ตอนที่ 231 เก็บเกี่ยวผลประโยชน์
เซี่ยชิงไม่อาจอธิบายได้ว่าเขารู้สึกเช่นไร เขาได้แต่ตะลึงเหม่อมองถังเทียน แต่ถังเทียนยังดูร่าเริง ไม่มีวี่แววเสแสร้งอยู่ในดวงตาของเขาสักนิด
เมื่อได้ยินคำพูดของถังเทียน ทุกคนปากอ้าค้าง
สมบัติศักดิ์สิทธิ์ของกลุ่มดาวถ้วยกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดบรรจุสมบัติที่ถูกผนึกไว้ภายในนับไม่ถ้วน เมื่อสตรีชุดดำพูดถึง ทุกคนถึงกับกลั้นหายใจทั้งหมดนั้นเป็นนักสู้จากสวรรค์วิถีและทุกคนสู้ตามแนวคิดของตน พวกเขาเห็นได้ชัดว่าสมบัติดวงดาวก่อให้เกิดการสังหารหมู่ได้อย่างไร
นักสู้คนไหนเล่าที่ไม่แพ้ต่อการยั่วยวนของสมบัติดวงดาว
สำหรับสมบัติเช่นนี้ ถ้าปรากฏออกมา จะต้องมีการนองเลือดแน่นักสู้นับไม่ถ้วนจะต้องใช้กำลังฉกชิงและบางรายอาจเสียชีวิตก็ได้
ไม่มีใครคาดว่าถังเทียนจะพูดคำพูดอย่างนี้ออกมา
ถ้าเป็นคนอื่นทุกคนคงมั่นใจว่าคงมีแผนอะไรสักอย่าง แต่ถังเทียนมีสีหน้าสง่างามชัดเจนน้ำเสียงของเขาทำให้ไม่มีใครสงสัยความจริงใจในคำพูดของเขา
ซึ่งก็คือเหตุผลที่ทำให้ทุกคนตะลึงกับคำพูดของเขา
เป็นความเงียบที่ผิดปกติทำให้ถังเทียนถึงกับเกาศีรษะแกรกๆ “เอ่,ทำไมพวกท่านทุกคนมองข้าอย่างนั้นเล่า? ข้าทำอะไรผิดเหรอ? ในฐานะสหาย,เราไม่ควรช่วยสหายอื่นในช่วงเวลาที่ยากลำบากและเคารพความเชื่อและความฝันของพวกเขาไม่ใช่หรือ?”
สหาย...
เซี่ยชิงจู่ๆ ก็ตาแดงกระทันหัน
“ถูกแล้ว!” หลิงซิ่วก้าวเท้าออกมา ด้วยท่าทางภูมิใจขณะที่ชุดยาวสีขาวของเขาโบกสะบัดในสายลม“เพื่อคุณธรรม! วีรบุรุษทุกคนควรจะมีสิ่งนี้! ไม่จำเป็นต้องพูดมากไปมันคือความประทับใจสำหรับตระกูลเซี่ยเพื่อรักษาศรัทธาของบรรพบุรุษของพวกเขา!”
ถังเทียนพยักหน้าชื่นชมและกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ความจริง,จุดประสงค์ใหญ่ของเจ้าก็คือพยายามบอกว่าเจ้าคือวีรบุรุษด้วยตัวเองใช่หรือเปล่า?”
หลิงซิ่วเป็นเหมือนกับแมวถูกเหยียบหาง เขาโกรธพลางใช้หอกเงินชี้มาทางถังเทียน“บัดซบ! เจ้าจะสู้ใช่ไหม? มาเลย! มาสู้กันจนตายไปข้างหนึ่ง!”
ถังเทียนหัวเราะคิกคัก ขณะที่หลิงซิ่วดึงหอกเงินกลับ เขาหันไปมองอู่กวง “ลุงอู่ ท่านจะว่ายังไงบ้าง?”
ลุงอู่...
สีหน้าของอู่กวงชะงักค้าง หลังจากผ่านไปชั่วขณะ เขาค่อยฝืนยิ้ม “เฮ้, ข้ายังหนุ่มอยู่นะให้เจ้าเรียกข้าว่าพี่อู่ ที่สำคัญเราเป็นสหายกัน!”
ป้าบๆๆ เขายกดาบหักตบหน้าอกตัวเอง เสียงตบดังต่อเนื่องขณะที่เขาพูดด้วยความภาคภูมิใจ “น้องถังไม่ต้องห่วง เราเป็นนักดาบมืออาชีพเนื่องจากน้องถังซื่อสัตย์ เราไม่เคยทำตัวต่ำทรามอยู่แล้ว! เนื่องจากข้ามาทำงาน ข้าก็ต้องพึ่งความซื่อสัตย์เหมือนกัน เกี่ยวกับคำพูดน้องถัง ถ้าใครพยายามหันหลังให้เจ้า ก็หมายความว่าก่อกวนการหาเงินของเราโอไม่.. หมายถึงก่อกวนงานเรา”
จนถึงที่สุด อู่กวงก็ยังเป็นเหมือนสัตว์ป่าที่หลุดออกจากกรง เขาเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต
ถังเทียนหันมาทางอาเฮ่อ
อาเฮ่อยังคงสงบมาก “ในฐานะลูกจ้าง ข้าจะทำตามสิ่งที่นายจ้างข้าต้องการ และนั่นคืองานของข้า”
สตรีชุดดำจ้องมองคนเหล่านี้อย่างมึนงง พวกเขาทุกคนคิดอะไรอยู่กันแน่?
เสแสร้ง!
พวกเขาต้องเสแสร้งมารยา เพื่อที่ว่าตระกูลเซี่ยจะได้ประมาทไว้วางใจ จากนั้นพวกเขาค่อยหาโอกาสโจมตี!
สตรีชุดดำสูดหายใจลึก นางรู้สึกว่านางมองเห็นแผนการของคนเหล่านี้ พวกเขาแกล้งทำเป็นคนดี! นางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ นางเห็นคนเลวมาหลายคนแล้วแต่ไม่มีใครเหมือนพวกเขา
ตอนนี้นางระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากคนพวกนี้ลึกๆ แล้วมีความตั้งใจไม่ดี นั่นหมายความว่านางอยู่ในอันตราย
ปิงตอบอย่างเกียจคร้าน “เอาล่ะ เจ้าถอดหน้ากากออกได้!”
สตรีชุดดำตัวสั่น นางกัดฟันถอดหน้ากากออก
นางแสดงหน้าที่งดงามต่อคนที่เหลือ สีหน้าของนางผุดผ่องตาเป็นประกายมีชีวิตชีวาแต่แฝงแววระมัดระวังตัว ผมสั้นและชุดนักสู้ทำให้นางดูสะอาดสะอ้านและได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
“เจ้าก็ดูธรรมดาดีนี่” ปิงพูดจากนั้นเขาถามต่อ “เอายังไงดี? เราจะฆ่านางไหม? นางเจ้าความคิด และยังจะก่อความยุ่งยากอีกต่อไปก็ได้”
สตรีชุดดำตัวสั่นขณะที่นางขบริมฝีปาก
ถังเทียนเกาหัวกล่าวพลางครุ่นคิดว่า “ข้าคิดว่าเราต้องการคนนำทางในพวกเราไม่มีใครรู้เรื่องการอ่านทิศทาง แม้จะมีแผนที่ก็ตาม แต่เราอาจจะหลงได้ง่าย”
ปิงละอาย หลิงซิ่วปิดปากทันที ขณะที่อาเฮ่อยังคงเงียบอยู่
จุดอ่อนของพวกเขาปรากฏออกมาชัดเจนแล้ว
ถังเทียนยักไหล่ “อย่างนั้นข้าคิดว่าถ้าเราคงต้องพึ่งตัวเราเอง ก็คงจะยากมากกว่าจะไปถึงกลุ่มดาวกางเขนใต้ ความเข้าใจของเราเรื่องสวรรค์วิถีมีน้อยเกินไป เราต้องการใครสักคนผู้รู้วิธีหาข้อมูล”
สตรีชุดดำตอนนี้รู้สึกโล่งอกแล้ว
เนื่องจากนางรู้ว่านางยังมีค่า นางยังปลอดภัยดีอยู่
ปิงถอนหายใจเบาๆ “ก็ได้ เจ้าชื่ออะไร?”
สตรีชุดดำไตร่ตรองก่อนที่นางจะตอบ“ติงตัง”
ติงตังไม่หลีกเลี่ยงการทำสัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ นางไม่กล้าบ่ายเบี่ยงปัญหานี้ นางเข้าใจชัดดีว่าถ้านางไม่เห็นด้วยนางคงถูกฆ่า
ลงชื่อสัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ ทุกคนโล่งอกเนื่องจากไม่มีทางที่จะปฏิเสธบิดพลิ้วและทำลายสัญญาจิตวิญญาณยุทธได้
ติงตังลังเลและถาม “เลือดหยดนั้น...”
ชายชราตาบอดดึงหลอดแก้วใสออกมาในหลอดแก้วมีเลือดหยดหนึ่งลอยอยู่ซึ่งเคลือบด้วยสีทองสดใสดูแปลกประหลาดมาก
ติงตังมีสีหน้าประหลาดใจ ขณะที่นางยื่นมือออกมารับหลอดแก้วอย่างระมัดระวัง
ไม่มีใครถามว่าเลือดนั้นใช้ทำอะไร เฒ่าบอดซอกำศรวลได้พูดไว้ก่อนแล้วว่าน้องสาวของติงตังป่วย
หลังจากการต่อสู้แล้ว ทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บแล้วต่างก็พักฟื้น ขณะที่ชาวบ้านของตระกูลเซี่ยเก็บกวาดสมรภูมิ พวกเขาค่อยๆ รวบรวมทองอีกาอย่างช้าๆ
สองชั่วโมงต่อมา ทองอีกาทั้งหมดถูกเก็บรวบรวมรวมทั้งสิ้นเป็นทองอีกาห้าพันกิโลกรัมซึ่งเป็นสิ่งที่ถังเทียนคำนวณไว้แล้ว นอกจากนั้น พวกเขายังได้ทองอีกาของจ้าวอสูรถึงยี่สิบชิ้น
ทองอีกาจ้าวอสูรทั้งหมดได้มาจากจ้าวอสูรหินกรวดทั้งหมดมีสีเข้มและเป็นวัสดุที่แข็งแรงกว่า บนพื้นผิวของมันมีดาวทองปกคลุม ดูงดงามนอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ชาวบ้านตระกูลเซี่ยได้เห็นทางอีกาจ้าวอสูร มันดูสุดยอดมาก
ทองอีกาห้าพันกิโลกรัมอาจฟังดูเหมือนว่ามาก แต่ความจริงไม่มากเลย เขาเปิดการทำงานตู้อควาเรียสเงิน แล้วเก็บกวาดทองอีกาเข้าไปหมด
เมื่อคิดถึงเงินสองพันห้าร้อยล้าน ถังเทียนตื่นเต้น
“ทำตามแผนเดิม! ไป ไป ไป!”
***********************
ถังเทียนกวาดล้างหมู่ดาวกาเหมือนกับตั๊กแตนลง การมีนักสู้สายสำเนียงเพลงถึงสองคนทำให้เป็นเรื่องง่ายและสำเร็จได้ด้วยความชำนาญ อสูรหินกรวดอ่อนแอต่อนักสู้สายสำเนียงเพลง แม้แต่จ้าวอสูรหินกรวดผู้แข็งแกร่งก็ไม่ยกเว้น
แม้ว่าไม่มีใครรู้เหตุผลที่ถังเทียนกวาดล้างอสูรหินกรวดแต่เนื่องจากเป็นคำขอของนายจ้าง ทุกคนจึงพยายามอย่างสุดฝีมือ
ผลของการต่อสู้น่าทึ่ง ทั่วทั้งกลุ่มดาวกาถูกพวกเขากวาดรวดเดียว
ขณะที่อาเฮ่อและเซี่ยชิงก็ทำตามแผนของพวกเขาคือทำธุรกิจกวาดซื้อทองอีกาทั้งหมด
ความเคลื่อนไหวของพวกเขาลื่นไหลสะดวกมาก แม้ว่าทองอีกาจะเป็นผลผลิตพิเศษประจำท้องถิ่นของหมู่ดาวกา แต่ผู้ซื้อหลายคนตั้งราคาไว้ต่ำ ประวัติการทำธุรกรรมทองอีกามีมายาวนานมาก แต่ในสายตาผู้คนมันเป็นแค่โลหะที่ดีกว่าโลหะธรรมดาเล็กน้อย
ดังนั้นเมื่อมีคนต้องการจัดหาทองอีกาจำนวนมากและพวกเขาจ่ายเพิ่มมากขึ้นกว่าราคาปกติถึงร้อยละสิบห้า ธุรกิจเล็กน้อยทั้งหมดก็ตื่นตัวกันทันทีและรีบเททองอีกาในคลังสินค้าออกมาขายโดยเร็ว
ในเวลาเพียงห้าวัน อาเฮ่อและเซี่ยชิงกลับมายังหมู่บ้านกระบี่ตระกูลเซี่ยพร้อมขนทองอีกามาอีกสองพันกิโลกรัม
ได้ทองอีกาเพิ่มมาอีกสามพันกิโลกรัมจากการต่อสู้ รวมทองอีกาที่พวกเขารวบรวมได้ทั้งหมดหมื่นกิโลกรัมมูลค่ารวมสูงจนน่าประหลาดใจ ห้าพันล้านเหรียญดาว
เมื่อเห็นภูเขาทองอีกาแล้ว ถังเทียนเหมือนกับมองเห็นกองภูเขาเหรียญดวงดาว
เขายิ้มทำสีหน้าโง่งมแล้วเริ่มนับนิ้วเขาจะจ่ายซื้อการ์ดวิชาระดับทองได้กี่ใบ ได้หินดวงดาวกี่ก้อน จะได้สมบัติดวงดาวมาครอบครองกี่ชิ้น
เป็นอย่างนี้ต่อไป ข้าจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งได้โดยเร็วข้าจะได้ไปถึงกลุ่มดาวกางเขนใต้ได้เร็วๆ และพบกับเชียนฮุ่ยเร็วๆ
จะต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน!
ถังเทียนกำหมัดตนอย่างหนักแน่น
**************************
เมื่อได้รับการ์ดเงินสกุลดวงดาวไปแล้วอู่กวงและพวกไม่อาจเก็บความตื่นเต้นไว้ได้ ในห้าวันนี้พวกเขาสามารถทำเงินได้ห้าล้านเหรียญดาว เรื่องดีๆแบบนั้นใช่ว่าจะเกิดขึ้นอย่างง่ายดายนัก นอกจากนี้ในช่วงห้าวันนี้ ทุกคนดูเหมือนกับมาท่องเที่ยวมากกว่า นอกจากวันแรกที่ทุกคนดูเหมือนเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย ส่วนวันอื่นๆเป็นขลุ่ยวิเศษและผู้เฒ่าซอกำศรวลทำงาน
พลังของนักสู้สายสำเนียงเพลงได้ใช้จนถึงระดับสูงสุดในช่วงสองสามวันนี้
เมื่อเผชิญหน้ากับอสูรหินกรวดที่อ่อนแอ นักสู้สายสำเนียงเพลงเหมือนได้เก็บเกี่ยวชีวิต
ฉากภาพที่ฆ่าอสูรทีละตัวๆ จนถึงขั้นไม่มีอสูรหินกรวดเหลืออยู่ทำให้เลือดของผู้คนเย็นเฉียบ
อู่กวงคำราม “น้องถัง ต่อไปมีงานอะไรอีก เจ้าเรียกข้าได้ ตกลงนะ, สบายใจได้พี่อู่ของเจ้ามีชื่อเสียงพอและรับประกันความพอใจให้เจ้าได้แน่นอน”
“ตอนนี้ข้ามีข้อเสนอทางธุรกิจ แต่ไม่แน่ใจว่าพี่อู่สนใจหรือไม่?” ถังเทียนกล่าว “สหายของข้าเปิดร้านอยู่ในเขตภูมิภาควิญญาณและต้องการยอดฝีมือสองสามคนมาอยู่ประจำ ค่าจ้างเดือนละห้าแสนท่านผู้เฒ่าบอดก็อยู่ที่นั่นเพื่อช่วยคุ้มครองร้านด้วย”
อู่กวงส่ายศีรษะ “ข้าเป็นคนหยาบกร้านป่าเถื่อนไม่เหมาะจะอยู่เป็นที่เป็นทางนานเกินไป แต่พี่น้องทุกคนที่ข้ารู้จัก จะต้องมีผู้สนใจอยู่บ้างแน่ว่าแต่น้องถังต้องการนักสู้ประเภทไหน?”
“นักสู้ประเภทไหนน่ะหรือ?” ถังเทียนใจเต้น “ได้นักสู้สายจักรกลจะดีที่สุด”
“นักสู้สายจักรกล?” อู่กวงผงะ “ความต้องการของน้องถังกว้างมากตลอดหลายปีมานี้จำนวนของนักสู้สายจักรกลที่แข็งแกร่งน้อยจนน่าสมเพชแต่ยังดีที่ข้ารู้จักอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม แต่น้องถังพลังต่อสู้ของนักสู้สายจักรกลนั้นอันตรายมาก พี่น้องของข้าผู้นี้แม้ว่ามาตรฐานของเขาจะไม่เลว แต่เจ้าคงรู้มาตรฐานของนักสู้สายจักรกลในปัจจุบันนี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก แต่มาตรฐานของเขาแข็งแกร่งมาก และหลายคนในกลุ่มก็เคยซ้อมฝีมือกับเขามาก่อน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ถังเทียนไม่ลังเลใจ “อย่างนั้นข้าขอคนนี้ก็แล้วกัน”
“ดี, แล้วข้าจะส่งข้อความถึงเขาเอง!” อู่กวงกล่าวอย่างยินดี “เขาค่อนข้างจะว่างเมื่อเร็วๆ นี้ด้วย”
“ขอโทษด้วยที่ต้องรบกวนพี่อู่!”ถังเทียนแสดงความซาบซึ้ง
“น้องถังเป็นคนที่รู้จักคุณค่าคนจริงๆน้องคนนี้ของข้าไม่รู้จักวิธีปฏิบัติต่อคนจริงๆฉะนั้นน้องถังคงต้องอดกลั้นต่อเขาหน่อย” อู่กวงกล่าว
ถังเทียนสงสัยทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เมื่อจบภารกิจและได้รับการ์ดสกุลเงินดวงดาวแล้ว อู่กวงและสหายก็อำลาจากไปคืนนั้นเซี่ยชิงตามหาถังเทียน นัยน์ตาเขาแดงราวกับว่าเขาผ่านการต่อสู้ทางจิตใจมาอย่างหนักหน่วง
