ตอนที่แล้วตอนที่ 9-24 โอลิเวอร์ปะทะเฮนด์เซน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9-26 เวลาและสถานที่

ตอนที่ 9-25 ยืดหยุ่นดั่งเสาศิลา


“ตูม!”

โอลิเวอร์ร่วงจากท้องฟ้าตกลงปะทะผิวแม่น้ำ  เกิดสายน้ำฉีดพุ่งขึ้น

“พี่ใหญ่!”  บลูเมอร์มองดูอยู่ที่ริมฝั่ง ร้องคำรามลั่นขณะเดียวกันก็วิ่งตรงไปตำแหน่งที่โอลิเวอร์ร่วงตกลงไป

ผู้ชมจำนวนเป็นล้านมีมากเกินไป หลายคนที่อยู่ห่างฝั่งมากไม่สามารถเห็นโอลิเวอร์และเซียนดาบจ้าวภูผาสู้กัน พวกเขาทำได้แต่เพียงแต่พยายามฟังสิ่งที่คนข้างหน้าคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น  คนดูเป็นล้านเริ่มส่งเสียงพึมพำทันที

ความต่างชั้นกันระหว่างคนทั้งสองมีมากเกินไป!

ที่สำคัญเฮนด์เซนยังคงยืนอยู่กับที่เหมือนกับว่าไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

“อาจารย์ลินลี่ย์, โอลิเวอร์แพ้แล้วหรือ?” จักรพรรดิโจฮันน์ตรัสกับลินลี่ย์ที่อยู่ข้างพระองค์อย่างสงสัย

“ยังคงเร็วเกินไปที่จะสรุปออกมา” ลินลี่ย์ยังคงจ้องมองเซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนที่ไม่ยอมขยับอยู่ในกลางอากาศ  ลินลี่ย์บอกกับตัวเอง  “ข้าสงสัยจริงว่าเกิดผลอะไรกับเฮนด์เซนแน่หลังจากเขารับการโจมตีโดยตรง”

เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนกำลังรู้สึกอึดอัดมากในตอนนี้

เขามั่นใจมากในพลังป้องกันของเขาเขาเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทวีปยูลานมาหลายศตวรรษแล้วจนบัดนี้ก็ยังไม่พบว่าพลังป้องกันของใครจะแข็งแกร่งกว่าของเขา ความจริงปราณยุทธของกระบี่อัคนีไม่ได้ล่วงผ่านพลังป้องกันของเขามาได้เลยสักนิด

อย่างไรก็ตาม...

เมื่อกระบี่อัคนีปะทะกับหมัดของเขาโดยตรงพลังงานแปลกประหลาดทะลวงผ่านการป้องกันของเขาและโจมตีใส่วิญญาณของเขาโดยตรงผ่านแนวป้องกันและแทงเข้าไปในวิญญาณของเขา

เขารู้สึกมึนงง  และศีรษะของเขาเจ็บปวดมากปานว่าจะขาดจากกัน

“สมกับเป็นเซียนกระบี่อัจฉริยะจริงๆ  เขาพัฒนาวิชาโจมตีจิตวิญญาณนี่เอง”  หลังจากนั้นชั่วครู่  เฮนด์เซนก็ฟื้นคืนสู่อาการปกติ “คนหนุ่มอายุยังไม่ถึงห้าสิบปีสามารถพัฒนาวิชาโจมตีได้ถึงขนาดนั้นเชียว”

เฮนด์เซนไม่ได้พบกับพลังโจมตีแบบนี้มานานแล้ว!

พลังโจมตีวิญญาณตามปกติไม่ได้มีแบบเฉพาะอย่างนั้น

ตัวอย่างเช่นศิษย์คนโตของเทพสงครามเฟนซึ่งลินลี่ย์ได้พบก็ทำให้ลินลี่ย์หมดสติได้โดยใช้สายฟ้าโจมตีลินลี่ย์  ทำให้ลินลี่ย์ต้องใช้เวลาเพื่อฟื้นฟูตัวเอง  นี่ก็เช่นกันเป็นการโจมตีส่วนวิญญาณ

ตัวอย่างเช่นเทพสงครามแค่ใช้เสียงพูดก็ทำให้ผู้คนสั่นสะท้านวิญญาณได้

หลักการพื้นฐานภายใต้การโจมตีวิญญาณนั้นง่ายมาก  แค่ใช้พลังจิตเพื่อสร้างพลังโจมตี  จากนั้นใช้กับจิตวิญญาณของคู่ต่อสู้

พูดง่ายก็คือมันคือพลังจิตโจมตี

แต่แม้ว่าจะเป็นทฤษฎีง่ายๆ  แต่ก็ฝึกได้ยากมาก  นี่เป็นเพราะพลังจิตกล่าวโดยทั่วไปก็คือมันอ่อนนุ่มและยืดหยุ่นเหมือนปุยฝ้าย  เพื่อสร้างพลังจิตโจมตีนักสู้ก็ต้องเปลี่ยนสำลีให้เป็นมีดคมได้และใช้มันแทงลงไปในวิญญาณของคู่ต่อสู้

แม้ว่าเซียนเกือบทั้งหมดจะมีความสามารถกระจายพลังจิตของพวกเขาได้ก็ตาม  แต่ถ้าใช้โจมตีเล่า? แปลงสำลีให้เป็นมีด?

ยาก!

แต่แม้ว่าจะยากก็ตามยอดฝีมือระดับสูงเหล่านั้นที่ฝึกสมาธิเพ่งถึงกฎธาตุมาเป็นเวลานานก็สามารถบรรลุถึงระดับนั้นได้ เฮนด์เซนก่อนหน้านี้ก็เคยประสบกับการโจมตีทางวิญญาณแบบนี้มาก่อน

“พลังจิตของโอลิเวอร์ยังไม่กล้าแข็งมาก   มีแนวโน้มว่าเป็นระดับเดียวกับจอมเวทระดับแปด  ถ้าเขามีพลังจิตเท่าจอมเวทระดับเก้า  เป็นไปได้ที่ข้าอาจจะต้องบาดเจ็บหนัก  ถ้าเป็นระดับเซียนจอมเวท...”  เฮนด์เซนหัวเราะอย่างใจเย็น

และเวลานั้นเฮนด์เซนมองลงมาที่แม่น้ำแชนน์

แม่น้ำแชนน์กลับคืนสู่ความสงบตามปกติ  แต่โอลิเวอร์ยังไม่ปรากฏตัวออกมา

“โอลิเวอร์ ดูเหมือนเจ้าจะไม่ออกมาจนกว่าเจ้าจะรักษาแขนเสร็จสินะ”  เฮนด์เซนหัวเราะลั่นเสียงของเขาสะท้านฟ้าสะเทือนดิน

“รักษาแขนหรือ?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้วรู้สึกประหลาดใจ

“ซูมม!”

สายน้ำพุ่งกระจายจากแม่น้ำและเงาร่างดำเลือนรางพุ่งขึ้นในท้องฟ้าทันทีและกลับมายืนจ้องมองเฮนด์เซนอีกครั้ง แขนขวาของโอลิเวอร์ที่บิด กลับคืนเป็นปกติดังเดิม

โอลิเวอร์หัวเราะเย็นชาขณะมองดูเฮนด์เซน  “รักษาแขนน่ะหรือ?  เฮนด์เซน ต่อให้เจ้าต้องการทำเช่นนั้น เจ้าก็ไม่สามารถทำได้”

“ธาตุประเภทแสงมีความเร้นลับจริงๆนักเวทธาตุแสงระดับสูงบางคนก็สามารถรักษาบาดแผลหายได้ในทันที  อย่างไรก็ตาม...ในเรื่องพลังป้องกันและพลังโจมตี กฎธรรมชาติของธาตุแสงด้อยกว่ากว่ากฎธรรมชาติธาตุดิน”  เฮนด์เซนพูดด้วยความมั่นใจ

กฎธรรมชาติธาตุดิน

ลินลี่ย์ก็ฝึกในกฎธรรมชาติธาตุดินเช่นกัน

“เป็นไปได้ยังไงที่เจ้าจะเข้าใจความลึกลับของกฎธาตุแสง?”  โอลิเวอร์พูดอย่างใจเย็น  “เฮนด์เซน อย่าได้มั่นใจเกินไปนัก เจ้าลิ้มพลังโจมตีของกระบี่ข้าไปแล้วไม่ใช่หรือ”

