ตอนที่แล้วตอนที่ 231 เก็บเกี่ยวผลประโยชน์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 233 สู้ศึกด้วยตัวเอง

ตอนที่ 232 กลุ่มห้ามือสังหาร


“จอมยุทธ!  ข้ากำลังจะไปยอดเขากระบี่ศิลา!”

คำพูดของเซี่ยชิงทำให้ทุกคนประหลาดใจ

“ไปยอดเขากระบี่ศิลา?”  ถังเทียนตะลึง

“ใช่แล้ว!”  เซี่ยชิงโพล่งความลับออกมาทำให้เขาโล่งใจและน้ำเสียงของเขาผ่อนคลายมากขึ้น “หลังได้รับพลังร่ำร้องของกระบี่หัวใจองครักษ์ข้ารู้สึกได้เลือนรางว่ามีเสียงเพรียกจากยอดเขากระบี่ศิลา  สองวันมานี้เสียงเพรียกหารุนแรงขึ้นมันกำลังเรียกหาข้า”

ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย และคิดทันที“อย่าบอกนะว่ากระบี่ผนึกปีศาจกำลังเรียกหาเจ้า?”

“ข้าไม่รู้” เซี่ยชิงสั่นศีรษะ “ข้าเพียงแต่รู้สึกว่ามันดังมาจากยอดเขากระบี่ศิลา  มันเรียกให้ข้าขึ้นไปหา”

“ฮ่าฮ่า นั่นนับเป็นเรื่องที่ดี!”  ถังเทียนตื่นเต้น  “ต้องเป็นกระบี่ผนึกปีศาจเรียกหาเจ้าแน่นอนมันต้องรู้ถึงความเพียรหนักของเจ้า ไปกันเร็ว ไปเถอะ  ที่นี่ปล่อยให้เราจัดการ”

ทันใดนั้น เสียงเย็นชาของอาเฮ่อดังขึ้น “นั่นใคร?”

สีหน้าของถังเทียนกลายเป็นเย็นชา

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!  โสตประสาทของเจ้าเด็กน้อยนี่ไม่เลว!” ร่างที่กำลังลอยอยู่ในกลางอากาศค่อยๆ สว่างขึ้นเพลิงสีแดงครอบคลุมร่างของเขาทั้งหมด

ลูกกลมสว่างขึ้นในกลางอากาศทีละลูกๆ ทั้งหมดเป็นบอลสีสันแตกต่างกันรูปลักษณ์ที่อยู่ข้างในไม่ว่าอ้วนหรือผอมแต่พวกเขาทุกคนหน้าเคร่งขรึมและไม่มีท่าทีแยแสอะไร

ปราณที่รุนแรงน่ากลัวระเบิดออกมาจากท้องฟ้า ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด

ติงตังสีหน้าเปลี่ยน “กลุ่มห้ามือสังหาร”

“โห,ข้าไม่เคยคิดเลยว่ายังจะมีคนจากหมู่บ้านยากจนและห่างไกลจำเราได้ด้วย”  บุรุษร่างใหญ่ที่น่าจะเป็นผู้นำกลุ่มหัวเราะ แววตาของเขาลึกและคล้ำมีเคราแข็งราวกับลวดเต็มหน้า เขาเปลือยกายท่อนบน บนอกของเขามีรอยสักรูปกิเลนห้าสี

จู่ๆ บุรุษร่างใหญ่ก็โยนของบางสิ่งเข้ามาในกลุ่ม

หือ!

ศีรษะมนุษย์สองหัวถูกโยนลงมาต่อหน้าทุกคน นั่นคือศีรษะของกัวตงและกัวอวี่ทั้งสองนัยน์ตาเบิกโพลงเหมือนกับว่าพวกเขาเห็นบางอย่างที่น่ากลัวและตายโดยไม่กระพริบตา

“กระบี่ผนึกปีศาจอยู่ที่ไหน?”  บุรุษร่างใหญ่หัวเราะ พลางกวาดตามอง  “โปรดอย่าบอกข้านะว่า พวกเจ้าทุกคนไม่รู้”

ในระหว่างทางพวกเขาสะดุดกับกัวตงและกัวอวี่ที่วิ่งหนีอย่างแตกตื่น  พวกเขาจึงต้องการปล้นพวกเขา  แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าพวกเขากลับได้รับข่าวเกี่ยวกับกระบี่ผนึกปีศาจจากกัวตง

รังสีอำมหิตจำนวนมหาศาลแผ่ขยายออกมา

ติงตัง เซี่ยชิง เฒ่าบอดซอกำศรวลสีหน้าเปลี่ยน  รังสีฆ่าฟันช่างกดดันและป่าเถื่อนราวกับมาจากสัตว์ร้ายดึกดำบรรพ์ที่มีมาแต่กำเนิดทำให้ร่างกายของพวกเขาแข็งชะงักและความคิดของพวกเขาว่างเปล่านึกอะไรไม่ออก

“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า” ถังเทียนชี้ไปที่บอลแสงพร้อมกับนับดู

“ขึ้นยอดเขา ไล่ตีเสือ” จู่ๆ เสียงของปิงดังออกมาจากพยัคฆ์ฟ้าซึ่งปรากฏออกมาจากความมืด  เขาไม่ได้คิดและต่อปากคำของถังเทียน(เป็นบทเพลงเด็กของจีน)

พยัคฆ์ “....”

“พยัคฆ์ไม่อยู่ในบ้าน” หลิงซิ่วคว้าหอกของเขาแค่นเสียงเดินออกมา

พยัคฆ์ “.....”

อาเฮ่อที่เงียบอยู่ในตอนแรกมีเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก  “ขอโทษจริงๆ คำอุปมานั้น..มาจากตำราเล่มไหน?”

ทั้งสามคนหันมาจ้องมองเขา

บุรุษตัวใหญ่ที่เป็นผู้นำหรี่ตามอง ไอปราณเย็นแผ่กดดันหนักและแววเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าเขา   เขาพูดอย่างสนุกสนาน “นั่นก็ดีแล้วข้าชอบคนกล้าหาญ  ยิ่งกล้าด้วยแล้วเวลาฆ่ามันน่าสนุกจะตาย”

ถังเทียนลดเสียงพูดกับเซี่ยชิงที่มัวตะลึงเบาๆ  “เจ้าจงไปที่ยอดเขากระบี่ศิลา  เราจะช่วยเจ้าต้านทานพวกมันไว้เอง”

เซี่ยชิงค่อยรู้สึกตัว หน้าของเขาซีดขาวเต็มไปด้วยความกลัว “แต่...”

นี่คือ ห้ามือสังหาร, ห้ามือสังหารเชียวนะ!  พวกมันเป็นกลุ่มคนที่ฆ่าคนได้ไม่กระพริบตาและไม่มีความเป็นมนุษย์อยู่ในตัวของพวกมันแม้แต่เศษเสี้ยว สมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกมันมีชื่อติดอยู่ในทำเนียบนักสู้สวรรค์วิถีซึ่งห่างจากโซนท้ายร้อยคนอยู่มาก จ้าวกิเลนหัวหน้าของพวกมันเป็นนักสู้ประหลาดติดอยู่ในอันดับที่ 9736ทำเนียบนักสู้สวรรค์วิถีเทียบกันแล้วเพชฌฆาตกาเพลิงกัวตงเป็นเหมือนเด็กน้อยเมื่อเทียบกับห้ามือสังหาร

พวกเขาเป็นคนที่มีรางวัลค่าหัวมหาศาล แต่ไม่มีใครทำได้สำเร็จ ดังนั้นรางวัลค่าหัวพวกเขาจึงเพิ่มขึ้นไม่รู้กี่เท่า

พวกเขาเป็นเครื่องจักรสังหารที่อำมหิตและไร้ความปราณี!

พวกเขา...

พวกเจ้าทุกคนจะถูกฆ่า...

“อย่าพูดไร้สาระ! รีบไป!” ถังเทียนเสียงนุ่มนวลขึ้น

เซี่ยชิงหน้าซีด ริมฝีปากสั่นไม่หยุด ขณะที่เขาจ้องดูถังเทียนอย่างสิ้นหวัง

พวกเจ้าจะถูกฆ่ากันหมด...

สมองของเขาเต็มไปด้วยคำเหล่านี้

เมื่อเห็นสีหน้าของเซี่ยชิง ถังเทียนเกิดเพลิงโทสะไม่รู้ตัว เขาถลึงตามือซ้ายคว้าคอเสื้อเซี่ยชิงเร็วราวกับสายฟ้าและกระชากเขาเข้ามาทันทีเขาใช้มือข้างขวาตบ “บัดซบเอ๊ย! ตื่นได้แล้ว! เจ้าขี้ขลาด!แค่นี้ทำให้เจ้ากลัวด้วยหรือ?เจ้าต้องการเป็นต้นเหตุให้พวกเจ้าตายกันหมดหมู่บ้านใช่ไหม?  เจ้าโง่!  เจ้ารีบไปเร็วๆ จะดีกว่า!ถ้าเจ้ากล้าพิรี้พิไรอีก ข้าจะหักขาของเจ้าซะ! ไป!”

พูดจบ เขาใช้แรงเหวี่ยงเซี่ยชิงไปด้านหลังเขา

เซี่ยชิงลอยไปสิบเมตร  เขาซวนเซลงพื้นหน้าของเขาตะลึง ใบหน้าเป็นรอยริ้วสีแดง เขาเหม่อมองด้านหลัง ตาของเขาแดงระเรื่อ โดยไม่พูดอะไรเขาหันหลังและวิ่งตะบึงไปที่ยอดเขากระบี่ศิลาราวกับคนบ้า

พวกเจ้า... ไม่ว่ายังไง... พวกเจ้าต้องไม่ถูกพวกมันฆ่า!

ลมยามราตรีโกรกใส่หน้าของเขา น้ำตาอุ่นไหลพรากเต็มดวงตา

เมื่อสังเกตเห็นเซี่ยชิงวิ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง  สายตาของจ้าวกิเลนกลายเป็นเย็นชา  เขายกฝ่ามือเล็งไปที่หลังของเซี่ยชิงอย่างใจเย็น

วูบ!

เสียงกระหึ่มแหวกอากาศสั่นสะท้านหัวใจผู้คน

ลำแสงแดงสายหนึ่งยิงตรงออกมาเป้าหมายก็คือเซี่ยชิง

ทันใดนั้นประกายไฟแพรวพราวพุ่งขึ้นมาจากด้านล่างสะกัดลำแสงสีแดงได้อย่างแม่นยำ

ปัง!

ปราณแท้สองรูปแบบปะทะกันและกันทำให้เกิดเสียงระเบิดขึ้นทันที

คลื่นแรงระเบิดกระจายออกมาเหมือนกับพายุหมุน เซี่ยชิงที่กำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่งถูกกวาดกระเด็น  ทรายปลิวเข้าในปากของเขาเขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นวิ่งต่อไปโดยไม่พูดอะไร

เร็วเข้า!  ข้าต้องเร็วขึ้น! ความเคลื่อนไหวของข้าจำเป็นต้องเร็วขึ้น!

ทำไม... ทำไมพวกเจ้าทุกคนถึงได้ยินดีช่วยข้ามากมายอย่างนี้...

****************

“เอ๊ะ?”จ้าวกิเลนประหลาดใจเล็กน้อยที่คนผู้นี้สามารถป้องกันได้ด้วยพลังดรรชนีของเขา

น่าสนใจดี

“อย่าปล่อยให้ใครรอดชีวิต”

เสียงของเขาก้องกระจายอยู่ในอากาศและจ้าวกิเลนก็หายไป

ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย เขาแค่นเสียงขณะที่กรงเล็บเพลิงภูตพรายรับมือกับหมัดเพลิงแดงของเขาได้โดยบังเอิญ

ปราณไร้สภาพระเบิดออก

ปัง ปัง ปัง

ทั้งสองปะทะกันอย่างรวดเร็ว คลื่นพลังปราณที่มองไม่เห็นระเบิดออกระหว่างหมัดและกรงเล็บของคนทั้งสอง

สีหน้าของจ้าวกิเลนเคร่งขรึม พลังของคู่ต่อสู้ของเขาแกร่งมากกว่าที่เขาคิด  เมื่อพลังเจอพลัง คู่ต่อสู้ของเขาไม่ได้เสียเปรียบ

เขายากจะจัดการอยู่บ้าง

เขากวาดตามองดูคนอื่น  หน้าของเขาประหลาดใจและตกใจ จากที่เขาเห็น เขาไม่ได้มีเปรียบเลยแม้แต่น้อย

คนพวกนี้มาจากไหนกัน...

************************

คนที่อยู่ข้างหน้าอาเฮ่อลักษณะผอมสูง บนอกของเขามีรอยสักรูปอสรพิษร้าย  ในมือเขาถือมีดสั้นสีดำคู่หนึ่ง บางครั้งเขาจะเคลื่อนไหวด้วยท่าทางแปลกๆ ที่ยากจะป้องกันได้  เขาคือ เขี้ยวอสรพิษในกลุ่มมือสังหารทั้งห้า

แต่อาเฮ่อยังคงใจเย็นเหมือนเคย กระบี่กระเรียนในมือของเขายังคงอยู่ในฝัก

รังสีกระบี่ขาวเป็นเหมือนปราณกระเรียน

ท่าทางของเขาสง่างามเหมือนกระเรียนดำมีชีวิตชีวาและมาดมั่น  เขาเคลื่อนไหวอย่างเงียบงันและในเสี้ยววินาทีร่างของเขาเปลี่ยนไป  ทุกครั้งที่อาเฮ่อเข้าใจปราณร่างกระเรียนลึกซึ้งขึ้น  พลังของอาเฮ่อจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  การเตรียมตัวเป็นอย่างดีก็คือพื้นฐานที่มั่นคงของเขาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก  เขาฝึกฝนเสียเหงื่อมากมายเพื่อให้ได้ผลดังกล่าว

นักฆ่าเขี้ยวอสรพิษเหลือแต่เงาดำจางหลายสาย เงาดำนั้นวนเวียนรอบเขาอย่างต่อเนื่องคอยหาโอกาส

คนหนึ่งสงบขณะที่อีกคนหนึ่งเคลื่อนไหว เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความถนัดในการโจมตีรูปแบบแตกต่างกันมาก  พวกเขาจึงมุ่งโจมตีที่ความสมดุล

หน้าของเขี้ยวอสรพิษเคร่งเครียด ขณะที่หรี่ตาซึ่งเต็มไปด้วยความยินดี  แต่ในใจของเขากลับประหลาดใจ

แข็งแกร่งมาก!

แม้ว่าทั้งสองฝ่ายพยายามจะค้นหาระดับการฝึกฝนกัน  แต่เขารู้ว่า เขาพบศัตรูแข็งแกร่งเข้าให้แล้ว

แต่ เป็นเวลานานมาแล้วตั้งแต่เขาเผชิญหน้ากับคนที่คู่ควรสู้ด้วย

เขี้ยวอสรพิษเผยให้เห็นเขี้ยวสีขาวที่น่าสยดสยองของเขา

*****************************

หอกทะเลจุดในมือของหลิงซิ่วขยายตัวออกไปช้าๆ

ขณะที่ดวงดาวเยือกเย็นส่องประกายล้อมคู่ต่อสู้ไว้ภายใน

คู่ต่อสู้ของเขาเป็นบุรุษอ้วนเตี้ยมีรอยสักรูปจระเข้ที่อก  เขาเรียกว่าจระเข้เฒ่า,ทั้งตัวของเขาดูท่าทางโหดเหี้ยมป่าเถื่อน ในมือของเขาถือกระบองสั้นคู่เขาควงกระบองสั้นคู่อย่างรวดเร็วมองดูเหมือนพายุหมุนส่งเสียงหวีดหวิว ปลายหอกของหลิงซิ่งถูกพลังลมป้องกันไว้ประกายไฟกระจายไปทั่ว

แต่หลิงซิ่วไม่ได้รู้สึกท้อถอย ขณะที่ตวาดลั่นหอกทะเลจุดยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

“ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า!”

นัยน์ตาของหลิงซิ่วเหมือนไฟสองดวง ผมเงินของโบกสะบัดรุนแรง นิ้วทั้งสิบของเขาซึ่งแข็งเหมือนเหล็กหมุนปั่นอย่างรุนแรงทำให้เกิดเสียงแหวกอากาศดังออกมาเสียดแก้วหู

ตั้งแต่เขาพ่ายแพ้และฟื้นขึ้นมาจากความทรงจำเลวร้าย สภาวะใจของเขายกระดับขึ้นทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นด้วย

หอกทะเลจุดสมบูรณ์ดียิ่งขึ้น ถูกสร้างขึ้นมาชั้นแล้วชั้นเล่า กลายเป็นระลอกคลื่นโจมตีใส่คู่ต่อสู้ของเขา

ติง ติง ติง!

พลังโจมตีระดมใส่ราวกับสายฝน เนื่องจากพายุหมุนนับไม่ถ้วนก่อตัวจึงเกิดประกายไฟนับไม่ถ้วนด้วย จระเข้เฒ่าถูกประกายไฟล้อมรอบไว้ก็เบิกตากว้างทันทีเขาได้ยินเสียงตวาดของหลิงซิ่ว จึงเริ่มเยาะเย้ย

ดูเหมือนเขาจะไม่สามารถทนอยู่ได้นาน

นี่คือเหตุผลที่ชัดเจนแจ่มชัดในการเรียนรู้วิทยายุทธ  คู่ต่อสู้ของเขาเห็นได้ชัดว่าเป็นมือใหม่  และปลดปล่อยระดับพลังโจมตีสูงอย่างนี้  เขาคงทนอยู่ได้ไม่นาน

เฒ่าจระเข้เป็นเหมือนจระเข้ที่กบดานอยู่ในบึงรอโอกาสโจมตี

**************************************

“นักสู้สายจักรกลหรือ?” บุรุษหนุ่มที่มีรูปวาดจิ้งจอกหิมะบนตัวยิ้มเขาคือจิ้งจอกหิมะจากห้ามือสังหาร เขาดูอ่อนโยนและหล่อเหลา แต่มีแววชั่วร้ายแฝงอยู่ในรอยยิ้มของเขา

“นั่นแย่หน่อยนะ นักสู้สายจักรกลสวะๆ จะช่วยให้ข้าสมหวังได้ยังไง?  ถ้านี่ถูกมองดูว่าเป็นความสำเร็จ  ข้าคงถูกหัวเราะเยาะแน่”  จิ้งจอกหิมะพึมพำกับตนเอง  “แม้ว่าเจ้าจะดูเหมือนเสือ เอ้อ..   เพื่อขึ้นยอดเขาไปตีเสือ  อย่าบอกข้านะว่าคนที่ถูกเล่นงานก็คือเจ้า?”

ทันใดนั้น อาหู่พูดกับปิง “ตอนนี้ข้าชักจะโกรธแล้ว”

หลังจากสู้มาเป็นเวลาทั้งคืนและไม่ได้สะดวกสบาย   แม้แต่หุ่นกระบอกก็ยังโกรธได้ แล้วอาหู่ผู้สงบใจเย็นอยู่เสมอก็โกรธจนได้

ปิง “.....”

ปิงผู้น่าสงสารไม่รู้จะปลอบอาหู่ผู้ถูกทำร้ายจิตใจในระยะเวลาสั้นๆได้ยังไง  เขากลับนิ่งงัน  วันนี้ อาหู่ผู้นี้คงได้รับความกระทบกระเทือนมากเกินไป

“ข้าต้องการฆ่าเขา!”  น้ำเสียงของอาหู่เย็นชา

ปิงหลั่งเหงื่อเยือกเย็นเป็นครั้งแรกที่อาหู่ไม่พอใจเพราะเพลงๆ หนึ่ง

แต่ปิงไม่ได้รับผลกระทบอะไรอยู่แล้ว เหมือนกับว่าเขาไม่มีความตั้งใจจะห้าม โดยไม่มีความลังเลใจ เขาเร่งเชื้อสุมไฟเพิ่ม “เฮอะ ฟังเขาน่ะหรือเขาก็แค่สุนัขจิ้งจอกก็ยังกล้าท้าทายความภาคภูมิใจของอาหู่หรือ อาหู่เอย,ข้าไม่รู้ว่าเจ้าคิดยังไง  ยังไงก็ตามถ้าเขายั่วโมโหข้า ข้าก็คงทนไม่ได้”

ฮึ่ม!

อาหู่แหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้าและแสงรัศมีน้ำเงินสว่างตัดกับความมืด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด