ตอนที่แล้วตอนที่ 9-8 เซียนกระบี่อัจฉริยะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9-10 สองอัจฉริยะ

ตอนที่ 9-9 ลินลี่ย์กับโอลิเวอร์


“ลินลี่ย์, ออกมา!”

โอลิเวอร์ระเบิดเสียงตะโกนกึกก้องไปทั้งสนามประลอง  แต่ลินลี่ย์ดูเหมือนจะทำเป็นหูหนวก เขายังคงคุกเข่าอยู่ข้างน้องชายของเขาพูดอะไรบางอย่างกับน้องชายเหมือนกับไม่ได้ยินเสียงตะโกนของโอลิเวอร์แม้แต่น้อย

โอลิเวอร์ยืนอยู่ในกลางอากาศอดขมวดคิ้วไม่ได้

“อาจารย์ลินลี่ย์กำลังทำอะไร?  เขาไม่ได้ยินหรือ?”

“เป็นไปไม่ได้ บางทีเขาคงกลัวโอลิเวอร์กระมัง?”

…..

ผู้คนในสนามแข่งขันต่างงงงวยที่ลินลี่ย์ไม่มีปฏิกิริยา  หลังจากตะโกนอย่างโมโหแล้วโอลิเวอร์ก็เงียบและจ้องมองลินลี่ย์อย่างเย็นชาจากกลางอากาศ

หลังจากจบการสนทนากับน้องชายแล้วลินลี่ย์ค่อยหันมาและมองดูโอลิเวอร์ ในทันใดนั้น...

ทั้งสองฝ่ายสบตากันฝ่ายหนึ่งอยู่บนพื้น และอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ในกลางอากาศ

สายตาของพวกเขาดูเหมือนปะทะกันกลางอากาศราวกับเป็นการโจมตีกันทางกายภาพ

“โอลิเวอร์” ใบหน้าลินลี่ย์มีรอยยิ้ม  เขาพูดอย่างสงบ  “ตั้งแต่มาถึงจักรวรรดิโอเบรียนข้าได้ยินผู้คนสรรเสริญเจ้าว่าเป็นเซียนกระบี่อัจฉริยะ  จริงหรือเปล่า?เนื่องจากเจ้าเป็นระดับเซียนตอนอายุสี่สิบปี ข้าไม่เห็นว่าจะทำให้เจ้าเป็นอัจฉริยะตรงไหนเลย”

โอลิเวอร์ย่นหน้าผากเล็กน้อย

ลักษณะการพูดข่มของลินลี่ย์ทำให้ผู้ชมทั้งแปดหมื่นตื่นเต้นมากขึ้น  โอวสวรรค์อัจฉริยะทั้งสองคนเป็นปฏิปักษ์ต่อกันเสียแล้ว

นี่จะเป็นการประลองที่แท้จริงของอัจฉริยะทั้งสอง

การประลองระหว่างลินลี่ย์กับโอลิเวอร์เห็นได้ชัดว่าเป็นระดับที่แตกต่างจากการประลองระหว่างบลูเมอร์และวอร์ตัน การสู้รบระหว่างพี่ชายจะเป็นการประลองระหว่างสุดยอดอัจฉริยะในทวีปยูลาน

การประลองครั้งนี้กำลังจะเริ่มอยู่แล้ว

ทันใดนั้นลินลี่ย์ขึ้นตรงไปที่อากาศเหนือเวทีประลองเพียงหลังจากที่เขาหยุดภาพเขาที่อยู่ข้างล่างจึงเลือนรางหายไป

เร็วจนน่ากลัว

“ครืนนน...” เกล็ดมังการสีดำครอบคลุมทั้งตัวอย่างรวดเร็วหลาวหนามที่ร้ายกาจขึ้นมาตามสันหลัง เข่า ศอกและหน้าผากของเขา  เกล็ดมังกรหางมังกรสีดำเปล่งประกายแสงเยือกเย็นเลือนลาง

ลินลี่ย์ลอยอยู่ในกลางอากาศจ้องมองโอลิเวอร์ด้วยดวงตาสีทองเข้ม

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นร่างแปลงที่น่ากลัวอย่างนั้น แม้จะดูเหมือนสงบแต่แววประหลาดใจก็ปรากฏอยู่ในดวงตาของโอลิเวอร์  แต่เขารีบสงบอารมณ์เป็นปกติอย่างรวดเร็ว

“นักรบเลือดมังกรระดับเซียน?”  โอลิเวอร์มองดูลินลี่ย์  รังสีปราณยุทธที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมาจากร่างของเขา  “เจ้าไม่ใช่ระดับเซียนก่อนแปลงร่าง ดูเหมือนสภาพปัจจุบันของเจ้ายังไม่ใช่สภาพที่ทรงพลังมากที่สุดและช่วงเวลาของนักรบเลือดมังกร... น่าเสียดาย... น่าเสียดายยิ่งนัก...”

ความจริงโอลิเวอร์ต้องการสู้กับนักรบเลือดมังกรระดับเซียนชั้นสูงในตำนาน

“โอลิเวอร์, คนเราควรรู้จักประมาณตัวเองบ้าง” เสียงเย็นชาของลินลี่ย์ดังก้องไปทั้งสนามประลอง  “เจ้าคิดว่าอย่างเจ้าจะเป็นคู่มือของสุดยอดนักรบได้หรือ?”

เซียนอัจฉริยะทั้งสองจ้องมองกันกลางอากาศ  ทุกคนกลั้นหายใจจ้องมองการต่อสู้ที่พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนนี้อย่างระมัดระวัง

“ลินลี่ย์!”

โอลิเวอร์เอื้อมมือไปด้านหลัง  บนหลังของโอลิเวอร์มีกระบี่ยาวอยู่สองเล่ม หนึ่งในนั้นเป็นกระบี่ใสมีลักษณะคล้ายกระบี่ฝันยะเยือก  กระบี่อีกเล่มหนึ่งสีดำสนิท

“สู้กับเจ้าใช้วิชากระบี่เงาแสงก็พอแล้ว” โอลิเวอร์ชักกระบี่ยาวที่ใสเหมือนก้อนน้ำแข็ง  กระบี่นี้จริงๆ แล้วเหมือนกับกระบี่ของบลูเมอร์มันคือกระบี่ฝันยะเยือกเล่มหนึ่ง

แค่เพียงพลิกมือ กระบี่ยืดหยุ่นเลือดม่วงที่ดูชั่วร้ายก็ปรากฏ

“พูดพอแล้ว พลังฝีมือต้องผ่านการพิสูจน์ด้วยการกระทำไม่ใช่คำคุยโว” ลินลี่ย์ไม่ให้ความสนใจความเย่อหยิ่งของโอลิเวอร์แม้แต่น้อย

แววมั่นใจในตนเองฉายอยู่ในดวงตาของโอลิเวอร์  ขณะจ้องมองกระบี่ฝันยะเยือกในมือของเขา  เขาพึมพำ “หลังจากข้าบรรลุถึงระดับเซียนและเอาชนะดิลลอนได้  ข้าตระเวนไปตามประเทศต่างๆได้พบกับยอดฝีมือระดับเซียนสิบแปดคนและเอาชนะในการสู้แต่ละครั้ง  น่าเสียดายไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถรับมือกับความเร็วของข้าได้”

เสียงพึมพำประหลาดใจดังมาจากผู้ชมทั้งแปดหมื่นคน

ไม่มีใครรู้ว่าโอลิเวอร์ผ่านการต่อสู้อย่างโชกโชนกับนักสู้ระดับเซียนมาถึงสิบแปดคน

โอลิเวอร์มองดูลินลี่ย์แววมั่นใจในตนเองยังฉายอยู่ในดวงตาของเขา “โดยทั่วไปคนที่ไม่สามารถรับมือกับความเร็วของข้าได้จะต้องพ่ายแพ้แน่นอน”  ขณะพูดกระบี่ฝันยะเยือกในมือของโอลิเวอร์เริ่มฉายแสงสีขาวม้วนพันไปตามผิวกระบี่

เมื่อเห็นเช่นนี้ลินลี่ย์เริ่มเพิ่มความระมัดระวัง

ลินลี่ย์สามารถจำได้ชัดเจนถึงวิธีที่บลูเมอร์ใช้วิชากระบี่เงาแสงนี้แสงบนตัวกระบี่เป็นสีทองเพียงแต่หลังจากนั้นเมื่อบลูเมอร์ใช้เคล็ดวิชาต้องห้ามจึงค่อยทำให้กระบี่ฝันยะเยือกกลายเป็นแสงสีขาว

แม้ว่าจะเป็นเพียงแสงสีขาว แต่พลังโจมตีของกระบี่ฝันยะเยือกก็มากเป็นทวีคูณนับสิบเท่า

เดิมทีกระบี่ฝันยะเยือกไม่สามารถทำอันตรายวอร์ตันได้ แต่หลังจากนั้นมันสามารถแทงทะลุฝ่ามือของวอร์ตันและทะลุผ่านเกล็ดอกของวอร์ตันได้และนั่นคือข้อสังเกตของแสงขาว

แต่โอลิเวอร์เล่า?  มันคือแสงบริสุทธิ์

“พลังของการโจมตีนี้มีแนวโน้มว่าจะทรงพลังมากกว่าการทุ่มโจมตีอย่างจนตรอกของบลูเมอร์”ลินลี่ย์เตรียมพร้อมสำหรับรับมือเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง

“ลินลี่ย์, ข้าเกรงว่าวันนี้ โลกจะต้องสูญเสียอัจฉริยะไปอีกคนหนึ่ง”  โอลิเวอร์พูดเบาๆด้วยเสียงที่ราบเรียบและจากนั้นแสงสีขาวเริ่มกระพริบต่อเนื่อง

แสงสีขาวกระพริบในแต่ละครั้งเงาร่างของโอลิเวอร์จะปรากฏอยู่ในกลางอากาศเหนือเวทีต่อสู้ร่างแล้วร่างเล่า  พลังและผลของแสงกระพริบสีขาวนี้สูงกว่าวิชาที่บลูเมอร์ใช้มากนัก  ในพริบตาเงาร่างของโอลิเวอร์ 108ร่างก็ปรากฏอยู่ในท้องฟ้า

ทุกคนตกตะลึงจนพูดไม่ออก

“น้องสาม” เยลและเรย์โนลด์ต่างกระวนกระวายมากจนพวกเขาเริ่มหลั่งเหงื่อ  วอร์ตัน บาร์เกอร์และน้องๆรีเบ็คกาและเจนน์ต่างมองด้วยความกังวลเช่นกัน

บลูเมอร์ที่ได้รับบาดเจ็บตรงกันข้าม กลับมองด้วยความมั่นใจ

“บลูเมอร์วิชากระบี่เงาแสงของพี่ชายเจ้าเข้าถึงระดับที่สมบูรณ์แล้ว  ในท้องฟ้าเต็มไปด้วยเงาร่างของเขา” เฮนด์เซนเซียนกระบี่จ้าวภูผาที่นั่งอยู่ในที่นั่งผู้ตัดสินยิ้มให้บลูเมอร์อย่างใจเย็น

หน้าของบลูเมอร์เต็มไปด้วยความมั่นใจ

…..

ลินลี่ย์ที่มีท่าทางดุดันร้ายกาจยืนอยู่ในกลางอากาศตอนนี้ถูกร่างเงาทั้ง108 ร่างล้อมเอาไว้ ลินลี่ย์ยอมรับว่าความเร็วนี้น่าประหลาดใจแน่นอน

“ลินลี่ย์, เจ้าพร้อมหรือยัง?”  ความจริงโอลิเวอร์บอกเตือนลินลี่ย์

เห็นได้ชัดว่าโอลิเวอร์รู้สึกมั่นใจมาก

ลินลี่ย์เพียงหัวเราะอย่างใจเย็น

ประกายแสงสีขาวสว่างวาบขึ้นแสบนัยน์ตา  แม้แต่ลินลี่ย์ก็ยังต้องหรี่ตา  แต่ขณะนั้นเองกระบี่ฝันยะเยือกที่มีแสงขาวคลุมทั้งหมดก็พุ่งมาถึงศีรษะลินลี่ย์และแทงเข้าไปตรงๆ

“อา!”

ทุกคนส่งเสียงร้องแตกตื่นอย่างต่อเนื่อง  ลินลี่ย์จะตายอย่างนั้นหรือ?

แต่ไม่มีร่องรอยว่าเลือดจะไหลออกมาจากศีรษะลินลี่ย์  แม้จะถูกแทงด้วยกระบี่ฝันยะเยือก  ทันใดนั้นลินลี่ย์ค่อยๆ จางหายไปมันเป็นแค่เพียงเงาของลินลี่ย์

“เจ้าเร็วมากจริงๆ  แต่น่าเสียดาย อยู่ต่อหน้าข้าเจ้ายังไม่มีคุณสมบัติพอจะหยิ่งในเรื่องเช่นนี้ได้”  เสียงของลินลี่ย์ดังจากอากาศห่างออกไปร้อยเมตร

โอลิเวอร์จ้องมองลินลี่ย์ในที่ห่างออกไป  สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้น

“รวดเร็วเหลือเชื่อจริงๆ!” ตาของเซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนจับจ้องมองมาจากที่นั่งผู้ตัดสิน  นัยน์ตาเขาเป็นประกาย ความเร็วของลินลี่ย์มิได้ด้อยไปกว่าโอลิเวอร์เลย

คลื่นเสียงฮือฮาประหลาดใจดังอยู่ทั่วสนามประลอง  และจากนั้นความเงียบก็กลับมาอีกครั้ง

ผู้ชมทุกคนรู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณของพวกเขายังตกใจกับการรบที่น่าตื่นตะลึง

“อย่างนั้นหรือ?”  หน้าของโอลิเวอร์เย็นชามากขึ้น  เขาไม่เคยพบคนที่เร็วกว่าเขา  สำหรับคนที่เร็วพอๆ กับเขามีอยู่เพียงคนเดียวคือเซียนดาบจ้าวภูผา เขาไม่เชื่อว่าเด็กหนุ่มลินลี่ย์จะทัดเทียมเท่าเขา

ที่สำคัญความเร็วของเขาเร็วมากจนเหนือขีดความสามารถของมนุษย์ไปมาก

เคล็ดกระบี่นี้และเคล็ดความเคลื่อนไหวอาศัยความรู้แจ้งในกฎแห่งธาตุแสงของโอลิเวอร์  เคล็ดท่าร่างนี้ ตามหลักการก็สามารถถึงระดับความเร็วแสงด้วยตัวมันเอง  อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อจำกัดทางร่างกายของเขาและปราณยุทธของเขา  เขาจึงทำได้ในความเร็วระดับปัจจุบันนี้

“เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ?”  ลินลี่ย์หัวเราะ

แสงสีขาวกระพริบอีกครั้งหนึ่ง  ลินลี่ย์เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกันระดับความเร็วของทั้งสองคนนั้นน่ากลัวมาก

เงาร่างที่พร่าเลือนปรากฏอยู่ในทุกที่

เงาร่างพร่าเลือนนับไม่ถ้วนปรากฏอยู่ในทุกที่  ผู้ชมทั้งแปดหมื่นรู้สึกว่าภาพเลือนรางยิ่งมากขึ้นพวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าร่างไหนคือร่างลินลี่ย์หรือร่างโอลิเวอร์ตัวจริง

“เร็วจนน่าทึ่ง”ขณะที่พวกเขาประลองความเร็วกันจริงๆ ลินลี่ย์อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้  “ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะความจริงที่ว่าข้าได้ร่ายเวทเงาลมไว้ล่วงหน้าข้าก็คงรับมือความเร็วของโอลิเวอร์นี้ไม่ได้แน่”

ลินลี่ย์เร็วจริงๆ

แต่การรู้แจ้งซึ่งโอลิเวอร์ได้รับเกี่ยวกับกฎธรรมชาติธาตุแสงทรงพลังมาก  อย่างไรก็ตามได้รับการสนับสนุนจากเวทเงาลมซึ่งเป็นเวทความเร็วที่ทรงพลังมากที่สุด  ความเร็วของลินลี่ย์ก็ยกระดับขึ้นมาเทียบเท่ากับของโอลิเวอร์

“ควั่บ!”

ร่องลึกสายหนึ่งปรากฏอยู่บนเวทีประลอง  เห็นได้ชัดว่าเป็นรอยตัดจากกระบี่ยาว แต่จากนั้นในพริบตาเดียวหลุมลึกใหญ่ก็ปรากฏพร้อมกับเสียงดังปานฟ้าผ่า

ผู้ชมทั้งแปดหมื่นคนจับจ้องเบิกตาค้างไม่ต้องพลาดแม้แต่นิดเดียว

“แม่เจ้าโว้ย, เร็วเป็นบ้า อาจารย์ของสถาบันของเรามัวแต่คุยโม้โอ้อวด  แต่เมื่อเทียบกับคนพวกนี้แล้วไง?  เขาก็แค่เด็กหัดเดินเท่านั้น”  เมื่อชมการต่อสู้ครั้งนี้ เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งตื่นเต้นจัดจนตาแดงเส้นเลือดขึ้น

คนทั้งแปดหมื่นคนเหล่านี้บางทีไม่เคยเห็นการต่อสู้ด้วยความเร็วสูงขนาดนี้มาก่อนในชีวิตของพวกเขา

การต่อสู้รูปแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อนักสู้ทั้งสองคนมีความเร็วพอๆกัน  ถ้าคนใดคนหนึ่งช้าเกินไป  การต่อสู้จะจบลงทันที

“บึ้ม!”

หางมังกรดำของลินลี่ย์เฉียดผ่านชุดของโอลิเวอร์กระแทกใส่เวทีประลองอย่างรุนแรงทำให้เวทีทุกตารางนิ้วแตกร้าว ในทันทีต่อมาลินลี่ย์และโอลิเวอร์ก็หายไปทั้งคู่

การต่อสู้ใช้ความเร็วสูงมาจนผู้ชมสามารถเห็นได้แต่เพียงเงาและภาพเลือนรางเมื่อร่างทั้งสองคนลดความเร็วลง ความเร็วของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นพลังโจมตี  แต่ทันทีที่นักสู้กลับสู่ระดับเร็วสูงสุดทำให้พวกเขาไม่เห็นแม้แต่เงา

“ควั่บ!”

พายุหมุนดูเหมือนปั่นออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยในกลางสนามประลอง  ขณะที่เสียงลมหวีดหวิว ผู้ชมทั้งแปดหมื่นคนแทบจะไม่สามารถจำแนกร่างทั้งสองที่ยืนจ้องกันอยู่ในกลางสายลมได้เลย

ลมรุนแรงค่อยๆ สงบลง

โอลิเวอร์มองดูลินลี่ย์อย่างจริงจัง  กระบี่ฝันยะเยือกในมือของเขาเปล่งแสงสีรุ้งงดงามเหมือนภาพลวงตา

ขณะที่ลินลี่ย์ผู้ร้ายกาจส่ายหางที่อยู่ด้านหลังและกระบี่เลือดม่วงในมือของเขามีแสงสีม่วงแปลกประหลาดครอบคลุม

รังสีที่สะกดข่มกันเต็มอยู่ในสนามประลอง

“ข้ายอมรับว่าความเร็วของเจ้าไม่ต่ำทรามกว่าข้า”  โอลิเวอร์กล่าว

ดวงตาสีทองเข้มของลินลี่ย์จับจ้องอยู่ที่ร่างของคู่ต่อสู้  เขากล่าวอย่างใจเย็น  “และความเร็วของเจ้าก็ไม่ต่ำทรามกว่าข้าเหมือนกัน”  หลังจากลองเชิงเพียงแค่นั้นยอดฝีมือทั้งสองก็พบว่าไม่มีใครได้เปรียบกันในเรื่องความเร็ว

ถ้าพวกเขายังคงสู้กันในเรื่องความเร็วต่อไป  ก็คงไม่มีที่จบสิ้น

“เจ้ากล้ารับการโจมตีของข้าตรงๆ หรือไม่?”  โอลิเวอร์จ้องมองลินลี่ย์  ปราณยุทธทะลักออกมาจากตัวเขา

“ทำไมจะไม่กล้าเล่า?” ร่างของลินลี่ย์ก็เริ่มเปล่งปราณยุทธที่ดุดันออกมาเช่นกัน

ผู้ชมทั้งแปดหมื่นตื่นเต้นมากจนพวกเขาเริ่มสั่นสะท้าน  โอวสวรรค์โปรดยอดฝีมือทั้งสองกำลังจะสู้กันตรงๆ แล้ว แม้แต่เฮนด์เซนเซียนดาบจ้าวภูผาก็มองอย่างระมัดระวัง

สำหรับบลูเมอร์วอร์ตันและคนอื่นๆ พวกเขาต่างกระตือรือร้นที่เห็นพี่ชายของตนได้รับชัยชนะ

ลินลี่ย์และโอลิเวอร์จ้องกันกลางอากาศ  ในเวลาเดียวกันนั้นเองเคลื่อนเข้าหากัน

“ปัง!” เสียงระเบิดคลื่นกำแพงความเร็วเสียงปะทุออกมาจากพวกเขาเหมือนกับว่าพวกเขาใช้ระดับความเร็วที่น่ากลัว

ขณะที่พุ่งโจมตีใส่ลินลี่ย์ ร่างของโอลิเวอร์ดูเหมือนจะแยกออกเป็นเจ็ดหรือแปดคน และกระบี่ฝันยะเยือกในมือของเขาเปลี่ยนเป็นเงากระบี่นับล้าน

“เจ้าต้องการแข่งความเร็วกระบี่กับข้าหรือ?”

กระบี่เลือดม่วงในมือของลินลี่ย์กระพริบ จากนั้นในพริบตาร่างของลินลี่ย์ดูเหมือนจะถูกพายุหมุนล้อมเอาไว้  ขณะเดียวกันประกายแสงสีม่วงนับไม่ถ้วนฉกเข้าใส่โอลิเวอร์อย่างต่อเนื่อง

“แคล้ง แคล้ง  แคล้ง  แคล้ง!”

เสียงปะทะกันถี่ยิบสามารถได้ยินได้ และจากนั้นหางมังกรของลินลี่ย์ก็เปลี่ยนเป็นภาพเลือนรางเช่นกันและกระแทกใส่โอลิเวอร์อย่างดุดัน

“แคล้ง”กระบี่ฝันยะเยือกในมือของโอลิเวอร์ปะทะกับหางมังกรของลินลี่ย์จากนั้นเขาถอยออกไปด้วยความเร็วสูง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด