ตอนที่ 23 ผมอยากเรียนเวทมนตร์ (อ่านฟรี)
นี่คือสิ่งที่เกิดควบคุมแล้ว แม็กนัสก็รู้ดี ดังนั้นเขาจึงพยายามกลบเกลื่อนสถานการณ์
“พ่อ...หยุดนะ...ผมรู้จักเขา เขาเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนใหญ่แห่งหนึ่ง” แม็กนัสตะโกน
"เขาอ่ะนะ?" อดัมไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
จากนั้นแมกนัสก็แสดงจดหมายให้พ่อดู “ดูสิฮะ เขานำจดหมายฉบับนี้มา”
อดัมจ้องดัมเบิลดอร์อยู่สองสามวินาทีและวางปืนลงในที่สุด เขาเดินเข้ามาถามว่า "คุณมาจากโรงเรียนอะไร?"
"โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์" ดัมเบิลดอร์ตอบกลับ
อดัมกุมปืนอีกครั้ง “คุณเล่นยาอะไรมา?”
แม็กนัสทำได้เพียงส่ายหน้า นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดหวังไว้
ไม่นานรถอีกคันก็จอดและเกรซก็ออกมา เธอประหลาดใจที่เห็นอดัม แม็กนัส และชายชราแปลกหน้ายืนอยู่ข้างนอก
"เกิดอะไรขึ้น?" เธอถาม
“แม่จ๋า เขาคืออาจารย์ใหญ่ดัมเบิลดอร์จากโรงเรียนฮอกวอตส์ฮะ ไปคุยกับเขาข้างในกันเถอะฮะ” แม็กนัสพยายามกลบเกลื่อนสถานการณ์ด้วยความช่วยเหลือจากเกรซ
“จริงเหรอจ๊ะ? แล้วทำไมคุณรออยู่ข้างนอกล่ะคะ เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” เธอพูดและอนุญาตให้ทุกคนเข้าไปได้
แม็กนัสพาดัมเบิลดอร์ไปที่ห้องนั่งเล่นและบอกให้นั่งลง ไม่นานอดัมกับเกรซก็มาหลังจากเปลี่ยนเป็นชุดปกติแล้ว
พวกเขานั่งบนโซฟาที่ใหญ่กว่าโดยมีแม็กนัสอยู่ตรงกลาง
“แล้วมีอะไรให้เราช่วยคะ? คุณดัมเบิลดอร์” เกรซถาม
ดัมเบิลดอร์มอบจดหมายให้พวกเขา แต่วิธีที่เขาทำกลับทำให้พวกเขาตกใจ จดหมายวางอยู่กลางโต๊ะกาแฟ แต่แล้วก็บินไปหาเกรซและตกลงบนตักของเธอ
ทั้งสองตกตะลึงเกินกว่าจะเชื่อ แต่พวกเขายังเปิดจดหมายเพื่อดูว่ามันเกี่ยวกับอะไร พวกเขาคิดว่าชายคนนี้อาจเป็นเจ้าของโรงเรียนมายากล หรือบางทีเขาอาจทำงานที่คณะละครสัตว์
เกรซอ่านเสียงดัง "ถึงคุณแกรนท์ เรามีความยินดีที่จะแจ้งให้คุณทราบว่าคุณได้รับให้เข้าเรียนที่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์แล้ว..."
“อะไรนะ? แต่เราไม่เคยสมัครอะไรเลย และลูกชายของเราจะไม่กลายเป็นศิลปินหลบหนีหรืออะไรทั้งนั้น” เธอพูดอย่างเคร่งขรึม
ดัมเบิลดอร์พูดขึ้น "คุณแกรนท์ โรงเรียนมีจริง เวทมนตร์มีจริง กรุณาบอกผมที คุณเคยเห็นบางสิ่งเกิดขึ้นรอบตัวแมกนัสโดยที่คุณเองก็อธิบายไม่ได้หรือไม่ มีอะไรแปลกๆ จนคุณคิดว่ามันเป็นภาพหลอนหรือคุณง่วงนอน?”
ทำให้พ่อแม่ทั้งสองคนเงียบไป
เกรซพูดก่อน “ใช่ค่ะ ตอนเขายังเล็ก ฉันจะวางเขาบนโต๊ะเพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อม แต่เมื่อใดก็ตามที่ฉันทิ้งเขาไว้ที่นั่นเพื่อไปหาอะไรสักอย่าง ฉันมักจะพบว่าเขาตามฉันมาเสมอ
มันแปลกมาก เพราะโต๊ะสูงตั้งครึ่งเมตร”
อดัมยังพูดเสริมอีกด้วย “มีครั้งนึงตอนกินข้าวด้วยกัน.. แขนของแม็กนัสเผลอไปโดนแก้ว แล้วแก้วกำลังล่วงห่างจากพื้นแค่เซ็นฯเดียว แล้วแก้วก็ลอยค้างกลางอากาศ จากนั้นแม็กนัสจับมันไว้อย่างไว ผมแน่ใจว่าผมเห็นมันหยุดอยู่กลางอากาศ”
“ใช่ ครั้งหนึ่งเขาพยายามช่วยฉันหั่นผัก เห็นมีดกรีดนิ้วเขาอยู่ชัดๆ แต่พอตรวจดูแล้วไม่มีบาดแผล ถึงอย่างนั้นก็มีเลือดหยดอยู่บนผัก” เกรซกล่าวเสริม เรื่องประหลาดเช่นนี้เกิดขึ้นกับพวกเขาหลายครั้งแล้ว
“และครั้งหนึ่งเมื่อเขาอายุได้ 5 ขวบ เขากระโดดออกจากรถที่กำลังวิ่งอยู่ตอนที่ผมกำลังจอดรถ เขาล่วงลงจากรถผมก็มัวแต่ตกใจ เขาหันกลับมายืนกลางอากาศ ผมแค่คิดว่ามันเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายตามปกติ แต่มันแปลกเกินจะเข้าใจ” อดัมกล่าวต่อ
แต่จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าเกรซจ่อมีดมาที่เขา "ที่รักคะ ทำไมฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย"
อดัมรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วสันหลัง "โอ้... มัน... มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรนะ เกรซ"
ดัมเบิลดอร์พยักหน้า "นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่าเวทมนตร์โดยบังเอิญ"
เขาพูดต่อ “ลูกชายของคุณเป็นพ่อมด คุณและคุณนายแกรนท์ เรามีโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีเวทมนตร์โดยเฉพาะ เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งในปี ค.ศ. 990 ชุมชนผู้เวทมนตร์ทั้งหมดซ่อนตัวจากคนทั่วไปด้วยเหตุผลบางอย่าง”
“การล่าแม่มดหรอ?” เกรซถามทันที
ดัมเบิลดอร์พยักหน้า รู้สึกชื่นชมมากที่อย่างน้อยมักเกิ้ลเหล่านี้ก็ฉลาด “ใช่ครับ เนื่องจากการล่าแม่มดที่เพิ่มขึ้นและที่สำคัญที่สุด การพิจารณาคดีแม่มดซาเลมขนาดใหญ่ในอาณานิคมแมสซาชูเซตส์ของอเมริกาเหนือ และการพิจารณาคดีแม่มดเวิร์ซบวร์กของเยอรมนี พ่อมดและแม่มดไปหากษัตริย์วิลเลียมและแมรี่ของอังกฤษในขณะนั้น แต่ไม่ได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายมนุษย์ที่ไม่ใช่เวทมนตร์ที่มีอยู่
"ดังนั้น ในปี ค.ศ. 1689 ธรรมนูญกฎหมายความลับระหว่างประเทศจึงได้มีการประกาศใช้ กฎหมายนี้กำหนดขึ้นโดยสมาพันธ์ผู้วิเศษนานาชาติเพื่อปกป้องชุมชนพ่อมดแม่มดจากมักเกิ้ล ซึ่งเป็นคำเรียกคนที่ไม่มีเวทมนตร์ และซ่อนการปรากฏตัวของมันจากโลกโดยรวม แต่ละประเทศจึงจัดตั้งหน่วยงานระดับกระทรวงเพื่อควบคุมและเก็บความลับของชุมชนเวทมนตร์"
นี่คือความรู้ที่คณาจารย์ฮอกวอตส์ส่วนใหญ่ที่ไปบ้านมักเกิ้ลบอก พวกเขาจำเป็นต้องทำให้พ่อแม่มักเกิ้ลเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ได้ยินเรื่องนี้เลยตลอดเวลาที่ผ่านมา
"ผู้นำของประเทศรู้เรื่องนี้หรือไม่" อดัมถาม
“รู้ แต่เป็นความลับที่ปิดแน่น มีเพียงนายกรัฐมนตรีและราชินีเท่านั้นที่รู้ ทุกครั้งที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่มา รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์จะไปเยี่ยมพวกเขา” ดัมเบิลดอร์อธิบาย
"อืม ในกรณีนี้ ฉันคาดว่าคุณค่อนข้างทำถูกแล้วตามกฏหมาย แต่เราอยากจะดูว่าคุณต้องการพาลูกชายเราไปที่ใดก่อน" เกรซเรียกร้อง
ดัมเบิลดอร์ลูบเคราของเขา นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากที่สุด “ฮอกวอตส์เป็นสถานที่ที่มีการป้องกันอย่างดี ซึ่งคนที่ไม่มีเวทมนตร์จะไม่รู้สึกดี ผู้ปกครองไปที่นั่นในกรณีพิเศษ แต่ในช่วงเวลาปกติไม่สามารถเข้าไปได้ อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถพาลูกไปที่ตรอกไดแอกอนซึ่งเป็นตลาดผู้วิเศษที่นักเรียนทุกคนซื้อของ
พวกคุณสามารถยืนยันการมีอยู่ของโลกเวทมนตร์ที่นั่นได้”
“คุณต้องการพาลูกชายของเราไปไหนก็ไม่รู้และคาดหวังให้เราสงบสติอารมณ์งั้นหรือ? คุณกำลังทดสอบขีดจำกัดของเราเปล่า?” อดัมถามด้วยความโกรธ หลายครั้งที่เขาต้องปกป้องลูกชายและภรรยาของเขา
แม็กนัสเห็นว่าสถานการณ์เริ่มเลวร้าย เขาอยากไปฮอกวอตส์ แม้ว่าตอนนี้เขาจำได้ว่าเขาเองก็จะต้องจากพ่อแม่ไปเช่นกัน
“พ่อครับ ทำไมไม่ไปตรอกไดแอกอนไรนี่ก่อนตัดสินใจล่ะฮะ? ผมยังอยากเรียนรู้เกี่ยวกับความสามารถที่น่าทึ่งเหล่านี้ที่ผมมีด้วย อีกอย่าง คุณดัมเบิลดอร์ มีข้อเสียอะไรไหมถ้าเด็กไม่สำรวจความสามารถทางเวทมนตร์ของเขาและพยายามกดพวกมันไว้”เขาถาม แน่นอนว่าเขารู้เรื่องนี้ เขาเคยอ่านเจอในหนังสือ
ดวงตาของผู้เฒ่าดัมเบิลดอร์เป็นประกายเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น นี่เป็นข้อโต้แย้งที่ดีทีเดียว นอกจากนี้เขายังเพิ่งตระหนักว่าเขาเสียเวลาอย่างมากในการพบปะพวกนี้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ค่อยไปตามบ้านมักเกิ้ล แต่คราวนี้ ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวได้ แล้วเขาก็มา
"ใช่มันมี หากแม่มดหรือพ่อมดอายุน้อยพยายามที่จะระงับเวทย์มนตร์ของพวกเขา พวกเขาจะกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า ออบสคูรัส
มันถูกสร้างขึ้นเมื่อพ่อมดแม่มดเด็กที่มีปัญหาพยายามที่จะระงับความสามารถทางเวทมนตร์อย่างตั้งใจหรือถูกบังคับให้ทำเช่นนั้นผ่านการทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ พลังงานนี้สามารถแสดงออกเป็นตัวตนที่แยกจากกันซึ่งสามารถปะทุขึ้นด้วยความโกรธที่รุนแรงและมีพลังทำลายล้างได้ ออบสคูรัสส่วนใหญ่ไม่สามารถอยู่รอดได้จนถึงวัยผู้ใหญ่" ดัมเบิลดอร์อธิบายด้วยใบหน้าบูดบึ้งเศร้าหมอง เขามีประวัติโดยตรงกับพวกเขาในสมัยที่ยังเยาว์วัย
ทั้งอดัมและเกรซมองดูลูกชายด้วยความเป็นห่วง
เมื่อเห็นพวกเขาเป็นเช่นนี้ แม็กนัสก็พูดขึ้น “อีกอย่าง ผมแน่ใจว่าคุณดัมเบิลดอร์จะรับรองกับเราได้ว่าฉันจะปลอดภัยในฮอกวอตส์ ไม่งั้นจะมีใครอยากไปโรงเรียนแบบนั้น”
~เขาพยายามจะบงการฉันเหรอ~ ดัมเบิลดอร์แอบคิดรู้สึกขมฝาดในปาก
"ใช่ ผมเป็นพ่อมดที่อาวุโสที่สุดในชุมชนผู้วิเศษแห่งอังกฤษและมีชื่อเสียงระดับโลกในด้านความกล้าหาญ คุณสบายใจได้ เด็กๆ ทุกคนในฮอกวอตส์อยู่ภายใต้การคุ้มครองของผม และถ้าใครกล้าทำร้ายพวกเขา พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับผมก่อน” ชชายชรายืนยันกับพวกเขา แม้ว่าเขาจะรู้ว่าไม่ว่าจะสัญญามากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กๆ ทุกคนได้ และบางครั้งเขาอาจต้องปล่อยให้บางสิ่งเกิดขึ้น
เกรซกับอดัมพยักหน้า "ขอบคุณค่ะ คุณดัมเบิลดอร์ เราจะไปที่ตรอกที่คุณพูดถึงและดูด้วยตาตัวเอง"
ดัมเบิลดอร์รู้สึกยินดี เขาต้องการหนีจากพบปะนี้โดยเร็วที่สุด มันเหนื่อยสำหรับเขามากกว่าการประชุมเต็มรูปแบบของศาลสูงวิเซ็นกาม็อต
"ผมแน่ใจว่าพวกคุณจะชอบสถานที่นั้น ผมจะส่งอาจารย์อีกคนจากฮอกวอตส์วันอาทิตย์นี้เพราะไม่สามารถเข้าไปในตรอกไดแอกอนได้หากปราศจากเวทมนตร์ ตอนนี้ผมคงต้องขอตัวแล้ว” เขาลุกขึ้นยืน
อดัมเห็นเขาออกจากบ้านและกลับมาเห็นแม็กนัสถูกเกรซกอด นี่เป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับครอบครัวของพวกเขา มีบางสิ่งที่ไม่ธรรมดาเกิดขึ้นกับพวกเขา
พวกเขารู้สึกว่าลูกชายของพวกเขาไม่ธรรมดามาตั้งนานแล้ว เรียกว่าเป็นลางสังหรณ์ของพ่อแม่หรือความเชื่อมโยงกับลูกของพวกเขาก็ได้ พวกเขาคาดว่าอนาคตคงมีเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับพวกเขา แต่ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่ามันจะสุดโต่งขนาดนี้ ใครจะคิดว่าเวทมนตร์มีจริง
“แน่ใจนะว่าจะไปที่นั่นลูกรัก?” เกรซถาม
เขาพยักหน้าขณะที่ยังอยู่ในอ้อมกอดแน่น “ฮะแม่จ๋า ผมอยากเรียนเวทมนตร์”
“ก็ได้...ก็ได้...” เธอพึมพำและมองหน้าสามี
_____________________________