ตอนที่ 263 พลังไร้ผู้ต่อต้าน
ทักษะในการขี่ม้าของถังเทียนนั้นย่ำแย่อย่างดีที่สุด เขาทำได้เพียงไม่ร่วงจากหลังม้า แต่ม้าตัวนี้เป็นม้าศึกที่ฝึกมาดีแล้ว มันสามารถวิ่งได้เร็วเหมือนสายลม
เมื่อซินลี่เห็นถังเทียนนำหัวหม่าเอ้อและพวกพ้องอีกยี่สิบคนและพวกนั้นก็วิ่งใส่กองกำลังของเขา เขารู้สึกมวนในท้องทันที
เจ้าโง่!
เจ้าเป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีแล้วยังไงเล่า?
กำลังคนห้าร้อยที่เขาพามาล้วนแต่เป็นบริวารฝีมือดีทั้งนั้นและเกินกว่าเจ็ดสิบคนเป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถี ด้วยกำลังเพียงเท่านี้ ต่อให้เป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีก็ยังต้องตายเมื่อปะทะกับพวกเขา นั่นคือเหตุผลที่เขาพาคนมามากมาย เขาไม่มั่นใจว่านักสู้สามคนที่ต่อสู้อยู่ในตอนนี้จะสามารถได้รับชัยชนะ
การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องชนะให้ได้!
ซินลี่หรี่ตาหยีเล็กของเขารังสีฆ่าฟันเพิ่มพูน จิตใจของเขาเด็ดเดี่ยว เขาโบกมือและตวาด “ฆ่า!”
“ฆ่า!”ทุกคนตะโกนอย่างพร้อมเพรียง ใบหน้าของพวกเขาโหดเหี้ยมและก้าวร้าว
เมื่อเห็นคู่ต่อสู้จากระยะไกลใกล้เข้ามาทุกทีตาของถังเทียนแข็งกร้าว และจู่ๆ เขาโดดลงจากหลังม้าการกระทำที่คาดไม่ถึงของเขาทำให้ทุกคนผงะเล็กน้อย ศัตรูตั้งแนวแถวอยู่ข้างหน้า คาดไม่ถึงว่าถังเทียนจะลงจากม้าทันที
การยืมแรงเหวี่ยงจากม้า ทำให้ถังเทียนกระโจนไปได้รวดเร็วมาก
กลุ่มคนมากมายรู้สึกแต่เพียงว่าถังเทียนเป็นเหมือนดาวตกที่พุ่งเข้าหาพวกเขาทันทีและกลายเป็นร่างเลือนรางไม่ชัดเจนในสายตาพวกเขา
นักสู้ผู้นำหน้าบุกเข้ามาหน้าซีดทันทีเขาเงื้อกระบี่ในมือขึ้นอย่างตื่นเต้น พลังที่สามารถทลายภูผาทะลวงกระบี่ของเขาเข้ามาถึง เขาไม่สามารถจะร้องออกมาได้รู้สึกแต่เพียงว่ากระแทกเข้ากับสัตว์ป่าขนาดยักษ์
ปัง
ร่างของเขาเป็นเหมือนลูกบอลที่ถูกเตะกระเด็นไปไกลด้วยพลังรุนแรงและปลิวออกไปด้วยความเร็วที่น่าตระหนกนักสู้สองสามคนข้างหลังเขาหลบไม่ทันเวลา ปัง ปัง ปัง!ทุกคนร่วงลงจากหลังม้า
ภาพในเหตุการณ์ชุลมุนยุ่งเหยิงทันที
พลองที่ทรงพลังของเขาทำให้การต่อสู้ของถังเทียนเปล่งอานุภาพ
ช่วงยืมพลังที่สับสนนี้เองถังเทียนสะกิดปลายเท้า เขาวิ่งออกมาเหมือนอาชาที่คล่องแคล่วคะนองมีภาพลวงตาสองสามภาพตามหลัง ขณะที่ลากพลองกับพื้น และคราดพื้นดินลึกลงไป ทั้งดินและฝุ่นคลีฟุ้งกระจายทุกแห่ง
ปราณแท้ในร่างเขาทะลักออกถ้าถังเทียนสังเกต เขาจะเห็นได้ว่าพลองที่เขาใช้อยู่นั้นมีหมอกขาวจางหุ้มอยู่และยาวนานเรื่อยๆ
พลังของกระเรียน!
หลังจากคราดพื้นลึกเสร็จแล้วถังเทียนหยุดทันที แต่วินาทีต่อมาเขาก็หายไป
ขณะเดียวกันมีเสียงต่ำสะท้อนออกมาจากท้องฟ้า พลังของกระเรียนในพลองเขี้ยวหมาป่าช่างน่ากลัวเหลือเกิน
ฮืมมมมมม!
ทำลายล้าง!
ไม่ว่าพลองกวาดไปที่ใดตราบใดที่มันสัมผัสเพียงเล็กน้อย ก็เหมือนกับถูกสายฟ้าฟาด มีร่างสองสามร่างโผล่ให้เห็นขณะร่วงลง
ถังเทียนรู้สึกชัดถึงพลังที่คึกคะนองพลังเถื่อนและปราณแท้ของเขาอยู่ภายใต้อิทธิพลของพลังกระเรียนกลมกลืนเข้ากันได้อย่างลงตัว กระบวนท่าธรรมดาทั้งหมดที่อยู่ในมือของเขากลายเป็นทรงพลังและมีอานุภาพขึ้นหลายเท่า
แต่ในช่วงนี้เองอีกฝ่ายหนึ่งก็ตั้งตัวได้ในที่สุด ขณะที่หลายร่างลงจากหลังม้าและวิ่งเข้าหาเขา
ถังเทียนผ่อนลมหายใจเสียงดังพร้อมกับควงพลองเขี้ยวหมาป่าเป็นวงกลม วืดดดด พลองสร้างพลังสั่นสะเทือนขณะที่มันแหวกอากาศรังสีดาบและพลองปะทะกัน
ปัง!
ขาของถังเทียนจมลึกในพื้น แต่เขายังคงยืนหยัดอยู่ในที่เดิม
อีกคนหนึ่งรู้สึกเหมือนกับว่ากระแทกใส่กำแพงหนาอกของพวกเขาหดตัวทำให้ปราณแท้ในร่างกายพวกเขาอึดอัดเฉื่อยชา พวกเขาพบว่ายากจะหายใจได้คล่องเนื่องจากพวกเขาหวาดหวั่นพรั่นพรึง ความเหี้ยมหาญและอดทนของถังเทียนเกินกว่าที่พวกเขาคาดไว้มาก
ขณะที่สายตาของพวกเขามองดูตำแหน่งของถังเทียนม่านตาของพวกเขาถึงกับหดลีบ
ตำแหน่งที่ถังเทียนยืนอยู่แต่เดิมนั้นตอนนี้ไม่มีใคร
แย่แล้ว!
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที แต่พวกเขาไม่มีเวลาตั้งตัว
ร่างที่ร้ายกาจวาบผ่านไป
รังสีเยือกเย็นสองสามสายผสานกับเสียงแมวร้องตามมาด้วยสายลมที่รุนแรงซึ่งทะลวงผ่านเข้ามาในกลุ่มพวกเขานักสู้สี่คนเอามือกุมคอ ตาเหลือกเหมือนปลาตาย หน้าของพวกเขาปรากฏแววแห่งความกลัวลึกซึ้งอย่างเหลือเชื่อ
ถังเทียนเก็บพลองเขี้ยวสุนัขป่าและใช้กรงเล็บแมวโลหิต
เสียงร้องเลือนรางของแมวปีศาจดังอยู่ในอากาศเปลี่ยนเป็นร่างที่เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วและเหมือนกับปีศาจร้าย เขาสามารถคาดเดาและโจมตีได้ถูกช่วงจังหวะเวลา การโจมตีของเขาลึกซึ้งยากจะคาดเดาบัดเดี๋ยวซ่อนอยู่ที่ม้า บัดเดี๋ยวก็โผล่มาทางด้านหลังเขารวดเร็วมากและทุกครั้งที่โจมตี มักมุ่งเป้าไปที่จุดอ่อนของศัตรู
รังสีเยือกเย็นบนมือของเขาวูบวาบผ่านระหว่างกลุ่มคน
ภายในสิบห้าวินาทีตำแหน่งของถังเทียนเริ่มขยายกว้างมากขึ้น ความจริงเขาฆ่าศัตรูไปมากจนพวกเขาไม่รวมกลุ่มหนาแน่นอีกต่อไปทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันและต่อสู้กันอย่างรวดเร็ว นั่นเป็นเรื่องปกติของพวกเขาด้วยความเร็วสูงและความรุนแรงขนาดนั้น ช่วงเวลาสนองตอบของทั้งสองฝ่ายเป็นไปฉับพลัน แต่ถังเทียนและสัญชาตญาณของเขาทำให้เขารู้ถึงอันตรายและโจมตีศัตรูก่อนหนึ่งก้าว
ถังเทียนใช้พลังสัญชาตญาณของเขาจนถึงขีดสุด
ทุกคนที่อยู่เบื้องหลังเขาล้วนตกตะลึงมองดูเนื่องจากพวกเขาไม่อาจเชื่อสิ่งที่เขากำลังเห็นอยู่นี้
พวกเขาบุกทะลวงศัตรูได้จริงๆ
นี่...นี่เป็นไปได้อย่างไร!
