ตอนที่แล้วตอนที่ 261 ฝ่ามือน้ำเงิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 263 พลังไร้ผู้ต่อต้าน

ตอนที่ 262 คำขอของปิง


ปราณรอบตัวชายชรากระจายออกไปไม่มีขีดจำกัดและกักทุกคนไว้ภายใน

ปรากฏร่างบุรุษสูงใหญ่ร่างหนึ่งคำรามและยืนบังอยู่หน้าถังเทียนความจริงผู้นี้คือถังอี้  ถังอี้มีลักษณะที่น่าเกรงขาม มีพลังที่มั่นคงดาบฟันขาม้าในมือเขาสัมผัสกับพื้นกลับผสมกลมกลืนกับรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขามของเขา

ม่านตาชายชราหดลีบ

ท่าทางของขุนพลวิญญาณนี้ดูปกติมาก แต่ไม่มีช่องโหว่ใดๆในตัวเขา ปราณของเขาเองพอเข้าใกล้ขุนพลวิญญาณนี้มีความรู้สึกเหมือนปะทะกับกำแพงไร้สภาพไม่สามารถจะขยับรุกหน้าได้สักนิ้ว

ช่างเป็นขุนพลวิญญาณที่แข็งแกร่งเหลือเกิน!

หน้าของหัวหม่าเอ้อเปลี่ยน  นางต้องแปลกใจอีกครั้ง  ถังอี้ไม่ได้ต่อสู้ก่อนนั้นดังนั้นนางคิดว่าถังอี้เป็นขุนพลวิญญาณธรรมดา นางคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะแข็งแกร่งมาก

คนพวกนี้โผล่มาจากที่ใดกันแน่?

นางยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน ด้วยพลังของพวกเขาถังเทียนและสหายนับว่าแข็งแกร่งมากและยังมีขุนพลวิญญาณที่แข็งแกร่งทรงพลังมากขนาดนั้น  พวกเขานับเป็นกลุ่มที่โดดเด่น  ทำไมพวกเขาถึงมาปรากฏตัวในกลุ่มดาวหมาป่าได้?

เมื่อชายชราปล่อยปราณของเขา เกิดปฏิกิริยาตอบโต้ต่อเนื่อง

อาเฮ่อเบิกตากว้าง มือละเอียดอ่อนของเขาจับด้ามกระบี่ทันทีเขายืนโคจรพลังภายในตัวเขาอย่างมั่นคง เตรียมพร้อมต่อสู้

หลิงซิ่วดึงหอกของเขาออกมา  กระดิ่งลมเขาแกะดังช้าๆเป็นจังหวะตามลมพัดพลิ้ว สีหน้าของเขาเปิดเผยภายในดวงตาสีเพลิงเหมือนเปลวเพลิงลุกโพลง

นักรบชุดเกราะและสตรีแส้กระดูกที่อยู่ข้างตัวชายชราคำรามพร้อมกันทั้งคู่ปลดปล่อยปราณของพวกเขาทันที

ปัง!

ของเหลวสีเงินลอยออกมาจากนักรบชุดเกราะหมอกสีเงินสว่างลอยอ้อยอิ่งไปตามร่างกายท่อนล่างของเขาร่างของม้าปรากฏให้เห็นเลือนราง ปรากฏหอกยาวในมือของเขา

“กลุ่มดาวเซนทอรัส(คนครึ่งม้า)?” หลิงซิ่วคำราม เปลวไฟในดวงตาสว่างยิ่งขึ้น

ความแข็งแกร่งระหว่างสี่สิบสองกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้ไม่เท่ากัน  ความแตกต่างนั้นกระจายตัวกว้างขวาง มีกลุ่มดาวที่แข็งแกร่งมากอยู่เพียงไม่กี่กลุ่มดาวเท่านั้น เช่นกลุ่มดาวคนครึ่งม้า,กลุ่มดาวฟีนิกซ์, กลุ่มดาวสุนัขใหญ่และกลุ่มดาวมงกุฎใต้ กลุ่มดาวคนครึ่งม้าเป็นกลุ่มดาวที่แข็งแกร่งที่สุดในสี่สิบสองกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้ คนที่อยู่ต่อหน้าเขามีเกราะของกลุ่มดาวคนครึ่งม้า ซึ่งเป็นสมบัติไม่ธรรมดาและโดดเด่น

“กลุ่มดาวเซนทอรัสหอกปีกเงินอิงคง!”

นักรบชุดเกราะแนะนำตัวเองด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“หอกผดุงธรรมหลิงซิ่ว”หลิงซิ่วพูดไม่กี่คำแต่ความตั้งใจต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นมาก  ปราณของคู่ต่อสู้แข็งแกร่งพอๆ กับเขาและคู่ต่อสู้แบบนี้ยากจะพานพบ

อาเฮ่อและสตรีแส้กระดูกเป็นภาพแตกต่างออกไปสิ้นเชิง

“โอว, คุณชาย..เจ้าช่างหล่อเหลานัก” สตรีแส้กระดูกพูดหว่านเสน่ห์ “เมื่อเห็นเจ้าแล้วบ่าวอย่างข้าก็หลงรักเจ้าทันที  คุณชาย, ทำไมไม่รับตัวข้าไว้ด้วยเล่า?  ไม่ต้องห่วง ข้าจะดูแลและปรนนิบัติเจ้าเป็นอย่างดี”

“ขอถาม..เจ้าคือเฟินกู้โหลวใช่ไหม?”  อาเฮ่อถามอย่างใจเย็น

“เฮ้..คุณชายก็รู้จักชื่อของข้าด้วยเป็นไปได้ไหมว่าคุณชายคงสนใจข้าให้แล้ว?” สตรีแส้กระดูกปิดปากหัวเราะ “เจ้าน่าจะบอกข้าเร็วๆ กว่านี้!  คืนนี้ ข้าจะยอมเป็นของคุณชาย”

นางบิดเอวยั่วยวนและสีหน้านางเปลี่ยนทันทีขณะที่นางวิ่งเขาหาอาเฮ่อ

ประกายเยือกเย็นฉายวาบในดวงตาอาเฮ่อกระบี่กระเรียนที่ยังอยู่ในฝักในมือของเขาแทงออกทันที

ซี่....

ปราณกระบี่เหมือนกับจะงอยปากนกกระเรียนรัศมีสีขาวแหวกผ่านอากาศ

“คุณชายใจร้ายนัก”สตรีแส้กระดูกแสร้งร้องแส้กระดูกในมือของนางเหมือนกับกระดูกงูพุ่งเข้าโจมตีใส่กระบี่กระเรียนอย่างแปลกประหลาด

ทั้งสองรวดเร็วมาก ขณะที่ร่างของอาเฮ่อใช้ท่ากระบี่ออกอย่างสง่างามแส้กระดูกของสตรีแส้กระดูกเต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง

การต่อสู้ของหลิงซิ่วและนักรบชุดเกราะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง  นักรบเซนทอร์ว่องไวเหมือนสายฟ้า  การโจมตีด้วยหอกของพวกเขาแฝงไปด้วยพลังและพลังโจมตีของพวกเขากระจายไปทั่วทิศ หลิงซิ่วขี่ฟลามิงโก และดูเหมือนกับลูกไฟลุกโชน หอกทะเลจุดในมือของเขาสร้างออกมาได้ไม่รู้จบ  ตราบใดที่คู่ต่อสู้ได้รับผลกระทบ  เขาจะบุกทำลายทันที แต่นักรบเซนทอร์รู้จักพลังของหลิงซิ่วและระมัดระวังหอกทะเลจุดอย่างมาก

ที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คงเป็นชายชราและถังอี้

วิชากรงเล็บของชายชราว่องไวรวดเร็วมาก  และยากจะมองเห็นด้วยตาเปล่า  ทุกๆกรงเล็บมีประกายพลังเยือกเย็นระหว่างเล็บจะมีเกล็ดหิมะ

ขณะที่วิชาดาบของถังอี้เรียบง่ายไม่เร็วเกินไป มิช้าเกินไปเมื่อพวกเขาปะทะกันกับกรงเล็บน้ำเงินพลังที่โดดเด่นและดุดันของใบมีดเสียงดังราวกับฟ้าผ่า

พวกเขาทั้งสองอยู่ในสภาพยันกัน

ถังเทียนตะลึง ขณะที่เขาตระหนักว่าไม่มีใครให้ความสนใจเขา

นี่มันสถานการณ์แบบไหน...

ทันใดนั้น เขารู้เหมือนว่ามีบางคนกำลังสอดแนมพวกเขาจากระยะไกลมาก

ดูเหมือนจะมาจากที่ห่างจากถังเทียน 10 กิโลเมตร

“คนพวกนั้นโผล่มาจากไหน?”บุรุษวัยกลางคนเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด เขามีร่างอ้วน นัยน์ตาเล็กมองดูชั่วร้ายเต็มไปรังสีฆ่าฟันที่อธิบายมิได้

เขาคือซินลี่

ด้านข้างเขาคือเยี่ยนจุ่ยจือผู้อ่อนแอสีหน้าเขาในตอนนี้ตกตะลึงไม่มีสีเลือด เขารู้สึกหวาดหวั่นขวัญผวา  แต่ใจกลับยินดีอยู่ในใจ  ดีใจที่เขาหลบหนีได้เร็ว ถ้าเขาต้องเผชิญหน้ากับขุนพลวิญญาณที่ควงดาบฟันม้าตั้งแต่แรก  มีแนวโน้มว่าศีรษะของเขาคงจะหลุดจากบ่า

แม้ว่าเยี่ยนจุ่ยจือจะพาอาจารย์มาสู้และด้วยผู้แข็งแกร่งสามคน ซินลี่เต็มไปด้วยความมั่นใจตอนแรกเขาจะกวาดล้างครอบครองทะเลทรายด้วยตนเอง จากนั้นเขาจึงค่อยเผชิญกลุ่มพลังอีกสามกลุ่ม

ตราบใดที่เขาฆ่าหัวหม่าเอ้ออุปสรรคใหญ่ที่สุดที่ขัดขวางเขาอยู่ ตราบนั้นทะเลทรายก็จะเป็นของเขา เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะพบกับคนผู้ห้าวหาญขนาดนั้นตามรายทาง

ขัดขวางเส้นทางสู่ชัยชนะของเขา

บัดซบ!

ซินลี่ขบฟันกรอด สีหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงไปมา

ถังเทียนผู้ไม่มีอะไรทำลูบศีรษะ นี่ก็แปลก  ทำไมข้าเป็นคนเดียวที่ไม่ได้สู้?  หนุ่มชาวฟ้าน่าจะได้สู้ก่อนไม่ใช่หรือ

ถังเทียนกวาดมองไปรอบๆ มองหาด้วยความหวัง  หวังว่าศัตรูอื่นจะเสริมกำลังวิ่งเข้ามา

พื้นที่รอบตัวเงียบสงบโดยสิ้นเชิง

ถึงเวลานี้เสียงของปิงดังออกมา  “เสี่ยวถัง, ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”

ถังเทียนไม่มีอะไรจะทำก็คุยด้วยทันที  “ลุง, มีอะไรเหรอ?”

“อะแฮ่ม”  ปิงรู้สึกว่ายากจะพูดออกมา  “นั่นคือ..เจ้ายินดีจะพิชิตกลุ่มพลังทั้งสามไหม?”

“พิชิตทั้งสามเผ่านี่น่ะหรือ?”  ถังเทียนตะลึง “ลุง, ลุงต้องการจะทำอะไร? ทำไมจู่ๆลุงถึงได้ให้ความสนใจชาติพันธุ์ในกลุ่มดาวหมาป่า? ลุงพยายามจะทำอะไรกับค่ายทหารหรือเปล่า?”

“ใช่แล้วค่ายฝึกฝนก้าวหน้าด้วยดีไปมาก” น้ำเสียงปิงเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ  แต่เขารู้สึกอายในเวลาอันรวดเร็ว  “แต่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง”

“ปัญหาอะไร?”ถังเทียนยังไม่เข้าใจ ถามคาดคั้น

“ไม่มีใครสักคน”  ปิงรู้สึกจนใจ “นอกจากเด็กสองคนที่ตระกูลม่อส่งมาแล้ว ไม่มีคนอื่นฝึกฝนในค่าย”

“ไม่มีทาง”ถังเทียนร้องออกมาอย่างตกใจ  “ลุง,ทำไมลุงถึงได้ล้มเหลวอย่างนั้น? ตั้งนานแล้วลุงยังดึงคนเข้ามาไม่ได้อีกเหรอ?”

เสียงของปิงเต็มไปด้วยความอึดอัด  “ไม่ใช่ว่าข้าล้มเหลว ... มันแค่เป็นอดีต  เราไม่มีปัญหาในการฝึกฝนคน  ทุกคนเพิ่งจะเข้ามาร่วม  แต่ตอนนี้ ที่ยุ่งยากมากกว่าก็คือ มีคนมาไม่กี่คน  แต่พรสวรรค์ของพวกเขาอยู่ในขั้นเลวร้ายมาก”

ถังเทียนเข้าใจในที่สุด “ลุงคิดว่าจะมีคนที่มีพรสวรรค์ดีอยู่ในชาวดาวหมาป่าใช่ไหม?”

“ชาวดาวหมาป่าซื่อสัตย์และดีมากพวกเขาเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี พวกเขาแข็งแรงอดทน มีความพากเพียรและสามารถอดทนต่อความลำบากได้  นอกจากนี้ เผ่าเหล่านี้ไม่มีผู้นำ  ถ้าเจ้าพบว่ามันลำบากนักก็ใช้เงินสักส่วนหนึ่งไม่ต้องมากก็ได้พวกเขาเป็นเครื่องจักรรบ ดังนั้นแทนที่จะให้เป็นเครื่องมือรบของคนอื่นทำไมไม่รับพวกเขามาเป็นพวกเรา” ปิงกล่าวอย่างไม่อาย

เมื่อได้ยินว่าต้องใช้จ่ายเงินออกไป  ถังเทียนไม่ยินดี  “เฮ้ ลุง, ลุงใช้เงินไปมากมายแล้วนะ”

“ข้าแค่บอกกล่าวเท่านั้นเอง”ปิงกล่าวโต้แย้ง  “ยังไงก็ตามตราบที่เจ้าหาคนมาให้ข้าได้ ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะโกงมาหรือไม่”

ถังเทียนตกใจกับความไร้ยางอายของปิงและหัวเราะเยาะ  “ลุง! ลุงเป็นคนแบบนี้นี่เอง”

ปิงกระแอม “ยามหมดหวังก็ต้องใช้มาตรการที่สิ้นหวังนอกจากนี้ ปัญหาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องธรรมดาทั้งนั้น เรื่องเหล่านี้จะเป็นปัญหากับหนุ่มชาวฟ้าได้อย่างไร?มีแต่ปัญหามีความยากระดับสูงเหล่านี้สมควรให้เจ้าแก้ไข”

ถังเทียนแทบจะตัวลอยทันที “ถูกต้องที่สุด! เพราะลุงคิดแบบนี้, มันถึงได้ก้าวหน้าอย่างมากมาย”

ปิงทิ้งเรื่องคุณธรรมของเขาออกไปอย่างสิ้นเชิง  เพื่อค่ายฝึกฝนของเขาเขายินดีประจบถังเทียนตลอดทาง  “ในอดีตข้าไม่ยอมตระหนักเรื่องนี้อย่างเพียงพอ แต่เชื่อข้าเถอะ ข้าได้ทำความเข้าใจมาเพียงพอแล้วเพราะข้าได้เห็นภาพสะท้อนตนเองและวิพากษ์วิจารณ์ตนเอง  ในที่สุดข้าก็เข้าใจ  มีแต่ต้องพึ่งพาเจ้าหนุ่มชาวฟ้าจึงจะสามารถทำให้เกียรติศักดิ์ทหารกลับมารุ่งเรืองได้  กลุ่มดาวหมาป่าก็แค่นี้เอง  ทะเลทรายก็เท่านั้นสำหรับหนุ่มชาวฟ้าอย่างเจ้าแล้ว เป็นเรื่องง่ายมากที่จะประสบความสำเร็จ ใช่แล้วไม่ว่ายังไงใครก็หยุดหนุ่มน้อยถังเทียนไม่ได้”

ถังเทียนยิ้มกว้างจนปากแทบฉีกถึงหูและเขาทำตัวเหมือนกับว่ามีกำลังใจสูงส่ง “ลุง, แม้ว่าคำพูดของลุงจะทะแม่งไปหน่อย แต่.. ก็ถูกต้องอยู่ดี”

เขาลังเลชั่วขณะ “แต่นั่นจะใช้เวลามากไปนิด ข้ายังคิดหาวิธีไปกลุ่มดาวกางเขนใต้อยู่นะ”

ปิงคาดการณ์ไว้เช่นนั้น จึงได้สอพลอต่อไป “พ่อหนุ่ม,อย่ากังวลไปเลย! เรามีแผนสมบูรณ์แบบไว้แล้ว และจะไม่เสียเวลาอย่างแน่นอน”  จู่ๆ น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปและพูดจริงจัง  “นอกจากนี้ เรายังได้ข่าวบางอย่าง  กลุ่มศักดิดาชาวยุทธตอนนี้กำลังรวบรวมกำลังคนและเป้าหมายของพวกเขาก็คือเรา”

“กลุ่มศักดินาชาวยุทธ?”ถังเทียนไม่ทันตั้งตัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น “แต่เราไม่เคยพบพวกเขามาก่อนนะ”

“ข้าเองก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน”  ปิงกล่าว “แต่ติงตังทราบข่าวนี้มา”

ถังเทียนคิดถึงเรื่องที่ถูกลอบโจมตีก่อนนั้น  เป็นไปได้ไหมว่าพวกนั้นมาจากกลุ่มศักดินาชาวยุทธ?

หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่แล้ว ถังเทียนก็ยังไม่เข้าใจ  เขาจึงปล่อยผ่านไป แล้วพูดตามตรง “เอาล่ะ,ปล่อยเรื่องวางแผนต่างๆ ให้พวกท่านดีกว่า อย่างไรก็ตาม ข้าจะลุยเข้าต่อสู้เอง”

“หนุ่มน้อยเจ้าฉลาดนัก!”  ปิงกลับมายอเขาต่อ

ทันใดนั้น เสียงสั่นสะเทือนของกีบเท้าม้าดังมาแต่ไกลทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้น กลุ่มคนมากกว่าห้าร้อยคนวิ่งตะลุยเข้ามาอย่างห้าวหาญ

“พวกนั้นคือพลม้าของซินลี่!”  หัวหม่าเอ้อสีหน้าเปลี่ยน

ถังเทียนที่กำลังเบื่อแทบตายกระตือรือร้นทันทีและสั่งอย่างไม่ลังเลใจ“โยนเชลยของพวกเจ้าลงพื้นให้หมด

หัวหม่าเอ้อตะลึงและความคิดเหลือเชื่อออกมาจากหัวนาง...เว้นแต่...

พวกที่เหลือมองดูหัวหม่าเอ้อและกัดฟัน “ทิ้งพวกเขา”

ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ เชลยทุกคนถูกโยนลงพื้น

ถังเทียนหันไปมองหัวหม่าเอ้อ  “เจ้ายังสู้ไหวไหม?”

ตามคาด...

ยังมีคนกล้าหาญขนาดนั้นอยู่ในโลกจริงๆ ด้วย!

หัวหม่าเอ้อใจเต้นแรง นางเชิดหน้าทันที และผงกศีรษะรับ“ได้เลย”

“พาคนของเจ้าและตามข้ามาให้ดี”

ถังเทียนหันไปขึ้นม้า มือซ้ายของเขากวัดแกว่งโล่ตะลุยเลือดมือขวาควงพลองเขี้ยวสุนัขป่า พลองนี้คือของขวัญที่เขาได้มาจากการเอาชนะพี่น้องตระกูลฮัวและเขายังเก็บไว้

วันนี้เป็นวันที่มันจะได้ดื่มเลือด

เขาชี้พลองเขี้ยวสุนัขป่าไปข้างหน้าเสียงตะโกนของเขากึกก้องเหมือนสายฟ้า

“ฆ่า!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด