ตอนที่แล้วตอนที่ 226 เสริมพลังโจมตี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 229 พันกระเรียนบรรจบสังหาร

ตอนที่ 228 กระเรียนร้องเก้าชั้นฟ้า


ปัง ปัง ปัง!

ถังเทียนยุ่งอยู่กับการป้องกันการโจมตีของอสูรหินกรวด  สำหรับเขาแล้วการโจมตีจากอสูรหินกรวดธรรมดาไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ทุกครั้งที่โล่ตะลุยเลือดป้องกันการโจมตีได้  กระแสความร้อนจะไหลเข้ามาในร่างของเขา

นี่ไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีอย่างแน่นอน  ความรู้สึกร้อนลวกและเจ็บปวดเข้ามาในตัวเขาผ่านกล้ามเนื้อและกระดูกครั้งแล้วครั้งเล่า  เขาไม่รู้ว่าทหารดาบโล่ของกองทัพออฟิอูคัสรับมือได้อย่างไรเพียงแต่สามารถทนความเจ็บปวดนี้ได้ พวกเขาต้องมีความโดดเด่นที่ทำเช่นนั้นได้

ถังเทียนกัดฟันพยายามทนต่อไป

หลังจากโจมตีใส่ปิงได้เมื่อคืนก่อนนั้น  ทำให้เขาติดใจที่จะใช้มันมากขึ้น  เขาต้องการประลองอีกครั้งและเขาสงสัยว่าทหารดาบโล่จากกองทัพดาวออฟิอูคัสในอดีตก็คงเสพติดความรู้สึกแปลกประหลาดเช่นกัน

เอาละ,ข้าจะไม่คิดเรื่องของกองทัพดาวออฟิอูคัสอีก...

หลังจากตั้งรับการโจมตีไม่กี่ที  ถังเทียนตระหนักว่าเขายังไม่มีพลังถึงระดับสูง

จ้าวอสูรหินกรวดในกลุ่มสังเกตเห็นถังเทียนอยู่ก่อนแล้ว  และตั้งแต่แรกเริ่ม มันก็สงสัยแล้ว  แต่ทันทีที่มันตระหนักว่าถังเทียนเอาแต่ยกโล่และเป็นเหมือนลูกบอลที่ถูกอสูรหินกรวดไล่เตะ เขาไม่มีความเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีแต่อย่างใด

มันไม่ลังเลสงสัยและตัดสินใจโจมตี

มันย่องเข้าไปในกลุ่มของอสูรหินกรวดเงียบๆ

เมื่อหนึ่งในอสูรหินกรวดยกหมัดของมันฟาดใส่โล่ตะลุยเลือด  มันเข้ามาร่วมโจมตี  ความเร็วของมันเร็วกว่าอสูรหินกรวดตัวอื่นหมัดของมันเหมือนเหล็กโผล่มาฟาดใส่หลังถังเทียนทันที

หมัดนี้ไม่ก่อให้เกิดเสียง  ไหล่ของมันยืดหยุ่นเหมือนเส้นบะหมี่ไม่มีสัญญาณใดๆ มันปรากฏตัวอยู่ด้านหลังถังเทียน ตาของมันเป็นประกายเจ้าเล่ห์ แม้แต่พลังของมันก็ยังแข็งแกร่งมากกว่าอสูรหินกรวด  ทำไมมันต้องเผชิญหน้ากับศัตรูแล้วโจมตีด้วยเล่า?

ศัตรูนับไม่ถ้วนล้วนล้มลงแทบเท้าของมัน  ฝูงของมันใหญ่กว่าฝูงอื่นๆเพราะมันฉลาดกว่า พวกที่เชื่อในพลังตนเองจะเข้าใจความฉลาดของสติปัญญาได้อย่างไร? โอวข้าจะไม่บอกพวกมันแน่นอน

จ้าวอสูรหินกรวดกวาดมองอย่างมีความสุขฉับพลันโล่สีแดงจางปรากฏมารับหมัดของมันไว้

ปัง!

มันรู้สึกว่าหมัดของมันเพียงแต่ต่อยใส่หินที่แข็ง,ไม่สิ มันแข็งยิ่งกว่าหิน!

ถังเทียนลอบระมัดระวังอยู่เสมอ  สัญชาตญาณของเขาถูกใช้จนเต็มพิกัด  เขาง่วนอยู่กับการใช้โล่ป้องกัน  เขาจำเป็นต้องใช้สัญชาตญาณของเขาเพื่อที่จะปล่อยพลังออกมา

เมื่อเห็นความเคลื่อนไหวที่สับสนของเขาเป็นเพราะเขาไม่รู้วิธีใช้โล่ป้องกัน

แต่หลังจากถูกปิงเหวี่ยงหมัดใส่เมื่อวานนี้  เขาขัดเกลากระบวนท่าเล็กน้อย  ขณะที่พื้นฐานของเขามั่นคงมาก  เพิ่มประสบการณ์การต่อสู้และเพิ่มคู่หูฝึกฝนของเขา  ถังเทียนหวังผลบางอย่าง

แม้ว่าการป้องกันของเขาไม่ถูกต้องตามแบบแผน  เขาก็ยังสกัดการโจมตีจากอสูรหินกรวดได้และความเคลื่อนไหวของเขาค่อนข้างมั่นคง วิทยายุทธพื้นฐานของเขาที่โดดเด่นอยู่แล้วได้แสดงผลของมัน แม้ว่าวิชาโล่ตั้งรับของเขายังไม่เป็นที่คุ้นเคย แต่เขาสามารถรับมือได้

เมื่อเจ้าอสูรหินกรวดปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเงียบๆถังเทียนก็รู้สึกถึงความคงอยู่ของมันได้

เขายกโล่ป้องกันหมัดของอสูรหินกรวดไว้ทันทีและเหลือพลังไว้อีกเล็กน้อยป้องกันการลอบทำร้ายของจ้าวอสูรหินกรวด

เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าจ้าวอสูรหินกรวดจะลอบทำร้าย

คลื่นพลังงานขนาดมหึมาไหลออกมาจากโล่ทำให้ถังเทียนชะงัก  จ้าวอสูรหินกรวดมีพลังสมชื่อมันจริงๆ พลังหมัดของมันแข็งแกร่งเหนือกว่าอสูรหินกรวดธรรมดามากมายนัก

กระแสความร้อนกระจายไปทั่วร่างกายถังเทียนและเพิ่มปริมาณปราณสะสมอีกมากมายทันที ถังเทียนสูดอากาศเย็น มันเจ็บปวดมากจนเขาต้องกัดฟัน

เมื่อเห็นว่าการลอบทำร้ายที่มันภูมิใจล้มเหลว  จ้าอสูรหินกรวดโกรธทันที  แต่ด้วยบุคลิกและความเจ้าเล่ห์ของมัน  มันไม่ได้ใช้พลังเต็มที่เมื่อตอนโจมตีถังเทียน

ถังเทียนได้แต่ใช้โล่ป้องกันต่อไป

จ้าวอสูรหินกรวดตระหนักได้ในเวลาอันรวดเร็ว  แม้ว่าศัตรูผู้นี้จะมั่นคงแต่เขาก็ยังไม่รู้ตัว  มันค่อยๆเพิ่มพลังโจมตีมากขึ้นๆ และทวีความดุร้ายขึ้นอีก

ปัง ปัง ปัง

เห็นได้ชัดว่าถังเทียนอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้น  แต่จ้าวอสูรหินกรวดไม่ได้สังเกตเห็นใบหน้าถังเทียนเบื้องหลังโล่ตะลุยเลือดว่าไม่ได้มีความตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย

ปัง!

ถังเทียนตัวสั่นเล็กน้อย นี่เป็นความรู้สึกแบบเดียวกับที่เขารู้สึกเมื่อคืนขณะที่กระแสความอุ่นสายเล็กๆนับไม่ถ้วนผสานรวมตัวกันอีกครั้งจนเต็มไปทั้งตัวถังเทียนทันที

นัยน์ตาถังเทียนเทียนเป็นประกายทันที

จ้าวอสูรหินกรวดตระหนักได้ทันทีว่าศัตรูที่อยู่ข้างหน้ามันหายไปแล้วเอ...

ปัง!

ด้านหน้าของโล่ระเบิดใส่หน้าผากของเจ้าอสูรหินกรวดอย่างรุนแรง

ปัง!

เหมือนกับแตงโมที่ถูกแผ่นเหล็กหนาหวดใส่  สมองของจ้าวอสูรหินกรวดแตกสลายกลายเป็นเม็ดทรายนับไม่ถ้วนทันที

พลังหวดเสริมพลัง

สามารถกระแทกปิงที่ควบคุมพยัคฆ์ฟ้ากระเด็นไปในอากาศเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ได้  พลังในการโจมตีนี้ร้ายแรงและน่ากลัวแน่นอน  วันนี้หลังจากการทดสอบนี้ไป แรงหวดนี้ยิ่งทำให้ถังเทียนรู้สึกสนุกและแข็งแกร่งขึ้นมาก

เซี่ยอวี่ซึ่งอยู่ห่างไกลกวาดตามองผ่านโดยบังเอิญและได้เห็นประจักษ์ภาพเหตุการณ์ที่น่าตื่นตะลึงนี้  เขาตะลึงงันเหมือนกับรูปปั้นหลังจากผ่านไปชั่วขณะริมฝีปากเขาสั่นอีกครั้ง นัยน์ตาเหม่อลอย เขาค่อยๆเรียกความรู้สึกกลับมาช้าๆ

เด็กนั่น...เป็นใครกันแน่?

เขามองดูถังเทียนด้วยความตกใจ  การโจมตีนั่นไม่ได้อยู่ในกฎเกณฑ์ของมนุษยชาติเลย  ความเปลี่ยนแปลงในกระบวนท่าดูไม่สมเหตุผลทั้งท่วงท่าที่ถือโล่นั่น...

แต่... แต่.....

แต่การโจมตีนั่นเป็นเหมือนฝันร้ายที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา  ศีรษะของจ้าวอสูรหินกรวดทั้งหมดแตกสลายกลายเป็นทรายทันที!  เขาไม่อาจเห็นเคล็ดการใช้  ไม่อาจเห็นความเปลี่ยนแปลงในวิทยายุทธมีแต่พลังป่าเถื่อน พลังที่ไร้ความสมเหตุผล

แม้แต่ตอนนี้ร่างไร้ศีรษะของจ้าวอสูรหินกรวดยังอยู่ในท่ายืนไม่ขยับเลยแม้แต่นิ้วเดียว

เป็นเวลาหลายปีแล้วเซี่ยอวี่ไม่เคยพบกับความกลัวขนาดนั้น

คนป่าเถื่อน!

เขาต้องเป็นคนแดนเถื่อนอย่างแน่นอน!

พระเจ้า,ข้านี่บ้าไปแล้ว ทำไมข้าถึงได้เห็นด้วยกับกัวตงต้องมาสร้างศัตรูกับคนแบบนี้?

ฉากภาพที่ศีรษะของเขาถูกยิงจนระเบิดด้วยพลังโล่ตะลุยเลือดปรากฏในหัวของเซี่ยอวี่....

น่ากลัวมาก!

เซี่ยอวี่สั่นจนขนนกสีดำในตัวหลุดร่วงเพราะความกลัว

*********************************

“หนีกันเถอะ!”  ผู้เฒ่าบอดซอกำศรวลกล่าวในเวลานั้นเขาไม่สนใจอะไรอีกต่อไป เสียงของเขาแหบแห้งและเต็มไปด้วยความกังวล

หนี?  สตรีชุดดำตะลึง,นางโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว “ท่านจอมยุทธ...”

ชายชราตาบอดจะใส่ใจนางได้อย่างไร?  เขารู้สึกถึงอันตรายแล้วว่ากำลังมาจากคนที่พุ่งตรงมาทางเขาด้วยความเร็วสูงความรู้สึกถึงอันตรายรุนแรงครอบคลุมร่างกายเขาทั้งหมด

เป็นความรู้สึกถึงอันตรายที่รุนแรงที่สุดที่เขาเคยรู้สึกมา

ชายชรารู้ดีว่าหมายความว่ายังไง  ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลใจพยายามที่จะหลบหนี

ถึงตอนนี้สตรีชุดดำเพิ่งตระหนักว่ามีร่างสองสามร่างเคลื่อนไหวมาถึงพวกเขาแล้ว ปราณอันตรายของฝ่ายตรงข้ามทำให้นางไม่สามารถขยับได้

อาเฮ่อชำเลืองมองสตรีในชุดดำ  หางตาของเขากระตุก... ทำไมต้องมีคนมาแต่งตัวเหมือนกันอีกแล้ว

ความเคลื่อนไหวที่มือของเขารวดเร็วพอเขาจับด้ามกระบี่ทั้งที่ไม่ได้ชักกระบี่ออกจากฝัก เขาขยับตัวเล็กน้อย  ในท้องฟ้าก็ปรากฏลำแสงสีขาวยิงใส่สตรีชุดดำทันที

หน้านางซีดขาวนางรู้สึกแต่เพียงว่าสายตายของนางถูกลำแสงสีขาวบดบังสิ้นเชิงและสิ่งที่ทำให้นางตื่นเต้นยิ่งกว่าก็คือ นางไม่สามารถขยับได้!  ทั้งตัวนางขยับไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้ว

วิ..วิชากระบี่อะไรกันนี่?

ลำแสงที่ยิงใส่นาง

ตลอดตัวของนางชาไปหมดนางหมดสติทันที

เฒ่าบอดซอกำศรวลรู้ว่าห้วงเวลาความเป็นความตายมาถึงแล้วและมือขวาที่ถือซอเอ้อหูกรีดมือลงที่สายครั้งหนึ่ง เช้ง..

พลังคลื่นเสียงไร้รูปกระจายออก

อี้เทียนกับหูซิ่งรู้สึกสมองสะเทือนและมือของพวกเขาเคลื่อนไหวได้ช้าลงทันที

เซี่ยชิงใจสั่นสะท้าน  เขาสั่นกระบี่ในมือของเขากระบี่ส่งเสียงร้องในใจเขา ทำให้เขาต่อต้านคลื่นสั่นสะเทือนได้

ขณะที่ทั้งสามคนถูกชายชราตาบอดบีบบังคับให้ถอย  เงาดำสายหนึ่งรีบมาทันที

สีหน้าของอาเฮ่อเคร่งขรึมสะบัดกระบี่โบราณในมือของเขาพร้อมกับฝักกระบี่และเสียงร้องที่ชัดเจนของกระเรียนดังออกมาจากตัวกระบี่!

อากาศในรัศมีห้าเมตรถูกกระบี่กระเรียนกระตุ้น ขณะที่กระแสปราณนับไม่ถ้วนไหลไปตามมือของอาเฮ่อเข้าไปยังกระบี่โบราณ  กระแสปราณมาบรรจบกันเป็นภาพเลือนราง อาเฮ่อลอยตัวขึ้นพร้อมกับกระบี่เหมือนกับหงส์ดำขนาดใหญ่กำลังสลัดขน

วิชาของสำนักกระเรียน  ระบำกระเรียน

อาเฮ่อแข็งแกร่งอยู่แล้ว ถังเทียนยังไม่ได้แนะนำหรือสอนอะไรทั้งหมดที่เขารู้เกี่ยวกับปราณร่างกระเรียนให้อาเฮ่อ อาเฮ่อเรียนรู้จากสำนักกระเรียนอย่างใกล้ชิดอยู่แล้วหลังจากเข้าใจสิ่งที่เรียนรู้ก็ทำให้ความรู้ของเขากว้างไกลหลายจุดที่เขายังไม่เข้าใจ เขาก็เข้าใจได้ทะลุปรุโปร่ง

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาเรียนรู้วิทยายุทธของสำนักกระเรียนอีกครั้งทันทีที่เรียนรู้ทุกอย่างอีกครั้ง เขาก็เริ่มเข้าใจทุกอย่างลึกซึ้งขึ้น

เขากับถังเทียนนั้นแตกต่างกัน เขาคุ้นเคยกับวิทยายุทธจากสำนักกระเรียนทุกอย่างเป็นอย่างดีเพียงแต่ขาดพื้นฐานปราณร่างกระเรียนเท่านั้นซึ่งนั่นคือกุญแจสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง  ตอนนี้กุญแจนั้นถูกค้นพบแล้วและได้ไขออกแล้ว  วิทยายุทธทุกอย่างของสำนักกระเรียนจึงกระจ่างชัดเจนอย่างไม่เคยมีมาก่อน

เมื่อก่อนจนถึงเมื่อครู่นี้เขายังไม่มีความเข้าวิทยายุทธของสำนักกระเรียนอย่างลึกซึ้งกว้างขวางอยู่เลย

ระบำกระเรียนหนึ่งในวิชานั้นที่เขาไม่เข้าใจ

ท่าระบำกระเรียนมีความมาดมั่นและสง่างามนั่นคือสิ่งที่ทุกคนเรียนรู้เมื่อพวกเขาได้ศึกษาในสำนักกระเรียน แต่ทุกคนคิดว่าท่วงท่าที่สง่างามของระบำกระเรียนเกิดจากพลังกล้ามเนื้อและกระดูก  จนกระทั่งตอนนี้ ในมือของอาเฮ่อ เปี่ยมด้วยพลังร่างกระเรียนระบำกระเรียนจึงได้เปล่งประกายและแสดงพลังที่แท้จริงของมัน

ระบำกระเรียนคือเคล็ดวิชาที่สามารถหลอมรวมกับวิทยายุทธอื่นๆของสำนักกระเรียนได้ เป็นท่าที่รวดเร็วและสง่างามสามารถทำให้วิชาของสำนักกระเรียนแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ยากจะพัฒนาได้

ท่ากระบี่ของอาเฮ่อใช้ออกด้วยพลังระบำกระเรียน

สีหน้าของเฒ่าบอดซอกำศรวลบิดเบี้ยวเหยเก  เสียงของกระบี่แหลมคมเสียดแทงใจเขานัก เขาสามารถบอกได้จากเสียงกระพือลมของเสื้อผ้าอาเฮ่อได้ว่าเหมือนกับเห็นหงส์ดำร่ายรำสยายปีก มีพลังคล่องแคล่วแข็งแกร่งนัก

ยอดฝีมือ!

ใบหน้าของบ่าวใบ้เปลี่ยนไป  เขาไม่สามารถหลบได้ทันเวลา  เขาคลี่พัดในมือเขาทันทีฝ่ามือของเขามีเปลวไฟปกคลุมและต้านรับกระบี่อาเฮ่อไว้   เปลวเพลิงที่ฝ่ามือบ่าวใบหนาแน่นและอากาศรอบฝ่ามือกลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว

สีหน้าของอาเฮ่อไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อยแต่ม่านตาของเขาเป็นประกายเจิดจ้า ไม่มีใครมองสบตาของเขาตรงๆ

หัวใจของเขาตื่นเต้นอย่างมากเพราะเขาสามารถใช้วิทยายุทธที่แท้จริงของสำนักกระเรียนได้ เขาสามารถใช้วิทยายุทธที่แท้จริงของสำนักกระเรียนได้จริงๆ!

ตั้งแต่วันนี้ไปสำนักกระเรียนจะฟื้นฟูกลับสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง!

การต่อสู้ในวันนี้จะเป็นศึกแรกที่สำนักกระเรียนได้พบกับเกียรติยศของพวกเขา

อาเฮ่อมีสีหน้าตื่นเต้น  ปราณร่างกระเรียนในร่างเขาเพิ่มขึ้นในระดับสูงสุดกระบี่โบราณในมือของเขาสั่นสะท้านและปลดปล่อยเสียงร้องตรงขึ้นสั่นสะท้านถึงสวรรค์

กระเรียนร้องเก้าชั้นฟ้า!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด