ตอนที่ 9-32 พลังรุนแรง
ลินลี่ย์และเฮนด์เซนยืนอยู่กับที่ในกลางอากาศจ้องมองกันจากระยะห่างสองสามร้อยเมตร ปกติพวกเขาใช้ปราณยุทธสนทนากันและเสียงของพวกเขาจะดังมาก ผู้ชมข้างล่างจะได้ยินชัดเจน
“โอหังนัก!” วอร์ตันขมวดคิ้ว
“แม่มันเอ๊ย!เมื่อใต้เท้าทุบตีเขาจนโต้ตอบไม่ได้เฮนด์เซนนี้จะได้รู้ว่าเขาหยิ่งยโสและน่าสมเพชเพียงไหน” เกทส์สบถด่าอย่างไม่พอใจ
แม้ว่าผู้ชมทั้งหมดข้างล่างจะรู้สึกว่าเฮนด์เซนหยิ่งยโส พวกเขาก็ยังรู้...ว่าเฮนด์เซนมีพลังมากพอจะหยิ่งยโสได้ ที่สำคัญเขาคือเซียนดาบจ้าวภูผามีชื่อในเรื่องพลังป้องกันโดดเด่น
ในกลางอากาศ
เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนพูดจบรอบตัวเขาก็มีชั้นพลังสีน้ำตาลหมุนคลุมรอบตัว ความหนาแน่นของพลังงานที่หมุนอยู่มีความน่าสะพรึงกลัว
“บังคับท่านให้ชักดาบน่ะหรือ?” ลินลี่ย์ยิ้ม
“ปัง!” ปราณยุทธสีดำ-ฟ้าหนาแน่นระเบิดออกมาจากร่างของลินลี่ย์ รอบตัวลินลี่ย์เหมือนกับมีหมอกเกลียวสีดำหนา แต่เทียบกับพลังป้องกันของเฮนด์เซนแล้ว พลังงานป้องกันรอบตัวลินลี่ย์ทำให้คนเปลี่ยนใจได้ มันบรรจุอยู่ภายในชีพจรสั่นสะเทือนที่แปลกประหลาด
“โอว?” เมื่อเพ่งดูพลังชีพจรคุ้มกันของลินลี่ย์แล้ว เฮนด์เซนตาเป็นประกาย เขาจ้องมองลินลี่ย์อย่างระมัดระวังทันทีและหัวเราะ “ลินลี่ย์,ข้าไม่รู้เลยว่าเมื่อเจ้าประลองกับโอลิเวอร์ เจ้าจะซ่อนฝีมือนี้ไว้ด้วย ขอสารภาพ... เจ้ามีคุณสมบัติทำให้ข้าชักดาบได้”
เฮนด์เซนมีประสบการณ์มาก
แม้ว่าชีพจรคุ้มกันของลินลี่ย์จะแตกต่างจากของเขา แต่พลังของพลังป้องกันของเขาไม่ด้อยไปกว่าของเฮนด์เซนแน่นอน แค่เรื่องพลังป้องกันที่น่าประหลาดใจก็ทำให้เฮนด์เซนชักดาบได้แล้ว!
“แคล้ง!” เฮนด์เซนชักดาบหนักธาตุดินจากฝักที่ด้านหลังของเขาจ้องมองลินลี่ย์อย่างแน่วแน่
แค่เพียงพลิกมือดาบหนักอดาแมนเทียมก็ปรากฏในมือลินลี่ย์ ดาบเปล่งรัศมีสีฟ้าเลือนราง เขาตั้งท่าเตรียมพร้อมฟันดาบอย่างรุนแรงได้ทุกเมื่อ
“เขาชักดาบแล้ว ท่านเฮนด์ชักดาบแล้วแล้ว”
หัวใจของผู้ชมนับล้านเต้นเร็วแรงขึ้น โอลิเวอร์ขมวดคิ้ว “พลังป้องกันของลินลี่ย์ ดูเหมือน... จะค่อนข้างพิเศษ ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะซ่อนฝีมือนี้ไว้ด้วย”
เดเลียรู้สึกกังวลจนหน้าผากนางเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่นางไม่ทันสังเกตแม้แต่น้อย
คนหนึ่งมีพลังงานสีน้ำตาลล้อมรอบ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งมีพลังงานสีดำ-ฟ้าล้อมรอบ เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนมองดูเหมือนเทพสงครามแห่งปฐพี ขณะที่ลินลี่ย์มองดูเหมือนปีศาจจากมิติอื่นทำให้พวกที่เห็นรู้สึกกลัว
“ระวัง!” ลินลี่ย์ตะโกนเย็นชา จากนั้นเขาเคลื่อนไหว
“บึ้ม!” สายลมเฉื่อยพลันกลายเป็นพายุที่รุนแรงพัดเต็มท้องฟ้า ร่างของลินลี่ย์พลันเลือนรางผสานเข้ากับลมซึ่งเริ่มกวาดพัดไปทั่วภูเขาทุสคอน “แครก!”ต้นไม้ต้นหนึ่งหักครึ่งเพราะแรงลม และต้นไม้อื่นอีกหลายต้นเริ่มเอนงอเช่นกัน ใบไม้ถูกลมพัดลอยขึ้นไปในท้องฟ้าทุกที่ ทั้งใบไม้และก้อนกรวดม้วนเป็นเกลียวอยู่เหนือภูเขาทุสคอน
ทุกคนข้างล่างต่างปิดกันตาของพวกเขามองดูการต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นนี้
“เขามีความเข้าใจกฎแห่งธาตุลมได้สูงล้ำขนาดนั้นจริงๆ” เซียนจอมเวทธาตุลมลองฮอสลอบถอนหายใจชมเชยขณะที่ตาของเขาเป็นประกาย
ส่วนคนอื่นทุกคนกลั้นลมหายใจมองดูการต่อสู้
เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนควงดาบหนักธาตุดินในมือยันจังก้าอยู่ในกลางอากาศ ดูเหมือนเขาจะมั่นคงดุจภูผา แม้ว่าลมจะพัดหวีดหวิวอยู่รอบตัวเขา ร่างของลินลี่ย์เห็นได้เป็นแต่เพียงภาพจางหลายร่างอยู่ในที่ลมพัดถึง
“วิ้วววว!
ทันใดนั้นเสียงหวีดหวิวประหลาดดังขึ้นขณะที่ร่างเลือนรางพุ่งเข้าหาเฮนด์เซนทันที เฮนด์เซนสีหน้าเปลี่ยน ความเร็วของลินลี่ย์ไวเหลือเกิน เพราะความเร็วของเขาแทบจะถึงขีดจำกัดแล้ว สายลมเองก็ยังหวีดหวิวกราดเกรี้ยว
สิ่งที่เฮนด์เซนเห็นมีแต่เพียงดวงตาสีทองเข้มของลินลี่ย์ พวกเขาจ้องกันและกัน
“ฮึ่มมม!” เฮนด์เซนไม่กลัวแม้แต่น้อย
“ฮ่าาาาห์!”
“ฮ่าาาาห์!”
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวของทั้งสองดังขึ้นพร้อมกัน ดาบหนักอดาแมนเทียมส่งเสียงหวีดหวิวในสายลมแฝงด้วยพลังมหาศาลขณะที่ฟันลงใส่เฮนด์เซน แต่ดาบหนักธาตุดินของเฮนด์เซนดูเหมือนก็แฝงไปด้วยพลังหนักหน่วงดุจภูผาขณะฟันใส่ลินลี่ย์
ดาบทั้งสองปะทะกัน!
“ปัง!!!”
เหมือนกับว่าภูเขาสองลูกปะทะกัน พลังที่น่าสะพรึงกลัวของการปะทะนั้นสร้างแรงพลังงานที่คนสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าคลื่นพลังงานเหล่านั้นคมเหมือนมีดและต้นไม้ที่อยู่ใต้พวกเขาบนภูเขาทุสคอนฉีกขาด ก้อนหินใหญ่ถูกสับแตกทำลาย ขณะที่ก้อนหินก้อนกรวดนับไม่ถ้วนปลิวกระเด็นไปทุกทิศทาง
“ฝ่าบาท, ระวัง!”
หินใหญ่ก้อนหนึ่งกระแทกลงมาตรงตำแหน่งของจักรพรรดิโจฮันน์ พวกนักรบพุ่งเข้าหามันทันทีและเตะก้อนหินที่หนักเป็นหมื่นปอนด์กระเด็นออกไป นักรบที่ทรงพลังคนแล้วคนเล่าต่างปกป้องพวกขุนนางและผู้สูงศักดิ์ ผู้ชมหลายคนเป็นนักรบฝีมือดีและบางส่วนก็เป็นนักเวท
“ทุกคน! ระวัง!” ผู้ชมเหล่านั้นตะลึงกันหมด
พลังนี้น่ากลัวเกินไป
“ลินลี่ย์!” เมื่อเห็นร่างแปลงนักรบเลือดมังกรและพลังที่น่าทึ่งของเขา เดเลียรู้สึกภูมิใจในคนที่นางหลงรัก
ลินลี่ย์และเฮนด์เซนถอยห่างออกไปเกือบร้อยเมตรทั้งคู่
“พลังที่น่าประหลาดจริงๆ” ลินลี่ย์รู้สึกตกใจ เมื่องเขาประลองกับโอลิเวอร์ ลินลี่ย์เพียงแต่ใช้กระบี่เลือดม่วงและแน่นอนว่ายังไม่แสดงพลังที่เหลือเชื่อของเขาออกมา ที่สำคัญนักรบเลือดมังกรมีชื่อเสียงในเรื่องพลังความแข็งแกร่ง! เมื่อใช้กับดาบหนักอดาแมนเทียม เขาจึงสามารถใส่พลังสั่นสะท้านโลกแสดงฝีมือได้เต็มที่
“นักรบเลือดมังกรแข็งแกร่งสมกับชื่อเสียงสุดยอดนักรบจริงๆ” เฮนด์เซนหัวเราะ “แต่ลินลี่ย์ ที่เพิ่งแสดงไปนั้นข้าใช้แต่เพียงแรงล้วนๆ และยังไม่ได้ใช้กฎธรรมชาติเลยเจ้าต้องระวังการโจมตีครั้งต่อไปของข้าให้ดี”
ตัวอย่างพลังโจมตีทลายภูผาที่เฮนด์เซนใช้ก่อนนี้แฝงไปด้วยความรู้แจ้งที่เขาได้รับในเรื่องของกฎธาตุดิน
พลังของการโจมตีนั้นส่งผลให้มีพลังมากขึ้น
“ด้วยวิชาต่อไปของข้า ข้าจะใช้เคล็ดสัจจธรรมแห่งธาตุดินเช่นกัน ท่านระวังให้ดี” ลินลี่ย์มองดูเซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนที่อยู่ห่างออกไป
ในการสู้กันครั้งนี้ เขาไม่อาจยั้งมือได้แต่อย่างใด ถ้าเขายั้งมือ แต่คู่ต่อสู้ไม่ยั้ง เขาอาจตายได้
“ใต้เท้าเตรียมใช้สัจจธรรมแห่งธาตุดินแล้ว” บาร์เกอร์และน้องๆและวอร์ตันตื่นเต้นมากขึ้น บีบีและแฮรุชำเลืองมองกันเอง แฮรุย่อขนาดเล็กอย่างเห็นได้ชัดในวันนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับเขา
“วูบบบ!”
ขณะที่ทุกคนจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า บีบีกับแฮรุเคลื่อนที่สู่ภูเขาทุสคอนด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า อสูรเวททั้งสองนี้มาถึงยอดเขาทุสคอนอย่างรวดเร็วและในพริบตาบีบีและแฮรุก็ซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าบนยอดเขา
“เราจะดูจากที่นี่ ถ้าพี่ใหญ่ชนะ ก็ดีไป ถ้าพี่ใหญ่แพ้และเฮนด์เซนยังคงลงมือเต็มกำลัง อย่างนั้นจะเป็นเวลาที่เราบุก” บีบีจ้องมองเฮนด์เซนในกลางอากาศอย่างไม่เป็นมิตร
แฮรุพยักหน้าเช่นกัน
ครั้งก่อนโอลิเวอร์เกือบเสียชีวิต แฮรุและบีบีไม่ต้องการเห็นฉากภาพเช่นนั้นเกิดขึ้นซ้ำอีก
ลินลี่ย์ควงดาบหนักอดาแมนเทียมขณะที่ปราณยุทธในร่างของเขาเริ่มสูงขึ้นและพลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนกำลังเร่งเร้าพลังของเขาเช่นกัน
ยอดฝีมือทั้งสองกำลังเตรียมใช้ไม้ตายสุดยอดของพวกเขา
“บึ้ม!” “บึ้ม!”
ระเบิดคลื่นเสียงที่น่ากลัวดังขึ้นขณะที่ร่างเลือนรางทั้งสองพุ่งแหวกอากาศ ในพริบตายอดฝีมือทั้งสองนั้นก็ปะทะกันเองกลางอากาศเหมือนกับอุกกาบาตที่ปะทะกันรุนแรง
“สัจจธรรมแห่งธาตุดิน – พลังคลื่นร้อยชั้น!” ดวงตาสีทองเข้มของลินลี่ย์ฉายประกายเยือกเย็นและดาบหนักอดาแมนเทียมลอยขึ้นมาอย่างคล่องแคล่วนุ่มนวลและเริ่มเร่งความเร็วขึ้นอย่างน่าประหลาด
“เขย่าภูผา!” หน้าของเฮนด์เซนพลันเคร่งเครียด แสงที่คลุมดาบหนักธาตุดินของเขาเข้มข้นขึ้น ฟ้าและดินในพื้นที่รอบตัวพวกเขาเริ่มเข้มข้นและแข็งตัวขึ้น
“ปัง!”
ดาบหนักธาตุดินปะทะกับดาบหนักอดาแมนเทียมการปะทะกันคราวนี้แปลกประหลาดไปมาก ลินลี่ย์ถูกกระแทกร่วงจากท้องฟ้าเหมือนกับดาวตกและร่วงลงไปด้วยความเร็วสูง หลังจากร่วงลงมาหลายร้อยเมตรเขาสามารถตีลังกาและชะงักการร่วงลงมาได้
ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าโลหิตที่ไหลเวียนในร่างกายแทบจับแข็ง
“ช่างเป็นพลังโจมตีที่น่ากลัวจริงๆ” ลินลี่ย์จ้องมองเซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนในกลางอากาศด้วยความอัศจรรย์ใจ ชีพจรคุ้มกันของของลินลี่ย์ทรงพลังมากและยังมากกว่าปราณคุ้มครองร่างกายธรรมดาของเซียนทั้งหมดหลายสิบเท่า พลังป้องกันที่น่ากลัวอย่างนั้นย่อมป้องกันพลังโจมตีทีแฝงด้วยพลังกฎธรรมชาติของเซียนระดับสูงได้
พลังป้องกันของลินลี่ย์ไม่ได้อ่อนแอกว่าของเฮนด์เซน
แต่อย่างไรก็ตาม วิชาเขย่าภูผาของเฮนด์เซนเป็นวิชาที่น่ากลัวเกินไป มีพลังราวกับน้ำหนักของภูเขาทั้งลูกควบแน่นอยู่ในดาบของเฮนด์เซนขณะที่มันฟันลงใส่ลินลี่ย์สามารถทลายผ่านพลังชีพจรป้องกันของลินลี่ย์ได้ แต่พลังส่วนใหญ่ก็สลายออกไปแต่ลินลี่ย์ก็ยังสามารถต้านทานพลังที่เหลือด้วยเกล็ดมังกรได้
“พลังโจมตีของเซียนดาบจ้าวภูผาแฝงไว้ด้วยพลังที่คล้ายกับสัจจธรรมแห่งธาตุดิน” ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าพลังทลายภูผาของเฮนด์เซนแฝงไว้ด้วยพลังสั่นสะเทือนเล็กน้อยเช่นกัน เพียงแต่เป็นคลื่นสั่นสะเทือนชั้นเดียว
คลื่นสั่นสะเทือนชั้นเดียวก็สามารถทำให้เลือดลมในร่างของลินลี่ย์ปั่นป่วนได้
“ความรู้แจ้งในจังหวะเต้นของชีพจรโลกของเขายังต่ำมาก”
เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนไม่ได้เพ่งสมาธิที่ชีพจรโลกเมื่อตอนฝึกกฎแห่งธาตุดินเขาจึงมีวิถีที่แตกต่างออกไป
“ข้าคาดว่าเฮนด์เซนไม่ได้รู้สึกถึงชีพจรแผ่นดินเช่นกัน” ลินลี่ย์จ้องเฮนด์เซนที่อยู่ด้านบน
“อึ้ก!” ร่างของเฮนด์เซนสั่นสะท้าน รอยเลือดซึมออกมาจากปากของเขาขณะที่เขาจ้องมองลินลี่ย์อย่างประหลาดใจ
เมื่อดาบหนักอดาแมนเทียมปะทะกับดาบหนักธาตุดินตอนแรกเขาไม่รู้สึกถึงพลังอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่จากนั้น พลังสั่นสะเทือนแปลกประหลาดส่งผ่านเข้ามาในร่างของเขาผ่านดาบหนักและเฮนด์เซนรู้สึกเหมือนกับมีค้อนศึกนับไม่ถ้วนหวดใส่อวัยวะภายในของเขา ในพริบตาเขาถูกพลังสั่นสะเทือนกระแทกใส่เป็นเป็นร้อยครั้ง
“โชคดีที่ข้าเข้าถึงระดับความเข้าใจในด้าน ‘มหึมา’ ของกฎธรรมชาติของธาตุดินซึ่งเสริมทั้งพลังวิญญาณและอวัยวะภายในของข้า มิฉะนั้น... พลังโจมตีนี้อาจจะคร่าชีวิตของข้าได้”
พลังป้องกันของเฮนด์เซนทรงพลังแน่นอน
ไม่เพียงแต่พลังป้องกันภายนอกของเขาจะน่ากลัวเท่านั้น พลังวิญญาณและอวัยวะภายในของเขาก็ได้รับการปกป้องเช่นกัน ธาตุดินเป็นมารดาของเราทุกคน ส่วนที่เฮนด์เซนเลือกคือส่วนของพลังรับสุดยอดและพลังรุกสุดยอด
ถ้าลินลี่ย์ใช้พลังคลื่นสั่นสะเทือนห้าสิบชั้นโจมตีเฮนด์เซน บางทีคงไม่อาจทำร้ายเฮนด์เซนได้แม้แต่น้อย แต่ลินลี่ย์ใช้พลังโจมตีคลื่นร้อยชั้น ไม่ว่าพลังป้องกันของเฮนด์เซนจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บอยู่ดี
คนหนึ่งยืนอยู่กลางอากาศเหนือภูเขาทุสคอน อีกคนหนึ่งยืนอยู่ในกลางอากาศเหนือเขาทุสคอน แต่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายจ้องมองกันและกันและรู้สึกได้ว่าแต่ละฝ่ายนั้นทรงพลังขนาดไหน
“เป็นพลังโจมตีที่น่ากลัวจริงๆ” เฮนด์เซนรู้สึกหวั่นเกรงในใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับพลังโจมตีที่แปลกประหลาดเช่นนั้น
“พลังป้องกันที่น่าประหลาดและความแข็งแกร่งที่น่ากลัว” ลินลี่ย์เห็นว่าคู่ต่อสู้ต้านรับพลังคลื่นร้อยชั้นได้โดยตรงโดยไม่เสียชีวิตเขารู้สึกตะลึง
ด้านล่างพวกเขามีแต่ความเงียบ ไม่มีใครรู้ว่าผลของการปะทะระหว่างยอดฝีมือเป็นเช่นไร
“ฮ่าฮ่า...ลินลี่ย์ ยอดเยี่ยมมาก,เจ้าเป็นเซียนคนแรกที่ทำให้ข้าได้รับบาดเจ็บหนัก” เสียงของเฮนด์เซนดังสดใส แต่จากนั้นก็เพิ่มความจริงจังมากขึ้น “แต่ตอนนี้ ข้าจะไม่ยั้งมืออีกต่อไป เตรียมรับพลังทลายภูผาของข้า ถ้าเจ้าตายก็อย่าตำหนิข้าก็แล้วกัน!”
เมื่อเห็นจากข้างล่างโอลิเวอร์สีหน้าเปลี่ยน ครั้งสุดท้ายนั้นเป็นวิชาทลายภูผาที่เกือบคร่าชีวิตของเขาได้
วิชาทลายภูผาย่อมน่ากลัวมากกว่าวิชาเขย่าภูผา
“ก็ดูกันว่าใครจะตายกันแน่!” ลินลี่ย์พูดอย่างเย็นชา เสียงของเขาดังก้องไปทั้งฟ้า
ความจริงลินลี่ย์สามารถถึงระดับใช้คลื่น 132 ชั้นได้แล้ว ฉะนั้นลินลี่ย์ใช้แค่เพียงคลื่นร้อยชั้นออกมาจึงยังไม่ใช่ขีดจำกัดของลินลี่ย์
“บึ้ม!”
“บึ้ม!”
เสียงคลื่นระเบิดความเร็วเสียงสองครั้งดังแหวกอากาศ ขณะที่สุดยอดฝีมือทั้งสองคนพุ่งเข้าหากันกลางอากาศ คนหนึ่งบินขึ้นด้วยความเร็วสูง ขณะที่อีกคนหนึ่งบินลงมาด้วยความเร็วสูง ยอดฝีมือทั้งสองคนปะทะกันด้วยพลังรุนแรงที่ชายขอบของเขาทุสคอน
ทลายภูผา!
สัจจธรรมแห่งธาตุดิน –พลังคลื่น 132 ชั้น
นี่คือพลังโจมตีที่แข็งแกร่งทรงพลังที่สุดของยอดฝีมือทั้งสอง!
“ปัง!” ร่างของลินลี่ย์กระแทกใส่ภูเขาจนเกิดรอยแตกร้าวและมีเสียงถล่มทลาย หินจำนวนมากเริ่มกลิ้งร่วง และต้นไม้ฉีกขาด ขณะที่ศิลากลิ้งลงมาหาพวกเขา ผู้ชมข้างล่างหลายคนก็เริ่มป้องกันตัว
“บึ้ม! ลินลี่ย์พุ่งออกมาจากภายในปล่องลึก ร่างของเขาเปรอะไปด้วยเลือดและแม้แต่เกล็ดมังกรก็มีรอยแตก
พลังของวิชาทลายภูผาสูงส่งรุนแรงมากกว่าวิชาเขย่าภูผาหลายเท่า ลินลี่ย์รับพลังโจมตีได้โดยตรง แต่แม้จะมีพลังปกป้องถึงสองชั้นคือชีพจรปกป้องและเกล็ดมังกร แต่เขาก็ยังบาดเจ็บหนักและกระอักโลหิต
“อั้ก..”
คอของเฮนด์เซนมีอาการผะอืดผะอมและเขากระอักโลหิตออกมาคำใหญ่ หน้าของเขาขาวซีดทันที เซียนผู้ทรงพลังทั้งสองคนนี้ในตอนนี้เต็มไปด้วยเลือด
การสู้รบดำเนินมาจนถึงจุดวิกฤติ!