ตอนที่แล้วตอนที่ 9-1 ผู้สนับสนุนที่ทรงพลัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9-3 ยั่วยุ

ตอนที่ 9-2 พลังจิตระดับใหม่


ยอดฝีมือระดับเซียนมีถึงหกทำให้ตกใจมากเหลือเกิน  หลังจากผ่านไปนานวอร์ตันและคนอื่นๆก็สงบใจจากอาการตื่นเต้นยินดีแทบคลั่งจนได้ แต่หลังจากสงบจิตใจได้แล้วหัวใจพวกเขาเต็มไปด้วยความยินดีไม่มีที่สุดจริงๆ

พวกเขากังวลมาตลอดเวลานี้ว่าจะทำยังไงกับเรื่องของวอร์ตันกับนีน่า

สถานะของบลูเมอร์ในฐานะศิษย์ส่วนตัวของเทพสงครามและเป็นน้องชายของโอลิเวอร์ทำให้พวกเขามีแรงกดดันมหาศาล แต่ตอนนี้พวกเขารู้สึกมั่นใจว่าพวกเขามีความสามารถโต้ตอบได้

หน้าของวอร์ตันผ่องใสและมีรอยยิ้ม พี่ชายของเขาพายอดฝีมือที่แข็งแกร่งมาด้วยหลายคน วอร์ตันแทบจะมองเห็นภาพงานแต่งงานของเขากับนีน่า

“พี่ใหญ่, ขอบคุณมาก, ดื่ม”  วอร์ตันชูแก้วเหล้า

ลินลี่ย์หัวเราะและชูแก้วไวน์ของตนด้วยเหมือนกัน

วอร์ตันเทิดทูนลินลี่ย์ตั้งแต่เขายังเล็กจอมเวทคนหนึ่งที่มาจากเมืองอู่ซันได้รับการยอมรับจากสถาบันเอินส์เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อแล้ว  แต่ตอนนี้ผ่านมาถึงสิบเจ็ดปีลินลี่ย์มีอสูรเวทชั้นเซียนถึงสองตัวและยอดฝีมือระดับเซียนอีกสามคนเป็นผู้ติดตามด้วย

“พี่ใหญ่ในอีกไม่กี่วันนี้จะมีเทศกาลยูลานอีกครั้ง ตอนนี้ท่านอายุเกือบยี่สิบเจ็ดปีแล้ว เมื่อไรจะวางแผนแต่งงานเสียที?” วอร์ตันโน้มตัวเข้ามากระซิบข้างหูลินลี่ย์ขณะหัวเราะหยอกล้อ

“เจ้าเด็กน้อย” ลินลี่ย์หัวเราะ “ตอนนี้ยังไม่พูดปัญหาเรื่องนี้ก่อน”

“โอว” วอร์ตันพยักหน้าอย่างว่าง่าย

แม้ว่าวอร์ตันในตอนนี้จะมีบรรดาศักดิ์เป็นเคานท์และตัวโตสูงถึง2.2 เมตร แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าลินลี่ย์ เขายังทำตัวเหมือนเมื่อตอนเขาเป็นเด็ก

“ความจริง,ลีนาและอีกสองสาวก็ดูดีไม่น้อยนะ” วอร์ตันแอบกระซิบ

ลินลี่ย์ทุบศีรษะวอร์ตันเบาๆ

“ข้าหยุดแล้ว หยุดแล้ว, ดื่มกันเถอะ มาดื่มกัน”วอร์ตันรีบกล่าว

พ่อบ้านแอชลีย์และฮิลแมนพอเห็นลินลี่ย์กับวอร์ตันคุยกันอย่างนี้รู้สึกยินดีในใจอย่างมากพวกเขาชำเลืองมองอย่างรู้กันแล้วเริ่มหัวเราะพร้อมกัน

ลินลี่ย์และน้องชายมีความสุขอย่างมากในช่วงสองสามวันแรกที่มาถึง  อย่างไรก็ตาม ลินลี่ย์สั่งวอร์ตันว่าแม้ว่าการเปิดเผยข่าวตัวเขาและแฮรุว่าเป็นระดับเซียนจะเป็นเรื่องดี  แต่ตอนนี้ข้อมูลเรื่องบีบีและสามพี่น้องบาร์เกอร์ที่ถึงระดับเซียนให้ปกปิดเอาไว้ก่อน

บาร์เกอร์ น้องๆเขาและบีบีคือกำลังลับสำคัญของลินลี่ย์

นอกจากนี้ในทั่วทั้งจักรวรรดิโอเบรียนแทบไม่มีใครรู้ว่าบาร์เกอร์และน้องๆ เขาคือนักรบอมตะดังนั้นการรักษาความลับนี้จึงเป็นเรื่องง่าย

แค่การปรากฏตัวของลินลี่ย์นักสู้ระดับเซียนและแฮรุอสูรเวทระดับเซียนก็ทำให้คนอื่นหวั่นเกรงอยู่ในใจแล้ว

ปีที่ 10008 ตามปฏิทินยูลานวันที่ 30 ธันวาคม นี่คือวันก่อนเฉลิมฉลองศักราชใหม่ยูลาน  วันนี้หิมะกำลังตกและทั่วทั้งจักรวรรดิยูลานปกคลุมไปด้วยหิมะ ขณะที่ทั้งโลกดูเหมือนเปลี่ยนเป็นสีขาว

ถนนโบลเดอร์  สนามฝึกฝนของเคานท์วอร์ตัน

แม้ว่าหิมะกำลังตก แต่ลินลี่ย์ยังคงนั่งเข้าสมาธิอยู่ตรงกลางสนามหญ้า  ขณะที่วอร์ตันเองก็แข็งแกร่งทรงพลังไม่ใส่ใจเรื่องหิมะเลย

“ควั่บ” วอร์ตันเปลือยอกเต็มไปด้วยพลังงานและความร้อน  เขาวางดาบศึกประหารปรปักษ์ไว้ข้างตัวเตรียมพัก แต่ขณะเขาหันมาดูลินลี่ย์ที่อยู่ใกล้ๆ...

“หืม?”

วอร์ตันพบว่าเขาประหลาดใจที่แม้หิมะกำลังตกอยู่ทั่วไม่ว่าเมื่อใดที่หิมะเข้าใกล้ลินลี่ย์ จะหลีกเลี่ยงเขา ผ่านเป็นแนวโค้งผ่านเขาไปเหมือนกับกว่ามีพายุหมุนที่มองไม่เห็นอยู่รอบตัวลินลี่ย์ ไม่มีหิมะแม้แต่เกล็ดเดียวที่ตกต้องเสื้อผ้าของลินลี่ย์

“นี่มันอะไร?” วอร์ตันตกใจเล็กน้อย

ลินลี่ย์ซึ่งนั่งสมาธิอยู่ลืมตาทันที  “วอร์ตัน, เจ้ามองอะไรอยู่หรือ?”  แม้ว่าลินลี่ย์จะอยู่ในสมาธิลึกแต่เมื่อมีคนสนใจเขา ลินลี่ย์จะรู้ตัวได้

“พี่ใหญ่, หิมะเป็นแบบนั้นได้ยังไง?  หรือว่านี่คือระดับ ‘กำหนด’ ที่บันทึกตระกูลเรากล่าวถึงไว้?” วอร์ตันพูดด้วยความประหลาดใจ

ลินลี่ย์ยิ้ม “วอร์ตันเมื่อเจ้าถึงระดับกำหนด เป็นเรื่องจริงที่เจ้าสามารถป้องกันมิให้ฝนหรือหิมะตกต้องตัวเจ้าได้  แต่อย่างไรก็ตามคุณสมบัตินี้เจ้าจำเป็นต้องเพ่งเพื่อการใช้งานพลังกำหนดของพื้นที่รอบตัว  เป็นไปไม่ได้ที่จะทำอย่างนี้ในระดับชั้นกำหนดขณะที่เจ้ากำลังทำสมาธิและไม่ได้เพ่งถึงมัน

ตอนนั้นลินลี่ย์ไม่ได้ตั้งใจป้องกันเกล็ดหิมะไม่ให้มาถึงเขา  อย่างไรก็ตามทั้งหมดที่เขาใช้คือความคิดอย่างเดียว เท่านั้นเกล็ดหิมะก็ไม่มาใกล้เขาแล้ว

“อย่างนั้นอะไรคือสิ่งที่อยู่เหนือระดับ ‘กำหนด’?”  วอร์ตันชื่นชมพี่ชายของเขาทั้งใจอย่างแท้จริง

วอร์ตันฝึกฝนหนักมาหลายปีและได้รับคำแนะนำอย่างดีที่สุดจากสถาบันโอเบรียน แต่จนถึงปัจจุบันวอร์ตันถึงเพียงระดับ ‘กวัดแกว่งของหนักเสมือนของเบา’ เนื่องจากมีอธิบายไว้ในบันทึกของตระกูลของเขา

ความจริงวอร์ตันไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวเกินไป เหตุผลที่ลินลี่ย์สามารถก้าวหน้าได้อย่างประหลาดขนาดนั้นนอกจากพรสวรรค์ตามธรรมชาติของเขาแล้วยังมีความจริงที่ว่าเขาได้รับความช่วยเหลือจากความสัมพันธ์ได้กับธาตุเป็นอย่างดีจึงช่วยเหลือได้มาก

สำหรับคนธรรมดาความสัมพันธ์กับแก่นธาตุมีไว้เพียงแสดงว่าเขาจะสามารถรวบรวมพลังเวทได้เร็วขึ้น  แต่สำหรับยอดฝีมือมันจะแสดงว่านักสู้นั้นสามารถปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติได้ง่าย และเข้าใจกฎของโลก

“นี่คือส่วนของเคล็ดสัจธรรมแห่งธาตุลมซึ่งข้าได้รู้แจ้ง”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น  “นี่เป็นการประยุกต์ใช้ง่ายๆ”

“สัจธรรมแห่งธาตุลม?”  วอร์ตันนัยน์ตาเป็นประกาย

“เจ้าฝึกต่อไปเถอะ” ลินลี่ย์กล่าวจากนั้นหลับตาอีกครั้งเพื่อทำสมาธิต่อ

ความจริงจนถึงเดี๋ยวนี้ลินลี่ย์ไม่ได้ใช้เวลามากนักกับงานสลักหินเว้นแต่เขาจะเกิดแรงปรารถนากระทันหัน เมื่อความต้องการนั้นเกิดขึ้น ลินลี่ย์จะเข้าสู่สภาวะใจที่ถูกต้องได้ง่าย และประโยชน์ที่เกิดขึ้นจะดีกว่า

หลายวันมานี้ผลกระทบของการสลักหินยังธรรมดาพอๆกับการนั่งสมาธิง่ายๆ ของลินลี่ย์

เหตุผลก็คือในจุดนี้เพราะลินลี่ย์กำลังเข้าใจเรื่องกฎธรรมชาติของธาตุลมและกฎธรรมชาติของธาตุดิน  เมื่อลินลี่ย์นั่งสมาธิ เขาสามารถกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับธรรมชาติได้ง่ายทำให้เขาได้ประโยชน์เช่นเดียวกับเมื่อตอนสลักหินภายใต้สภาวะธรรมดา

การทำสมาธิเกี่ยวกับกฎธรรมชาติต่างๆนี้ช่วยให้พลังจิตของลินลี่ย์ก้าวหน้ามากในอัตราเติบโตที่คงที่

ตกยามราตรี

ลินลี่ย์ที่ยังทำสมาธิอยู่เงียบๆตลอดเวลาพลันยิ้มกว้างทั้งที่ก่อนหน้านี้สีหน้าของเขายังเฉยเมย  และจากนั้นลินลี่ย์ขยับริมฝีปากเล็กน้อย  จากนั้น...

“ฟิ้ว!”

ลินลี่ย์ยังอยู่ในท่านั่งพลันเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่น่ากลัวทันที  ในเวลาเดียวกันลินลี่ย์ที่แตกต่างกันเก้าร่างปรากฏอยู่ในตำแหน่งต่างๆในพื้นที่ฝึก

หลังจากนั้นภาพเลือนรางทั้งเก้าก็หายไปลินลี่ย์ปราฏอยู่ในท่านั่งสมาธิในพื้นที่ฝึกอีกครั้ง

ถึงตอนนี้ลินลี่ย์จึงค่อยลืมตา  “เวทธาตุลมระดับเก้า ‘เงาลม’ เวทประเภทความเร็วที่ทรงพลังที่สุดที่สร้างชื่อให้กับมัน มันจะช่วยให้ข้าเข้าถึงความเร็วระดับเซียนทั้งที่อยู่ในร่างมนุษย์

ใช่แล้ว!

เวทระดับเก้า!

ราวปีครึ่งหลังจากลินลี่ย์เข้าเทือกเขาอสูรวิเศษ  เขาก็บรรลุเป็นจอมเวทระดับแปด  แต่จากระดับแปดมาเป็นจอมเวทระดับเก้าความต้องการในการใช้พลังจิตมีมากอย่างน่าทึ่ง แม้แต่อัจฉริยะที่ฉลาดที่สุดยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบปี

แต่เนื่องจากเขาทำสมาธิอย่างต่อเนื่อง พลังงานวิญญาณของลินลี่ย์จึงเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็ว

หลังจากใช้เวลาเจ็ดปี  ในที่สุดเขาก็บรรลุเป็นจอมเวทระดับเก้า

“พรุ่งนี้เป็นวันเทศกาลศักราชยูลาน  วันก่อนเทศกาล ข้าได้บรรลุเป็นจอมเวทระดับเก้า,อืม? ฮึ..” ลินลี่ย์มีความสุขมาก

นักเวทที่มีพลังโจมตีสูงส่งมาก  ถ้าท่านให้เวลาจอมเวทเพียงพอ จอมเวทสามารถใช้เวทเอาชนะนักรบระดับเดียวกันได้  ในพื้นที่กว้างใหญ่คาถาของจอมเวทจะเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์

“พรุ่งนี้ ข้าจะอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้ว เป็นจอมเวทสองสายธาตุระดับเก้าอายุยี่สิบเจ็ดปี  นี่คงเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์”  ท่าทางที่ดูมั่นใจปรากฏอยู่ในใบหน้าของลินลี่ย์

เหลือเชื่อจริงๆ

จอมเวทสองสายธาตุระดับเก้าอายุยี่สิบเจ็ดปี นี่คือสถิติที่น่ากลัวซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ สถิติก่อนหน้านั้นบันทึกไว้ว่าผู้ที่เข้าถึงระดับเก้าและกลายเป็นหัวหน้าจอมเวทก็หลังจากอายุสามสิบปีไปแล้ว

“เวทธาตุลมรวมทั้งเวทสลาตันอำมหิตซึ่งใช้จัดการกับกองทัพเป็นแสนได้  ขณะที่สายธาตุดิน อย่าง ‘ปราสาทปฐพี’ นับได้ว่าเป็นเวทป้องกันที่มีขนาดใหญ่…” ลินลี่ย์ต้องยอมรับว่ายิ่งเป็นจอมเวทที่ทรงพลังมากขึ้นก็ยิ่งใช้ประโยชน์ในสงครามได้อย่างน่ากลัวยิ่งขึ้น

นักเวทยังคงมีพลังมากเมื่อใช้เวทประเภทตัวต่อตัว

“เวทธาตุลมระดับเก้า ‘มิติว่างมรณะ’ มีชื่อเสียงมาก ตราบใดที่ผู้ใช้มีพลังเวทเพียงพอ นี่คือเวทเป้าหมายเดี่ยวที่สามารถฆ่าได้กระทั่งนักสู้ระดับเซียน  เป็นเวทที่มีพลังมหาศาล”ลินลี่ย์อดถอนหายใจชื่นชมมิได้

เวทสายธาตุลมแกร่งกร้าวและยิ่งใหญ่มาก  ‘มิติว่างมรณะ’ คือเวทโจมตีที่ทรงพลังมากที่สุดกว่าเวทระดับเก้าที่ต้องห้ามทั้งหมด

เวทธาตุดินกลับกลายเป็นพลังป้องกันของมันที่กลายเป็นตำนานไม่ว่าจะป้องกันตนเองหรือป้องกันพื้นที่ขนาดใหญ่

เมื่อจอมเวทสายธาตุดินระดับเก้ากระตุ้นสนามพลังโน้มถ่วง  เขาสามารถทำให้หัวใจและเส้นเลือดของนักสู้ระเบิดได้และเป็นเหตุให้พวกเขาตายทันที  ที่สำคัญแม้ว่าจะมีบางคนมีกล้ามเนื้อแข็งแกร่ง แต่หัวใจและเส้นเลือดของพวกเขาไม่จำเป็นต้องทน

“อย่างไรก็ตามสำหรับข้าเวทที่มีประโยชน์มากที่สุดก็ยังเป็นเวทเงาลม  เป็นเวทความเร็วที่ทรงพลังมากที่สุด”

ในร่างมนุษย์ลินลี่ย์มีความเร็วน้อยกว่าตอนอยู่ในร่างมังกรแปลงถึงครึ่งหนึ่ง  แต่อาศัยวิชาเงาลม ความเร็วในร่างมนุษย์ของเขาสามารถสู้ได้กับร่างมังกรแปลง  น่ากลัวจริงๆ

วันฉลองเทศกาลยูลาน  พระอาทิตย์ฉายแสงลอยเด่นอยู่ในท้องฟ้าส่องสะท้อนแสงกับหิมะที่ปกคลุมอยู่บนต้นไม้และหลังคาทำให้ดูลานตาทั่วทั้งเมืองหลวงดูเหมือนจะสว่างมากกว่าปกติ

วันนี้เมืองหลวงกำลังจัดงานเฉลิมฉลองขนาดใหญ่

ภายในรถม้า

ขณะมองดูการเฉลิมฉลองวอร์ตันและลินลี่ย์กำลังสนทนาเรื่องนีน่าและว่าจะทำยังไงกับนาง

“วอร์ตัน อีกสองวันพาข้าไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิด้วย” ลินลี่ย์พูดตามตรง

“เข้าเฝ้าฝ่าบาท?”วอร์ตันจ้องมองลินลี่ย์อย่างประหลาดใจ

ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะพลางอย่างใจเย็น  “ข้าไม่ได้มีความแค้นกับจักรวรรดิโอเบรียนถ้าจักรพรรดิยินดีให้นีน่าแต่งงานกับเจ้าข้าก็ไม่ว่าอะไรที่จะปักหลักอยู่ที่นี่ในจักรวรรดิโอเบรียน”

วอร์ตันมองดูพี่ชายของเขา  ในใจของเขา เขาเข้าใจสิ่งที่ลินลี่ย์กำลังพูด

“แต่ถ้าจักรพรรดิไม่รู้ว่าอะไรดีสำหรับตัวเขาและยืนยันให้องค์หญิงเจ็ดแต่งงานบลูเมอร์  อย่างนั้นเราต้องใช้แผนสำรองของเรา  เราจะลักพาตัวนีน่าและจากนั้นเจ้าทั้งสองคนก็สามารถหลบหนีไปได้”  ลินลี่ย์มองดูวอร์ตัน  “วอร์ตันเจ้าพร้อมจะยอมรับผลนี้ไหม?”

วอร์ตันเงียบชั่วครู่  “แน่นอนข้าพร้อม ข้าไม่รู้สึกภักดีต่อจักรวรรดิโอเบรียนมากมายนัก  แต่นีน่า...”

“องค์หญิงเจ็ดจะปฏิเสธไหม?”  ลินลี่ย์ถาม

นี่คือปัญหาใหญ่

วอร์ตันส่ายศีรษะ  “ข้ารู้จักนาง เมื่อข้ายังแข่งกับเคย์ลัน ทันทีที่นีน่าพูดว่าถ้าจักรพรรดิจะพยายามบังคับนางจริงๆนางจะหนีไปกับข้า แต่นีน่ากลัวว่าเราจะไม่สามารถทำได้”

“เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น  เว้นแต่เทพสงครามมาแทรกแซงด้วยตนเอง”  ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น

ลินลี่ย์รู้ว่าเพราะสถานะของเทพสงคราม เขาคงไม่เข้ามาวุ่นวายในปัญหาเล็กน้อยเหล่านี้  แต่ถ้าจักรวรรดิตกอยู่ในสภาพวิกฤติเทพสงครามจึงจะปรากฏตัว

กล่าวโดยทั่วไปเทพสงครามจะไม่เข้ามาพัวพัน ต่อให้จักรพรรดิถูกลอบปลงพระชนม์ก็ตาม

เทพสงครามมีลูกหลานนับไม่ถ้วน  ถ้าจักรพรรดิสวรรค์คต  คนอื่นก็จะครองราชย์แทนเขา  ตราบใดที่ไม่คุกคามรากฐานของจักรวรรดิ  นักสู้ชั้นเทพอย่างเทพสงครามจะไม่เข้ามาแทรกแซง

สามวันต่อมารถม้าคันหนึ่งมาถึงประตูวังหลวง บุรุษหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งอยู่ในชุดสุภาพบุรุษนั่งเคียงข้างบุรุษหนุ่มชุดยาวสีดำก้าวลงมาจากรถ

“เคานท์วอร์ตัน, ผู้นี้เป็นใคร?”  องครักษ์ประจำวังถาม  ขณะที่พวกเขาจับตาดู พวกเขาสามารถบอกได้ชัดเจนว่าคนที่นั่งอยู่ข้างเคานท์วอร์ตันไม่ใช่ธรรมดา

วอร์ตันหัวเราะอย่างใจเย็นพลางพูด“นี่คือพี่ชายของข้า ข้าต้องการพาเขามาให้ฝ่าบาททอดพระเนตร”

องครักษ์ประจำวังไม่สร้างความลำบากให้พวกเขาอนุญาตให้พวกเขาผ่านเข้าไปทันที ความจริงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะมีคนเข้าไปในวังได้  ใครก็ตามที่มีฐานันดรก็สามารถพาคนเข้าเฝ้าได้

นี่เป็นเพราะพระราชวังเองก็มีขนาดใหญ่โต ถ้าใครต้องการเข้าไปหนึ่งในพื้นที่สำคัญของวัง  องครักษ์ประจำวังจะยิ่งกวดขันมากขึ้น

“หยุดก่อน!”  ทหารองครักษ์สองคนตะโกน  “เคานท์วอร์ตันคนที่อยู่ข้างเจ้าเป็นใคร?”

“โปรดทูลฝ่าบาท นี่คือลินลี่ย์พี่ชายของข้า  ข้าพาพี่ชายของข้ามาเข้าเฝ้าฝ่าบาท”  วอร์ตันพูดตรงๆ

“โปรดรอที่นี่ก่อน”  หนึ่งในทหารองครักษ์ตะโกน  ก่อนจะหันและวิ่งเข้าไปข้างในลาน

มียอดฝีมือมากมายอยู่ภายในลานไม่ได้รับราชานุญาตจากจักรพรรดิ ขุนนางต่างๆ ไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าไป ขณะต่อมาองครักษ์ผู้นั้นก็วิ่งกลับมา “ฝ่าบาทอนุญาตให้พวกเจ้าเข้ามาได้”

“มียอดฝีมือจริงๆ อยู่ที่นี่ไม่กี่คน”  ขณะที่ลินลี่ย์เดินเข้าไปในลาน  เขาสามารถรู้สึกถึงตำแหน่งที่ยอดฝีมือคนหนึ่งอยู่ได้ง่ายหลังจากตรวจจากกระแสลมใกล้ๆ

หลังจากเดินมาชั่วขณะและใช้เส้นทางวงเวียน  พวกเขามาถึงห้องศึกษาพื้นฐาน

“ถวายบังคมฝ่าบาท”  วอร์ตันส่งเสียงดังแสดงความเคารพ

“ฮ่าฮ่า, วอร์ตันข้าได้ยินว่าลินลี่ย์พี่ชายของเจ้ามาถึงแล้วใช่ไหม?  เข้ามาเร็ว!”  น้ำเสียงของจักรพรรดิโจฮันน์แจ่มใส่ชัดเจนดังมาจากในห้องศึกษา

ลินลี่ย์ยิ้มเดินเข้าไปในห้องศึกษา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด