ตอนที่แล้วตอนที่ 225 เตรียมการใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 226 เสริมพลังโจมตี

ตอนที่ 227 ลุย!


คนกลุ่มหนึ่งซึ่งนัยน์ตาเป็นประกายร้อนแรงทำให้ทั่วท้องฟ้ามีฝุ่นปกคลุม

หลิงซิ่วนั่งอยู่บนฟลามิงโกซึ่งได้รับการซ่อมแซมเสร็จแล้วมันไวขึ้นและคล่องแคล่วยิ่งขึ้นทักษะวิศวะจักรกลในปัจจุบันของเซรีนเมื่อเทียบกับครั้งก่อนอาจกล่าวได้ว่านางเหมือนได้ร่างอมตะและผ่านการผลัดเปลี่ยนกระดูกของนาง อสูรจักรกลเหล่านี้อย่างเช่นนกฟลามิงโกเป็นงานง่ายสำหรับนางไปแล้ว

สายลมพัดโกรกใส่หน้าของเขาสร้างความรู้สึกสบายให้เขาขณะที่เขาสะพายหอกเงิน หลิงซิ่วพึงพอใจจนคนอื่นๆ รู้สึกอิจฉา เพราะในกลุ่มพวกเขามีแต่เขาคนเดียวที่มีพาหนะ

“วันนี้เป้าหมายของเราก็คือเฒ่าบอดซอกำศรวลและบ่าวใบ้ของเขามีฝีมือแข็งแกร่งมากดังนั้นเราจำเป็นต้องโค่นเขาให้ได้” ปิงพูดถึงแผนการอย่างซึมเซา  ถังเทียนวางแผนธุรกิจแต่เพราะเกี่ยวข้องกับกลยุทธ พวกเขายังจำเป็นต้องได้มืออาชีพทางด้านนี้ ปิงยังไม่ทันฟื้นฟูดีจากพลังโจมตีของถังเทียนจากวันก่อนนั้น

“ความคิดของข้าน่าจะใช้สี่คนก็พอ คือเซี่ยชิงอาเฮ่อ อิ่นเทียนและหูซิ่ง พวกเจ้าทั้งสี่คนเชี่ยวชาญในเรื่องการป้องกัน  งานของพวกเจ้าก็คือต้านรับทั้งสองคนให้ได้อย่างน้อยยี่สิบนาที”

วิญญาณของปิงพูดเจาะจงเป็นพิเศษเสียงของเขาอู้อี้เลือนราง อิ่นเทียนและหูซิ่งคือสองในสี่คนที่อู่กวงพามา

เซี่ยชิงพยักหน้า เขาเพิ่งได้รับวิชากระบี่หัวใจองครักษ์ร่ำร้องและถนัดตั้งรับมากกว่าบุกจู่โจม

อาเฮ่อพูดทันที“เซี่ยชิงกับข้าจะรับมือเฒ่าบอดซอกำศรวลเอง”

อิ่นเทียนและหูซิ่งถอนหายใจโล่งอก  ชายชราบอดเป็นคนในทำเนียบนักสู้สวรรค์วิถี  ชื่อของเขาทำให้ทั้งสองคนกลัวอยู่บ้างแต่เนื่องจากอาเฮ่ออาสารับต่อสู้กับเป้าหมายที่แข็งแกร่ง ทั้งสองคนจึงกล่าว“อย่างนั้นปล่อยคนใบ้ให้เราจัดการเอง”

เซี่ยชิงมองอาเฮ่ออย่างประหลาดใจ  แต่อาเฮ่อก็ยังสงบอยู่มาก

ปิงมองดูอาเฮ่อเช่นกันแต่เขาไม่อาจมองเห็นความแข็งแกร่งของอาเฮ่อได้ เนื่องจากอาเฮ่อต้องการเอง อย่างนั้นเขาต้องมีความมั่นใจแน่นอน ดังนั้นเขาจึงถอนสายตาและพูดต่อ

“ส่วนพวกเราที่เหลือ ก็คือข้า หลิงซิ่ว ถังเทียนอู่กวง เชอเป่า, จินเซี่ยเราทั้งหกคนจะฆ่าจ้าวอสูรหินกรวดให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้  หลิงซิ่ว, ถังเทียน,อู่กวงและข้าจะล้มให้ได้คนละตัว เชอเป่ากับจินเซี่ยจะต้องร่วมมือกัน  ความสำคัญของเราก็คือความเร็ว!  ยิ่งเราฆ่าจ้าวอสูรหินกรวดได้เร็วนั่นจะยิ่งดี”

อู่กวงตบอกของเขาและรับรองอย่างจริงจัง “วางใจได้ดาบของข้าจะต้องตัดสมองจ้าวอสูรหินกรวดหมีหมานั่นให้ขาดได้แน่”

เชอเป่าและจินเซี่ยไม่ได้พูดอะไร  ปิงให้พวกเขาร่วมมือกัน เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่าพวกเขาแข็งแกร่งไม่พอ  ทั้งสองคนนั้นอยู่ในโลกนักสู้มาเป็นเวลานานและพวกเขาไม่ได้คัดค้านวุ่นวาย แต่อดสะอึกในใจไม่ได้

พวกเขายึดถือคำพูดของอู่กวง  ดีแค่ไหนแล้วที่มีคนจ้างพวกเขาและจากวันนี้ก็เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเป็นความจริง ยังไม่ทันได้สู้พวกเขาก็ได้รับเงินติดกระเป๋าก่อนแล้วสองล้านห้าแสนเหรียญดาว

เมื่อมีผู้สนับสนุนการเงินอย่างนั้นทุกคนมีความคิดเหมือนกัน นั่นคือทำงานให้ดี

จากนั้นเสียงสั่นสะเทือนก็ได้ยินมาแต่ไกล

ฝุ่นคลีฟุ้งเต็มท้องฟ้าและเสียงที่ดังออกมาก็น่ากลัว  หน้าของนักสู้สวรรค์วิถีสองสามคนเคร่งเครียดทันที  แม้ว่าพวกเขาได้ยินเรื่องนี้จากปิงมาก่อนแต่เมื่อเห็นกับตาตนเอง กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่าง แม้แต่อู่กวงผู้มีทัศนคติไม่ใส่ใจต่อสิ่งใดและมักมีรอยยิ้มอยู่เสมอก็ยังกลายเป็นเคร่งเครียดแววโกรธปรากฏอยู่ในดวงตาและหันหน้าไปทางอสูรดวงดาวรอโอกาสโจมตี

ถังเทียนและคนที่เหลือเคยเห็นฝูงอสูรพวกนี้มาก่อน  ดังนั้นพวกเขาจึงสงบใจอยู่ได้

“ทุกคนเตรียมพร้อม!”ปิงออกคำสั่ง

ต้องบอกไว้ก่อน  ความเป็นมืออาชีพของปิงและทัศนคติของเขายิ่งใหญ่น่าเชื่อถือ

อิ่นเทียน,หูซิ่งและคนอื่นๆ ได้สังเกตเห็นปิงแล้ว เพราะเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเช่นกันสำหรับนักสู้เดิมๆ คนหนึ่ง พวกเขามีแนวโน้มที่จะต่อสู้แบบลุยเดี่ยว  แม้กับทหารรับจ้างที่ถูกจ้างมาส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการต่อสู้ขนาดเล็ก แต่จากคำพูดของปิง พวกเขาสามารถรู้สึกได้เลือนรางว่าเป็นธรรมเนียมของกองทัพใหญ่ที่เห็นได้ยากและนั่นทำให้พวกเขาคลางแคลงใจเขา

เสนาธิการหลักมักจะมีอยู่แต่เพียงในกองทัพ  แต่กลุ่มสบายๆ ที่มีอิสระอย่างพวกทหารรับจ้าง พวกเขาเกือบทั้งหมดจะเชี่ยวชาญกลยุทธในการต่อสู้ที่มีขนาดเล็ก

นักสู้จักรกลลึกลับผู้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญมากอย่างแท้จริง  แน่นอนนี่จึงเป็นที่ดึงดูดความสนใจพวกเขาเป็นธรรมดา

ไม่มีใครสามารถคาดเดาภูมิหลังของปิงออก  แต่ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญแน่นอนและนั่นทำให้พวกเขาเชื่อใจ

สำหรับแผนการต่อสู้ปิงได้วางแผนไว้ชัดเจนแล้ว เขายังคงเงียบและมองดูถังเทียน ทันใดนั้นเขามีความรู้สึกเหมือนกับอยู่ในอดีต  เขามองดูแม่ทัพและรอคำสั่งโจมตีจากแม่ทัพ

ดูเหมือนว่าข้ายังเหน็ดเหนื่อยจากเมื่อวานนี้....

ปิงส่ายหัวและหัวเราะกับตัวเองในใจภาพลวงตางี่เง่าอย่างนั้น พวกเขาจะเทียบได้ยังไง ท่านแม่ทัพคือวีรบุรุษ!

สายตาของทุกคนจับจ้องอยู่ที่ถังเทียน

ถังเทียนสวมเกราะและกรงเล็บแมวโลหิตแล้วและในมือซ้ายของเขาถือโล่ตะลุยเลือด ภายใต้แสงสีเงินของเกราะประกายระยิบระยับสีแดงเข้มของใบมีดกรงเล็บแมวโลหิตเยือกเย็นน่ากลัว โล่ตะลุยเลือดอยู่ในมือซ้ายเป็นประกายสีแดงเลือนราง

ถังเทียนไม่รู้ความคิดของปิง  เขามองเห็นฝูงอสูรหินกรวดที่หนาแน่นเหมือนกับกำลังเห็นทะเลเหรียญดาว

มากจริงๆ  เงินทั้งนั้น

ตาของถังเทียนกลายเป็นสีแดงเขาชูโล่ตะลุยเลือดและคำรามลั่น “ลุย!”

ความต้องการต่อสู้ของหลิงซิ่วลุกโชนอยู่ก่อนแล้ว  ดวงตาสีส้มของเขาราวกับมีไฟพวยพุ่งเมื่อได้ยินเสียงคำรามของถังเทียน เขาทะยานออกไปพร้อมความรู้สึกเลือดลมพลุกพล่านควงหอกเงินและตะโกนลั่น “ลุย!”

ทุกคนตะโกนพร้อมกัน“ลุย!”

ราวกับเสียงฟ้าผ่าเสียงกึกก้องของพวกเขาดังไปทั่วบริเวณ!

แม้ว่าเสียงของอสูรหินกรวดจะมีกันเป็นแสน  ในช่วงขณะนั้นกลับถูกเสียงคำรามโห่ร้องกลบทับ

***************************************

“ลุย!”

ความเดือดดาลระเบิดออกเสียงสะท้อนดังกึกก้อง

สีหน้าของผู้เฒ่าบอดซอกำศรวลเคร่งเครียด“ไม่ดีแน่! หนึ่ง สอง สาม...”

ใบหน้าของชายชราที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่แรกแสดงอารมณ์กลัวในที่สุด  “ทำไมถึงมียอดฝีมือมากมายนัก?”

สตรีชุดดำก็พลอยตะลึงไปด้วยเช่นกัน  นางเป็นเหมือนรูปสลักน้ำแข็งมือเท้าของนางเย็นเฉียบ แม้ว่าพวกเขายังอยู่ห่างไกล แต่พวกเขาก็สามารถมองเห็นร่างที่พุ่งมาทางพวกเขาได้ฝีมือของทุกคนไม่ใช่ธรรมดาเลย

นักสู้ระดับสวรรค์วิถี!

ความจริงพวกเขาเป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถีทั้งนั้น

นั่นเป็นไปได้ยังไง...เป็นไปได้ยังไง...

ทุกคนเป็นเหมือนกับมีดที่แหลมคมพุ่งตรงตะลุยเข้าไปในฝูงอสูรหินกรวด

โชคดีที่ยังมีอสูรหินกรวดมากมาย

สตรีชุดดำปลอบใจตนเอง อสูรหินกรวดจำนวนมหาศาลในฝูงทำให้นางเบาใจได้บ้าง อสูรหินกรวดจำนวนแสนต่อให้คู่ต่อสู้เป็นนักสู้สวรรค์วิถี การจะฆ่าพวกมันให้หมดเป็นงานยาก

นางไม่ทันได้มองเห็นนิ้วมือของเฒ่าบอดนักเล่นซอซึ่งสัมผัสซอเอ้อหูสั่นไม่หยุด

**********************

สีหน้าของเซี่ยอวี่เปลี่ยนแปลงไปมา  แต่ในช่วงต่อมาก็กลับคืนสู่ความสงบและเขากล่าว“พี่กัว! ฝ่ายตรงข้ามมีพลังแข็งแกร่งมากเกินไป เราไม่อาจเอาชนะพวกเขาได้!”

กัวตงสีหน้าซีดขาว ในช่วงสองสามวันนี้ฝ่ายตรงข้ามมีนักสู้สวรรค์วิถีมากถึงห้าคน ถึงพวกเขาจะไม่ใช่ยอดฝีมือที่ติดอยู่ในทำเนียบสวรรค์วิถี  แต่ทั้งห้าคนก็มีพลังน่ากลัวอยู่แล้ว ด้วยพลังของเขาจะเอาชนะนักสู้ระดับสวรรค์วิถีสักคนยังนับว่าง่าย  แต่ถ้ามีสองคนคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา  และถ้ามีสามคน เขาจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

และความจริงก็คือพวกเขามีกันมากกว่าห้าคน

เมื่อเพิ่มถังเทียน,หลิงซิ่ว นักสู้อาวุธจักรกลผู้ลึกลับ เซี่ยชิง และบุรุษชุดดำที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาในสนามรบ

กัวตงกัดริมฝีปากจนริมฝีปากแทบแตก  โธ่เว้ย..

เขาได้ยินว่าเซี่ยอวี่เตรียมถอนตัว

กัวตงเข้าใจได้ถึงปฏิกิริยาของเซี่ยอวี่  เมื่อเผชิญหน้ากับนักสู้ระดับสวรรค์วิถีถึงห้าคนนั่นไม่ใช่ปัญหาของการเพิ่มคนห้าคนเท่านั้น แต่พิสูจน์ได้ชัดเจนว่า คู่ต่อสู้มีความสามารถและสามารถระดมกำลังขนาดใหญ่ได้

สามารถเรียกนักสู้สวรรค์วิถีมาได้ถึงห้าคน  ด้วยจำนวนเงินขนาดนั้นก็ขู่ขวัญผู้คนได้แล้ว

ทันใดนั้นเสียงคำรามดังลั่นออกมาจากฝูงอสูรหินกรวด “ฆ่า!”

รังสีดาบขนาดใหญ่สายหนึ่งตกลงมาจากท้องฟ้าและกระทบใส่อสูรหินกรวด

แม้จะเห็นจากระยะไกลกัวตงรู้สึกได้ชัดเจนถึงพลังดาบที่น่ากลัว หัวใจของเขาตื่นตกใจ  นั่นใครกัน?

“ฝนดาบสวรรค์  นั่นคือฝนดาบสวรรค์อู่กวง!”  เซี่ยอวี่พึมพำกับตนเองรังสีดาบนับหมื่นคลุมเต็มพื้นที่

“ฝนดาบสวรรค์!”  หน้าของกัวตงเปลี่ยนเมื่อได้ยินชื่อนั้น

สำหรับคนที่คุ้นเคยกับรายชื่อในทำเนียบสวรรค์วิถี  พวกเขาจะรู้จักชื่อของฝนดาบสวรรค์อู่กวง  ถ้านักสู้ระดับสวรรค์วิถีธรรมดาบางคนในรายชื่อสำรองเผชิญกับอู่กวง  พวกเขาอาจต้องตายอย่างสยดสยอง  ฝนดาบสวรรค์อู่กวงมีฉายาอีกอย่างหนึ่งว่าผู้ท้าชิงในรายชื่อสำรองอันดับหนึ่ง

ครั้งหนึ่งเขามีชื่ออยู่ในทำเนียบสวรรค์วิถีแต่เพราะไม่พอใจกับอันดับของเขาเขาโกรธไม่ยอมรับอันดับและด่ากราดใส่พันธมิตรนักสู้อมตะผู้จัดอันดับทำเนียบ

ตั้งแต่วันนั้นเขาไม่เคยเข้าสู่ทำเนียบรายชื่อนักสู้สวรรค์วิถีอีกเลย ขณะที่เขารู้สึกเสียหน้าพันธมิตรนักสู้อมตะสำรองชื่อของเขาไว้ เขาจึงเป็นนักสู้สวรรค์วิถีที่ไม่เหมือนใครขณะที่ยังมีชื่ออยู่ในรายชื่อนักสู้สำรองทำเนียบสวรรค์วิถี

พลังของเขาแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆในรายชื่อสำรองอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุนั้นเขาจึงได้ฉายาว่า ผู้ท้าชิงอันหนึ่งในรายชื่อสำรอง”

เขาโหดเหี้ยมป่าเถื่อนและภูมิใจกับตนเอง แต่ความเป็นคนเจ้าอารมณ์ เขาจึงต้องลำบากอยู่หลายคราแม้จะเป็นกรรมการอยู่ภายในสมาพันธ์ชาวยุทธ แต่เขาก่อเรื่องกับนักสู้มานับไม่ถ้วน

แต่พลังของเขาแกร่งกร้าวพอๆกับอารมณ์ของเขา

เมื่อได้ยินชื่อเขาหัวใจของทั้งสองคนรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป

“กับปีศาจตนนั้น เราไม่สามารถเข้าไปตอแยพวกเขาได้”  เซี่ยอวี่ฝืนหัวเราะ

เขาไม่ได้ถ่อมตัวถ้าเป็นเรื่องของการต่อสู้ตัวต่อตัว ต่อให้คู่ต่อสู้คืออู่กวง เซี่ยอวี่ก็มั่นใจในฝีมือตนเอง  แต่คู่ต่อสู้มีจำนวนสมาชิกที่แข็งแกร่งเพิ่มและพวกเขาได้เปรียบอย่างชัดเจน และที่สร้างความลำบากใจมากยิ่งกว่าก็คือ อู่กวงเป็นคนจากสมาพันธ์ชาวยุทธ

องค์กรที่ผลิตพวกบ้าระห่ำเช่นนั้นออกมาและพอจะสู้ได้สมน้ำสมเนื้อก็คือองค์การวิญญาณมืด

ถังเทียนเป็นคนในสมาพันธ์ชาวยุทธอย่างชัดเจน

ใบหน้าของกัวตงน่าเกลียดยิ่งขึ้น  พลังของคู่ต่อสู้ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวัง

แต่..นั่นหมายความว่าเสี่ยวอวี่บาดเจ็บไปโดยไม่ได้รับอะไรหรือ? เมื่อคิดถึงว่านับแต่นี้ไปเสี่ยวอวี่จะต้องกลายเป็นเหมือนเซี่ยอวี่  ตลอดทั้งตัวจะมีขนนกปกคลุม  เขารู้สึกเหมือนถูกมีดกรีดแทงหัวใจ

ทันใดนั้นเขาเชิดศีรษะขึ้น“พี่เซี่ย ท่านกลายเป็นคนขลาดกลัวเสียแล้วหรือ?”

เซี่ยอวี่ตกใจเนื่องจากกัวตงจู่ๆก็ทำตาแดง  แต่เขาส่ายหน้า“พวกเขาแข็งแกร่งมากอย่างแท้จริง เจ้ากับข้าไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย ไม่ว่าเราจะแข็งแกร่งเพียงไหน ในหมู่ดาวกาไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาได้

กัวตงกำหมัดแน่นสั่นไปทั้งตัว

เซี่ยอวี่ขมวดคิ้ว  เขารู้สึกว่ากัวตงเอาแต่หมกมุ่นมากเกินไป  คู่ต่อสู้แข็งแกร่งมาก  แต่กัวตงก็ยังไม่ปล่อยวางความโกรธ

หมู่ดาวกาเป็นหมู่ดาวเล็กๆแม้ในแนวท้องฟ้าด้านใต้จะมีถึงสี่สิบสองหมู่ดาวแต่หมู่ดาวนี่ก็เป็นหมู่ดาวสุดท้ายที่เล็กที่สุด หมู่ดาวกามีนักสู้ที่แข็งแกร่งน้อยมาก เนื่องจากรกร้างและกันดารเกินไป

พวกเขาได้รับนับถือว่าเป็นสุดยอดนักสู้ผู้แข็งแกร่งจากหมู่ดาวกา  แต่เมื่อเทียบกับนักสู้สวรรค์วิถีทั้งหมดแล้วก็เท่ากับไม่มีอะไร

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วเซี่ยอวี่ได้แต่ส่ายหน้า เขาคงไม่ร่วมมือกับกัวตงก่อเรื่องยุ่งยากอีกต่อไป

ถังเทียนผู้มีกระเป๋าหนักอย่างนั้นน่านับถืออย่างแท้จริง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด