ตอนที่ 264 ปราณแท้ของนกยูง
ถังเทียนเข้าสู่ภาวะพร้อมสู้ไม่มีท่าทีโง่เหลืออยู่แม้แต่น้อย
เป้าหมายแต่แรกเริ่มของเขาก็คือซินลี่ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงไหนก็ไม่สามารถทำลายกองกำลังที่แข็งแกร่งทั้งห้าร้อยคนได้ และวิธีเดียวที่จะเอาชนะกองกำลังเช่นนั้นได้ก็คือมุ่งที่ตัวผู้นำ
ถังเทียนทำตะลุยไปข้างหน้าช้าๆ เขาปรากฏตัวทำทีเหมือนกับเดินเล่นเรื่อยเปื่อย ขณะที่ศัตรูรอบๆ ก็ทำเหมือนกับไม่เห็นเขา
แสงเงินปรากฏอยู่ใต้เท้าเขาขณะที่แสงเงินฉายไปตามร่างกายเขาความเร็วที่แสงแผ่กระจายออกไปนั้นสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าแสงสีเงินวาบผ่านไปตรงส่วนใด ก็มีเกราะหุ้มทันที กลายเป็นเกราะคลุมทั้งตัวถังเทียน
นกยูงคราม
เมื่อผิวส่วนสุดท้ายของเขาถูกเกราะนกยูงคลุมรัศมีพลังกระเรียนซึ่งเป็นเหมือนชั้นอากาศบางเหมือนแผ่นกระดาษรอบตัวเขาบีบอัดอยู่ระหว่างเกราะและผิวของถังเทียน
ร่างของถังเทียนสั่น
เขารู้สึกเหมือนกับว่าถูกดึงเข้าไปในช่องว่างไร้ที่สิ้นสุดด้านหลังเขามีร่างกว้างขนาดสามเมตร เห็นได้ชัดว่าเป็นลักษณะของนกยูง
แม้ว่าจะเป็นร่างเลือนราง แต่ก็เป็นลักษณะที่เยือกเย็นและหยิ่งผยองของนกยูงที่รู้สึกได้ชัด
นี่คือ...
นี่คือผลของพลังกระเรียนหรือนี่?
ถังเทียนประหลาดใจ ความรู้สึกจิตวิญญาณพลังยุทธกับนกยูงเป็นสิ่งที่แตกต่างจากในอดีต ความคิดของถังเทียนถูกกระตุ้นและจากจิตวิญญาณพลังยุทธที่ลุกโชนเพลิงเงินขยายลอยออกไป และถ่ายเข้าไปในร่างสีน้ำเงินด้านหลังเขา เมื่อเพลิงเงินเชื่อมกับร่างสีน้ำเงินปราณแท้ที่เยือกเย็นมั่นคงถูกส่งมาจากร่างน้ำเงินข้างหลังเขาและถ่ายเข้าไปในร่างของเขา
ร่างของถังเทียนสั่นสะท้านอีกครั้ง
พลังแท้ของนกยูงน้ำแข็งผสานเข้ากับพลังกระเรียนแท้ของเขาปราณกระเรียนแท้ที่ผันผวนเป็นเหมือนน้ำแข็งเย็นยะเยือกกระทันหัน
ปราณแท้ของนกยูง
หัวใจถังเทียนตกตะลึงอย่างสิ้นเชิงเขาคิดว่าการใช้เกราะนกยูงของเขาทำได้ลึกซึ้งมากมายแล้ว แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาแค่รู้พลังของนกยูงเพียงผิวเผิน
ปราณแท้ในร่างถังเทียนสมบูรณ์เต็มเปี่ยมอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ในช่วงเวลานี้เขาสามารถรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างเกราะและอาวุธจักรกลได้อย่างลึกซึ้ง
เกราะประกอบไปด้วยพลังที่ทรงประสิทธิภาพมาก เนื่องจากถือกำเนิดโดยกฎของกลุ่มดาวและสร้างขึ้นตามธรรมชาติ เกราะเหล่านั้นสะสมพลังนานนับเดือน ตามปกติเกราะจะเป็นเหมือนขุมสมบัติใหญ่และนักสู้ต้องการกระตุ้นเปิดขุมพลังนั้นมาใช้
อาวุธจักรกลแตกต่างเมื่อสวมใส่ แม้ว่าจะใช้หินดวงดาว แต่ร่างกายก็ยังต้องใช้ปราณแท้ของนักสู้ มันเป็นเหมือนอาวุธขยายพลังปราณแท้ส่งผลให้ปราณแท้ของนักสู้ขยายขึ้นหลายเท่า
การเปลี่ยนแปลงในนกยูงทำให้ถังเทียนใจสั่น
ถังเทียนตัดสินใจว่าต้องหาเวลาคุยกับพี่จิ่งหาว เนื่องจากตัวเขาเองเข้าใจเรื่องเกราะสมบัติและจิตวิญญาณพลังยุทธตื้นเขินเกินไป
แต่ในช่วงเวลานี้การเปลี่ยนแปลงของเกราะนกยูงช่วยได้ในหนึ่งชั่วโมงนี้อย่างมิต้องสงสัย
ปราณกระเรียนที่เยือกเย็นคลุมรอบร่างของถังเทียนทำให้สีหน้าของเขาสงบมากขึ้น เหมือนกับฟองน้ำในน้ำแข็ง จู่ๆความเฉื่อยชาของเกราะนกยูงก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าของถังเทียน
เขาเม้มริมฝีปากเคร่งขรึมน่ากลัว
“เกราะชั้นเงิน!” ม่านตาของซินลี่หรี่แคบ แต่รังสีฆ่าฟันและความปรารถนาในใจเขามิได้สะดุดเหมือนกับว่าซินลี่กำลังยืนอยู่ขอบเหว ถ้าเขาถอยก้าวเดียว ผลก็คือความตาย ต่อให้ถังเทียนมีชุดเกราะเงินอื่นต่อให้เขามีสมบัติพิเศษอื่น การต่อสู้นี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้!
ถังเทียนเริ่มเร่งความเร็ว
ฝีเท้าของเขาก้าวช้าอย่างเงียบกริบ แต่ร่างกายท่อนบนตั้งตรง ถังเทียนคล้ายกับร่างเงินที่ลอยได้ กรงเล็บแมวตวัดลงเหมือนกับใบไม้ลอยในสายลมกรงเล็บที่คมปล่อยแสงสีฟ้าขนาดเท่าเมล็ดข้าวสาร
มันปรากฏเหมือนมาจากนกยูง
ซินลี่รู้สึกถึงลางสังหรณ์ร้ายและอันตรายที่รู้สึกรอบหัวใจเขาทำให้ใจเต้นแรง เขายืดตัวตรงและตะโกนสั่งคนที่เหลือ “ฆ่า”
องครักษ์เหล็กทะเลทรายจำนวนยี่สิบคนวิ่งเข้าต้องการสังหารถึงเทียน
เหมือนกับว่าถังเทียนยังคงไม่รู้จักพวกเขา เขาไม่สนใจขณะที่รังสีแสงบนปลายนิ้วเขาสว่างขึ้นกว่าเดิม
หนึ่งในองครักษ์ควงไม้พลองรอบตัวเสียงพลองหวีดหวิวแหวกอากาศดังขึ้น พร้อมกันนั้นพลองสีดินรังสีเหลืองหวดใส่ถังเทียนขณะที่องครักษ์นักสู้อีกคนหนึ่งใช้ดาบยาวที่เหมือนกับดาบใช้ฝึก มีรังสีดาบยาวบางขาวราวหิมะวนอยู่รอบตัวถังเทียน องครักษ์นักสู้อีกคนควงขวานใหญ่อย่างโกรธเกรี้ยวส่งเสียงหวีดหวิวรังสีขวานสีแดงพุ่งตรงใส่ถังเทียน
ถังเทียนตกอยู่ในท่ามกลางอันตรายยิ่งยวดทันที
ยามนี้จากส่วนลึกภายในดวงตาของถังเทียนรังสีสว่างขนาดจุดปลายเข็ม เหมือนดวงดาวค่อยๆ บินออกมาจากม่านตาเขาความเปลี่ยนแปลงรอบด้านไม่สามารถหลบเลี่ยงสัญชาตญาณถังเทียนได้อันตรายไม่ได้มาจากแค่เพียงคนสามคนี้แต่หลังองครักษ์นักรบสองคนทางซ้ายมีองครักษ์นักรบหลังพวกเขาจะมีธนูบรอนซ์เล็งเตรียมพร้อมธนูเรืองแสงประกายเยือกเย็น ที่ด้านขวาองครักษ์นักรบสามคนแสดงอาวุธที่สามารถใช้ออกได้ทุกเมื่อ
พื้นที่ทั้งหมดถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์
ไม่มีช่องว่างในการรวมตัวสร้างกับดักใหญ่กักถังเทียนไว้ภายใน
ถังเทียนแค่นเสียงทันที แต่เขาไม่รู้ว่าการแค่นครั้งนี้กลับมีไอเย็นออกมา
ร่างของเขาหายไปทันที
ทันทีที่เขาเข้าไปที่ภาพพลองที่หนักและทรงพลังทำให้องครักษ์นักสู้ผู้นั้นดีใจ วิชาพลองของเขาคือพลองทลายภูผา และเป็นวิชาประเภทรุกและหนักหน่วง ทันทีที่ศัตรูเข้าไปในแนวพลองของเขามันคือโอกาสของเขา
เขาตวาดลั่นทันที ปราณแท้ในร่างของเขากระจายออกมาเป็นระลอกสีของพลองเป็นสีน้ำตาลกลับกลายคล้ายกับปากขนาดใหญ่ที่ต้องการจะกลืนกินถังเทียนทั้งตัว
วิชาพลองทลายภูผาเคล็ดสังหารคือทลายยอดภูผา
เขาดูเหมือนเรียบง่ายแต่จิตใจละเอียดอ่อน เขาคาดไม่ถึงว่าเพียงใช้กระบวนท่าเดียวก็เอาชนะถังเทียนได้ เมื่อถังเทียนใช้พลังที่น่ากลัวก่อนนั้นนั่นทำให้เขาตะลึงและเขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถเป็นคู่ต่อกรถังเทียนได้เลย
เขาตั้งใจใช้ท่าที่แข็งแกร่งที่สุดสร้างความลำบากให้ถังเทียนและนำเอาชัยชนะมาให้กลุ่มทั้งหมด พวกเขามีเปรียบในเรื่องจำนวนคนและตราบใดที่ถังเทียนแสดงความอ่อนแอออกมา พวกเขาก็จะชนะแน่นอน
สหายของเขาเข้าใจแผนเขาทันที และทุกคนมีสีหน้ายินดีกับการร่วมมือสู้
ทลายยอดภูผาคือกระบวนท่าที่แข็งแกร่งมากและทุกคนเข้าใจดีองครักษ์นักรบรอบๆ ต่างเตรียมใช้ไม้ตายสังหารของตน ตราบใดถังเทียนโจมตีหนึ่งในพวกเขาช่วงเวลาที่ปราณแท้ของเขาชะงัก นั่นจะเป็นโอกาสโจมตีของพวกเขา
ทันใดนั้นประกายแสงน้ำเงินสว่างฉายออกมาจากภายในรังสีพลองน้ำตาล
ชี่.....
รังสีน้ำเงินทะลวงผ่านรังสีพลองและตรงเข้าที่คอขององครักษ์นักสู้ผู้นั้น
องครักษ์นักสู้เบิ่งตากว้างด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ เขาไม่สามารถป้องกันถังเทียนได้แม้แต่ท่าเดียวอย่างนั้นหรือ?
“ฆ่า”
เหล่าองครักษ์รอบๆตื่นจากภวังค์ทันที พวกเขาไม่สนใจองครักษ์ผู้ใช้พลองอีกต่อไป เพราะทุกคนตรงเข้าใส่ถังเทียน
ร่างของถังเทียนหายวับไปอีกครั้ง
วิชาลมพราง
การ์ดวิชาระดับม่วงทองนี้มีศักยภาพมากพอจนติดอันดับวิชาพิเศษไม่ซ้ำใครและเห็นได้ชัดว่าทรงพลัง แค่ฟังจากชื่อเฉพาะของมัน ความพิเศษของวิชาตัวเบานี้สามารถยืมสายลมและซ่อนตัวอยู่ในลมนั้นได้วิชานี้ใช้ประโยชน์จากสายลมซึ่งก็คือการเคลื่อนไหวของอากาศและบรรลุถึงสถานการณ์ที่เป็นไปไม่ได้
ยิ่งเป็นพื้นที่ต่อสู้ที่ซับซ้อนและการต่อสู้ที่สับสนความเคลื่อนไหวของอากาศก็จะยิ่งซับซ้อนมากขึ้น และนั่นหมายความว่าการจะตรวจสอบและคาดเดาสายลมนั้นทำได้ยากมาก
ตอนแรกถังเทียนคิดว่าวิชาตัวเบานี้เอาไว้ใช้ซ่อนอำพรางตัวเขาเอง แต่แท้ที่จริงแล้วมันคือวิชาที่บัญญัติขึ้นใช้กับสงครามขนาดใหญ่และยุ่งเหยิง
ยิ่งกระแสอากาศในพื้นที่ซับซ้อนยุ่งเหยิงมากนับไม่ถ้วนทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวช่วยถังเทียนทั้งนั้น
ถังเทียนปรากฏตัวที่ด้านหลังมือธนูราวกับปีศาจ และเมื่อมือธนูรู้สึกตัว สีหน้าเขาเปลี่ยนยังไม่ทันจะตั้งตัวเขาก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดแล่นมาจากหลังของขา พลังความเข้มแข็งทั้งหมดจากร่างของเขาหายไปหมดและเขาล้มลงกับพื้น
ทั่วทั้งพื้นที่ยุ่งเหยิงทันที!
ไม่มีใครสามารถเห็นถังเทียนได้ชัด และไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเขาใช้วิชาใดฆ่าและใช้วิชาใดหลบหนี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถังเทียนมักจะอยู่ในระยะห่างจากพวกเขาเสมอ แต่ขณะฆ่าพวกเขาเขาจะมาปรากฏตัวในระยะใกล้ทันที
โล่ตะลุยเลือดในมือซ้ายถังเทียนใช้ป้องกันการโจมตีทำให้ไหล่ของเขารู้สึกถึงแรงปะทะ มันคือพลังที่น่ากลัว
ภายใต้อิทธิพลของพลังกระเรียน ร่างกระเรียนในตัวเขากำลังเปลี่ยนแปลงเหมือนเคย ปราณแท้โคจรได้ไม่รู้จบมากมายมหาศาล ทันใดนั้นถังเทียนตระหนักได้ว่าเขายังไม่ได้หายใจสักอึด ในอดีตเมื่อใดก็ตามที่ร่างกระเรียนโคจรปราณแท้ เขาจะต้องหายใจเข้า
แต่ร่างกระเรียนปัจจุบันนี้เปลี่ยนแปลงต่อเนื่องทำให้ปราณแท้ยังคงโคจรไปตามแขนขาและเส้นชีพจรของเขาทั้งหมด เขารู้สึกปลอดโปร่งสบาย
ปราณแท้ของเกราะนกยูงเย็นยะเยือกมากไหลออกมาจากร่างของเขา ทำให้สายตาของเขาเย็นชาไม่มีวี่แววอบอุ่นแม้แต่น้อย ใจของเขากลับตื่นตัวมากขึ้นไม่ว่าสนามรบจะใหญ่ขนาดไหน หรือความเคลื่อนไหวเล็กใดๆ ก็ตาม ล้วนปรากฏชัดเจนกับเขา
การควบคุมความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนท่วมท้นอยู่ในใจเขา
เขายืมพลังที่ระดมโจมตีใส่โล่ไถลตัวไปข้างหน้าราวกับแล่นบนน้ำแข็งทันใดนั้นเขางอตัวราวกับมีดวงตางอกเงยอยู่ด้านหลังและป้องกันรังสีดาบจากองครักษ์นักสู้คนหนึ่งได้กรงเล็บแมวโลหิตในมือของเขากวาดใส่เอวของคู่ต่อสู้
มีเสียงครางออกมา
นักสู้ผู้นั้นกดเอวห้ามเลือดไม่ให้ไหลออกมาจากบาดแผลความเจ็บปวดและความกลัวปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา
ถังเทียนไม่มีความคิดจะหยุด เหวี่ยงโล่ตะลุยเลือดด้วยแขนซ้ายคมมีดอากาศพุ่งออกมาจากโล่ตรงเข้าหานักสู้คนนั้น เขาตกตะลึงยกหมัดเหล็กป้องกันอย่างตื่นตระหนก รังสีหมัดทั้งสองกระแทกใส่ดาบอัดอากาศ
ปัง ปัง!
ดาบอัดอากาศหายไปและองครักษ์นักสู้นั้นคลายใจ แต่ทันใดนั้นสีหน้าเขาเปลี่ยนเนื่องจากเขาไม่เห็นถังเทียน
แย่แล้ว!
สายเกินกว่าจะถอนตัวเนื่องจากประกายสีฟ้าปรากฏจากด้านล่างเขาและกระแทกตรงเข้าไปในอกเขา
กรงเล็บเพลิงภูตพราย!
ฉัวะ....
เขารู้สึกเหมือนกับถูกหมัดหนักกระแทกใส่ ร่างปลิวกระเด็นอกถูกทะลวงขณะที่เขาหยุดหายใจไปแล้ว
องครักษ์เหล็กคนอื่นๆหวาดหวั่นจนเข้ากระดูก พวกเขาไม่เคยเห็นคนที่เป็นเหมือนเทพสังหารเลย ในพริบตาเขาฆ่าคนไปแปดคนแต่พวกเขายังไม่ได้สัมผัสแม้แต่ชายเสื้อผ้าของถังเทียน พลังของเขาเหนือกว่ามาก
แม้ว่าพวกเขาจะฝึกฝนมาเพื่อเป็นองครักษ์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่กลัวตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเห็นถังเทียน พวกเขาทุกคนรู้ว่าไม่มีโอกาสชนะได้เลย
องครักษ์สองสามคนมองหน้ากันเอง ความมุ่งมั่นในดวงตาพวกเขาแก่กล้าขึ้น ทุกคนตะโกนก้องและวิ่งเข้าหาถังเทียนพร้อมกัน
ทันใดนั้นปรากฏหิ่งห้อยมากมายทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าเป็นยามค่ำคืนในฤดูร้อนรังสีฆ่าฟันทั้งหมดหายไปกลายเป็นความเงียบสงบ
เคล็ดสังหารวิชาโดดเด่นพิเศษหิ่งห้อยเพลิงจ้าวปีศาจ
ราวกับว่าเวลาช่วงนี้ถูกแช่แข็ง
หิ่งห้อยสิบตัวปรากฏอยู่ที่ปลายนิ้วของถังเทียนและบินเป็นเส้นสายแสงขึ้นในอากาศ ทั้งหมดร่อนลงในท่ามกลางกลุ่ม
ถังเทียนได้รับอิทธิพลจากปราณแท้ของเกราะนกยูงอย่างสิ้นเชิงทำให้เขาใจสงบและมีสีหน้าเยือกเย็น ขณะที่เขากระโดด ริมฝีปากของเขาพึมพำทันที
“จงส่องประกาย, หิ่งห้อยจ้าวปีศาจ!”