ตอนที่แล้วตอนที่ 262 คำขอของปิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 264 ปราณแท้ของนกยูง

ตอนที่ 263 พลังไร้ผู้ต่อต้าน


ทักษะในการขี่ม้าของถังเทียนนั้นย่ำแย่อย่างดีที่สุด เขาทำได้เพียงไม่ร่วงจากหลังม้า แต่ม้าตัวนี้เป็นม้าศึกที่ฝึกมาดีแล้ว มันสามารถวิ่งได้เร็วเหมือนสายลม

เมื่อซินลี่เห็นถังเทียนนำหัวหม่าเอ้อและพวกพ้องอีกยี่สิบคนและพวกนั้นก็วิ่งใส่กองกำลังของเขา เขารู้สึกมวนในท้องทันที

เจ้าโง่!

เจ้าเป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีแล้วยังไงเล่า?

กำลังคนห้าร้อยที่เขาพามาล้วนแต่เป็นบริวารฝีมือดีทั้งนั้นและเกินกว่าเจ็ดสิบคนเป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถี ด้วยกำลังเพียงเท่านี้  ต่อให้เป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีก็ยังต้องตายเมื่อปะทะกับพวกเขา  นั่นคือเหตุผลที่เขาพาคนมามากมาย  เขาไม่มั่นใจว่านักสู้สามคนที่ต่อสู้อยู่ในตอนนี้จะสามารถได้รับชัยชนะ

การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องชนะให้ได้!

ซินลี่หรี่ตาหยีเล็กของเขารังสีฆ่าฟันเพิ่มพูน จิตใจของเขาเด็ดเดี่ยว เขาโบกมือและตวาด “ฆ่า!”

“ฆ่า!”ทุกคนตะโกนอย่างพร้อมเพรียง ใบหน้าของพวกเขาโหดเหี้ยมและก้าวร้าว

เมื่อเห็นคู่ต่อสู้จากระยะไกลใกล้เข้ามาทุกทีตาของถังเทียนแข็งกร้าว และจู่ๆ เขาโดดลงจากหลังม้าการกระทำที่คาดไม่ถึงของเขาทำให้ทุกคนผงะเล็กน้อย ศัตรูตั้งแนวแถวอยู่ข้างหน้า คาดไม่ถึงว่าถังเทียนจะลงจากม้าทันที

การยืมแรงเหวี่ยงจากม้า  ทำให้ถังเทียนกระโจนไปได้รวดเร็วมาก

กลุ่มคนมากมายรู้สึกแต่เพียงว่าถังเทียนเป็นเหมือนดาวตกที่พุ่งเข้าหาพวกเขาทันทีและกลายเป็นร่างเลือนรางไม่ชัดเจนในสายตาพวกเขา

นักสู้ผู้นำหน้าบุกเข้ามาหน้าซีดทันทีเขาเงื้อกระบี่ในมือขึ้นอย่างตื่นเต้น พลังที่สามารถทลายภูผาทะลวงกระบี่ของเขาเข้ามาถึง  เขาไม่สามารถจะร้องออกมาได้รู้สึกแต่เพียงว่ากระแทกเข้ากับสัตว์ป่าขนาดยักษ์

ปัง

ร่างของเขาเป็นเหมือนลูกบอลที่ถูกเตะกระเด็นไปไกลด้วยพลังรุนแรงและปลิวออกไปด้วยความเร็วที่น่าตระหนกนักสู้สองสามคนข้างหลังเขาหลบไม่ทันเวลา ปัง ปัง ปัง!ทุกคนร่วงลงจากหลังม้า

ภาพในเหตุการณ์ชุลมุนยุ่งเหยิงทันที

พลองที่ทรงพลังของเขาทำให้การต่อสู้ของถังเทียนเปล่งอานุภาพ

ช่วงยืมพลังที่สับสนนี้เองถังเทียนสะกิดปลายเท้า เขาวิ่งออกมาเหมือนอาชาที่คล่องแคล่วคะนองมีภาพลวงตาสองสามภาพตามหลัง ขณะที่ลากพลองกับพื้น และคราดพื้นดินลึกลงไป  ทั้งดินและฝุ่นคลีฟุ้งกระจายทุกแห่ง

ปราณแท้ในร่างเขาทะลักออกถ้าถังเทียนสังเกต  เขาจะเห็นได้ว่าพลองที่เขาใช้อยู่นั้นมีหมอกขาวจางหุ้มอยู่และยาวนานเรื่อยๆ

พลังของกระเรียน!

