Chapter 5 ซื้อตำแหน่งผู้นำสำนักไปเลย
ปรากฎว่าฮั่นหยูมาจากอาณาจักรเบื้องบนและฝึกตนคนเดียวตลอดทั้งปี เธอมีชายชราเป็นเพื่อนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เธอร่วงลงสู่อาณาจักรเบื้องล่างเพราะมีคนวางแผนการไว้ และความแข็งแกร่งของเธอก็ถูกผนึกไว้ วิธีที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูพลังของเธอคือการสร้างสำนัก
นี่คือสาเหตุที่งานเลี้ยงรับสมัครศิษย์จัดขึ้นที่ซุยเซียนอินเพื่อรอให้บุคคลแห่งโชคชะตาปรากฏตัว
มีสมบัติมากมายในพื้นที่ของฮั่นหยูแต่ความแข็งแกร่งของเธอถูกผนึกและอาณาจักรของเธอก็ล่มสลาย ดังนั้นเธอจึงสามารถเปิดพื้นที่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ถ้าไม่ใช่เพราะระดับพลังยุทธ์ของฉันไม่สูงพอและหลายๆอย่างไม่สามารถใช้งานได้ ฉันคงไม่ต้องพึ่งพาหินวิญญาณของคนเหล่านี้ ที่มีเพียงน้อยนิด ฉันยังต้องโกงเพื่อก้อนหินนั่นอีกด้วยนะ”
“เมื่อฉันกลับสู่อาณาจักรเบื้องบนฉันจะทำให้พวกที่เคยวางแผนต่อต้านฉันต้องชดใช้อย่างเจ็บปวดสำหรับสิ่งที่พวกเขาทำลงไป!”
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของฮั่นหยูก็เย็นชาและอารมณ์ของเธอก็แย่ลง อุณหภูมิรอบตัวเธอลดลงหลายองศา และฝูงชนก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“อย่าบอกนะว่าเธอโกรธเพราะเราสงสัยเธอ เราเงียบกันดีกว่า”
ชายชราเห็นว่าสถานการณ์เลวร้ายลง ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว สำนักยังคงอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการก่อสร้าง และยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ นั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องรวบรวมทรัพยากร และด้วยเหตุนี้เราจึงเปิดระบบการบริจาคหินวิญญาณ”
ถึงกระนั้น ฝูงชนก็ยังรู้สึกว่ายากที่จะเชื่อ
ฮั่นหยูไม่ต้องการเสียเวลากับคนกลุ่มนี้อีกต่อไป “ไปกันเถอะ การอยู่ที่นี่เป็นการเสียเวลาของฉัน ถ้าฉันรู้เร็วกว่านี้ ฉันคงไปเมืองที่เจริญกว่านี้แล้ว คนที่นั่นไม่สนใจว่าต้องจ่ายเท่าไรหรอก”
ขณะที่ฮั่นหยูกำลังจะจากไป...
ทันใดนั้นเสียงของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“ฉันจ่ายหินวิญญาณสักห้าหมื่นก้อน ฉันจะนั่งโต๊ะไหนดี”
ทุกคนรวมถึงฮั่นหยูตกตะลึง มีคนเต็มใจมอบหินวิญญาณให้จริง ๆ และมันก็เยอะมากด้วย!
หินวิญญาณห้าพันก้อนเพียงพอที่จะเลี้ยงครอบครัวธรรมดาได้สองสามปี คนที่จ่ายหินวิญญาณห้าหมื่นก้อนคิดอะไรอยู่กันนะ?
มีคนโง่แบบนี้อยู่ในโลกจริงๆหีอ
เย่ซวนเดินออกมาจากฝูงชน
เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้แต่งตัวดี เสื้อผ้าของเขาก็ธรรมดามาก และการบ่มเพาะของเขาก็ไม่สูง ฝูงชนก็ไม่เชื่อเขา
“เลิกคุยโม้ได้แล้วไอ้หนู ห้าหมื่นหินวิญญาณ? ลองเอาหินวิญญาณออกมาสักห้าสิบก้อนห่อนเถอะ ทำมาเป็นจะจ่ายห้าหมื่นหินวิญญาณ? ขี้โม้!”
ภายใต้ความสงสัยของทุกคน เย่ซวนเดินไปที่รถม้า หยิบหินวิญญาณมากองรวมกันเป็นภูเขาเล็ก ๆ ในทันที เกือบจะทำให้ทุกคนช็อก
คนที่พูดก่อนหน้านี้หวังว่าพวกเขาจะหาโพรงบนพื้นดินเพื่อซ่อนตัวได้
เมื่อมองไปที่การแสดงออกที่ตกตะลึงของพวกเขา เย่ซวนต้องการใช้วิธีและเอฟเฟกต์นี้เพื่อทำให้ทุกคนตกใจ ท้ายที่สุด การใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายจำเป็นต้องมีรายละเอียดสูง จะมีประโยชน์อะไรถ้าไม่มีคนชม?
ชายชรารีบเข้าไปดู แน่นอนว่ามีหินวิญญาณห้าหมื่นก้อน และมากกว่านั้น วิธีที่เขามองเย่ซวนก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ชายคนนี้สามารถเอาหินวิญญาณออกมาได้มากกว่าห้าหมื่นก้อนอย่างง่ายดาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
การแสดงออกของทุกคนกลายเป็นเรื่องแปลก ซับซ้อน ประหลาดใจ และเหลือเชื่ออย่างมาก
คนนี้ต้องบ้าแน่ๆ! เขามีเงินมากเกินไปและไม่มีที่จะใช้รึไง
"เขาคือใคร? เขาเอาหินวิญญาณออกมาห้าหมื่นก้อนโดยไม่แม้แต่จะกระพริบตา”
“เขาต้องมีเหมืองอยู่ที่บ้านแน่ๆ”
“เขาเป็นอัจฉริยะของตระกูลไหน? ฉันเกรงว่าใคร ๆ จะไม่สามารถใช้จ่ายเช่นนี้ได้แม้ว่าเขาจะมีเหมืองทองคำก็ตาม”
ดวงตาของทุกคนเต็มไปด้วยความอิจฉาหรือความอิจฉาริษยา และพวกเขาทั้งหมดพูดในรูปแบบต่างๆ กัน แต่ไม่มีอะไรที่จะส่งผลกระทบต่อเย่ซวนในขณะนี้ เขาสามารถกล่าวได้ว่าเขาเป็นจุดสนใจของทุกคน
แม้แต่ฮั่นหยูก็อดไม่ได้ที่จะมองฉากนี้ พูดให้ถูกคือ เธอถูกดึงดูดโดยกองหินวิญญาณ
ราวกับว่านางฟ้าแห่งปราสาทดวงจันทร์ก็ได้รับอิทธิพลจากความรู้สึกและอารมณ์ในโลกมนุษย์ในที่สุด แม้แต่ดวงตาของเธอก็ดูเหมือนจะสดใส และเธอก็ไม่ได้ดูเย็นชาและเย่อหยิ่งเหมือนเมื่อกี้อีกต่อไป
เธอพูดตรงๆ ว่า “คุณเป็นแขกผู้มีเกียรติ! นั่งที่โต๊ะผู้อาวุโสได้เลยค่าาาาา!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็อ้าปากค้าง ผู้ชายคนนี้ได้รับการเลื่อนขั้นจากศิษย์เป็นผู้อาวุโสในทีเดียวเลยหรอ
“พูดถึงเรื่องเงิน ดูเหมือนว่านี่เป็นเรื่องจริง ตราบใดที่คุณมีหินวิญญาณ ไม่มีอะไรที่คุณซื้อไม่ได้!”
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ พวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เย่ซวนรวยเกินไปหรือตำแหน่งผู้อาวุโสของสำนักไท่ฉิงนั้นค่อนข้างได้มาง่ายเกินไป
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนั้นยุติธรรมสำหรับเย่ซวนและสำนัก พวกเขาไม่มีอำนาจพอที่จะพูดอะไรออกไปได้
การฝึกตนของเย่ซวนไม่สูงนัก แต่เขามีหินวิญญาณมากมายอยู่กับเขา นอกเหนือจากพฤติกรรมของเขาแล้ว สิ่งเดียวที่เขาไม่ได้ทำคือเขียนคำว่า "ถุงเงินถุงทอง" บนหน้าของเขา
ขณะที่ความคิดของทุกคนกำลังสั่นคลอน เย่ซวนรู้สึกว่ายังไม่เพียงพอและทิ้งระเบิดอีกลูกหนึ่ง
“แล้วถ้าเป็นหินวิญญาณห้าแสนก้อนล่ะ?”
ห้าแสน! พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าราคาเท่าไหร่
ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง เห็นได้ชัดว่านี่เป็นถนนที่พลุกพล่าน แต่ฉากนั้นเงียบสงบอย่างน่ากลัว การแสดงออกของทุกคนเหมือนกัน และเวลาดูเหมือนจะถูกแช่แข็งในสถานที่นี้
คำเยาะเย้ยยังคงติดอยู่ในปากของพวกเขา เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงพฤติกรรมของเย่ซวนในตอนนี้ มันทำให้พวกเขารู้สึกเสียหน้าและไม่มีใครกล้าพูดอะไรแม้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อก็ตาม
แม้แต่ฮั่นหยูและชายชราก็สูญเสียความสงบไป ฮั่นหยูตอบสนองอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ถ้าคุณสามารถนำหินวิญญาณออกมาห้าแสนก้อนได้จริงๆ คุณจะเป็นผู้นำสำนักคนต่อไป!”
“หัวหน้าสำนัก เด็กคนนี้เป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับ 2 ขอบเขตมนุษย์เองนะ” ชายชราที่อยู่ข้างๆ เธออดไม่ได้ที่จะพูด
ใบหน้าของฮั่นหยูไม่แสดงออก เธอมองโลกภายนอก แต่คำพูดที่เธอพูดแตกต่างจากที่เธอมองมาก
“ถึงจะเป็นมนุษย์ที่ไม่ได้ดึงฉีเข้าสู่ร่างกายของเขาหรือเธอด้วยซ้ำ ถ้าเขาสามารถนำหินวิญญาณออกมาได้มากขนาดนี้ฉันก็จะให้ตำแน่งเขาอยู่ดี นับประสาอะไรกับคนในขอบเขตมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ถ้าเด็กคนนี้ล้อเล่นหรือโกหกฉัน ฉัน...”
ดวงตาของฮั่นหยูเย็นชามาก “ฉันจะทำให้เขาเสียใจที่มาอยู่ที่นี่”
ทุกคนอยู่ในความโกลาหล ห้าแสนสำหรับตำแหน่งผู้นำสำนัก!