ตอนที่ 235 แท่นสูงสามเมตรกระบี่แสนเล่ม
“เฮ้, จื่อหลิน เจ้ายังอยู่โยงอีกเหรอ?” คู่หูของเขาประหลาดใจเล็กน้อยมองดูที่กระดานทักษะโดดเด่น เขายิ้มและกล่าว “ที่นี่ไม่มีอะไร ดูเหมือนจะไม่มีวิทยายุทธโดดเด่นที่สร้างมาใหม่ไม่ใช่หรือ”
“หกเดือนกับอีกเก้าวัน”เฉินจื่อหลินให้คำตอบที่แน่นอน เขาคุ้นเคยกับรายชื่อทักษะที่โดดเด่นซึ่งปรากฏอยู่บนกระดาน
“นั่นก็นานไปหน่อยนะ” คู่หูของเขารู้สึกอึดอัดอย่างช่วยไม่ได้ “อย่าบอกข้าจะว่ามีปัญหาเกี่ยวกับกระดานรายชื่อทักษะที่ไม่ซ้ำใคร”
“อย่าพูดไร้สาระน่า” เฉินจื่อหลินกล่าว “ถ้ากระดานทักษะที่ไม่ซ้ำใครมีปัญหาสถาบันวิทยายุทธอมตะของเราต้องเกิดโกลาหลแน่ ใครจะรอให้เจ้ามาเอะอะโวยวายที่นี่?”
“นั่นก็จริง” คู่หูของเขากล่าว และโบกมือให้ตามปกติ “งั้นข้าไปล่ะ ยังไม่เปลี่ยนกะกับข้าในคืนนี้นะ โอว,ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงได้สนใจกระดานวิทยายุทธที่ไม่ซ้ำใครยิ่งนัก ข้าเองก็เห็นมาหลายวันแล้ว ทำเอาข้าเกือบอ้วก”
“จะไปไหนก็ไปซะ” เฉินจื่อหลินโบกมือเขา “ข้าจะอยู่ที่นี่ต่ออีกคืน”
เฉินจื่อหลินยังคงศึกษากระดานรายชื่อต่อไป
เขาหันหน้าเข้าหากระดานมหึมาสามสิบเมตรนั่นคือสมบัติระดับเซียนของหมู่ดาวค้างคาว กระดานวิชาเกิดใหม่ บนกระดานนี้มันสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวจากวิทยายุทธทุกประเภทจากสวรรค์วิถีทั้งหมด ระลอกคลื่นของวิทยายุทธทุกชนิดจะถูกตรวจจับโดยกระดานนี้
บนกระดานจะมีชื่อวิทยายุทธปรากฏอยู่สองสามชื่อและในตอนเริ่มต้นจะไม่มีใครรู้ความหมาย แต่เขาจะค่อยๆ เริ่มตระหนักวิทยายุทธทั้งหมดที่ปรากฏในกระดานรายชื่อวิทยายุทธใหม่จะต้องเป็นวิทยายุทธที่แข็งแกร่งมากและเกินกว่าปกติอยู่มาก การจัดอันดับวิทยายุทธปกติยากที่จะกำหนดพลังของมันได้
ทันทีที่มีคนฝึกฝนวิทยายุทธแบบนี้ที่มีชื่อพิเศษไม่ซ้ำใคร
วิทยายุทธที่ไม่ซ้ำใคร ทั้งหมดนั้นเป็นวิชาที่แปลกประหลาด แต่ก็ไม่มีใครเทียบได้
บนกระดานรายชื่อวิชาที่ไม่ซ้ำใคร มีวิทยายุทธทั้งหมดวรวม 19,986 เฉินจื่อหลินคุ้นเคยกับชื่อวิทยายุทธบนกระดานนั้นมาก
