ตอนที่ 9-6 การประลอง
จักรพรรดิโจฮันน์และเคนยอนศิษย์ส่วนตัวของเทพสงครามทั้งสองคนลุกขึ้นยืนทันทีขณะยิ้มทักทายเฮนด์เซน เฮนด์เซนทักทายจักรพรรดิโจฮันน์และเคนยอนด้วยมิตรภาพอันดีตามมารยาท
ผู้ตัดสินทั้งสองคนนั่งลง
ด้านหลังกรรมการมีอยู่หลายที่นั่งซึ่งมีคนนั่งทั้งหมด คนเหล่านี้ประกอบไปด้วยราชินี, พระสนม, เจ้าชายและเจ้าหญิง
“นีน่า” วอร์ตันเห็นว่านีน่าอยู่ในผู้คนกลุ่มนั้นด้วย
นีน่าก็เห็นวอร์ตันเช่นกันหลายวันก่อนจักรพรรดิเข้มงวดกับนางเรื่องการออกจากวัง ดังนั้นวอร์ตันกับนีน่าจึงไม่ได้พบกันนานเกินหนึ่งเดือนแล้ว เพราะส่วนลึกของทั้งสองคนรักและผูกพันกันไม่พบกันสามวันจึงรู้สึกเหมือนกับสามปี สามสิบวันที่ผ่านมาทั้งสองคนผ่านวันเวลาไปอย่างยากลำบาก
วอร์ตันกับนีน่าต่างมองกันและกัน พวกเขาทั้งสองคนสามารถรู้สึกได้จากสายตาของกันและกันความรักและความผูกพันที่มีต่อกัน
“ฮึ่ม” เมื่อเห็นเช่นนี้บลูเมอร์อดแค่นเสียงเย็นชาไม่ได้คนธรรมดาอาจเห็นไม่ชัดในระยะไกลหลายร้อยเมตรอย่างนี้ แต่สายตาของบลูเมอร์นั้นดีมาก เขาสามารถเห็นท่าทางการส่งสายตาของคนทั้งสองนี้
บางครั้งการมีสายตาดีไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องดีเสมอไป
ผู้เฒ่าผมเงินมองดูจักรพรรดิและคณะผู้ตัดสินจักรพรรดิโจฮันน์พยักหน้า ผู้เฒ่าผมเงินหัวเราะลั่น เขาพูดเสียงดังกังวาน “ทุกๆ ท่านโปรดเงียบการประลองฝีมือระหว่างสองอัจฉริยะแห่งจักรวรรดิโอเบรียนจะเริ่มขึ้นอยู่แล้ว อันดับแรกขอแนะนำผู้ท้าทายก่อนศิษย์ส่วนตัวของเทพสงคราม...บลูเมอร์!”
ผู้ท้าทายจะถูกประกาศชื่อก่อน ขณะที่ผู้ถูกท้าทายจะถูกประกาศเป็นคนที่สองนี่คือกฎ
บลูเมอร์สะพายกระบี่ยาวไว้ที่หลังอยู่ในชุดนักรบสีฟ้า เขาบินขึ้นฟ้าสูงหลายสิบเมตรเข้าสู่แท่นประลอง
“บลูเมอร์!”
“บลูเมอร์!”
หลายคนในกลุ่มผู้ชมแปดหมื่นคนเริ่มส่งเสียงกระหึ่มเห็นได้ชัดว่าหลายๆ คนมาเพื่อเชียร์บลูเมอร์ในวันนี้ ในใจหลายคนนั้นโอลิเวอร์พี่ชายของบลูเมอร์คือความภาคภูมิใจของจักรวรรดิโอเบรียน
“เงียบ”บุรุษผมเงินยิ้ม “คนต่อไปคือวอร์ตันแห่งตระกูลนักรบเลือดมังกร”
“แควก...”วอร์ตันฉีกชุดออกเปลือยร่างกายท่อนบน ท้อง อกของเขามีมัดกล้ามชัดเจนทำให้ผู้ชมหลายคนส่งเสียงฮือฮาตื่นเต้น
“ฮึ่ม..” เมื่อเห็นเช่นนี้บลูเมอร์เพียงแต่แค่นเสียงเย็นชาดูถูก
วอร์ตันถือดาบศึกประหารปรปักษ์ไว้ในมือแล้วกระโจนขึ้นไปบนเวทีประลองเพราะวอร์ตันมีร่างที่สูงใหญ่ถึง 2.2 เมตร ถือดาบเล่มใหญ่อยู่ในมือพร้อมกับเปลือยกายท่อนบน...
