ตอนที่แล้วตอนที่ 25 : ตามหาโรงเตี๊ยม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 27 : ก้าวหน้าในวิชาต่อสู้

ตอนที่ 26 : ฆ่าครั้งแรก


หลินมู่รีบหันไปเผชิญหน้ากับคนที่เรียกเขาจากด้านหลัง เขาเห็นชายสองคนยืนอยู่ หนึ่งคนร่างกายกำยำและอีกคนผอมแต่สูง ชายร่างกล้ามถือกระบองในมือและสวมชุดเกราะหนังบาง ส่วนคนตัวสูงถือขวานในมือและสวมชุดนายพรานเก่า ๆ

คนที่เรียกหลินมู่คือชายกำยำ เขามองหลินมู่ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโลภ ทันทีที่หลินมู่เห็นดวงตาของชายคนนั้นก็เข้าใจทันทีว่าทั้งสองคนมาปล้นเขา

หลินมู่แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่เขาเก็บทุกสิ่งทุกอย่างที่มีค่าในแหวนไปแล้ว แม้ว่าชายทั้งสองจะค้นตัวเขา พวกเขาก็จะไม่เจออะไร แต่อย่างนั้นหลินมู่ก็ไม่รู้ว่าสองคนนี้เป็นโจรธรรมดาที่สุ่มเลือกเหยื่อหรือรู้ว่าเขามีเงินมากมายติดตัว

“เจ้าต้องการอะไร?”

หลินมู่ถามเสียงปกติ เขาไม่อยากจะก้าวร้าวไปตรง ๆ

“เอาเงินกับของทั้งหมดที่เจ้ามีมาซะ”

ชายร่างกำยำพูดเสียงแข็ง

หลินมู่หรี่ตาเมื่อได้ฟังสำเนียงหยาบจากอีกฝ่าย เขาไม่รู้ว่าได้ยินสำเนียงแบบนี้มาจากที่ใด แต่มันไม่ใช่สำเนียงเมืองเหนือแน่นอน หมายความว่าชายสองคนนี้จะต้องมากับพวกพ่อค้า เพราะดูเหมือนว่าทั้งสองน่าจะไม่ใช่ทหารรับจ้างด้วย เพราะอาวุธและชุดของพวกเขานั้นดูแย่เกินไป

เมื่อไม่อยากจะโต้เถียง หลินมู่เรียกกระเป๋าเงินที่มีแค่เหรียญเงินกับเหรียญทองแดงออกมาโยนให้พวกมัน

“เอาไปสิ ข้ามีเท่านี้แหละ”

หลินมู่พูด

ชายตัวสูงหยิบกระเป๋าขึ้นมาเทดู ทั้งสองเห็นเหรียญในกระเป๋าและรู้ว่าหลินมู่จะต้องเก็บเงินทั้งหมดในสมบัติเก็บของ สิ่งเดียวที่พวกเขาไม่รู้ก็คือหลินมู่ซ่อนสมบัติเก็บของไว้ที่ใด พวกเขาไม่เห็นหลินมู่สวมสมบัติเก็บของอย่างแหวนหรือกำไลอยู่เลย

“ไอ้เด็กเหลือขอ อย่าคิดจะมาหลอกพวกข้า ส่งทุกอย่างที่เจ้ามีมาซะ”

ชายร่างกำยำพูดขู่

“เรารู้ว่าเจ้ามีสมบัติเก็บของ เอาทุกอย่างออกมา อย่ามาหัวหมอกับข้า”

ชายตัวสูงพูดเสริม

ทันทีที่หลินมู่ได้ยินประโยคของชายตัวสูง ความรู้สึกมากมายก็เกิดขึ้นในดวงตาเขา มันคงจะไม่เป็นไรถ้าคนพวกนี้อยากได้ดาบหรือเงิน เขาก็แค่ต้องวิ่งหนีอย่างเคย แต่ตอนนี้พวกเขารู้ความลับของหลินมู่แล้ว ไม่มีทางที่หลินมู่จะปล่อยเรื่องนี้ไป

หลินมู่ชักดาบสั้นออกจากฝักและมองชายทั้งสองด้วยสีหน้าดุร้าย ชายทั้งสองผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงจากจำยอมเป็นความก้าวร้าว

“โอ้ เจ้าจะตอบโต้เรอะ มาดูกันว่าเจ้ารับนี่จากข้าได้รึไม่!”

ชายร่างกำยำก้าวขาและฟาดกระบองใส่หลินมู่

หลินมู่ก้าวขาหลบไปด้านข้างและฟันดาบสั้นใส่ข้อมือชายตัวใหญ่ อีกฝ่ายเห็นและหลบอย่างง่ายดาย

ช่างตัวสูงเองก็เข้าต่อสู้ด้วยและซัดขวานใส่แขนหลินมู่ หลินมู่สามารถป้องกันได้ด้วยดาบสั้น แต่แรงกระแทกอันรุนแรงนั้นทำให้เขาเจ็บแขน ชายตัวสูงแข็งแกร่งกว่าหลินมู่และชายร่างกำยำ เขามีร่างกายที่ขั้น 7 แล้ว

“ระวังด้วยน้องสอง ไอ้เด็กนี่มันเป็นขั้น 6”

ชายร่างกำยำตกใจเมื่อได้ยินว่าหนุ่มน้อยที่ยังไม่ทันเติบโตนั้นแข็งแกร่งกว่าเขาที่เป็นผู้ใหญ่ที่ฝึกมาหลายปี

“เจ้ามั่นใจในพลังตัวเองสินะ ถึงได้อวดดีเช่นนี้ แต่ความอวดดีของเจ้าจะต้องสลายในวันนี้แน่”

ชายกำยำพูดยั่ว

ชายทั้งสองโจมตีพร้อมกันอย่างรวดเร็วเพื่อเผด็จศึกหลินมู่ แต่เขาก็กลิ้งตัวหลบและอาวุธของทั้งคู่ก็ปะทะกับพื้นดิน

“ไอ้เวรเอ้ย หลบเก่งนัก”

ชายตัวสูงสบถ

ครั้งนี้พวกเขาสองคนเข้าหาหลินมู่จากสองด้าน เหลือพื้นที่ให้หลินมู่ขยับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ชายตัวสูงฟันขวานไปก่อนซึ่งหลินมู่กันด้วยดาบสั้น แรงกระแทกส่งตรงมาที่ข้อมือของหลินมู่

ร่างกายกำยำเมื่อเห็นว่าหลินมู่เจ็บตัวจากการป้องกันชายตัวสูง เขาก็ใช้กระบองทุบหัวหลินมู่ หลินมู่รับรู้ถึงการเคลี่ยนไหวของชายกำยำและรีบเรียกมีดถลกหนังออกมาอย่างรวดเร็วและขว้างใส่หน้าชายตัวสูง

ชายตัวสูงเบี่ยงตัวไปด้านข้างหลบมีดที่ลอยมา เขาตกใจเพราะไม่รู้ว่าหลินมู่หยิบมีดมาจากที่ใด ดังนั้นจึงหลบมีดได้ไม่ดีพอ หูของเขาถูกมีดเฉือนไป

“เจ้ากล้าทำร้ายพี่หนึ่งเรอะ ไอ้เวรเอ้ย”

ชายกำยำตะโกนขณะที่ฟาดกระบอง

หลินมู่ฉวยโอกาสที่ชายกำยำหยุดมองชายตัวสูงนั้นฟันกระบองในมือเขา หัวกระบองนั้นทำจากโลหะแต่ว่าด้ามจับยังคงทำด้วยไม้

ชายกำยำไร้อาวุธแล้ว สิ่งเดียวที่เขามีคือชิ้นไม้ที่อยู่ในมือ

‘ข้าคงป้องกันขวานด้วยดาบไม่ได้ตลอด แรงเหวี่ยงของมันแกร่งกว่าข้าเยอะเลย’

หลินมู่คิด

เมื่อเห็นว่ากระบองโดนฟันขาด ชายกำยำก็โกรธยิ่งกว่าเดิม เขาทิ้งด้ามไม้ในมือและใช้กำปั้นกับหลินมู่แทน

ครั้งนี้หลินมู่หลบการโจมตีไม่พ้น เขาโดนกำปั้นของชายกำยำเข้าที่หลังและดาบที่กำลังป้องกันขวานของชายตัวสูงก็หลุดมือ

หลินมู่ใช้แรงพุ่งกลิ้งไปด้านข้าง เขาจึงรอดพ้นจากการโดนขวานจามศีรษะ แต่ชายกำยำก็พร้อมที่จะซัดหมัดต่อไปและขวานก็กำลังจะมาอีกแล้ว หลินมู่ทำอะไรไม่ได้มาก

“ฮ่าฮ่าฮ่า ตอนนี้เจ้าเสร็จแน่”

ชายกำยำพูด

“ตายซะ!!”

ชายตัวสูงตะโกน

หลินมู่คิดว่านี่คงเป็นจุดจบของเขา แต่จู่ ๆ ร่างกายของเขาก็เลือนลาง ชายทั้งสองคิดว่าตนเองตาฝาด แต่เมื่อคมขวานกำลังจะโดนตัวหลินมู่ มันก็ทะลุผ่านไปราวกับฟันอากาศ

เช่นเดียวกับกำปั้นของชายกำยำที่ทะลุผ่านหลินมู่ไปอย่างไร้สิ่งกีดขวาง หลินมู่คิดอะไรไม่ออกในขณะนี้และหมุดตัวหนีออกจากชายทั้งสอง ในตอนที่เขาหมุนตัวนั้นเอง เขาก็เรียกขวานตัดไม้ออกมาจากแหวนและซัดมันไปที่กะโหลกชายกำยำเต็มแรง

หลินมู่ทิ้งขวานปักคากะโหลกชายกำยำเอาไว้และตั้งท่าหมัดทลายศิลา ลมหายใจของเขาหลอมรวมเข้ากับการเคลื่อนไหวและพลังชีวิตในกาย

ณ ตอนนี้ เขาได้ไปถึงระดับของความเข้ากันและมีพลังเล็กน้อยหมุนวนที่มือขวาจนเป็นวายุเล็ก ซึ่งดูไม่มั่นคงและรู้สึกเหมือนว่ามันจะสลายไปได้ทุกเมื่อ

ชายตัวสูงตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นขวานที่เต็มไปด้วยโลหิตที่ปักคาศีรษะของน้องสอง หลินมู่เห็นโอกาสทองนี้แล้ว เขารวบรวมพลังทั้งหมดในร่างและซัดเข้าใส่ชายตัวสูงที่กลางอกพอดิบพอดี

ชายตัวสูงรู้สึกถึงซี่โครงของตัวเองที่หักหลายซี่และการหายใจของเขาก็ติดขัดจากปิด หลินมู่ที่ออกจากการตั้งท่านั้นกำลังข่มความเจ็บปวดรุนแรงที่มือขวา เขาหยิบดาบสั้นที่ตกพื้นขึ้นมาด้วยมือซ้ายและฟันคอชายตัวสูงเพื่อสังหารอย่างรวดเร็ว

หลินมู่ในตอนนี้นอนแผ่อยู่กับพื้นด้วยความเหนื่อยล้า เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แต่หลังจากที่การโจมตีของทั้งสองทะลุตัวเขา เขารู้สึกราวกับว่าพลังครึ่งหนึ่งของเขาได้หายไป การใช้หขวานและหมัดทลายศิลานั้นทำให้พลังอีกครึ่งจนหมด แรงสุดท้ายที่เขาเหลือก็คือตอนฟันคอชายตัวสูงนั่นเอง

เขาหายใจหอบและมือเจ็บปวดทรมาน อีกทั้งยังเหนื่อยจนขยับไม่ได้ เขาไม่สามารถปกป้องตัวเองในตอนนี้ได้เลย ไม่ว่าใครก็สังหารเขาได้ในตอนนี้อย่างไม่ยากเย็น หลินมู่จะต้องนอนพักบนพื้นมากกว่าหนึ่งชั่วโมงและพระอาทิตย์ก็เคลื่อนคล้อยไปไกลจากเดิม

เมื่อรู้สึกว่าความเหนื่อยล้าหายไปนิดหน่อยและพลังก็เริ่มกลับมาบ้างแล้ว หลินมู่ลุกขึ้นและเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ เขาเห็นชายกำยำที่มีขวานตัดไม้ปักคาศีรษะนอนตายข้างหลังเขาและชายตัวสูงไร้หัวที่อยู่ข้าง ๆ

หลินมู่กลืนความรู้สึกเลวร้ายที่พุ่งทะยานในลำคอก่อนจะตั้งสติ เขาเก็บดาบสั้นใส่แหวนโดยไม่คิดจะเก็บเข้าฝัก จากนั้นจึงดึงขวานออกมาจากศีรษะของชายกำยำและทิ้งกองเลือดเอาไว้

ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวและเขาก็เก็บศพของชายสองคนในแหวนเช่นกัน เขาจะทิ้งศพสองคนนี้ไว้กลางทางให้คนมาเจอไม่ได้ เขาจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยหากมีใครที่เกี่ยวข้องกับชายสองคนนี้อีก

จากนั้นเขาก็ค้นหามีดถลกหนังและเห็นมันตกอยู่ไกลจากศีรษะของชายตัวสูงเล็กน้อย เขาเก็บศีรษะและเก็บไว้ในแหวนเช่นเดียวกับมีด

ในตอนนี้ หลักฐานเดียวที่ถูกทิ้งเอาไว้ก็คือกองเลือดบนพื้น เขาใช้เวลาปิดเลือดด้วยดินกับโคลน เมื่อเลือดถูกซ่อนด้วยดินเรียบร้อยแล้วเขาก็มองรอบ ๆ เผื่อว่าจะมีคนแอบมองเขาอยู่

เขายืนยันว่าไร้ผู้คนมองจากการดูรอยเท้าในบริเวณโดยรอบ เขาไม่พบรอยเท้าใหม่ในรัศมี 100 เมตรเลย เขารู้ดีว่าที่เหลือคงขึ้นอยู่กับโชคชะตา จากนั้นจึงรีบวิ่งไปให้ถึงลำธารเล็กข้างต้นแอปเปิ้ล

เมื่อถึงลำธาร เขาอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เลอะดินและคราบเลือดออก เขาพักอยู่ครู่หนึ่งโดยปล่อยให้น้่ำเย็นไหลผ่านเท้าที่เจ็บปวดและนวดมือขวาที่เจ็บน้อยลงกว่าเดิม

ตอนนี้เขาหิวจนแทบคลั่ง เขารู้สึกว่าอยากกินจนกระเพาะระเบิด หลินมู่ลุกขึ้นเดินไปที่กระท่อม เมื่อถึงกระท่อมแล้วเขาก็เรียกเอาเนื้อหมูป่าจมูกแดงที่เหลือออกมาเสียบไม้ย่างบนเตาใหญ่นอกกระท่อม

ขณะที่ย่างเนื้อ เขาเติมข้าวสารใส่หม้อต้ม เขาโรยเครื่องเทศบนเนื้อย่างและรอดูมันสุก จากนั้นไม่นานกลิ่นหอมเข้มข้นจากเนื้อก็โชยออกมาจนหลินมู่ต้านทานไม่ไหว

เขาไม่สนใจความต้อนที่แสบผิวจากเนื้อ หลินมู่ฉีกกระชากทั้งขาหมูป่าและกลืนกินเข้าไปอย่างกับคนเถื่อน

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด