ตอนที่ 9-28 เดเลีย
เดเลียสนทนาและสัพยอกกับจักรพรรดิโจฮันน์และการสนทนาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยการให้เกียรติและมีอารมณ์ขัน เสียงของจักรพรรดิโจฮันน์ดังและพระองค์ทรงพระสรวลไม่หยุด
จักรพรรดิโจฮันน์ เดเลีย อาจารย์ลองฮอส เคนยอน แลงค์และคนอื่นๆ เดินอยู่หน้าพร้อมกับข้าราชบริพาร ขณะที่อัศวินองครักษ์ที่แข็งแกร่งเดินตามหลัง
ขุนนางทั้งหลายเดินทอดระยะอยู่ด้านหลังเหล่าอัศวิน
“ช่างเป็นหญิงสาวที่งดงามจริงๆ” กลุ่มหนุ่มผู้สูงศักดิ์ของเมืองหลวงเข้ามารวมตัวกันผู้สูงศักดิ์หนุ่มทุกคนมีศักดิ์ฐานะสูงในจักรวรรดิ บางคนเป็นเจ้าชาย ขณะที่คนอื่นๆก็เป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่ พวกเขาไม่เคยขาดแคลนอะไรและมักจะสมาคมกันเองบ่อยๆ ไม่มีใครในเมืองหลวงกล้ารุกรานพวกเขา
คำพูดที่เพิ่งพูดนั้นมาจากโอรสของเจ้าชายจูเลียน มาร์ควิสเจฟฟ์
“ข้าคิดว่านางชื่อเดเลีย” ผู้สูงศักดิ์หนุ่มอีกคนที่อยู่ใกล้เขาพูดขึ้น ผู้สูงศักดิ์หนุ่มนี้มีนามว่าสก็อต เขาคือองค์ชายแปดแห่งจักรวรรดิ “นางช่างงดงามมากและสง่างามขนาดนั้น มีคนลักษณะอย่างนางน้อยมากแม้แต่ในเมืองหลวงนี้ก็ตาม”
มาร์ควิสเจฟฟ์ เจ้าชายสก็อตและคนอื่นๆจ้องมองจากระยะไกลขณะที่ประเมินนาง
ความจริงเดเลียเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์และพรสวรรค์มากอยู่แล้ว
ทุกอิริยาบถของนางแฝงไปด้วยความสง่างามและราศีของคนตระกูลผู้ดีเก่าแก่ และในฐานะจอมเวทระดับเจ็ด ความเคลื่อนไหวของนางเต็มไปด้วยความสง่างาม ยิ่งกว่านั้นเดเลียมีความงามมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วผมสีทองของนางสะท้อนแสงเหมือนกับดวงอาทิตย์
สก็อตถอนหายใจชื่นชม “เดเลียคือสมาชิกของตระกูลเลโอน และก่อนนี้เป็นนักเรียนคนหนึ่งของสถาบันเอินส์ จนบัดนี้นางยังเป็นศิษย์เซียนจอมเวทสายธาตุลมลองฮอสอีกด้วย ในเมืองหลวงของจักรวรรดิยูลาน นางอาจนับได้ว่าเป็นหนึ่งในชนระดับสูงที่ทรงอิทธิพลที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีผู้สูงศักดิ์หนุ่มนับไม่ถ้วนตามติดพันนาง”
ตาของมาร์ควิสเจฟฟ์เป็นประกายขณะจ้องมองดูเดเลีย “ถ้าข้าตามขอความรักนางได้สำเร็จ ข้าจะไม่ยอมแตะต้องหญิงอื่นอีกเลย”
“เจฟฟ์ เจ้าคิดแบบนั้นจริงๆ หรือ?” สก็อตหัวเราะขณะที่เขามองดูเจฟฟ์
“แน่นอน!” มาร์ควิสเจฟฟ์พูดด้วยความมั่นใจ
จักรพรรดิโจฮันน์เป็นคนลำเอียง และโดยเฉพาะน้องชายคนเดียวของเขาก็คือเจ้าชายจูเลียน จักรพรรดิโจฮันน์ห่วงกังวลเขามากถึงขนาดยอมให้เจ้าชายจูเลียนได้ปกครองมณฑลอาคเนย์ หนึ่งในเจ็ดมณฑลใหญ่
เข้าทำนองที่ว่า ‘รักเราก็ต้องรักสุนัขของเราด้วย’ปกติมาร์ควิสเจฟฟ์ก็ได้รับความรักจากจักรพรรดิโจฮันน์เช่นกัน ในเมืองหลวงสถานะของเขานับว่าสูงมาก และกลุ่มผู้สูงศักดิ์หนุ่มรุ่นเขาล้วนยอมรับให้เขาเป็นผู้นำ
“อย่างนั้นเจ้าก็คงต้องทำใจบ้างนะเพราะข้าจะไม่ยอมล้าหลังเจ้าเช่นกัน” สก็อตหัวเราะด้วยความมั่นใจ “เจฟฟ์, มาดูกันว่าเราสองพี่น้อง ใครจะคว้าใจแม่หญิงเดเลียได้สำเร็จกันแน่”
“ก็ได้” เจฟฟ์พยักหน้า เขาหัวเราะชั่วร้ายและกล่าว “ถ้าเราทำได้สำเร็จ อาจกล่าวได้ว่าเราจะได้รับความสนใจครั้งใหญ่ในนามของหนุ่มๆชาวจักรวรรดิโอเบรียนทั้งหมด ที่สำคัญผู้สูงศักดิ์หนุ่มของจักรวรรดิยูลานยังไม่ประสบความสำเร็จในการตามเกี้ยวพัวพันแม่หญิงเดเลียได้เลยสักคน”
……..
“ข้าคิดว่าแม่นางเดเลียต้องเหน็ดเหนื่อยหลังจากเดินทางมานานพร้อมกับอาจารย์ลองฮอส เอาอย่างนี้เป็นไง เราสั่งคนให้จัดเตรียมที่ให้แม่นางเดเลียและอาจารย์ลองฮอสได้พัก คืนต่อไปหลังจากที่พวกท่านได้พักกันแล้วพวกท่านค่อยร่วมงานจัดเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับที่ฝ่ายเราจัดไว้ พวกท่านเห็นว่ายังไงบ้าง?” จักรพรรดิโจฮันน์ชะงักทันทีเมื่อพวกเขามาถึงถนนโบลเดอร์และกล่าว
ที่พักบนถนนโบลเดอร์ทั้งหมดถูกสร้างโดยราชตระกูล
เมื่อราชสำนักยกที่ดินให้ขุนนางหรืออาคันตุกะโดยปกติก็มักจะทำกันในพื้นที่ของถนนโบลเดอร์ที่ดินแถบนี้ไม่สามารถซื้อหากันได้ด้วยเงิน
“อย่างนั้นเราจะทำตามข้อเสนอแนะของพระองค์, ฝ่าบาท” เดเลียพูดพลางยิ้ม
ช่วงเวลานี้เอง สก็อตและมาร์ควิสเจฟฟ์เร่งฝีเท้าเดินขึ้นไปข้างหน้า พวกเขารู้เช่นกันว่าจักรพรรดิโจฮันน์กำลังจะแยกพระองค์จากคณะของเดเลีย พวกเขาต้องฉวยโอกาส
เนื่องจากสถานะของพวกเขา พวกทหารจึงไม่กล้าหยุดพวกเขาไว้เป็นธรรมดา
“แม่นางเดเลียและอาจารย์ลองฮอส ข้าคาดว่าพวกท่านทั้งสองคนยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับเมืองหลวงของเรา เราจะจัดคนนำทางให้กับพวกท่าน” จักรพรรดิโจฮันน์พูดพลางหัวเราะพลาง
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” เดเลียพูดอย่างชื่นชม
“พระบิดา” “ฝ่าบาท”ถึงตอนนี้สก็อตและมาร์ควิสเจฟฟ์ตาเป็นประกายและพวกเขาทูลเรียกโดยไม่ลังเลใจ
จักรพรรดิโจฮันน์หันกับมามองและเห็นเป็นโอรสกับนัดดาของพระองค์
“สก็อต, เจฟฟ์ ว่ายังไง?” จักรพรรดิโจฮันน์มีอารมณ์ดีวันนี้
มาร์ควิสเจฟฟ์ทูลด้วยความเคารพ “ฝ่าบาท, พระองค์ตั้งใจจะจัดผู้นำทางใช่ไหมพะย่ะค่ะ? สก็อตกับข้าพระองค์ก็คุ้นเคยกับนครหลวงดีเนื่องจากเป็นบ้านเกิดของพวกเรา ข้าพระองค์คิดว่าเราทั้งสองคนสามารถเป็นผู้นำทางนำเที่ยวได้ เราจะช่วยให้แม่หญิงเดเลียมีความเพลิดเพลินกับบริการของเราแน่นอน”
จักรพรรดิโจฮันน์มองดูเจฟฟ์และสก็อตเมื่อได้ยินคำพูดนี้ มีหรือที่พระองค์จะคาดเดาความตั้งใจที่แท้จริงของทั้งสองคนไม่ออก
อย่างไรก็ตามจักรพรรดิโจฮันน์ยังคงคิดว่าเดเลียเป็นสตรีที่ดี ถ้านัดดาหรือโอรสของพระองค์คว้าหัวใจนางได้สำเร็จนั่นนับเป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน
“เราต้องถามแม่นางเดเลียก่อน” จักรพรรดิโจฮันน์มองดูเดเลีย “แม่นางเดเลีย เจ้าคิดว่ายังไง?”
เดเลียมองดูสก็อตและมาร์ควิสเจฟฟ์ ทั้งสองคนนั้นยืดตัวตรงทันทีแสดงมาดสุภาพบุรุษเต็มที่แววขำขันปรากฏอยู่ในดวงตาเดเลีย
“ขอบคุณ อย่างนั้นข้าคงต้องรบกวนให้ท่านทั้งสองช่วยเหลือ” เดเลียถอนสายบัวเล็กน้อย
“ไม่รบกวน ไม่เป็นการรบกวนสักนิด” สก็อตและมาร์ควิสเจฟฟ์รีบกล่าว
ลองฮอสที่อยู่ด้านข้างเดเลียยิ้มเล็กน้อย เนื่องจากนางเป็นศิษย์ของเขา เขาจะไม่เข้าใจเดเลียได้ยังไง? เมื่อพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงของยูลานบุรุษหนุ่มนับไม่ถ้วนตามติดพันเดเลียเนื่องจากทักษะของเดเลียแล้วนางยังเอาชนะพวกเขาในเกมที่เป็นของเขาเหมือนกับเล่นไวโอลิน
“ท่านหญิงเป็นทูตพิเศษนี่จะเป็นที่พักของท่านขณะที่ยังอยู่ในเมืองหลวงนี้” มหาดเล็กคนหนึ่งชี้อาคารที่อยู่ข้างหน้าพวกเขา
มาร์ควิสเจฟฟ์ที่อยู่ใกล้ๆ พูดขึ้นทันที “แม่หญิงเดเลีย โบลเดอร์เป็นถนนที่มีชื่อเสียงที่สุดในจักรวรรดิโอเบรียน ถนนสายนี้มีเซียนนักสู้อยู่หลายคนพำนักอยู่ที่นี่อย่างเช่นเซียนกระบี่อัจฉริยะโอลิเวอร์ และน้องชายของเขา ทั้งสองคนพำนักอยู่ที่ถนนโบลเดอร์ อัจฉริยะอย่างอาจารย์ลินลี่ย์และน้องชายของเขาก็พำนักอยู่ที่ถนนโบลเดอร์ทั้งคู่เช่นกัน”
ขณะที่พวกเขาผ่านไประหว่างสิ่งก่อสร้างต่างๆ มาร์ควิสเจฟฟ์ยังคงแนะนำนางอย่างต่อเนื่อง
“ถูกแล้ว อัจฉริยะทั้งสองคนนี้นับว่าเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดในทวีปยูลาน” สก็อตไม่ต้องการจะตกเป็นฝ่ายล้าหลัง
เดเลียได้ยินคำของพวกเขา ในดวงตาของนางอดมีความรู้สึกที่ซับซ้อนไม่ได้ แต่นางรีบปรับอารมณ์คืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็วและยิ้มอย่างเป็นมิตร
“ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นหรอก” เสียงทุ้มลึกสามารถได้ยินได้ ดังมาจากหมีที่อยู่ใกล้ๆ
สก็อตและเจฟฟ์มองดูหมีตัวใหญ่และฉีกยิ้มทันที เมื่อพวกเขาอยู่ในกลุ่มต้อนรับ พวกเขาเคยได้ยินว่าหมีตัวโตนี้คือหมีปฐพีระดับเซียน อสูรเวทระดับเซียนสามารถเปลี่ยนขนาดได้ตามชอบใจ หมีปฐพีปกติจะมีความสูงเกิน 10 เมตรเมื่ออยู่ในร่างปกติ
มันสามารถใช้กรงเล็บตะปบพวกเขาตายได้ในคราวเดียว
“พี่ชายของเดเลียก็น่ากลัวมากเช่นกัน เขาอายุเพียงยี่สิบเจ็ดปีแต่เขากลายเป็นจอมเวทระดับแปดแล้วนอกจากนี้เขายังกลายเป็นศิษย์ส่วนตัวของเทพนักพรตอีกด้วย” หมีใหญ่มองดูเดเลีย “เดเลีย, ข้าพูดถูกไหม?”
เดเลียยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้า
กลายเป็นจอมเวทระดับแปดตอนอายุยี่สิบเจ็ดปีนับเป็นความสำเร็จที่น่ากลัวอย่างมาก ความเร็วระดับนี้ อาจเป็นไปได้ที่เขาจะกลายเป็นจอมเวทระดับเก้าก่อนอายุสี่สิบปี
ต้องเข้าใจก่อนว่าคนที่บรรลุเป็นระดับเก้าก่อนอายุสี่สิบย่อมเป็นอัจฉริยะที่สั่นสะท้านโลกอย่างมิต้องสงสัย
“ดิ๊กซี่เป็นจอมเวทอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา” อาจารย์ลองฮอสหัวเราะเช่นกัน ขณะที่เขาพูด พวกเขาก็เข้าไปในหอโถงใหญ่ในอาคารที่พักของพวกเขา
“จอมเวทผู้มีพรสวรรค์?”
สก็อตเชิดหน้ากล่าวอย่างภูมิใจ “อาจารย์ลองฮอสถ้าว่ากันในเรื่องของจอมเวทผู้มีพรสวรรค์ ข้าเข้าใจว่าอาจารย์ลินลี่ย์แห่งจักรวรรดิของเรา ทั้งที่อายุยี่สิบเจ็ดปีก็เป็นจอมเวทระดับเก้าแล้ว นอกจากนี้เขายังเป็นนักรบระดับเซียนชั้นสูงอีกด้วย”
“จอมเวทระดับเก้า อายุยี่สิบเจ็ดปีน่ะหรือ? เป็นไปไม่ได้!!” อาจารย์ลองฮอสไม่อาจทำใจเชื่อได้แม้แต่น้อย “ในประวัติศาสตร์ทวีปยูลานไม่เคยมีใครสามารถบรรลุระดับเก้าก่อนอายุสามสิบ”
“สก็อต เรื่องนี้จริงหรือ?” มาร์ควิสเจฟฟ์ถามอย่างสงสัย
สก็อตกล่าวอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม “จริงสิ,พระบิดาข้าบอกเรื่องนี้กับข้าเอง เมื่ออาจารย์ลินลี่ย์ประลองกับโอลิเวอร์ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นนักรบที่ทรงพลังเพียงใด แต่พวกเขาไม่สนใจรู้เรื่องความสามารถทางเวทของเขา เขาเป็นจอมเวทระดับเก้าแน่นอน”
เมื่อได้ยินคำพูดของสก็อตแม้แต่ในอารมณ์ของคนระดับลองฮอสก็ยังไม่อยากเชื่อ แต่ด้วยความรู้ของเขาบอกเขาว่านี่อาจเป็นจริงก็ได้
“อาจารย์ลินลี่ย์ เป็นจอมเวทระดับเก้า” เดเลียไม่แปลกใจมาก
ในหัวใจของเดเลีย ลินลี่ย์คือบุคคลที่เต็มไปด้วยความลับและความมหัศจรรย์ อายุสิบหกปีก็เป็นประติมากรระดับปรมาจารย์และเป็นจอมเวทหมายเลขสองในประวัติศาสตร์ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นจอมเวทอัจฉริยะหมายเลขหนึ่งในประวัติศาสตร์ทั้งมวล ทำไมจะเป็นไปไม่ได้เล่า?
“พวกเจ้าสนทนากันต่อเถอะ เดเลียข้าจะขอไปพักก่อน ถ้าเจ้าต้องการคุยกับข้าแค่บอกแพร์รีย์” ลองฮอสสั่ง
“ค่ะ, อาจารย์” เดเลียกล่าวอย่างสุภาพ สก็อตและเจฟฟ์ที่อยู่ใกล้นางแสดงความเคารพเช่นกัน
“สุภาพบุรุษ, ข้าก็เหนื่อยเช่นกัน, ข้าขอไปพักผ่อนที่ห้องก่อน ขอโทษด้วย” เดเลียลุกขึ้นเช่นกัน
สก็อตและเจฟฟ์รู้ว่าพวกเขาไม่อาจบ่ายเบี่ยงได้ พวกเขาพยักหน้าทันที เดเลียเดินออกไปโดยมีเหยี่ยวพายุสายฟ้าอยู่ข้างตัวนาง
เนื่องจากลองฮอสฝึกหมีปฐพีไว้อยู่แล้วหน้าที่หลักของเหยี่ยวพายุสายฟ้าจึงต้องคุ้มกันเดเลีย จากตรงนี้ ใครๆก็สามารถบอกได้ว่าลองฮอสใส่ใจนาง
“เขาก็อยู่ที่ถนนโบลเดอร์ บางทีเขาอาจจะอยู่ใกล้กับเรามากก็ได้”
เดเลียยืนอยู่ที่หน้าต่างอย่างเงียบงัน
คืนนั้นที่เมืองชนบทอู่ซัน เมื่อนางกล่าวคำอำลาลินลี่ย์หลังจากที่ออกมาจากสหภาพศักดิ์สิทธิ์และกลับไปประเทศของบรรพบุรุษนาง นางเตรียมจะกลับไปสหภาพศักดิ์สิทธิ์หลังจากงานฉลองเทศกาลยูลาน แต่จากนั้นนางได้ทราบว่าเกิดวันมหาวิบัติ
อาณาจักรเฟนไลทั้งหมดล่มสลายเหลือแต่ซากหักพังและกลายเป็นพื้นที่ของอสูรเวท
และตามข่าวลับที่มาถึงตระกูลของนาง สองสามวันก่อนวันมหาวิบัติ ในที่พักของจอมเวทอัจฉริยะลินลี่ย์มีปีศาจตนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นพยายามปลงพระชนม์พระราชาแห่งเฟนไลมีแนวโน้มว่าลินลี่ย์คงตายไปแล้ว
ข่าวนี้ทำให้เดเลียเสียใจจนล้มป่วยหนัก
ใช้เวลาหนึ่งปีเต็มก่อนที่นางจะฟื้นฟูหายดีดังเดิม
ในช่วงหลายปีหลังจากนี้ นางไม่ได้รับข่าวของลินลี่ย์แม้แต่น้อย และนางตัดใจจากความรักตั้งใจดูแลกิจการของตระกูลและฝึกฝนวิชาเวท แต่นางคาดไม่ถึง..เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวมาถึงจักรวรรดิยูลาน ข่าวการประลองระหว่างลินลี่ย์และโอลิเวอร์
ข่าวคราวนี้ทำให้หัวใจที่ตายด้านของเดเลียตื่นเต้นมีชีวิตชีวาอีกครั้ง นางรู้สึกเหมือนกับว่านางเต็มไปด้วยพลังเปี่ยมไปด้วยความหวัง
หลังจากผ่านการประลองไปไม่กี่วัน นางจึงได้จัดการให้มีการมาเยือนในวันนี้
เดเลียตั้งใจรอว่าวันรุ่งขึ้นก่อนจะไปเยี่ยมลินลี่ย์ แต่หลังจากใช้เวลาอยู่ในห้องครึ่งชั่วโมงนางกลับคิดว่ารอถึงครึ่งปี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่รู้ว่าลินลี่ย์พำนักอยู่ที่ถนนโบลเดอร์..นางไม่อาจทนได้อีกต่อไป
“ลมน้อย, ไปบอกอาจารย์ที ข้าตั้งใจจะไปเยี่ยมลินลี่ย์” เดเลียคุยกับเหยี่ยวพายุสายฟ้าครู่ต่อมาอาจารย์ลองฮอสก็มาปรากฏที่นอกประตู
รอยยิ้มหยอกเย้าปรากฏอยู่ที่ใบหน้าของอาจารย์ลองฮอส “เดเลียข้ารู้ว่าเจ้าไม่สามารถทนนั่งรอได้นานก่อนจะตัดสินใจไปพบเขา” ลองฮอสรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับศิษย์ของเขา
เดเลียใบหน้าแดงซ่าน
“อาจารย์!” เดเลียย่นจมูก “อย่าล้อข้าเลย ไปกันเถอะ”
“ก็ได้ ก็ได้” ลองฮอสหัวเราะ
เดเลียและอาจารย์ลองฮอส มีหมีปฐพีและเหยี่ยววายุสายฟ้าติดตามอยู่ข้างๆออกจากที่พัก เมื่อพวกเขาออกมาก็พบเห็นเจฟฟ์และสก็อตนั่งรออยู่ด้านนอก
“แม่หญิงเดเลีย?” เจฟฟ์และสก็อตตาเป็นประกาย พวกเขาลุกขึ้นยืนทันที “พวกท่านจะไปไหนกัน?”
เดเลียขมวดคิ้ว แต่ก็ยังพูดยิ้มๆ “เราตั้งใจจะไปเยี่ยมอัจฉริยะอาจารย์ลินลี่ย์”
“โอว, พวกท่านจะไปเยี่ยมอาจารย์ลินลี่ย์งั้นหรือ?” มาร์ควิสเจฟฟ์รีบกล่าว “นั่นเป็นความคิดที่ดี แต่ข้าเกรงว่าพวกท่านคงจะพบเขาได้ยากหน่อย ทั้งนี้เป็นเพราะอีกสองเดือนกว่าจากนี้ไปอาจารย์ลินลี่ย์จะร่วมประลองกับท่านเฮนด์เซนที่ภูเขาทุสคอน”
“ว่าไงนะ?” เดเลียตะลึง นางสูญเสียความเยือกเย็นทันที
“โอว, ท่านเพิ่งมาถึง ก็เลยยังไม่รู้ สองวันที่แล้ว โอลิเวอร์และท่านเฮนด์เซนประลองกันผลก็คือท่านโอลิเวอร์บาดเจ็บหนักเจียนตาย จากนั้นท่านเฮนด์เซนเชิญอาจารย์ลินลี่ย์ให้ร่วมประลองเช่นกันและอาจารย์ลินลี่ย์ก็ตอบรับแล้ว” สก็อตที่อยู่ใกล้ๆ ช่วยอธิบาย