วอร์ตันเปล่งประกายราศีของผู้กล้า
ผู้กล้าหาญ!
ราศีของผู้กล้านี้เองทำให้หลายๆคนเริ่มส่งเสียงกระหึ่มยินดี “วอร์ตัน!” “วอร์ตัน!” เสียงร้องเรียกกระหึ่มเริ่มดังพอๆกันและผู้ส่งเสียงเชียร์เหล่านี้มีจำนวนไม่น้อยกว่าของฝ่ายบลูเมอร์แน่นอน
“บลูเมอร์สามารถเป็นศิษย์ส่วนตัวของเทพสงครามจะน่าประทับใจแค่ไหน? วันนี้ทุกคนจะได้พบคำตอบ” ชายชราผมเงินพูดเสียงก้อง “สำหรับนักรบเลือดมังกรในตำนานที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดนักรบ วันนี้ทุกคนจะได้โอกาสเห็นประจักษ์ฝีมือของพวกเขาด้วยเช่นกัน”
“บัดนี้ข้าขอประกาศว่า...”
ชายชราผมเงินเร่งระดับเสียงขึ้นอีก “เริ่มการประลองได้!”
ในพริบตาร่างของวอร์ตันปกคลุมไปด้วยเกล็ดมังกรสีฟ้า เขามังกรงอกออกมาจากหน้าผาก และหางมังกรสีฟ้าก็งอกออกมาเช่นกัน ทั่วทั้งเวทีประลองเริ่มสั่นสะเทือน ภายใต้แสงอาทิตย์เกล็ดมังกรสะท้อนเป็นประกายแพรวพราว
“โอวววว”
เสียงกระหึ่มอัศจรรย์ใจได้ยินชัดจากฝั่งผู้ชมดู ไม่มีใครในที่นั้นเคยเห็นร่างแปลงมังกรมาก่อน การแปลงกายของวอร์ตันครั้งนี้สร้างความตื่นตะลึงให้กับคนดู
แต่หลังจากตะลึงไปชั่วขณะทุกคนก็ระเบิดเสียงเชียร์อย่างบ้าคลั่ง
“นักรบเลือดมังกร?” ผู้ตัดสินทั้งสามคนมองดูด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย เฮนด์เซนมองดูวอร์ตันอย่างสนใจ “คงจะยอดเยี่ยมไม่น้อยถ้าเขาจะเป็นนักสู้ระดับเซียน”
นักรบเลือดมังกรระดับเซียนในตำนานคือยอดฝีมือในหมู่นักสู้ระดับเซียน
และตัวเขาเองเซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนก็เป็นยอดฝีมือในหมู่นักสู้ระดับเซียนเป็นเวลานานแล้วตั้งแต่เฮนด์เซนลิ้มรสความพ่ายแพ้ แต่ถ้าเขาท้าทายนักสู้ระดับเทพ เขาจะพ่ายแพ้แน่นอนสู้กับพลังที่สามารถครอบงำเขาได้ ไม่มีอะไรที่เฮนด์เซนจะทำอะไรอื่นได้
เขาหวังอย่างแท้จริงว่าจะมีนักสู้ระดับเซียนปรากฏออกมาเอาชนะเขาได้จริงๆ
บางทีเขาจะได้รับการรู้แจ้งบางอย่างและบรรลุเข้าสู่ระดับต่อไปซึ่งเป็นระดับเทพก็เป็นได้
“งั้นนี่ก็คือนักรบเลือดมังกร?” เด็กอายุสิบสองปีจับมือนีน่าที่นั่งข้างๆ และถาม นีน่ามองดูร่างบนเวทีประลองจากนั้นพยักหน้า “ใช่แล้วนี่คือสุดยอดนักรบในตำนาน”
เพราะความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนวอร์ตันเคยแปลงร่างมังกรให้นางเห็นมานานแล้ว
“ฮ่าฮ่านักรบเลือดมังกร ไม่เลว” บลูเมอร์มองดูวอร์ตันและเริ่มหัวเราะ “แต่ตระกูลอาเคอร์ลุนด์ของข้าไม่เคยเชื่อว่าสี่สุดยอดนักรบจะแข็งแกร่งที่สุด”
บลูเมอร์จ้องวอร์ตันด้วยสายตาเย็นชาพลางชักกระบี่ยาวออกมาแค่เพียงพลิกมือเท่านั้น
กระบี่ยาวมองดูเหมือนสร้างจากแท่งน้ำแข็งใสจนมองทะลุ ภายใต้แสงอาทิตย์สะท้อนเป็นสีรุ้ง บลูเมอร์มองดูวอร์ตันด้วยความมั่นใจและพูดเสียงดัง “นี่คือกระบี่ที่มีค่าซึ่งพี่ชายข้ามอบให้เป็นของขวัญนามว่า ‘ฝันยะเยือก”
วอร์ตันยกดาบศึกประหารปรปักษ์ขึ้นกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ดาบศึกประหารปรปักษ์มรดกตกทอดของตระกูลบาลุคเป็นอาวุธประจำตัวของนักรบเลือดมังกรคนแรก”
“เหรอ?” บลูเมอร์แค่นเสียง
ผู้ชมทุกคนพากันเงียบทั้งหมด พวกเขาเบิกตากว้างมองดูการประลองระหว่างอัจฉริยะทั้งสอง พวกเขาไม่ต้องการพลาดทุกอย่าง
“ควั่บ!”
ในพริบตาเดียวบลูเมอร์ดูเหมือนกับจะหายไปขณะที่ลมพัดกระโชกรุนแรงปรากฏขึ้นทันทีอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยในเวทีประลอง นี่คือลมหมุนที่สร้างขึ้นจากความเร็วของบลูเมอร์
ลมปะทะใส่หน้าของวอร์ตัน แต่วอร์ตันยังยืนอยู่กับที่โดยไม่ขยับ
“หืม?” ทันใดนั้นวอร์ตันสังเกตว่าบลูเมอร์มาจากมุมตาด้านซ้าย ขณะที่วอร์ตันหมุนตัวเตรียมโจมตีทันใดนั้นเขารู้สึกว่ามีลมอีกสายหนึ่งลอบทำร้ายเขาจากด้านขวา
ใช่แล้ว
ร่างแท้ของบลูเมอร์อยู่ที่ด้านขวาของเขา
บลูเมอร์หัวเราะเย็นชามองดูวอร์ตันขณะฟันกระบี่ฝันยะเยือกใส่วอร์ตันอย่างไร้ความปราณี แต่วอร์ตันหันหลังให้บลูเมอร์ตวัดหางเหล็กมังกรหวดใส่เขาทันที
“ควั่บ!”หางมังกรกระแทกใส่กระบี่ฝันยะเยือกและส่วนปลายหางกระแทกใส่ร่างบลูเมอร์เช่นกัน
“ป้าบ!”
ร่างของบลูเมอร์ถูกฟาดปลิวเหมือนกระสอบทราย บลูเมอร์ฟื้นตัวและตีลังในกลางอากาศลงพื้นคุกเข่าข้างหนึ่งกับเวที
ผู้ชมทั้งหมดกลั้นหายใจไม่กล้าส่งเสียงฮือฮาหรือตะโกน
“อึก” บลูเมอร์กระอักโลหิตออกมาเล็กน้อย จากนั้นจ้องมองที่อกของเขา ตรงที่ถูกหางมังกรฟาด ชุดของเขาฉีกขาด แม้ว่าอกของเขาจะมีปราณยุทธปกป้องเอาไว้แต่ปราณยุทธก็ฉีกออก มีแผลปรากฏอยู่ที่อกของเขา โลหิตค่อยๆ ไหลออกมา
เวลานี้วอร์ตันหันกลับมาจ้องมองด้วยดวงตาสีดำเย็นชาประกายสีทองฉายอยู่ในดวงตาเขา
“แข็งแกร่งดีนี่” บลูเมอร์พูดเบาๆ
ไม่ต้องสงสัยกันแล้วไม่มีนักรบระดับเดียวที่มีพลังเทียบเท่าหรือพลังโจมตีเหมือนนักรบเลือดมังกร แค่เพียงหางมังกรหวดใส่เขาก็สร้างบาดแผลลึกให้กับบลูเมอร์ได้
ตอนนี้บลูเมอร์เข้าใจเต็มที่แล้วว่าในการต่อสู้กับวอร์ตันเขาไม่อาจปล่อยให้ตัวเองถูกฟาดได้ แค่เพียงปลายหางมังกรฟาดใส่หน้าอกของเขาก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บได้ ถ้าเป็นการพลังโจมตีเต็มที่ เขาคงไม่บาดเจ็บเบาๆ เป็นแน่
“บึ้ม!”
ด้วยพลังมหาศาลวอร์ตันใช้เท้ากระแทกพื้นทำให้สั่นสะเทือนแม้จะมีเวทม่านพลังป้องกันพื้นเวทีไว้ก็ตามวอร์ตันเปลี่ยนเป็นภาพเลือนรางในพริบตาก็พุ่งยาวไปเป็นร้อยเมตรย่นระยะลงขณะพุ่งเข้าโจมตีบลูเมอร์
“ฮารรร์!”
ดาบศึกที่แฝงพลังรุนแรงกระแทกลงใส่เขา บลูเมอร์ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาหลบทันทีในขณะเดียวกันเมื่อเขาโจมตีด้วยดาบศึกเขาหมุนตัวเตะกวาดใส่ขาทั้งของบลูเมอร์
บลูเมอร์ไม่กล้ารับไว้แม้แต่น้อยได้แต่ถอยด้วยความเร็วสูงเพียงอย่างเดียว
“ควั่บ” แม้ว่าเขาจะถอยด้วยความเร็วสูง แต่หางมังกรที่เร็วดุจสายฟ้าก็หวดใส่เขาอีกครั้ง บลูเมอร์รีบยกกระบี่ฝันยะเยือกป้องกันไว้
“บึ้ม!” แม้กระบี่ฝันยะเยือกจะป้องกันได้แต่พลังฟาดที่รุนแรงก็ยังคงส่งผลให้บลูเมอร์ปลิวไปทางจุดของผู้ชมดู คนที่ชมดูอยู่ในจุดนั้นแตกฮือขณะที่บลูเมอร์ลงกระแทกพื้น
“บึ้ม!”หินตรงจุดผู้ชมแตกหัก เศษอิฐหินกระจายว่อนและปกคลุมไปด้วยฝุ่น
ผู้ชมทุกคนสูดลมหายใจหนาวเหน็บ นักรบเลือดมังกรทรงพลังมากจริงๆ เพราะเกล็ดมังกรทรงพลังน่ากลัว ขาแขนและหางสามารถกระแทกใส่ตรงๆ ได้เหมือนอาวุธ
นี่คือจุดได้เปรียบหลัก
“ฮ่าหห์!” บลูเมอร์ส่งเสียงคำรามลั่นบินออกมาจากกองฝุ่น เขาไม่บุกเข้าใส่วอร์ตันโดยตรง แต่เขากลับตรงไปที่อีกฝั่งหนึ่งของสนามประลอง
กระโจนเพียงสามครั้งบลูเมอร์ก็มาถึงอีกฝั่งหนึ่ง
“บลูเมอร์เจ้าจะต้องแพ้แน่นอน” วอร์ตันพูดอย่างเย็นชา
ร่างของบลูเมอร์เต็มไปด้วยรอยเลือด แต่ก็ยังยืนหลังตรงได้ บลูเมอร์ไม่มองวอร์ตัน แต่มองดูกระบี่ยาวในมือของเขา “เดิมทีข้าต้องการจะเอาชนะเจ้าด้วยวิชากระบี่ที่ข้าพัฒนามาด้วยตนเอง แต่ดูเหมือนว่าข้าต้องใช้วิชาที่พี่ชายของข้าสอนข้าเสียแล้ว”
“วิชากระบี่ของพี่ชายของเขา?”
เฮนด์เซนได้ยินแต่ละคำพูดชัดเจน “กระบี่เงาแสงของโอลิเวอร์น่ะหรือ? ข้าสงสัยว่าเขาเชี่ยวชาญวิชาของโอลิเวอร์มากน้อยแค่ไหน”
ลินลี่ย์ขมวดคิ้วเช่นกัน
วิชากระบี่ของโอลิเวอร์?
“จำเอาไว้วิชาที่เอาชนะเจ้าก็คือวิชากระบี่เงาแสง” เสียงเย็นชาของบลูเมอร์ดังขึ้น กระบี่ฝันยะเยือกในมือของบลูเมอร์มีรังสีทองคลุมเป็นชั้น
“ครืนนน...”
สิ่งที่แปลกก็คือบลูเมอร์ที่ยืนอยู่บนเวทีประลองแยกออกเป็นสองร่างในทันใดพร้อมกับกระบี่ยาวในมือของเขาเงาทั้งสองแยกออกกันอีกครั้ง
จากหนึ่งเป็นสอง จากสองกลายเป็นสี่ จากสี่เป็นแปด
ภาพนี้แปลกประหลาดอย่างมาก
“เร็วจนน่าทึ่ง” เนื่องจากระดับความรู้ปัจจุบันของเขาลินลี่ย์สามารถบอกได้ว่าบลูเมอร์ผู้นี้อาศัยระดับความเร็วที่น่าทึ่งจนสร้างผลสะท้อนเช่นนี้ได้
“ความเร็วนี้ความจริงเร็วกว่าความเร็วสูงสุดในร่างมนุษย์ของเราเล็กน้อย” ลินลี่ย์ลอบตกใจ
วอร์ตันยังคงระมัดระวังป้องกันตัวอย่างเคร่งเครียด เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาถูกเงาของบลูเมอร์ล้อมเอาไว้ บลูเมอร์ไวกว่าเขามาก และยังไวกว่าพี่ลินลี่ย์ของเขาในร่างมนุษย์
“เจ้าจะต้องแพ้แน่นอน”
เสียงเย็นยะเยือกดูเหมือนจะดังออกมาจากเงาร่างทั้งหมดขณะที่วอร์ตันตั้งรับอย่างเหนียวแน่นมากกว่าเดิม เงาลวงตาเหล่านั้นพลันพร่าเลือนขณะที่บลูเมอร์มาปรากฏอยู่หน้าของเขา
“ควั่บ!”
วอร์ตันไม่มีเวลาได้ใช้ดาบศึกป้องกันตัวดังนั้นเขาเพียงแต่อาศัยแขนยกขึ้นป้องกันท่าโจมตีนี้
“แคล้ง!” เสียงโลหะกระทบดังขึ้นได้ยินอย่างชัดเจนกระบี่ฝันยะเยือกทิ้งรอยขีดสีขาวไว้บนเกล็ดของวอร์ตัน แต่ขณะเดียวกันหางมังกรของวอร์ตัน...
“ควั่บ!”
หางมังกรฟาดใส่ แต่บลูเมอร์หายไปอีกครั้ง
เมื่อการโจมตีล้มเหลวเขาถอยทันที
“เกิดอะไรขึ้น?” วอร์ตันตกใจทันที “เขามาปรากฏต่อหน้าเราได้ยังไง?”
แต่ลินลี่ย์เห็นทุกอย่างชัดเจนและเข้าใจ “ใช้เงาสะท้อนภาพลวงตาของวิชาเงาแสงนี้เขาสามารถลอบเข้าไปใกล้โดยคู่ต่อสู้ไม่ทันสังเกตและจากนั้นใช้ความเร็วที่เหลือเชื่อมาปรากฏตัวก่อนที่คู่ต่อสู้จะทันได้ตอบโต้”
ลินลี่ย์สามารถใช้ความเข้าใจกฎสายลมตรวจสอบจุดที่คู่ต่อสู้อยู่ได้ง่ายๆเนื่องจากเป็นวิธีเอาชนะวิชานี้
อย่างไรก็ตามวอร์ตันไม่ได้เชี่ยวชาญธาตุลม
“ทำไมถึงมีเงามากมายนักเล่า” คนดูแปดหมื่นคนตะลึง พวกเขาเห็นว่าบนพื้นที่ประลองมีร่างของบลูเมอร์ปรากฏถึงสิบหกร่างขณะที่แสงสีทองฉาย หนึ่งในเงาร่างของบลูเมอร์ก็ปรากฏในตำแหน่งต่างๆ
จำนวนเงายังคงมีจำนวนสิบหกร่าง
เมื่อใดก็ตามที่เงาร่างหาย อีกเงาหนึ่งก็จะปรากฏในตำแหน่งที่ต่างๆ ทุกๆ ครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง จะมีประกายแสงทองฉายวาบหนึ่ง
น่าประหลาดนัก
วอร์ตันมองดูอย่างระมัดระวัง ขณะที่แสงทองฉายสายตาของวอร์ตันจะพร่าเลือน แต่ในทันใดนั้นเอง กระบี่ยาวของบลูเมอร์ปรากฏอยู่หน้าเขา บลูเมอร์ไม่ได้แทงโจมตีที่ตำแหน่งอื่นเขามุ่งอยู่ที่ดวงตาวอร์ตันเท่านั้น
ประกายแสงทองของกระบี่ปรากฏอยู่ที่ตาของวอร์ตัน