2074 - สู่อาณาจักรเซียนอีกครั้ง
2074 - สู่อาณาจักรเซียนอีกครั้ง
ในวันนั้นสือฮ่าวได้นำสัตว์ประหลาดโบราณสี่ตัวไปกับเขาด้วย คราวนี้เขาค่อนข้างพอใจ และตัดสินใจว่าจะเข้าสู่อาณาจักรเซียนกับบุคคลทั้งห้านั้น
ทั้งห้าคนตื่นเต้นจนแทบจะโห่ร้องออกมา พวกเขาค้นพบว่าฮวงไม่ได้ล้อเล่น เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ว่าเขาแกล้งทำ เพียงแต่ว่าเขาไม่ใส่ใจที่จะเข้าสู่อาณาจักรเซียนจริงๆ
พวกเขาต้องการตะโกนว่า 'บรรพบุรุษเราผิดไปแล้ว รีบไปกันเถอะ'!
“ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่เป็นไร พวกเจ้าทุกคนกลับไปได้แล้ว และฝึกฝนอย่างถูกต้อง” สือฮ่าวกล่าว เขาลูบผมของอวิ๋นซีเบาๆจากนั้นก็เตือนมู่ชิงและคนอื่นๆให้กลับไป
ประตูอาณาจักรเซียนถูกเปิดออกอีกครั้งและสือฮ่าวก็เดินเข้าประตูมุ่งหน้าสู่อาณาจักรเซียน!
เจตจำนงอันทรงพลังพุ่งออกมาจากหลังประตู มันเย็นยะเยือกและไร้ความปรานี มันค้นหาร่างกายของสือฮ่าวปรารถนาที่จะเข้าใจแก่นแท้ของจิตวิญญาณของเขาและสิ่งอื่นๆ
“ถือคำเชิญให้ดี ไม่อย่างนั้นถ้ามีอะไรผิดพลาดเจ้าจะต้องรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา!” เด็กหนุ่มชุดขาวเตือนอย่างเย็นชา
ฮวงได้เข้าสู่อาณาจักรเซียนแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องลดตัวลงมาแสดงความสุภาพอีกต่อไป
จิ!
มีแสงระยิบระยับส่องประกายราวกับแสงตะวันหลากสีสันที่ส่องสว่างทั่วทั้งจักรวาล มันปกคลุมสวรรค์และปฐพี ล้อมรอบสือฮ่าวจากด้านล่าง
วิญญาณของสือฮ่าวเคลื่อนไหว ทักษะเต๋าของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก กลายเป็นไม่เสถียรเล็กน้อย ราวกับว่าเขาถูกบางสิ่งบางอย่างเจาะเข้าไปในร่างกาย เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หมอกสีดำปรากฏขึ้นบนผิวกายของเขา พวกมันปลดปล่อยเสียง ชี่ชี่ ราวกับว่าน้ำแข็งและหิมะสัมผัสกับไฟพวกมันเริ่มละลายและกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
“เจ้าควรจะขอบคุณพวกเราในครั้งนี้ เพราะเจ้าถือคำเชื้อเชิญไว้กับมือร่างกายของเจ้าจึงบริสุทธิ์” เด็กหนุ่มผมม่วงกล่าว
สิ่งที่อาณาจักรเซียนกลัวมากที่สุดคือเรื่องความมืด ประตูทุกบานจะได้รับการปกป้องอย่างเข้มงวด ด้วยวิธีนี้สิ่งมีชีวิตแห่งความมืดจะไม่มีที่หลบซ่อน ไม่สามารถข้ามไปได้
สือฮ่าวขมวดคิ้ว หลังจากฝึกฝนมาเป็นเวลานานในสามพันแคว้นเขาได้ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด ไม่คิดว่าพวกมันจะสามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายเขาได้จริงๆ
แน่นอนว่าสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการที่เขาสัมผัสโดยตรงกับโลหิตแห่งความมืด
ดินแดนอมตะนั้นใหญ่มาก กว้างใหญ่และไร้ขอบเขตจริงๆ แม้แต่สิ่งมีชีวิตในโลกนี้เองก็ไม่ได้สำรวจขอบเขตของมันอย่างสมบูรณ์ มีสถานที่บางแห่งที่แม้แต่ราชาอมตะไม่ได้เข้าไป
หลังจากที่พวกเขาเข้าสู่ดินแดนอมตะ สิ่งที่พวกเขาเผชิญคือเมืองยักษ์ที่เฝ้าประตูนี้ จากนั้นพวกเขาก็ยืมค่ายกลขนส่งที่นี่เพื่อเดินทางไปยังอีกเมืองหนึ่งที่อยู่ห่างไกลนับล้านลี้
มิฉะนั้นแม้จะเป็นผู้สูงสุดแต่พวกเขาก็ต้องใช้เวลาหมื่นปีในการบินข้ามไป
ยิ่งกว่านั้นแม้แต่ค่ายกลอันยิ่งใหญ่นี้ก็ไม่สามารถส่งพวกเขาไปถึงจุดหมายในครั้งเดียว พวกเขาต้องใช้ค่ายกลจากเมืองต่างๆหลายทอดถึงจะไปถึงเมืองใหญ่นั้นได้
เมืองใหญ่ที่ปกคลุมท้องฟ้า สูงตระหง่านในอากาศ หมุนวนด้วยพลังแห่งความโกลาหล ดวงดาวที่ยิ่งใหญ่ล้อมรอบเมืองนี้กลายเป็นกำแพงที่คล้ายกับเมืองจักรพรรดิในชายแดนรกร้าง
เมื่อดวงดาวพวกนั้นถูกรวมกันเข้าพวกมันเปลี่ยนเป็นสีม่วง สัญลักษณ์เต๋าที่ยิ่งใหญ่ถูกสลักอยู่บนผนัง เมืองทั้งเมืองมีความเก่าแก่และยิ่งใหญ่ นี่เป็นหนึ่งในเมืองอมตะที่ไม่มีวันล่มสลาย
ในสถานที่ประเภทนี้แม้แต่ผู้อมตะที่แท้จริงก็สามารถเห็นได้ในบางครั้ง
เป็นเพราะเมืองเหล่านี้ต้องมีผู้เป็นอมตะที่แท้จริงคอยดูแลพวกมันตลอดทั้งปี ผู้อมตะที่แท้จริงไม่อาจละเลยและทิ้งเมืองออกไปได้แม้เพียงผู้เดียว
นี่คือเมืองอมตะในดินแดนของอาณาจักรเซียนมีชื่อว่าเมืองอมตะทองคำม่วง
พวกเขาจำเป็นต้องแวะพักที่นี่และใช้ค่ายกลขนาดใหญ่เพื่อเดินทางต่อ สือฮ่าวจำเป็นจะต้องเข้าพบผู้อมตะที่แท้จริงเพื่อให้เขาตรวจสอบตัวตนและจึงจะอนุญาตให้เดินทางต่อได้
มันเป็นเรื่องที่เข้มงวดมาก ผู้อมตะที่แท้จริงที่ปรากฏขึ้นเป็นการส่วนตัว มีข่าวลือว่าเขาเป็นเจ้าเมืองนี้ ตอนนี้เขากำลังตรวจสอบบัตรเชิญอย่างจริงจัง
“นั่นเป็นเพราะเจ้ามาจากโลกที่เหี่ยวแห้งและยากจนนั้น” เด็กหนุ่มชุดขาวพูดด้วยความเย่อหยิ่งผยองเล็กน้อย
สือฮ่าวกวาดสายตามองเขา คนพวกนี้คิดว่าตัวเองวิเศษวิโสมากกว่าผู้คนจากเก้าสวรรค์สิบพิภพทั้งที่ความจริงพรสวรรค์ของพวกเขาไม่มีอะไรเลย
“ฝ่ายเจ้ามีเคราะห์ร้ายและแปลกประหลาด ท่านต้องตรวจสอบให้ดี” เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มผมสีม่วงจะดุร้ายแต่เขาก็ไม่กล้ากระทำรุนแรงมากเกินไป
“สถานที่ที่เราต้องไปคือเมืองราชาพาน นี่เป็นหนึ่งในเมืองที่ทุกอย่างภายในรัศมีล้านล้านลี้อยู่ภายใต้การปกครองของราชาพานดังนั้นผู้คนที่นี่จึงต้องระวัง” อีกคนกล่าว.
เมืองราชาพานคือเมืองราชาอมตะที่แท้จริง และเป็นเมืองโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของอาณาจักรเซียน ไม่มีใครกล้าทำตัวโอหังไม่เคารพกฎหมายของที่นั่น ไม่รู้ว่ามันเฟื่องฟูมากี่ยุคสมัยแล้วกันแน่
ราชาพานเป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่ไม่มีใครเทียบได้ของดินแดนอมตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของอาณาจักรเซียนอีกด้วย
เขาอาศัยอยู่มาเป็นเวลานานอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเขามาจากไหนอย่างแน่นอน
สถานะของเขาเทียบเท่ากับราชาอมตะเอ๋าเฉิงทั้งคู่มีพลังที่จะกวาดล้างศัตรูทั้งหมดภายใต้ท้องฟ้า
ราชาอมตะทั้งสองอยู่ใกล้กัน ไม่เคยต่อสู้กันเอง ดังนั้นไม่มีใครรู้ว่าผู้ใดอ่อนแอกว่าและผู้ใดแข็งแกร่งกว่า
เมื่อสือฮ่าวได้รู้สิ่งเหล่านี้เขาพยักหน้า เขากำลังจะไปที่เมืองราชาพานจริงๆ เขาไม่รู้ว่าการพบปะอันโดดเด่นจะเป็นเช่นไร
ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการทำเรื่องที่ผิดจึงได้เอ่ยปากถามเด็กหนุ่มชุดม่วงเลยตรง
“การชุมนุมที่โดดเด่นนั้นเป็นการชุมนุมของตระกูลนับหมื่น มีเพียงตระกูลอมตะเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมได้ ข้าคิดไม่ออกจริงๆ ว่าผู้ฝึกฝนอิสระจากโลกที่ยากจนอย่างเจ้ามีสิทธิ์ที่จะไปได้อย่างไร เจ้ามีคุณสมบัติอะไร?!” เด็กหนุ่มชุดขาวตอบอย่างเย็นชา
“เจ้าลืมไปแล้วเหรอว่าเจ้าถูกร่างอวตารของข้าจัดการอย่างไร? เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นคนของอาณาจักรเซียนเจ้าก็สามารถหยิ่งผยองได้อย่างนั้นหรือ หากเจ้ายังกล้าสร้างความรำคาญให้ข้าอีกรับรองว่าข้าจะตบเจ้าให้ตาย!” สือฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
“เจ้า…” เด็กหนุ่มชุดขาวจ้องเขม็ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาไม่คิดว่าแม้กระทั่งเข้าสู่อาณาจักรเซียนแล้วแต่ฝ่ายตรงข้ามก็ยังไม่ก้มหัวลง
สายตาของสือฮ่าวเต็มไปด้วยความเย็นชาในตอนนี้ไอสังหารของเขาถูกปลดปล่อยออกมาเล็กน้อย มันสร้างความกดดันเป็นอย่างมากต่อเด็กหนุ่มชุดขาว
เด็กหนุ่มชุดขาวพูดไม่ออกได้แต่ถอยห่างออกไปแล้วบ่นเบาๆว่า “ไอ้บ้าเอ๊ย… เขาเป็นคนบ้าจริงๆ!” แม้กระทั่งเข้าสู่อาณาจักรเซียนแล้วแต่เขาก็ยังมีความรู้สึกว่าฮวงอาจฆ่าเขาได้จริงๆ
ในตอนแรกเขาต้องการทดสอบความอดทนของฮวง ไม่คิดว่าฝ่ายตรงข้ามจะตอบโต้กลับมาอย่างรวดเร็ว
อีกทั้งตอนนี้พวกเขาออกจากคฤหาสน์ของเจ้าเมืองแล้วไม่แน่ว่าฮวงอาจจะฆ่าพวกเขาทุกคนที่นี่ในระหว่างการเดินทางก็ได้ ดินแดนเซียนนั้นกว้างใหญ่ไพศาล หากเขาจะหลบหนีไปก็คงเป็นไปได้ยากที่จะตามล่าตัวเขาได้
สือฮ่าวไม่รู้สึกกลัวใดๆเลยจริงๆ มีสัตว์ประหลาดเฒ่าสี่ตัวนอนหลับอยู่ภายในตัวเขา เมื่อรวมกับธูปดอกนั้นและตัวเขาแล้วต่อให้ราชาอมตะมาเองเขาก็มั่นใจว่าจะหนีได้อย่างแน่นอน
ราชันย์ดินแดนปิดผนึกได้บอกเขาแล้วว่าเพียงธูปดอกเดียวก็สามารถทำให้ราชาอมตะของดินแดนนี้หน้าถอดสีได้ ยังมีอะไรที่เขาต้องกลัวอีก?
ระยะทางจากเมืองอมตะทองคำม่วงถึงเมืองราชาพานนั้นไกลมาก จริงๆแล้วมีจักรวาลอันกว้างใหญ่หลายแห่งแยกพวกมันออกจากกัน
สิ่งนี้ทำให้สือฮ่าวตกตะลึง อาณาจักรเซียนไม่ได้อยู่ในจักรวาลเดียวกันใช่ไหม
“จักรวาลโบราณที่แตกต่างกันเหล่านี้ได้รวมเข้าด้วยกันแล้ว ตอนนี้จึงกลายเป็นแผ่นดินเดียวกัน ไม่มีใครรู้ว่าดินแดนนี้กว้างใหญ่ไพศาลมากแค่ไหน” มีคนพยายามอธิบายเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
ไม่อย่างนั้นหากเด็กหนุ่มชุดขาวถูกฮวงฆ่าตายไปจริงๆ บางทีพวกเขาอาจจะถูกฆ่าปิดปากไปด้วย
สือฮ่าวตกใจมาก ระหว่างทางเขาค่อยๆได้เรียนรู้ว่าเมืองอมตะสามารถปกครองจักรวาลอันกว้างใหญ่ จำนวนผู้อมตะที่แท้จริงที่ควบคุมอยู่นั้นคือจำนวนจักรวาลโบราณที่รวมเข้าด้วยกัน
อาณาเขตนี้… ใหญ่โตอย่างไม่น่าเชื่อ!
“เจ้าคงไม่รู้สินะว่าภายในจักรวาลอันยิ่งใหญ่แห่งเดียวจะสามารถหล่อเลี้ยงผู้อมตะได้คนเดียวเท่านั้น” เด็กหนุ่มชุดขาวเย้ยหยัน
ตามที่พวกเขากล่าวว่าสิ่งที่ผู้อมตะที่แท้จริงต้องการนั้นน่าตกใจเกินไป
พวกเขาใช้อาณาจักรดาราขนาดใหญ่ในการเลี้ยงดูความศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง หากพวกเขาอยู่ในจักรวาลเดียวกันมันก็เพียงพอที่จะทำลายดวงดาวทั้งหมด