ตอนที่ 9-7 ตั้งใจสร้างบาดแผลร้ายแรง
“บึ้ม!” มือซ้ายที่คลุมไปด้วยเกล็ดมังกรพุ่งขึ้นมาจับกระบี่ฝันยะเยือกในมือของบลูเมอร์ไว้แน่น แม้จะมีพลังโจมตีของเขา แต่บลูเมอร์ยังไม่สามารถทำให้กระบี่ฝันยะเยือกแทงไปข้างหน้าได้แม้แต่นิ้วเดียว ฝ่ามือซ้ายของวอร์ตันกดปลายกระบี่ฝันยะเยือกไว้
สีหน้าของบลูเมอร์เปลี่ยน
หนี!
บลูเมอร์ถอนกระบี่กลับอย่างสุดแรงและหงายไปด้านหลังโดยเร็วกดหลังลงเกือบติดพื้นเวทีซึ่งในขณะนี้หางมังกรของลินลี่ย์กำลังฟาดใส่บลูเมอร์
ถ้าบลูเมอร์ไม่กดร่างแนบพื้นเขาจะถูกฟาดอย่างแน่นอน
“เฮ้อ”บลูเมอร์ยืนอยู่ที่ขอบเวทีประลองอีกครั้งหอบหายใจเล็กน้อย เกือบไปแล้วเขาเกือบถูกหางมังกรของวอร์ตันฟาดใส่เสียแล้ว
บลูเมอร์ปวดหัว พลังป้องกันของวอร์ตันทรงพลังเกินไป พลังโจมตีของขาไม่สามารถทำลายพลังป้องกันนั้นได้เลย
“หรือว่าวิชานั่นเป็นเพียงเงื่อนไขเดียวของข้า?” บลูเมอร์มีความเข้าใจวิชากระบี่เงาแสงอย่างลึกซึ้ง แต่กับที่โอลิเวอร์สอนให้เขา เขายังสามารถกระตุ้นพลังโจมตีสูงสุดของกระบี่เงาแสงได้
…..
ทุกคนในสนามแข่งขันประลองกลั้นลมหายใจ ยอดฝีมือเหล่านี้สู้กันด้วยความเร็วสูงเกินไปทำให้เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะมองเห็นได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาเพียงแต่เห็นว่าบลูเมอร์ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นเงาร่างสิบหกร่างเคลื่อนไหวไปมาคล้ายเทเลพอร์ต
แต่วอร์ตันเหมือนปราสาทมั่นคง ไม่ว่าบลูเมอร์จะโจมตียังไงเขาก็ไม่สามารถทำร้ายวอร์ตันได้
“ถ้าเจ้าไม่รุกใส่ข้า อย่างนั้นตาข้ารุกใส่เจ้าบ้าง” เสียงของวอร์ตันดังขึ้นในสนามประลองแล้วจากนั้นวอร์ตันบุกเข้าใส่บลูเมอร์เป็นพายุ
บลูเมอร์เตรียมหลบทันที
แต่วอร์ตันดูเหมือนจะตัวเบาดาบศึกในมือของเขาฟันใส่ด้วยความเร็วอย่างคล่องแคล่วและฟันใส่กะโหลกของบลูเมอร์โดยตรง บลูเมอร์หงายหลังอย่างรวดเร็วขณะที่เท้ายันพื้นออกมาอย่างรวดเร็ว
“ควั่บ!”บลูเมอร์ถอยหลังออกมาด้วยความเร็วสูง
แม้ว่าเขาจะถอยออกมาด้วยความเร็วมาก แต่ดาบศึกประหารปรปักษ์ก็ไวมากขึ้น ขณะที่ดาบกำลังจะถึงบริเวณอกบลูเมอร์แยกขาทันทีและกลิ้งถอยหลัง
“บึ้ม!”ดาบศึกเฉียดหลังบลูเมอร์ไปกระแทกกับพื้น
ดาบศึก – ดาบเดี่ยวสังหาร!
“บึ้ม!” เวทีประลองทั้งหมดเริ่มสั่นสะเทือนและม่านเวทที่ร่ายเวทป้องกันเวทีประลองไว้เกิดรอยแยกขณะแรงปะทะกระแทกขนาดใหญ่นี่ทำให้คนดูทั้งแปดหมื่นตกใจและกลัว
เวทที่ร่ายคุ้มกันเวทีประลองมีความแข็งแกร่งเหลือเชื่อ แต่ม่านวงเวทเหล่านั้นถูกทำลายไปโดยไม่เหลืออะไรหรือ?
บลูเมอร์ตีลังกากลางอากาศจากนั้นลงที่ขอบเวที ผู้ชมที่อยู่ใกล้เขาอดร้องด้วยความตกใจกลัวไม่ได้
บลูเมอร์คำรามด้วยความโกรธสีหน้าของเขาดุร้าย
วอร์ตันเตะพื้นเวทีประลองอย่างรุนแรงเหินขึ้นไปในอากาศพุ่งเข้าใส่ตำแหน่งของบลูเมอร์ด้วยความเร็วสูงขณะที่พื้นใต้เท้าเขาแตกร้าวอีกครั้ง บลูเมอร์หลบไปได้อีกครั้ง
“อ๊า...” เมื่อเห็นวอร์ตันพุ่งมาทางพวกเขา ผู้ชมทุกคนด้านบนเริ่มกรีดร้องด้วยความกลัว
แต่แม้จะเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงวอร์ตันเพียงแต่รักษาสมดุลตัวเบาก็เพียงปะทะกับกำแพงจากนั้นก็เปลี่ยนทิศไล่ตามบลูเมอร์ต่อ
บลูเมอร์ถอยกลับที่บนสุดของเวทีประลองหน้าของเขาตอนนี้แดงขณะที่ร่างของเขาเปล่งแสงสีแดง จากนั้นหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีทองแม้แต่ตาก็ยังเหลือร่องรอยสีแดง
“บลูเมอร์กำลังทำอะไร?” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
วอร์ตันไม่แสดงความหวาดกลัวขณะกวัดแกว่งดาบศึกประหารปรปักษ์และบุกตรงเข้าหาบลูเมอร์เกือบรอบเวที
ถึงตอนนี้ผู้ชมหลายคนเริ่มส่งเสียงเชียร์วอร์ตันขณะที่บางคนส่งเสียงด่าทอบลูเมอร์เห็นได้ชัดว่าบลูเมอร์เอาแต่หลบซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้กลุ่มคนดูโกรธ อาศัยแต่ความเร็ววิ่งหนีและหลบมันอะไรกัน? ทำไมไม่ยอมแพ้?
บลูเมอร์จ้องมองวอร์ตันที่บุกเข้าใส่อย่างเยือกเย็นแววโกรธเกรี้ยวแฝงอยู่ในดวงตาที่แดงดุจเลือดของเขา
รัศมีทองอาบคลุมกระบี่ฝันยะเยือกมองดูเหมือนกับแสงสีขาว จากระยะไกลลินลี่ย์สามารถบอกได้ว่ารังสีกระบี่มีพลังเพิ่มขึ้นอีกมาก
“ครืนนน...”
บลูเมอร์ใช้กลยุทธ์เก่าอีกครั้งร่างของเขาแยกออกเป็นหลายภาพ ขณะที่แสงทองเจิดจ้ากระพริบอีกแสงก็ปรากฏ พอยิ่งทำเงาภาพบลูเมอร์ก็ยิ่งมาก
“บลูเมอร์เจ้าทำอะไรไม่ได้นอกจากวิ่งหนีหรือไง?” วอร์ตันยืนอยู่กับที่ “ถ้าเจ้ามีความสามารถก็มาเล่นกันเถอะ”
วอร์ตันรู้ว่าในแง่ความเร็ว เขาด้อยกว่าบลูเมอร์
“ตามที่เจ้าต้องการเลย วอร์ตัน!”เสียงกราดเกรี้ยวอำมหิตสามารถได้ยินได้ขณะที่แสงทองเจิดจ้ากระพริบและกระบี่ยาวปรากฏอยู่ต่อหน้าวอร์ตัน
วอร์ตันตกตะลึง
ในแง่ความเร็วครั้งนี้ยังไวมากกว่าครั้งก่อน
“ฮ่าาาาาห์” วอร์ตันต้องการใช้มือซาร์จับกระบี่ฝันยะเยือกและอาศัยความทนของเกล็ดรอบฝ่ามือป้องกันปลายแหลมไว้ แต่ครั้งนี้...
“ฉัวะ!”
แสงทองเจิดจ้าที่อาบคลุมกระบี่ฝันยะเยือกแทงทะลุฝ่ามือของวอร์ตันไปด้วยความเร็วที่ประหลาดและแทงเข้าที่เกล็ดเกราะอกของวอร์ตัน
ขณะนั้นแสงทองที่สว่างเจิดจ้าครอบคลุมกระบี่ฝันยะเยือกผ่าเกล็ดของวอร์ตันได้อีกครั้ง
แม้ว่าจะต้องใช้เวลาในการอธิบายเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ความจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นชั่วพริบตา กระบี่ฝันยะเยือกแทงทะลุฝ่ามือของวอร์ตันเข้าไปที่หน้าอกและวอร์ตันก็รู้สึกตัวได้เร็วเช่นกัน
“บัดซบ!” ขาขวาของวอร์ตันเตะใส่บลูเมอร์อย่างรุนแรงทันที
บลูเมอร์ขมวดคิ้วและเริ่มถอนกระบี่ของเขา แทงคู่ต่อสู้เป็นเรื่องยากแต่ถอนกระบี่เป็นเรื่องง่ายมาก บลูเมอร์หลบการเตะของวอร์ตันได้ แต่ไม่สามารถหลบพ้นหางมังกรที่ฟาดใส่ได้
วอร์ตันโจมตีต่อเนื่องด้วยทั้งหางและขาของเขา
“ควั่บ!” หางมังกรนั้นสะบัดหวดใส่เขาไม่สามารถจะหลบได้ บลูเมอร์ทำได้แต่เพียงใช้แขนซ้ายป้องกันไว้ขณะเดียวกันปล่อยให้แรงเหวี่ยงส่งตัวเขากระเด็นไปข้างหลัง
“บึ้ม!”
ปราณยุทธที่ป้องกันแขนซ้ายของบลูเมอร์เปิดออกทันทีและปลายแหลมหางมังกรยังคงฟาดใส่อกของบลูเมอร์ทำให้เขาถึงกับหมุนอยู่ในกลางอากาศ
วอร์ตันล้มกับพื้นแน่นิ่งเลือดพุ่งออกจากบาดแผลที่หน้าอก
“คนตัวโต!”
นีน่าโพล่งคำพูดออกมาด้วยความตกใจ
อาการบาดเจ็บของวอร์ตันสาหัสมากกระบี่ที่บลูเมอร์แทงครั้งนี้ทะลุและทำร้ายอวัยวะภายใน แม้แต่จะไอก็ยังทำให้ร่างกายของวอร์ตันเจ็บปวดแสนสาหัส
บลูเมอร์พลิกตัวลุกขึ้นจากตำแหน่งที่เขาร่วงลงพื้น
แขนซ้ายเขาหัก แต่เขารู้สึกคุ้มค่า แต่ตอนนี้วอร์ตันไม่สามารถขยับได้ต่อไป ถ้าเขาพยายามทำอย่างนั้น อาการบาดเจ็บของเขาก็จะสาหัสขึ้นจนถึงอาจทำให้เสียชีวิตได้
“ฮ่าฮ่า...”
บลูเมอร์หัวเราะเย็นชา ถึงตอนนี้ก็สามารถบอกได้แล้วว่าบลูเมอร์ชนะ แต่บลูเมอร์ยังเคลื่อนที่เข้าหาวอร์ตันด้วยความเร็วสูง กระบี่ฝันยะเยือกในมือของเขาแทงใส่วอร์ตันอย่างไร้ความปราณี
ขณะที่บลูเมอร์เคลื่อนไหวร่างมนุษย์ร่างหนึ่งก็เคลื่อนไหวเช่นกัน
“บัดซบ!” เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวสามารถได้ยินได้ ผู้ชมทั้งแปดหมื่นคนเพียงเห็นแต่พายุหมุนที่ไม่ทราบปรากฏออกมาแต่ที่ใดจากนั้นประกายแสงสีม่วงกระแทกใส่บลูเมอร์
บลูเมอร์รีบเร่งเร้าปราณยุทธในร่างสร้างเป็นเกราะป้องกัน
เขาไม่กล้ารับพลังโจมตีโดยตรงแค่ยืมแรงเหวี่ยงของแรงปะทะจากพลังโจมตี ช่วยให้เขารีบถอยไปได้ และถูกพลังระเบิดใส่จนต้องถอยหลัง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังได้รับบาดแผลกระบี่เป็นสิบแผล
เลือดไหลอยู่ทั่วตัว
โชคดีที่เขาถอยด้วยความเร็วสูง ถ้าเขากล้าต้านทานพลังโจมตีแม้แต่วินาทีเดียว กระบี่ของลินลี่ย์คงเสียบทะลุเขาแน่ สิ่งที่เขาได้รับก็คือบาดแผลบาดเจ็บแต่เพียงผิวเผินหลายแผล
“วอร์ตัน, ปลอดภัยหรือเปล่า?” ลินลี่ย์ไม่สนใจบลูเมอร์ขณะที่เขาตรวจดูอาการบาดเจ็บวอร์ตันทันที
“ข้า...ไม่เป็นไร” วอร์ตันส่ายศีรษะ
ลินลี่ย์สีหน้าเปลี่ยนอกได้รับบาดแผลรุนแรง พลังโจมตีที่รุนแรงสามารถคุกคามเอาชีวิตได้ บลูเมอร์ผู้นั้นถือว่าประสบชัยชนะไปแล้ว แต่เขาก็ยังต้องการฆ่าวอร์ตัน
“ท่านสุภาพบุรุษที่ใช้กระบี่ม่วง โปรดแยกออกมา คนอื่นไม่สามามารถแทรกแซงการประลองระหว่างคนทั้งสองนี้ได้” เสียงเย็นชาดังขึ้น ผู้กล่าวคือเคนยอนผู้ตัดสินคนหนึ่งนั่นเอง
ลินลี่ย์หันไปจ้องเขา
เขาสามารถบอกได้ว่าวอร์ตันพ่ายแพ้ไปแล้วไม่ใช่หรือ?
“ข้าขอเป็นตัวแทนน้องชายข้าขอยอมรับความพ่ายแพ้” ลินลี่ย์พูดเย็นชา ถ้าพวกเขาพ่ายแพ้การประลอง อย่างนั้นก็คือพ่ายแพ้ สำหรับลินลี่ย์นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับชีวิตของวอร์ตัน
เป็นเรื่องธรรมดาที่ยอดฝีมือจะพ่ายแพ้การประลองสักครั้ง ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถเรียนรู้จากการพ่ายแพ้ พวกเขาก็สามารถค่อยๆ ก้าวหน้าได้
“เป็นไปไม่ได้” เคนยอนพูดอย่างใจเย็น “ตามกฎของการแข่งขันเว้นหนึ่งในผู้เข้าประลองจะยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตนเอง การประลองจะต้องดำเนินต่อไปจนกว่าจะได้ผลสรุป เนื่องจากวอร์ตันยังไม่ได้ยอมรับการพ่ายแพ้ การประลองจึงยังไม่จบ”
บลูเมอร์ลุกขึ้นยืนเช่นกัน
แม้ว่าเขาจะมองดูเหมือนได้รับบาดเจ็บหนัก แต่กระบี่ของลินลี่ย์ไม่ได้ทำร้ายจุดสำคัญเขายังสามารถสู้ต่อได้
“เจ้าคือพี่ชายของวอร์ตันใช่ไหม? ยังไงก็ตาม ข้าต้องขอให้เจ้าแยกออกไป วอร์ตันกับข้าจะดำเนินการแข่งขันของเราต่อ” บลูเมอร์พูดตรงๆ
อกของวอร์ตันบาดเจ็บลึกและเขาสามารถส่งเสียงได้เพียงเล็กน้อย ถ้าเขาใช้พลังพูดมากไป บาดแผลก็จะแย่หนักเช่นกัน วอร์ตันอ้าปาก ฝืนใจพูดเสียงดัง “ข้า.. ข้า...”
เมื่อเห็นเม็ดเหงื่อผุดขึ้นจากหน้าผากน้องชายขณะเขาพยายาม หัวใจลินลี่ย์รู้สึกเจ็บปวด “วอร์ตัน, ไม่ต้องพูดแล้ว อย่าพูด” ลินลี่ย์ห้ามน้องชายไม่ให้พูด
“ท่าน, เชิญออกจากเวทีประลอง” ผู้ตัดสินเคนยอน พูดเสียงดังอีกครั้ง
“หุบปากมารดาเจ้าซะ!!”ลินลี่ย์เต็มไปด้วยความโกรธคำรามออกมาเสียงดัง
ทั่วทั้งสนามชมการประลองเงียบกริบ แม้แต่กรรมการเคนยอนยังตกตะลึง เขา... เขาเพิ่งถูกสบถด่าใส่?
เขาคือศิษย์ส่วนตัวผู้ทรงเกียรติของเทพสงคราม เป็นนักสู้ระดับเซียนกลับถูกสบถด่าใส่?
ในสนามประลองต่อหน้าผู้ชมแปดหมื่นคน เขาถูกสบถด่า!!
เคนยอนระเบิดความโกรธทันที
“วูบบบ!” เคนยอนเหินออกไปจากปะรำผู้ตัดสินขึ้นไปยืนบนเวทีประลองทันทีจ้องมองลินลี่ย์อย่างเย็นชา “เจ้าเป็นตัวอะไร ถึงบังอาจพูดกับคนเหนือกว่าเจ้าด้วยมารยาทแบบนั้น?”
เคนยอนคือยอดฝีมือระดับเซียนและเป็นศิษย์ส่วนตัวของเทพสงครามทั้งสองฐานะ ใครบังอาจไม่เคารพเขา?
แม้แต่เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนก็ยังสุภาพต่อเขา แต่วันนี้ ต่อหน้าผู้คนเหล่านี้ทั้งหมด เขากลับถูกสบถด่าโดยคนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า
“บาร์เกอร์ พาวอร์ตันไปก่อน” ลินลี่ย์มองดูเคนยอนอย่างเย็นชา
บาร์เกอร์และน้องๆวิ่งมาที่เวทีประลองทันที
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม!” บาร์เกอร์และน้องๆเขากระโดดลงยืนบนเวทีพร้อมกับขวานยักษ์ด้ามยาวที่สะพายหลังบวกกับน้ำหนักขวานยักษ์ห้าพันปอนด์ก็ทำให้แผ่นดินสะเทือนได้
คนดูทุกคนพากันเงียบไปโดยปริยาย
บาร์เกอร์และน้องๆยกร่างวอร์ตันอย่างระมัดระวัง ยกเขาลงจากเวทีประลอง อย่างไรก็ตามขณะที่พวกเขาทำบาร์เกอร์และน้องคนอื่นถลึงตาใส่เคนยอน
“ไอ้บ้านี่คิดว่าตัวเองใคร.....?????” เกทส์สบถด่าเขายาวเหยียด
เคนยอนอดถลึงตาจ้องมองเกทส์ไม่ได้...แต่เวลานี้เอง ร่างของลินลี่ย์เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาด เกล็ดมังกรดำงอกขึ้นมาทั่วร่างของเขาและหน้าผาก หลัง ศอกและเข่ามีหนามแหลมคลุมหางมังกรสีดำเริ่มงอกออกมาจากด้านหลังเขา
“ฮ้าาาา!” พวกคนดูร้องด้วยความตกใจ
“เขาก็เป็นนักรบเลือดมังกรอีกคนหนึ่งด้วยหรือนี่?” เมื่อเห็นเช่นนี้ เฮนด์เซนก็ตกใจเหมือนกัน ร่างมังกรแปลงของลินลี่ย์ดูดุร้ายมากกว่าวอร์ตันมาก โดยเฉพาะแนวหนามตามกระดูกสันหลัง
พอลินลี่ย์เงยหน้าเขาจ้องมองเคนยอนด้วยดวงตาสีทองเข้มอำมหิต
วันนี้หัวใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความโกรธไม่มีที่สุด ยอดฝีมืออย่างเคนยอนควรจะบอกได้ง่ายๆ เมื่อเห็นอาการของน้องชายเขา น้องชายของเขาแพ้ไปแล้วดังนั้นจักรพรรดิโจฮันน์และเฮนด์เซนจึงไม่พูดพยายามห้ามลินลี่ย์ แต่เคนยอนพยายามจะห้ามเขา เห็นได้ชัดเจนว่าเขาลำเอียงเพราะเข้าข้างบลูเบอร์ศิษย์สำนักเดียวกัน
เคนยอนเริ่มกังวลมากขึ้น
เขาพบว่า
คนที่อยู่ข้างหน้าเขาเป็นภัยคุกคาม
“นักรบเลือดมังกร?” เคนยอนพูดเสียงเคร่งขรึม ลอยตัวขึ้นในอากาศ
ลินลี่ย์ก็ลอยตัวขึ้นไปในอากาศเช่นกันลอยอยู่ในความสูงระดับเดียวกับเคนยอนขณะจ้องมองเขาอย่างเย็นชา เมื่อเห็นลินลี่ย์ลอยตัวอยู่ในอากาศทุกคนในสนามประลองส่งเสียงฮือฮาตื่นเต้น
โอวสวรรค์โปรด! ยังมีนักสู้ระดับเซียนอีกคนหนึ่ง!
นี่กำลังจะกลายเป็นการสู้กันระหว่างนักสู้ระดับเซียนทั้งสองคนหรือนี่? นี่มันน่าตื่นเต้นจริงๆ!
ยอดฝีมือระดับเซียนทั้งสองยืนจ้องหน้ากันอยู่ในอากาศ!
“ข้าบอกเจ้าไปแล้วว่าน้องชายของข้ายอมรับการพ่ายแพ้ แต่เจ้า.. ยังต้องการให้น้องของข้าสู้ต่อ”เสียงของลินลี่ย์เย็นยะเยือกเหมือนกับมาจากยมโลก
“ศิษย์ร่วมสำนักของข้าเพียงแต่ต้องการให้น้องชายเจ้ายอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตนเอง ความจริงเขาไม่ได้ต้องการให้น้องชายของเจ้าสู้ต่อ น้องชายของเจ้าสามารถยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ปฏิเสธที่จะทำ นั่นเป็นความผิดของใคร?” บลูเมอร์ไม่เห็นด้วย
“ไสหัวไป”
ลินลี่ย์ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวขณะที่เขาเคลื่อนไหวทันทีเคนยอนจะมองดูลินลี่ย์เฉยๆ โดยไม่ลงมือห้ามเขาได้ยังไง? เขาชักไม้เท้าลายดำ-ทองหวดใส่ลินลี่ย์
“บัดซบ!”
ทั่วทั้งร่างของลินลี่ย์ดูเหมือนเปลี่ยนเป็นดวงอาทิตย์ขณะที่เงากระบี่สีม่วงนับไม่ถ้วนแตกระเบิดออกมาจากทุกมุม ในพริบตาเดียวเงากระบี่นับสิบล้านก็แทงใส่เคนยอน
สัจธรรมแห่งธาตุลม –ระลอกลม!
เคนยอมไม่สามารถป้องกันได้เลย ในพริบตาชั้นพลังปราณป้องกันบนตัวของเขาก็ระเบิดดังปัง! เมื่อเผชิญกับความตายเคนยอนต้องรีบถอยสุดฝีเท้าอย่างหวาดผวา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังโดนกระบี่เลือดม่วงแทงไปหลายแผล
เคนยอนลงมาอยู่ที่ของเวทีประลองชุดยาวโชกไปด้วยเลือดอยู่ในสภาพทุลักทุเล
เคนยอนจ้องมองลินลี่ย์อย่างตกใจและหวาดกลัว
พวกเขามีระดับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ลินลี่ย์มีพลังระดับเซียนชั้นสูงแน่นอน
ศิษย์ส่วนตัวผู้สง่างามของเทพสงครามยอดฝีมือระดับเซียนตกอยู่ในสภาพอับเฉาเพราะการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“บลูเมอร์!” เมื่อลินลี่ย์หันมามองบลูเมอร์ เขาเห็นว่าบลูเมอร์รู้สึกว่าหลายอย่างกำลังจะผิดพลาดอย่างน่ากลัวจึงเผ่นจากเวทีไปหาเซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนทันที
มีเพียงคนเดียวที่อยู่เหนือเวทีก็คือลินลี่ย์ซึ่งดูราวกับปีศาจที่มาจากดินแดนอื่น กระบี่เลือดม่วงที่ยืดหยุ่นอำมหิตมีเลือดหยด
ผู้ชมในสนามประลองเงียบเสียงราวกับอยู่ในป่าช้า!