ตอนที่ 262 คำขอของปิง
ปราณรอบตัวชายชรากระจายออกไปไม่มีขีดจำกัดและกักทุกคนไว้ภายใน
ปรากฏร่างบุรุษสูงใหญ่ร่างหนึ่งคำรามและยืนบังอยู่หน้าถังเทียนความจริงผู้นี้คือถังอี้ ถังอี้มีลักษณะที่น่าเกรงขาม มีพลังที่มั่นคงดาบฟันขาม้าในมือเขาสัมผัสกับพื้นกลับผสมกลมกลืนกับรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขามของเขา
ม่านตาชายชราหดลีบ
ท่าทางของขุนพลวิญญาณนี้ดูปกติมาก แต่ไม่มีช่องโหว่ใดๆในตัวเขา ปราณของเขาเองพอเข้าใกล้ขุนพลวิญญาณนี้มีความรู้สึกเหมือนปะทะกับกำแพงไร้สภาพไม่สามารถจะขยับรุกหน้าได้สักนิ้ว
ช่างเป็นขุนพลวิญญาณที่แข็งแกร่งเหลือเกิน!
หน้าของหัวหม่าเอ้อเปลี่ยน นางต้องแปลกใจอีกครั้ง ถังอี้ไม่ได้ต่อสู้ก่อนนั้นดังนั้นนางคิดว่าถังอี้เป็นขุนพลวิญญาณธรรมดา นางคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะแข็งแกร่งมาก
คนพวกนี้โผล่มาจากที่ใดกันแน่?
นางยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน ด้วยพลังของพวกเขาถังเทียนและสหายนับว่าแข็งแกร่งมากและยังมีขุนพลวิญญาณที่แข็งแกร่งทรงพลังมากขนาดนั้น พวกเขานับเป็นกลุ่มที่โดดเด่น ทำไมพวกเขาถึงมาปรากฏตัวในกลุ่มดาวหมาป่าได้?
เมื่อชายชราปล่อยปราณของเขา เกิดปฏิกิริยาตอบโต้ต่อเนื่อง
อาเฮ่อเบิกตากว้าง มือละเอียดอ่อนของเขาจับด้ามกระบี่ทันทีเขายืนโคจรพลังภายในตัวเขาอย่างมั่นคง เตรียมพร้อมต่อสู้
หลิงซิ่วดึงหอกของเขาออกมา กระดิ่งลมเขาแกะดังช้าๆเป็นจังหวะตามลมพัดพลิ้ว สีหน้าของเขาเปิดเผยภายในดวงตาสีเพลิงเหมือนเปลวเพลิงลุกโพลง
นักรบชุดเกราะและสตรีแส้กระดูกที่อยู่ข้างตัวชายชราคำรามพร้อมกันทั้งคู่ปลดปล่อยปราณของพวกเขาทันที
ปัง!
ของเหลวสีเงินลอยออกมาจากนักรบชุดเกราะหมอกสีเงินสว่างลอยอ้อยอิ่งไปตามร่างกายท่อนล่างของเขาร่างของม้าปรากฏให้เห็นเลือนราง ปรากฏหอกยาวในมือของเขา
“กลุ่มดาวเซนทอรัส(คนครึ่งม้า)?” หลิงซิ่วคำราม เปลวไฟในดวงตาสว่างยิ่งขึ้น
ความแข็งแกร่งระหว่างสี่สิบสองกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้ไม่เท่ากัน ความแตกต่างนั้นกระจายตัวกว้างขวาง มีกลุ่มดาวที่แข็งแกร่งมากอยู่เพียงไม่กี่กลุ่มดาวเท่านั้น เช่นกลุ่มดาวคนครึ่งม้า,กลุ่มดาวฟีนิกซ์, กลุ่มดาวสุนัขใหญ่และกลุ่มดาวมงกุฎใต้ กลุ่มดาวคนครึ่งม้าเป็นกลุ่มดาวที่แข็งแกร่งที่สุดในสี่สิบสองกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้ คนที่อยู่ต่อหน้าเขามีเกราะของกลุ่มดาวคนครึ่งม้า ซึ่งเป็นสมบัติไม่ธรรมดาและโดดเด่น
“กลุ่มดาวเซนทอรัสหอกปีกเงินอิงคง!”
นักรบชุดเกราะแนะนำตัวเองด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“หอกผดุงธรรมหลิงซิ่ว”หลิงซิ่วพูดไม่กี่คำแต่ความตั้งใจต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นมาก ปราณของคู่ต่อสู้แข็งแกร่งพอๆ กับเขาและคู่ต่อสู้แบบนี้ยากจะพานพบ
อาเฮ่อและสตรีแส้กระดูกเป็นภาพแตกต่างออกไปสิ้นเชิง
“โอว, คุณชาย..เจ้าช่างหล่อเหลานัก” สตรีแส้กระดูกพูดหว่านเสน่ห์ “เมื่อเห็นเจ้าแล้วบ่าวอย่างข้าก็หลงรักเจ้าทันที คุณชาย, ทำไมไม่รับตัวข้าไว้ด้วยเล่า? ไม่ต้องห่วง ข้าจะดูแลและปรนนิบัติเจ้าเป็นอย่างดี”
“ขอถาม..เจ้าคือเฟินกู้โหลวใช่ไหม?” อาเฮ่อถามอย่างใจเย็น
“เฮ้..คุณชายก็รู้จักชื่อของข้าด้วยเป็นไปได้ไหมว่าคุณชายคงสนใจข้าให้แล้ว?” สตรีแส้กระดูกปิดปากหัวเราะ “เจ้าน่าจะบอกข้าเร็วๆ กว่านี้! คืนนี้ ข้าจะยอมเป็นของคุณชาย”
นางบิดเอวยั่วยวนและสีหน้านางเปลี่ยนทันทีขณะที่นางวิ่งเขาหาอาเฮ่อ
ประกายเยือกเย็นฉายวาบในดวงตาอาเฮ่อกระบี่กระเรียนที่ยังอยู่ในฝักในมือของเขาแทงออกทันที
ซี่....
ปราณกระบี่เหมือนกับจะงอยปากนกกระเรียนรัศมีสีขาวแหวกผ่านอากาศ
“คุณชายใจร้ายนัก”สตรีแส้กระดูกแสร้งร้องแส้กระดูกในมือของนางเหมือนกับกระดูกงูพุ่งเข้าโจมตีใส่กระบี่กระเรียนอย่างแปลกประหลาด
ทั้งสองรวดเร็วมาก ขณะที่ร่างของอาเฮ่อใช้ท่ากระบี่ออกอย่างสง่างามแส้กระดูกของสตรีแส้กระดูกเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง
การต่อสู้ของหลิงซิ่วและนักรบชุดเกราะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง นักรบเซนทอร์ว่องไวเหมือนสายฟ้า การโจมตีด้วยหอกของพวกเขาแฝงไปด้วยพลังและพลังโจมตีของพวกเขากระจายไปทั่วทิศ หลิงซิ่วขี่ฟลามิงโก และดูเหมือนกับลูกไฟลุกโชน หอกทะเลจุดในมือของเขาสร้างออกมาได้ไม่รู้จบ ตราบใดที่คู่ต่อสู้ได้รับผลกระทบ เขาจะบุกทำลายทันที แต่นักรบเซนทอร์รู้จักพลังของหลิงซิ่วและระมัดระวังหอกทะเลจุดอย่างมาก
ที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คงเป็นชายชราและถังอี้
วิชากรงเล็บของชายชราว่องไวรวดเร็วมาก และยากจะมองเห็นด้วยตาเปล่า ทุกๆกรงเล็บมีประกายพลังเยือกเย็นระหว่างเล็บจะมีเกล็ดหิมะ
ขณะที่วิชาดาบของถังอี้เรียบง่ายไม่เร็วเกินไป มิช้าเกินไปเมื่อพวกเขาปะทะกันกับกรงเล็บน้ำเงินพลังที่โดดเด่นและดุดันของใบมีดเสียงดังราวกับฟ้าผ่า
พวกเขาทั้งสองอยู่ในสภาพยันกัน
ถังเทียนตะลึง ขณะที่เขาตระหนักว่าไม่มีใครให้ความสนใจเขา
นี่มันสถานการณ์แบบไหน...
ทันใดนั้น เขารู้เหมือนว่ามีบางคนกำลังสอดแนมพวกเขาจากระยะไกลมาก
ดูเหมือนจะมาจากที่ห่างจากถังเทียน 10 กิโลเมตร
“คนพวกนั้นโผล่มาจากไหน?”บุรุษวัยกลางคนเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด เขามีร่างอ้วน นัยน์ตาเล็กมองดูชั่วร้ายเต็มไปรังสีฆ่าฟันที่อธิบายมิได้
เขาคือซินลี่
ด้านข้างเขาคือเยี่ยนจุ่ยจือผู้อ่อนแอสีหน้าเขาในตอนนี้ตกตะลึงไม่มีสีเลือด เขารู้สึกหวาดหวั่นขวัญผวา แต่ใจกลับยินดีอยู่ในใจ ดีใจที่เขาหลบหนีได้เร็ว ถ้าเขาต้องเผชิญหน้ากับขุนพลวิญญาณที่ควงดาบฟันม้าตั้งแต่แรก มีแนวโน้มว่าศีรษะของเขาคงจะหลุดจากบ่า
แม้ว่าเยี่ยนจุ่ยจือจะพาอาจารย์มาสู้และด้วยผู้แข็งแกร่งสามคน ซินลี่เต็มไปด้วยความมั่นใจตอนแรกเขาจะกวาดล้างครอบครองทะเลทรายด้วยตนเอง จากนั้นเขาจึงค่อยเผชิญกลุ่มพลังอีกสามกลุ่ม
ตราบใดที่เขาฆ่าหัวหม่าเอ้ออุปสรรคใหญ่ที่สุดที่ขัดขวางเขาอยู่ ตราบนั้นทะเลทรายก็จะเป็นของเขา เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะพบกับคนผู้ห้าวหาญขนาดนั้นตามรายทาง
ขัดขวางเส้นทางสู่ชัยชนะของเขา
บัดซบ!
ซินลี่ขบฟันกรอด สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไปมา
ถังเทียนผู้ไม่มีอะไรทำลูบศีรษะ นี่ก็แปลก ทำไมข้าเป็นคนเดียวที่ไม่ได้สู้? หนุ่มชาวฟ้าน่าจะได้สู้ก่อนไม่ใช่หรือ
ถังเทียนกวาดมองไปรอบๆ มองหาด้วยความหวัง หวังว่าศัตรูอื่นจะเสริมกำลังวิ่งเข้ามา
พื้นที่รอบตัวเงียบสงบโดยสิ้นเชิง
ถึงเวลานี้เสียงของปิงดังออกมา “เสี่ยวถัง, ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”
ถังเทียนไม่มีอะไรจะทำก็คุยด้วยทันที “ลุง, มีอะไรเหรอ?”
“อะแฮ่ม” ปิงรู้สึกว่ายากจะพูดออกมา “นั่นคือ..เจ้ายินดีจะพิชิตกลุ่มพลังทั้งสามไหม?”
“พิชิตทั้งสามเผ่านี่น่ะหรือ?” ถังเทียนตะลึง “ลุง, ลุงต้องการจะทำอะไร? ทำไมจู่ๆลุงถึงได้ให้ความสนใจชาติพันธุ์ในกลุ่มดาวหมาป่า? ลุงพยายามจะทำอะไรกับค่ายทหารหรือเปล่า?”
“ใช่แล้วค่ายฝึกฝนก้าวหน้าด้วยดีไปมาก” น้ำเสียงปิงเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ แต่เขารู้สึกอายในเวลาอันรวดเร็ว “แต่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง”
“ปัญหาอะไร?”ถังเทียนยังไม่เข้าใจ ถามคาดคั้น
“ไม่มีใครสักคน” ปิงรู้สึกจนใจ “นอกจากเด็กสองคนที่ตระกูลม่อส่งมาแล้ว ไม่มีคนอื่นฝึกฝนในค่าย”
“ไม่มีทาง”ถังเทียนร้องออกมาอย่างตกใจ “ลุง,ทำไมลุงถึงได้ล้มเหลวอย่างนั้น? ตั้งนานแล้วลุงยังดึงคนเข้ามาไม่ได้อีกเหรอ?”
เสียงของปิงเต็มไปด้วยความอึดอัด “ไม่ใช่ว่าข้าล้มเหลว ... มันแค่เป็นอดีต เราไม่มีปัญหาในการฝึกฝนคน ทุกคนเพิ่งจะเข้ามาร่วม แต่ตอนนี้ ที่ยุ่งยากมากกว่าก็คือ มีคนมาไม่กี่คน แต่พรสวรรค์ของพวกเขาอยู่ในขั้นเลวร้ายมาก”
ถังเทียนเข้าใจในที่สุด “ลุงคิดว่าจะมีคนที่มีพรสวรรค์ดีอยู่ในชาวดาวหมาป่าใช่ไหม?”
“ชาวดาวหมาป่าซื่อสัตย์และดีมากพวกเขาเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี พวกเขาแข็งแรงอดทน มีความพากเพียรและสามารถอดทนต่อความลำบากได้ นอกจากนี้ เผ่าเหล่านี้ไม่มีผู้นำ ถ้าเจ้าพบว่ามันลำบากนักก็ใช้เงินสักส่วนหนึ่งไม่ต้องมากก็ได้พวกเขาเป็นเครื่องจักรรบ ดังนั้นแทนที่จะให้เป็นเครื่องมือรบของคนอื่นทำไมไม่รับพวกเขามาเป็นพวกเรา” ปิงกล่าวอย่างไม่อาย
เมื่อได้ยินว่าต้องใช้จ่ายเงินออกไป ถังเทียนไม่ยินดี “เฮ้ ลุง, ลุงใช้เงินไปมากมายแล้วนะ”
“ข้าแค่บอกกล่าวเท่านั้นเอง”ปิงกล่าวโต้แย้ง “ยังไงก็ตามตราบที่เจ้าหาคนมาให้ข้าได้ ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะโกงมาหรือไม่”
ถังเทียนตกใจกับความไร้ยางอายของปิงและหัวเราะเยาะ “ลุง! ลุงเป็นคนแบบนี้นี่เอง”
ปิงกระแอม “ยามหมดหวังก็ต้องใช้มาตรการที่สิ้นหวังนอกจากนี้ ปัญหาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องธรรมดาทั้งนั้น เรื่องเหล่านี้จะเป็นปัญหากับหนุ่มชาวฟ้าได้อย่างไร?มีแต่ปัญหามีความยากระดับสูงเหล่านี้สมควรให้เจ้าแก้ไข”
ถังเทียนแทบจะตัวลอยทันที “ถูกต้องที่สุด! เพราะลุงคิดแบบนี้, มันถึงได้ก้าวหน้าอย่างมากมาย”
ปิงทิ้งเรื่องคุณธรรมของเขาออกไปอย่างสิ้นเชิง เพื่อค่ายฝึกฝนของเขาเขายินดีประจบถังเทียนตลอดทาง “ในอดีตข้าไม่ยอมตระหนักเรื่องนี้อย่างเพียงพอ แต่เชื่อข้าเถอะ ข้าได้ทำความเข้าใจมาเพียงพอแล้วเพราะข้าได้เห็นภาพสะท้อนตนเองและวิพากษ์วิจารณ์ตนเอง ในที่สุดข้าก็เข้าใจ มีแต่ต้องพึ่งพาเจ้าหนุ่มชาวฟ้าจึงจะสามารถทำให้เกียรติศักดิ์ทหารกลับมารุ่งเรืองได้ กลุ่มดาวหมาป่าก็แค่นี้เอง ทะเลทรายก็เท่านั้นสำหรับหนุ่มชาวฟ้าอย่างเจ้าแล้ว เป็นเรื่องง่ายมากที่จะประสบความสำเร็จ ใช่แล้วไม่ว่ายังไงใครก็หยุดหนุ่มน้อยถังเทียนไม่ได้”
ถังเทียนยิ้มกว้างจนปากแทบฉีกถึงหูและเขาทำตัวเหมือนกับว่ามีกำลังใจสูงส่ง “ลุง, แม้ว่าคำพูดของลุงจะทะแม่งไปหน่อย แต่.. ก็ถูกต้องอยู่ดี”
เขาลังเลชั่วขณะ “แต่นั่นจะใช้เวลามากไปนิด ข้ายังคิดหาวิธีไปกลุ่มดาวกางเขนใต้อยู่นะ”
ปิงคาดการณ์ไว้เช่นนั้น จึงได้สอพลอต่อไป “พ่อหนุ่ม,อย่ากังวลไปเลย! เรามีแผนสมบูรณ์แบบไว้แล้ว และจะไม่เสียเวลาอย่างแน่นอน” จู่ๆ น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปและพูดจริงจัง “นอกจากนี้ เรายังได้ข่าวบางอย่าง กลุ่มศักดิดาชาวยุทธตอนนี้กำลังรวบรวมกำลังคนและเป้าหมายของพวกเขาก็คือเรา”
“กลุ่มศักดินาชาวยุทธ?”ถังเทียนไม่ทันตั้งตัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น “แต่เราไม่เคยพบพวกเขามาก่อนนะ”
“ข้าเองก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน” ปิงกล่าว “แต่ติงตังทราบข่าวนี้มา”
ถังเทียนคิดถึงเรื่องที่ถูกลอบโจมตีก่อนนั้น เป็นไปได้ไหมว่าพวกนั้นมาจากกลุ่มศักดินาชาวยุทธ?
หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่แล้ว ถังเทียนก็ยังไม่เข้าใจ เขาจึงปล่อยผ่านไป แล้วพูดตามตรง “เอาล่ะ,ปล่อยเรื่องวางแผนต่างๆ ให้พวกท่านดีกว่า อย่างไรก็ตาม ข้าจะลุยเข้าต่อสู้เอง”
“หนุ่มน้อยเจ้าฉลาดนัก!” ปิงกลับมายอเขาต่อ
ทันใดนั้น เสียงสั่นสะเทือนของกีบเท้าม้าดังมาแต่ไกลทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้น กลุ่มคนมากกว่าห้าร้อยคนวิ่งตะลุยเข้ามาอย่างห้าวหาญ
“พวกนั้นคือพลม้าของซินลี่!” หัวหม่าเอ้อสีหน้าเปลี่ยน
ถังเทียนที่กำลังเบื่อแทบตายกระตือรือร้นทันทีและสั่งอย่างไม่ลังเลใจ“โยนเชลยของพวกเจ้าลงพื้นให้หมด
หัวหม่าเอ้อตะลึงและความคิดเหลือเชื่อออกมาจากหัวนาง...เว้นแต่...
พวกที่เหลือมองดูหัวหม่าเอ้อและกัดฟัน “ทิ้งพวกเขา”
ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ เชลยทุกคนถูกโยนลงพื้น
ถังเทียนหันไปมองหัวหม่าเอ้อ “เจ้ายังสู้ไหวไหม?”
ตามคาด...
ยังมีคนกล้าหาญขนาดนั้นอยู่ในโลกจริงๆ ด้วย!
หัวหม่าเอ้อใจเต้นแรง นางเชิดหน้าทันที และผงกศีรษะรับ“ได้เลย”
“พาคนของเจ้าและตามข้ามาให้ดี”
ถังเทียนหันไปขึ้นม้า มือซ้ายของเขากวัดแกว่งโล่ตะลุยเลือดมือขวาควงพลองเขี้ยวสุนัขป่า พลองนี้คือของขวัญที่เขาได้มาจากการเอาชนะพี่น้องตระกูลฮัวและเขายังเก็บไว้
วันนี้เป็นวันที่มันจะได้ดื่มเลือด
เขาชี้พลองเขี้ยวสุนัขป่าไปข้างหน้าเสียงตะโกนของเขากึกก้องเหมือนสายฟ้า
“ฆ่า!”