Ep.491 - เหลือเชื่อ
3/3
Ep.491 - เหลือเชื่อ
ไมนัส นักรบเลเวล 16 เผ่ามังกรปฐพี ดวงตาตั้งตรงม่านตาสีทองเข้ม มีเกล็ดสีดำ อุปกรณ์สวมใส่โดยรวมถือว่าดีมาก เกราะอกและแหวนในมือซ้ายน่าสะดุดตาเป็นพิเศษ ทั้งสองชิ้นทอประกายสีม่วงอ่อน
มันคือหนึ่งในเก้าผู้ครองแคว้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรมังกรโลกา อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในผู้ครองแคว้นไม่กี่ตนที่เกี่ยวพันธ์กับเฮสการ์
พลังรบของมันเมื่อเทียบกับอีกแปดตนที่เหลือ ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย เป็นตัวตนที่แข็งแกร่งมาก
“ว่าไงนะ?”
“นาเซอร์แคว้นเดียวดายก่อกบฏ?”
“เจ้านั่นสมรู้ร่วมคิดกับเผ่ามนุษย์ ... เป็นเรื่องจริงหรือ?”
ไมนัสประหลาดใจมากเมื่อได้ยินรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา แม้มันจะไม่เคยติดต่อใดๆกับนาเซอร์ แต่ได้ยินมาว่าออร์คตัวนี้เก่งมาก ดูยังไงก็ไม่ใช่คนโง่ แล้วจะทำเรื่องไร้สมองแบบนี้ได้อย่างไร?
ต่อต้านเฮสการ์?
นั่นเท่ากับปรารถนาที่จะตาย!
ไมนัสเกิดในเมืองมังกร ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นคนสนิทของเฮสการ์ อย่างไรก็ตาม หลังถูกส่งมารับตำแหน่งผู้ครองแคว้นทะเลตะวันตก
หลังจากได้ลิ้มรสชาติของอำนาจ ความทะเยอทะยานในตัวมันก็เพิ่มขึ้นทุกวัน ความภักดีในตัวเฮสการ์นับวันยิ่งลดลง กระนั้น ไมนัสก็ยังไม่กล้าหือกับเฮสการ์ มันจ่ายภาษีทุกปีไม่มีขาดตกบกพร่อง และก้มหน้ารับคำสั่งเฮสการ์ทุกครั้ง
นี่ก็เพราะไมนัสเคยเป็นลูกน้องของเฮสการ์ เมื่อเทียบกับผู้ครองแคว้นตนอื่นๆ มันรู้ดีแก่ใจถึงความน่ากลัวของเฮสการ์ ดังนั้นข่มความทะเยอทะยานและจินตนาการของตนไว้ ไม่เคยข้ามเส้น
นาเซอร์ก็มีสติปัญาคล้ายคลึงกับตัวมัน เรื่องพลังรบอาจแกร่งกว่าเล็กน้อยก็จริง แต่คิดต่อกรกับเฮสการ์?
นั่นเท่ากับฆ่าตัวตาย!
“ราชามังกรคลั่งสั่งให้แม่ทัพทั้งสองออกรบพร้อมกัน บดขยี้เผ่ามนุษย์ในแคว้นเดียวดาย แม้แต่พระองค์เองก็อาจร่วมโจมตีด้วย” ลูกน้องของไมนัสกล่าวอย่างสั่นสะท้าน “แคว้นทะเลตะวันตกอยู่ไม่ไกลจากแคว้นเดียวดาย ท่านผู้ครองแคว้นต้องเตรียมตัวล่วงหน้า”
“ข้ารู้แล้ว เจ้าไปได้”
ไมนัสคิดในใจว่าควรทำอย่างไรดีจึงจะเหมาะสม
หากมังกรคลั่งออกคำสั่งให้ แคว้นทะเลตะวันตกส่งกองกำลัง ไมนัสย่อมต้องร่วมสงครามอย่างเลี่ยงไม่ได้ และนี่ยังเป็นโอกาสในการแสดงความจงรักภักดีอีกด้วย
ไมนัสต้องเตรียมการล่วงหน้า
ทันทีที่ราชามังกรมาถึง มันจะออกทัพเดินทางด้วยตัวเอง
ทางหนึ่งก็เพื่อแสดงความภักดีต่อหน้าราชามังกร อีกทางหนึ่งเพื่อขจัดความแคลงใจของราชามังกรที่มีต่อมัน และจะได้นั่งบัลลังก์แคว้นทะเลตะวันตกตลอดไป!
ผู้ใต้บังคับบัญชาล่าถอยออกไป
ไมนัสถูกทิ้งให้อยู่ในห้องโถงเพียงลำพัง
ตามปกติแล้วต้องมีรองผู้ครองแคว้นสองตนและสมาชิกอาวุโสหลายตนอยู่ใกล้ๆ ไม่แยกจากกัน มีอะไรก็คุยกันได้ทันที
แต่ตอนนี้ทั้งหมดถูกส่งไปกวาดล้างเผ่ามนุษย์ทั่วแคว้นทะเลตะวันตก ดังนั้นรอบตัวมันจึงว่างเปล่า ชวนให้รู้สึกโหวงๆเล็กน้อย
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ พวกลูกน้องจะกลับมาในอีก 3 - 5 วัน
ไมนัสลุกขึ้นจากบัลลังก์ ก้าวออกไป แต่ในตอนนั้นเอง มันรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง ก้มมองลงมา และพบว่าพื้นที่เดิมแข็งเป็นหิน ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เวลานี้กลายเป็นสีเลือดนก ยิ่งทิ้งน้ำหนักลงไปก็ยิ่งจม
เมื่อยกเท้าขึ้น เลือดจำนวนมากติดตามเท้าขึ้นมา ห้องโถงหายไป สภาพแวดล้อมเปลี่ยนเป็นโลกสีแดงเลือด
“นี่มัน ...” ไมนัสก้มหน้า พึมพำกับตัวเอง “จัตุรัสคุกโลหิตของปีศาจคลั่งอาบโลหิต?”
และดูจากความร้อนแรงของไฟโลกันต์นี่ คาดว่าคงเป็นยอดฝีมือที่สืบทอดมรดกสำเร็จแล้ว!
เดิมคุกโลหิตเป็นเหมือนกรงขังขนาดใหญ่ แต่เมื่อสืบทอดมรดก เอฟเฟกต์ของมันก็เปลี่ยนไปมาก
เมื่อจับเป้าหมายได้แล้ว อีกฝ่ายจะถูกลากเข้าสู่เขตแดนโลหิต กลายเป็นสกิลสนามพลังอันทรงประสิทธิภาพ!
ทั้งสองอยู่ในคุกโลหิต แม้จะสู้กันอย่างดุเดือด แต่โลกภายนอกยากจะได้ยิน
แน่นอน ... คุกโลหิตเวอร์ชั่นนี้สิ้นเปลืองพลังมาก!
และศัตรูเพียงคนเดียว ไม่มากพอที่จะเติมพลังแก่ฮังอวี่ เขาไม่สามารถเปิดใช้งานสกิลนี้ได้นานนัก
ไมนัสตะโกนเสียงเย็น “ใครกัน! ไสหัวออกมา!”
ในแคว้นทะเลตะวันตกไม่มีดรอปหินสกิลของปีศาจคลั่งอาบโลหิต ฉะนั้นผู้บุกรุกต้องมาจากที่อื่น และจากในความทรงจำของไมนัส ผู้ที่ครอบครองมรดกปีศาจคลั่งอาบโลหิต มีเพียงหนึ่งหรือสองตนเท่านั้นในอาณาจักรมังกรโลกา
คิดถึงจุดนี้ ตามตัวไมนัสเริ่มเกิดไฟสีดำลุกโชนขึ้น สูบพลังชีวิตมันอย่างต่อเนื่อง
นี่คือพลังจากสร้อยคอโลกันต์โลกาวินาศ ไฟของมันสามารถทะลุการป้องกันได้ สร้างดาเมจโดยตรงแก่ไมนัส
อย่างไรก็ตาม ไฟดำแผดเผาได้แค่สองวินาที ตามตัวไมนัสเริ่มทอรัศมีแสง อำนาจอันเหลือล้นกระจายเข้าครอบคลุมทั่วร่างมัน ราวกับเกราะชุดหนึ่ง
ปราณสงครามเกราะ!
สกิลนี้ฮังอวี่ก็มีเช่นกัน มันสามารถสร้างชั้นป้องกันปราณสงครามบนตวได้ ช่วยลดดาเมจจากคาถาและพลังงานต่างๆ ขณะเดียวกันรวบกวนเอฟเฟกต์ของสกิลสายควบคุม
ปราณสงครามเกระของฮังอวี่อยู่ในเลเวล 3 แล้ว!
อย่างไรก็ตาม เทียบกับไมนัส เห็นได้ชัดว่าด้อยกว่า
เพราะไมนัสไม่ใช่แค่เรียนรู้สกิลนี้ แต่มันสามารถสืบทอดมรดกของปรมาจารย์ปราณสงครามได้แล้ว!
ส่งผลให้เอฟเฟกต์สกิลเพิ่มขึ้นอย่างมาก เอฟเฟกต์จากโลกันต์โลกาวินาศไม่มีผลต่อมัน
แข็งแกร่งจริงๆ!
เป็นคู่ต่อสู้ที่ยากรับมือ
หากคิดจัดการเจ้าหมอนี่ ต้องรีบจบเรื่องให้เร็วที่สุด!
ไมนัสเห็นว่าฮังอวี่ยังไม่ออกมา มันไม่อดทนรออีกต่อไป แหกปากคำรามทันที
พริบตานั้นอากาศโดยรอบคล้ายถูกกวาดออกไป ก่อกำเนิดพายุรุนแรงปะทุจากร่างไมนัส
“แย่ล่ะสิ!”
“นี่มันพายุปราณสงคราม!”
นี่คือสกิลขั้น 4 ที่ทรงพลัง มันสามารถรวบรวมปราณสงครามและปลดปล่อยในชั่วพริบตาเดียว เปลี่ยนปราณสงครามเป็นใบมีดสายลมหลายร้อยเล่มฟาดฟันไปทุกทิศทาง ทั้งยังกินเวลาค่อนข้างนาน ระยะการโจมตีก็กว้างมาก
พื้นที่ในคุกโลหิตเกือบทั้งหมดคล้ายถูกฉีกขาด
ฮังอวี่เผชิญหน้ากับการโจมตีที่มาจากทั่วทุกมุม จำต้องเผยร่างจริงออกมา จากนั้นร่ายเทคนิคแปลงอากาศธาตุ หลบการโจมตีจากปราณสงคราม
ปกติแล้วปราณสงครามจะทำลายเทคนิคป้องกันต่างๆให้ไร้ผล แต่เทคนิคมิติเป็นข้อยกเว้น
“ค่ายกลล่าแสงและเงา!”
ฮังอวี่รอจนพายุปราณสงครามพัดผ่านไป ปลดปล่อยค่ายกลกระบี่ต่อทันที
ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนก่อตัวเป็นพายุ เข้าห่อหุ้มไมนัสในบัดดล
อย่างไรก็ตาม
เมื่อปราณกระบี่ทิ่มแทงลงบนตัวไมนัสอย่างเมามัน กลับปรากฏสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็นหยุดไว้ในระยะห่างออกไป 3 ฟุต
ไมนัสปลดปล่อยกลิ่นอายที่จับตัวเป็นรัศมีแสงสีขาวออกมา
และมันครอบคลุมทุกส่วน ราวกับผ้าห่อตัว ครอบร่างเอาไว้
สกิลขั้น 4 : ปราณสงครามเกราะพลังจิต!
ปราณสงครามเกราะพลังจิตถูกสร้างขึ้นจากปราณสงครามอันทรงพลัง ตราบใดที่ยังมีค่าพลังจิตหลงเหลือ เจ้าสิ่งนี้สามารถคงอยู่ได้เรื่อยๆ หากคิดทำลายมัน หนึ่งคือรอให้พลังจิตของผู้ใช้หมดลง สองต้องโจมตีอย่างรุนแรงจนมันพังทลายไปเอง
ภายใต้การโจมตีของปราณกระบี่ ไมนัสไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เพียงแต่ว่ายิ่งนานปราณสงครามเกราะพลังจิตก็ยิ่งบางลง
“มนุษย์?” นัยน์ตาสีทองเข้มของมันจดจ้องฮังอวี่ที่ปรากฏตัวขึ้น ในแววตาสะท้อนถึงความประหลาดใจ แต่ที่มากกว่าคือความรู้สึกดูแคลน “ไม่! เป็นไปไม่ได้! เผ่ามนุษย์ไม่มีทางมีพลังเช่นเจ้า!”
**พรุ่งนี้งดครับ