ตอนที่ 240 หิมะสายฟ้า
เมื่อคำนึงถึงทุกอย่างและลดเวลาที่พวกเขาใช้เดินทางถังเทียนมีเวลาเพียงเจ็ดวัน แทนที่จะเป็นสิบวันซึ่งดูเหมือนกับว่าเป็นงานที่เป็นไปไม่ได้ ปีที่แล้ว อาวุธอย่างเสือเขี้ยวดาบมีโครงสร้างที่ง่ายและแข็ง ซึ่งถังเทียนรู้สึกเหมือนถูกจำกัดอยู่ในพลังของมัน ยิ่งกว่านั้นยังมีเคล็ดการต่อสู้ที่ถังเทียนยังไม่ได้เรียนรู้และนั่นไม่ต้องพูดถึงการใช้อาวุธจักรกลระดับสูงอย่างหิมะสายฟ้าเลย
ทุกคนรู้ว่านี่เป็นงานที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ถังเทียนกับปิงไม่บ่นสักคำ
ด้วยทุกอย่างที่พวกเขามีในตอนนี้ จะบ่นอะไรออกไปก็ไร้ความหมาย
“ถ้าเจ้าเชี่ยวชาญอาวุธจักรกลใหม่เจ้าจะค้นพบว่ามันดีกว่าใช้เสือเขี้ยวดาบมาก เพราะมันฉลาดกว่า หิมะสายฟ้ามีจิตวิญญาณพลังยุทธอยู่ในนั้น แม้ว่าจะไม่ทรงพลังมากนัก แต่มันก็มีความรู้และคิดได้เร็ว ดังนั้นสิ่งแรกที่เจ้าต้องทำก็คือสื่อสารกับมัน สำหรับอาวุธจักรกลรุ่นใหม่การสื่อสารกับจิตวิญญาณพลังยุทธในอาวุธเป็นเรื่องสำคัญ การประสานร่วมมือระหว่างจิตวิญญาณและเจ้าจะกำหนดผลของการต่อสู้”
“เจ้าต้องจดจำเอาไว้ว่าอาวุธจักรกลนี้คือสิ่งที่ใหม่สำหรับเจ้าและมันเหมือนกับจิตวิญญาณพลังยุทธที่แปลกหน้ากับร่างของผู้ใช้ ในระหว่างเจ็ดวันนี้ เจ้าไม่ต้องทำอะไรแค่เรียนรู้วิธีใช้อาวุธจักรกล แต่จิตวิญญาณพลังยุทธจะต้องได้เรียนรู้วิธีควบคุมร่างกายเจ้าด้วย”
ปิงลุกขึ้นยืนเงียบๆหลังจากอธิบายจบ ถังเทียนยังหมกมุ่นกับคำอธิบายของปิงยกมือขึ้นถามทันที “ลุงหมายความว่าจิตวิญญาณพลังยุทธก็เหมือนกับเด็กเกิดใหม่กำลังเรียนรู้วิธีเดินเช่นกันใช่ไหม?”
“ถูกแล้ว!” ปิงผงกศีรษะ “ไม่ว่าผู้ใช้จิตวิญญาณพลังยุทธเดิมจะเคยใช้มาก่อนหรือไม่แต่ทันทีที่เปลี่ยนผู้ใช้จิตวิญญาณพลังยุทธจะต้องเรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่ต้นซึ่งรวมถึงวิธีการเดินด้วย”
ถังเทียนขมวดคิ้วหลังจากได้ยินและกล่าว“มันคงจะดีถ้าข้าเพียงผู้เดียวที่เรียนรู้ แต่ตอนนี้จิตวิญญาณพลังยุทธยังต้องเรียนรู้ด้วย แล้วจะมีประโยชน์อะไร?”
“อย่าดูถูกจิตวิญญาณ เจ้าจะไม่มีทางเรียนรู้ได้เร็วกว่ามันแน่นอน เนื่องจากวิญญาณจะมีประสบการณ์ในการเคลื่อนไหวจากร่างกายเจ้า ทันทีที่มันคุ้นเคยกับรูปแบบการเคลื่อนไหวของเจ้า มันจะเรียนรู้ได้เร็วกว่าเจ้าเลยทีเดียว
“หนอย, กล้าดียังไงมาดูถูกข้า!” ถังเทียนถลึงตาใส่ปิง
“หลังจากเทียบดูแล้วเจ้าจะรู้สิ่งที่ข้าหมายถึง” ปิงพูดอย่างมั่นใจหิมะสายฟ้า
“มาลองแข่งกันดู!” ถังเทียนตอบ ก่อนที่จะกระโดดลงไปในหลุมที่ปิงได้ขุดไว้
ถังเทียนหันศีรษะไปจ้องดูหิมะสายฟ้า
หัวของหิมะสายฟ้ามีสีเหมือนน้ำทะเลมีความกว้างประมาณสองเมตรและใช้รูปแบบที่แตกต่างจากอาวุธจักรกลจากกองทัพดาวกางเขนใต้ซึ่งดูเรียบง่าย แต่อาวุธจักรกลนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อดึงดูดความสนใจเพราะเซรีนต้องการให้มันสะดุดตาผู้ชมเพื่อดึงดูดความสนใจอาวุธจักรกลชนิดใหม่นี้ ข้อต่อของอาวุธจักรกลนี้บางมากและคล่องตัวมากขึ้น แต่ในภายในสร้างตามแบบอย่างกองทัพกางเขนใต้และมีที่ค้ำเพื่อป้องกันผู้ใช้ด้วย
ข้อต่อเหมือนกับชั้นของเกล็ดปลาเรียงรายเป็นชั้นๆต่อกันทำให้ผู้ใช้มีความยืดหยุ่นคล่องตัวในการเคลื่อนไหว สำหรับส่วนของอาวุธจะครอบคลุมทั้งแขนและขา วัสดุที่ใช้ก็เป็นโลหะแข็งทนทานซึ่งใช้ไฟหลอมครั้งแล้วครั้งเล่าเพิ่มความแข็งแกร่งให้อาวุธการขึ้นโลหะเหมือนกับลายคลื่นน้ำอยู่บนผิวของมัน
ส่วนของเกราะไหล่แตกต่างจากอาวุธจักรกลธรรมดาซึ่งในการสร้างทำให้มีขนาดกระทัดรัดและเกราะกลมทำให้ผู้ใช้เคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น
ว่ากันเรื่องรูปลักษณ์หิมะสายฟ้าเป็นเหมือนบุรุษร่างกายบึกบึนที่เป็นเหล็กกล้าไม่มีเลือดเนื้อส่วนเกินอยู่ในตัวเลย แม้เมื่อยืนอยู่เงียบๆ ก็ยังมีราศีที่น่ากลัว
“เฮ้, หิมะสายฟ้า!” ถังเทียนตะโกน “มาสู้กันจริงๆ ดีกว่า”
ทันใดนั้นหิมะสายฟ้าเปล่งประกายแสงสีฟ้าออกมาจากดวงตาน้ำเงินเข้มวูบหนึ่ง
ทันใดนั้นเองหิมะสายฟ้าก็หมอบอยู่ด้านหน้าของถังเทียนเหมือนเหมือนกับธนูขึ้นสายเตรียมจะยิง ถังเทียนถอยลงมาเล็กน้อยคำนวณแรงโจมตีที่หิมะสายฟ้าจะปลดปล่อยออกมา
หิมะสายฟ้าปลดปล่อยพลังของมันโดยดันต้นขาเหล็กของมัน
พลังแข็งแกร่งมากจนมันสร้างรอยบนพื้นหินแข็งได้ พื้นที่รอบๆที่ของเซรีนเป็นพื้นที่หินแข็งราวกับโลหะ แต่หิมะสายฟ้าสามารถสร้างรอยบนพื้นแข็งได้เหมือนกับว่าพื้นสร้างจากเศษแผ่นไม้
ทรงพลังมาก
ถังเทียนตกใจกับการแสดงพลังที่ยิ่งใหญ่
ขณะที่หิมะสายฟ้าลงพื้นด้วยขาหลังที่หนักกว่าเดิมเกิดรอยแตกบนพื้นเหล็กใต้ขาของมัน ถังเทียนรู้สึกทึ่ง
การผสมผสานที่ลงตัวอย่างนั้นจังหวะและความแข็งแรง สิ่งที่เกิดขึ้นถัดมาก็คือเงาสีฟ้าพุ่งผ่านห้องไปราวกับประกายไฟ
สายฟ้าสีน้ำเงิน!ไปกัน
ใช่แล้วนั่นต้องเป็นแบบนั้น
ถังเทียนถูกความตื่นเต้นครอบงำ
ปัง!แคร้ง!
เสียงโลหะกระทบกันก้องสะเทือน พื้นเหล็กข้างล่างใต้เท้าพวกเขากำลังสั่นสะเทือนอย่างไม่อาจควบคุมได้แทบจะทำให้ถังเทียนตัวกระดอนจากพื้น ฝุ่นปลิวไปรอบๆ ล้อมตัวถังเทียน
หลังจากเวลาผ่านไปเมื่อฝุ่นจางลง ถังเทียนจึงสามารถมองเห็นสิ่งที่ยืนตระหง่านอยู่กลางห้องอย่างตื่นตะลึง
ต่อหน้าถังเทียนเป็นคือขาโลหะสีฟ้าสองข้างกดลึกลงไปในพื้น เพราะพลังที่มากมายจากพายุสายฟ้าทำให้ร่างกายท่อนล่างของมันกดลึกลงไปในพื้นเหล็ก
“โอว!” ปิงอุทานขณะที่เอามือก่ายหน้าผากและไม่อาจทนดูถังเทียนได้
ทันใดนั้นปิงมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้อย่างหนึ่ง นักสู้สายจักรกลที่ไม่น่าเชื่อถือจับคู่กับอาวุธจักรกลที่ไม่น่าเชื่อถือทำให้เขารู้สึกยากจะนึกภาพออก
เขาลังเลใจใจอยู่ชั่วขณะและมีความคิดอย่างหนึ่ง
แต่ความคิดนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็วพอๆกับที่ผุดขึ้นมาในใจ
ร่างท่อนล่างของหิมะสายฟ้าจมลึกลงไปในพื้น ไม่ว่ามันจะดิ้นรนมากเพียงไหน ก็ไม่สามารถช่วยตัวเองให้หลุดออกมาได้
ถังเทียนกับปิงหมดพลังงานของตนเองไปมากกว่าจะดึงหิมะสายฟ้าขึ้นมาจากพื้นได้
“จบกัน” ถังเทียนพึมพำ “สติปัญญาของจิตวิญญาณพลังยุทธนี่ไม่ได้สูงมากมาตั้งแต่แรก หลังจากกระแทกรุนแรงอย่างนั้นแล้วมันจะเหลือปัญญาอะไร?”
“อย่าห่วงเลย บางทีอาจเป็นแค่หัวหอมโง่ๆ” ปิงยักไหล่กล่าว
“หัวหอมโง่ๆ คืออะไร?” ถังเทียนถาม
“ก็หมายความว่าเมื่อคนโง่พอกันสองคนมาเจอกัน ทั้งสองก็กลายเป็นฉลาดไงเล่า!” ปิงอธิบาย
หลังจากนั้นชั่วครู่ถังเทียนถลึงตากล่าว “เฮ้ย,ลุงกล้าดียังไงมาว่าข้าโง่!”
“ข้าไม่ได้ว่าอย่างนั้น เป็นแต่เจ้าพูดเองนะว่าเจ้าโง่!” ปิงยักไหล่ตอบอีกครั้ง
“หนอย! ข้าจะอัดให้น่วมเชียว!” ถังเทียนยัวะตะโกนลั่น
“เฮ้, เซรีนดูเหมือนจะตกใจตื่นนะ” ปิงไม่สนใจอารมณ์โมโหถังเทียนและชี้ไปที่เซรีน
ถังเทียนหันไปสนใจหิมะสายฟ้า “เฮ้, หิมะสายฟ้า, เจ้าเก่งพอหรือเปล่า? ถ้าเจ้ายังขืนเป็นแบบนี้เจ้าจะไม่อาจเทียบได้กับหนุ่มชาวฟ้า! แต่อย่าห่วง, ข้าจะไม่ยกเลิกเจ้าแน่ ดูเหมือนว่าเจ้าต้องการเป็นเหมือนหนุ่มชาวฟ้าอย่างข้าสินะ...”
ถังเทียนสวมชุดเกราะและรู้สึกสดชื่น
“โห,ความรู้สึกช่างแตกต่างจากเสือเขี้ยวดาบ นี่มันเยี่ยมเลย”
จิตวิญญาณพลังยุทธของถังเทียนนั้นทรงพลังมาก การสื่อสารและการประสานกับหิมะสายฟ้าง่ายกว่าที่คิดมาก สำหรับคนอื่นการสื่อสารกับจิตวิญญาณพลังยุทธของพวกเขาเป็นสิ่งที่น่าท้าทายที่สุด แต่สำหรับถังเทียน กลับตรงกันข้าม
หลังจากตอนแรกเริ่มต้นอย่างยากลำบาก หิมะสายฟ้าก็ทำตัวดีกว่าแต่ก่อนมาก และถังเทียนก็ตื่นเต้นที่ได้ลองบางอย่างใหม่ๆในครั้งนี้
“โว้ว! หิมะสายฟ้า, ไปเลย!”
ปัง!แคล้ง!
เสียงดังคงที่สม่ำเสมอของบางคนถูกปล้ำอยู่บนพื้นเหล็กดังสะท้อนไปตามผนังรอบๆทำให้พื้นสั่นสะเทือนขณะที่ฝุ่นลอยฟุ้งขึ้นในอากาศ
ถังเทียนลุกขึ้นมาอย่างไม่สนใจหลังจากร่วงล้ม เขาไม่ท้อแท้ เขาตะโกนด้วยความลุ่มหลงเกินควร “หิมะสายฟ้า”ลองดูอีกครั้ง”
ปัง!แคล้ง!
“เยี่ยมเลย หิมะสายฟ้า, ต้องเวลาราวๆนี้แหละแล้วเจ้าจะสำเร็จ!
ปัง! แคล้ง!
“เฮ้, หิมะสายฟ้า, อย่ากลัวสิ! เข้มแข็งเข้าไว้, ลูกผู้ชายซะอย่าง ลองอีกครั้ง!”
ปัง!แคล้ง!
……
ขณะที่ถังเทียนควบคุมหิมะสายฟ้า เขาร่วงหล่นนับครั้งไม่ถ้วน แต่เสียงคำรามกระตือรือร้นของเขาและการให้กำลังใจไม่ได้ลดลง ปิงรู้ว่าเพราะทุกครั้งที่ร่วงลงมาถังเทียนจะมีประสบการณ์แม้ว่าเขาจะแข็งแรง แต่ในการร่วงแต่ละครั้งก็ทำให้ร่างกายเจ็บปวดได้
แต่ถังเทียนไม่แสดงท่าทางเจ็บปวดและยังคงรั้งอยู่กับหิมะสายฟ้าต่อไป
มาคิดดูแล้วนี่ก็คือธรรมชาตินิสัยของถังเทียนนั่นเอง
ปิงมองดูด้วยความสนใจ จิตวิญญาณพลังยุทธของเซรีนอ่อนแอกว่าอาหู่มากในแง่ความเร็วและสติปัญญาของทั้งสอง ความล้มเหลวในตอนแรกทำให้หิมะสายฟ้ากังวลใจการวิ่งครั้งต่อมาสองสามครั้งที่หิมะสายฟ้าไปพร้อมกับถังเทียนปิงสามารถเห็นได้ว่ามันกลัวเล็กน้อยที่จะไปต่อ
แต่หลังจากร่วงลงมานับครั้งไม่ถ้วนและได้รับกำลังใจจากถังเทียน หิมะสายฟ้าก็เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น ความเคลื่อนไหวของเขาว่องไวมากขึ้น
“เจ้าทำได้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ, หิมะสายฟ้า,อย่างนั้นแหละยอดเยี่ยมแล้ว”
“นั่นแหละ, นี่คือวิธีที่ควรเป็น มาลองดูอีกครั้ง”
ลึกๆแล้วปิงตื่นเต้นกับความกล้าหาญของถังเทียน จากนั้นปิงก็ได้ยินคำพูดบางคำที่ทำให้เขายืนอึ้ง
“เยี่ยมมาก! ตอนนี้เจ้าเห็นวายร้าย หน้าเหมือนไพ่ที่เขาเล่นกันตรงนั้นไหม?ใช่เลย, เขานั่นแหละ! เอาเลย เราวิ่งไปหาเขากัน! ให้ตาลุงนั่นได้ลิ้มชิมรสประกายสายฟ้าที่เขาไม่เคยได้เห็นมาก่อน”
……
“วิเศษมาก!เมื่อครู่นี้เราขู่ตาลุงวายร้ายได้ ตอนนี้เราจะปลดปล่อยพลังโจมตีที่ร้ายกาจยิ่งกว่า! โอวโอว โอว! ดูหน้าเขาสิเขียวปั้ดเลย ปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งได้หรือเปล่า? มาเผาเครื่องกัน หิมะสายฟ้า!”
….
ปิงหน้าดำราวกับตอตะโก
ฮึ่ม!
ขณะที่หิมะสายฟ้าพุ่งเข้าหาปิง มันมาหยุดต่อหน้าปิงในพริบตา “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า,ว่าไงลุง, เราแข็งแกร่งทรงพลังใช่ไหมเล่า? หัวหอมคู่ (งี่เง่าทั้งคู่) ทำให้เราไร้เทียมทาน!”
หัวหอมคู่....
เซรีนตัวเต็มไปด้วยฝุ่น แต่เห็นได้ชัดว่านางพอใจกับความก้าวหน้า
ความเร็วของหิมะสายฟ้าเร็วอย่างน่าทึ่ง
ปิงก็ประหลาดใจกับความก้าวหน้า ตอนแรกเขาคิดว่าเมื่อถังเทียนคุ้นเคยกับหิมะสายฟ้า อย่างน้อยต้องเป็นตอนบ่ายเขาถึงจะได้มาตรฐานระดับนี้ ไม่มีใครคาดเลยว่าแค่เพียงสองชั่วโมงพวกเขากลับก้าวหน้าได้อย่างน่าอัศจรรย์
แต่....
ปิงรู้สึกว่าเซรีนคงไม่ต้องการเห็นลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปของหิมะสายฟ้า เปลี่ยนไปมากจนจำแทบไม่ได้ หิมะสายฟ้าที่โทนสีฟ้าสดใสเหมือนอัญมณี แต่หลังจากฝึกแล้วชนกระแทกร่วงลงมานับครั้งไม่ถ้วน หิมะสายฟ้าจึงเต็มไปด้วยรอยแผลและคราบสกปรกจากการฝึกฝน
ฮืมม..
เสียงหอบเลือนรางสามารถได้ยินมาจากภายในร่างของหิมะสายฟ้า ปิงรู้ว่าจิตวิญญาณพลังยุทธเหนื่อยล้าจากการฝึกฝน
ถังเทียนเองก็เหน็ดเหนื่อยหลังจากวิ่ง,ต่อสู้และร่วงลงมานับครั้งไม่ถ้วนทำให้ร่างเขาบอบช้ำผิวภายใต้เสื้อผ้าของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยแผลฟกช้ำ
ถังเทียนไม่สนใจ เขาแหกปากหัวเราะและตะโกนอย่างบ้าคลั่ง“ว่าไงลุง, ลุงต้องแปลกใจแน่ๆ เลย”
หิมะสายฟ้าดูเหมือนจะได้รับอิทธิจากถังเทียน มันมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นหลังจากฝึกฝนปิงหัวเราะ “นี่แค่เพียงเริ่มต้น วางใจได้สิ่งที่เจ้าจะได้ประสบพบเจอในเจ็ดวันนี้ จะเป็นเรื่องที่เจ้าจะต้องจดจำไม่มีวันลืมเลยทีเดียว”