หลังจากคราดพื้นลึกเสร็จแล้วถังเทียนหยุดทันที แต่วินาทีต่อมาเขาก็หายไป

ขณะเดียวกันมีเสียงต่ำสะท้อนออกมาจากท้องฟ้า พลังของกระเรียนในพลองเขี้ยวหมาป่าช่างน่ากลัวเหลือเกิน

ฮืมมมมมม!

ทำลายล้าง!

ไม่ว่าพลองกวาดไปที่ใดตราบใดที่มันสัมผัสเพียงเล็กน้อย ก็เหมือนกับถูกสายฟ้าฟาด  มีร่างสองสามร่างโผล่ให้เห็นขณะร่วงลง

ถังเทียนรู้สึกชัดถึงพลังที่คึกคะนองพลังเถื่อนและปราณแท้ของเขาอยู่ภายใต้อิทธิพลของพลังกระเรียนกลมกลืนเข้ากันได้อย่างลงตัว กระบวนท่าธรรมดาทั้งหมดที่อยู่ในมือของเขากลายเป็นทรงพลังและมีอานุภาพขึ้นหลายเท่า

แต่ในช่วงนี้เองอีกฝ่ายหนึ่งก็ตั้งตัวได้ในที่สุด ขณะที่หลายร่างลงจากหลังม้าและวิ่งเข้าหาเขา

ถังเทียนผ่อนลมหายใจเสียงดังพร้อมกับควงพลองเขี้ยวหมาป่าเป็นวงกลม วืดดดด พลองสร้างพลังสั่นสะเทือนขณะที่มันแหวกอากาศรังสีดาบและพลองปะทะกัน

ปัง!

ขาของถังเทียนจมลึกในพื้น  แต่เขายังคงยืนหยัดอยู่ในที่เดิม

อีกคนหนึ่งรู้สึกเหมือนกับว่ากระแทกใส่กำแพงหนาอกของพวกเขาหดตัวทำให้ปราณแท้ในร่างกายพวกเขาอึดอัดเฉื่อยชา พวกเขาพบว่ายากจะหายใจได้คล่องเนื่องจากพวกเขาหวาดหวั่นพรั่นพรึง ความเหี้ยมหาญและอดทนของถังเทียนเกินกว่าที่พวกเขาคาดไว้มาก

ขณะที่สายตาของพวกเขามองดูตำแหน่งของถังเทียนม่านตาของพวกเขาถึงกับหดลีบ

ตำแหน่งที่ถังเทียนยืนอยู่แต่เดิมนั้นตอนนี้ไม่มีใคร

แย่แล้ว!

สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที  แต่พวกเขาไม่มีเวลาตั้งตัว

ร่างที่ร้ายกาจวาบผ่านไป

รังสีเยือกเย็นสองสามสายผสานกับเสียงแมวร้องตามมาด้วยสายลมที่รุนแรงซึ่งทะลวงผ่านเข้ามาในกลุ่มพวกเขานักสู้สี่คนเอามือกุมคอ ตาเหลือกเหมือนปลาตาย หน้าของพวกเขาปรากฏแววแห่งความกลัวลึกซึ้งอย่างเหลือเชื่อ

ถังเทียนเก็บพลองเขี้ยวสุนัขป่าและใช้กรงเล็บแมวโลหิต

เสียงร้องเลือนรางของแมวปีศาจดังอยู่ในอากาศเปลี่ยนเป็นร่างที่เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วและเหมือนกับปีศาจร้าย เขาสามารถคาดเดาและโจมตีได้ถูกช่วงจังหวะเวลา  การโจมตีของเขาลึกซึ้งยากจะคาดเดาบัดเดี๋ยวซ่อนอยู่ที่ม้า บัดเดี๋ยวก็โผล่มาทางด้านหลังเขารวดเร็วมากและทุกครั้งที่โจมตี มักมุ่งเป้าไปที่จุดอ่อนของศัตรู

รังสีเยือกเย็นบนมือของเขาวูบวาบผ่านระหว่างกลุ่มคน

ภายในสิบห้าวินาทีตำแหน่งของถังเทียนเริ่มขยายกว้างมากขึ้น ความจริงเขาฆ่าศัตรูไปมากจนพวกเขาไม่รวมกลุ่มหนาแน่นอีกต่อไปทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันและต่อสู้กันอย่างรวดเร็ว นั่นเป็นเรื่องปกติของพวกเขาด้วยความเร็วสูงและความรุนแรงขนาดนั้น ช่วงเวลาสนองตอบของทั้งสองฝ่ายเป็นไปฉับพลัน แต่ถังเทียนและสัญชาตญาณของเขาทำให้เขารู้ถึงอันตรายและโจมตีศัตรูก่อนหนึ่งก้าว

ถังเทียนใช้พลังสัญชาตญาณของเขาจนถึงขีดสุด

ทุกคนที่อยู่เบื้องหลังเขาล้วนตกตะลึงมองดูเนื่องจากพวกเขาไม่อาจเชื่อสิ่งที่เขากำลังเห็นอยู่นี้

พวกเขาบุกทะลวงศัตรูได้จริงๆ

นี่...นี่เป็นไปได้อย่างไร!

“ฆ่า!” เสียงตะโกนดังลั่นนัยน์ตาเบิกกว้างของพวกเขาสั่น ปลุกพวกเขาจากภวังค์ทันที

เมื่อเหลียวกลับไปดู  เหมือนกับว่าร่างนั้นหายไปกับสายลมทันที  ความจริงเขากลับเข้าไปตะลุยใส่ศัตรูอีกครั้ง

ซี่.....!

ทุกคนสูดอากาศหนาวเหน็บ ยังมีคนที่น่ากลัวแข็งแกร่งทรงพลังเช่นนั้นอยู่ในโลกนี้จริงๆ หรือนี่!

หัวหม่าเอ้อได้รับแรงกระตุ้นจากการกระทำของถังเทียน  และความตั้งใจสู้ในใจนางยิ่งเพิ่มทวีคูณ  นางสูดหายใจลึก  ทันใดนั้นนางไสม้ากลับวิ่งตะลุยใส่ศัตรูพลางกวัดแกว่งแส้ในอากาศตะโกน“ฆ่า!”

นักสู้เผ่าหมาป่าเพลิงตะโกนตอบรับและทำตามคำสั่ง

ซินลี่ประหลาดใจและโมโห  ในทันทีนั้น เขาเสียคนไปเกินกว่า 20 คน  คนทั้ง 500 คัดเลือกมาเป็นพิเศษทุกคนคือขุมสมบัติ การสูญเสีย 20 คนไปในพริบตา เขาจะทนความเจ็บปวดได้อย่างไร?พลังที่ถังเทียนแสดงออกมาทำให้เขาตื่นตะลึงแต่เมื่อถังเทียนหันกลับมาเริ่มต่อสู้อีกครั้ง การกระทำที่น่ารังเกียจของเขาทำให้เขาเลือดขึ้นหน้า

เป็นไปได้ยังไง  ซินลี่จะทนดูต่อไปได้อย่างไร?

แววอำมหิตฉายผ่านดวงตาซินลี่  และเขาตะโกนสั่ง “หยุด!”

กองกำลังหยุดประจำตำแหน่งของพวกเขา  พวกเขาเป็นมือดีมีพลังที่น่ากลัวและในฐานะนักสู้ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในทะเลทรายมาชั่วชีวิต  วิชาขับขี่ม้าของพวกเขาจัดว่าชำนาญ

“กลุ่มหลัง, ลงจากม้า และเตรียมประจันหน้ากับศัตรู!”

ซินลี่ยังแสดงออกถึงความสงบและใจเย็น  ขณะที่ถังเทียนอยู่ห่างจากพวกเขาสิบฟุตก็ตาม

นักสู้ที่อยู่หลังกองทัพลงจากหลังม้าได้ก็วิ่งเข้าใส่ถังเทียน

สายตาของซินลี่เป็นเหมือนคบเพลิงความเร็วพิเศษของม้าไม่สามารถรับมือกระบวนท่าโจมตีของถังเทียนได้กลับเหมือนคุ้มกันเขาให้บุกเข้าออกได้สบาย ด้วยการบุกโจมตีครั้งก่อนนั้นนักสู้จำนวนหนึ่งถูกถังเทียนลอบโจมตีจากใต้ท้องม้า

ถังเทียนเปลี่ยนเป็นวิ่งเข้าโจมตีนักสู้ด้วยเท้าเปล่า

แม้ว่าปราณแท้ของเขาจะอยู่เพียงระดับหกและไม่มีความได้เปรียบกับการเผชิญหน้ากับนักสู้เหล่านี้แต่เขาเพิ่งได้รับพลังกระเรียนและพลังของวิทยายุทธของเขาเพิ่มสูงขึ้น

ประกายของกรงเล็บเพลิงภูตพรายเป็นเหมือนดอกไม้ไฟแพรวพราวแต่เต็มไปด้วยปราณสังหาร

กรงเล็บเพลิงภูตพรายอาจเป็นวิชาระดับล่างของวิชาโดดเด่นไม่ซ้ำใครแต่นั่นก็คือวิทยายุทธโดดเด่นไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน

รังสีดาบแพรวพราวเหมือนเกล็ดหิมะแหลมคมและคุกคามมุ่งตรงมาที่หลังศีรษะของถังเทียน  ราวกับว่าเขามีดวงตาที่หลังศีรษะ  เขาก้มร่างลงและรังสีดาบยิงเฉียดหลังเขาไปรังสีดาบเยือกเย็นทำให้ถังเทียนผมลุกชัน เป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถีนั่นเอง

ถังเทียนไม่คิดอะไรทั้งที่ยังงอตัวอยู่เขาปล่อยพลังผ่านส้นเท้าและตวัดกลับหลังปะทะทันที

คู่ต่อสู้ไม่คิดว่าเขาจะสามารถหลบการลอบทำร้ายได้  น้อยคนที่คิดว่าถังเทียนยังคิดใช้วิธีนั้นโจมตีดาบในมือเขาถูกใช้ป้องกันอกของเขา

แคล้ง!

เสียงดาบกระบี่ปะทะกันดังขณะที่กระบี่ถูกกระแทกเบี่ยงเบนด้วยโล่ตะลุยเลือด ถังเทียนพุ่งกระแทกใส่อกเขาทันที

ปัง!

พลังมหาศาลกระแทกเข้าที่อกของเขาทำให้สีหน้าเขาชะงักค้างปุ, เขากระอักโลหิตทันที และร่างของเขาลอยกระเด็นไปในอากาศถึงแปดฟุตเมื่อหล่นลงพื้น เขาไม่เหลือลมหายใจอีกต่อไป

ร่างที่ถูกถังเทียนกระแทกนั้นเต็มไปด้วยพลังกระเรียนที่แปรเปลี่ยนสามครั้งทำให้พลังที่ปล่อยออกมากล้าแข็งมาก

ถังเทียนตระหนักได้ทันทีวิชาต่อสู้ระดับพื้นฐานของเขาแข็งแกร่งมาก ในท่ามกลางสมรภูมิที่ยุ่งเหยิงกลับใช้ประโยชน์ได้มาก ด้วยพลังของกระเรียน วิชาต่อสู้พื้นฐานง่ายๆสามารถใช้ฆ่าใช้ทำร้ายได้

รังสีเยือกเย็นที่รู้สึกได้ของหอกพุ่งมาถึงเหมือนกับมังกร

ยังคงเป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถีอีกคนหนึ่ง

เนื่องจากคนผู้หนึ่งจับตาดูอยู่ว่าพลังของถังเทียนหายไปแล้ว  พลังใหม่กำลังก่อเกิด  เขาตัดสินใจโจมตี แต่เขาไม่รู้ว่าร่างในตัวถังเทียนมีความเปลี่ยนแปลงและมีพลังต่อเนื่อง  ตั้งแต่แรกมีความผันแปรตลอดเวลา

ซี่.....

ประกายรังสีสายหนึ่งปรากฏในอากาศ  และกระทบเข้ากับปลายหอกอย่างแม่นยำ

ถังเทียนมีหลิงซิ่วเป็นยอดฝีมือเชิงหอกอยู่ข้างตัว  แม้ว่าเขาไม่ได้เรียนวิชาหอกแต่อย่างใด  แต่หลังจากสู้กับหลิงซิ่วบ่อยครั้งนับไม่ถ้วนเขาคุ้นเคยกับการรับมือยอดฝีมือใช้หอกได้เป็นอย่างดี

กรงเล็บเพลิงภูตพรายปะทะเข้ากับปลายหอก พลังปราณแท้ระเบิดทะลักเข้าสู่ตัวหอกของคู่ต่อสู้

ในเวลาต่อมานักสู้ผู้ใช้หอกรู้สึกร้อนลวกจากมือที่จับหอก หน้าของเขาแสดงอาการตกใจ  เขาพยายามเร่งเร้าปราณแท้ของตนเพื่อผลักดันปราณแท้ของถังเทียน

มีร่างๆหนึ่งปรากฏวาบอยู่หน้าเขา ถังเทียนปรากฏตัวเหมือนปีศาจร้ายต่อหน้าเขา

เขาสะดุ้งตกใจกลัวรีบถอยอย่างเร่งร้อน  แต่รู้สึกแต่เพียงว่าเจ็บปวดที่หน้าอก

ภาพบุคคลข้างหน้าเขาหายไปแล้ว

เขายืนอยู่ที่เดิมอย่างไม่รู้ตัวช่วงเวลาต่อมาเขาก้มดูอกของตน เห็นแต่เพียงรูเลือดรูหนึ่ง สติเขาหลุดลอยออกไปตุ้บ.. เขาล้มลงกับพื้น

คนที่อยู่รอบตัวเขากลัวจนคิดอะไรไม่ออก ถังเทียนฆ่านักสู้ระดับสวรรค์วิถีสองคนรวดเพียงแค่ยกมือเดียวเท่านั้น พวกเขาจะเผชิญหน้ากับนักสู้ที่น่ากลัวขนาดนั้นได้ยังไง?

นอกจากนี้นักสู้ผู้น่ากลัวนี้เพิ่งจะเป็นเด็กหนุ่มสิบหกปี?หน้าของถังเทียนยังคงดูไร้เดียงสาเหมือนกับเด็ก แต่เมื่อต่อสู้ ใบหน้าของเขากลับดูฉลาดและไร้ความปราณี  คนเหล่านี้ผ่านหลายศึกมานานหลายปียังรู้สึกว่าตาเหลือกด้วยความกลัว

อย่าบอกนะว่าเจ้าหมอนี่ต่อสู้มาตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่?

มีคนผิดปกติแบบนี้เกิดขึ้นในโลกได้ยังไง?

นักสู้ระดับสวรรค์วิถีสองคนถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาพวกเขา  และไม่มีอะไรน่ากลัวเท่านั้นแล้วนักสู้ระดับสวรรค์วิถีทุกคนกำลังตื่นตระหนก นอกจากนักสู้ระดับสวรรค์วิถียี่สิบคนผู้ภักดีต่อซินลี่  อีกห้าสิบคนถูกเกณฑ์มาจากเผ่าต่างๆ  คนทั้งหมดนี้ผ่านศึกต่างๆ มามากมายและรู้วิธีเอาตัวรอดมากกว่าใครอื่น

ขณะนี้ความเคลื่อนไหวที่ถูกต้องก็คือปล่อยให้คนอื่นบั่นทอนปราณแท้ของเจ้าผู้ที่ผิดปกตินี้นั่นคือวิธีที่ดีที่สุด

พวกเขาทุกคนเต็มใจหลบหลีกถังเทียนก็ยิ่งทำให้ถังเทียนมีพลังไร้ผู้ต่อต้านมากขึ้น

นักสู้ระดับสวรรค์วิถีไม่มีใครคุกคามถังเทียนได้และนอกจากนักสู้อื่นแล้ว ไม่มีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ของเขา  นักสู้ทุกคนที่ขวางทางถังเทียนถูกโค่นล้มลงอย่างน่าสงสารเหมือนข้าวสาลีที่ถูกเกี่ยว

หน้าของซินลี่เปลี่ยนไป เขาเพียงแต่ตระหนักว่าเขาประมาทพลังของเด็กหนุ่มนี้และประเมินพลังของบริวารของเขาสูงเกินไป นักสู้ทุกคนถูกกะเกณฑ์มาจากเผ่าอื่นไม่ยอมสู้ตายแน่นอน  พวกมันที่หยิ่งผยองในพลังของตัวเองตามปกติ  เมื่อพบคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าก็จะเผ่นหนีทันที

แต่ซินลี่รู้ว่านี่ไม่ใช่ช่วงเวลาเสียใจ เขาแก้ไขความคิดของเขาใหม่ นัยน์ตากลายเป็นมุ่งมั่น เขาตวาดลั่น “องครักษ์เหล็กทะเลทราย! ลงจากม้าและตามข้ามา!”

องครักษ์ทั้งยี่สิบรอบตัวซินลี่ลงจากม้าพร้อมกัน พวกเขาทุกคนปกป้องซินลี่และเดินขึ้นหน้าอย่างไม่มีเสียง  นักรบทั้งหมดเปิดทางให้พวกเขา  ทหารม้าทะเลทรายที่เป็นองครักษ์เหล็กทุกคนเป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถีโดยมีพลังของซินลี่เป็นแกนกลาง

ถังเทียนหรี่นัยน์ตา  เหมือนกับมีสายฟ้าวาบผ่านนัยน์ตาเขา

ในที่สุดเจ้าก็ทนไม่ได้อีกต่อไปสินะ?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด