ตอนที่ 253 – ตอนที่ 234 เจ้าอ้วนไห่ สู้เขา
นอกจากเย่ว์หยางแล้ว คงไม่มีใครอื่นจะคาดหวังเจ้าอ้วนไห่ไว้อย่างสูง
ทุกคนรู้สึกว่าเจ้าอ้วนไห่นี้จะตายอย่างน่าอนาถแน่นอน แม้ว่าเหยียนพั่วจวินจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของไป๋หวินเฟยและองค์ชายสือจินสองดาวรุ่งดวงใหม่ และสามดาวเพชรฆาตที่เคยรุ่งเรืองกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว เขายังคงเป็นหนึ่งในสามดาวเพชฌฆาตในอดีต เขาเป็นผู้ที่คนธรรมดาไม่มีหวังว่าจะเอาชนะได้
เมื่อก่อนนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าอ้วนไห่เป็นใคร แต่เพียงหลังจากเขาใช้หมัดฮิปโปดาวตกลอบทำร้ายและฉวยความได้เปรียบเหยียนพั่วจวิน ทำให้คนตระหนักถึงความดำรงคงอยู่เจ้าอ้วนเคราะห์ร้ายผู้นี้ สำหรับสถิติของเจ้าอ้วนไห่ที่ถูกน็อคคาเวทีเร็วที่สุดเมื่อก่อนหน้านี้ ยังกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในหัวข้อสนทนาเสมอ ถึงขนาดมีคนบางคนรวบรวมข้อมูลบันทึกสถิติจากการแข่งขันสุดยอดร้อยโรงเรียนและเขียนหนังสือเป็นเรื่องราวของเจ้าอ้วนไห่
คนที่ล้มเหลวอย่างเจ้าอ้วนไห่ผู้สถิติที่น่าอับอายถูกน็อคคาเวทีภายในสิบวินาทีไม่น่าจะไต่อันดับไปเป็นนักสู้ชั้นยอดได้ ยิ่งไปกว่านั้น อาจมีโอกาสที่เขาจะถูกจัดอันดับอยู่สิบสุดยอดนักสู้ก็เป็นได้
เหยียนพั่วจวินไม่ต้องต้องการเอาชนะเจ้าอ้วนไห่ทันทีในตอนนี้ เขาตั้งใจจะกลั่นแกล้งและทรมานเจ้าอ้วนไห่ต่อหน้าผู้ชม เขาตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเปลี่ยนเจ้าอ้วนไห่ให้กลายเป็นหมูหันให้ได้
“เริ่มได้!” กรรมการชุดน้ำเงินให้สัญญาณสู้
เจ้าอ้วนไห่ไม่ทันได้เรียกคัมภีร์ออกมาก่อน เหยียนพั่วจวินก็พุ่งเข้าหาเขา
เขายิงลูกไฟใส่ศีรษะของเจ้าอ้วนไห่
เจ้าอ้วนไห่ไม่มีทักษะเรียกคัมภีร์ได้ฉับพลัน การเรียกคัมภีร์มักจะเป็นจุดอ่อนของเขาเสมอ หลังจากผ่านการฝึกฝนพิเศษ เขากลับทำได้ดีขึ้นมาก แต่ก็ยังช้ากว่าความเร็วในการเรียกคัมภีร์ของเหยียนพั่วจวินที่เร็วปานสายฟ้า ตลอดทั้งร่างของเจ้าอ้วนไห่มีไฟลุกท่วม แต่ไม่ได้ทำให้เขาบาดเจ็บมากนัก เหยียนพั่วจวินไม่รีบร้อนใช้ฝีมือที่ดีที่สุดเพื่อฆ่าเขาทันที เขาต้องการให้เจ้าอ้วนไห่ตายช้าๆ
ด้วยการสนับสนุนของอสูรแรดและฮิปโปน้อย แม้ว่าเจ้าอ้วนไห่จะร้องอย่างทรมาน แต่เขาก็ยังไม่แพ้จากการถูกเหยียนพั่วจวินทำร้ายอย่างต่อเนื่องและไม่สามารถโต้ตอบได้
เขาเตรียมใช้หมัดฮิปโปดาวตกของเขาอีกครั้ง
เหยียนพั่วจวินระดมเตะใส่หน้า, ศีรษะ, ไหล่และหลังของเจ้าอ้วนไห่ไวปานสายฟ้าอย่างต่อเนื่อง
ไฟจากเปลวเพลิงยังคงไหม้ผิวของเจ้าอ้วนไห่ขณะที่เขายังคงเตรียมหมัดของเขาอย่างต่อเนื่อง
ในทันทีเมื่อเจ้าอ้วนไห่ปล่อยหมัดฮิปโปดาวตก เหยียนพั่วจวินเตรียมรับการโจมตีโดยถอยออกไปเหมือนกับใบไม้และหลบหมัดเด็ดของเจ้าอ้วนไห่ได้
“ระบำกระเรียนไฟ!” เหยียนพั่วจวินเรียกนกกระเรียนไฟออกมาหุ้มตัวเขาไว้ แขนของเขาดูงามสง่าเหมือนกระเรียนสยายปีกที่มีไฟลุกโพลงขึ้นไปในท้องฟ้า ร่างของเจ้าอ้วนไห่ถูกเปลวไฟห้อมล้อมขณะที่เขาปล่อยพลังหมัดฮิปโปดาวตกเข้าใส่อากาศที่เบาบาง
“แม่จ๋า! ช่วยด้วย” เจ้าอ้วนถูกย่างจนเผลอร้องเรียกพ่อแม่ออกมา อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะกลิ้งตัวลงกับพื้นอย่างเจ็บปวดอย่างไร ก็ไม่สามารถดับไฟที่ลุกโหมอยู่บนร่างเขาได้
ผู้ชมหัวเราะขณะที่พวกเขามองดูเจ้าอ้วนไห่ คิดว่าเป็นเรื่องเกินกำลังเขาที่จะสู้กับเหยียนพั่วจวิน
ภายในนาทีเดียว เจ้าอ้วนไห่ถูกเปลวเพลิงของเหยียนพั่วจวินเผาอย่างน้อยก็สิบครั้ง ในสิบครั้ง มีแปดครั้งที่โจมตีถูก และเขาหลบได้สองครั้ง เจ้าอ้วนไห่ปล่อยหมัดฮิปโปดาวตกออกไปถึงสามครั้งแล้ว แต่ไม่มีหมัดไหนสร้างอันตรายได้ ล้วนแต่โจมตีใส่อากาศว่างเปล่า ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเขาเรียกคัมภีร์ออกมาได้สำเร็จและกางโล่ป้องกันตัวได้ทัน เจ้าอ้วนไห่คงกลายเป็นหมูหันไปแล้ว เมื่อกรรมการชุดน้ำเงินเห็นเจ้าอ้วนไห่กางโล่ป้องกันตัว เขาสั่งให้หยุดเวลาทันที จากนั้นเดินไปที่เจ้าอ้วนไห่แล้วเตือนเขาไม่ให้กางโล่นานเกินไป เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้โล่ในการแข่งขันนี้
เจ้าอ้วนไห่แค่เดินออกมาจากโล่หลังจากดับไฟบนตัวได้อย่างยากลำบาก หน้าของเขาโดนทำร้ายจนจำแทบไม่ได้
หน้าของเขาดูไม่ต่างจากพวกคนงานเหมืองแร่เลย ดำคล้ำไปด้วยเถ้าถ่าน เสื้อผ้าของเขาถูกฉีกขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ในยกแรก ในช่วงสามนาที เจ้าอ้วนไห่ล้มลุกคลุกคลานอย่างน้อยยี่สิบครั้ง หน้าของเขาถูกทุบตีจนบวมตุ่ย แทบจะเหมือนหัวหมู ทั้งศีรษะ, หน้าอกและแขนของเขาดำเป็นตอตะโก กลิ่นเนื้อไหม้ลอยโชยอยู่ในอากาศ
ถ้าไม่ใช่เพราะเย่คงแบกเขาลงมาจากเวทีต่อสู้แล้ว เจ้าอ้วนไห่คงไม่สามารถเดินลงมาเองได้
“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมแพ้การแข่งขัน?” เย่คงต้องการตบเจ้าอ้วนไห่ให้รู้สึกตัวจริงๆ เขารู้ว่าเจ้าอ้วนไห่ต้องการแข็งแกร่ง และว่าเขาได้ใช้ความพยายามที่ฝึกฝนมาทั้งหมดไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาคงกำลังฝันไป ถ้าต้องการจะเอาชนะเหยียนพั่วจวินด้วยฝีมือที่เพิ่งจะฝึกมาเพียงไม่กี่เดือนก่อนนั้น หมัดฮิปโปดาวตกของเขาสามารถโจมตีได้ถูกเหยียนพั่วจวินได้ก็เพราะเขาประมาท ไม่ใช่เพราะความสามารถของเจ้าอ้วนไห่เอง
“ไร้สาระ, ข้าเป็นลูกพี่ใหญ่ จะให้ยอมแพ้ในการแข่งขันของข้าเองได้อย่างไร!” แม้ว่าหน้าของเจ้าอ้วนไห่จะถูกทุบตีจนแทบจะดูเหมือนใบหน้าของหมูแล้วก็ตาม เขาก็ยังก็ยังทำปากดีแม้ยังเผชิญหน้ากับความตาย แต่ไม่ยอมรับความผิดพลาดของตนเอง
เย่ว์หวี่สร้างบอลวารีบำบัดขึ้นมาในมือสองลูก เจ้าอ้วนไห่คงไม่สามารถฟื้นอาการบาดเจ็บได้ถ้าเขาได้รับพลังรักษาเล็กน้อยจากแสงแก้วผลึกบำบัด หลังจากบำบัดด้วยบอลวารีแล้ว ผิวของเจ้าอ้วนไห่ยังคงไหม้เกรียม อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ดูดีขึ้นมาก อย่างน้อยที่สุดชีวิตของเขาคงไม่แขวนอยู่ในอันตรายแล้ว
ในยกที่สอง เหยียนพั่วจวินทุบตีเขาหนักรุนแรงกว่าเดิม
ก่อนจะจบยก เพื่อฉีกหน้าเจ้าอ้วนไห่ให้หนักกว่าเดิม เหยียนพั่วจวินเข้าไปประสานล็อคนิ้วเขาไว้และปล่อยพลังเปลวไฟ นิ้วของเจ้าอ้วนไห่ถูกเผาจนถึงจุดที่เนื้อกระจุยออกมา นิ้วของเขาถูกหักจากการพยายามดิ้นรนให้หลุดจากการจับของเหยียนพั่วจวิน อย่างไรก็ตาม เหยียนพั่วจวินก็ยังไม่ยอมปล่อย จนกระทั่งกรรมชุดน้ำเงินพุ่งเข้ามาและตวาดว่า “หมดเวลาแล้ว! ปล่อยเดี๋ยวนี้!” จากนั้นเหยียนพั่วจวินจึงค่อยปล่อยเจ้าอ้วนไห่ ขณะที่เขาทำเป็นสุภาพเรียบร้อยและโค้งคำนับให้เจ้าอ้วนไห่ แต่แน่นอนแม้แต่คนโง่ก็สามารถมองเห็นแววตาดูถูกในตาของเขา
“อะไรนะ? เจ้ายังต้องการสู้ต่อหรือ?” เย่คงรู้สึกว่าเจ้าอ้วนไห่บ้าไปเสียแล้ว หรือไม่ก็หายบ้าจนกลายเป็นประสาทหลอน
“ข้ายังคงมีไม้ตายสุดท้ายของข้า… ถ้าข้ายังไม่ได้ชกเขาให้ร่วงได้สักหมัด ข้าจะไม่มีทางยอมแพ้.. ข้าเป็นลูกพี่ใหญ่ของพวกเจ้า ดังนั้นข้าต้องทำตัวให้สมกับเป็นลูกพี่ใหญ่ แม้ว่าข้าจะไม่สามารถเอาชนะได้ ข้าก็จะพยายามอย่างดีที่สุด มิฉะนั้น จะเรียกความนับถือจากพวกเจ้าที่เป็นบริวารในฐานะลูกพี่ได้อย่างไร….ข้าคือลูกพี่ใหญ่!” เจ้าอ้วนไห่อ้าปากหายใจขณะที่กระอักเลือดออกมา เหยียนพั่วจวินก็กระแทกใส่ซี่โครงเขาด้วย
“เพราะเจ้าเป็นพี่ใหญ่ เจ้าจะต้องไม่ตาย! ถ้าเจ้าตาย เราก็ไม่มีใครให้แกล้งอีกต่อไป” เย่ว์หวี่ที่เข้ามารักษาให้เจ้าอ้วนไห่แทบจะเป็นลมเมื่อนางได้ยินคำพูดของเย่คง
เจ้าเมืองโล่วฮัวก็ยังไม่สามารถทนดูภาพที่เห็นได้ นางดึงเย่ว์หยางและพูดว่า “พูดอะไรสักอย่างกับเขาหน่อยสิ เผื่อว่าเขาจะยอมรับความพ่ายแพ้และเลิกต่อสู้ มันไม่ดีนะที่จะปล่อยให้เขาถูกทุบตีต่อไปอย่างนี้!”
เย่ว์หยางยืนขึ้นในจุดนั่งชมส่วนบุคคลปรากฏตัวให้เห็นเพียงครึ่งหนึ่ง แล้วชูหัวแม่มือของเขาในอากาศ
เจ้าอ้วนไห่มองดูจุดนั่งชมส่วนตัว เมื่อตาของเขาที่ฟกช้ำบวมตุ่ยจนเกือบจะลืมตาไม่ขึ้นมองเห็นหัวแม่มือของเย่ว์หยาง จู่ๆ ปากที่บวมเจ่อของเขาก็ยิ้มขึ้นทันที แสงแว่บคล้ายประกายมรณะปรากฏอยู่ที่หน้าของเจ้าอ้วนไห่ ทำให้เย่ว์หวี่, เย่ว์ปิงและอี้หนานห่วงใยเขาจริงๆ พวกเขาคิดว่า เจ้าอ้วนไห่นี้คงไม่ตายอย่างนี้ใช่ไหม?
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองดูเย่ว์หยางด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน “เจ้ายังคิดว่าเขายังเอาชนะเหยียนพั่วจวินได้อีกหรือ?”
เย่ว์หยางหัวเราะ “ถ้าเขาแพ้ ข้าจะแก้ผ้าวิ่งต่อหน้าเจ้าทันที..”
เจ้าเมืองโล่วฮัวหัวเราะ “อย่างนั้นถ้าเชี่ยนเชี่ยนแพ้ นางก็ต้องแก้ผ้าวิ่งต่อหน้าเจ้าด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ายังหวังว่าเจ้าอ้วนไห่จะสร้างปาฏิหาริย์ได้!”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหน้าแดงทนที แต่นางไม่เชื่อว่า เจ้าอ้วนไห่จะสามารถเอาชนะในสถานการณ์ที่เสียเปรียบเช่นนี้ได้ นางบ่นเย่ว์หยางและส่ายหัว “นั่นเป็นไปไม่ได้ เจ้าอ้วนไห่จะแพ้ในที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ข้าไม่เคยขอให้เจ้าแก้ผ้า ให้ลืมเรื่องก่อนหน้านั้นไปเลย!”
“เจ้าไม่สามารถทำอย่างนั้นได้สิ ยังไงก็เป็นสิ่งที่แตกต่างกัน..” เจ้าเมืองโล่วฮัวช่วยเย่ว์หยางเย่ว์หยางโต้แย้งองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกำลังของนาง ขณะที่นางพูดว่า “เจ้าไม่รักษาสัญญาเมื่อตอนที่เจ้าแพ้ก่อนนั้น ถ้าพวกเจ้าแพ้ตอนนี้ เจ้าจะต้องแก้ผ้า ข้าจะตัดสินเอง!” ก่อนที่นางจะพูดจบ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็กระโจนเข้าใส่นางและตรึงนางไว้กับพื้น และใช้กำลังถอดชุดของเจ้าเมืองโล่วฮัวและพูดว่า “ทำไมเจ้าไมแก้ผ้าเสียก่อนเล่า?”
“ถ้าองค์หญิงต้องการให้คนช่วย ข้ายินดีช่วยโดยไม่คิดค่าแรงนะ” เย่ว์หยางกลืนน้ำลายเอื๊อก ขณะมองดูสองสาวหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน
“เจ้าคนลามก!” สองสาวโต้เถียงพร้อมกัน ขณะที่พวกนางกระโจนเข้าหาเย่ว์หยางพร้อมกันตรึงเขาลงกับพื้นและจับเขาแก้ผ้า
“คนลามกคนเดียวพบสาวลามกถึงสองคน.. สองสาวที่รักของข้าผู้เก่งกาจ พวกเจ้านุ่มนวลกับข้าหน่อยได้ไหม? ความจริงมันเป็นครั้งแรกของข้านะที่จะมีอะไรกันแบบสองต่อหนึ่งแบบนี้…” เย่ว์หยางตัดสินใจไม่ต่อต้านขัดขืนพวกนาง นี่คือบรรเลงรักสองต่อหนึ่งไม่ใช่หรือ? สองต่อหนึ่งอย่างเร่าร้อนเขาพร้อมรับได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว
พอเห็นสีหน้าลามกของเขาแล้ว สองสาวไม่รู้จะทำยังไง แต่ทั้งคู่รู้สึกมันเขี้ยวจึงกระโจนเข้าหาเขาและกัดเขาพร้อมกัน
หลังจากนั้นพวกนางไม่รอให้เย่ว์หยางได้โต้ตอบ พวกนางกระโดดกลับไปนั่งที่ของนางที่ริมหน้าต่างวางตัวเหมือนกับหญิงผู้ดีต่อไป
ไม่ว่าหนังของเย่ว์หยางจะหนาแค่ไหน แต่เขาคงไม่กล้าลองจับสองสาวแก้ผ้าแน่ เมื่อกลุ่มผู้ชมสามารถมองเห็นได้จากหน้าต่าง
เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกัดพวกนางคืน
แม้ว่าสองสาวจะกลั่นแกล้งเย่ว์หยางได้สำเร็จ เย่ว์หยางก็ไม่ต้องการเสียเปรียบ แต่เขาเบียดตัวเองไปนั่งระหว่างสองสาว วางตัวให้มีเกียรติและดูดีและมองดูการแข่งขันด้านล่าง แต่มือทั้งสองโอบเอวสองสาวเอาไว้ สำหรับท่าทีที่ลามกของเย่ว์หยาง องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมีปฏิกิริยาทันที นางปัดมือที่ซุกซนของเย่ว์หยางออกไป เจ้าเมืองโล่วฮัวกลับตรงกันข้าม นางตัวสั่นเพียงเล็กน้อยขณะที่นางรีบกดมือซุกซนของเย่ว์หยางลง นางกดมือของเย่ว์หยางให้โอบแค่เอวบางของนาง ตราบใดที่มือของเขายังอยู่ที่เอวนางอย่างว่าง่าย นางก็ไม่ถือสาที่ถูกเขากอดไว้
พอเห็นเช่นนี้ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดคำบางคำกับเจ้าเมืองโล่วฮัว
เจ้าเมืองโล่วฮัวก็ตอบนางด้วยคำพูดบางคำ
เย่ว์หยางไม่เข้าใจแม้แต่น้อย สองสาวรู้วิธีอ่านริมฝีปากได้อย่างไร?
เมื่อเขามองดูองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอย่างพิเคราะห์ เขาสังเกตว่าหน้าของนางหงุดหงิดเล็กน้อย เหมือนกับว่านางเห็นเรื่องที่ทำให้นางโกรธ เขาไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่แตะหน้านางต้องการจะปลอบนาง แต่ปฏิกิริยาขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโดดถอยด้วยความตกใจ นางจ้องเขาอย่างดุดันเหมือนกับบอกว่า “เจ้าบังอาจแตะต้องหน้าข้า ขณะที่ข้าโกรธเจ้าหรือ?” นางจับมือเย่ว์หยางไว้ทันที เย่ว์หยางต้องการดิ้นรนให้หลุด แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเกรงว่าเย่ว์หยางจะทำตัวซุกซนอีก ดังนั้น นางคว้ามือเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
พอเห็นภาพนี้แล้ว เจ้าเมืองโล่วฮัวหัวเราะออกมาดังๆ ขณะที่นางใช้มือตบอกเย่ว์หยางเบาๆ
เจ้าเมืองโล่วฮัวดูมีความสุขมากกว่า ขณะที่สีหน้าขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลายเป็นหงุดหงิดมากกว่า.. แต่นางก็ยังไม่ปล่อยมือเย่ว์หยาง ในที่สุดนางมองลงไปที่เวทีต่อสู้โดยไม่สนใจอีกสองคนอีกต่อไป นางให้ความสนใจกับการแข่งขันในยกต่อไป นางรับประกันได้ว่ามือของเย่ว์หยางตอนนี้ไม่สามารถเชิดชูยกย่องความกล้าหาญของเจ้าอ้วนไห่แน่ เขาต้องส่งสัญญาณบางอย่างให้ใช้อุบายต่อสู้หรือตอบโต้กลับ.. หลังจากนั้น เจ้าอ้วนไห่คงตอบโต้กลับแน่นอน พวกนางต้องการดูว่าแผนโต้กลับของเย่ว์หยางจะได้ผลหรือไม่
เหยียนพั่วจินพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง และใช้เปลวไฟในมือของเขาต่อยใส่ที่จมูกของเจ้าอ้วนไห่อย่างแรง
หมัดที่รุนแรงทำให้จมูกของเจ้าอ้วนไห่แตก ขณะที่เปลวไฟพุ่งเข้าไปในปากและจมูกของเขา นัยน์ตาของเจ้าอ้วนไห่เหลือกค้างขณะที่เขาล้มลงบนพื้นดังตุ้บ
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตะลึง นี่คือแผนต่อสู้ที่เย่ว์หยางส่งสัญญาณให้เจ้าอ้วนไห่หรือ?
พยายามแกล้งตายหลังจากถูกต่อยหรือ?
หรือว่าเจ้าอ้วนไห่อ่อนเปลี้ยไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว?
นางมองดูเย่ว์หยางและตระหนักว่าเจ้าตัวร้ายกำลังยิ้มจริงๆ สีหน้าของเขาเหมือนจิ้งจอกน้อยที่ขโมยไก่สำเร็จ นางจึงสงบลงได้ทันที ดูเหมือนว่ายังคงมีความหวัง บางทีการหลอกคู่ต่อสู้รวมอยู่ในแผนลับโต้ตอบของเขาด้วย
แน่นอนว่า เมื่อเหยียนพั่วจวินเห็นเจ้าอ้วนไห่ไมเคลื่อนไหว ถึงกับคลี่ยิ้มเต็มใบหน้าด้วยความพอใจ
เขาไม่รีบร้อนโยนเจ้าอ้วนไห่ลงไปนอกเวที ตั้งใจจะฉีกหน้าให้หนักยิ่งขึ้น
เหยียนพั่วจวินเอาเท้าเหยียบหัวเจ้าอ้วนไห่และพูดกับกรรมการ “เขาเกือบจะตายแล้วนะ ถ้าท่านไม่ประกาศให้ข้าชนะ ข้าจะเตะเขาออกนอกเวที”
อย่างไรก็ตาม ขณะที่กรรมการชุดน้ำเงินจะประกาศให้เจ้าอ้วนไห่พ่ายแพ้ มีเสียงดังออกมาจากใต้เท้าของเหยียนพั่วจวิน
“ใครบอกว่าข้าใกล้ตาย? ข้าแค่ลงไปงีบชั่วขณะเท่านั้น ข้านอนกับสาวๆ เจ็ดคนในคืนนี้ก็ยังไหว แล้วเจ้าพูดออกมาได้ยังไง ว่าข้าใกล้จะตาย?” มือของเจ้าอ้วนไห่คว้าที่ขาของเหยียนพั่วจวินไว้ และค่อยเงยหน้าขึ้นทีละนิ้วๆ ใบหน้าที่แดงเหมือนเลือดหมูยิ้มดูแปลกๆ ขณะที่เขากล่าวว่า “นักเรียนพั่วจวิน เจ้าซ้อมข้าสนุกไหม? ตอนนี้ข้าจะเอาคืนเจ้าให้หนักขึ้นเป็นสิบเท่า”
“ฝันไปเถอะ!” เหยียนพั่วจวินไม่เคยคาดว่าเจ้าอ้วนไห่ผู้นี้ยังสามารถพูดอะไรได้ทั้งที่เท้าข้างหนึ่งก้าวลงไปในหลุมศพแล้ว
ทั้งที่มีเปลวเพลิงลุกท่วม เจ้าอ้วนไห่ยกเหยียนพั่วจวินและทุ่มเขาลงพื้นอย่างแรง
เหยียนพั่วจวินรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะที่เขาดีดตัวขึ้นมาทันทีและเรียกราชสีห์เพลิงเข้ามาช่วยสนับสนุน
ปรากฏเป็นราชสีห์ตัวหนึ่งยิงระเบิดไฟใส่ท้องฟ้า ระเบิดไฟพุ่งไปทั่วทุกที่ บางส่วนยังเข้าไปถึงจุดผู้ชมด้วย
แม้แต่ผู้ชมที่นอกเวทีทุกคนก็ยังรู้สึกถึงความร้อนจากเปลวเพลิง กรรมการชุดน้ำเงิน ยังคงไปหลบความร้อนไปอยู่ที่มุมเวทีต่อสู้ จนเกือบจะร่วงตกจากเวที อย่างไรก็ตาม เจ้าอ้วนไห่ก็ยังพุ่งเข้าหาเหยียนพั่วจวินที่อยู่ในท่ามกลางเปลวไฟ ใบหน้าเปื้อนเลือดและบวมของเขาดูสงบ “ยังใช้ไม่ได้ อสูรพิทักษ์ของข้าเป็นอสูรสายวารี เจ้าเข้าใจไหม? เจ้าคิดว่าจะย่างต้าไห่ผู้ยิ่งใหญ่นี้ด้วยไฟนิดหน่อยของเจ้าได้หรือ?”
เจ้าอ้วนไห่เอื้อมมือออกมา ภายใต้สายตาที่ประหลาดใจของผู้ชมเขาใช้ฝ่ามือรับหมัดของเหยียนพั่วจวินไว้ได้อย่างง่ายดาย
เสียงระเบิดกึกก้อง ขณะที่เขาจับเหยียนพั่วจวินทุ่มลงพื้นเป็นครั้งที่สอง จากนั้นกระโจนใส่
ร่างของเขาที่ลอยอยู่ดูใหญ่เหมือนหินใหญ่กระแทกลงกับพื้น
บึ้ม!
ผู้ชมทั้งหมดรู้สึกได้ถึงแรงสะเทือนที่รุนแรง
เป็นครั้งแรกที่เหยียนพั่วจวินแสดงความเจ็บปวดออกมาทางสีหน้าของเขา…
เมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเห็นเช่นนี้ นางจับแขนเย่ว์หยางแน่นด้วยความดีใจ “เจ้าเป็นคนสอนเขาแน่นอน! เจ้าสอนท่าลับอะไรให้เจ้าอ้วนหรือ? การโจมตีธรรมดาใช้กับเหยียนพั่วจวินไม่ได้ แต่ตอนนี้มันมีผลมาก นั่นเป็นท่าลับแบบไหนกัน?”
*************