เฮนด์เซนขมวดคิ้ว

แม้ว่าวิญญาณจะแข็งแกร่งมาก แต่เมื่อรับพลังโจมตีวิญญาณก็จะต้องได้รับบาดเจ็บบ้างเป็นแน่

“ด้วยความเสียหายของวิญญาณเจ้า  เจ้าจะสามารถใช้พลังได้เต็มร้อยหรือไม่?”  โอลิเวอร์ชักกระบี่เงาแสงด้วยมือซ้าย

เขากวัดแกว่งกระบี่อัคนีด้วยมือขวาและกระบี่เงาแสงด้วยมือซ้าย

“แต่ข้าแตกต่างออกไป  แขนของข้าหัก แต่ตอนนี้ได้รับการรักษาแล้ว ข้าไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย” โอลิเวอร์ควงกระบี่คู่ ชั้นแสงเจิดจ้าครอบคลุมกระบี่เงาแสงของเขาขณะที่รัศมีดำเยือกเย็นกลืนกินแสงได้ครอบคลุมกระบี่อัคนี

ทั้งสองมีพลังตรงกันข้ามสุดขั้ว

“ข้าอยากจะดูซิว่าเจ้าจะจัดการสองพลังสุดขั้วนี้ได้ยังไง!”  ตาของโอลิเวอร์ฉายประกายเย็นชาจากนั้นตัวเขาเปลี่ยนเป็นแสงสว่างเจิดจ้าเหมือนกับดวงอาทิตย์ ขณะเดียวกันชุดแสงสีดำกระพริบอยู่ในท่ามกลางแสงสว่าง

ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นจนถึงระดับสูงสุดของเขา

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยร่างโอลิเวอร์108 ร่างอีกครั้ง

“แคล้ง!” หน้าของเฮนด์เซนเคร่งขรึมเขาชักดาบหนักสีน้ำตาลออกมาจากด้านหลัง

“ฮ่าฮ่า... ในที่สุดเจ้าก็ชักดาบออกมาจนได้”  เสียงหัวเราะของโอลิเวอร์สั่นสะเทือนทั้งฟ้าผู้ชมนับไม่ถ้วนเงียบเสียงกันหมด

ราตรีนี้ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆหนาทำให้สนามต่อสู้มีแสงสลัวมาก ผู้ชมด้านล่างมีความรู้สึกว่าเมฆหนาครึ้มอยู่ใกล้โอลิเวอร์และเฮนด์เซน  ทั้งสองแทบจะสามารถสัมผัสเมฆได้เพียงแค่ยกมือขึ้นเท่านั้น

“บึ้ม บึ้ม!”

คลื่นระเบิดเสียงที่น่ากลัวสามารถได้ยินได้ แต่ละครั้งที่โอลิเวอร์พุ่งผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง  จะมีคลื่นระเบิดเสียงดังสะท้านแก้วหู  พลังคลื่นระเบิดเสียงเหล่านั้นในท้องฟ้ารุนแรงปรากฏเป็นคลื่นแสงวาบ  เปลวไฟพุ่งลงข้างล่างจากแรงอัดกดดัน

ไอพ่นของแรงลมทำให้ผมของทุกคนเริ่มสะบัดยุ่งเหยิง

คนนับไม่ถ้วนจับจ้องมองปรากฏการณ์นี้ หวังว่าพวกเขาจะสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในท้องฟ้าได้ชัดเจน

“แคล้ง แคล้ง!

แต่ละครั้งที่กระบี่คู่ของโอลิเวอร์ปะทะกับดาบหนักสีน้ำตาลของเฮนด์เซน  กระบี่สายธาตุแสงสว่างและสายธาตุมืดทั้งสองระเบิดพลังงานออกมาผสานกันได้อย่างแปลกประหลาดและโจมตีพร้อมกันพร้อมกับแสวงช่องว่างโจมตีของเฮนด์เซน

“คาดไม่ถึงเลยว่าโอลิเวอร์มีการโจมตีในรูปแบบนี้!”  เมื่อเงยหน้ามองดูการต่อสู้ลินลี่ย์อดลอบถอนหายใจไม่ได้

เขาต้องยอมรับว่าโอลิเวอร์เป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง  ธาตุแสงกับธาตุมืดมีกฎธาตุที่ตรงกันข้ามอย่างเห็นได้ชัด แต่โอลิเวอร์ไม่เพียงแต่สามารถฝึกทั้งสองพร้อมกันได้เท่านั้น  เขายังใช้ทั้งสองร่วมกันได้สมบูรณ์แบบ

“ฮ่าฮ่า...”

ด้วยการโจมตีต่อเนื่องติดต่อกัน  เสียงหัวเราะของโอลิเวอร์ก็ดังขึ้น  “เฮนด์เซน, ว่ายังไง,เจ้าจะเอาแต่ป้องกันอย่างเดียวหรือ?  หรือว่าวิญญาณของเจ้าบาดเจ็บจนเจ้าตอบโต้ไม่ได้?”

“บึ้ม!”

เมฆฝนส่งเสียงกระหึ่มดังน่ากลัวขณะที่สายฟ้าแลบแปลบปลาบเหมือนงูและผ่าลงที่พื้นปฐพี  สองสามวินาทีต่อมาฝนก็เริ่มโปรยปราย

ในพริบตา  ก็มีฝนตกไปทั่วพื้นที่

“โธ่เว้ย..ทำไมฝนมาตกเอาตอนนี้?”  ผู้ชมเป็นล้านเริ่มสบถเสียงดัง  ผู้ชมส่วนใหญ่ไม่มีอุปกรณ์กันฝน  เมื่อจู่ๆ ฝนก็ตกใส่มาทางพวกเขาอย่างนั้นพวกเขาจึงกลายสภาพเป็นเหมือนไก่ที่จมน้ำไปครึ่งตัว  อย่างไรก็ตาม ผู้ชมเหล่านี้ยังคงเงยหน้าจ้องมองการประลองในท้องฟ้าต่อไป

แต่เพราะเม็ดฝนที่ตกหนักทำให้พวกเขาไม่สามารถลืมตาจ้องมองด้านบนได้เต็มที่

น่าสมเพช

หลายคนจำต้องถอดชุดนอกออกมาและพยายามใช้ชุดนอกของพวกเขากันฝนบางส่วน เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้แหงนหน้ามองดูการประลองระหว่างสุดยอดฝีมือทั้งสองนี้ได้ต่อไปเพราะนี่อาจจะไม่มีโอกาสอย่างนี้ไปเป็นร้อยปี แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น ฝนที่ตกหนักใส่พวกเขาเหมือนแกล้งขัดขวางพวกเขาไม่ให้เห็นการต่อสู้ในกลางเวหา

ตอนนี้มีน้อยคนมากที่สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในท้องฟ้า

แน่นอนว่า ลินลี่ย์ก็เป็นหนึ่งในนั้น

“อาจารย์ลินลี่ย์ เกิดอะไรขึ้นกับการประลองข้างบนนั้น?”  จักรพรรดิโจฮันน์รีบถามลินลี่ย์  ราชตระกูลยังค่อนข้างสบายเพราะทันทีที่ฝนเริ่มตก ร่มขนาดใหญ่หลายคันถูกนำมาใช้กางทันที

ลินลี่ย์และอีกหลายคนยังคงนั่งตัวแห้งอย่างสบายใต้ร่มกันฝน

“ทูลฝ่าบาท, เฮนด์เซนยังคงตั้งรับอยู่  ขณะที่โอลิเวอร์โจมตีใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง  อย่างไรก็ตาม...ดูเหมือนโอลิเวอร์จะไม่สามารถทำอันตรายเฮนด์เซนได้” ลินลี่ย์ยิ้ม

แต่แม้จะพูดออกไปอย่างนั้นแต่ในใจลินลี่ย์ยังคงประหลาดใจอยู่  “ทุกๆครั้งที่โอลิเวอร์โจมตีจะแฝงพลังจิตโจมตีด้วย เฮนด์เซนจะตกอยู่ในสภาพใดกันแน่?”

ฝนยังคงตกหนักต่อเนื่อง

คบเพลิงนับไม่ถ้วนถูกฝนรดดับไปนานแล้ว ตอนนี้ต้องอาศัยเวทส่องสว่างของนักเวทสายธาตุแสงไม่กี่คนเพิ่มแสงสว่างให้กับพื้นที่

“โอลิเวอร์, เจ้าโจมตีเสร็จหรือยัง?”  เฮนด์เซนพูดอย่างใจเย็น

“ว่าไงนะ?” โอลิเวอร์ตะลึงทันที

เป็นไปได้หรือว่าแม้เขาจะโจมตีเป็นเวลานานแล้ว  เขาก็ยังไม่สามารถทำให้เฮนด์เซนบาดเจ็บได้แม้แต่น้อย?  พลังโจมตีวิญญาณเป็นอาวุธลับของเขา

โอลิเวอร์กวัดแกว่งกระบี่สองเล่มในมือยืนจ้องเฮนด์เซนกลางอากาศ

เฮนด์เซนมองดูโอลิเวอร์อย่างสงบ  “เมื่อข้ารับการจู่โจมวิญญาณของเจ้าครั้งแรกข้าบาดเจ็บแน่นอน  แต่หลังจากนั้นเนื่องจากข้าเตรียมรับมือไว้แล้วการโจมตีของเจ้าจึงไม่สามารถทำอันตรายข้าได้แม้แต่น้อย”

“เตรียมรับมือ?”  โอลิเวอร์ตะลึง

เขาป้องการพลังโจมตีที่วิญญาณได้ยังไง?  แม้แต่โอลิเวอร์ก็ยังนึกไม่ออก

“โอลิเวอร์, เจ้าต้องเข้าใจนะ  แม้ว่าพลังโจมตีวิญญาณจะพิเศษ  แต่เจ้าไม่ใช่เป็นคนเดียวที่ใช้ได้  ยังมีคนอีกมากในประวัติศาสตร์ทวีปยูลานที่พัฒนาการจู่โจมทำร้ายที่จิตวิญญาณ และข้าก็เคยกับการโจมตีเช่นนี้มาก่อนเช่นกัน  ที่สำคัญเจ้าเป็นเพียงนักรบคนหนึ่ง  พลังจิตของเจ้ายังอ่อนเกินไป  เป็นไปได้ว่าเจ้ามีระดับพลังจิตเท่ากับจอมเวทระดับแปดเท่านั้น ถ้าเจ้ามีพลังจิตระดับเก้า...อย่างนั้นบางทีเจ้าอาจทำร้ายได้ แม้ว่าข้าจะเตรียมรับมือการโจมตีของเจ้าก็ตาม  ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงชัยชนะของข้าในวันนี้คงไม่ได้มาง่ายๆ แน่”

เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนมองดูโอลิเวอร์อย่างใจเย็น

“ว่าไงนะ?!”  โอลิเวอร์พบว่ายากจะยอมรับเรื่องเช่นนี้ได้

เรื่องนี้กระทบจิตใจของเขาอย่างเหลือเชื่อ!

“โอลิเวอร์, เจ้าทำได้น่าประทับใจมาก  บรรลุถึงระดับนี้ได้ก่อนครึ่งศตวรรษ” เฮนด์เซนลูบดาบหนักสีน้ำตาลในมือของเขาอย่างนุ่มนวล  “ตอนนี้, เตรียมรับการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของข้าถือเสียว่านี่เป็นการแสดงการให้เกียรติพลังของเจ้า  ไม่ว่าเจ้าจะเป็นหรือตาย นั่นขึ้นแล้วแต่สวรรค์”

โอลิเวอร์รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่น่าขันมาก

ไม่ว่าเขาจะเป็นหรือตายเหรอ?

“เฮนด์เซน, อย่าลำพองเกินไปนัก  ถ้าเจ้ามีความสามารถก็ลงมือได้เลย  มาฆ่าข้าได้เลย พูดกันพอแล้ว” ร่างของโอลิเวอร์เปล่งแสงขาวเจิดจ้าผสมกับแสงสีดำ

ร่างครึ่งหนึ่งของเขามีแสงสีขาวบริสุทธิ์คลุม  อีกครึ่งหนึ่งเป็นสีดำสนิท

“มาเลย!”  ผมของโอลิเวอร์ที่ดำและขาวสยายกระจายในอากาศ เขาแผ่รังสีไปทุกตำแหน่งและเร่งเร้าพลังกระบี่ทั้งสองในมือจนสูงสุด

เซียนดาบเจ้าภูผาเฮนด์เซนควงดาบหนักสีน้ำตาลมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา

“นี่คือพลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของข้า  ชื่อวิชานั้นก็คือ ทลายโลก ถ้าเจ้าจะต้องตายข้าก็ปรารถนาให้เจ้าตายโดยมีความรู้ว่าตายเพราะอะไร”  เฮนด์เซนลืมไปแล้วว่าพวกที่เรียกว่าอัจฉริยะตายเพราะเขามากี่คนแล้ว

โอลิเวอร์คนที่หกหรือว่าคนที่เจ็ด?

เขาลืมไปแล้ว

แต่เฮนด์เซนรู้ว่าถ้าอัจฉริยะคนหนึ่งตาย  อย่างนั้นพวกเขาก็ไม่สมควรเป็นอัจฉริยะต่อไป

“พี่ใหญ่!”บลูเมอร์ตะโกนใส่ท้องฟ้าสุดเสียง  “ระวังตัวด้วย!”  บลูเมอร์หลั่งน้ำตาเป็นสาย  แต่เนื่องจากฝนที่ตกหนักจึงไม่มีใครบอกได้ว่าเป็นน้ำตาหรือสายฝน

แม้ว่าฝนจะตกหนักและสายฟ้าลั่น แต่ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งก็ยังสามารถได้ยินคำพูดระหว่างนักสู้ทั้งสองคนได้

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของน้องชาย  แม้โอลิเวอร์จะอยู่ภายในรัศมีขาวดำก็ยังยิ้มได้อย่างเต็มหน้า โอลิเวอร์มีรัศมีขาวดำรายล้อมมีสภาพเจิดจ้าแสบตา  สำหรับผู้ชมด้านล่าง โอลิเวอร์ดูเหมือนดาวที่ฉายแสงสว่างอยู่ในท่ามกลางสายฝน

“บึ้ม!”

โอลิเวอร์เคลื่อนไหวทันทีและคลื่นระเบิดเสียงดังขึ้นขณะที่เขากลายสภาพเป็นแนวแสงยาวพุ่งเข้าหาเซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซน

“ฮ่าาาาห์” เฮนด์เซนตวาดเสียงดังอย่างใจเย็น

กระบี่เงาแสงและกระบี่อัคนีดูเหมือนผสานเข้าด้วยกันและแสงดำและแสงขาวบิดเป็นเกลียวเข้าด้วยกัน ขณะที่โอลิเวอร์มีใบหน้าที่ดุร้ายฟันกระบี่ทั้งสองลงขณะใกล้เข้าไปเป็นท่าโจมตีสุดท้าย

แต่ขณะที่เฮนด์เซนตวัดดาบยักษ์ไปข้างหน้า  เหมือนกับว่าจะแฝงไปด้วยอานุภาพทลายโลกทั้งหมด

“ปังงงง!”

เสียงปะทะดังน่ากลัวได้ยินได้  เหมือนกับว่าโลกระเบิด  ขณะเดียวกันสายลมพายุรุนแรงน่ากลัวกวาดไปทั่วทุกตำแหน่ง  เหมือนกับว่าฝนตกหนักใส่แผ่นกัน  มันถูกแรงพลังลมกวาดออกไป

“ตูมมม”  ร่างมนุษย์คนหนึ่งปกคลุมไปด้วยรัศมีดำและขาวสลัวร่วงลงแม่น้ำแชนน์ด้วยความเร็วสูง..และบนผิวแม่น้ำแชนน์มีเลือดมากมายลอยขึ้นมาสามารถเห็นได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด