหลังเป็นบุรุษร่างกายล่ำสันกำลังมองผู้เฒ่าหลี่อย่างเย็นชา
ผู้เฒ่าหลี่หัวใจเต้นแรงมีชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในใจเขาทันที
เขาสูดลมหายใจลึกเร่งเร้าปราณแท้ในร่างของเขา และถามขึ้นด้วยเสียงดัง “ข้าขอถาม ท่านคือเฒ่าบอดซอกำศรวลใช่หรือไม่?”
ชายชราหยุดทันทีเสียงแหบแห้งดังขึ้น “เป็นข้าเอง”
หัวใจของผู้เฒ่าหลี่เต้นถี่แรง เขาคาดไม่ถึงเลยว่าตนเองจะได้พบกับนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีในเมืองสามวิญญาณและยิ่งกว่านั้นเขายังเป็นตาแก่ตาบอดที่อารมณ์แปลกประหลาด ผู้เฒ่าหลี่รู้สึกตัวรีบกล่าวทันที“เราไม่รู้ว่าเป็นธุรกิจของผู้อาวุโส ขอโทษด้วยที่รบกวน”
“ข้าเป็นแค่ลูกจ้าง เฝ้าสถานที่นี้ให้นายจ้าง”ผู้เฒ่านักเล่นซอตอบอย่างเฉื่อยชา
ถึงตอนนี้หน้าของผู้เฒ่าหลี่บิดเบี้ยวน่าเกลียดทันที นักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีเป็นคนหยิ่งภาคภูมิใจกันทั้งนั้น พวกเขาเป็นกลุ่มบุคคลผู้แข็งแกร่งของโลกและยืนอยู่ในจุดสูงของมนุษยชาติ นักสู้ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ดึงดูดลูกค้าได้เสมอ
สามารถมีพลังของนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีได้นี่ไม่ใช่กลุ่มอิทธิพลเล็กน้อยแล้ว
“ข้าสงสัยว่าเป็นเจ้านายชั้นสูงคนใดกันแน่....”ผู้เฒ่าหลี่ต้องการสืบสาวต่อ
“นายท่านไม่อยากดังและเกี่ยวกับเรื่องอื่นทั้งหมด ตาเฒ่าคนนี้ก็แค่คนเฝ้าประตู งานเร่งด่วนก็คือ ข้าขอให้เจ้าออกไป”
ผู้เฒ่าหลี่ตอบทันที “เป็นเราที่รบกวนเอง! เราจะพาคนของเราไปเดี๋ยวนี้! เราจะออกไปเดี๋ยวนี้!”
เขาฉุดคุณชายเกอออกมาอย่างหงุดหงิด
เซรีนถอนหายใจโล่งอกสายตาที่เร่าร้อนของคุณชายเกอทำให้นางผมตั้งชัน
“พวกเขาจะมาอีกไหม?” เซรีนถามอย่างกังวลใจ
“หา, พวกมันอย่าได้มาจะดีกว่า หึ หึ!” รังสีอำมหิตของปิงกระจายทันที เขาพิ่งจะแยกมาจากถังเทียน และอารมณ์ไม่ดีอย่างมากนึกไม่ถึงเลยว่าจะได้พบกับคนเหล่านี้ และเขาแทบรอสู้กับคนพวกนี้ไม่ไหว
ต่อไปถ้าข้าจะขอเงินจากเสี่ยวถังคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปแล้ว...
ข้าต้องใช้ยุทธวิธีและแผนการที่ฉลาดจะได้ก่อให้เกิดข้อผิดพลาดต่ำที่สุด ตามคาด การต้องติดอยู่เด็กหนุ่มงี่เง่าพลอยดึงสติปัญญาเราให้ตกต่ำไปด้วย...
ปิงมองขึ้นไปในท้องฟ้าน้ำตาคลอเบ้าความเสียใจในใจเขาผุดขึ้นมา
คุณชายเกอถูกฉุดลากมาตลอดถามด้วยความสงสัย “ผู้เฒ่าหลี่, ตาแก่ตาบอดนั่นเป็นใคร?”
“เขาคือนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี” หน้าของผู้เฒ่าหลี่เคร่งเครียด “คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเขา! ดูเหมือนว่าเราต้องตรวจดูอย่างระมัดระวังว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเขา! ส่งคนมาจับตาอย่างระมัดระวัง อย่าเพิ่งทำอะไร แต่ให้คอยสอดแนมพวกเขาไว้ก่อน อาวุธจักรกลนั่นไม่ธรรมดาแน่นอน”
“นักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี....” สีหน้าของคุณชายเกอเปลี่ยน “เขาเป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี!”
แววตาไม่พอใจฉายวาบอยู่ในตาของผู้เฒ่าหลี่ นักสู้ผู้แข็งแกร่งต้องการการให้เกียรติพอๆกับนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี แต่ท่าทีของคุณชายผู้นี้ทำให้เขาโกรธ แต่เขาไม่พูดอะไรมาก “คุณชาย,โปรดอย่าประมาท อีกฝ่ายหนึ่งมีเบื้องหลังที่หยั่งไม่ถึงและยังตรวจดูไม่ชัดเจน เราอย่าบาดหมางกันดีกว่า”
คุณชายเกอไม่คำรามอย่างไม่พอใจ “แล้วยังไงเล่า ถ้าพวกเขามีนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี เราก็มีเหมือนกัน!”
ผู้เฒ่าหลี่อธิบายอย่างอดทน “จากที่เห็นเจ้าบอกได้เลยว่าเฒ่าบอดไม่ใช่ผู้สั่งการ สามารถทำให้นักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถียินดีเฝ้าสถานที่ให้กลุ่มอิทธิพลธรรมดาจะทำได้อย่างไร? สงครามจะจบลงก็ขึ้นอยู่กับความอดทน คุณชาย..ท่านต้องไม่ประมาท”
“งั้นเราจะหมดหวังในลักษณะนี้หรือ?” คุณชายเกอไม่สบายใจ
ผู้เฒ่าหลี่มีแววตาเจ้าเล่ห์ “คุณชายไม่ต้องห่วงเรายังไม่สมควรเคลื่อนไหว แต่เราสามารถหาคนมาทำงานได้”
“ท่านกำลังบอกว่า....” คุณชายเกอตาเป็นประกาย
“ถูกแล้ว ถ้าพวกเขากำลังหลอกลวง พวกเขาจะเผยตัวจริงทันที” ผู้เฒ่าหลี่พูด “ใช่ว่านักสู้สวรรค์วิถีทุกคนจะเห็นเงินเป็นของสกปรก คุณชายสายตาดีจริงๆอาวุธจักรกลนั่นไม่ธรรมดาแน่นอน มันเข้ามาใกล้เราโดยไม่มีเสียงได้ อาวุธจักรกลแข็งแกร่งอย่างนั้น ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน”
ผู้เฒ่าหลี่นัยน์ตาแวววาว ทันทีที่เขาเห็นพยัคฆ์ฟ้า เขาแทบไม่สามารถละสายตาได้เลย
เขาคลุกคลีกับวิชาจักรกลมาเกินกว่าสิบปี สายตาเขาแหลมคมแหลมคมมากกว่าที่คุณชายเกอรู้เสียอีก
แม้ว่าคุณชายเกอจะชอบวางก้ามเขื่องโขแต่สายตาและปัญญาของเขานับว่าไม่ด้อยเลย
“ถ้าเราสามารถได้มันมามันจะสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับคุณชายได้อย่างมากมาย” ผู้เฒ่าหลี่เกรงว่าคุณชายจะก่อเรื่องวุ่นวาย ดังนั้นเขาเลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง
คุณชายเกอยังคงเงียบ
ตระกูลของพวกเขาเท่ากับเป็นรุ่นที่สอง พวกเขาถูกส่งไปในที่ต่างๆ มากมายพวกเขาทุกคนจะหาธุรกิจทำเป็นของตนเอง และจะได้รับการประเมินประจำปี ผลของการประเมินจะเป็นตัวชี้วัดความสามารถของพวกเขา
เขาไม่เพียงแต่ต้องแข่งขันกับพี่น้องของเขาเท่านั้น แต่เขาต้องแข่งขันกับทายาทสายอื่นๆ อีกด้วย
เมื่อคิดถึงเรื่องบิดาของเขาซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในฐานะว่าหนักแน่นใจแข็ง เขารู้สึกมึนงงยิ่งนัก การแข่งขันชิงไหวพริบนั่นคือกฎเหล็ก บิดาของเขามีผู้สนับสนุนที่ภักดี เขาเพิ่มคนเกินกว่าสองร้อยคนในปีนั้นและแน่นอนการได้รับตำแหน่งจึงทำให้เขามีวันนี้
ทุกๆปีเขาเพียงแต่ได้รับคะแนนทั่วไป และยังไม่นับว่าโดดเด่น
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าหลี่ เขาสงบใจได้
“ข้าจะเชื่อท่าน” คุณชายเกอพูดต่อ “ข้ามีความอดทนอยู่แล้ว!”
ผู้เฒ่าหลี่หัวเราะอย่างพอใจ
ถังเทียนพบหนังสือพิมพ์ล่าสุดจากข่าวสถาบันวิทยายุทธอมตะ
พาดหัวข่าวแนะนำเรื่องของเขาเรื่องการต่อสู้กับห้ามือสังหาร และรายละเอียดที่ถูกต้องอย่างคาดไม่ถึง แต่ขณะเดียวกัน พวกเขามีข้อสันนิษฐานสองสามข้อแต่เพราะถูกปล่อยออกมาจากการต่อสู้ จึงไม่ดึงดูดความสนใจมาก ข่าวล่าสุดก็คือการต่อสู้ระหว่างสำนักหลิวกับเซียนกระบี่คนหนึ่ง
หลังจากหาดูทุกมุมข่าว เขาไม่พบข่าวใดๆ ที่เกี่ยวกับเชียนฮุ่ย
ถังเทียนผิดหวังแต่รีบเงยหน้าโดยเร็ว ความมุ่งมั่นในสายตาของเขาฉายประกายอีกครั้ง
ถังเทียนหมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝน ไม่ว่าแผนใดก็ตาม เขายกให้อาเฮ่อทั้งหมด เขารู้สติปัญญาและความคิดของตัวเองดี เรื่องซับซ้อนทั้งหมดมักทำให้เขาปวดหัว
ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วข้าขอใช้เวลาฝึกฝนดีกว่า
ไม่ว่าพวกเขาจะคิดกลยุทธไหนขึ้นมาในที่สุดก็ต้องสรุปลงที่ว่ากำปั้นสามารถนำชัยชนะมาให้ได้
ขอให้กำปั้นข้าแข็งแกร่งที่สุดก็พอ
ปิงไม่มีเวลาถามเกี่ยวกับเรื่องการฝึกฝนของเขา ดังนั้นเขาจึงวางกลยุทธเอง
เป้าหมายล่าสุดก็คือโล่อากาศโจมตีเขายังไม่สามารถฝึกท่าหลุมถล่มศิลาได้สำเร็จ แต่นั่นไม่ทำให้เขายอมแพ้ เขาเพิ่งเริ่มฝึกกวัดแกว่งโล่ ท่าเคลื่อนไหวพื้นฐานของโล่เกี่ยวข้องกับวิทยายุทธ
ทุกๆ รอบการฝึกเขาจะกวัดแกว่งโล่ถึงสองหมื่นครั้ง
เหงื่อของเขาพร่างพรูเหมือนฝนตก
หลิงซิ่วและอาเฮ่อรู้สึกแตกต่าง ถังเทียนไม่เคยมีความรู้สึกว่าพรสวรรค์ในการฝึกฝนของเขาโดดเด่น ตั้งแต่เล็กไม่มีใครเคยเรียกเขาว่าอัจฉริยะ ตรงกันข้ามทุกคนจะล้อเลียนหัวเราะเยาะเขาเมื่อเขาเติบโตเขาข่มใจฝึกฝนจนชาชินและบังคับตนเองให้มุ่งมั่นและอดทนยิ่งขึ้น
ฝนทั่งจะแสนครั้งหรือล้านครั้งมันก็คงจะคมจนได้
บางทีอาจมีทางลัด คนฉลาดมักหาทางลัดเสมอ ขณะที่เขาฝึกฝนอย่างเคร่งครัดซื่อตรง ฝึกจนกระทั่งเพียงพอ
หยาดเหงื่อและการฝึกหนักโกหกกันไม่ได้
จากอดีตจนถึงตอนนี้เขามักเชื่อเช่นนั้นเสมอมา หลักการทฤษฎีในโลกมีมากเกินไป ตราบที่เขาเข้าใจเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
ทุกครั้งที่เขาฝึกจบรอบหนึ่งเขาจะนั่งโคจรพลังฟื้นฟูปราณแท้ของเขา ขณะเดียวกันก็ใช้เพลิงจิตวิญญาณยุทธของเขาถ่ายเทไปที่กรงเล็บแมวโลหิต ครั้งสุดท้ายที่เขาลองดูด้วยพลังของกระเรียน มีอุปสรรคบางอย่างขวางอยู่ เขารู้สึกว่าพลังยังไม่เพียงพอถ่ายเทไปที่กรงเล็บแมวโลหิต ดังนั้นเขาจึงเริ่มถ่ายพลังไปที่มันอย่างต่อเนื่อง
“ใช้ไม่ได้,ไม่ว่าเจ้าจะฝึกมากแค่ไหนก็ยังใช้ไม่ได้”
เสียงตะโกนโกรธเกรี้ยวดังมาจากในค่ายทหารใหม่
“อยู่ต่อหน้าตระกูลชนชั้นสูงความเพียรของเจ้าทั้งหมดไม่มีความหมาย! เมื่อเริ่มตอนแรกก็แพ้เสียแล้ว! ไม่ว่าเจ้าจะวิ่งเร็วแค่ไหน พยายามหนักแค่ไหน ก็ไม่มีความหมาย!”
“พวกเขาทุกคนมีอาจารย์ วัสดุสมบัตินับไม่ถ้วน ตั้งแต่เล็กๆพวกเขาก็เปิดพลังชีพจร วิทยายุทธโดดเด่นไม่ซ้ำใครพวกเขาก็ฝึกกันตั้งแต่เล็ก แล้วเจ้าจะรับมือพวกเขาได้อย่างไร? หยาดเหงื่อของเจ้าน่ะหรือ? ฮ่าฮ่า เลิกล้อเล่นได้แล้ว”
เสียงโกรธดังออกมาจากควันที่ลอยอ้อยอิ่ง
“สังคมไม่มีความยุติธรรม! คนอ่อนแอ ก็เป็นคนอ่อนแออยู่ร่ำไป”
“ลืมตาเจ้าได้แล้ว ดูซะ, หยุดฝันได้แล้ว!”
ตั้งแต่สองสามวันก่อนดวงตาที่โกรธในหมอกควันมักจะมีความเคลื่อนไหวบางอย่าง จากนั้น...ก็กลายเป็นอย่างนั้น!
ถังเทียนคร้านเกินกว่าจะให้ความสนใจมัน แต่ดูเหมือนมันไม่มีความตั้งใจจะหยุดยังคงตะโกนต่อไปทั้งวันและเสียงของมันก็ดังมาก
ถังเทียนกำลังนั่งขัดสมาธิลุกขึ้นยืนทันทีเดินเข้าไปในม่านควันและกล่าว “เฮ้, เจ้ารู้จักเงียบบ้างไหม?”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!งั้นข้าคงพูดกระทบใจเจ้าใช่ไหม? เจ้ามดน้อย ความจริงเจ้ารู้แล้ว แต่เจ้ากำลังโกหกตัวเอง ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” ม่านควันนั้นหัวเราะ
“ก็ได้ ก็ได้” ถังเทียนผงกศีรษะ “ข้ารู้แล้วรู้ว่าเจ้าเป็นสุนัขตัวร้าย”
“เจ้า!” ม่านควันนั้นโกรธ
“ล้มเหลวตามคาด” ถังเทียนส่ายศีรษะ “เอาความล้มเหลวมาเป็นข้อแก้ตัวไม่ใช่หรือ?หมัดเหล็กกลืนแสงอะไรกัน ท่านเป็นแค่คนปากคอเราะร้ายและจิตใจอ่อนแอและยังได้รับหมัดเหล็กนั่นมาได้หรือ? ตอนนี้ข้าไม่มีความสนใจท่านเลย ขอบอกเรื่องนี้ท่านก็ได้ ถ้าท่านยังไม่หุบปากนะ ข้าจะลบท่านทิ้งซะ”
“เจ้ากล้า!”
“ผู้ใดว่าข้าไม่กล้า?” ถังเทียนแค่นเสียง “ท่านลืมไปแล้วหรือว่านี่คือถิ่นใคร ถังอี้, เรามีวิธีไหนที่จะลบเจ้าเด็กนี่ทิ้งได้บ้าง?”
ถังอี้ตอบ “เราก็แค่โยนมันเข้าไปผนังวิชายุทธเพื่อให้กลืนกินการ์ดวิญญาณ และสร้างขุนพลวิญญาณขึ้นใหม่”
ถังเทียนส่ายศีรษะ“เจ้าเด็กใจอ่อนแอนี่จะสร้างขุนพลวิญญาณดีๆ ได้ยังไง? มีถังขยะหรืออะไรอื่นแถวๆ นี้บ้างไหม?”
ม่านควันนั้นแตกตื่น “เจ้าไม่ต้องการหมัดเหล็กกลืนแสงแล้วใช่ไหม?นี่คือวิทยายุทธโดดเด่นไม่ซ้ำใครเชียวนะ!”