ตอนที่แล้วตอนที่ 240 หิมะสายฟ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 242 สมัครแข่งขัน

ตอนที่ 241 แข่งขันจักรกลสุดขอบฟ้า


“อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า!”

ถังเทียนส่งเสียงร้องออกมาเหมือนผีขณะที่พายุหิมะพุ่งเข้าหาพยัคฆ์ฟ้า

ปัง ปัง ปัง!

เสียงโจมตีดังต่อเนื่องทำให้เกิดควันและฝุ่นละอองฟุ้งกระจายไปทุกที่แสงของเงาสีฟ้าบินออกมากระแทกเข้ากับผนัง ฉากภาพนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากเกินไป การฝึกของปิงเป็นลงมือต่อเนื่องและโหด

ถังเทียนเด็กหัดใหม่ เมื่อเผชิญหน้ากับปิง ไม้ตายสูงสุด ทำให้เห็นว่าหิมะสายฟ้ายังมีระดับที่ห่างไกลจากพยัคฆ์ฟ้ามาก  ผลชัดเจนอยู่แล้ว  ปิงไม่มีความปราณีเพียงเพราะเห็นว่าถังเทียนเป็นมือสมัครเล่น  แต่เขากลับทำกับถังเทียนเหมือนเป็นศัตรูโจมตีใส่อย่างดุเดือดบ้าคลั่งใครเห็นเป็นได้ขนหัวลุก

ตลอดทั้งตัวของหิมะสายฟ้าเกินกว่าครึ่งเปลี่ยนแปลงไปมากมีร่องยาวเจ็ดถึงแปดเซ็นฯและรูอยู่ทั่วร่าง หิมะสายฟ้าไม่มีความสวยจับตาอีกต่อไปมองดูแล้วเหมือนกับอาวุธจักรกลขยะที่ถูกโยนทิ้ง มันดูโทรมมาก

หิมะสายฟ้าล้มกับพื้นหน้าคว่ำเหยียดยาวไม่เคลื่อนไหว

ถังเทียนอ้าปากหอบหายใจ เขาเหนื่อยจัดและรู้สึกว่าการควบคุมอาวุธจักรกลต่อสู้เหนื่อยยิ่งกว่าสู้ด้วยตัวเองเสียอีก  เขาอ้าปากหอบ เหงื่อไหลย้อยมาตามใบหน้าจนถึงคาง ทันใดนั้นเขารู้สึกอาการพองยุบตามจังหวะหอบหายใจของเขา

มันคือหิมะสายฟ้า

ถังเทียนเทียนตะลึงอยู่ชั่วขณะ  แต่แล้วก็เริ่มหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“เฮ้,หิมะสายฟ้า เจ้าไม่ต้องหายใจสักหน่อย แล้วทำไมต้องมาเลียนแบบข้าด้วยเล่า?”

คำพูดของถังเทียนทำให้หิมะสายฟ้าตะลึง ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ว่าอาการพองยุบตามจังหวะหายใจของหิมะสายฟ้าหยุดลงขณะที่มันหายไป

“ฮ่าฮ่าฮ่า!”  ถังเทียนหัวเราะดังกว่าเก่า

“เฮ้,พ่อหนุ่ม เจ้าจะนอนอยู่อย่างนั้นไปถึงไหน?” เสียงยั่วยุของปิงดังออกมาจากพยัคฆ์ฟ้า ขณะที่เขามองดูหิมะสายฟ้า แม้ว่าเขาจะเยาะเย้ยถังเทียน แต่ในใจเขาก็เต็มไปด้วยความทึ่ง

เพียงแค่เวลาสั้นๆ สามวัน  แม้ว่าถังเทียนจะไม่มีทักษะฝีมือ  แต่เขาก็สามารถอดทนรับพลังห้ากระบวนท่าของปิงได้

ห้าท่า!

ห้าท่านี้ในแง่ของเวลาที่ใช้  แม้ว่าปิงจะรู้ดีว่าไม่ง่ายดายอย่างนั้น

เพียงสามวันสั้นๆก็สามารถเติบโตได้ถึงขนาดนี้...

หิมะสายฟ้าไม่ใช่อาวุธจักรกลที่โดดเด่น  นอกจากความแตกต่างของวัสดุของมันสิ่งที่เป็นจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือจิตวิญญาณพลังยุทธของมัน  เทียบกับอาหู่แล้ว  หิมะสายฟ้าด้อยกว่ามากมาย  อาหู่เกิดมาเป็นนักสู้ ปกติจะเงียบๆแต่มีพลังที่แข็งแกร่งใจเย็นและไม่เคยกลัวอะไร เห็นได้ชัดว่าอาหู่คือคู่หูร่วมต่อสู้ในฝันของปิง

แต่สำหรับหิมะสายฟ้า มันขี้อาย, โง่,ไม่ค่อยกล้าและมีพลังจิตอ่อนแอ จุดอ่อนทั้งหมดเหล่านี้ถือว่ามีมากแก่นจิตวิญญาณพลังยุทธของหิมะสายฟ้าไม่มีชื่อเสียง  แต่จากสิ่งที่ปิงเห็น จิตวิญญาณพลังยุทธแบบนี้ไม่เหมาะสมจะใช้เป็นจิตวิญญาณพลังยุทธของอาวุธจักรกลเลย

อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสามวันนี้เกินกว่าที่ปิงคาดสิ้นเชิง

จุดอ่อนหิมะสายฟ้าได้เผยออกมาทั้งหมด  แต่มันไม่ท้อถอยจากการต่อสู้   กลับบากบั่นมุ่งมั่นภายใต้การโจมตีอย่างดุเดือดของปิงแทน

ปิงเป็นผู้มีไหวพริบและเขี้ยวลากดินและเขาได้พบรากเหง้าของปัญหานี้  ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง  แต่เป็นเพราะถังเทียน

ถังเทียนคำรามไม่เคยหยุด  ไม่ว่าพวกเขาจะถูกทุบตีหนักเพียงไหน ถังเทียนไม่เคยหยุดให้กำลังใจหิมะสายฟ้าเลย  ในสายตาของถังเทียน  หิมะสายฟ้าเป็นสหายร่วมต่อสู้ของเขา  แม้ว่ามันจะมีจุดอ่อนมากแต่เขาไม่เคยคิดเลิกใช้งานมัน

ไม่ว่าพวกเขาจะล้มลงไปกี่ครั้ง  หรือโดนเล่นงานย่ำแย่แค่ไหน ถังเทียนไม่เคยตำหนิมันหรือด่ามันเลย

เสียงที่ร่าเริงคอยให้กำลังใจจะดังขึ้นสม่ำเสมอสอดคล้องกับการกระทำที่ไม่เคยยอมแพ้ แม้จะถูกทุบอย่างต่อเนื่อง

นี่คือวิธีที่หิมะสายฟ้าเริ่มต้นพัฒนา  แม้ว่าระดับความก้าวหน้าจะช้า  แต่นั่นก็นับว่าเป็นความก้าวหน้า

ตาของปิงไม่เคยเหลือบแลหิมะสายฟ้า สำหรับเขาแล้วหิมะสายฟ้าไม่ใช่จิตวิญญาณพลังยุทธนักสู้ ความก้าวหน้าของมันมีขีดจำกัดและจุดอ่อนของมันที่มีมาแต่กำเนิดถูกป้องกันไม่ให้เติบโต    เขาได้ลอบตั้งข้อสังเกตไว้แล้ว จะต้องเตือนเซรีนว่าจิตวิญญาณพลังยุทธของอาวุธจักรกลไม่จำเป็นต้องมีระดับสูง  แต่ต้องเหมาะกับการต่อสู้  เศษวิญญาณโบราณเหล่านั้น  ถูกตัดลดลงครั้งแล้วครั้งเล่า  แต่ก็ยังมีพลังจิตที่หนักแน่น

นอกจากนี้การแสดงออกพื้นฐานของผู้นำของถังเทียนทำให้ปิงนึกสรรเสริญเขามาก

สามารถส่งเสริมและช่วยเหลือสหายนับเป็นลักษณะที่โดดเด่นอย่างมากแม้แต่วิญญาณพลังยุทธที่อ่อนแออย่างหิมะสายฟ้าก็ยังสู้สุดกำลัง เจ้าเด็กนี่นับเป็นนักสู้สายจักรกลที่มีพรสวรรค์แน่นอน

เมื่อได้ยินคำพูดของปิงหิมะสายฟ้าชะงักไปชั่วขณะ แต่ถังเทียนตอบอย่างไม่ลดราวาศอก “ล้มเหรอ? ฮะฮะ ลุงดูถูกเรามากไปแล้ว มาเลย! ดูซิว่าเราจะเอาชนะลุงยังไง! หิมะสายฟ้า ลุยพร้อมกัน ไปเลย!”

คลื่นความเอาจริงเอาจังผุดขึ้นมาจากหิมะสายฟ้าอีกครั้ง

แต่ก็เป็นฉากภาพที่ต้องทนดูกันต่อไป

****************************

เจ็ดวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เซรีนเบื่อและไร้เรี่ยวแรง  หลังจากร้องไห้มาพักใหญ่  นางก็ไม่เศร้าอีกต่อไป

ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

เสียงเคาะดังขึ้นหน้าประตู  เซรีนถามอย่างอารมณ์ไม่ดี  “ใครกัน? ถ้าไม่มีอะไร  ก็อย่ามารบกวนข้า!”

“เซรีน,เราต้องไปเข้าร่วมแข่งขันกันแล้วนะ” ถังเทียนเตือน

ปิงเปลี่ยนใจแล้วหรือ?  เซรีนตาเป็นประกาย  นางลุกขึ้นจากเตียง เปิดประตูและถาม“ลุงหน้าไพ่ตัดสินใจเข้าร่วมแข่งด้วยเหรอ?”

“ไม่”ถังเทียนส่ายศีรษะ และชี้มาที่ตัวเอง “ข้าจะร่วมเอง”

สำเนียงผิดหวังในน้ำเสียงของนางขณะที่เซรีนตอบอย่างเศร้าใจ “ไม่ไปหรอก”

นางเตรียมจะปิดประตู แต่ถังเทียนใช้มือกันประตูไว้อย่างไม่สบายใจ  “เฮ้, เซรีน, ถ้าเจ้าไม่นำเราไปที่นั่นเราก็ไม่รู้จักเส้นทาง”

“ใครจะไปก็ไปเถอะ!” เซรีนหมุนตัวและเดินไปที่เตียงของนางจากนั้นนอนคลุมโปง“แต่ว่าข้าไม่ไปด้วย”

“ทำไมเจ้าถึงไม่ไปด้วยเล่า?”  ถังเทียนไม่เข้าใจ “อย่าบอกข้านะว่าเจ้าไม่ต้องการห้าพันล้านเหรียญดาวอีกต่อไป?”

“ห้าพันล้าน....”เซรีนร้องไห้น้ำตานองหน้าและสะอึกสะอื้น “ฮือ ฮือ,เราไม่มีห้าพันล้านเหรียญดาวอีกต่อไปแล้ว!”

เมื่อเห็นเซรีนทำท่าอย่างนั้น  ถังเทียนได้แต่ผิดหวัง  แต่แม้ว่าเขาไม่รู้จะพูดอะไร  เขาคิดว่าต้องทำอะไรบางอย่างและด้วยความขี้เกียจพูด  ถังเทียนคว้าตัวเซรีนทันทีแล้วแบกขึ้นบ่าเดินออกไป

เซรีนร้องกรี๊ด เมื่อพบว่านางอยู่บนบ่าของถังเทียน นางโกรธและดิ้นอยู่บนไหล่ของถังเทียนอย่างสุดกำลังทันที  “วางข้าลงนะ, ปล่อยข้า”

ถังเทียนไม่สนใจเสียงกรี๊ดของนางและเดินตรงออกมาจากคลังแสง

ปิงเก็บของเสร็จแล้วและเตรียมพร้อม

“เดินทาง”

ถังเทียนแบกเซรีนและพุ่งออกจากประตูอย่างเร่งร้อน

****************************

การแข่งขันจักรกลสุดขอบฟ้าเป็นการแข่งขันที่มีชื่อเสียงมากในวงการเครื่องจักรกล  เพราะจัดขึ้นเพียงปีละสองครั้ง  การแข่งขันทุกครั้งวิศวจักรกลทุกคนและนักสู้สายเครื่องจักรกลจากกลุ่มดาวต่างๆในสวรรค์วิถีจะมารวมตัวกัน นี่คือการประชันขันแข่งที่ทรงพลังที่สุดในวงการวิศวจักรกล  ทุกครั้งที่มีการจัดขึ้นจะมีอสูรจักรกลแปลกๆใหม่ๆ พอๆ อาวุธจักรกลรุ่นใหม่ๆ เกิดขึ้น นักสู้สายจักรกลผู้แข็งแกร่งที่สุดจะปรากฏตัวและเกิดการต่อสู้ที่โชกเลือดขึ้น

นี่เป็นการจัดการแข่งครั้งที่สี่สิบห้าแล้ว  มีเวลาอีกสามวันก่อนจะเริ่มการแข่งขัน  แต่เมืองมั่วเฉิงก็เต็มไปด้วยผู้คนแล้ว  เมืองมั่วเฉิงเป็นเมืองที่ใหญ่โต มีประชากร 47ล้านคนเมื่อเทียบกับเมืองสามวิญญาณ

วงการวิชาจักรกลมีขนาดลดลงก็จริง  แต่ถึงอย่างนั้นสมาชิกก็ยังมีจักรกลในสวรรค์วิถีประหลาดมากมายมีให้เห็น

ในชานเมือง การสัญจรของมนุษย์คับคั่งน่ากลัวและเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านเข้าไป

ถังเทียนเหลียวมองเลิกลั่กหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ  “หวา,มีคนมากมายในที่นี่อยู่ก่อนแล้ว”

“ไม่รู้ด้วย”  เซรีนแค่นเสียง การดิ้นรนของนางไร้ประโยชน์นางจึงตัดสินใจหยุด  แต่ความโกรธในใจนางยังไม่ลดทอน  ดังนั้นน้ำเสียงนางจึงมีแววไม่พอใจ  “อย่าทำอะไรเชยๆ ให้ขายหน้าล่ะ”

ปิงหยุดอยู่กับที่ทันที

ถังเทียนรู้สึกได้โดยเร็วและหยุดถาม“มีอะไรหรือ?”

“เมืองนี้มีกระแสพลังผันผวน”  น้ำเสียงของปิงสั่น  “มันมีผลโดยตรงต่อขุนพลวิญญาณ”

ถังเทียนใจจดใจจ่อมากขึ้น  สีหน้าเขาเปลี่ยนไป  เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความผันผวนที่เลือนรางมาก  มันอยู่ในสภาพของหมอก แต่ช่วงระยะของมันกลับครอบคลุมไปทั้งเมืองม่อเฉิง

“จะมีปัญหาอะไรไหม?”  เซรีนประหลาดใจ  ตอนแรกนางคิดว่าปิงสับสนทั้งที่ไม่มีอะไร  การแข่งขันจักรกลสุดขอบฟ้าจัดแข่งขันมาหลายครั้งแล้วไม่เคยมีอันตรายใดๆ เกิดขึ้น เพียงแค่นั้นนางก็เข้าใจจริงๆแล้วว่าความกังวลใจของปิงนั้นมีเหตุผล

นางทำหน้าจริงจัง “เมืองมั่วเฉิงปกครองโดยตระกูลมั่วมาหลายชั่วอายุคนแล้ว  ตลอดทั้งเมืองถูกมองว่าเป็นเมืองจักรกล  ใช่แล้ว, ดูเหมือนว่าข้าจะมองข้ามเรื่องนั้นไป”

“ตระกูลมั่ว?”ถังเทียนสงสัย “พวกเขาแข็งแกร่งทรงพลังนักหรือ?”

“ใช่แล้วแข็งแกร่งทรงพลังมาก!” เซรีนตอบ “ตระกูลมั่วคือตระกูลชนชั้นสูงที่เชี่ยวชาญจักรกล และมีประวัติศาสตร์ยาวนานในยุคหลังกองทัพมหาอำนาจทั้งสาม มาตรฐานจักรกลของตระกูลมั่วไม่มีใครรู้มั่วเหลิ่งจากตระกูลมั่วเป็นปรมาจารย์วิศวจักรกลคนหนึ่งคู่กับกวนจือมั่ว ทั้งสองคนได้รับการยกย่องว่าเป็นพี่น้องตระกูลมั่ว”

“ว้าว,ทรงพลังมาก!” ถังเทียนไม่สามารถเข้าใจได้ทุกอย่าง แต่กับวลีว่าปรมาจารย์วิศวจักรกลนั้น เขาเข้าใจดี

“ใช่แล้ว  แต่พวกเขามักทำตัวไม่โดดเด่นและเราคงยากจะได้ยินอะไรพิเศษเกี่ยวกับพวกเขา พวกเขาลึกลับมาก นอกจากการแข่งขันจักรกลสุดขอบฟ้าแล้ว พวกเขาไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรอื่น” เซรีนกล่าว

จู่ๆ ปิงถามขึ้นทันที  “อาวุธจักรกลของพวกเขาเป็นยังไงบ้าง?”

“มาตรฐานก็งั้นๆ”  เซรีนแค่นเสียง  “ข้าไม่เคยเห็นอาวุธจักรกลระดับสูงของพวกเขามาก่อน  แต่อาวุธจักรกลธรรมดาของพวกเขา ก็ไม่ถึงกับดีไม่ถึงกับแย่อะไร”

ปิงคิดลึก เขากวาดตามองดูพื้นที่อีกครั้งและเขาเหลือบไปเห็นภูเขาโดดเด่นไกลออกไป เขาชี้ไปที่นั่น  “ข้าไปจะตระเวนรออยู่บริเวณนั้น  ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้รีบออกจากเมืองข้าจะมารับพวกเจ้า”

“ก็ได้!”  ถังเทียนพยักหน้า

ปิงไม่ได้พูดอีกต่อไป และหายไปอย่างรวดเร็ว

ถังเทียนและเซรีนกำลังเตรียมตัวเข้าเมืองแต่ทันใดนั้นถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกายและชี้ไปที่คนๆ หนึ่ง “หวา,แมงมุมนั่นสวยจริงๆ”

ในตำแหน่งที่เขาชี้มีบุรุษคนหนึ่งนั่งอยู่บนแมงมุมโลหะสีแดงเข้มแมงมุมสีแดงตัวค่อนข้างใหญ่และบุรุษนั้นก็นั่งได้อย่างมั่นคงมันดูเหมือนมีชีวิตจริงมากและโลหะสีแดงผิวมันเลื่อมตลอดทั้งตัวแพรวพราวและงดงาม  การเคลื่อนไหวของแมงมุมแดงคล่องแคล่วมาก ขาทั้งหมดของมันเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วมาก

“นั่นคืออสูรจักรกลตัวหนึ่ง”  เซรีนชำเลืองตามอง แต่ก็ค่อนข้างประหลาดใจมาตรฐานของแมงมุมน่าทึ่งจริงๆ ด้วยมาตรฐานของเซรีนในปัจจุบัน การจะยกย่องผลงานของคนอื่นๆก็ถือว่าเป็นผลงานที่ประสบผลสำเร็จแล้ว

“เป็นอสูรจักรกลที่สวยจริงๆ!”  ถังเทียนน้ำลายไหล เขายกฟลามิงโกให้หลิงซิ่วไปแล้วและแมงมุมแดงตัวนี้ดูเคร่งขรึมและเย็นชาดูมีลักษณะดุร้ายและเย็นชาเป็นพิเศษ

บุรุษที่อยู่บนแมงมุมแดงได้ยินถังเทียนชมเชยก็รู้สึกยินดีเขาอดถามไม่ได้ “ยินดีที่ได้พบพวกท่านทั้งสองคน อยากจะขึ้นมาสนทนาด้วยกันไหม?”

เซรีนไม่ทันได้อ้าปากเงาข้างตัวนางก็ก็วูบผ่านไปแล้ว

“ตกลงได้เลย” ถังเทียนเผ่นขึ้นไปอยู่บนหลังแมงมุมแดง

เซรีนไม่มีทางเลือกได้แต่ตามไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด