ตอนที่ 232 กลุ่มห้ามือสังหาร
“จอมยุทธ! ข้ากำลังจะไปยอดเขากระบี่ศิลา!”
คำพูดของเซี่ยชิงทำให้ทุกคนประหลาดใจ
“ไปยอดเขากระบี่ศิลา?” ถังเทียนตะลึง
“ใช่แล้ว!” เซี่ยชิงโพล่งความลับออกมาทำให้เขาโล่งใจและน้ำเสียงของเขาผ่อนคลายมากขึ้น “หลังได้รับพลังร่ำร้องของกระบี่หัวใจองครักษ์ข้ารู้สึกได้เลือนรางว่ามีเสียงเพรียกจากยอดเขากระบี่ศิลา สองวันมานี้เสียงเพรียกหารุนแรงขึ้นมันกำลังเรียกหาข้า”
ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย และคิดทันที“อย่าบอกนะว่ากระบี่ผนึกปีศาจกำลังเรียกหาเจ้า?”
“ข้าไม่รู้” เซี่ยชิงสั่นศีรษะ “ข้าเพียงแต่รู้สึกว่ามันดังมาจากยอดเขากระบี่ศิลา มันเรียกให้ข้าขึ้นไปหา”
“ฮ่าฮ่า นั่นนับเป็นเรื่องที่ดี!” ถังเทียนตื่นเต้น “ต้องเป็นกระบี่ผนึกปีศาจเรียกหาเจ้าแน่นอนมันต้องรู้ถึงความเพียรหนักของเจ้า ไปกันเร็ว ไปเถอะ ที่นี่ปล่อยให้เราจัดการ”
ทันใดนั้น เสียงเย็นชาของอาเฮ่อดังขึ้น “นั่นใคร?”
สีหน้าของถังเทียนกลายเป็นเย็นชา
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! โสตประสาทของเจ้าเด็กน้อยนี่ไม่เลว!” ร่างที่กำลังลอยอยู่ในกลางอากาศค่อยๆ สว่างขึ้นเพลิงสีแดงครอบคลุมร่างของเขาทั้งหมด
ลูกกลมสว่างขึ้นในกลางอากาศทีละลูกๆ ทั้งหมดเป็นบอลสีสันแตกต่างกันรูปลักษณ์ที่อยู่ข้างในไม่ว่าอ้วนหรือผอมแต่พวกเขาทุกคนหน้าเคร่งขรึมและไม่มีท่าทีแยแสอะไร
ปราณที่รุนแรงน่ากลัวระเบิดออกมาจากท้องฟ้า ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด
ติงตังสีหน้าเปลี่ยน “กลุ่มห้ามือสังหาร”
“โห,ข้าไม่เคยคิดเลยว่ายังจะมีคนจากหมู่บ้านยากจนและห่างไกลจำเราได้ด้วย” บุรุษร่างใหญ่ที่น่าจะเป็นผู้นำกลุ่มหัวเราะ แววตาของเขาลึกและคล้ำมีเคราแข็งราวกับลวดเต็มหน้า เขาเปลือยกายท่อนบน บนอกของเขามีรอยสักรูปกิเลนห้าสี
จู่ๆ บุรุษร่างใหญ่ก็โยนของบางสิ่งเข้ามาในกลุ่ม
หือ!
ศีรษะมนุษย์สองหัวถูกโยนลงมาต่อหน้าทุกคน นั่นคือศีรษะของกัวตงและกัวอวี่ทั้งสองนัยน์ตาเบิกโพลงเหมือนกับว่าพวกเขาเห็นบางอย่างที่น่ากลัวและตายโดยไม่กระพริบตา
“กระบี่ผนึกปีศาจอยู่ที่ไหน?” บุรุษร่างใหญ่หัวเราะ พลางกวาดตามอง “โปรดอย่าบอกข้านะว่า พวกเจ้าทุกคนไม่รู้”
ในระหว่างทางพวกเขาสะดุดกับกัวตงและกัวอวี่ที่วิ่งหนีอย่างแตกตื่น พวกเขาจึงต้องการปล้นพวกเขา แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าพวกเขากลับได้รับข่าวเกี่ยวกับกระบี่ผนึกปีศาจจากกัวตง
รังสีอำมหิตจำนวนมหาศาลแผ่ขยายออกมา
ติงตัง เซี่ยชิง เฒ่าบอดซอกำศรวลสีหน้าเปลี่ยน รังสีฆ่าฟันช่างกดดันและป่าเถื่อนราวกับมาจากสัตว์ร้ายดึกดำบรรพ์ที่มีมาแต่กำเนิดทำให้ร่างกายของพวกเขาแข็งชะงักและความคิดของพวกเขาว่างเปล่านึกอะไรไม่ออก
“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า” ถังเทียนชี้ไปที่บอลแสงพร้อมกับนับดู
“ขึ้นยอดเขา ไล่ตีเสือ” จู่ๆ เสียงของปิงดังออกมาจากพยัคฆ์ฟ้าซึ่งปรากฏออกมาจากความมืด เขาไม่ได้คิดและต่อปากคำของถังเทียน(เป็นบทเพลงเด็กของจีน)
พยัคฆ์ “....”
“พยัคฆ์ไม่อยู่ในบ้าน” หลิงซิ่วคว้าหอกของเขาแค่นเสียงเดินออกมา
พยัคฆ์ “.....”
อาเฮ่อที่เงียบอยู่ในตอนแรกมีเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก “ขอโทษจริงๆ คำอุปมานั้น..มาจากตำราเล่มไหน?”
ทั้งสามคนหันมาจ้องมองเขา
บุรุษตัวใหญ่ที่เป็นผู้นำหรี่ตามอง ไอปราณเย็นแผ่กดดันหนักและแววเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าเขา เขาพูดอย่างสนุกสนาน “นั่นก็ดีแล้วข้าชอบคนกล้าหาญ ยิ่งกล้าด้วยแล้วเวลาฆ่ามันน่าสนุกจะตาย”
ถังเทียนลดเสียงพูดกับเซี่ยชิงที่มัวตะลึงเบาๆ “เจ้าจงไปที่ยอดเขากระบี่ศิลา เราจะช่วยเจ้าต้านทานพวกมันไว้เอง”
เซี่ยชิงค่อยรู้สึกตัว หน้าของเขาซีดขาวเต็มไปด้วยความกลัว “แต่...”
นี่คือ ห้ามือสังหาร, ห้ามือสังหารเชียวนะ! พวกมันเป็นกลุ่มคนที่ฆ่าคนได้ไม่กระพริบตาและไม่มีความเป็นมนุษย์อยู่ในตัวของพวกมันแม้แต่เศษเสี้ยว สมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกมันมีชื่อติดอยู่ในทำเนียบนักสู้สวรรค์วิถีซึ่งห่างจากโซนท้ายร้อยคนอยู่มาก จ้าวกิเลนหัวหน้าของพวกมันเป็นนักสู้ประหลาดติดอยู่ในอันดับที่ 9736ทำเนียบนักสู้สวรรค์วิถีเทียบกันแล้วเพชฌฆาตกาเพลิงกัวตงเป็นเหมือนเด็กน้อยเมื่อเทียบกับห้ามือสังหาร
พวกเขาเป็นคนที่มีรางวัลค่าหัวมหาศาล แต่ไม่มีใครทำได้สำเร็จ ดังนั้นรางวัลค่าหัวพวกเขาจึงเพิ่มขึ้นไม่รู้กี่เท่า
พวกเขาเป็นเครื่องจักรสังหารที่อำมหิตและไร้ความปราณี!
พวกเขา...
พวกเจ้าทุกคนจะถูกฆ่า...
“อย่าพูดไร้สาระ! รีบไป!” ถังเทียนเสียงนุ่มนวลขึ้น
เซี่ยชิงหน้าซีด ริมฝีปากสั่นไม่หยุด ขณะที่เขาจ้องดูถังเทียนอย่างสิ้นหวัง
พวกเจ้าจะถูกฆ่ากันหมด...
สมองของเขาเต็มไปด้วยคำเหล่านี้
เมื่อเห็นสีหน้าของเซี่ยชิง ถังเทียนเกิดเพลิงโทสะไม่รู้ตัว เขาถลึงตามือซ้ายคว้าคอเสื้อเซี่ยชิงเร็วราวกับสายฟ้าและกระชากเขาเข้ามาทันทีเขาใช้มือข้างขวาตบ “บัดซบเอ๊ย! ตื่นได้แล้ว! เจ้าขี้ขลาด!แค่นี้ทำให้เจ้ากลัวด้วยหรือ?เจ้าต้องการเป็นต้นเหตุให้พวกเจ้าตายกันหมดหมู่บ้านใช่ไหม? เจ้าโง่! เจ้ารีบไปเร็วๆ จะดีกว่า!ถ้าเจ้ากล้าพิรี้พิไรอีก ข้าจะหักขาของเจ้าซะ! ไป!”
พูดจบ เขาใช้แรงเหวี่ยงเซี่ยชิงไปด้านหลังเขา
เซี่ยชิงลอยไปสิบเมตร เขาซวนเซลงพื้นหน้าของเขาตะลึง ใบหน้าเป็นรอยริ้วสีแดง เขาเหม่อมองด้านหลัง ตาของเขาแดงระเรื่อ โดยไม่พูดอะไรเขาหันหลังและวิ่งตะบึงไปที่ยอดเขากระบี่ศิลาราวกับคนบ้า
พวกเจ้า... ไม่ว่ายังไง... พวกเจ้าต้องไม่ถูกพวกมันฆ่า!
ลมยามราตรีโกรกใส่หน้าของเขา น้ำตาอุ่นไหลพรากเต็มดวงตา
เมื่อสังเกตเห็นเซี่ยชิงวิ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง สายตาของจ้าวกิเลนกลายเป็นเย็นชา เขายกฝ่ามือเล็งไปที่หลังของเซี่ยชิงอย่างใจเย็น
วูบ!
เสียงกระหึ่มแหวกอากาศสั่นสะท้านหัวใจผู้คน
ลำแสงแดงสายหนึ่งยิงตรงออกมาเป้าหมายก็คือเซี่ยชิง
ทันใดนั้นประกายไฟแพรวพราวพุ่งขึ้นมาจากด้านล่างสะกัดลำแสงสีแดงได้อย่างแม่นยำ
ปัง!
ปราณแท้สองรูปแบบปะทะกันและกันทำให้เกิดเสียงระเบิดขึ้นทันที
คลื่นแรงระเบิดกระจายออกมาเหมือนกับพายุหมุน เซี่ยชิงที่กำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่งถูกกวาดกระเด็น ทรายปลิวเข้าในปากของเขาเขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นวิ่งต่อไปโดยไม่พูดอะไร
เร็วเข้า! ข้าต้องเร็วขึ้น! ความเคลื่อนไหวของข้าจำเป็นต้องเร็วขึ้น!
ทำไม... ทำไมพวกเจ้าทุกคนถึงได้ยินดีช่วยข้ามากมายอย่างนี้...
****************
“เอ๊ะ?”จ้าวกิเลนประหลาดใจเล็กน้อยที่คนผู้นี้สามารถป้องกันได้ด้วยพลังดรรชนีของเขา
น่าสนใจดี
“อย่าปล่อยให้ใครรอดชีวิต”
เสียงของเขาก้องกระจายอยู่ในอากาศและจ้าวกิเลนก็หายไป
ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย เขาแค่นเสียงขณะที่กรงเล็บเพลิงภูตพรายรับมือกับหมัดเพลิงแดงของเขาได้โดยบังเอิญ
ปราณไร้สภาพระเบิดออก
ปัง ปัง ปัง
ทั้งสองปะทะกันอย่างรวดเร็ว คลื่นพลังปราณที่มองไม่เห็นระเบิดออกระหว่างหมัดและกรงเล็บของคนทั้งสอง
สีหน้าของจ้าวกิเลนเคร่งขรึม พลังของคู่ต่อสู้ของเขาแกร่งมากกว่าที่เขาคิด เมื่อพลังเจอพลัง คู่ต่อสู้ของเขาไม่ได้เสียเปรียบ
เขายากจะจัดการอยู่บ้าง
เขากวาดตามองดูคนอื่น หน้าของเขาประหลาดใจและตกใจ จากที่เขาเห็น เขาไม่ได้มีเปรียบเลยแม้แต่น้อย
คนพวกนี้มาจากไหนกัน...
************************
คนที่อยู่ข้างหน้าอาเฮ่อลักษณะผอมสูง บนอกของเขามีรอยสักรูปอสรพิษร้าย ในมือเขาถือมีดสั้นสีดำคู่หนึ่ง บางครั้งเขาจะเคลื่อนไหวด้วยท่าทางแปลกๆ ที่ยากจะป้องกันได้ เขาคือ เขี้ยวอสรพิษในกลุ่มมือสังหารทั้งห้า
แต่อาเฮ่อยังคงใจเย็นเหมือนเคย กระบี่กระเรียนในมือของเขายังคงอยู่ในฝัก
รังสีกระบี่ขาวเป็นเหมือนปราณกระเรียน
ท่าทางของเขาสง่างามเหมือนกระเรียนดำมีชีวิตชีวาและมาดมั่น เขาเคลื่อนไหวอย่างเงียบงันและในเสี้ยววินาทีร่างของเขาเปลี่ยนไป ทุกครั้งที่อาเฮ่อเข้าใจปราณร่างกระเรียนลึกซึ้งขึ้น พลังของอาเฮ่อจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การเตรียมตัวเป็นอย่างดีก็คือพื้นฐานที่มั่นคงของเขาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก เขาฝึกฝนเสียเหงื่อมากมายเพื่อให้ได้ผลดังกล่าว
นักฆ่าเขี้ยวอสรพิษเหลือแต่เงาดำจางหลายสาย เงาดำนั้นวนเวียนรอบเขาอย่างต่อเนื่องคอยหาโอกาส
คนหนึ่งสงบขณะที่อีกคนหนึ่งเคลื่อนไหว เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความถนัดในการโจมตีรูปแบบแตกต่างกันมาก พวกเขาจึงมุ่งโจมตีที่ความสมดุล
หน้าของเขี้ยวอสรพิษเคร่งเครียด ขณะที่หรี่ตาซึ่งเต็มไปด้วยความยินดี แต่ในใจของเขากลับประหลาดใจ
แข็งแกร่งมาก!
แม้ว่าทั้งสองฝ่ายพยายามจะค้นหาระดับการฝึกฝนกัน แต่เขารู้ว่า เขาพบศัตรูแข็งแกร่งเข้าให้แล้ว
แต่ เป็นเวลานานมาแล้วตั้งแต่เขาเผชิญหน้ากับคนที่คู่ควรสู้ด้วย
เขี้ยวอสรพิษเผยให้เห็นเขี้ยวสีขาวที่น่าสยดสยองของเขา
*****************************
หอกทะเลจุดในมือของหลิงซิ่วขยายตัวออกไปช้าๆ
ขณะที่ดวงดาวเยือกเย็นส่องประกายล้อมคู่ต่อสู้ไว้ภายใน
คู่ต่อสู้ของเขาเป็นบุรุษอ้วนเตี้ยมีรอยสักรูปจระเข้ที่อก เขาเรียกว่าจระเข้เฒ่า,ทั้งตัวของเขาดูท่าทางโหดเหี้ยมป่าเถื่อน ในมือของเขาถือกระบองสั้นคู่เขาควงกระบองสั้นคู่อย่างรวดเร็วมองดูเหมือนพายุหมุนส่งเสียงหวีดหวิว ปลายหอกของหลิงซิ่งถูกพลังลมป้องกันไว้ประกายไฟกระจายไปทั่ว
แต่หลิงซิ่วไม่ได้รู้สึกท้อถอย ขณะที่ตวาดลั่นหอกทะเลจุดยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
“ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า!”
นัยน์ตาของหลิงซิ่วเหมือนไฟสองดวง ผมเงินของโบกสะบัดรุนแรง นิ้วทั้งสิบของเขาซึ่งแข็งเหมือนเหล็กหมุนปั่นอย่างรุนแรงทำให้เกิดเสียงแหวกอากาศดังออกมาเสียดแก้วหู
ตั้งแต่เขาพ่ายแพ้และฟื้นขึ้นมาจากความทรงจำเลวร้าย สภาวะใจของเขายกระดับขึ้นทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นด้วย
หอกทะเลจุดสมบูรณ์ดียิ่งขึ้น ถูกสร้างขึ้นมาชั้นแล้วชั้นเล่า กลายเป็นระลอกคลื่นโจมตีใส่คู่ต่อสู้ของเขา
ติง ติง ติง!
พลังโจมตีระดมใส่ราวกับสายฝน เนื่องจากพายุหมุนนับไม่ถ้วนก่อตัวจึงเกิดประกายไฟนับไม่ถ้วนด้วย จระเข้เฒ่าถูกประกายไฟล้อมรอบไว้ก็เบิกตากว้างทันทีเขาได้ยินเสียงตวาดของหลิงซิ่ว จึงเริ่มเยาะเย้ย
ดูเหมือนเขาจะไม่สามารถทนอยู่ได้นาน
นี่คือเหตุผลที่ชัดเจนแจ่มชัดในการเรียนรู้วิทยายุทธ คู่ต่อสู้ของเขาเห็นได้ชัดว่าเป็นมือใหม่ และปลดปล่อยระดับพลังโจมตีสูงอย่างนี้ เขาคงทนอยู่ได้ไม่นาน
เฒ่าจระเข้เป็นเหมือนจระเข้ที่กบดานอยู่ในบึงรอโอกาสโจมตี
**************************************
“นักสู้สายจักรกลหรือ?” บุรุษหนุ่มที่มีรูปวาดจิ้งจอกหิมะบนตัวยิ้มเขาคือจิ้งจอกหิมะจากห้ามือสังหาร เขาดูอ่อนโยนและหล่อเหลา แต่มีแววชั่วร้ายแฝงอยู่ในรอยยิ้มของเขา
“นั่นแย่หน่อยนะ นักสู้สายจักรกลสวะๆ จะช่วยให้ข้าสมหวังได้ยังไง? ถ้านี่ถูกมองดูว่าเป็นความสำเร็จ ข้าคงถูกหัวเราะเยาะแน่” จิ้งจอกหิมะพึมพำกับตนเอง “แม้ว่าเจ้าจะดูเหมือนเสือ เอ้อ.. เพื่อขึ้นยอดเขาไปตีเสือ อย่าบอกข้านะว่าคนที่ถูกเล่นงานก็คือเจ้า?”
ทันใดนั้น อาหู่พูดกับปิง “ตอนนี้ข้าชักจะโกรธแล้ว”
หลังจากสู้มาเป็นเวลาทั้งคืนและไม่ได้สะดวกสบาย แม้แต่หุ่นกระบอกก็ยังโกรธได้ แล้วอาหู่ผู้สงบใจเย็นอยู่เสมอก็โกรธจนได้
ปิง “.....”
ปิงผู้น่าสงสารไม่รู้จะปลอบอาหู่ผู้ถูกทำร้ายจิตใจในระยะเวลาสั้นๆได้ยังไง เขากลับนิ่งงัน วันนี้ อาหู่ผู้นี้คงได้รับความกระทบกระเทือนมากเกินไป
“ข้าต้องการฆ่าเขา!” น้ำเสียงของอาหู่เย็นชา
ปิงหลั่งเหงื่อเยือกเย็นเป็นครั้งแรกที่อาหู่ไม่พอใจเพราะเพลงๆ หนึ่ง
แต่ปิงไม่ได้รับผลกระทบอะไรอยู่แล้ว เหมือนกับว่าเขาไม่มีความตั้งใจจะห้าม โดยไม่มีความลังเลใจ เขาเร่งเชื้อสุมไฟเพิ่ม “เฮอะ ฟังเขาน่ะหรือเขาก็แค่สุนัขจิ้งจอกก็ยังกล้าท้าทายความภาคภูมิใจของอาหู่หรือ อาหู่เอย,ข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดยังไง ยังไงก็ตามถ้าเขายั่วโมโหข้า ข้าก็คงทนไม่ได้”
ฮึ่ม!
อาหู่แหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้าและแสงรัศมีน้ำเงินสว่างตัดกับความมืด