19,986 รายชื่อวิชา มีอยู่ 16,743 วิชาที่จางลงไปชื่อวิชาที่ไม่ซ้ำใครเหล่านี้เคยปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ แต่ปัจจุบันนี้หายไปแล้วเมื่อสีเทาของรายชื่อวิชาที่ไม่ซ้ำใครกลายเป็นสีทอง ก็อาจหมายความว่าวิทยายุทธที่ไม่ซ้ำใครนั้นมีบางคนเรียนรู้
กระดานรายชื่อวิทยายุทธที่ไม่ซ้ำใครมีประวัติศาสตร์ยาวนาน แม้แต่ก่อนที่หมู่ดาวค้างคาวจะถูกพบมันก็มีอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งก็หมายความว่ามันคงอยู่มานานกว่าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติกระดานชื่อวิทยายุทธที่ไม่ซ้ำกันนั้นถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไรยังเป็นเรื่องลี้ลับอยู่
เมื่อชาวกลุ่มดาวค้างคาวรุ่นแรกไปพบกระดานนี้ซึ่งยังไม่มีความเคลื่อนไหวและเมื่อพวกเขาได้รู้ว่านั่นคือสมบัติชั้นเซียนของหมู่ดาวค้างคาว พวกเขารู้สึกห่อเหี่ยวเป็นอย่างมาก กระดานที่ใหญ่ขนาดนี้ไม่สามารถใช้ในการรบได้ มันไม่มีค่าอะไรเลย
ตลอดมาจนกระทั่งกลุ่มดาวค้างคาวและกลุ่มดาวเซฟิอุสได้ควบรวมกิจการและสร้างสถาบันวิทยายุทธอมตะขึ้นมา กระดานนี้กลายเป็นรากฐานที่แท้จริงของวิทยายุทธอมตะ กระจกเงาบรอนซ์สะท้อนของหมู่ดาวเซฟิอุสคือพลังของวิทยายุทธอมตะ
ปัจจุบันนี้จำนวนวิทยายุทธระดับทองที่ไม่ซ้ำใครก็คือ 3,237 และในจำนวนนั้นที่ได้รับการยืนยันจากวิทยายุทธอมตะมี1,029
สวรรค์วิถีมีจำนวนดวงดาวนับไม่ถ้วน สามารถหาวิทยายุทธที่ไม่ซ้ำใครได้ถึง 1,029 นั้นวิทยายุทธอมตะต้องใช้กำลังคนและสมบัตินับไม่ถ้วน พร้อมกับการเพิ่มอิทธิพลของวิทยายุทธอมตะ กระดานทักษะวิชาที่ไม่ซ้ำใครจะได้รับความสนใจจากกลุ่มที่ทรงพลังอย่างรวดเร็ว
วิทยายุทธที่มีเอกลักษ์จะต้องมีพลังมากทำให้พวกเขามีทักษะอย่างแน่นอนจนกลุ่มที่ทรงพลังต้องการจะเรียนรู้ ทักษะที่ไม่ซ้ำใครนั้นประมาณค่าไม่ได้
เป็นเวลาหกเดือนมาแล้ว ตั้งแต่วิทยายุทธใหม่ได้ปรากฏขึ้นและสถานการณ์เช่นนี้ถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ ตามปกติทุกๆ ปี พวกเขาจะพบวิทยายุทธที่ไม่ซ้ำใครสาม ถึงห้าวิชา
เฉินจื่อหลินส่ายศีรษะ อย่าบอกนะว่าเป็นเพราะอากาศร้อนเมื่อเร็วๆ นี้ ทุกคนเลยเกียจคร้านสร้างวิทยายุทธเป็นของตนเอง?
เขาดึงกระติกน้ำแข็งแล้วรินน้ำแตงโมดื่มอย่างไม่ลังเลใจ ความรู้สึกเย็นสดชื่นกระจายไปทั่วร่างเขา ความสบายที่มิอาจอธิบายได้ทำให้เขากินมากขึ้น
ทันใดนั้น แสงสีทองฉายวาบเข้ามาในสายตาเขา
ร่างของเฉินจื่อหลินสั่น เขาไม่สนใจน้ำผลไม้สีแดงที่หกเต็มหน้าเขา ขณะที่เขารีบเงยหน้ามอง
บนกระดานวิชาใหม่ ปรากฏแถวอักษรสีทอง
หมายเลข 19981 :กรงเล็บเพลิงภูตพราย ระดับหนึ่งดาว เคล็ดสังหาร
หิ่งห้อยเพลิงจ้าวปีศาจ
************************
วิ่ง วิ่ง วิ่งให้สุดกำลังของเจ้า
สายลมพัดโกรกขณะที่เขาวิ่งไปในพื้นที่ขรุขระในคืนเดือนมืดอย่างนี้ การต่อสู้ที่ดุเดือดที่เชิงเขามีประกายสว่างให้เห็นเป็นครั้งคราวทำให้ถนนข้างหน้าเขาสว่างขึ้นบ้าง เขาไม่กล้าหันกลับลงไป เขากลัวจะพบเห็นเลือด เขาไม่ต้องการเห็น ไม่ต้องการรับรู้อะไรทั้งนั้น
ไม่ว่ายังไง... ข้าต้องไม่ตาย!
เซี่ยชิงกัดริมฝีปากและกำหมัดแน่น
เสียงหวีดหวิวดังมาจากยอดเขาแรงกล้าขึ้น ชัดเจนขึ้น ความคิดเลือนรางผ่านเข้ามาในใจที่กังวล เขาเริ่มช้าลงโดยไม่รู้ตัว
เขาขึ้นมาถึงบนยอดเขาแล้ว บนยอดเขากว้างเพียงสองเมตรและเป็นพื้นราบยาว
เขามองไปรอบๆ ไม่มีอะไรรอบๆ ตัวเขา
ทำไม...
เป็นไปได้ยังไง ที่นี่ไม่มีอะไร?
มีแสงวูบวาบสว่างยิงกันไปมาอยู่เชิงเขาเป็นระยะ จากนั้นก็มีเสียงระเบิดตามมา แต่เมื่อเขามองดูจากยอดเขา มันดูสงบเป็นพิเศษ
เซี่ยชิงรู้สึกกดดัน หรือว่า.......... หรือว่าจะเป็นแค่ภาพลวงตา?
“ออกมา!” จู่ๆเซี่ยชิงก็ร้องออกมาสุดเสียง นัยน์ตาของเขาแดงก่ำเหมือนสัตว์ป่าที่อยู่ในช่วงเวลาหมดหวังที่สุดแสงสลัวส่องที่หน้าของเขายิ่งทำให้เขาโกรธมากขึ้น การต่อสู้ที่เชิงเขาจะเป็นเช่นไร..
บัดซบเอ๊ย!
“ออกมา! ทำไมท่านถึงไม่ออกมา! ทำไม?”
“นี่เจ้าล้อข้อเล่นใช่ไหม?
เสียงตะโกนด้วยความโกรธของเขาดังก้อง บางครั้งก็มีเสียงระเบิดเกิดขึ้นเชิงเขาแว่วมาเป็นระยะๆ
“ออกมา!”
“ออกมา!”
“ได้โปรด, ออกมาเถอะ! รีบๆ ออกมา!”
เสียงตะโกนของเขาเปลี่ยนคำวิงวอนปนเสียงสะอื้น เขาเข่าอ่อนขณะที่คุกเข่าลงกับพื้น
เจ้าล้อข้าเล่นใช่ไหม?
ข้าปกป้องเจ้า, ข้าปกป้องเจ้าอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ พวกเขาทุกคนช่วยปกป้องเจ้า แล้วทำไมเจ้าถึงไม่ออกมา
ทำไม?
ถ้าเจ้ายังเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ ทุกคนจะตาย....
เซี่ยชิงไม่อาจอดกลั้นต่อไปได้ น้ำตาไหลทะลักนองหน้าของเขา
โธ่เว้ย, ข้ามันอ่อนแอเกินไป!
ปัง! เขากำหมัดแน่นแล้วทุบลงพื้น
แครก!
พื้นใต้เท้าของเซี่ยชิงสั่นสะเทือน ขณะที่ภูเขากำลังร้าว
แครก แครก แครก!
รอยร้าวเหมือนกับมังกรขยายลามอยู่ใต้ขาของเซี่ยชิง ภูเขาเปล่งรัศมีราวกับถูกฟ้าผ่า ทั่วทั้งภูเขาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
รอยแตกนับไม่ถ้วนเกิดขึ้นเหมือนกับมีมังกรดำดุร้ายกว่าสิบตัวขณะที่ผงคลีฟุ้งกระจายไปทั่ว พร้อมกับเสียงสั่นสะเทือน มีเสียงระเบิดจากปลายสุดยอดเขาไล่ลงมาที่เชิงเขา
ทุกคนที่ยังอยู่ในระหว่างตะลุมบอนตกใจกลัวกับเสียงระเบิดกระทันหันและหยุดการกระทำกันหมด
เซี่ยชิงตกตะลึง เขามองดูพื้นที่กำลังแตกและขยายลามอยู่ใต้เท้าของเขา ภูเขากำลังสั่นสะเทือนและเขารู้สึกเสียหลักยืนได้ไม่มั่นคง
ในใจของเซี่ยชิง ปรากฏมีมโนภาพๆ หนึ่ง
ภาพนี้เลือนรางเหมือนกับละอองหมอกในความมืด
เซี่ยชิงสั่น, เขาตั้งหลักได้ทันที นั่น นั่นมันตื่นแล้ว
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
หินบนยอดเขากระบี่ศิลาร่วงลงไปข้างล่าง เหมือนกับขนมปังกรอบแตกกระเด็น
หินยังคงร่วงต่อเนื่องเหมือนกับหอยที่กำลังอ้าเปิดเปลือกของมัน มีปราณอันตรายที่อธิบายไม่ถูกมันรวมตัวกันเหมือนเมฆกำลังคุกคาม ทุกคนมีสีหน้าเคร่งเครียด พวกเขาเห็นประจักษ์กับสิ่งที่เหลือเชื่อนี้
ภูเขาหินกำลังลอกตัว
จากที่เห็นด้วยตาเปล่า ภูเขาเหมือนกับจะเล็กลงเรื่อยๆ
“พี่ใหญ่!” จิ้งจอกหิมะร้องเรียก เขารู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจ
จ้าวกิเลนมองดูภูเขาที่กำลังลอกตัวอย่างมึนงง นัยน์ตาเขาแทบเป็นเปลวไฟด้วยความหลงใหล เขารู้สึกได้! เขารู้สึกได้! ปราณที่น่ากลัวอย่างนั้น! แม้แต่กิเลนห้าสีของเขาก็ถูกกดดันไปด้วย
แข็งแกร่งมาก...
สมบัติเซียน! มีแต่สมบัติเซียนจึงมีพลังปราณที่น่ากลัวเช่นนี้ได้
ทันใดนั้น เขาส่งสัญญาณให้จิ้งจอกหิมะ
จิ้งจอกหิมะได้รับสัญญาณแล้วก็รีบเตือนคนอื่นทันที เมื่อเห็นท่าทีของพี่ใหญ่แล้วสมาชิกห้าอสูรสังหารกระโดดทันที
มีความหมายประการเดียวในท่าทางของพี่ใหญ่ ก็คือเตรียมตัวเคลื่อนไหว!
ห้าอสูรมือสังหารผ่านการศึกมาเป็นร้อยครั้ง เมื่อจ้าวกิเลนตัดสินใจ พวกเขาจะแสดงความอำมหิตไร้ปราณีทันที แม้ว่าจิ้งจอกหิมะจะไม่สบายใจ เขาก็ต้องทิ้งความขุ่นข้องใจไว้เบื้องหลังและสงบจิตใจตนเองทันที
ภูเขาครึ่งหนึ่งถล่มลงมาในกลางอากาศ ที่เชิงเขามีกองหินพะเนินเทินทึก และบนยอดเขา เซี่ยชิงหายไปแล้ว
“กระบี่ต้องอยู่ในระหว่างภูเขา!” ทันใดนั้นจิ้งจอกหิมะตะโกน
ควั่บ ทั้งห้าคนเคลื่อนไหวในเวลาเดียวกันพุ่งไปที่ภูเขาเหมือนกับธนูห้าดอก
ทันใดนั้น ลำแสงสีเทาฉายออกมาจากภายในภูเขา
“แย่แล้ว!”
หน้าของทุกคนเขียวคล้ำ
ลำแสงสีเทายิงลงมาเร็วมากและไม่มีใครตั้งหลักได้ทันเวลา ในพริบตาทุกคนก็ติดอยู่ในรัศมีสีเทา
ยกเว้นถังเทียน!
ก่อนที่แสงสีเทาจะกระจายออกไป เขารู้สึกได้ถึงอันตรายและหมุนตัวหลบโดยไม่ลังเลใจ ขณะที่เขาวิ่งไปได้สองก้าว รังสีเทาก็ถึงตัวเขาและหยุดอยู่ตรงตัวเขา
เมื่อถังเทียนวิ่ง เขาได้ยินเสียงแว่วเลือนราง
แต่ตอนนี้ ถังเทียนพบว่าตนเองติดอยู่ในเขตปราณที่น่ากลัวเขาขยับไม่ได้กระทั่งนิ้ว ร่างของเขายังค้างอยู่ในท่าวิ่ง
เงียบ, ตายแบบเงียบๆ
รังสีเทาลอยอยู่ในอากาศเหมือนหมอกสีเทา ทุกคนแข็งค้างเหมือนรูปปั้น เหมือนกับว่าตกอยู่ภายใต้มนต์สะกด
เสียงถอนหายใจเบาดังออกมา
หมอกสีเทานับไม่ถ้วนโรยตัวลงช้าๆ พื้นที่ระดับต่ำกว่าเข่าของถังเทียน หมอกสีเทาปกคลุมเต็มพื้นที่จนเป็นทะเลหมอกเทา แต่ให้ความรู้สึกเย็นยะเยือก
ม่านตาทุกคนหดลีบ
จู่ๆ แท่นสูงเกิดขึ้นจากหมอกเทาและยืดสูงขึ้นไป เวทีสูงประมาณสิบฟุตและมีอักษรสีดำใหญ่เขียนไว้ว่า “ลับ”
อย่าบอกนะว่า....อย่าบอกนะ
ความคิดที่สับสนวุ่นวายผุดขึ้นมาในใจทุกคน
หมอกเทาลอยต่ำอยู่บนเวทีเริ่มหายไปช้าๆ และคนที่อยู่บนเวทีทั้งหมดค่อยๆ ปรากฏตัว
กระบี่เกินกว่าแสนเล่มปักอยู่บนเวทีสูงเป็นกลุ่มหนาแน่น เวทีมองดูเหมือนตัวเม่น โดยเฉพาะด้านข้างกระบี่เป็นกลุ่มหนาแน่นอยู่ด้านข้างมองดูเหมือนต้นหญ้ากระบี่ทั้งหมดมีรอยบิ่นอยู่รอบคม จากที่มองเห็นเป็นกระบี่หักชำรุดทั้งหมด
พื้นที่พอจะให้คนยืนได้มีแค่เพียงกระผีกมือ
เวทีสูงสิบฟุตเต็มไปด้วยกระบี่หักแสนเล่ม!มีเพียงร่างเดียวดายยืนตรงอยู่ มือของเขาแนบลำตัวมองดูทุกคนอย่างเหยียดหยาม