“ฆ่า!” เสียงตะโกนดังลั่นนัยน์ตาเบิกกว้างของพวกเขาสั่น ปลุกพวกเขาจากภวังค์ทันที
เมื่อเหลียวกลับไปดู เหมือนกับว่าร่างนั้นหายไปกับสายลมทันที ความจริงเขากลับเข้าไปตะลุยใส่ศัตรูอีกครั้ง
ซี่.....!
ทุกคนสูดอากาศหนาวเหน็บ ยังมีคนที่น่ากลัวแข็งแกร่งทรงพลังเช่นนั้นอยู่ในโลกนี้จริงๆ หรือนี่!
หัวหม่าเอ้อได้รับแรงกระตุ้นจากการกระทำของถังเทียน และความตั้งใจสู้ในใจนางยิ่งเพิ่มทวีคูณ นางสูดหายใจลึก ทันใดนั้นนางไสม้ากลับวิ่งตะลุยใส่ศัตรูพลางกวัดแกว่งแส้ในอากาศตะโกน“ฆ่า!”
นักสู้เผ่าหมาป่าเพลิงตะโกนตอบรับและทำตามคำสั่ง
ซินลี่ประหลาดใจและโมโห ในทันทีนั้น เขาเสียคนไปเกินกว่า 20 คน คนทั้ง 500 คัดเลือกมาเป็นพิเศษทุกคนคือขุมสมบัติ การสูญเสีย 20 คนไปในพริบตา เขาจะทนความเจ็บปวดได้อย่างไร?พลังที่ถังเทียนแสดงออกมาทำให้เขาตื่นตะลึงแต่เมื่อถังเทียนหันกลับมาเริ่มต่อสู้อีกครั้ง การกระทำที่น่ารังเกียจของเขาทำให้เขาเลือดขึ้นหน้า
เป็นไปได้ยังไง ซินลี่จะทนดูต่อไปได้อย่างไร?
แววอำมหิตฉายผ่านดวงตาซินลี่ และเขาตะโกนสั่ง “หยุด!”
กองกำลังหยุดประจำตำแหน่งของพวกเขา พวกเขาเป็นมือดีมีพลังที่น่ากลัวและในฐานะนักสู้ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในทะเลทรายมาชั่วชีวิต วิชาขับขี่ม้าของพวกเขาจัดว่าชำนาญ
“กลุ่มหลัง, ลงจากม้า และเตรียมประจันหน้ากับศัตรู!”
ซินลี่ยังแสดงออกถึงความสงบและใจเย็น ขณะที่ถังเทียนอยู่ห่างจากพวกเขาสิบฟุตก็ตาม
นักสู้ที่อยู่หลังกองทัพลงจากหลังม้าได้ก็วิ่งเข้าใส่ถังเทียน
สายตาของซินลี่เป็นเหมือนคบเพลิงความเร็วพิเศษของม้าไม่สามารถรับมือกระบวนท่าโจมตีของถังเทียนได้กลับเหมือนคุ้มกันเขาให้บุกเข้าออกได้สบาย ด้วยการบุกโจมตีครั้งก่อนนั้นนักสู้จำนวนหนึ่งถูกถังเทียนลอบโจมตีจากใต้ท้องม้า
ถังเทียนเปลี่ยนเป็นวิ่งเข้าโจมตีนักสู้ด้วยเท้าเปล่า
แม้ว่าปราณแท้ของเขาจะอยู่เพียงระดับหกและไม่มีความได้เปรียบกับการเผชิญหน้ากับนักสู้เหล่านี้แต่เขาเพิ่งได้รับพลังกระเรียนและพลังของวิทยายุทธของเขาเพิ่มสูงขึ้น
ประกายของกรงเล็บเพลิงภูตพรายเป็นเหมือนดอกไม้ไฟแพรวพราวแต่เต็มไปด้วยปราณสังหาร
กรงเล็บเพลิงภูตพรายอาจเป็นวิชาระดับล่างของวิชาโดดเด่นไม่ซ้ำใครแต่นั่นก็คือวิทยายุทธโดดเด่นไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน
รังสีดาบแพรวพราวเหมือนเกล็ดหิมะแหลมคมและคุกคามมุ่งตรงมาที่หลังศีรษะของถังเทียน ราวกับว่าเขามีดวงตาที่หลังศีรษะ เขาก้มร่างลงและรังสีดาบยิงเฉียดหลังเขาไปรังสีดาบเยือกเย็นทำให้ถังเทียนผมลุกชัน เป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถีนั่นเอง
ถังเทียนไม่คิดอะไรทั้งที่ยังงอตัวอยู่เขาปล่อยพลังผ่านส้นเท้าและตวัดกลับหลังปะทะทันที
คู่ต่อสู้ไม่คิดว่าเขาจะสามารถหลบการลอบทำร้ายได้ น้อยคนที่คิดว่าถังเทียนยังคิดใช้วิธีนั้นโจมตีดาบในมือเขาถูกใช้ป้องกันอกของเขา
แคล้ง!
เสียงดาบกระบี่ปะทะกันดังขณะที่กระบี่ถูกกระแทกเบี่ยงเบนด้วยโล่ตะลุยเลือด ถังเทียนพุ่งกระแทกใส่อกเขาทันที
ปัง!
พลังมหาศาลกระแทกเข้าที่อกของเขาทำให้สีหน้าเขาชะงักค้างปุ, เขากระอักโลหิตทันที และร่างของเขาลอยกระเด็นไปในอากาศถึงแปดฟุตเมื่อหล่นลงพื้น เขาไม่เหลือลมหายใจอีกต่อไป
ร่างที่ถูกถังเทียนกระแทกนั้นเต็มไปด้วยพลังกระเรียนที่แปรเปลี่ยนสามครั้งทำให้พลังที่ปล่อยออกมากล้าแข็งมาก
ถังเทียนตระหนักได้ทันทีวิชาต่อสู้ระดับพื้นฐานของเขาแข็งแกร่งมาก ในท่ามกลางสมรภูมิที่ยุ่งเหยิงกลับใช้ประโยชน์ได้มาก ด้วยพลังของกระเรียน วิชาต่อสู้พื้นฐานง่ายๆสามารถใช้ฆ่าใช้ทำร้ายได้
รังสีเยือกเย็นที่รู้สึกได้ของหอกพุ่งมาถึงเหมือนกับมังกร
ยังคงเป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถีอีกคนหนึ่ง
เนื่องจากคนผู้หนึ่งจับตาดูอยู่ว่าพลังของถังเทียนหายไปแล้ว พลังใหม่กำลังก่อเกิด เขาตัดสินใจโจมตี แต่เขาไม่รู้ว่าร่างในตัวถังเทียนมีความเปลี่ยนแปลงและมีพลังต่อเนื่อง ตั้งแต่แรกมีความผันแปรตลอดเวลา
ซี่.....
ประกายรังสีสายหนึ่งปรากฏในอากาศ และกระทบเข้ากับปลายหอกอย่างแม่นยำ
ถังเทียนมีหลิงซิ่วเป็นยอดฝีมือเชิงหอกอยู่ข้างตัว แม้ว่าเขาไม่ได้เรียนวิชาหอกแต่อย่างใด แต่หลังจากสู้กับหลิงซิ่วบ่อยครั้งนับไม่ถ้วนเขาคุ้นเคยกับการรับมือยอดฝีมือใช้หอกได้เป็นอย่างดี
กรงเล็บเพลิงภูตพรายปะทะเข้ากับปลายหอก พลังปราณแท้ระเบิดทะลักเข้าสู่ตัวหอกของคู่ต่อสู้
ในเวลาต่อมานักสู้ผู้ใช้หอกรู้สึกร้อนลวกจากมือที่จับหอก หน้าของเขาแสดงอาการตกใจ เขาพยายามเร่งเร้าปราณแท้ของตนเพื่อผลักดันปราณแท้ของถังเทียน
มีร่างๆหนึ่งปรากฏวาบอยู่หน้าเขา ถังเทียนปรากฏตัวเหมือนปีศาจร้ายต่อหน้าเขา
เขาสะดุ้งตกใจกลัวรีบถอยอย่างเร่งร้อน แต่รู้สึกแต่เพียงว่าเจ็บปวดที่หน้าอก
ภาพบุคคลข้างหน้าเขาหายไปแล้ว
เขายืนอยู่ที่เดิมอย่างไม่รู้ตัวช่วงเวลาต่อมาเขาก้มดูอกของตน เห็นแต่เพียงรูเลือดรูหนึ่ง สติเขาหลุดลอยออกไปตุ้บ.. เขาล้มลงกับพื้น
คนที่อยู่รอบตัวเขากลัวจนคิดอะไรไม่ออก ถังเทียนฆ่านักสู้ระดับสวรรค์วิถีสองคนรวดเพียงแค่ยกมือเดียวเท่านั้น พวกเขาจะเผชิญหน้ากับนักสู้ที่น่ากลัวขนาดนั้นได้ยังไง?
นอกจากนี้นักสู้ผู้น่ากลัวนี้เพิ่งจะเป็นเด็กหนุ่มสิบหกปี?หน้าของถังเทียนยังคงดูไร้เดียงสาเหมือนกับเด็ก แต่เมื่อต่อสู้ ใบหน้าของเขากลับดูฉลาดและไร้ความปราณี คนเหล่านี้ผ่านหลายศึกมานานหลายปียังรู้สึกว่าตาเหลือกด้วยความกลัว
อย่าบอกนะว่าเจ้าหมอนี่ต่อสู้มาตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่?
มีคนผิดปกติแบบนี้เกิดขึ้นในโลกได้ยังไง?
นักสู้ระดับสวรรค์วิถีสองคนถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาพวกเขา และไม่มีอะไรน่ากลัวเท่านั้นแล้วนักสู้ระดับสวรรค์วิถีทุกคนกำลังตื่นตระหนก นอกจากนักสู้ระดับสวรรค์วิถียี่สิบคนผู้ภักดีต่อซินลี่ อีกห้าสิบคนถูกเกณฑ์มาจากเผ่าต่างๆ คนทั้งหมดนี้ผ่านศึกต่างๆ มามากมายและรู้วิธีเอาตัวรอดมากกว่าใครอื่น
ขณะนี้ความเคลื่อนไหวที่ถูกต้องก็คือปล่อยให้คนอื่นบั่นทอนปราณแท้ของเจ้าผู้ที่ผิดปกตินี้นั่นคือวิธีที่ดีที่สุด
พวกเขาทุกคนเต็มใจหลบหลีกถังเทียนก็ยิ่งทำให้ถังเทียนมีพลังไร้ผู้ต่อต้านมากขึ้น
นักสู้ระดับสวรรค์วิถีไม่มีใครคุกคามถังเทียนได้และนอกจากนักสู้อื่นแล้ว ไม่มีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ของเขา นักสู้ทุกคนที่ขวางทางถังเทียนถูกโค่นล้มลงอย่างน่าสงสารเหมือนข้าวสาลีที่ถูกเกี่ยว
หน้าของซินลี่เปลี่ยนไป เขาเพียงแต่ตระหนักว่าเขาประมาทพลังของเด็กหนุ่มนี้และประเมินพลังของบริวารของเขาสูงเกินไป นักสู้ทุกคนถูกกะเกณฑ์มาจากเผ่าอื่นไม่ยอมสู้ตายแน่นอน พวกมันที่หยิ่งผยองในพลังของตัวเองตามปกติ เมื่อพบคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าก็จะเผ่นหนีทันที
แต่ซินลี่รู้ว่านี่ไม่ใช่ช่วงเวลาเสียใจ เขาแก้ไขความคิดของเขาใหม่ นัยน์ตากลายเป็นมุ่งมั่น เขาตวาดลั่น “องครักษ์เหล็กทะเลทราย! ลงจากม้าและตามข้ามา!”
องครักษ์ทั้งยี่สิบรอบตัวซินลี่ลงจากม้าพร้อมกัน พวกเขาทุกคนปกป้องซินลี่และเดินขึ้นหน้าอย่างไม่มีเสียง นักรบทั้งหมดเปิดทางให้พวกเขา ทหารม้าทะเลทรายที่เป็นองครักษ์เหล็กทุกคนเป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถีโดยมีพลังของซินลี่เป็นแกนกลาง
ถังเทียนหรี่นัยน์ตา เหมือนกับมีสายฟ้าวาบผ่านนัยน์ตาเขา
ในที่สุดเจ้าก็ทนไม่ได้อีกต่อไปสินะ?