ตอนที่แล้วตอนที่ 9-22 เทพสงครามเรียกตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9-24 โอลิเวอร์ปะทะเฮนด์เซน

ตอนที่ 9-23 ชีพจรคุ้มกัน


คฤหาสน์ของเคานท์วอร์ตันตกอยู่ในความเงียบ  ซาสเลอร์อยู่ในห้องฝึก  ขณะที่บาร์เกอร์กับน้องๆและวอร์ตันฝึกฝนอยู่ในลานฝึกกว้างด้านหลังคฤหาสน์ รีเบ็คกา ลีนาและเจนน์กำลังสนทนากับองค์หญิงเจ็ดนีน่า

“เฮ้อ”

หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกวอร์ตันอาบน้ำและเปลี่ยนชุดสะอาดใหม่จนพอใจแล้ว เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์  เขาไม่เคยรู้สึกมีความสุขเหมือนในปัจจุบันนี้มาก่อน

เขาได้อยู่ด้วยกันกับพี่ใหญ่  และกำลังจะได้แต่งงานกับนีน่า  ปู่แอชลี่ย์และฮิลแมนมีความสุขอยู่เงียบๆกับชีวิตของขุนนาง

“ท่านพ่อ ท่านแม่  ถ้าท่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่  ท่านจะต้องมีความสุขมากแน่นอน”  วอร์ตันรู้สึกอิ่มเอมใจ  ขณะเดียวกัน เขารู้สึกขอบคุณพี่ใหญ่ลินลี่ย์ผู้นำทุกอย่างนี้มาให้เขา

ลินลี่ย์คือเสาหลักของตระกูล

ถ้าไม่ใช่เพราะลินลี่ย์จักรพรรดิคงจะยกนีน่าให้เขาหรือ? ถ้าไม่ใช่เพราะลินลี่ย์ ในเมืองหลวงนี้ เขาจะเป็นเพียงคนธรรมดาที่อยู่ในหมู่ขุนนาง  อย่างดีที่สุดก็เป็นเพียงอัจฉริยะคนหนึ่ง

วอร์ตันจ้องมองปู่แอชลี่ย์ที่อยู่ห่างๆเขานอนเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้จิบน้ำผลไม้อย่างสบายอารมณ์

“ปู่แอชลี่ย์ พี่ใหญ่ไปไหนหรือ?” วอร์ตันถามขณะเดินเข้ามา

พ่อบ้านแอชลี่ย์เงยหน้าและยิ้ม  “โอว, วอร์ตัน คุณชายลินลี่ย์ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว”

“เขายังไม่กลับมาอีกหรือ?”  วอร์ตันพยักหน้า

“เจ้าไม่มีอะไรต้องกังวล  พี่ใหญ่เจ้าเป็นเซียนคนหนึ่ง  คุณชายวอร์ตันเจ้าก็ต้องฝึกฝนหนักเช่นกัน” พ่อบ้านแอชลี่ย์หัวเราะเบาๆ

“แน่อยู่แล้ว” วอร์ตันพยักหน้า

“ปู่แอชลี่ย์เดือนหน้าจะมีการประลองระหว่างเซียนดาบจ้าวภูผา ท่านจะไปดูไหม?”  วอร์ตันหัวเราะ

“เป็นเรื่องปกติ ข้าจะพลาดดูการประลองระหว่างเซียนทั้งสองได้ยังไงกัน?”  ดวงตาของพ่อบ้านแอชลี่ย์เป็นประกาย  “เซียนดาบจ้าวภูผาเป็นยอดฝีมือในหมู่เซียน  การประลองคราวนี้จะต้องตื่นเต้นอย่างแน่นอน”

ตาของวอร์ตันยังคงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน

“สักวัน ข้าจะต้องเป็นเหมือนพี่ใหญ่, โอลิเวอร์และเฮนด์เซนให้ได้” วอร์ตันตัดสินใจแน่วแน่

จากนั้นเสียงฝีเท้าดังขึ้น

ลินลี่ย์ปรากฏตัวอยู่นอกลานฝึก  เมื่อเห็นพี่ใหญ่ของเขา วอร์ตันรู้สึกอบอุ่นใจเขารีบเข้าไปต้อนรับทันที  “พี่ใหญ่ ท่านไปทำอะไรมาตั้งนานกว่าจะกลับมาได้?  บาร์เกอร์และข้าฝึกฝนเสร็จแล้ว  เรากำลังจะเริ่มมื้อค่ำอีกไม่นานแล้ว”

“ข้าไปพบคนบางคนมา”  ลินลี่ย์หัวเราะ

ลินลี่ย์ไม่บอกน้องชายของเขาเรื่องการเดินทางไปภูเขาเทพสงคราม  เนื่องจากลินลี่ย์เห็นว่าดีที่สุดก็คือไม่ต้องบอกน้องชายเรื่องกิจการของทวีปยูลาน  เมื่อน้องชายของเขาบรรลุระดับเซียนยังมีเวลาอีกมากที่จะบอกเขาในตอนนั้น

ภายในลานฝึกด้านหลังจะเป็นที่อยู่ของลินลี่ย์ซึ่งอยู่ภายในคฤหาสน์  ลานพื้นที่ฝึกฝนมีขนาดใหญ่มาก  แต่วอร์ตัน บาร์เกอร์และน้องๆทั้งหมดก็ต้องการพื้นที่ฝึกฝนมากเช่นกัน ดังนั้น ลินลี่ย์โดยปกติจะฝึกอยู่ในพื้นที่คฤหาสน์ของตนเอง

“วิ้วววว” “วิ้วววว”สายลมพัดใบไม้ที่ร่วงอยู่บนพื้นกระจายและลอยพลิ้วขึ้นไปในอากาศ  ผมของลินลี่ย์โบกสะบัดตามกระแสลม

ลินลี่ย์กวัดแกว่งดาบหนักอดาแมนเทียมมีเพียงปลายดาบสัมผัสเข้ากับพื้น

“เราจัดการสร้างพลังคลื่นชีพจรได้ถึง 128 ชั้นตามจังหวะพลังโจมตีของเคล็ดสัจธรรมแห่งธาตุดิน” ระหว่างห้าปีที่เขาใช้เวลาอยู่หมู่บ้านยอดเมฆ  ลินลี่ย์ก็เชี่ยวชาญพลังคลื่นร้อยชั้นในช่วงปีที่สี่แล้ว

ลินลี่ย์ก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วมากเมื่อเขาก้าวหน้าจากตั้งแต่คลื่นสามชั้นเป็นสิบชั้น  จากสิบชั้นไปเป็นร้อยชั้น

แต่หลังจากระดับคลื่นร้อยชั้นไปแล้วระดับความก้าวหน้าของลินลี่ย์ก็เริ่มตกลง แม้ว่าเวลาทั้งหมดที่ผ่านไป  ลินลี่ย์ก็ถึงระดับที่ใช้คลื่นได้ 128 ชั้น

ด้วยการก้าวหน้าแต่ละครั้ง ลินลี่ย์เพียงแต่เพิ่มจำนวนพลังคลื่นได้เพียงหนึ่งหรือสองชั้น

“ข้าสงสัยจริงว่าขีดจำกัดที่แน่นอนของจำนวนพลังคลื่นมีอยู่เท่าใดกันแน่?”  ลินลี่ย์นั่งลงอยู่ในท่าขัดสมาธิ

“ครืดดด” “ครืดดด”

เสียงของชีพจรของโลกเต้นดังออกมาจากจิตใต้สำนึกของลินลี่ย์ จังหวะเต้นเป็นเอกลักษณ์เป็นจังหวะที่ยอดเยี่ยมสามารถทำให้คนตกอยู่ในอำนาจโดยไม่รู้ตัว

กล้ามเนื้อของลินลี่ย์เดี๋ยวขยายเดี๋ยวหดตัวอย่างต่อเนื่องและสั่นสะเทือนเป็นจังหวะ และลมเกิดขึ้นรอบตัวลินลี่ย์อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ขณะทำสมาธิลินลี่ย์ได้สังเกตไว้ก่อนนั้นว่ากล้ามเนื้อของเขาดูดซับแก่นธาตุดินได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีการสั่นสะเทือนตามจังหวะชีพจรของธาตุดิน ทำให้ร่างกายของเขาฟื้นฟูพลังได้ไว

“อา!”

ลินลี่ย์ลุกขึ้นยืนทันทีตาของเขาเป็นประกายแสงน่ากลัว

“จังหวะเต้นของชีพจรโลก  จังหวะเต้นของชีพจรโลก...” ลินลี่ย์ระลึกได้ทันทีว่าวิชาที่เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนเคยใช้ป้องกันตัวเขาเองกับโอลิเวอร์

ร่างของเฮนด์เซนถูกชั้นคลื่นสีธาตุดินคลุมรอบทันทีซึ่งคลื่นพลังนั้นได้กระหน่ำใส่เขาบีบบังคับให้เขาต้องถอยออกไป

“ตอนนั้นข้าเพียงแต่รู้สึกว่าพลังป้องกันของเฮนด์เซนดูเหมือนมีคุณสมบัติที่คุ้นเคย  แต่เวลานั้น ข้ายังไม่เข้าใจ และข้าไม่มีเวลาวิเคราะห์ แต่ตอนนี้...”

ลินลี่ย์มีความรู้สึกที่พิเศษคล้ายกับเห็นพระจันทร์เพ็ญซึ่งถูกซ่อนบังอยู่หลังม่านหมอกค่อยๆกระจ่างขึ้นในใจของเขา

“จังหวะเต้นชีพจรของโลกไม่ใช่แค่คลื่นสั่นสะเทือนแต่สามารถกลายเป็นพลังไร้ลักษณ์ และอาจส่งผ่านปราณยุทธได้” นั่นเป็นเหมือนกับมีฟิล์มทึบแสงปิดบังความรู้นี้ไว้ พอมองผ่านทะลุฟิล์มนี้ได้  ตอนนี้ลินลี่ย์เริ่มเข้าใจแล้ว

“ใช้ชีพจรโลกเพื่อป้องกัน ฮ่าฮ่า..เวทสายธาตุดินมีเวทระดับต้องห้ามคือ เวทคุมจังหวะ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยึดหลักการเดียวกัน อย่างไรก็ตาม พลังคุ้มกันชีพจรคงใช้แต่ป้องกันตัวเราเอง”

ปราณยุทธสีฟ้า-ดำของลินลี่ย์เริ่มครอบคลุมเต็มพื้นที่รอบตัวเขา

“ไม่, นั่นไม่ใช่วิธีทำงาน”

ลินลี่ย์หลับตาปล่อยให้ใจของเขาผสานเข้ากับจังหวะชีพจรของโลก ขณะที่เปลี่ยนปราณยุทธเลือดมังกรของเขาเข้าเป็นจังหวะเดียวกัน  เขาเข้าใจในเรื่องหลักการทั่วไปแล้ว  แต่หลักการนี้มาใช้งาน นั่นไม่ใช่งานง่าย

ลินลี่ย์ยืนอยู่กับที่กลางลานฝึกขณะที่คลื่นปราณยุทธสีฟ้า-ดำคลุมรอบตัวเขา

หลักการนั้นค่อนข้างจะง่าย  ตัวอย่างเช่นกระดาษบางสามารถฉีกขาดได้ง่ายๆ แต่ถ้ากระดาษ แต่ถ้ากระดาษถักหนาถึงหกชั้น กระดาษถักนี้อาจสามารถรับพลังได้ถึงร้อยปอนด์

วัสดุเดียวกันหลังจากพับทบและถักสามารถรองรับพลังได้มากมายมหาศาล

ปราณยุทธก็เหมือนกัน  เมื่อเอามาใช้สำหรับป้องกัน

ปราณยุทธอย่างเดียวกันเมื่อเอามาใช้ในวิธีการที่แตกต่าง  สามารถป้องกันพลังที่จะมาถึงได้สิบเท่าหรืออาจถึงร้อยเท่าก็ได้  “จังหวะเต้นชีพจรของโลกก็ทำนองเดียวกันต้องมีเคล็ดเฉพาะทาง

จังหวะชีพจรโลกเป็นแค่หนึ่งในหลายเส้นทางภายในกฎแห่งธาตุดิน

ลินลี่ย์บรรลุถึงเข้าใจเรื่องจังหวะเต้นของชีพจรโลกในระดับค่อนข้างสูง  ทั้งหมดที่เขาต้องทำในตอนนี้ก็คือต้องแปลงความเข้าใจและใช้หลักการเดียวกันนี้สร้างพลังป้องกันชีพจรคุ้มกันด้วยตัวของเขาเอง  เนื่องจากเขาเข้าใจหลักการแล้ว  เมื่อเขาเริ่มประยุกต์ใช้  เขาจะก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว

“พี่ใหญ่ ได้เวลากินกันแล้ว”  วอร์ตันเดินเข้ามาหาโดยมีบาร์เกอร์กับน้องๆเดินมาข้างหลัง ทั้งห้าคนเพิ่งฝึกเสร็จและอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว

แต่เมื่อพวกเขาผลักเปิดประตู  พวกเขาพบว่า...

ลินลี่ย์มีปราณยุทธสีฟ้า-ดำซึ่งม้วนตัวเป็นคลื่นเหมือนหมอกล้อมรอบตัว  ลินลี่ย์ซ่อนอยู่ภายในคลื่นปราณเหล่านั้น

“พี่ใหญ่?”

“ใต้เท้า?”

วอร์ตันบาร์เกอร์และคนอื่นๆ มองหน้ากันเองทุกคน แม้ว่าการฝึกจะสำคัญ แต่การพักก็สำคัญเช่นกัน

“อย่าเพิ่งรบกวนพี่ใหญ่”  บีบีออกคำสั่งอยู่ที่มุมลานฝึก

“ได้เวลาอาหารค่ำแล้ว  พี่ใหญ่ควรจะพักได้แล้ว”  ขณะที่พูด วอร์ตันเดินเข้าหาลินลี่ย์  บีบีกับแฮรุมองหน้ากันเอง  แต่ไม่ได้ขวางเขา

ลินลี่ย์สั่งบีบีและแฮรุไม่ให้เข้ามาใกล้เขา เนื่องจากอาจจะได้รับบาดเจ็บจากพลังคลื่นเหล่านั้น

“ปล่อยให้เจ้าเด็กนี่ได้รับบทเรียนสักครั้งก็ดีเหมือนกัน”  บีบีลอบพูดกับตัวเอง

วอร์ตันยังคงระมัดระวัง  ปราณยุทธรอบตัวลินลี่ย์หนาแน่นมาก  แต่เขาค่อนข้างจะอยู่ห่างจากลินลี่ย์  ปราณยุทธตรงนี้ค่อนข้างกระจายตัว วอร์ตันจะกังวลปราณยุทธขนาดเล็กน้อยนั้นได้ยังไง?

แต่เมื่อเขาเข้าไปใกล้ขอบปราณยุทธสีฟ้า-ดำทันใดนั้นวอร์ตันรู้สึกถึงคลื่นพลังงานแปลกประหลาดทะลักออกมาโจมตีเขา

“ปัง!”

วอร์ตันปลิวละลิ่วออกไป วอร์ตันรู้สึกเหมือนถูกโจมตีหลายสิบครั้งในทันที  และแต่ละครั้งรู้สึกเหมือนกับถูกอุกกาบาตตกใส่

“วอร์ตัน” เกทส์เป็นคนแรกที่เข้าไปรับตัววอร์ตันไว้

“วอร์ตัน, เป็นอะไรหรือเปล่า?”  เกทส์ถาม

“ข้าไม่เป็นไร” วอร์ตันยกมือคลำอก รู้สึกถึงรสของเลือดที่ปาก  เขาจ้องมองลินลี่ย์อย่างเหลือเชื่อ  “พี่ใหญ่ปล่อยปราณยุทธของเขา  แต่ข้าเพียงแต่สัมผัสขอบด้านนอกเท่านั้นและพลังมันรุนแรงขนาดนั้นได้ยังไง?”

วอร์ตันไม่เชื่อ  ปราณยุทธหนาแน่นที่ใกล้ลินลี่ย์มีอันตรายสูงยิ่งเข้าใกล้ก็จะยิ่งมีอันตรายมาก

“วอร์ตัน ใต้เท้าคงจะไม่หยุดฝึกแม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม เห็นได้ชัดว่าเขาต้องฝึกอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญดีที่สุดคือเราอย่าเพิ่งไปรบกวนเขา” บาร์เกอร์พูดอย่างจริงจัง

วอร์ตันพยักหน้าเช่นกัน  “ข้าจะสั่งให้พวกยามห้ามไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนเขา”

“ไม่จำเป็น แฮรุกับข้าจะเฝ้าดูแลเขา” บีบีพูดอย่างยโส  “ตอนนี้พวกเจ้าไปได้แล้ว  ถ้าพี่ใหญ่ยังฝึกไม่เสร็จ ก็อย่างเพิ่งรบกวนเขา”

วอร์ตันบาร์เกอร์และคนอื่นๆ มองหน้ากันเอง จากนั้นจึงออกไป

ขณะเดียวกันวอร์ตันและบาร์เกอร์ได้สั่งให้คนอื่นๆ อย่ารบกวนการฝึกของลินลี่ย์  คืนนั้นตอนอาหารค่ำ เจนน์  นีน่าและคนอื่นๆประหลาดใจเช่นกันที่ลินลี่ย์ฝึกฝนอย่างหนัก

“เขากำลังฝึกอย่างหนักมากจนไม่ยอมกินมื้อค่ำ  คนตัวโต, พี่ชายของเจ้าขยันจริงๆ”  นีน่าพึมพำ

แต่คาดไม่ถึงเลยว่าวันที่สองลินลี่ย์ก็ยังคงฝึกอย่างนี้ต่อไป วันที่สามก็เหมือนกัน และวันแล้ววันเล่าผ่านไปในสภาพเช่นนั้น

ในพริบตาเดียวผ่านไปสิบกว่าวันเข้าเดือนพฤษภาคมแล้ว

“ในอีกไม่กี่วันจะถึงวันประลองระหว่างโอลิเวอร์และเฮนด์เซน พี่ชายข้ายังฝึกหนักไม่เสร็จ นั่นจะไม่ทำให้เขาพลาดชมหรือเปล่า?”  วอร์ตันพูดกับบาร์เกอร์และน้องๆ

วอร์ตันบาร์เกอร์และน้องๆ ของเขายืนอยู่ที่ประตูทางเข้าลานฝึก

ทุกวันหลังจากพวกเขาฝึกฝนเสร็จ พวกเขาจะมาเยี่ยมลินลี่ย์ ลินลี่ย์ไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย และเขายังมีปราณสีฟ้า-ดำล้อมรอบ เพียงแต่เทียบกับเมื่อสิบวันก่อนปราณยุทธสีฟ้า-ดำลดขนาดพื้นที่ลงไปอีกเล็กน้อย

“ข้าสงสัยว่ากระบวนการฝึกฝนของพี่ใหญ่เป็นยังไง”  วอร์ตันไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเขากำลังเห็นอะไร

บาร์เกอร์และน้องๆก็ส่ายศีรษะเช่นกัน เกี่ยวกับระดับความเข้าใจ บาร์เกอร์และน้องๆไม่ดีไปกว่าวอร์ตันเท่าใดนัก และไม่สามารถเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับกฎธรรมชาติของธาตุ

“ฮ่าาาาห์” เสียงระบายลมหายใจดังขึ้น

วอร์ตันและพี่น้องบาร์เกอร์ที่เตรียมตัวออกไปหันกลับมามอง ปราณฟ้า-น้ำเงินกลับเข้าไปในร่างของลินลี่ย์และลินลี่ย์ในตอนนี้ยิ้มขณะที่ยืดตัวลุกขึ้นยืน

“วอร์ตัน, เจ้าก็มาที่นี่ด้วย”  ลินลี่ย์หัวเราะ

“พี่ใหญ่, ในที่สุดท่านก็ฝึกเสร็จเสียที”  วอร์ตันพูดด้วยความตื่นเต้น

“ถูกแล้ว วอร์ตัน ข้าใช้เวลาฝึกไปนานเท่าใด?”  ลินลี่ย์หัวเราะ

“เกือบสิบห้าวัน!  วันนี้เป็นวันที่หนึ่งพฤษภาคม  อีกสามวันจะเป็นวันที่สี่พฤษภาคม  คืนนั้นโอลิเวอร์และเฮนด์เซนจะประลองกัน”  วอร์ตันพูดอย่างรวดเร็ว

“สิบห้าวัน?”

ลินลี่ย์ประหลาดใจเล็กน้อย  ความจริงเขาเพ่งความรู้สึกอยู่กับจังหวะเต้นชีพจรของโลกและประยุกต์ปรับปรุงวิชาชีพจรคุ้มกัน เขาไม่ได้สังเกตเวลาที่ผ่านไปสักนิด

คาดไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่หลับตาเวลาจะผ่านไปถึงสิบห้าวัน

“แม้ว่าข้าจะมีความเข้าใจอย่างสูงถึงจังหวะเต้นชีพจรของโลกและยังเข้าใจหลักการทั่วไปที่อยู่เบื้องหลังชีพจรคุ้มกัน แต่การพัฒนาวิชาจริงๆใช้เวลาถึงสิบห้าวัน

แต่ลินลี่ย์พอใจมากจริงๆ

ในอดีตเกราะปราณยุทธของเขาใช้ปราณยุทธสร้างอย่างง่ายๆและหยาบแต่พลังป้องกันของชีพจรคุ้มกันในปัจจุบันของเขาใช้ปราณยุทธในปริมาณเท่ากัน  แต่แข็งแกร่งมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า

“แต่ดูเหมือนพลังป้องกันของข้าดูจะแตกต่างจากเฮนด์เซน”

เมื่อเขาพัฒนาวิชาของเขาได้  ลินลี่ย์คิดว่าเคล็ดวิชาของพวกเขาเหมือนกัน  แต่หลังจากพัฒนาไปแล้วลินลี่ย์จึงได้ตระหนัก  พลังป้องกันของเฮนด์เซนนั้นใช้วิธีกระตุ้นการเต้นของชีพจรโลกอย่างง่ายๆ ความเข้าใจชีพจรโลกของเฮนด์เซนยังไม่ลึกซึ้งเท่ากับระดับของลินลี่ย์เอง

อย่างไรก็ตามพลังป้องกันของเฮนด์เซนก็ยังทรงพลังน่ากลัว

นี่เป็นเพราะจังหวะเต้นของชีพจรโลกสนับสนุนเฉพาะส่วนพลังป้องกันของเฮนด์เซนเท่านั้น พลังที่แท้จริงของเขาส่วนใหญ่อยู่ที่ความลี้ลับที่แตกต่างของกฎธรรมชาติธาตุดิน

“ข้าสงสัยว่าเคล็ดพลังป้องกันชีพจรคุ้มกันที่บริสุทธิ์ของข้าจะรับกับพลังป้องกันของเฮนด์เซนได้ไหม?”  ลินลี่ย์ลอบสงสัยอยู่ในใจ

“พี่ใหญ่ ท่านคิดเรื่องอะไรอยู่?  ไปกินมื้อค่ำกันเถอะ”  วอร์ตันเรียกเขา

“ตกลง”

ลินลี่ย์หันไปมองบีบีและแฮรุ  “บีบี, แฮรุ ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์คาดได้ว่าบีบีและแฮรุไม่ได้อยู่ห่างเขาระหว่างช่วงเวลาสิบห้าวันนี้

“นี่ข้านึกว่าพี่ใหญ่จะลืมเราเสียแล้ว”  บีบีกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของลินลี่ย์จากนั้นเบ้ปาก “แต่พี่ใหญ่, ข้าต้องบอกไว้ก่อน แม้ว่าเราไม่ได้ไปจากลานฝึกในช่วงสิบกว่าวันนี้  พวกบ่าวรับใช้ก็ยังส่งอาหารมาให้เราทุกวันน่าเสียดายคืนนี้จะไม่มีใครส่งอาหารมาให้แล้ว ข้าบีบีจะต้องไปหากินด้วยตัวเอง”

ลินลี่ย์วอร์ตันและบาร์เกอร์กับน้องๆ อดที่จะหัวเราะไม่ได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด