ตอนที่แล้วตอนที่ 9-6 การประลอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9-8 เซียนกระบี่อัจฉริยะ

ตอนที่ 9-7 ตั้งใจสร้างบาดแผลร้ายแรง


“บึ้ม!” มือซ้ายที่คลุมไปด้วยเกล็ดมังกรพุ่งขึ้นมาจับกระบี่ฝันยะเยือกในมือของบลูเมอร์ไว้แน่น  แม้จะมีพลังโจมตีของเขา แต่บลูเมอร์ยังไม่สามารถทำให้กระบี่ฝันยะเยือกแทงไปข้างหน้าได้แม้แต่นิ้วเดียว  ฝ่ามือซ้ายของวอร์ตันกดปลายกระบี่ฝันยะเยือกไว้

สีหน้าของบลูเมอร์เปลี่ยน

หนี!

บลูเมอร์ถอนกระบี่กลับอย่างสุดแรงและหงายไปด้านหลังโดยเร็วกดหลังลงเกือบติดพื้นเวทีซึ่งในขณะนี้หางมังกรของลินลี่ย์กำลังฟาดใส่บลูเมอร์

ถ้าบลูเมอร์ไม่กดร่างแนบพื้นเขาจะถูกฟาดอย่างแน่นอน

“เฮ้อ”บลูเมอร์ยืนอยู่ที่ขอบเวทีประลองอีกครั้งหอบหายใจเล็กน้อย เกือบไปแล้วเขาเกือบถูกหางมังกรของวอร์ตันฟาดใส่เสียแล้ว

บลูเมอร์ปวดหัว  พลังป้องกันของวอร์ตันทรงพลังเกินไป พลังโจมตีของขาไม่สามารถทำลายพลังป้องกันนั้นได้เลย

“หรือว่าวิชานั่นเป็นเพียงเงื่อนไขเดียวของข้า?” บลูเมอร์มีความเข้าใจวิชากระบี่เงาแสงอย่างลึกซึ้ง  แต่กับที่โอลิเวอร์สอนให้เขา  เขายังสามารถกระตุ้นพลังโจมตีสูงสุดของกระบี่เงาแสงได้

…..

ทุกคนในสนามแข่งขันประลองกลั้นลมหายใจ  ยอดฝีมือเหล่านี้สู้กันด้วยความเร็วสูงเกินไปทำให้เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะมองเห็นได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น  พวกเขาเพียงแต่เห็นว่าบลูเมอร์ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นเงาร่างสิบหกร่างเคลื่อนไหวไปมาคล้ายเทเลพอร์ต

แต่วอร์ตันเหมือนปราสาทมั่นคง  ไม่ว่าบลูเมอร์จะโจมตียังไงเขาก็ไม่สามารถทำร้ายวอร์ตันได้

“ถ้าเจ้าไม่รุกใส่ข้า  อย่างนั้นตาข้ารุกใส่เจ้าบ้าง”  เสียงของวอร์ตันดังขึ้นในสนามประลองแล้วจากนั้นวอร์ตันบุกเข้าใส่บลูเมอร์เป็นพายุ

บลูเมอร์เตรียมหลบทันที

แต่วอร์ตันดูเหมือนจะตัวเบาดาบศึกในมือของเขาฟันใส่ด้วยความเร็วอย่างคล่องแคล่วและฟันใส่กะโหลกของบลูเมอร์โดยตรง บลูเมอร์หงายหลังอย่างรวดเร็วขณะที่เท้ายันพื้นออกมาอย่างรวดเร็ว

“ควั่บ!”บลูเมอร์ถอยหลังออกมาด้วยความเร็วสูง

แม้ว่าเขาจะถอยออกมาด้วยความเร็วมาก  แต่ดาบศึกประหารปรปักษ์ก็ไวมากขึ้น  ขณะที่ดาบกำลังจะถึงบริเวณอกบลูเมอร์แยกขาทันทีและกลิ้งถอยหลัง

“บึ้ม!”ดาบศึกเฉียดหลังบลูเมอร์ไปกระแทกกับพื้น

ดาบศึก – ดาบเดี่ยวสังหาร!

“บึ้ม!” เวทีประลองทั้งหมดเริ่มสั่นสะเทือนและม่านเวทที่ร่ายเวทป้องกันเวทีประลองไว้เกิดรอยแยกขณะแรงปะทะกระแทกขนาดใหญ่นี่ทำให้คนดูทั้งแปดหมื่นตกใจและกลัว

เวทที่ร่ายคุ้มกันเวทีประลองมีความแข็งแกร่งเหลือเชื่อ แต่ม่านวงเวทเหล่านั้นถูกทำลายไปโดยไม่เหลืออะไรหรือ?

บลูเมอร์ตีลังกากลางอากาศจากนั้นลงที่ขอบเวที ผู้ชมที่อยู่ใกล้เขาอดร้องด้วยความตกใจกลัวไม่ได้

บลูเมอร์คำรามด้วยความโกรธสีหน้าของเขาดุร้าย

วอร์ตันเตะพื้นเวทีประลองอย่างรุนแรงเหินขึ้นไปในอากาศพุ่งเข้าใส่ตำแหน่งของบลูเมอร์ด้วยความเร็วสูงขณะที่พื้นใต้เท้าเขาแตกร้าวอีกครั้ง บลูเมอร์หลบไปได้อีกครั้ง

“อ๊า...” เมื่อเห็นวอร์ตันพุ่งมาทางพวกเขา ผู้ชมทุกคนด้านบนเริ่มกรีดร้องด้วยความกลัว

แต่แม้จะเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงวอร์ตันเพียงแต่รักษาสมดุลตัวเบาก็เพียงปะทะกับกำแพงจากนั้นก็เปลี่ยนทิศไล่ตามบลูเมอร์ต่อ

บลูเมอร์ถอยกลับที่บนสุดของเวทีประลองหน้าของเขาตอนนี้แดงขณะที่ร่างของเขาเปล่งแสงสีแดง จากนั้นหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีทองแม้แต่ตาก็ยังเหลือร่องรอยสีแดง

“บลูเมอร์กำลังทำอะไร?”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว

วอร์ตันไม่แสดงความหวาดกลัวขณะกวัดแกว่งดาบศึกประหารปรปักษ์และบุกตรงเข้าหาบลูเมอร์เกือบรอบเวที

ถึงตอนนี้ผู้ชมหลายคนเริ่มส่งเสียงเชียร์วอร์ตันขณะที่บางคนส่งเสียงด่าทอบลูเมอร์เห็นได้ชัดว่าบลูเมอร์เอาแต่หลบซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้กลุ่มคนดูโกรธ อาศัยแต่ความเร็ววิ่งหนีและหลบมันอะไรกัน? ทำไมไม่ยอมแพ้?

บลูเมอร์จ้องมองวอร์ตันที่บุกเข้าใส่อย่างเยือกเย็นแววโกรธเกรี้ยวแฝงอยู่ในดวงตาที่แดงดุจเลือดของเขา

รัศมีทองอาบคลุมกระบี่ฝันยะเยือกมองดูเหมือนกับแสงสีขาว จากระยะไกลลินลี่ย์สามารถบอกได้ว่ารังสีกระบี่มีพลังเพิ่มขึ้นอีกมาก

“ครืนนน...”

บลูเมอร์ใช้กลยุทธ์เก่าอีกครั้งร่างของเขาแยกออกเป็นหลายภาพ   ขณะที่แสงทองเจิดจ้ากระพริบอีกแสงก็ปรากฏ พอยิ่งทำเงาภาพบลูเมอร์ก็ยิ่งมาก

“บลูเมอร์เจ้าทำอะไรไม่ได้นอกจากวิ่งหนีหรือไง?” วอร์ตันยืนอยู่กับที่  “ถ้าเจ้ามีความสามารถก็มาเล่นกันเถอะ”

วอร์ตันรู้ว่าในแง่ความเร็ว  เขาด้อยกว่าบลูเมอร์

“ตามที่เจ้าต้องการเลย วอร์ตัน!”เสียงกราดเกรี้ยวอำมหิตสามารถได้ยินได้ขณะที่แสงทองเจิดจ้ากระพริบและกระบี่ยาวปรากฏอยู่ต่อหน้าวอร์ตัน

วอร์ตันตกตะลึง

ในแง่ความเร็วครั้งนี้ยังไวมากกว่าครั้งก่อน

“ฮ่าาาาาห์” วอร์ตันต้องการใช้มือซาร์จับกระบี่ฝันยะเยือกและอาศัยความทนของเกล็ดรอบฝ่ามือป้องกันปลายแหลมไว้  แต่ครั้งนี้...

“ฉัวะ!”

แสงทองเจิดจ้าที่อาบคลุมกระบี่ฝันยะเยือกแทงทะลุฝ่ามือของวอร์ตันไปด้วยความเร็วที่ประหลาดและแทงเข้าที่เกล็ดเกราะอกของวอร์ตัน

ขณะนั้นแสงทองที่สว่างเจิดจ้าครอบคลุมกระบี่ฝันยะเยือกผ่าเกล็ดของวอร์ตันได้อีกครั้ง

แม้ว่าจะต้องใช้เวลาในการอธิบายเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ความจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นชั่วพริบตา กระบี่ฝันยะเยือกแทงทะลุฝ่ามือของวอร์ตันเข้าไปที่หน้าอกและวอร์ตันก็รู้สึกตัวได้เร็วเช่นกัน

“บัดซบ!”  ขาขวาของวอร์ตันเตะใส่บลูเมอร์อย่างรุนแรงทันที

บลูเมอร์ขมวดคิ้วและเริ่มถอนกระบี่ของเขา  แทงคู่ต่อสู้เป็นเรื่องยากแต่ถอนกระบี่เป็นเรื่องง่ายมาก บลูเมอร์หลบการเตะของวอร์ตันได้ แต่ไม่สามารถหลบพ้นหางมังกรที่ฟาดใส่ได้

วอร์ตันโจมตีต่อเนื่องด้วยทั้งหางและขาของเขา

“ควั่บ!” หางมังกรนั้นสะบัดหวดใส่เขาไม่สามารถจะหลบได้ บลูเมอร์ทำได้แต่เพียงใช้แขนซ้ายป้องกันไว้ขณะเดียวกันปล่อยให้แรงเหวี่ยงส่งตัวเขากระเด็นไปข้างหลัง

“บึ้ม!”

ปราณยุทธที่ป้องกันแขนซ้ายของบลูเมอร์เปิดออกทันทีและปลายแหลมหางมังกรยังคงฟาดใส่อกของบลูเมอร์ทำให้เขาถึงกับหมุนอยู่ในกลางอากาศ

วอร์ตันล้มกับพื้นแน่นิ่งเลือดพุ่งออกจากบาดแผลที่หน้าอก

“คนตัวโต!”

นีน่าโพล่งคำพูดออกมาด้วยความตกใจ

อาการบาดเจ็บของวอร์ตันสาหัสมากกระบี่ที่บลูเมอร์แทงครั้งนี้ทะลุและทำร้ายอวัยวะภายใน  แม้แต่จะไอก็ยังทำให้ร่างกายของวอร์ตันเจ็บปวดแสนสาหัส

บลูเมอร์พลิกตัวลุกขึ้นจากตำแหน่งที่เขาร่วงลงพื้น

แขนซ้ายเขาหัก  แต่เขารู้สึกคุ้มค่า  แต่ตอนนี้วอร์ตันไม่สามารถขยับได้ต่อไป  ถ้าเขาพยายามทำอย่างนั้น  อาการบาดเจ็บของเขาก็จะสาหัสขึ้นจนถึงอาจทำให้เสียชีวิตได้

“ฮ่าฮ่า...”

บลูเมอร์หัวเราะเย็นชา ถึงตอนนี้ก็สามารถบอกได้แล้วว่าบลูเมอร์ชนะ แต่บลูเมอร์ยังเคลื่อนที่เข้าหาวอร์ตันด้วยความเร็วสูง  กระบี่ฝันยะเยือกในมือของเขาแทงใส่วอร์ตันอย่างไร้ความปราณี

ขณะที่บลูเมอร์เคลื่อนไหวร่างมนุษย์ร่างหนึ่งก็เคลื่อนไหวเช่นกัน

“บัดซบ!”  เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวสามารถได้ยินได้  ผู้ชมทั้งแปดหมื่นคนเพียงเห็นแต่พายุหมุนที่ไม่ทราบปรากฏออกมาแต่ที่ใดจากนั้นประกายแสงสีม่วงกระแทกใส่บลูเมอร์

บลูเมอร์รีบเร่งเร้าปราณยุทธในร่างสร้างเป็นเกราะป้องกัน

เขาไม่กล้ารับพลังโจมตีโดยตรงแค่ยืมแรงเหวี่ยงของแรงปะทะจากพลังโจมตี ช่วยให้เขารีบถอยไปได้  และถูกพลังระเบิดใส่จนต้องถอยหลัง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังได้รับบาดแผลกระบี่เป็นสิบแผล

เลือดไหลอยู่ทั่วตัว

โชคดีที่เขาถอยด้วยความเร็วสูง ถ้าเขากล้าต้านทานพลังโจมตีแม้แต่วินาทีเดียว  กระบี่ของลินลี่ย์คงเสียบทะลุเขาแน่ สิ่งที่เขาได้รับก็คือบาดแผลบาดเจ็บแต่เพียงผิวเผินหลายแผล

“วอร์ตัน, ปลอดภัยหรือเปล่า?” ลินลี่ย์ไม่สนใจบลูเมอร์ขณะที่เขาตรวจดูอาการบาดเจ็บวอร์ตันทันที

“ข้า...ไม่เป็นไร”  วอร์ตันส่ายศีรษะ

ลินลี่ย์สีหน้าเปลี่ยนอกได้รับบาดแผลรุนแรง พลังโจมตีที่รุนแรงสามารถคุกคามเอาชีวิตได้  บลูเมอร์ผู้นั้นถือว่าประสบชัยชนะไปแล้ว  แต่เขาก็ยังต้องการฆ่าวอร์ตัน

“ท่านสุภาพบุรุษที่ใช้กระบี่ม่วง  โปรดแยกออกมา คนอื่นไม่สามามารถแทรกแซงการประลองระหว่างคนทั้งสองนี้ได้”  เสียงเย็นชาดังขึ้น  ผู้กล่าวคือเคนยอนผู้ตัดสินคนหนึ่งนั่นเอง

ลินลี่ย์หันไปจ้องเขา

เขาสามารถบอกได้ว่าวอร์ตันพ่ายแพ้ไปแล้วไม่ใช่หรือ?

“ข้าขอเป็นตัวแทนน้องชายข้าขอยอมรับความพ่ายแพ้” ลินลี่ย์พูดเย็นชา ถ้าพวกเขาพ่ายแพ้การประลอง อย่างนั้นก็คือพ่ายแพ้  สำหรับลินลี่ย์นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับชีวิตของวอร์ตัน

เป็นเรื่องธรรมดาที่ยอดฝีมือจะพ่ายแพ้การประลองสักครั้ง  ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถเรียนรู้จากการพ่ายแพ้  พวกเขาก็สามารถค่อยๆ ก้าวหน้าได้

“เป็นไปไม่ได้” เคนยอนพูดอย่างใจเย็น  “ตามกฎของการแข่งขันเว้นหนึ่งในผู้เข้าประลองจะยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตนเอง  การประลองจะต้องดำเนินต่อไปจนกว่าจะได้ผลสรุป เนื่องจากวอร์ตันยังไม่ได้ยอมรับการพ่ายแพ้  การประลองจึงยังไม่จบ”

บลูเมอร์ลุกขึ้นยืนเช่นกัน

แม้ว่าเขาจะมองดูเหมือนได้รับบาดเจ็บหนัก  แต่กระบี่ของลินลี่ย์ไม่ได้ทำร้ายจุดสำคัญเขายังสามารถสู้ต่อได้

“เจ้าคือพี่ชายของวอร์ตันใช่ไหม?  ยังไงก็ตาม ข้าต้องขอให้เจ้าแยกออกไป วอร์ตันกับข้าจะดำเนินการแข่งขันของเราต่อ”  บลูเมอร์พูดตรงๆ

อกของวอร์ตันบาดเจ็บลึกและเขาสามารถส่งเสียงได้เพียงเล็กน้อย ถ้าเขาใช้พลังพูดมากไป บาดแผลก็จะแย่หนักเช่นกัน วอร์ตันอ้าปาก ฝืนใจพูดเสียงดัง “ข้า.. ข้า...”

เมื่อเห็นเม็ดเหงื่อผุดขึ้นจากหน้าผากน้องชายขณะเขาพยายาม  หัวใจลินลี่ย์รู้สึกเจ็บปวด  “วอร์ตัน, ไม่ต้องพูดแล้ว  อย่าพูด” ลินลี่ย์ห้ามน้องชายไม่ให้พูด

“ท่าน, เชิญออกจากเวทีประลอง”  ผู้ตัดสินเคนยอน พูดเสียงดังอีกครั้ง

“หุบปากมารดาเจ้าซะ!!”ลินลี่ย์เต็มไปด้วยความโกรธคำรามออกมาเสียงดัง

ทั่วทั้งสนามชมการประลองเงียบกริบ  แม้แต่กรรมการเคนยอนยังตกตะลึง  เขา... เขาเพิ่งถูกสบถด่าใส่?

เขาคือศิษย์ส่วนตัวผู้ทรงเกียรติของเทพสงคราม  เป็นนักสู้ระดับเซียนกลับถูกสบถด่าใส่?

ในสนามประลองต่อหน้าผู้ชมแปดหมื่นคน  เขาถูกสบถด่า!!

เคนยอนระเบิดความโกรธทันที

“วูบบบ!” เคนยอนเหินออกไปจากปะรำผู้ตัดสินขึ้นไปยืนบนเวทีประลองทันทีจ้องมองลินลี่ย์อย่างเย็นชา  “เจ้าเป็นตัวอะไร ถึงบังอาจพูดกับคนเหนือกว่าเจ้าด้วยมารยาทแบบนั้น?”

เคนยอนคือยอดฝีมือระดับเซียนและเป็นศิษย์ส่วนตัวของเทพสงครามทั้งสองฐานะ  ใครบังอาจไม่เคารพเขา?

แม้แต่เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนก็ยังสุภาพต่อเขา  แต่วันนี้ ต่อหน้าผู้คนเหล่านี้ทั้งหมด  เขากลับถูกสบถด่าโดยคนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า

“บาร์เกอร์ พาวอร์ตันไปก่อน”  ลินลี่ย์มองดูเคนยอนอย่างเย็นชา

บาร์เกอร์และน้องๆวิ่งมาที่เวทีประลองทันที

“บึ้ม บึ้ม บึ้ม!” บาร์เกอร์และน้องๆเขากระโดดลงยืนบนเวทีพร้อมกับขวานยักษ์ด้ามยาวที่สะพายหลังบวกกับน้ำหนักขวานยักษ์ห้าพันปอนด์ก็ทำให้แผ่นดินสะเทือนได้

คนดูทุกคนพากันเงียบไปโดยปริยาย

บาร์เกอร์และน้องๆยกร่างวอร์ตันอย่างระมัดระวัง ยกเขาลงจากเวทีประลอง  อย่างไรก็ตามขณะที่พวกเขาทำบาร์เกอร์และน้องคนอื่นถลึงตาใส่เคนยอน

“ไอ้บ้านี่คิดว่าตัวเองใคร.....?????”  เกทส์สบถด่าเขายาวเหยียด

เคนยอนอดถลึงตาจ้องมองเกทส์ไม่ได้...แต่เวลานี้เอง ร่างของลินลี่ย์เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาด  เกล็ดมังกรดำงอกขึ้นมาทั่วร่างของเขาและหน้าผาก หลัง ศอกและเข่ามีหนามแหลมคลุมหางมังกรสีดำเริ่มงอกออกมาจากด้านหลังเขา

“ฮ้าาาา!” พวกคนดูร้องด้วยความตกใจ

“เขาก็เป็นนักรบเลือดมังกรอีกคนหนึ่งด้วยหรือนี่?”  เมื่อเห็นเช่นนี้ เฮนด์เซนก็ตกใจเหมือนกัน ร่างมังกรแปลงของลินลี่ย์ดูดุร้ายมากกว่าวอร์ตันมาก  โดยเฉพาะแนวหนามตามกระดูกสันหลัง

พอลินลี่ย์เงยหน้าเขาจ้องมองเคนยอนด้วยดวงตาสีทองเข้มอำมหิต

วันนี้หัวใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความโกรธไม่มีที่สุด ยอดฝีมืออย่างเคนยอนควรจะบอกได้ง่ายๆ เมื่อเห็นอาการของน้องชายเขา  น้องชายของเขาแพ้ไปแล้วดังนั้นจักรพรรดิโจฮันน์และเฮนด์เซนจึงไม่พูดพยายามห้ามลินลี่ย์  แต่เคนยอนพยายามจะห้ามเขา  เห็นได้ชัดเจนว่าเขาลำเอียงเพราะเข้าข้างบลูเบอร์ศิษย์สำนักเดียวกัน

เคนยอนเริ่มกังวลมากขึ้น

เขาพบว่า

คนที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นภัยคุกคาม

“นักรบเลือดมังกร?”  เคนยอนพูดเสียงเคร่งขรึม ลอยตัวขึ้นในอากาศ

ลินลี่ย์ก็ลอยตัวขึ้นไปในอากาศเช่นกันลอยอยู่ในความสูงระดับเดียวกับเคนยอนขณะจ้องมองเขาอย่างเย็นชา  เมื่อเห็นลินลี่ย์ลอยตัวอยู่ในอากาศทุกคนในสนามประลองส่งเสียงฮือฮาตื่นเต้น

โอวสวรรค์โปรด!  ยังมีนักสู้ระดับเซียนอีกคนหนึ่ง!

นี่กำลังจะกลายเป็นการสู้กันระหว่างนักสู้ระดับเซียนทั้งสองคนหรือนี่?  นี่มันน่าตื่นเต้นจริงๆ!

ยอดฝีมือระดับเซียนทั้งสองยืนจ้องหน้ากันอยู่ในอากาศ!

“ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าน้องชายของข้ายอมรับการพ่ายแพ้  แต่เจ้า.. ยังต้องการให้น้องของข้าสู้ต่อ”เสียงของลินลี่ย์เย็นยะเยือกเหมือนกับมาจากยมโลก

“ศิษย์ร่วมสำนักของข้าเพียงแต่ต้องการให้น้องชายเจ้ายอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตนเอง ความจริงเขาไม่ได้ต้องการให้น้องชายของเจ้าสู้ต่อ  น้องชายของเจ้าสามารถยอมรับความพ่ายแพ้  แต่ปฏิเสธที่จะทำ  นั่นเป็นความผิดของใคร?”  บลูเมอร์ไม่เห็นด้วย

“ไสหัวไป”

ลินลี่ย์ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวขณะที่เขาเคลื่อนไหวทันทีเคนยอนจะมองดูลินลี่ย์เฉยๆ โดยไม่ลงมือห้ามเขาได้ยังไง?  เขาชักไม้เท้าลายดำ-ทองหวดใส่ลินลี่ย์

“บัดซบ!”

ทั่วทั้งร่างของลินลี่ย์ดูเหมือนเปลี่ยนเป็นดวงอาทิตย์ขณะที่เงากระบี่สีม่วงนับไม่ถ้วนแตกระเบิดออกมาจากทุกมุม  ในพริบตาเดียวเงากระบี่นับสิบล้านก็แทงใส่เคนยอน

สัจธรรมแห่งธาตุลม –ระลอกลม!

เคนยอมไม่สามารถป้องกันได้เลย ในพริบตาชั้นพลังปราณป้องกันบนตัวของเขาก็ระเบิดดังปัง!  เมื่อเผชิญกับความตายเคนยอนต้องรีบถอยสุดฝีเท้าอย่างหวาดผวา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังโดนกระบี่เลือดม่วงแทงไปหลายแผล

เคนยอนลงมาอยู่ที่ของเวทีประลองชุดยาวโชกไปด้วยเลือดอยู่ในสภาพทุลักทุเล

เคนยอนจ้องมองลินลี่ย์อย่างตกใจและหวาดกลัว

พวกเขามีระดับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  ลินลี่ย์มีพลังระดับเซียนชั้นสูงแน่นอน

ศิษย์ส่วนตัวผู้สง่างามของเทพสงครามยอดฝีมือระดับเซียนตกอยู่ในสภาพอับเฉาเพราะการโจมตีเพียงครั้งเดียว

“บลูเมอร์!” เมื่อลินลี่ย์หันมามองบลูเมอร์ เขาเห็นว่าบลูเมอร์รู้สึกว่าหลายอย่างกำลังจะผิดพลาดอย่างน่ากลัวจึงเผ่นจากเวทีไปหาเซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนทันที

มีเพียงคนเดียวที่อยู่เหนือเวทีก็คือลินลี่ย์ซึ่งดูราวกับปีศาจที่มาจากดินแดนอื่น  กระบี่เลือดม่วงที่ยืดหยุ่นอำมหิตมีเลือดหยด

ผู้ชมในสนามประลองเงียบเสียงราวกับอยู่ในป่าช้า!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด